คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : ตอนที่ 11
ฮันนีมูน ถึงแม้จะได้ยินผู้เป็นมารดาทางกฎหมายเอ่ยขึ้นบ่อยๆ แต่สำหรับซูยองแล้วไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะคำพูดนี้จะเป็นจริง นี่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่เธอมาอาศัยอยู่บ้านเดียวกับซีวอน จนมาถึงการแต่งงาน ที่เธอกับซีวอนได้ออกมาเที่ยวพักผ่อนกันสองคนแบบนี้
เกาะเซจู เป็นเกาะที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของทะเล จึงมีรีสอร์ตต่างๆ รวมถึงรีสอร์ตในเครือชเวด้วย ดังนั้นเธอจึงไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่ผู้เป็นมารดาบังคับเธอและซีวอนมาฮันนีมูนที่นี่ ส่วนซีวอนก็ไม่ว่าอะไร ดูเหมือนจะดีใจเสียด้วยซ้ำ เพราะถือว่าได้ตรวจดูงานไปในตัว
เธอและซีวอนต้องนั่งเครื่องบินลงที่ปูซาน ต่อด้วยนั่งรถที่ทางรีสอร์ตจัดมารับอีกเป็นชั่วโมง
“จะว่าไป เรายังไม่มีโรงแรมที่ปูซานเลยนะ ถ้ามาฮันนีมูนที่ปูซานน่าจะดีเหมือนกัน” ซีวอนเอ่ยขึ้นลอยๆ เมื่อมองออกไปยังทะเลเบื้องหน้า สำหรับซีวอนแล้ว ในหัวคงมีแต่งงานสินะ
“ซูชอบปูซานค่ะ แล้วก็กลัวปูซานด้วย ถึงแม้ความทรงจำที่ดีๆ จะอยู่ที่นี่มากมายก็เถอะ แต่ก็ยังรู้สึกกลัวที่จะมา กลัวที่จะคิดถึง” ซูยองพูดลอยๆ คล้ายๆ กับระบายความในใจออกมา ทำให้ซีวอนหันมามองหน้าซูยองอย่างไม่เข้าใจ จนซูยองต้องเอ่ยต่อ
“พ่อกับแม่ชอบทะเลที่ปูซานค่ะ ชอบมาเที่ยวที่นี่ ที่นี่ฝังความทรงจำเอาไว้มากมาย มากจนรู้สึกว่าโลกของความเป็นจริงที่พอไม่มีพวกท่านอยู่ มันอ้างว้างขนาดไหน” ซูยองพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ แต่ก็ไม่ได้ร้องไห้ออกมา
มือหนาของชายหนุ่งที่นั่งอยู่ข้างๆ เอื้อมมากุมมือของหญิงสาวไว้ พร้อมกับเอามืออีกข้างดันหัวเธอลงซบที่บ่าของเขา
“ซูยองก็ยังมีพี่ไง มีคุณลุง คุณป้า ที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างเสมอ” เสียงนุ่มๆ ลอยทับเข้ามาในโสตประสาท ทำให้เธอได้แต่ยิ้มบางๆ เท่านั้น
คำปลอบประโลมที่ทำให้เธอนึกขำตัวเองเพราะสำหรับซีวอนแล้ว ท่านทั้งสองก็ยังคงเป็นคุณลุงและคุณป้า ไม่มีสิทธิ์ที่จะเป็นคุณพ่อและคุณแม่ได้เลย
เมื่อถึงที่พัก ทางรีสอร์ตจัดบ้านรับรองหลังกลางๆ ติดทะเล ที่มีห้องนั่งเล่นในตัว แต่ห้องนอนนี่สิ มีเพียงห้องเดียว
