ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    โซ่รัก ตรวนหัวใจ fic [snsd][sj] sooyoung x siwon

    ลำดับตอนที่ #10 : ตอนที่ 9 [ปรับขนาดอักษรค่ะ]

    • อัปเดตล่าสุด 9 ก.ค. 57


    มือป้อมๆ ข้างขวาของหนูน้อยล๊อกไปที่คอของหญิงสาวจึงทำให้ซูยองก้มลงมองลูกชายเธออีกครั้ง ทั้งยังมองไปที่แขนด้านซ้ายซึ่งมีผ้าพันไว้ที่แขนพาดคล้องไปถึงคอ

    ผมเริ่มเจ็บอีกแล้ว คุณแม่อุ้มผมได้ไหมคร๊าบซูวอนที่ตอนแรกบอกกว่าไม่เจ็บกลับงอแงอ้อนให้ซูยองอุ้ม อ้อมกอดของผู้เป็นแม่อบอุ่นจนตัวเขาไม่อยากปล่อยไปไหน ซูยองจึงช้อนตัวซูวอนขึ้นมาทันทีพร้อมกับหอมไปที่แก้มนิ่มๆ ของลูกชายเบาๆ

    ค่าใช้จ่ายต่างๆ ซีวอนดำเนินการให้หมดแล้วเหลือแต่เพียงกรอกเอกสารเล็กน้อยและไปรับยาที่ห้องจ่ายยาตามที่คุณหมอบอกไว้เท่านั้น

    ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ซีวอนเดินมาอยู่ข้างๆ ทั้งที่เธอคิดว่าตัวเองไม่รู้สึกอะไรกับผู้ชายคนนี้แล้ว แต่หัวใจกลับสั่นไหวอย่างไม่น่าเชื่อ ผู้ชายคนนี้เหมือนเดิมทุกอย่าง ความสูง หน้าตาที่หล่อเหลา สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาน่าจะเป็นความภูมิฐาน ที่ทำให้ชายหนุ่มดูดีขึ้นไปอีก

    เดี๋ยวพี่อุ้มลูกให้ จะได้กรอกเอกสารสะดวกน้ำเสียงนุ่มๆ ที่เธอไม่คิดว่าจะได้ยินอีกครั้งพร้อมกับคำเรียกแทนตัวเองว่าพี่ ที่เธอโหยหามาตลอด มันทำให้หัวใจแทบจะหยุดหายใจ แล้วยังคำว่า ลูกที่เขาพูดออกมานี่อีก เธอควรดีใจที่ซูวอนได้เจอพ่อ แต่เธอก็กลัว กลัวว่าเขาจะแยกลูกเธอไป

    เมื่อเห็นว่าซูยองยังไม่ยอมส่งซูวอนมาให้ เขาจึงหันไปพูดกับลูกชายตัวเอง

    ซูวอนครับ ให้ลุงอุ้มนะครับ คุณแม่จะได้กรอกเอกสารได้สะดวกถึงแม้อยากจะเรียกแทนตัวว่า พ่อแต่ก็กลัวซูวอนปฏิเสธ

    แม้ซูวอนจะบอกว่ารอพ่อตัวเอง แต่มันคงไม่ดีนักที่จะให้ซูวอนคิดว่าทำไมพ่อถึงจำเขาไม่ได้ ทำไมถึงให้เรียกคุณลุงมาตั้งนาน

    ซูวอนโผลหาซีวอนอย่างง่ายดาย อาจเป็นเพราะอ้อมกอดของซีวอนอบอุ่นไม่แพ้ซูยองก็เป็นไปได้

    ซูยองที่กรอกข้อมูลเกี่ยวกับซูวอนไป เหลือบมองซีวอนกับซูวอนไป เป็นเพราะว่าเธอกลัว กลัวว่าเขาจะเอาลูกเธอไป เธอคงอยู่ไม่ได้แน่ถ้าไม่มีซูวอน เมื่อคิดแล้วก็พานน้ำตาไหลออกมาดื้อๆ จึงรีบปราดน้ำตาก่อนที่หนุ่มน้อยและหนุ่มใหญ่จะหันมาเห็น แต่ก็ไม่รอดพ้นสายตาซีวอนอยู่ดี

