Infinity Time จิตสำนึกห้วงเวลา
เรื่องสั้นตอนเดียวจบ นำเสนอเรื่องราวสั้นๆ ของนักบินอวกาศที่ต้องรับหน้าที่ขับยานอวกาศออกไปนอกโลก เขาได้ประสบกับสัมผัสพิเศษเหนือจินตนาการ
ผู้เข้าชมรวม
943
ผู้เข้าชมเดือนนี้
15
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
Infinity Time
จิตสำนึกห้วงเวลา
“โบจาขอน้ำฉันหน่อยสิ”
เสียงเรียกของชายหนุ่มสะท้อนก้องไปในห้องว่างขนาดสามคูณสามเมตร
โบจาเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมการสอบ มองชายหนุ่มผู้เข้ารับการทดสอบผ่านจอมอนิเตอร์จากห้องควบคุมด้านนอก
‘ไม่ได้ ยังไม่ถึงเวลา
นายต้องอดทนเอาไว้’ เขาเอ่ยพึมพำออกมาจากห้องปิด
“ฉันไม่ไหวแล้ว ขอน้ำฉันหน่อยเถอะ”
‘อดทนไว้
นายต้องปรับตัวให้ได้’
ชายหนุ่มที่เข้ารับการทดสอบรู้ว่า ต่อให้ตนขอร้องไปยังไง
โบจาก็ไม่มีทางให้น้ำกับเขาแน่ ความต้องการภายในได้ดิ้นรนแข็งขืน เรียกร้องให้ยอมแพ้ต่อภารกิจนี้
แต่ความดื้อดึงที่ต้องการจะเอาชนะตนเองให้ได้ ได้ฉุดรั้งเอาไว้
“เฮอะ” ชายหนุ่มพ่นลมหายใจออกไปอย่างแรงเพื่อสลัดความคิดที่ฟุ้งซ่าน
แล้วสูดลมหายใจเข้าลึกๆ กำหนดจิตไปผูกไว้กับจังหวะของการหายใจเข้าและออก
เข้าและออก เข้าและออก
หลังผ่านไปสามนาที คลื่นความคิดที่กลุ้มรุมอยู่ในหัวของเขาก็สงบเบาบางลง
‘ดี อย่างนั้นแหละ อย่าปล่อยให้ความคิดชักนำนายไปได้’
โบจาคิด
เพียงครู่เดียวจากนั้นไม่ถึงห้านาที
ชายหนุ่มที่อยู่ในห้องเล็กก็สามารถควบคุมความอยากของตนได้ สภาวะจิตอยู่ในอาการสงบนิ่งรวมตัว
โบจาค่อยเผยอยิ้มออกมาอย่างพอใจ
เมื่อครบกำหนดเวลา ประตูห้องทดสอบก็เปิดออก
ชายหนุ่มที่อยู่ด้านในค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้น
ตอนนี้เขาไม่มีความต้องการอยากจะดื่มน้ำหลงเหลืออยู่อีกแล้ว จิตใจได้สงบแช่มชื่น
ทั้งจากภาวะที่สามารถเอาชนะความอยากในใจตน
กับความสุขจากการเป็นผู้ผ่านบททดสอบอันยากยิ่งของสถาบัน
โบจาเดินเข้ามายื่นแก้วน้ำส่งให้
ชายหนุ่มรับมายกขึ้นจิบเบาๆ แล้วกล่าวถาม
“คนอื่นเป็นยังไงบ้าง”
“ในหนึ่งร้อยคน มีแค่สองคนเท่านั้นที่ผ่านได้
นอกนั้นตกรอบหมด ส่วนใหญ่จะยอมแพ้ในช่วงเวลาหนึ่งถึงสามชั่วโมงแรก”
“บททดสอบรอบนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย”
บททดสอบที่ว่านี่ก็คือ
การให้ผู้ทดสอบอดอาหารเป็นเวลายี่สิบสี่ชั่วโมง จากนั้นก็พาไปเข้าห้องเงียบที่มีพื้นที่สามคูณสามเมตร
ให้อยู่ในนั้นเป็นระยะเวลาหกชั่วโมง โดยไม่บอกระยะเวลาที่ทำการทดสอบให้ผู้ทดสอบรู้
เพื่อที่จะดูว่าตลอดระยะเวลาที่พวกเขาต้องเผชิญกับความอยาก อยู่ในพื้นที่แคบๆ
โดยไม่รู้ว่าต้องใช้ระยะเวลาเท่าไหร่นั้น สภาพจิตใจจะเป็นเช่นไร