ตั้งแต่แต่งงานกันมา เธอเคยได้นอนห้องเดียวกับซีวอนที่ไหนกันล่ะ ดังนั้นจึงรู้สึกกลุ้มใจอย่างบอกไม่ถูก แต่ก็จัดเสื้อผ้าข้าวของที่เตรียมมาไว้เป็นอย่างดี ส่วนซีวอนได้แยกตัวไปตรวจดูงานเรียบร้อยแล้ว แต่ก็บอกว่าจะรีบมารับเธอไปเที่ยวข้างนอก
และแล้วเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
“ทำไมตรวจดูงานเร็วจังคะ” เสียงใสๆ ของซูยองดังพร้อมกับประตูที่เปิดออก ก่อนที่จะมองคนตรงหน้าด้วยความตกใจ
“โอ๊ะ… ตกใจขนาดนี้เลยหรอ คุณน้องสาว หรือจะเรียกว่าแมวขโมยดี” เสียงหวานๆ ของสาวใส่แว่นดำดังขึ้น พร้อมกับถือวิสาสะเดินเข้ามาสำรวจบ้านพัก
“บ้านพักสวยดีนะ สมกับเตรียมพร้อมให้เจ้าของมาอาศัยอยู่” หญิงสาวแว่นดำจงใจใช้คำว่าอาศัยมากกว่าคำว่าฮันนีมูน พร้อมกับนั่งลงบนโซฟาและเปิดกดรีโมทเปลี่ยนช่องทีวีอย่างสบายใจ คล้ายกับบ้านของตัวเอง
“คุณทิฟฟานี่ต้องการอะไรคะ” ซูยองพยายามเอ่ยถามอย่างใจเย็น เพราะยังไงทิฟฟานี่ก็ถือว่าเป็นแฟนของซีวอน เธอมีสิทธิ์ที่จะหึงและหวง จนบางที่ก็ลืมมองสิทธิ์ของตัวเองไป
“ต้องการอะไรนะหรอ ต้องการให้เธอหย่ากับวอนจะได้ไหมล่ะ” ทิฟฟานี่พูดด้วยน้ำเสียงจะสายตาที่ดูหยามเหยียดอย่างเห็นได้ชัด จนซูยองอดคิดไม่ได้ว่า ใช่ทิฟฟานี่คนเดียวกันกับที่เธอรู้จักมาก่อนหรือเปล่า เพราะถึงแม้จะรู้ว่าทิฟฟานี่ไม่ค่อยชอบเธอ แต่ทั้งต่อหน้าและลับหลังก็ไม่เคยใช้คำพูดและสายตากับเธอเช่นนี้เลย
“คงไม่ได้สินะ ฉันก็ไม่ได้เหมือนกัน อย่าคิดว่าฉันจะปล่อยให้เธอมาแย่งวอนง่ายๆ ล่ะ ไม่มีทาง” คล้ายกับเป็นการประกาศสงคราม ที่ซูยองมองแล้วยังไงเธอก็ไม่มีทางชนะเลย
“คุณคงเข้าใจอะไรผิดแล้วค่ะ ฉันกับพี่ซีวอนเราแต่งงานกันในนาม” ซูยองพยายามอธิบายให้ทิฟฟานี่ฟังอย่างใจเย็น
“ในนามงั้นหรอ งั้นเธอพูดมาสิ ว่าเธอไม่ได้รักซีวอน พูดมาสิ ว่าพร้อมจะหย่า” น้ำเสียงของทิฟฟานี่ที่ดูจริงจังจนซูยองนึกกลัว
แต่ก็เป็นอย่างที่ทิฟฟานี่ว่า เธอรักซีวอน รักมาก จึงไม่สามารถพูดคำที่ทิฟฟานี่ต้องการได้
ไม่นานนักเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น
“ฟานี่ คุณมาได้ยังไง” ซีวอนที่รีบเคลียร์งานให้เสร็จ เพื่ออยู่เป็นเพื่อนซูยองเพราะเป็นห่วงที่ซูยองต้องอยู่คนเดียว ถึงแม้ว่าจะเป็นรีสอร์ตของตัวเองก็เถอะ แต่ซูยองก็ยังไม่เคยมาที่นี่เลย
“แหม ทักซะเซ็งเลย” ทิฟฟานี่ตอบด้วยน้ำเสียงน้อยใจ ผิดกลับใบหน้าที่ดูยิ้มแย้มเมื่อได้เจอซีวอน
