ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : CHAPTER 1
โรงแรมหรูขนาดใหญ่บรรจุคนนับร้อยที่มาร่วมงานในค่ำคืนนี้ ผู้คนที่เริ่มทะยอยเข้าเรื่อยๆทำให้พ่อแม่ทั้งสองที่ยืนต้อนรับหน้างานต้องยิ้มรับคำยินดีจากแขก ใบหน้าพ่อแม่ที่บ่งบอกว่ามีความสุขมากขนาดไหนในวันที่พิเศษที่สุดของลูกตัวเอง แต่ต่างจากอีกคนที่ตอนนี้กำลังมองภาพตัวเองในกระจกอย่างประหม่าจนมือหนาต้องเอื้อมมาบีบเบาเพื่อเป็นกำลังใจ มองว่าที่เจ้าสาวตัวเองอย่างยิ้มๆ ชุดทักสิโด้สีชมพูอ่อนทำให้คนที่กำลังถูกมองยิ่งดูน่ารักไปอีกเท่าตัว
"ตื่นเต้นหรอเรา"
"ฮ่าๆ อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ เดี๋ยวไม่น่ารักนะ"
มือเเตะที่คิ้วเล็กที่ขมวดอย่างเป็นกังวลเบาๆ เพื่อให้คลายออก
"ตะ ตื่นเต้น ทำไงดีครับ"
"มีพี่อยู่ทั้งคนยังต้องกลัวอะไรอีก หืม"
ท่าทางของคนตัวเล็กทำให้ร่างสูงต้องหัวเราะออกมา ก่อนจะก้มลงไปหอมแก้มใสเบาๆอย่างหมั่นเขี้ยว แต่แทนที่อีกคนจะโวยวายกลับหันมายิ้มให้
"หืม เดี๋ยวนี้ไม่ว่าแล้วหรอ?"
แบคฮยอนที่ส่ายหน้าไปมาทำให้ร่างสูงได้ใจ มือยกมาเกาคางไปมาพลางทำท่าคิด
"งั้นก็ทำมากกว่านี้ก็ได้น่ะสิ"
พูดเสร็จก็ก้มไปหวังจะฉกชิมปากเล็กแต่โดนแบคฮยอนตีไปที่แขนซะก่อน
ป๊าบ!
"ไม่ใช่ว่าไม่ว่าแล้วจะทำอะไรก็ได้นะครับ!"
"อ่า ค้าบๆ หวงตัวจริงๆเลย"
"ไว้เข้าหอก่อนเถอะ ไม่รอดแน่"
คำพูดของร่างสูงทำให้แก้มใสทั้งสองข้างขึ้นสีก่อนจะยกมือขึ้นตีไปอีกสองสามทีเพื่อกลบความเขินอายของตัวเอง จนคนที่เห็นก็อดหัวเราะไม่ได้
ทั้งสองหยอกล้อกันอยู่นาน จนเมื่อถึงเวลาก็มีคนมาเรียกทำให้ทั้งสองร่างที่นั่งอยู่ต้องพากันเดินออกไปข้างนอก เผชิญหน้ากับผู้คนนับร้อยที่มาร่วมแสดงความยินดี
ประตูบานใหญ่เปิดออก แสงสีส้มขาวในห้องโถงขนาดใหญ่ ส่องเข้ามา ทำให้มือเล็กต้องยกเพื่อบดบังแสงแต่ไม่ทันมือหนาของอีกคนที่ยกขึ้นกันไว้ให้ก่อน แบคฮยอนหันไปยิ้มให้คนข้างกายที่มองมาไม่ต่างกัน ก่อนทั้งสองจะเดินไปข้างหน้า ตามทางเดินก็มีเสียงที่คอยปรบมือให้ตลอดทาง
เมื่อพิธีได้เริ่มอย่างสมบูรณ์บาทหลวงตรงหน้าก็เริ่มทำหน้าที่โดยทันทีเพื่อให้คำมั่นสัญญาแก่ทั้งสองฝ่าย
"อู๋อี้ฟาน คุณจะรับบยอนแบคฮยอนเป็นภรรยาของคุณไหม คุณสัญญาว่าจะซื่อสัตย์ต่อเธอ ทั้งในยามสุขและยามยาก ในยามไข้และสบายดี จะรักเธอและให้เกียติเธอชั่วชีวิตของคุณหรือไม่"
"ครับ"
คริสตอบอย่างยิ้มๆ เหล่มองคนตัวเล็กที่แก้มใสขึ้นสีเป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ของวัน
"บยอนแบคฮยอน คุณจะรับอู๋อี้ฟานเป็นสามีของคุณไหม คุณสัญญาว่าจะซื่อสัตย์ต่อเขา ทั้งในยามสุขและยามยาก ในยามไข้และสบายดี จะรักเขาและให้เกียติเขาชั่วชีวิตของคุณหรือไม่"
"คะ ครับ"
"งั้นจงดื่มน้ำชาเพื่อเป็นสักขีพยาน ของพวกคุณสองคน ว่าไม่ว่ายังไงจะไม่มีวันทิ้งกัน"
สิ้นสุดเสียง คริสจึงรับน้ำชามาไว้ในมือก่อนจะดื่มและไม่ลืมยื่นให้แบคฮยอนดื่มด้วย แก้วน้ำชาถูกวางไว้บนถาดก่อนเสียงรอบข้างจะพร้อมใจกันเอ่ยขึ้น
"จูบเลย จูบเลย จูบเลย!!"