บททดสอบนี้เป็นภารกิจเพื่อคัดเลือกหาตัวแทนที่เหมาะสมสำหรับการเป็นผู้ขับขี่ยานอวกาศ
White
Space ยานอวกาศลำล่าสุดของสหพันธรัฐที่สามารถเดินทางไปยังดาวเคราะห์ที่อยู่ด้านหลังดาวพลูโตได้ในระยะเวลาหนึ่งปี
เนื่องจากโลกในยุคปัจจุบันได้ถูกภัยสงครามที่เกิดขึ้นจากน้ำมือมนุษย์ด้วยกันเองทำลายล้าง
จนตกอยู่ในสภาพที่รอวันจะแตกทำลายลงในไม่ช้า
การอพยพย้ายถิ่นฐานออกไปยังดาวเคราะห์ดวงใหม่ที่มีสภาพเหมาะสมกับมนุษย์
ดูจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด สหพันธรัฐหรือรัฐบาลโลกในปัจจุบันได้ทำการสืบค้นจนพบว่า
ดาวเคราะห์ดวงหนึ่งที่อยู่ใกล้กับดาวพลูโต
มีสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมกับการดำรงชีพของมนุษย์มากที่สุด
ตอนนี้ขาดแค่การยืนยันด้วยตาตนเองเท่านั้นว่าสิ่งที่คิดนั้นถูกต้องหรือไม่
พวกเขาจึงได้ริเริ่มโครงการพัฒนานักบินอวกาศ เพื่อที่จะได้ส่งยานอวกาศออกไปสำรวจดู
ตอนนี้ขั้นตอนเตรียมการสำรวจทั้งหมดเสร็จสิ้นลงแล้ว
เหลือแค่การคัดเลือกพลขับของยานอวกาศ White Space เพียงคนเดียวจากหมู่พลขับที่ถูกคัดเลือกมาหนึ่งร้อยคน
“จะว่าไป อีกคนที่ผ่านนี่ใครหรือ” ชายหนุ่มถาม
โบจายิ้มอย่างมีเลศนัย “ลองทายดูสิ”
มีเพียงชื่อๆ
เดียวเท่านั้นที่ผุดโผล่ขึ้นมาในความคิดของเขา
บุคคลที่เขายอมรับว่าเป็นคู่แข่งที่ยากข้ามผ่าน
“โทนี่”
โบจาพยักหน้า “ใช่ โทนี่ผ่านบททดสอบไปได้ด้วยคะแนนเกือบเต็ม ไม่มีแม้แต่อาการเจ็ตแล็กในช่วงสามชั่วโมงพีคแบบนายด้วยนะ”
“...!!!...”
“เรียกว่าสงบนิ่งราบเรียบตั้งแต่นาทีแรกที่เข้าไปในห้อง
จวบจนนาทีสุดท้ายที่ออกมาเลยล่ะ”
“มันมีหลับ หรือเคลิ้มไปบ้างไหม”
“ไม่มี คลื่นความคิด อัตราการเต้นของหัวใจ
ชีพจรทุกอย่างคงที่ราบเรียบมาก เหมือนเพลงบรรเลงที่เล่นจังหวะเดียวไปตลอด
ไม่มีผิดคีย์กระโดดเด้งเปลี่ยนไปในโทนจังหวะอื่นเลยแม้แต่น้อย”
ชายหนุ่มขมวดคิ้ว
ทำยังไงเขาถึงจะเอาชนะไอ้หุ่นยนต์นี่ไปได้นะ
โบจาที่สังเกตท่าทีของเพื่อนอยู่ตลอดได้กล่าวเตือน
“ลุคนายเลิกคิดว่าโทนี่เป็นคู่แข่งเสียทีเถอะ
ฉันว่าเพราะนิสัยชอบการแข่งขันของนายนี่แหละที่ทำให้ไม่สามารถพัฒนาตนเองไปเป็นสุดยอดพลขับได้สักที”
“ยากวะเพื่อน
มันเป็นสันดานของฉันไปแล้ว”
“เชื่อนายเลย” โบจาบ่นยิ้มๆ
อย่างรู้นิสัยของเพื่อนดี แล้วพยักพเยิดให้เขาเดินออกจากห้องทดสอบไปสักที
หลังออกมาจากห้อง ลุคได้เดินไปต่อที่ห้องนั่งเล่นรวมของพลขับเพื่อตรวจคะแนนที่บอร์ดประกาศผล
ทันทีที่เข้ามาในห้อง เขาก็ต้องชะงักไป เมื่อพบว่ามีบุรุษผู้หนึ่งมาถึงก่อนหน้าแล้ว
“โทนี่”
ชายร่างสูงผู้มีดวงตาคมเข้ม
หันมาพยักหน้าให้ลุคทีหนึ่ง แล้วหันกลับไปมองตารางคะแนน
ซึ่งมีผลการทดสอบครั้งล่าสุดปรากฏอยู่
1.