“ฟานี่มาพักผ่อนค่ะ แล้วเหมือนเห็นน้องซูยองแว็บๆ เลยลองเข้ามาทักดู ปรากฏว่าเป็นน้องซูยองจริงๆ ด้วย” ทิฟฟานี่ยังคงพูดต่อ แต่ทั้งน้ำเสียงและแววตาผิดกลับตอนที่อยู่กับซูยองโดยสิ้นเชิง
“วอนกับซูยองมาฮันนีมูนกันหรอคะ เห็นพวกพนักงานกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ ว่าจะได้เจอนายหญิงของที่นี่ งั้นฟานี่ไปก่อนดีกว่าค่ะ จะได้ไม่รบกวนเวลาวอนกับน้องซูยอง” ทิฟฟานี่ยังคงพูดต่อไปเรื่อยๆ จนซูยองอดคิดไม่ได้ว่าทิฟฟานี่ที่เป็นอยู่ตอนนี้น่ารักมากจริงๆ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมซีวอนถึงได้รักผู้หญิงคนนี้
“ไม่ได้รบกวนอะไรหรอก ฟานี่มากับใครล่ะ ถ้ามาคนเดียวก็ไปเที่ยวด้วยกันก็ได้ ใช่ไหมซูยอง” ซีวอนเอ่ยถามความเห็นซูยอง จนตัวเธอเองนึกขำว่าสามารถปฏิเสธได้หรอ นอกจากเอ่ยคำว่า “ค่ะ” ออกไป
การฮันนีมูนวันแรกจบไปอย่างสวยงาม แต่คงไม่ใช่กับเธอ การที่ได้อยู่ด้วยกันครึ่งค่อนวันทำให้ซูยองได้รับรู้ว่าทิฟฟานี่กับซีวอนเหมาะสมกันจริงๆ
“นี่ๆ เธอว่าคนไหนที่เป็นนายหญิงของที่นี่” เสียงพนักงานซุบซิบกัน แต่มันก็ดังพอที่จะทำให้คนที่เดินตามหลังหนุ่มสาวได้ยิน
“ก็ต้องคนที่เดินข้างๆ กันสิ อีกคนเดิมตามห่างเป็นโยด จะใช่ได้ยังไง” เสียงพนักงานอีกคนตอบขึ้น แต่ซูยองก็พยายามเลือกที่จะไม่ใส่ใจ
“แต่เค้ามาด้วยกันนะเธอ ผู้หญิงคนนั้นมาก่อนหนึ่งคืนไม่ใช่หรอ” พนักงานคนแรกแย้งขึ้น
“อ้าว… หรอ แต่ดูยังไงผู้หญิงคนนั้นก็เหมาะสมกว่านะเธอ เป็นกันเอง ยิ้มแย้มสดใส ฉันชอบคนนี้”
ซูยองได้แต่มองตามชายหญิงที่เดินคุยกันอยู่เบื้องหน้า ถึงแม้จะไม่ได้ใกล้ชิดกันมาก แต่มันก็เป็นภาพที่ดูดีอย่างบอกไม่ถูก ก็แหงแหละผู้หญิงที่ดูสดใสเหมาะกับผู้ชายที่สุขุมอย่างซีวอนมากกว่าผู้หญิงที่ดูหน้าเศร้าหมองแบบเธออยู่แล้ว
หลังจากที่ซีวอนและซูยองส่งทิฟฟานี่ที่บ้านพักแล้ว จึงกลับมายังบ้านพักของตัวเองบ้าง บ้านที่มีแค่หนึ่งห้องนอน บางทีก็ทำให้ซูยองรู้สึกวางตัวไม่ถูก
“จะหอบผ้านวมไปไหน” ซีวอนร้องถามซูยองหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำและเห็นว่าซูยองกำลังหอบผ้านวมอย่างพะรุงพะรังเดินออกจากห้องไป
“ก็… เอาไปห้องรับแขกค่ะ” ซูยองตอบอย่างอ้ำอึ้ง
“เอาไปไว้ทำไม พี่ไม่ไปนอนที่ห้องรับแขกหรอกนะ” ซีวอนพูดออกตัวอย่างขำๆ เมื่อเห็นท่าทางเก้ๆ กังๆ ของหญิงสาว แต่เขาก็ไม่ยอมให้ซูยองนอนห้องรับแขกหรอก
