คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : ตอนที่ 10 [ปรับขนาดอักษรค่ะ]
ย้อนกลับไป 7 ปีที่แล้ว
ซีวอนที่ปรับความเข้าใจกับซูยอง รู้ว่าตัวเองควรจะทำอะไรสักอย่าง เพราะถ้าปล่อยเรื่องระหว่างเขากับทิฟฟานี่ไว้ก็จะไม่แฟร์กับตัวทิฟฟานี่เอง ดังนั้นจึงนัดทิฟฟานี่มาพูดคุย
ส่วนทิฟฟานี่ที่ยังคงไม่รู้เรื่อง เพราะวันนี้เป็นวันครบรอบที่เธอกับซีวอนคบกัน จึงดีใจเป็นพิเศษที่ซีวอนนับพบ เพราะเธอก็หวั่นๆ ว่าซีวอนจะลืมวันครบรอบ เนื่องจากหลังๆ มานี่ซีวอนทำตัวเปลี่ยนไปมาก พอเธอโทรหาก็บอกว่าไม่ว่าง หรือพอเธอมาหาที่ทำงานก็ได้เจอกันแป๊บเดียวเพราะติดธุระประชุมโน่นประชุมนี่
“ดีจัง เราไม่ได้ทานข้าวด้วยกันแบบนี้ตั้งนานแล้วนะคะ” ทิฟฟานี่เริ่มชวนซีวอนคุยหลังจากที่ทานอาหารกันเสร็จแล้ว เธอคิดถึงซีวอนมากจริงๆ คิดถึงบรรยากาศเก่าๆ ก่อนที่ซีวอนจะแต่งงาน ก่อนที่ซีวอนจะทำงานยุ่งขนาดนี้
“ฟานี่ ผมขอโทษ” เสียงทุ้มๆ ค่อนข้างเครียดของซีวอนที่เอ่ยขอโทษ ทำให้ทิฟฟานี่เอียงคอสงสัยเล็กน้อย
“วอนขอโทษฟานี่ทำไมคะ ขอโทษที่ไม่ค่อยมีเวลาให้หรอ” ทิฟฟานี่ถามซีวอนอย่างสงสัย
“ผมขอโทษ อย่าเสียเวลาให้กับคนไม่ได้เรื่องอย่างผมเลย ฟานี่ดีเกินไป ควรจะเจอผู้ชายที่ดีกว่านี้” เมื่อพูดจบ เสียงถอนหายใจของซีวอนก็ดังขึ้นเพราะแววตาที่ยิ้มได้ของทิฟฟานี่ได้เปลี่ยนเป็นสั่นไหว “ถึงแม้ผมจะรักคุณ แต่ตอนนี้ผมแต่งงานแล้ว มันคงไม่แฟร์ถ้าผมรั้งคุณไว้”
“วอนหมายความว่ายังไงคะ วอนก็รู้ว่าฟานี่ไม่แคร์ ไม่เคยสนใจ เพราะฟานี่รู้ว่าวอนรักฟานี่ แล้วแต่งงานกับซูยองเพราะคุณแม่บังคับ” ทิฟฟานี่เว้นวรรคพูดตัวเองนิดหนึ่ง ก่อนที่จะเอ่ยประโยคต่อมาอย่างอ่อนล้า “หรือว่าวอนรักซูยอง”
ซีวอนส่ายหัวเล็กน้อย
“ซูยองเป็นเหมือนน้องสาวของผม ความรักที่ผมมีให้ฟานี่กับซูยองมันต่างกัน แต่ผมไม่ต้องการให้ใครนินทาฟานี่ให้เสียหาย”
“ฟานี่บอกแล้ว ว่าฟานี่ไม่สน ใครจะนินทาฟานี่ ใครจะว่าฟานี่อย่างไร ฟานี่ก็ไม่สน” เสียงทิฟฟานี่ที่เริ่มดังขึ้นตามอารมณ์ น้ำตาที่นองหน้า ทั้งๆ ที่วันนี้น่าจะเป็นวันที่เธอมีความสุขแท้ๆ แต่ทำไมซีวอนถึงพูดอย่างกับจะบอกเลิกเธออย่างนี้