โทนี่ 500 คะแนน
2.
ลุค 475 คะแนน
3.
สวิช 250 คะแนน
ฯลฯ
จะเห็นว่า มีเพียงลำดับที่หนึ่ง
และสองเท่านั้น ที่มีคะแนนแตะหลัก 450+ ขึ้น ซึ่งเป็นเกณฑ์ผ่านการทดสอบคัดเลือก
“ยินดีด้วยนะ
คะแนนของนายชนะฉันใสๆ” ลุคว่า พร้อมหันไปขอจับมือกับโทนี่
บุรุษผู้ได้ลำดับที่หนึ่งของการแข่งขันยกมือขึ้นมาสัมผัสกับลุคด้วยอาการสงบนิ่ง
“นายไม่ดีใจบ้างหรือไง”
ลุคถามด้วยความสงสัยหลังเห็นอาการเฉยเมยของเพื่อน
เขาส่ายหน้า “ไม่เห็นมีอะไรน่าตื่นเต้นนี่”
“ไอ้นี่ หรือนายมั่นใจอยู่แล้วว่าจะเอาชนะคนอื่นได้ง่ายๆ”
โทนี่ส่ายหน้า
“ฉันไม่ได้คิดถึงเรื่องคนอื่นแม้แต่น้อย เพราะมันจะทำให้เกิดการเปรียบเทียบในใจ เป็นเหตุให้เกิดความคิดในเชิงลำดับขั้น
อันเป็นสาเหตุที่ทำให้จิตกระเพื่อม” เขาร่ายทฤษฎีออกมายาว แล้วหันไปมองลุค
บอกเป็นนัยว่าที่นายแพ้ก็เพราะมัวแต่คิดเรื่องนี้นั่นแหละ
ลุคเข้าใจได้ในทันที “ไอ้นี่”
เขายกกำปั้นขึ้นมาทำท่าจะเขกหัวเพื่อน แต่แล้วก็ลดมือลง
เปลี่ยนมาเป็นหัวเราะให้กับตนเอง
“ให้ตายเหอะ ฉันนับถือนายจริงๆ ว่ะ
ฉันแพ้นายโดยศิโรราบเลย”
“บอกแล้วไงว่าฉันไม่ได้คิดเรื่องแพ้ชนะแม้แต่น้อย”
“โอเคๆ เข้าใจแล้ว ไป ตอนนี้เราไปห้องทดสอบจิตกันดีกว่า”
ลุคชวน
โทนี่รับคำแล้วเดินตามลุคไปอย่างว่าง่าย
ด้วยเขาเองก็เตรียมจะไปที่นั่นอยู่แล้ว
ห้องทดสอบจิต
คือสถานที่ที่ผู้เข้ารับการทดสอบจะถูกส่งจิตหรือตัวรู้ของตนเองผ่านเข้าไปในห้วงจิตใต้สำนึกผ่านความฝันด้วยเครื่องมือพิเศษ
ในที่แห่งนั้นเขาจะได้พบกับความคิดและอารมณ์ทั้งในแง่บวกและลบของตนที่โดยปกติเป็นสิ่งนามธรรมไม่อาจสัมผัสจับต้องได้
แสดงตัวตนออกมาเป็นรูปธรรม
ผู้เข้าทดสอบจะได้เผชิญหน้ากับตัวตนที่ฝังอยู่ในจิตสำนึกด้านลึกของตนเอง
ภายในห้องจะมีเตียงนอน
อุปกรณ์ที่ครอบศีรษะ สายเลือดเชื่อมต่อกับจุดชีพจรทุกจุด
หลังผู้ทดสอบเข้าสวมเครื่องมือเหล่านี้
เขาจะถูกปรับสภาพร่างกายและจิตใจให้อยู่ในภาวะหลับลึก
คลื่นสมองจะเดินไปอย่างราบเรียบ
จากนั้นจิตหรือตัวรู้ของผู้ทดสอบจะถูกส่งไปปรากฏยังสถานที่ต่างๆ
ตามบททดสอบที่เครื่องจะเลือกสรรมา
บุคคลที่สามารถรับมือกับเรื่องราวนามธรรมภายในจิตใจของตนเองได้ดี
นั่นย่อมบ่งบอกถึงความเข้มแข็งทางจิตใจจากส่วนลึกของเขา
อันเป็นคุณสมบัติที่เหมาะสมต่อภารกิจ
แม้โทนี่จะได้คะแนนโดยรวมทั้งหมดติดท็อปอันดับหนึ่งทุกรายการ