"จูบเลย!!!"
"ว่าไงครับ"
คริสมองหน้าแบคฮยอนเพื่อเป็นการขออนุญาติและก็ต้องแอบขำเมื่ออีกคนก้มหน้างุด
"เฮ้ออ ทำไงดีล่ะครับเหมือนเจ้าสาวของผมดูจะขี้อายอะ"
"โหหห ขนาดนี้ไม่ต้องขี้อายแล้วค่า~"
"ใช่ค่ะ จูบเลย จูบเลย จูบเลย!!"
เสียงหญิงสาวคนนึงในงานตะโกนขึ้นมาบนเวที ก่อนเสียงรอบข้างจะดังขึ้นอีกครั้ง นี่สินะที่เค้าเรียกว่าอุปทานหมู่น่ะ
"ฮะๆๆๆ งั้นเอาแค่นี้ไปก่อนเนอะ"
เมื่อเห็นว่าแบคฮยอนทำหน้าตาเลิกลั่กคริสจึงตัดสินใจก้มลงไปจูบที่หน้าผากเล็กเบาๆเพื่อไม่ให้คนตัวเล็กตื่นตระหนกไปมากกว่านี้ ก่อนจะสวมกอดร่างน้อยพร้อมกับกระซิบข้างหู
"ถ้าพี่จูบตอนนี้คงจะอดใจไม่ไหวแน่ๆ"
เสียงโฮดังขึ้นอย่างผิดหวังแต่ก็ยังมีคนที่เฮให้กับความน่ารักอยู่ด้วย ทั้งคู่กอดกันนานจนพิธีกรในงานเริ่มจะเอ่ยแซว
"ใจเย็นๆนะค้าบเดี๋ยวก็จะส่งตัวเข้าหอแล้ว ตอนนี้เรามาตัดเค้กกันก่อนดีกว่าไหมครับ แอบได้ยินเสียงกระซิบจากแขกผู้มีเกรียติทั้งหลายว่ารอกันนานแล้วใช่ไหมครับ! ฮ่าๆๆ"
"รออีกนิดได้ไหมครับ ผมยังอยากกอดว่าที่ภรรยาผมอยู่เลย"
คริสแสร้งทำหน้าเศร้า ผู้คนที่อยู่ด้านล่างจึงต้องอ่อนระทวยให้กับร่างสูง ถึงแม้จะมีว่าที่ภรรยาเป็นตัวเป็นตนแต่ก็ไม่ได้ทำให้ความฮอตของคนตัวสูงลดลงแม้แต่น้อย
"กะ กอดเลยค่าา ตามสบายพวกเรารอได้ เนอะคุณพิธีกร"
"ฮ่าๆๆ ถ้าอย่างนั้นก็ตามสบายเลยค้าบ"
คริสยิ้มกว้างก่อนจะสวมกอดแบคฮยอนอีกครั้ง ไม่ลืมที่จะฉกหอมแก้มเล็กไปด้วย จนแบคฮยอนที่เขินแล้วก็ต้องเขินไปอีก แต่ก็อดยิ้มให้กับการกระทำร่างสูงตรงหน้าไม่ได้
"สนใจแขกก่อนไหมครับ ผมเขินหมดแล้วนะ"
"ก็พี่อยากกอดแบคนานๆ"
"พี่คริสอะ ไว้เดี๋ยวค่อยกอดก็ได้ครับ"
"ตอนไหนล่ะ"
"กะ ก็ตอนเข้าหอไงครับ"
ฟอดดด
"โอเคครับทุกคน ผมกอดจนพอใจแล้วมาเริ่มตัดเค้กกันเลยครับ"
คริสหันไปมองพิธีกร เพื่อบ่งบอกว่าพร้อมในพิธีต่อไป จนแบคฮยอนต้องทำหน้ายู่อย่างหมั่นไส้ให้กับความเจ้าเล่ห์ของคริส
"ในที่สุดเวลานี้ก็มาถึงนะครับ เชิญคู่บ่าวสาวมาด้านนี้ด้วยครับ"
เสียงเฮดังไปทั่วบริเวณเมื่อสองมือประสานกันแล้วตัดไปยังเค้กก้อนใหญ่ที่อยู่ตรงหน้า ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มของทั้งสองทำให้ผู้เป็นพ่อและแม่ต่างภูมิใจไปด้วย
แต่ในขณะที่กำลังยิ้มแย้มหัวเราะกันอย่างมีความสุขนั้นเสียงบางอย่างก็ดังแทรกขึ้น พร้อมกับร่างของใครบางคนที่ล้มลง
ปัง!!!! ปังปัง!!
"กรี้ดดดดดดด!!!!"
เสียงกรี้ดดังสนั่น ผู้คนเริ่มแตกตื่น มือที่ประสานกันหลุดออกโดยไม่ได้ตั้งตัว คนที่ได้สติรีบหันไปมองข้างกาย ตาเรียวเบิกกว้างเข่าทั้งสองทรุดลง ก่อนจะค่อยๆเอื้อมมือไปลูบใบหน้าคนเป็นที่รักอย่างตกใจ
"พะ พี่คริส!!!!!"