    ตอนแรกเขาก็นึกขำที่เห็นซูยองทำหน้าเลิ่กลั่กเมื่อซูวอนโผล่เข้ามาให้เขาอุ้ม ต่อมาก็พยายามแอบมองเหมือนกับกลัวว่าเขาจะพาซูวอนหนีไปไหน ตอนนี้ยังทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อีก ไม่สิ น่าจะกำลังร้องไห้อยู่

    ภาพสะท้อนในกระจกของเขาและซูวอนทำให้เขารู้ว่า เขาไม่ได้คิดไปเองที่รู้สึกว่าซูวอนหน้าตาคล้ายเขา คนรอบข้างไม่ได้พูดเพื่อประจบ แต่นั่นเป็นเพราะซูวอนคือเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาต่างหาก

    ซูยองเมื่อกรอกเอกสารเสร็จจึงรีบเดินมาหาซูวอนพร้อมกับขอคืน แต่ซีวอนไม่ให้โดยให้เหตุผลว่าเดี๋ยวก็ต้องไปรับยาอีก ถ้าอุ้มซูวอนไว้อาจจะฟังเภสัชกรพูดไม่สะดวก ซึ่งเธอรู้สึกว่ามันเป็นเหตุผลที่ไม่เข้าท่ามากๆ แต่ทำอย่างไรได้ เพราะซีวอนก็คือซีวอน นิสัยเอาแต่ใจตัวเองไม่เคยเปลี่ยน

    ในสายตาของผู้คนที่เห็นภาพเด็กน้อยน่ารักใส่เฝือกโดยมีชายหนุ่มอุ้มอยู่และมีสาวสวยยืนอยู่ข้างๆ เป็นภาพที่มองดูยังไงก็เป็นครอบครัวสุขสันต์ แต่นั่นไม่ใช่สำหรับซูยองที่ตอนนี้ทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้ว่าซีวอนคิดอะไรอยู่ คนที่พยายามหนีกลับอยู่ตรงหน้า รับรู้แต่เพียงว่าชีวิตปกติของเธอกับซูวอนคงเปลี่ยนไป

    เมื่อถึงห้องยา เภสัชกรส่งรอยยิ้มหวานมาให้เด็กน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนของซีวอน อีกทั้งเผื่อแผ่ไปยังผู้ใหญ่ทั้งสองที่เธอคิดว่าเป็นพ่อกับแม่ของเด็ก

    น้องทานยาเม็ดได้หรือยังคะเสียงใสๆ ของเภสัชกรสาวส่งถึงซูยอง แต่ยังไม่ทันที่ผู้เป็นแม่จะตอบ เสียงเล็กๆ น่ารักเอ่ยด้วยความภาคภูมิใจ

    ทานได้แล้วครับ ผมทานยาเม็ดเป็นแล้ว

    เก่งจังเลยนะครับเภสัชกรพูดกับซูวอนก่อนที่จะหันมาอธิบายยาซูยองฟัง ยาทั้งหมดที่คุณหมอให้คือยาเม็ดนะคะ ยาแก้อักเสบทานเช้า เย็นก่อนอาหาร ส่วนนี่ยาแก้ปวดให้ทานเช้า กลางวัน เย็นจนกว่าน้องจะหายปวดค่ะ แล้วคุณหมอเผื่อยาลดไข้ไปให้ น้องอาจจะเป็นไข้ได้ถ้าแขนอักเสบมาก คุณหมอนัดตรวจอาการอีก 2 วันนะคะ ช่วงนี้คุณพ่อกับคุณแม่คงต้องอาบน้ำให้น้อง อย่าให้เฝือกโดนน้ำนะคะเดี๋ยวมันจะอับชื้น

    เภสัชกรยังคงแนะนำต่อไปเรื่อยๆ โดนที่ไม่ได้สังเกตว่าหน้าตาคุณพ่อยิ้มร่าขนาดไหน ส่วนหน้าตาคุณแม่ที่ตอนนี้จะว่าบูดบึ้งก็ไม่เชิง จะว่าไปซูวอนมีหน้าตาคล้ายซีวอนจริงๆ ทั้งตา จมูก ปาก สีผิว มีอะไรที่ลูกชายคนนี้เหมือนเธอบ้างน้า….