แต่กับการทดสอบในห้องทดสอบจิตนี้ คะแนนของเขากลับแพ้ลุคมาตลอด ถึงโทนี่จะบอกลุคว่าเขาไม่สนใจเรื่องการแข่งขัน
แต่ถ้าลุคชวนมาเข้าเครื่องทดสอบจิตนี้เมื่อไหร่ โทนี่ไม่เคยปฏิเสธเลยสักครั้ง
ลุคและโทนี่ได้เข้าไปนอนอยู่ในเครื่องทดสอบจิต
มีผู้ดูแลควบคุมการเชื่อมต่อคอยดูแลจับสายเลือดมาเชื่อมต่อกับจุดชีพจรของพวกเขา
ที่ระเบียงด้านบนของห้องทดสอบจิต
มีชายผู้หนึ่งจ้องมองการทดสอบของสองพลขับในสังกัดด้วยความสนใจ หลังจากที่ได้ทดสอบคัดเลือกพลขับมาหลายวิธีการ
ตัวเลือกของเขาคงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากสองคนนี้
ตอนนี้คงเหลือเพียงแค่การตัดสินใจจากเขาเท่านั้นว่าจะเลือกใครให้เป็นพลขับของยานสำรวจ White Space
ที่ด้านล่างภายในห้องทดสอบจิต
เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญกำลังควบคุมการใช้งานเครื่องของลุคและโทนี่อย่างใกล้ชิด
ด้วยหากเกิดการผิดพลาดขึ้นมา จิตใจของผู้ทดสอบอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงไปได้
หรืออาจถูกฝังความทรงจำใหม่ หรือขั้นร้ายแรงหน่อยก็อาจไม่ได้กลับออกมาจากห้วงจิตใต้สำนึกของตนอีก
“สาม สอง หนึ่ง”
เจ้าหน้าที่ควบคุมนับถอยหลังเตรียมการล็อกอินเครื่องทดสอบ
“ศูนย์”
ว้าบ !!
ผู้เข้าทดสอบทั้งสองรู้สึกเหมือนจิตหลุดลอยออกจากร่าง
เห็นแต่เพียงแสงสว่างสีขาว ความคิด ความจำ พฤติกรรม นิสัย ความเป็นตัวตนของทั้งสองค่อยๆ
เลือนหายไปภายใต้แสงสว่างนั้น
ในห้วงบททดสอบภายในจิตใต้สำนึกนี้
พวกเขาจะไม่รู้จักลุคหรือโทนี่
แต่จะมีตัวตนและความทรงจำใหม่ที่เครื่องทดสอบจิตสร้างขึ้นมาให้กลายเป็นคนอีกคนหนึ่งโดยสมบูรณ์
รู้สึกตัวอีกทีพวกเขาก็กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันแล้ว
“เมย์เดย์ๆ”
ฟลุคลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมกับพบว่าขณะนี้ตนเองกำลังอยู่ในห้องแห่งหนึ่ง
มีอุปกรณ์ที่ครอบสวมอยู่บนศีรษะ ตามตัวมีสายเลือดเชื่อมต่อเป็นเส้นสายระโยงระยาง
“เกิดเหตุฉุกเฉินๆ”
เสียงประกาศดังลั่นไปทั่วห้อง
เขาขยับตัวลุกขึ้น
ถอดที่ครอบและสายเลือดตามตัวออก ‘เกิดอะไรขึ้น’
“ฟลุคที่นี่อยู่ไม่ได้แล้ว
หนีกันเถอะ” ชายร่างเล็กในชุดหมีสีส้ม สวมแว่นตาหนาเตอะอยู่ที่ใบหน้าวิ่งเข้ามา
ตัวรู้ผุดขึ้นมาในสำนึกของเขาว่านี่คือเพื่อนสนิทที่ชื่อว่าโบอา
“เกิดอะไรขึ้นหรือ โบอา”
“มีมนุษย์ต่างดาวบุก”
“หา ?!”