"พี่คริส ดะโดนยิง"
ตึกตึกตึก
"แบคฮยอน เป็นไรไหม"
"พะ พี่คริส"
"คริส!!!!!"
ชายวัยกลางคนวิ่งเข้ามามองไปยังร่างเล็กของลูกสะใภ้ก่อนจะมองไปยังร่างลูกชาย ของเหลวที่แดงสดไหลออกมาเปื้อนท้วมสูทสีขาวทำให้คนเป็นพ่อเริ่มใจไม่ดี
"เรียกรถพยาบาลเร็ว!!!"
"และลากคอไอ้คนทำมาให้ฉันเดี๋ยวนี้!!! ไป!"
"ครับ!"
"อดทนไว้นะตาคริส เดี๋ยวรถพยาบาลก็มาแล้วนะ"
ชายสี่คนน้อมรับคำสั่ง ก่อนที่หญิงสาวคนข้างๆจะลูบหัวแบคฮยอนเป็นการปลอบ ใบหน้าคมที่เริ่มจะซีดลงอย่างเห็นได้ชัดค่อยๆหันมามองคนที่ตัวเองรักช้าๆ แบคฮยอนที่เห็นคริสกำลังพยายามยกมือขึ้นก็รีบเข้าไปกอบกุมกำมือหนาทันที
"บะ แบค..."
"พี่คริส ฮึกก!!!!"
"ยะ..อย่า ร้อง..."
"เดี่ยว...ไม่น่ารัก...นะ"
คริสฝืนยิ้ม มือก็กุมบาดแผลตรงที่ถูกยิงไปด้วย แบคฮยอนได้แต่ร้องไห้ ส่ายหน้าไปมา มองคนรักด้วยสายตาหวาดกลัว กลัวจะเสียคนตรงหน้าไป
"พี่คริสทำใจดีๆไว้นะครับ แบคอยู่ตรงนี้นะ...พี่คริส"
น้ำตาหยดลงแล้วหยดเล่า เวลาผ่านไปไม่นานแต่ทำไมตอนนี้มันกลับรู้สึกว่ามันนานซะเหลือเกิน เมื่อไหร่ เมื่อไหร่รถพยาบาลจะมาซะที
"บะ แบค..."
เสียงเรียกของคริสอยู่ทำให้คนที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ข้างๆต้องช้อนตาขึ้นมอง แววตาวูบไหวของคริสทำให้แบคฮยอนอยากจะร้องไห้ออกมามากกว่าเดิม
"ดูซิ...คน น่ารัก ของพี่"
"ทำไม...ต้อง มาร้อง อึก..ไห้ด้วยนะ"
"ฮือออ พี่คริส ไม่เอาแบบนี้ เดี๋ยวรถจะมาแล้วนะครับ รออีกหน่อยนะ ฮืออ"
"บะ แบค"
"พี่รัก..."
"....."
"แบค...นะ"
"อึก!"
ตุ้บ!
ว่าเสร็จมือหนาที่เคยกอบกุมก็ล่วงหล่นลงกับพื้นทำให้คนที่มองอยู่ต้องใจสลายทันทีอย่างไม่ทันตั้งตัว ดวงตาเบิกกว้างมองดูสภาพคนรักที่เปรอะไปด้วยเลือดก่อนจะก้มลงไปกอดอีกคนไว้แน่น
"ดะ เดี๋ยวพี่คริส!!"
"พี่คริส!!!!!! อย่าทำแบบนี้ ฮือออ"
"อย่าทิ้ง...ฮึกฮือออออ"
"อย่าทิ้งแบคไป"
"ม่ายย!!!! ฮืออ พี่คริส!!"
"ม่ายยยย!!!"
เฮือกกกกกก!!!!