“เปล่าค่ะ พี่ซีวอนไม่ต้องนอนหรอกค่ะ ซูจะไปนอนเอง” ซูยองรีบปฎิเสธออกไป เพราะเธอก็ไม่คิดว่าคุณชายอย่างซีวอนจะนอนโซฟารับแขกได้อยู่แล้ว ถึงแม้ว่าโซฟาจะใหญ่ นุ่ม และดูแล้วสะดวกสบายมากก็เถอะ
“แล้วจะไปนอนห้องรับแขกทำไม เตียงก็ออกจะใหญ่ นอนในห้องด้วยกันนี่แหละ” ซีวอนบอกกับซูยองด้วยสีหน้ายิ้มขบขัน จนซูยองเริ่มรู้สึกว่าตัวเองคงคิดมากไป ก็ซีวอนไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธอสักหน่อย
“คิดว่าพี่จะทำอะไรเธอหรือไง เด็กน้อย” ซีวอนเดินเข้ามาหาซูยองพร้อมกับบีบจมูกเบาๆ ก่อนที่จะแบกผ้านวมกลับไปยังที่นอน
ส่วนซูยองได้แต่ปลงตัวเองที่ตอนนี้ซีวอนยังเห็นเธอเป็นเด็กอยู่เลย
ทั้งๆ ที่คืนนี้น่าจะเป็นคืนที่นอนหลับฝันดีแท้ๆ เพราะเหนื่อยกับการเดินทาง แต่สำหรับซีวอนแล้วกลับนอนไม่หลับเสียอย่างนั้น ถ้าไม่ใช่ร่างบางของน้องสาวต่างสายเลือดที่ตอนนี้มีศักดิ์เป็นภรรยา พยายามเบียดเข้ามาคล้ายกับหาไออุ่น ถึงแม้จะพยายามบอกว่าตัวเองไม่ได้คิดอะไร ซูยองเป็นแค่น้องสาวเท่านั้น แต่ก็อดรู้สึกหวั่นไหวกับความน่ารักและความเอาใจใส่ที่เธอมีให้เขาไม่ได้
มือหนาค่อยๆ เกลี่ยไรผมที่ตกลงมาข้างแก้มของหญิงสาวที่ซุกอยู่อ้อมกอด พร้อมทั้งบรรจงจูบที่หน้าผาก ก่อนที่จะอดใจไม่ไหวแตะริมฝีปากบาง ถ้าหญิงสาวไม่พลิกตัวหนีอย่างรำคาญซะก่อน จึงทำให้ซีวอนชะงัก นี่เขากำลังทำอะไรลงไป คำถามที่ตัวเองเองไม่สามารถหาคำตอบได้
เช้าวันรุ่งขึ้น แดดส่องรำไรทำให้หญิงสาวที่นอนอุตุ ทั้งที่ก่อนนอนทั้งกลัว ทั้งกังวลจนคิดว่าคืนที่ผ่านมาตัวเองไม่สามารถจะนอนหลับได้ แต่พอหัวถึงหมอนก็เข้าสู่ห้วงนิทราโดยอัตโนมัติ
เมื่อรู้สึกตัวจึงรับรู้ถึงความหนักที่บริเวณเอวของตนเอง อีกทั้งยังความรู้สึกอบอุ่นนี่อีก จึงค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาก็พบว่าชายหนุ่มที่เธอหลงรักมาตลอดกำลังนอนกอดเธออยู่ พร้อมกับลมหายใจเบาๆ ที่อยู่เหนือหน้าผาก ทำให้แก้มแดงระเรื่อขึ้นมาทันที มือบางค่อยๆ ยกแขกหนาๆ ของชายหนุ่มออกจากเอว ก่อนที่จะลุกขึ้นจากเตียงช้าๆ แล้วรีบเดินก้มหน้าเดินไปยังห้องน้ำ
นี่มันเกิดอะไรขึ้น ซีวอนนอนกอดเธอทั้งคืนเลยหรอ คำถามมากมายผุดอยู่ในหัว พอเงยหน้าตัวเองขึ้นมาก็พบกับแก้มที่แดงฉ่าผ่านกระจกบานใหญ่ หลังจากที่พยายามทำใจได้แล้ว ซูยองก็จัดการแต่งตัวกับตัวเอง อีกทั้งยังจัดการจัดชุดและเสื้อผ้าให้แก่ซีวอนก่อนที่จะออกจากบ้านพัก