“นายฟังไม่ผิดหรอก มีมนุษย์ต่างดาวบุกจริงๆ
ดูนี่”
โบอายื่นจอมอนิเตอร์แบบพกพาขนาดเล็กออกมาให้เขาดู
ภาพที่เห็นก็คือ ยานอวกาศลำใหญ่สีขาว
พร้อมฝูงเครื่องบินประจัญบานของมนุษย์ต่างดาวกำลังยิงกระสุน ขีปนาวุธ
โจมตีเข้าใส่ฐานทัพของพวกเขา
ฟลุคดีดตัวผึงจากเตียงวิ่งออกไปทันที
“เกิดขึ้นนานหรือยังนี่”
เขาถามโบอาที่วิ่งขนาบตามมาข้างๆ
“ห้านาที เมื่อครู่นี้เอง”
“รายละเอียดของพวกมัน ระดับพลัง
จำนวนพลที่บุก จุดอ่อนของฝั่งตรงข้าม” ฟลุคพยายามจะถามข้อมูลที่โบอาทราบ แต่โบอาตอบว่าเขาไม่รู้อะไรทั้งสิ้น
เพราะเรื่องราวพึ่งเกิดขึ้นเพียงครู่เดียวเท่านั้น ที่เขาทำได้ก็คือรีบมาปลุกฟลุคที่ติดอยู่ในเครื่องทดสอบจิตให้ตื่นขึ้น
ฟลุคพยักหน้าขอบคุณทีหนึ่ง แล้ววิ่งไปยังห้องรวมพล
ทันทีที่เข้ามาถึง เขาก็พบกับสภาพความวุ่นวายโกลาหล
ผู้คนในฐานทัพต่างเตรียมการต่อสู้รับมือกับภัยร้ายจากมนุษย์ต่างดาวอย่างเร่งด่วน
หัวหน้าหน่วยนักบินเรียกระดมพลนำพลขับในกลุ่มของตนออกไปต้านปะทะกับศัตรูอย่างเร่งรีบ
ฟลุคไปไม่ทันเหล่าพลขับในหน่วยของตน
พวกเขาล่วงหน้าออกไปก่อนแล้ว
“บ้าชิบ”
เขาสบถออกมาด้วยความหัวเสีย เตรียมจะวิ่งไปขึ้นเครื่องบินประจำตัวตามไปสมทบ
“ฟลุค” โบอาเรียก
แล้วตรงเข้ามาสวมกอดเพื่อนรัก “โชคดีนะเพื่อน ฉันหวังว่าจะได้เจอนายอีกนะ”
พูดจบเขาก็วิ่งแยกออกไปทำหน้าที่ในส่วนของตน ฟลุคมองตามหลังเพื่อนซี้จากไปจนลับตา
ลางสังหรณ์บางอย่างบอกกับเขาว่า เขาอาจจะไม่ได้พบโบอาอีกต่อไปแล้วก็เป็นได้ ‘บ้าน่า
ไม่มีทางเป็นไปได้หรอก’ เขาส่ายศีรษะไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกจากหัว
แล้วรีบวิ่งไปขึ้นเครื่องบินประจำตัวของตน
ทันทีที่เครื่องบินของฟลุคบินออกจากฐานทัพ
ก็เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ขึ้นที่ด้านหลัง
ตูม !!
จุดปล่อยตัวเครื่องบินขับไล่ที่มีช่องความกว้างเพียงแค่ยี่สิบเมตร
ถูกศัตรูยิงระเบิดขีปนาวุธผ่านเข้าไป สร้างความเสียหายให้เกิดขึ้นกับฐานทัพ
โครงสร้างภายในได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหนัก
เครื่องบินของฟลุคเองก็ได้รับแรงสะเทือนจากการระเบิดจนปลิวว่อนหมุนไปอยู่หลายตลบ
ยังดีที่เขาเป็นพลขับมือฉมังจึงสามารถประคองเครื่องบินไว้ได้อย่างรวดเร็ว
หลังจากตั้งหลักได้
เขาก็ขับเครื่องบินโฉบเฉี่ยวหลบการโจมตี บุกเข้าจู่โจมศัตรูด้วยความคั่งแค้น
“ย้าก พวกแกไปตายซะ” ฟลุคตะโกนก้อง
พร้อมบังคับเครื่องบินสาดกระสุนซัดเข้าใส่ศัตรูไม่ยั้ง
เพียงการปรากฏตัวของเขาแค่สามนาที
ฟลุคก็สามารถจัดการกับเครื่องบินรบของฝ่ายตรงข้ามไปได้เกือบสิบลำ สร้างความครั่นคร้ามแก่ศัตรูที่พบเห็นเป็นอันมาก
“ฟลุค”
เครื่องบินรบลำหนึ่งบินเข้ามาขนาบข้าง
โทบี้นั่นเอง
“นายมาทำอะไรที่นี่
ตอนนี้นายต้องไปขับยาน Black
Space เพื่อออกไปสำรวจอวกาศแล้วมิใช่หรือ”
“นายพูดเรื่องอะไร” ฟลุคไม่เข้าใจ
“ไอ้โง่เอ๊ย
ก็ฉันอุตส่าห์ยอมสละตำแหน่งพลขับให้นายไปแล้วยังไง หน้าที่ของนายตอนนี้ไม่ใช่มารับมือกับพวกมนุษย์ต่างดาวพวกนี้นะ