"แฮ่กก แฮ่กก"
ดวงตาเรียวเบิกโพลง ฝันร้ายที่ยังคอยวนเวียน ภาพของคนรักไม่เคยจะลืมเลือนหายไปจากความทรงจำ ตั้งแต่เกิดเรื่องนี่ก็ผ่านมาสามปีเต็มๆ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ทำอะไร เขาก็ยังลืมเรื่องราวนี้ไปไม่ได้ เขาสูญเสียคนรัก สูญเสียคนเดียวในชีวิตที่เหลืออยู่ไป สายตาที่เหม่อลอย เบนไปมองช่อดอกไม้สีขาวในมือ ทำให้นึกขึ้นได้ว่าวันนี้เขาตั้งใจจะมาหาคริสที่สุสาน แต่พอมาถึงก็ดันคิดถึงเรื่องต่างๆนาๆจนหลับไปตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้
คิดได้ดังนั้น ร่างเล็กจึงลุกขึ้นยืน เดินออกจากศาลาตรงไปยังหลุมที่วางเรียงรายไว้อย่างสวยงามแต่มันไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าชื่นชมของทุกคนที่มาที่นี่เท่าไหร่นัก
ไม่นานร่างเล็กก็หยุดลงตรงหลุมที่มีชื่อของคนที่เขาคุ้นเคยสลักอยู่ แบคฮยอนค่อยๆหย่อนตัวลง มือเล็กลูบไปยังหินอย่างอาลัยอาวรณ์ ไม่ว่าจะผ่านมานานเท่าไหร่ เขาไม่เคยทำใจได้มันจะเป็นดังเช่นทุกครั้งเมื่อได้มองชื่อของคนรักที่ลาจากโลกนี้ไปแล้ว น้ำตาที่เอ่อคลออยู่ไหลลงตามกรอบหน้า ลมที่พัดมาแผ่วๆต้องทำให้แบคฮยอนหลับตาลงเพื่อข่มความอ่อนแอไว้ข้างใน สายลมที่เขามักจะคิดว่าเป็นคริสเสมอ มันช่วยเยียวยาเมื่อได้มาอยู่ที่นี่
"แบคคิดถึง...คิดถึงพี่มากเลยนะครับ"
"พี่คริส"
แบคฮยอนจัดการวางดอกไม้ช่อสวยที่เจ้าตัวเป็นคนจัดเองลงจัดเรียงให้สวยงามเพราะเขาอยากให้มันดูดีทุกครั้งเมื่อวางไว้ตรงนี้
"แต่พี่ไม่ต้องห่วงนะ แบคอยู่ได้ สบายมาก"
"แล้วพี่คริสล่ะครับ สบายดีไหม"
"ตอนนี้พี่คงได้ไปเจอพ่อกับแม่แบคบนสวรรค์นั่นแล้วแน่ๆ...."
"แบคคิดถึงทุกคนจัง"
แบคฮยอนเงยหน้ามองบนฟ้าที่ตอนนี้เริ่มจะครึ้มๆ และอีกไม่นานฝนน่าจะตกโปรยปรายลงมา มือบางปาดน้ำตาออกก่อนจะยิ้มขึ้นน้อยๆ ยังไงชีวิตนี้เขาต้องอยู่ต่อเพื่อคนที่เขารัก ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม...
"วันนี้ครบรอบสามปี คิดไปคิดมาก็นานอยู่นะที่แบคจะได้มาอีก แต่ยังไงทุกคนก็อยู่ในใจแบคตลอด ไม่น้อยใจนะครับ ฮ่ะๆ"
แบคฮยอนฝืนหัวเราะ ทั้งๆที่ในใจไม่ได้อยากหัวเราะเลยแม้แต่น้อย ใบหน้าเล็กก้มลงมือก็เอื้อมไปลูบหินอีกครั้งอย่างแผ่วเบา
ไม่รู้นานเท่าไหร่จนฝนเม็ดเล็กเริ่มทะยอยตกลงมาแต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้แบคฮยอนมีท่าทีว่าจะลุกไปไหนและยังคงนั่งอยู่ตรงนั้นเหมือนเดิม เพราะวันนี้ครบรอบสามปี เขาก็อยากจะอยู่ตรงนี้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ไม่ว่าฝนจะตกลงมาหนักแค่ไหนก็ตาม
เสียงเรียกของคนที่ผ่านไปมาทำให้แบคฮยอนรู้สึกตัว เงยหน้าขึ้นมองคนที่เอาร่มยื่นมาบังไว้ให้อย่างใจดี
"นั่งตรงนี้เดี๋ยวก็ไม่สบายเอานะครับ"
"ขะขอบคุณนะครับ"
"แต่เดี๋ยวผมจะกลับแล้ว"
"ให้ผมไปส่งไหมครับ ดูเหมือนว่าคุณจะไม่ได้เอาร่มมาด้วย"
"มะ ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณอีกครั้งนะครับ ผมขอตัวก่อน"
แบคฮยอนก้มหัวให้อย่างสุภาพก่อนจะยกแขนขึ้นมาบดบังฝนที่สาดลงมาและเดินออกไป
"เอ้า...ไปซะละ"
"ยังไม่ทันได้รู้จักกันเลย" คนถือร่มพึมพำกับตัวเอง
"ใครวะ" มองร่างเล็กของใครบางคนที่กำลังวิ่งผ่านสายฝนออกไปหน้าโบสถ์อย่างสงสัย จำได้ว่าน่าจะเป็นคนเดียวกับคนที่เขาเดินผ่านเข้ามาเมื่อกี้ แต่ไม่ทันได้สังเกตรวมถึงตอนนี้ที่มองเห็นแต่เพียงด้านหลังเท่านั้น
"กูไม่รู้จัก...รู้อย่างเดียวคือน่ารักชิบหาย"
"เออ...แต่เค้ามาไหว้พี่คริสด้วยว่ะ สงสัยน่าจะคนรู้จัก"
คำตอบของเพื่อนทำให้สายตาคมเหลือบมองไปยังช่อดอกไม้สีขาวที่วางอยู่ตรงหน้าหลุมศพ
ก่อนจะหันไปมองร่างเล็กอีกครั้งที่ตอนนี้กำลังโบกแท็กซี่อยู่หน้าโบสถ์ ร่างที่เปียกปอนไปด้วยฝนผมลู่ลงจนปรกใบหน้าขาวเล็ก
ถึงอยู่ไกลแต่เขาก็เห็นมันได้ดี ถึงเมื่อกี้เขาจะไม่ทันได้สังเกตแต่ตอนนี้ คนที่เสยผมอยู่ มันทำให้เขามั่นใจมาก มั่นใจว่าไม่ผิดคนแน่นอน และมันจะผิดไม่ได้ในเมื่อหลักฐานมันฟ้องอยู่ขนาดนั้น
ใบหน้าที่เขาศึกษาจดจำมาอย่างดี.....มันจะเป็นใครได้ถ้าไม่ใช่
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
"บยอนแบคฮยอน.."