    ความคิดของซูยองต้องหยุดลง เมื่อเสียงใสๆ ของเด็กน้อยเริ่มอ้อนผู้เป็นแม่อีกครั้ง

    คุณแม่คร๊าบ ผมหิวแล้ว

                    แล้วนิสัยขี้อ้อนนี่อีกที่ซูวอนไปเอานิสัยนี้มาจากไหน เพราะถ้าเป็นนิสัยของซีวอนน่าจะเป็นจอมบงการมากกว่า อย่างตอนนี้ที่อุ้มซูวอนมาที่รถของเขาโดนไม่ถามความเห็นเธอสักคำ

                    เดี๋ยวเราก็กลับแล้วครับ ทนอีกนิดนะซูยองลูบหัวลูกชายก่อนที่จะพูดออกไป ทำให้ซูวอนพยักหน้าตอบรับ เพราะระยะทางระหว่างบ้านกับโรงพยาบาลไม่ห่างกันนัก ดังนั้นเธอจึงคิดว่าซูวอนน่าจะกลับไปกินข้าวที่บ้านดีกว่า กว่าจะสั่งอาหาร กว่าจะรออาหารมา น่าจะมีค่าเท่ากัน

                    เด็กหิวจะให้รอได้ยังไงซีวอนพูดกับซูยองแกมดุหน่อยๆ โดยไม่ฟังเสียงค้าน พร้อมทั้งบอกให้คนขับรถพาไปร้านอาหารที่ใกล้ที่สุด

                    เมื่อถึงร้านอาหารซูยองแทบไม่ได้สั่งอะไรเลย เพราะคุณพ่อกับคุณลูกสั่งอาหารกันจนคนตะกละอย่างเธอต้องบอกให้พอก่อน

                    ซูวอน ลูกสั่งอาหารเยอะไปไหมครับซูยองเลือกที่จะถามลูกชายตัวเองมากกว่าที่จะคุยกับซีวอน เพราะตอนนี้เธอไม่รู้ว่าเขาคิดอย่างไร แต่จากการกระทำแล้วคงจะเอ็ดดูซูวอนพอสมควร

    เดี๋ยวคุณแม่ขอดูยาก่อนนะครับ เพราะเหมือนจะมียาก่อนอาหารน้าซูยองพูดกับตัวเองมากกว่าพูดกับซูวอน ทำให้ซีวอนยิ้มเล็กน้อยที่ตอนนี้ซูยองลดอาการเกร็งลงอย่างเห็นได้ชัด เขาจึงรู้สึกผ่อนคลายไปด้วย

    แต่ลูกแน่ใจนะว่ากินยาเม็ดได้แล้วซูยองถามย้ำซูวอนอีกครั้งเมื่อพบว่ายาแก้อักเสบต้องกินก่อนอาหาร

    ครับ ผมกินได้ กลืนลงไปแล้วกินน้ำตามเยอะๆซูวอนตอบซูยองกลับไปพร้อมกับรับยาจากผู้เป็นแม่

    เมื่อซูวอนกินยาก่อนอาหารเสร็จแล้วไม่นานนักอาหารทั้งหลายที่สองพ่อลูกสั่งก็วางอยู่เต็มโต๊ะ ด้วยมือข้างหนึ่งของซูวอนเข้าเฝือกอยู่ จึงทำให้ทานอาหารได้ไม่สะดวกนัก ผู้เป็นแม่จึงอาสาป้อนข้าวลูกชาย แต่ได้รับคำปฏิเสธกลับมา