ไม่เห็นสัญญาณเรียกตัวด่วนจากหัวหน้าหรือ”
ฟลุคสับสนงุนงงไปครู่
แล้วความทรงจำก็ค่อยๆ ผุดขึ้นมาในหัว
เขาคือนายทหารผู้เข้าร่วมการทดสอบขอเข้าเป็นพลขับยาน
Black
Space ยานอวกาศที่มีภารกิจออกไปสำรวจดาวเคราะห์ที่อยู่ใกล้กับดวงอาทิตย์ดวงหนึ่งที่มีสภาพแวดล้อมเหมาะสมแก่การอยู่อาศัยเช่นเดียวกับโลกของเขาเป็นอย่างมาก
นี่เป็นภารกิจพิเศษที่ทุกคนบนโลกฝากความหวังเอาไว้
เพื่อการค้นพบสถานที่พักพิงแห่งใหม่แทนที่อยู่เดิมที่ถูกรุกรานจากมนุษย์ต่างดาวอยู่ไม่เว้นวัน
หลังจากที่ได้ผ่านบททดสอบอย่างมากมาย
ทางการก็เหลือตัวเลือกอยู่เพียงแค่สองคนเท่านั้น นั่นก็คือเขากับโทบี้
ที่ทำคะแนนคู่คี่กันมาโดยตลอด
ฟลุคหยิบโทรศัพท์ติดตามตัวขึ้นมาดู
ที่หน้าจอขึ้นข้อความแจ้งให้ทราบว่า เขาผ่านบททดสอบได้รับการคัดเลือกแล้ว
ให้รีบมาที่ยานอวกาศโดยด่วน
“เยส !!”
ฟลุคตะโกนก้อง โห่ร้องดีใจออกมาตามสัญชาตญาณ
“ถ้าเข้าใจก็รีบๆ ไปได้แล้ว
ตรงนี้ฉันจัดการเอง” โทบี้บอก
ฟลุคหันไปมองเพื่อนซี้ที่เปรียบเสมือนคู่แข่งผู้นี้
แล้วผงกหัวขอบคุณ จากนั้นก็ขับเครื่องบินออกไปจากสนามรบ
ตรงไปทางทิศตะวันตกเข้าสู่เขตพื้นที่โซนพิเศษผ่านเส้นทางลึกลับมากมายจนมาพบกับยานอวกาศสีดำลำใหญ่ลำหนึ่งที่จอดอยู่ท่ามกลางหุบเขา
เขาขับเครื่องบินเข้าไปเทียบท่าที่ด้านบนดาดฟ้ายาน ทันทีที่เครื่องบินแตะพื้น
ดาดฟ้าของยานอวกาศก็ย่อตัวหุบลงไปด้านล่างดุจลิฟต์
เมื่อผ่านเข้ามาภายในตัวยานได้แล้ว
ฟลุคก็รีบตรงไปที่ห้องพลขับ เดินเครื่องยานอวกาศ Black Space ขับขึ้นบินออกไปสู่ชั้นบรรยากาศ
ทะลุออกสู่ห้วงอวกาศอันไกลโพ้นอย่างรวดเร็ว
“ทุกคนรอฉันก่อนนะ
แล้วฉันจะกลับมา” ฟลุคเอ่ยด้วยใจที่มุ่งมั่น
แล้วเบนเข็มทิศทางของยานมุ่งตรงไปยังดาวเคราะห์สีฟ้าที่อยู่ไกลโพ้น
ทว่า...
หลังจากที่ยานอวกาศ Black Space ออกไปจากโลกได้ไม่นาน ก็เกิดสิ่งที่ไม่คาดฝันขึ้น
มีลูกอุกกาบาตขนาดยักษ์พุ่งผ่านเข้ามายังเส้นทางของยานอวกาศอย่างไม่ทันตั้งตัว
นั่นทำให้ฟลุคต้องเบนหัวยานหลบไปด้วยความฉุกละหุก
ประจวบกับเส้นทางที่หลบออกไปนั้นมีกับดักหลุมอวกาศที่มีแรงดึงดูดมหาศาล
นั่นจึงทำให้ยานอวกาศ
Black Space ถูกดูดเข้าไปในวังวนสีดำรูปทรงก้นหอยหรือก็คือ Black
Hole ทันที
ฟลุคตื่นตระหนก
ชะตากรรมของมนุษย์นับล้านอยู่ในมือของเขาแต่เขากลับทำพลาดปล่อยให้มันหลุดมือไปด้วยความสะเพร่า
เขาหัวเสียอย่างมากพยายามจะบังคับยานให้หลุดออกจากแรงดึงดูดของ Black Hole แต่ทำอย่างไรก็ไม่สำเร็จ
ในที่สุดเขาก็ยอมแพ้ ทำได้แค่นั่งมองดูภาพของหลุมดำที่มืดมิดไร้ก้นบึ้งดูดกลืนตัวยาน
Black Space เข้าไป
ในช่วงเวลาสุดท้ายนั้นเอง ก่อนที่จะถูก Black Hole ดูดกลืนจนมิด ฟลุคได้วิงวอนร้องขอต่อพระผู้เป็นเจ้าว่า ถ้าหากพระผู้เป็นเจ้ามีจริง
ก็ขอให้เขาได้มีโอกาสแก้ตัวจากสถานการณ์เช่นนี้อีกครั้งด้วยเถิด
แล้วยานอวกาศ Black Space ก็ถูกดูดเข้าสูใจกลางของหลุมดำจนหายไปในที่สุด
วูบ !