"ตื่นเต้นหรอเรา"
"ฮ่าๆ อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ เดี๋ยวไม่น่ารักนะ"
มือเเตะที่คิ้วเล็กที่ขมวดอย่างเป็นกังวลเบาๆ เพื่อให้คลายออก
"ตะ ตื่นเต้น ทำไงดีครับ"
"มีพี่อยู่ทั้งคนยังต้องกลัวอะไรอีก หืม"
ท่าทางของคนตัวเล็กทำให้ร่างสูงต้องหัวเราะออกมา ก่อนจะก้มลงไปหอมแก้มใสเบาๆอย่างหมั่นเขี้ยว แต่แทนที่อีกคนจะโวยวายกลับหันมายิ้มให้
"หืม เดี๋ยวนี้ไม่ว่าแล้วหรอ?"
แบคฮยอนที่ส่ายหน้าไปมาทำให้ร่างสูงได้ใจ มือยกมาเกาคางไปมาพลางทำท่าคิด
"งั้นก็ทำมากกว่านี้ก็ได้น่ะสิ"
พูดเสร็จก็ก้มไปหวังจะฉกชิมปากเล็กแต่โดนแบคฮยอนตีไปที่แขนซะก่อน
ป๊าบ!
"ไม่ใช่ว่าไม่ว่าแล้วจะทำอะไรก็ได้นะครับ!"
"อ่า ค้าบๆ หวงตัวจริงๆเลย"
"ไว้เข้าหอก่อนเถอะ ไม่รอดแน่"
คำพูดของร่างสูงทำให้แก้มใสทั้งสองข้างขึ้นสีก่อนจะยกมือขึ้นตีไปอีกสองสามทีเพื่อกลบความเขินอายของตัวเอง จนคนที่เห็นก็อดหัวเราะไม่ได้
ทั้งสองหยอกล้อกันอยู่นาน จนเมื่อถึงเวลาก็มีคนมาเรียกทำให้ทั้งสองร่างที่นั่งอยู่ต้องพากันเดินออกไปข้างนอก เผชิญหน้ากับผู้คนนับร้อยที่มาร่วมแสดงความยินดี
ประตูบานใหญ่เปิดออก แสงสีส้มขาวในห้องโถงขนาดใหญ่ ส่องเข้ามา ทำให้มือเล็กต้องยกเพื่อบดบังแสงแต่ไม่ทันมือหนาของอีกคนที่ยกขึ้นกันไว้ให้ก่อน แบคฮยอนหันไปยิ้มให้คนข้างกายที่มองมาไม่ต่างกัน ก่อนทั้งสองจะเดินไปข้างหน้า ตามทางเดินก็มีเสียงที่คอยปรบมือให้ตลอดทาง
เมื่อพิธีได้เริ่มอย่างสมบูรณ์บาทหลวงตรงหน้าก็เริ่มทำหน้าที่โดยทันทีเพื่อให้คำมั่นสัญญาแก่ทั้งสองฝ่าย
"อู๋อี้ฟาน คุณจะรับบยอนแบคฮยอนเป็นภรรยาของคุณไหม คุณสัญญาว่าจะซื่อสัตย์ต่อเธอ ทั้งในยามสุขและยามยาก ในยามไข้และสบายดี จะรักเธอและให้เกียติเธอชั่วชีวิตของคุณหรือไม่"
"ครับ"
คริสตอบอย่างยิ้มๆ เหล่มองคนตัวเล็กที่แก้มใสขึ้นสีเป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ของวัน
"บยอนแบคฮยอน คุณจะรับอู๋อี้ฟานเป็นสามีของคุณไหม คุณสัญญาว่าจะซื่อสัตย์ต่อเขา ทั้งในยามสุขและยามยาก ในยามไข้และสบายดี จะรักเขาและให้เกียติเขาชั่วชีวิตของคุณหรือไม่"
"คะ ครับ"
"งั้นจงดื่มน้ำชาเพื่อเป็นสักขีพยาน ของพวกคุณสองคน ว่าไม่ว่ายังไงจะไม่มีวันทิ้งกัน"
สิ้นสุดเสียง คริสจึงรับน้ำชามาไว้ในมือก่อนจะดื่มและไม่ลืมยื่นให้แบคฮยอนดื่มด้วย แก้วน้ำชาถูกวางไว้บนถาดก่อนเสียงรอบข้างจะพร้อมใจกันเอ่ยขึ้น
"จูบเลย จูบเลย จูบเลย!!"
"จูบเลย!!!"