“ตื่นเช้าจังนะ” เสียงใสๆ ของหญิงสาวตายิ้มดังขึ้น ระหว่างที่ซูยองเดินเล่นอยู่บริเวณชายหาด
“ค่ะ คุณทิฟฟานี่ คุณก็ตื่นเช้าเหมือนกัน” ซูยองยอมเสียมารยาทที่จะกล่าวทักทายอรุณสวัสดิ์ เพราะดูก็รู้ว่าทิฟฟานี่คงมาหาเรื่องเธอมากกว่า ในเมื่อแรงมา บางทีเธอก็อาจจะต้องแรงกลับ
“ก็ฉันนอนไม่หลับนิ ใครจะไปหลับลง เมื่อรู้ว่าแฟนเรานอนกับคนอื่นอยู่” ทิฟฟานี่พูดด้วยน้ำเสียงกระแนะกระแหน เธอจะไม่รู้ว่าซีวอนได้บอกเรื่องระหว่างเขาและเธอให้ซูยองฟังบ้างหรือยัง แต่การได้พูดสิ่งที่อยากพูดออกไปมันก็รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งเห็นสายตาที่ไม่มั่นใจ รวมทั้งแววตาสั่นไหวของซูยองแล้ว มันก็ทำให้รู้ว่าเรื่องราวระหว่างซีวอนกับซูยองยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
“คุณไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ เพราะแฟนของคุณ เค้านอนกับภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย ก็ถูกอยู่แล้ว” ซูยองพูดคำพูดเสียดแทงทั้งผู้พูดและผู้ฟัง เพราะเธอเป็นภรรยาแต่ในนามเท่านั้น
“เดี๋ยวนี้ปากดีนักนะ” ทิฟฟานี่กระชากแขนซูยองพร้อมกับจิกเล็บลงไปที่เนื้อหญิงสาว ถึงแม้จะเจ็บ แต่ซูยองก็ไม่ได้ร้องอะไรออกมา
“คิดจะเล่นกับใครไม่เล่น จะบอกอะไรให้เอาบุญ ฉันมาพักที่นี่ไม่ได้เป็นเรื่องบังเอิญหรอกนะ” ทิฟฟานี่พูดต่อด้วยแววตาแข็งกล้า
แต่แล้วอยู่ดีๆ ตายิ้มก็ประดับบนใบหน้าของทิฟฟานี่อีกครั้ง
“วอนคะ วอน อยู่ทางนี้ค่ะ” ทิฟฟานี่เปลี่ยนจากการจิกเล็บที่แขนซูยองเป็จับแขนหลวมๆ แล้วชูแขนอีกข้างหนึ่งเพื่อโบกไม้โบกมือให้กับชายหนุ่มที่กำลังเดินมาถึง
“ตื่นแล้วหรอคะวอน พอดีฟานี่มาเดินเล่นกับน้องซูยอง”
“อืม… แล้วนี่ทานข้าวเช้ากันยัง” ซีวอนตอบรับและถามทั้งคู่ เพราะตอนที่ตื่นขึ้นมาแล้วไม่เห็นซูยองนึกว่าไปทานข้าวเช้าแล้วซะอีก จึงรีบแต่งตัวและตามออกมายังห้องอาหารแต่ก็ไม่พบ จึงลองเดินหาดูถึงเห็นว่าอยู่ชายหาดกับทิฟฟานี่
“ฟานี่ยังไม่ได้ทานเลยค่ะ แต่น้องซูยองทานแล้วเนอะ” ทิฟฟานี่รีบบอกว่าซูยองทานข้าวเช้าแล้ว เพื่อจะได้อยู่กับซีวอนสองต่อสอง
“ยังไม่ได้ทานค่ะ” ซูยองรีบปฎิเสธคำพูดของทิฟฟานี่เสียงแข็ง เพราะเรื่องอะไรเธอจะต้องอดอาหารมื้อเช้า เพียงเพราะความหน้าไหว้หลังหลอกของใครบางคน ถึงแม้จะไม่อยากอยู่ด้วยก็เถอะ