ซีวอนเลือกที่จะเงียบเพราะไม่อยากทะเลาะกับหญิงสาว มันเป็นความผิดเขาทั้งหมดที่ไม่ยอมเคลียร์ปัญญาหาที่เกิดขึ้นตั้งแต่แรก ทำให้คนที่เขารักทั้งสองคนต้องเสียใจ ตอนนี้จึงต้องเลือกทำสิ่งที่ถูกต้องสักที ถึงแม้ว่าจะทำให้ทิฟฟานี่เสียใจ แต่มันก็เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เขาไม่ควรรั้งทิฟฟานี่ไว้ด้วยคำว่า “รอ”
แล้วตอนนี้ซูยองก็อยู่ในสถานะภรรยาของเขาแล้วถึงแม้จะแต่นิตินัย เขาควรจะดูแลซูยองให้ดีเหมือนกับที่ซูยองพยายามทำเพื่อเขามาโดยตลอด แต่ถ้าวันไหนที่ซูยองเจอคนที่ใช่ เขาก็ตั้งใจว่าจะปล่อยซูยองไป ซึ่งไม่รู้ว่าจะถึงเวลานั้นเมื่อไหร่
“ทำไมคะ ฟานี่ทำอะไรผิด วอนถึงอยากเลิกกับฟานี่ บอกฟานี่มาสิคะ” ทิฟฟานี่ยังคงเซ้าซี้ซีวอน เพราะเธอต้องการรู้คำตอบจริงๆ ถึงแม้ซีวอนจะว่าเธอว่างี่เง่า เธอก็ไม่สนอะไรทั้งนั้น
“คุณไม่ผิด ไม่ได้ทำอะไรผิดเลย ผมผิดเอง แล้วตอนนี้ผมแต่งงานแล้ว ซูยองคือคนที่ผมต้องดูแล”
“ไหนว่าไม่ได้รักซูยองไงคะ แล้ววอนพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง วอนไม่ต้องการที่จะดูแลฟานี่แล้วใช่ไหม” เสียงทิฟฟานี่โวยวายทั้งน้ำตาโดยไม่สนใจสายตารอบข้าง
“ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ผมก็ยังดูแลฟานี่เหมือนเดิม แต่อาจในสถานะ… เพื่อน”
“ฟานี่ไม่ต้องการ ฟานี่ไม่ต้องการเป็นเพื่อนกับวอน เข้าใจไหมคะ”
ทิฟฟานี่หญิงสาวที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง ไม่เคยรู้สึกเหมือนกับตัวเองรับความพ่ายแพ้และอับอายเท่าครั้งนี้มาก่อน ในหัวของเธอมีแต่คำว่า “ซีวอนทิ้งเธอเพื่อไปอยู่กับซูยอง เด็กเมื่อวานซืนที่หลงรักพี่ชายตัวเอง” ทั้งที่วันนี้เป็นวันครบรอบที่เธอกับซีวอนคบกันแท้ๆ ซีวอนกลับจำไม่ได้แถมยังบอกเลิกกับเธออีก
“จะให้ฟานี่เป็นเมียน้อยวอน ฟานี่ก็ยอม ขอเพียงวอนอย่าทิ้งฟานี่เท่านั้น” ทิฟฟานี่อ้อนวอนขอให้ซีวอนอย่าทิ้งเธอ
“ทิฟฟานี่ คุณมาค่ามากกว่านั้น อย่าลดค่าตัวคุณเอง ด้วยการที่พูดว่าจะเป็นเมียน้อยใคร” ความโมโหของซีวอนพุ่งพรวด เมื่อได้ยินคำพูดของทิฟฟานี่ เพราะนั่นคือการที่ทิฟฟานี่ไม่เห็นค่าของตัวเอง