"ว่าไงครับ"
คริสมองหน้าแบคฮยอนเพื่อเป็นการขออนุญาติและก็ต้องแอบขำเมื่ออีกคนก้มหน้างุด
"เฮ้ออ ทำไงดีล่ะครับเหมือนเจ้าสาวของผมดูจะขี้อายอะ"
"โหหห ขนาดนี้ไม่ต้องขี้อายแล้วค่า~"
"ใช่ค่ะ จูบเลย จูบเลย จูบเลย!!"
เสียงหญิงสาวคนนึงในงานตะโกนขึ้นมาบนเวที ก่อนเสียงรอบข้างจะดังขึ้นอีกครั้ง นี่สินะที่เค้าเรียกว่าอุปทานหมู่น่ะ
"ฮะๆๆๆ งั้นเอาแค่นี้ไปก่อนเนอะ"
เมื่อเห็นว่าแบคฮยอนทำหน้าตาเลิกลั่กคริสจึงตัดสินใจก้มลงไปจูบที่หน้าผากเล็กเบาๆเพื่อไม่ให้คนตัวเล็กตื่นตระหนกไปมากกว่านี้ ก่อนจะสวมกอดร่างน้อยพร้อมกับกระซิบข้างหู
"ถ้าพี่จูบตอนนี้คงจะอดใจไม่ไหวแน่ๆ"
เสียงโฮดังขึ้นอย่างผิดหวังแต่ก็ยังมีคนที่เฮให้กับความน่ารักอยู่ด้วย ทั้งคู่กอดกันนานจนพิธีกรในงานเริ่มจะเอ่ยแซว
"ใจเย็นๆนะค้าบเดี๋ยวก็จะส่งตัวเข้าหอแล้ว ตอนนี้เรามาตัดเค้กกันก่อนดีกว่าไหมครับ แอบได้ยินเสียงกระซิบจากแขกผู้มีเกรียติทั้งหลายว่ารอกันนานแล้วใช่ไหมครับ! ฮ่าๆๆ"
"รออีกนิดได้ไหมครับ ผมยังอยากกอดว่าที่ภรรยาผมอยู่เลย"
คริสแสร้งทำหน้าเศร้า ผู้คนที่อยู่ด้านล่างจึงต้องอ่อนระทวยให้กับร่างสูง ถึงแม้จะมีว่าที่ภรรยาเป็นตัวเป็นตนแต่ก็ไม่ได้ทำให้ความฮอตของคนตัวสูงลดลงแม้แต่น้อย
"กะ กอดเลยค่าา ตามสบายพวกเรารอได้ เนอะคุณพิธีกร"
"ฮ่าๆๆ ถ้าอย่างนั้นก็ตามสบายเลยค้าบ"
คริสยิ้มกว้างก่อนจะสวมกอดแบคฮยอนอีกครั้ง ไม่ลืมที่จะฉกหอมแก้มเล็กไปด้วย จนแบคฮยอนที่เขินแล้วก็ต้องเขินไปอีก แต่ก็อดยิ้มให้กับการกระทำร่างสูงตรงหน้าไม่ได้
"สนใจแขกก่อนไหมครับ ผมเขินหมดแล้วนะ"
"ก็พี่อยากกอดแบคนานๆ"
"พี่คริสอะ ไว้เดี๋ยวค่อยกอดก็ได้ครับ"
"ตอนไหนล่ะ"
"กะ ก็ตอนเข้าหอไงครับ"
ฟอดดด
"โอเคครับทุกคน ผมกอดจนพอใจแล้วมาเริ่มตัดเค้กกันเลยครับ"
คริสหันไปมองพิธีกร เพื่อบ่งบอกว่าพร้อมในพิธีต่อไป จนแบคฮยอนต้องทำหน้ายู่อย่างหมั่นไส้ให้กับความเจ้าเล่ห์ของคริส
"ในที่สุดเวลานี้ก็มาถึงนะครับ เชิญคู่บ่าวสาวมาด้านนี้ด้วยครับ"
เสียงเฮดังไปทั่วบริเวณเมื่อสองมือประสานกันแล้วตัดไปยังเค้กก้อนใหญ่ที่อยู่ตรงหน้า ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มของทั้งสองทำให้ผู้เป็นพ่อและแม่ต่างภูมิใจไปด้วย
แต่ในขณะที่กำลังยิ้มแย้มหัวเราะกันอย่างมีความสุขนั้นเสียงบางอย่างก็ดังแทรกขึ้น พร้อมกับร่างของใครบางคนที่ล้มลง
ปัง!!!! ปังปัง!!
"กรี้ดดดดดดด!!!!"
เสียงกรี้ดดังสนั่น ผู้คนเริ่มแตกตื่น มือที่ประสานกันหลุดออกโดยไม่ได้ตั้งตัว คนที่ได้สติรีบหันไปมองข้างกาย ตาเรียวเบิกกว้างเข่าทั้งสองทรุดลง ก่อนจะค่อยๆเอื้อมมือไปลูบใบหน้าคนเป็นที่รักอย่างตกใจ
"พะ พี่คริส!!!!!"
"พี่คริส ดะโดนยิง"
ตึกตึกตึก
"แบคฮยอน เป็นไรไหม"
"พะ พี่คริส"
"คริส!!!!!"