    ไม่เป็นไรครับ ผมทานข้าวเอง ลุงคยูบอกว่าถ้าทานข้าวเองจะสอนวาดรูปให้เก่งๆคำพูดที่ซูวอนตอบกับซูยอง ทำให้ชายหนุ่มที่นั่งฟังอยู่อดที่จะหงุดหงิดไม่ได้ รอยยิ้มหายไปจากใบหน้ากลับกลายเป็นหน้าตาบึ้งตึงเข้ามาแทนที่

    คยูฮยอน เขาลืมคยูฮยอนไปได้อย่างไร ก่อนหน้านั้นทงเฮเหมือนกับรายงานความสนิทสนมของซูยองและคยูฮยอนให้เขาฟังแล้ว แต่เขาไม่ได้สนใจเท่าไหร่ แถมยังเคยคิดว่าซูวอนเป็นลูกของคยูฮยอนด้วย เห็นทีคงปล่อยไปไม่ได้ ต้องอ่านรายงานเกี่ยวกับร้านซูวอนอย่างจริงจัง อีกทั้งพยายามไม่สนว่าคยูฮยอนเป็นอะไรกับซูยอง เพราะเขาเป็นสามีที่ถูกต้องตามกฎหมาย แถมยังเป็นพ่อของซูวอนอีกด้วย

    ลุงคยูไม่ว่าอะไรหรอกครับ เพราะซูวอนเจ็บแขนข้างซ้าย ใช้งานแต่แขนข้างขวาไม่สะดวก ยังไงลุงคยูก็เข้าใจครับซูยองพยายามอธิบายให้ลูกน้อยเข้าใจ ตั้งแต่ไหนแต่ไรซูวอนมีคยูฮยอนเป็นฮีโร่ เพราะคุ้นเคยกันมาตั้งแต่เล็กๆ แถมยังชอบผลงานการวาดรูปอีก โตขึ้นจึงอยากเป็นจิตกรเหมือนคยูฮยอน ซึ่งเธอก็ไม่ว่าอะไร ขอให้ซูวอนมีความสุขกับการใช้ชีวิตก็พอ

    ซูวอนคิดเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าเข้าใจ ตัวเขาเองก็กินข้าวไม่ถนัดจริงๆ อย่างที่คุณแม่พูดนั่นแหละ

    ซีวอนอาสาป้อนซูวอนหลังจากที่เขาเริ่มอิ่มแล้ว เพราะซูยองก็ยังไม่ได้ทานอะไรเลย ซึ่งทั้งซูวอนและซูยองก็เข้าใจยอมให้เขาป้อนแต่โดยดี นิสัยการกินเก่งของซูวอนเหมือนกับซูยองจนเขาอดที่จะขำไม่ได้ ดีที่ลูกน้อยของเขาท่าทางจะเผาผลาญดีเหมือนผู้เป็นแม่ จึงไม่ได้รู้สึกว่าซูวอนอ้วนแต่อย่างใด ออกจะน่ากอดน่าฟัดเสียด้วยซ้ำ

    ซูยองก็เป็นยังเป็นซูยองเหมือนเดิม ความกินเก่งไม่ได้ลดลง เขารู้สึกสบายใจขึ้นเมื่อเห็นซูยองทำตัวปกติ แต่สิ่งที่ยังติดค้างในใจคือผู้ชายที่ชื่อ คยูฮยอน

     

    ****************************************

    ไม่ค้างกันแล้วใช่ไหมคะ เหลือแต่ซีวอนที่ค้างคาใจ 55555

     

    (แอบสปอย) ตอนหน้าไปดูกันดีกว่า ว่าซีวอนทำอะไรไว้กับซูยองไว้บ้าง เวลาซีวอนทำตัวน่ารักแถมมีเจ้าตัวน้อยเป็นกองเชียร์ จะได้ไม่ใจอ่อนง่ายๆ อิอิ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×