“วอนโกรธฟานี่หรอคะ ฟานี่ขอโทษ”
ซีวอนหลับตาลงเล็กน้อย ก่อนที่จะพูดเหมือนเดิม “ผมขอโทษ”
ซีวอนไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองจะเหนื่อยล้าเท่ากับครั้งนี้มาก่อน ถึงแม้จะทำงานหนักแค่ไหน แต่นั่นก็เหนื่อยกาย แต่ตอนนี้สิ ที่เขารู้สึกเหนื่อยใจ
ไฟในบ้านจากชั้นล่างที่ยังเปิดอยู่ทำให้รู้ว่าซูยองยังคงรอเขา ถึงแม้จะไม่ได้นอนห้องเดียวกัน ไม่เคยได้ทำหน้าที่สามีภรรยา แต่ซูยองก็ยังคงปฏิบัติเขา ทำหน้าที่แม่บ้านเป็นอย่างดี และก็เป็นอย่างที่เขาคิดไว้ไม่ผิด ซูยองเปิดประตูบ้าน และเดินมาหาเขาที่รถเมื่อเห็นว่าเขาไม่ยอมลงจากรถเสียที
“พี่ซีวอนเป็นอะไรหรือเปล่าคะ ไม่สบายหรือเปล่า” ซูยองถามซีวอนด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นสายตาที่อ่อนล้าของซีวอน
ซีวอนสายหัวเล็กน้อยแล้วเดินตามซูยองเข้าไปในบ้าน
“พี่ซีวอนนั่งพักก่อนนะคะ เดี๋ยวซูเอาน้ำเย็นๆ มาให้ดื่ม” เสียงใสๆ ของซูยองดังขึ้น ก่อนที่จะมือหนาจะฉุดรั้งไว้พร้อมกับดึงมานั่งที่โซฟาด้วยกัน โดยที่ซีวอนกุมมือเธอไว้พร้อมกับพิงหัวของเขาลงที่บ่าของเธอ
“ขออยู่อย่างนี้ก่อนได้ไหม”
เสียงทุ้มๆ ปนด้วยความเหนื่อยล้าของซีวอนทำให้ซูยองไม่กล้าลุกไปไหน อีกทั้งหัวใจที่เต้นรัวและสั่นไหว ได้แต่หวังว่าซีวอนจะไม่ได้ยินเสียงหัวใจของเธอ เพราะนั่นอาจจะทำให้ความสัมพันธ์ที่กำลังดีขึ้นเลวร้ายลงอีกครั้ง
หลังจากที่เธอกับซีวอนปรับความเข้าใจกันแล้ว ซีวอนก็ทำตัวเหมือนเดิม เป็นพี่ชายที่น่ารักจนบางทีเธอก็ลืมๆ ความเฉยชาของซีวอนก่อนหน้านี้ไป รวมถึงเรื่องราวของทิฟฟานี่ หญิงสาวที่ซีวอนรักด้วย
“แม่ว่าซีวอนพักงานแล้วไปกับผ่อนกับซูยองดีไหม ลูกทั้งสองยังไม่เคยฮันนีมูนกันเลยไม่ใช่หรอ พักผ่อนซะบ้าง ทำแต่งานแล้วเมื่อไหร่จะมีหลานให้แม่อุ้ม” ชเว จีอู ผู้ซึ่งเป็นแม่ของซีวอนพูดขึ้นหลังจากที่เห็นพัฒนาการที่ดีของทั้งคู่ ซึ่งเธอสังเกตมาเป็นเดือนแล้ว เพราะซูยองที่มีหน้าตาที่สดใส อีกทั้งหลังๆ มานี่ซีวอนก็กลับบ้านเร็วเพื่อที่จะทานข้าวเย็นกับซูยอง ถึงแม้เธอและลูกจะแยกบ้านอยู่กันคนละหลัง แต่ก็อยู่บริเวณรั้วเดียวกัน จึงทำให้เธอได้ดูแลทั้งคู่อยู่ห่างๆ