ชายวัยกลางคนวิ่งเข้ามามองไปยังร่างเล็กของลูกสะใภ้ก่อนจะมองไปยังร่างลูกชาย ของเหลวที่แดงสดไหลออกมาเปื้อนท้วมสูทสีขาวทำให้คนเป็นพ่อเริ่มใจไม่ดี
"เรียกรถพยาบาลเร็ว!!!"
"และลากคอไอ้คนทำมาให้ฉันเดี๋ยวนี้!!! ไป!"
"ครับ!"
"อดทนไว้นะตาคริส เดี๋ยวรถพยาบาลก็มาแล้วนะ"
ชายสี่คนน้อมรับคำสั่ง ก่อนที่หญิงสาวคนข้างๆจะลูบหัวแบคฮยอนเป็นการปลอบ ใบหน้าคมที่เริ่มจะซีดลงอย่างเห็นได้ชัดค่อยๆหันมามองคนที่ตัวเองรักช้าๆ แบคฮยอนที่เห็นคริสกำลังพยายามยกมือขึ้นก็รีบเข้าไปกอบกุมกำมือหนาทันที
"บะ แบค..."
"พี่คริส ฮึกก!!!!"
"ยะ..อย่า ร้อง..."
"เดี่ยว...ไม่น่ารัก...นะ"
คริสฝืนยิ้ม มือก็กุมบาดแผลตรงที่ถูกยิงไปด้วย แบคฮยอนได้แต่ร้องไห้ ส่ายหน้าไปมา มองคนรักด้วยสายตาหวาดกลัว กลัวจะเสียคนตรงหน้าไป
"พี่คริสทำใจดีๆไว้นะครับ แบคอยู่ตรงนี้นะ...พี่คริส"
น้ำตาหยดลงแล้วหยดเล่า เวลาผ่านไปไม่นานแต่ทำไมตอนนี้มันกลับรู้สึกว่ามันนานซะเหลือเกิน เมื่อไหร่ เมื่อไหร่รถพยาบาลจะมาซะที
"บะ แบค..."
เสียงเรียกของคริสอยู่ทำให้คนที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ข้างๆต้องช้อนตาขึ้นมอง แววตาวูบไหวของคริสทำให้แบคฮยอนอยากจะร้องไห้ออกมามากกว่าเดิม
"ดูซิ...คน น่ารัก ของพี่"
"ทำไม...ต้อง มาร้อง อึก..ไห้ด้วยนะ"
"ฮือออ พี่คริส ไม่เอาแบบนี้ เดี๋ยวรถจะมาแล้วนะครับ รออีกหน่อยนะ ฮืออ"
"บะ แบค"
"พี่รัก..."
"....."
"แบค...นะ"
"อึก!"
ตุ้บ!
ว่าเสร็จมือหนาที่เคยกอบกุมก็ล่วงหล่นลงกับพื้นทำให้คนที่มองอยู่ต้องใจสลายทันทีอย่างไม่ทันตั้งตัว ดวงตาเบิกกว้างมองดูสภาพคนรักที่เปรอะไปด้วยเลือดก่อนจะก้มลงไปกอดอีกคนไว้แน่น
"ดะ เดี๋ยวพี่คริส!!"
"พี่คริส!!!!!! อย่าทำแบบนี้ ฮือออ"
"อย่าทิ้ง...ฮึกฮือออออ"
"อย่าทิ้งแบคไป"
"ม่ายย!!!! ฮืออ พี่คริส!!"
"ม่ายยยย!!!"
'พี่รักแบคนะครับ'
เฮือกกกกกก!!!!
"แฮ่กก แฮ่กก"
ดวงตาเรียวเบิกโพลง ฝันร้ายที่ยังคอยวนเวียน ภาพของคนรักไม่เคยจะลืมเลือนหายไปจากความทรงจำ ตั้งแต่เกิดเรื่องนี่ก็ผ่านมาสามปีเต็มๆ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ทำอะไร เขาก็ยังลืมเรื่องราวนี้ไปไม่ได้ เขาสูญเสียคนรัก สูญเสียคนเดียวในชีวิตที่เหลืออยู่ไป สายตาที่เหม่อลอย เบนไปมองช่อดอกไม้สีขาวในมือ ทำให้นึกขึ้นได้ว่าวันนี้เขาตั้งใจจะมาหาคริสที่สุสาน แต่พอมาถึงก็ดันคิดถึงเรื่องต่างๆนาๆจนหลับไปตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้
คิดได้ดังนั้น ร่างเล็กจึงลุกขึ้นยืน เดินออกจากศาลาตรงไปยังหลุมที่วางเรียงรายไว้อย่างสวยงามแต่มันไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าชื่นชมของทุกคนที่มาที่นี่เท่าไหร่นัก
ไม่นานร่างเล็กก็หยุดลงตรงหลุมที่มีชื่อของคนที่เขาคุ้นเคยสลักอยู่ แบคฮยอนค่อยๆหย่อนตัวลง มือเล็กลูบไปยังหินอย่างอาลัยอาวรณ์ ไม่ว่าจะผ่านมานานเท่าไหร่ เขาไม่เคยทำใจได้มันจะเป็นดังเช่นทุกครั้งเมื่อได้มองชื่อของคนรักที่ลาจากโลกนี้ไปแล้ว น้ำตาที่เอ่อคลออยู่ไหลลงตามกรอบหน้า ลมที่พัดมาแผ่วๆต้องทำให้แบคฮยอนหลับตาลงเพื่อข่มความอ่อนแอไว้ข้างใน สายลมที่เขามักจะคิดว่าเป็นคริสเสมอ มันช่วยเยียวยาเมื่อได้มาอยู่ที่นี่
"แบคคิดถึง...คิดถึงพี่มากเลยนะครับ"
"พี่คริส"
แบคฮยอนจัดการวางดอกไม้ช่อสวยที่เจ้าตัวเป็นคนจัดเองลงจัดเรียงให้สวยงามเพราะเขาอยากให้มันดูดีทุกครั้งเมื่อวางไว้ตรงนี้
"แต่พี่ไม่ต้องห่วงนะ แบคอยู่ได้ สบายมาก"
"แล้วพี่คริสล่ะครับ สบายดีไหม"
"ตอนนี้พี่คงได้ไปเจอพ่อกับแม่แบคบนสวรรค์นั่นแล้วแน่ๆ...."