ว้าบ !!
แสงสว่างสีขาวนวลได้ผ่านเข้ามาในห้วงสำนึก
ปลุกให้ลุคตื่นขึ้นจากภวังค์ สติของเขาเขาค่อยๆ รวมตัวกลับมาจากเครื่องทดสอบจิต
“นายเป็นอะไรหรือเปล่า”
เจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมเครื่องชะโงกหน้าเข้ามาถาม
ลุคมีสีหน้างุนงงที่ได้เห็นใบหน้าของเจ้าหน้าที่
เขาค่อยๆ รวบรวมความคิด ฟื้นฟูความทรงจำของตน หลังใช้เวลาอยู่ครู่ภาพความทรงจำต่างๆ
ก็ค่อยๆ ประติดประต่อ
“ที่นี่ที่ไหน”
“นายเป็นอะไร จำไม่ได้งั้นหรือ”เจ้าหน้าที่ถามด้วยความเป็นกังวล
ลุคหันไปมองหน้าเจ้าหน้าที่
แล้วค่อยๆ ขยับตัวลุกขึ้น ทันใด เขาก็ต้องตกตะลึงพรึงเพริด
เมื่อเห็นเงาสะท้อนรูปกายของตัวเองที่ปรากฎอยู่บนกระจก
“นี่ฉัน !”
พลันห้วงความทรงจำอีกชุดหนึ่งก็วิ่งผ่านเข้ามาในห้วงสำนึกของเขาอย่างรวดเร็ว
เป็นความทรงจำของตัวตนอีกคนหนึ่งที่เขาเป็น
“...!!!...”
เจ้าหน้าที่มองลุคด้วยสายตาสงสัย
กดคีย์คอมพิวเตอร์เปิดไฟล์ข้อมูลที่ลุคเข้าไปในเครื่องทดสอบจิตขึ้นมาดู
ก็เห็นว่าไม่น่าจะมีอะไรผิดปกติ
“นาย...”
“ขอโทษครับเจ้าหน้าที่เอ็ดเวิร์ด
พอดีผมเพลียไปหน่อย เลยอาจทำตัวป้ำๆ เป๋อๆ ไปบ้าง”
ลุคกล่าวขอโทษที่ทำให้ต้องเป็นห่วง
เจ้าหน้าที่เอ็ดเวิร์ดค่อยถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
ถ้าลุคพลขับอนาคตไกลของสหพันธรัฐเป็นอะไรขึ้นมา เขาได้โดยเฉ่งหนักแน่
“ผมไม่เป็นอะไรแล้วครับ
ขอบคุณมากนะครับที่ช่วยดูเครื่องให้ เอ่อ แล้วโทนี่ละครับ”
“เอ๊ะ เขาหน้าจะตื่นขึ้นมาแล้วนี่”
เอ็ดเวิร์ดอุทาน แล้วรีบวิ่งไปดู
“แย่แล้ว !” เอ็ดเวิร์ดตะโกนลั่น
เมื่อพบว่าโทนี่ที่นอนอยู่ในเครื่องทดสอบจิตข้างๆ ขณะนี้ตกอยู่ในภาวะอันตราย
คลื่นสมองของเขาได้จมอยู่ในห้วงภวังค์ดิ่งลึกอันเป็นภาวะเดียวกับผู้ป่วยที่ตกอยู่ในสภาพของเจ้าชายนิทรา
เอ็ดเวิร์ดรีบแจ้งสัญญาณฉุกเฉินออกไปทันที
สักครู่ก็มีเจ้าหน้าที่ชั้นสูงหลายคนเข้ามาดู
ทุกคนต่างลงความเห็นเป็นอย่างเดียวกันว่า
พลขับมือดีที่สุดของเขาได้ประสบอุบัติเหตุทำให้ตกอยู่ในภาวะเจ้าชายนิทรา ไม่อาจทำหน้าที่ได้อีกแล้ว
ด้วยเหตุประการฉะนี้
ความหวังของมนุษยชาติทั้งหมดจึงตกมาอยู่ในมือของลุค
พลขับมือฉมังที่ดีที่สุดในตอนนี้
หัวหน้าหน่วยได้เดินเข้ามาหาลุคที่เครื่องทดสอบจิต
“ลุค ฉันคงต้องฝากความหวังของมนุษยชาติให้อยู่ในมือของนายแล้วนะ”
ลุคมีสีหน้าแปรเปลี่ยนไปหลากหลาย
แล้วค่อยตอบรับกลับไปด้วยเสียงอันดัง
“ยินดีครับ”
หลังจากนั้นอีกสิบวัน...