“งั้นเราไปทานข้าวเช้ากัน เดี๋ยวใครบางคนในที่นี้จะโมโหหิวซะก่อน” ซีวอนที่ไม่รู้เรื่องราวของสองสาว เอ่ยขึ้นมาอย่างขำๆ เพราะคิดว่าที่ซูยองตอบเสียงแข็ง น่าจะเป็นเพราะโมโหหิว
ส่วนทิฟฟานี่ได้แต่โมโหในใจ ที่ซีวอนทำเหมือนกับรู้ใจซูยอง จึงได้แต่ปั้นหน้ายิ้ม
ระหว่างเดินไปห้องอาหาร เสียงๆ หนึ่งดังขึ้น จึงทำให้ทั้งสามต้องหันไปมอง
“ซูยอง” เสียงเรียกของชายหนุ่มเชื้อสายญี่ปุ่นหน้าตาดี ที่แสดงอาการดีใจอย่างเห็นได้ชัด เมื่อหนึ่งในคนที่หันกลับมาตามเสียงเรียกของเขา คือเพื่อนที่สนิทที่สุด ชเว ซูยอง
“ซองมิน” น้ำเสียงคนตอบรับก็ดีใจไม่แพ้กัน แต่ที่น่าตะขิดตะขวงใจที่สุดของซีวอนคือ การจับไม้จับมือและการดึงซูยองเข้าไปกอดของชายหนุ่มที่ชื่อซองมิน
“กลับมาเกาหลีตั้งแต่เมื่อไหร่” ซูยองออกอาการดีใจอย่างเห็นได้ชัด จนความไม่พอใจของซีวอนค่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งไม่อาจรอดพ้นสายตาของทิฟฟานี่ไปได้
“พึ่งมาได้วันเดียวเอง แต่ไม่ได้ไปโซล เลยไม่ได้โทรบอก ผอมลงหรือป่าวเนี่ย หมุนตัวซิ” ซองมินไม่พูดเปล่า พร้อมกับจับไหล่ซูยองแล้วดันให้ซูยองหมุนตัวตามความพอใจของตัวเอง
“ผอมลงจริงๆ ด้วย มิน่ากอดไม่เต็มมือเหมือนแต่ก่อนเลย” ซองมินแซวซูยองอย่างขำๆ แต่สร้างความไม่พอใจถึงขีดสุดให้กับชเว ซีวอน
แล้วอยู่ๆ ซูยองก็เซไปข้างหลังตามแรงดึงของใครบางคน จนทุกคนในที่นี้อดตกใจไม่ได้
“ใคร ซูยอง” เสียงดุดันของซีวอนดังขึ้น พร้อมกับจ้องซองมินด้วยสายตาเขม็ง
“เออ… พี่ซีวอนคะ นี่ซองมินค่ะ เพื่อนซูตั้งแต่เด็ก” ซูยองเลือกที่จะแนะนำซองมินให้กับซีวอนก่อน ก่อนที่จะแนะนำซีวอนให้กับซองมินรู้จัก
“พี่ซีวอน พี่ชายเคยพูดถึงบ่อยๆ หรอ” ซองมินถามซูยองกลับไป เพราะถ้าจำไม่ผิดซีวอน ผู้ชายคนนี้สินะ ที่ทำให้ซูยองไม่เคยยอมเปิดใจให้ใคร
ซูยองตอบรับด้วยการพยักหน้าเบาๆ เพราะยังงงกับอาการของซีวอนไม่หาย
“ครับ แต่ตอนนี้เปลี่ยนจากสถานะพี่ชายเป็นสามีแล้ว เพราะเราสองคนแต่งงานกันแล้ว”
คำพูดที่ซูยองไม่คิดว่าจะได้ยินจากปากซีวอน ทำให้เธอตกใจและมองซีวอนตาค้าง ส่วนซองมินได้แต่อมยิ้ม เพราะอาการแบบนี้มันอาการหึงชัดๆ แต่ตอนนี้คนที่ไม่พอใจที่สุดน่าจะเป็นทิฟฟานี่ เพราะเธอเหมือนส่วนเกินอย่างไรอย่างนั้น
****************************************
ตอนหน้ามากินมาม่ากัน สปอยอีกแล้ว
ปล. สัญญาว่าจะไม่ให้คอยนานค่ะ :)
ความคิดเห็น