ซีวอนส่ายหัวเล็กน้อย เพราะแม่ของเขาคงยังไม่รู้ว่าเขากับซูยองยังคงสถานะพี่ชายกับน้องสาวเหมือนเดิม ส่วนซูยองก็ยิ้มเล็กน้อยไม่ได้ปฏิเสธหรือตอบอะไรไป เพราะเธอไม่อยากโกหกผู้ใหญ่และไม่อยากทำให้ผู้ใหญ่เป็นห่วง
“เดี๋ยวแม่จะโทรจองที่พักให้เลยดีกว่า ขืนรอลูกว่าง มีหวังไม่ได้ไปกันพอดี” ว่าแล้วจีอูกลับไปบ้านใหญ่ โดยไม่สนใจหนุ่มสาวทั้งสองว่าจะพูดหรือจะคิดอย่างไร ในเมื่อเธอตัดสินใจแล้ว ยังไงก็ต้องลากทั้งคู่ไปฮันนีมูนให้ได้ ก่อนที่จะจองโรงแรม เธอคงต้องโทรไปหาเลขาซีวอนไม่ให้รับงานก่อน ในเมื่อบังคับลูกไม่ได้ ก็หันไปบังคับเลขาลูกแทนก็หมดเรื่อง
เมื่อเห็นว่าจีอูเดินกลับขึ้นบ้านใหญ่ซูยองจึงเดินไปส่ง พร้อมทั้งยกกระถางต้นไม้เล็กจากบ้านใหญ่มา 2 ต้น เพื่อที่จะลงมือปลูกไว้หน้าบ้านของเธอและซีวอน
“ทำไมไม่ใส่หน้ากากอนามัย” ซีวอนรีบเดินไปนำเอากระถางต้นไม้ออกจากมือซูยอง “รู้ว่าแพ้เกษรดอกไม้แล้วยังไม่ระวังตัวอีก”
“ตอนแรกไม่ได้คิดว่าจะไปยกมาปลูกนิคะ” ซูยองเถียงกลับไป พร้อมคิดในในว่าซีวอนขี้บ่นจัง
“แต่ตอนนี้คิดจะเอามาปลูก ก็ไปเอาหน้ากากอนามัยมาใส่ซะ”
ซูยองเม้มปากตัวเองเล็กน้อยก่อนที่จะพูดเสียงอ่อยๆ “หน้ากากอนามัยหมดแล้ว ยังไม่ได้ซื้อใหม่เลย”
“งั้นก็วางไว้ตรงนี้แหละ ไม่ต้องปลูกมัน” ซีวอนยกกระถางต้นไม้ที่มีดอกไม้สีฟ้าห้าเฉกเล็กๆ เดินออกไปเพื่อวางที่อื่น
“ไม่ได้นะคะ ถ้าไม่ลงดินเดี๋ยวมันตาย ขุดมันจากบ้านใหญ่มาไว้ในกระถางแคบๆ หลายวันแล้ว” ซูยองร้องเสียงหลงเหมือนเห็นซีวอนยกกระถางต้นไม้หนี
“เห่อ งั้นออกไปห่างๆ พี่ปลูกเอง ไม่งั้นคืนนี้ได้น้ำมูกไหล จามชิ่วๆ ทั้งคืนแน่” ซีวอนที่อาสาทำแทน แต่ก็ไม่วายต่อว่าอย่างระอา
ส่วนซูยองที่ได้แต่ยิ้ม เพราะพี่ชายใจดีของเธอกลับมาแล้วจริงๆ
จากที่ห่างเป็นเมตรเพราะซีวอนไม่ให้เข้าใกล้กระถางต้นไม้ กลายนั่งห่างกันแค่คืบ ซูยองที่คอยแนะนำซีวอนว่าต้องการทำอะไรบ้าง พร้อมทั้งหาอุปกรณ์ให้ ทำให้ทั้งคู่สนุกกับการปลูกต้นไม้จนลืมว่าอาการแพ้เกษรดอกไม้ของซูยองไป