ยานอวกาศ White Space ก็เคลื่อนตัวเองออกจากฐานปล่อยบนโลกเข้าสู่ห้วงอวกาศ
โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ดาวเคราะห์ดวงหนึ่งที่อยู่ใกล้กับดาวพลูโต
ลุครู้สึกหมดกังวล
ที่ได้อยู่ตัวคนเดียวโดยอิสระ ไม่ถูกผูกมัดด้วยตัวตนที่ไม่คุ้นเคยสักที
นั่นก็เพราะ ในความจริงแล้วตัวตนที่ตื่นขึ้นมาในทีแรกของเขาก็คือฟลุค
พลขับมือดีที่สุดของยานอวกาศ Black Space แห่งดาวเคราะห์อันไกลโพ้น
จากนั้นความทรงจำในตัวตนของลุคถึงค่อยตามมาทีหลัง แม้ร่างกายของเขาจะเป็นลุค
แต่จิตใจของเขาคือฟลุค โดยมีความทรงจำของลุคเป็นเหมือนดั่งภาพความฝันที่เลือกรางหนึ่งตื่น
เขานั่งคิดถึงความเป็นไปได้ต่างๆ ที่จะย้อนกลับไปช่วยเหลือพวกพ้องเมื่อครั้งสมัยที่ตนเองยังอยู่ในรูปกายของฟลุค
พร้อมทั้งตั้งคำถามกับภารกิจหาแหล่งที่อยู่อาศัยแห่งใหม่ของมนุษย์จากภาวะรูปกายของลุค
ช่วงหลายวันที่ผ่านมานี้
คำถามต่างๆ นานาได้เกิดขึ้นในห้วงความคิดของเขา เขามาอยู่ในร่างของลุคได้อย่างไร ?
ลุคตัวจริงไปไหน ? แล้วทำไมเขาถึงมีความคิดความทรงจำของลุค ?
หรือว่าที่จริงแล้วเรื่องราวของฟลุคจะเป็นเพียงความฝันที่เครื่องทดสอบจิตสร้างขึ้นมา
?...
ไม่ใช่สิ ความเป็นตัวตนของฟลุคเด่นชัดขนาดนี้ ยังไงเขาก็เป็นฟลุคแน่
ไม่สิ หรือว่าจริงๆ
แล้วตั้งแต่ต้นตลอดมาจนถึงตอนนี้เขาก็ยังอยู่ในเครื่องทดสอบจิตในภาวะของลุคอยู่
?... ไม่ใช่มั้ง... เขาถามเองตอบเอง คิดไปคิดมาซับซ้อนอยู่หลายตลบ
ยิ่งเขาพยายามหาคำตอบให้กับตัวเองมากเท่าไหร่
เขาก็ยิ่งสับสนในตัวตนของตนเองมากขึ้นเท่านั้น
แต่แล้ว
เหตุการณ์ที่ไม่ทันคาดคิดก็เดจาวูวกกลับมาเกิดขึ้นอีกครั้ง ลูกอุกกาบาตขนาดยักษ์ได้พุ่งผ่านเข้ามาในเส้นทางโคจรของยานอวกาศ
White
Space ลุครีบหักหัวยานหลบออกข้างอย่างฉุกละหุก
นั่นจึงทำให้ยานอวกาศตกเข้าไปอยู่ในกับดักหลุมอวกาศ Black Hole ที่ปรากฎขึ้นมาอยู่ที่ด้านข้างอย่างฉับพลัน
ลุคตกตะลึงอ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออกกับสภาวการณ์ที่เกิดขึ้น
ร่างของเขากับยานอวกาศ White
Space ได้ถูกหลุมดำดูดเข้าไปยังก้นบึ้งแห่งความมืดมิด
ทะลุเข้าสู่มิติอันลี้ลับหายไปจากอวกาศในที่สุด
วูบ !
ว้าบ !!
แล้วพลัน แสงสว่างสีขาวนวล
ก็เข้ามาสะกิดห้วงสำนึกของเขา ปลุกให้ตื่นลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง
Infinity
ผลงานอื่นๆ ของ เมริว ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ เมริว
ความคิดเห็น