“ต้นนี้ชื่อว่าอะไร” ซีวอนถามซูยอง เพราะมองไปมองมาดอกไม้ห้าเฉกสีฟ้านี่สวยดีเหมือนกัน โดยเฉพาะสองต้นนี้ที่เขาเป็นคนลงมือปลูกเองแล้วด้วย ยิ่งดูยิ่งสวยเข้าไปใหญ่
“Forget me not ค่ะ อย่าลืมฉัน”
“หืม… ชื่อแปลกจัง”
“จริงๆ ชื่อนี้มีที่มานะคะ” ซูยองพูดต่อเมื่อเห็นซีวอนทำหน้าสงสัย “เป็นเรื่องเล่าจากฝรั่งเศษค่ะ มีสามีภรรยาคู่หนึ่งไปเดินเล่นแถวลำธาร แล้วภรรยาเห็นดอกไม้สวยดี จึงขอให้สามีเก็บให้ค่ะ ระหว่างที่สามีไปเก็บเกิดพลัดตกลำธาร แต่ก็รีบโยนดอกไม้ให้ภรรยาก่อนที่จะตะโกนขึ้นมาว่า Ne moubliez pas แปลว่า อย่าลืมฉันนะที่รัก เลยเป็นที่มีของชื่อนี้ค่ะ”
เมื่อฟังจบ เสียงของซีวอนก็พูดลอยๆ ขึ้นมาว่า “เห็นแก่ตัวจัง”
จึงทำให้ซูยองร้อง อ้าว เพราะเธอเห็นว่าเรื่องนี้โรแมนติดดีออก
“ทำแบบนี้ภรรยาก็รู้สึกผิดตลอดไปนะสิ จะมีความรักใหม่ก็ไม่ได้ เพราะผู้ชายประกาศว่าอย่าลืมตัวเอง แบบนี้เค้าเรียกว่าความรักที่เห็นแก่ตัว” ซีวอนพูดเป็นฉากๆ
“แล้วพี่ซีวอนจะพูดว่าอะไรล่ะคะ มีแฟนใหม่ไปได้เลยอะไรแบบนี้หรอ” ซูยองถามกลับแล้วพูดอย่างติดตลก
“ก็พูดอะไรก็ได้ ที่ไม่ทำให้ฝ่ายภรรยารู้สึกผิด ที่สามีตายไปเพราะตัวเอง แล้วก็ให้ลืมตัวเองซะ เพื่อที่จะได้เริ่มชีวิตใหม่ที่มีความสุข”
คำพูดของซีวอนทำให้ซูยองรู้สึกได้ว่า ตัวเองเป็นผู้หญิงที่โชคดีมากที่ได้เป็นภรรยาของซีวอน ถึงแม้จะแค่นิตินัยก็เถอะ สำหรับเธอ… แค่นี้ก็พอแล้ว
และแล้วเสียงจามของซูยองก็ดังขึ้น ทำให้ซีวอนละมือจากต้น Forget me not พร้อมทั้งชี้หน้าซูยองอย่างคาดโทษ
“นั่นไง ไม่ทันไรก็จามซะแล้ว น่าตีจริงๆ ถ้าเป็นเด็กๆ จะตีให้ก้นลายเลยทีเดียว” ซีวอนบ่นซูยองแล้วลากซูยองเข้าบ้าน พร้อมกับหายาแก้แพ้มาให้ทาน
ความรู้สึกอบอุ่นที่หัวใจของคู่เกิดขึ้นเบาๆ ฝ่ายหนึ่งรู้ตัวมานานแล้ว เหลืออีกฝ่ายหนึ่งเท่านั้นที่เมื่อไหร่จะยอมรับมัน
****************************************
T^T ขอโทษนะคะ ช่วงนี้เค้าทำงานหนักจริงๆ เลิกเที่ยงคืนทุกวัน ได้หยุดแค่วันอาทิตย์
ขอโทษจริงๆ ค่ะ T^T
ปล. อยู่ดีๆ ก็คิดถึง ลี อึนจิน อยากเห็นซูยองเล่นละครอีกจัง :)
ความคิดเห็น