"แบคคิดถึงทุกคนจัง"
แบคฮยอนเงยหน้ามองบนฟ้าที่ตอนนี้เริ่มจะครึ้มๆ และอีกไม่นานฝนน่าจะตกโปรยปรายลงมา มือบางปาดน้ำตาออกก่อนจะยิ้มขึ้นน้อยๆ ยังไงชีวิตนี้เขาต้องอยู่ต่อเพื่อคนที่เขารัก ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม...
"วันนี้ครบรอบสามปี คิดไปคิดมาก็นานอยู่นะที่แบคจะได้มาอีก แต่ยังไงทุกคนก็อยู่ในใจแบคตลอด ไม่น้อยใจนะครับ ฮ่ะๆ"
แบคฮยอนฝืนหัวเราะ ทั้งๆที่ในใจไม่ได้อยากหัวเราะเลยแม้แต่น้อย ใบหน้าเล็กก้มลงมือก็เอื้อมไปลูบหินอีกครั้งอย่างแผ่วเบา
ไม่รู้นานเท่าไหร่จนฝนเม็ดเล็กเริ่มทะยอยตกลงมาแต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้แบคฮยอนมีท่าทีว่าจะลุกไปไหนและยังคงนั่งอยู่ตรงนั้นเหมือนเดิม เพราะวันนี้ครบรอบสามปี เขาก็อยากจะอยู่ตรงนี้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ไม่ว่าฝนจะตกลงมาหนักแค่ไหนก็ตาม
เสียงเรียกของคนที่ผ่านไปมาทำให้แบคฮยอนรู้สึกตัว เงยหน้าขึ้นมองคนที่เอาร่มยื่นมาบังไว้ให้อย่างใจดี
"นั่งตรงนี้เดี๋ยวก็ไม่สบายเอานะครับ"
"ขะขอบคุณนะครับ"
"แต่เดี๋ยวผมจะกลับแล้ว"
"ให้ผมไปส่งไหมครับ ดูเหมือนว่าคุณจะไม่ได้เอาร่มมาด้วย"
"มะ ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณอีกครั้งนะครับ ผมขอตัวก่อน"
แบคฮยอนก้มหัวให้อย่างสุภาพก่อนจะยกแขนขึ้นมาบดบังฝนที่สาดลงมาและเดินออกไป
"เอ้า...ไปซะละ"
"ยังไม่ทันได้รู้จักกันเลย" คนถือร่มพึมพำกับตัวเอง
"ใครวะ" มองร่างเล็กของใครบางคนที่กำลังวิ่งผ่านสายฝนออกไปหน้าโบสถ์อย่างสงสัย จำได้ว่าน่าจะเป็นคนเดียวกับคนที่เขาเดินผ่านเข้ามาเมื่อกี้ แต่ไม่ทันได้สังเกตรวมถึงตอนนี้ที่มองเห็นแต่เพียงด้านหลังเท่านั้น
"กูไม่รู้จัก...รู้อย่างเดียวคือน่ารักชิบหาย"
"เออ...แต่เค้ามาไหว้พี่คริสด้วยว่ะ สงสัยน่าจะคนรู้จัก"
คำตอบของเพื่อนทำให้สายตาคมเหลือบมองไปยังช่อดอกไม้สีขาวที่วางอยู่ตรงหน้าหลุมศพ
ก่อนจะหันไปมองร่างเล็กอีกครั้งที่ตอนนี้กำลังโบกแท็กซี่อยู่หน้าโบสถ์ ร่างที่เปียกปอนไปด้วยฝนผมลู่ลงจนปรกใบหน้าขาวเล็ก
ถึงอยู่ไกลแต่เขาก็เห็นมันได้ดี ถึงเมื่อกี้เขาจะไม่ทันได้สังเกตแต่ตอนนี้ คนที่เสยผมอยู่ มันทำให้เขามั่นใจมาก มั่นใจว่าไม่ผิดคนแน่นอน และมันจะผิดไม่ได้ในเมื่อหลักฐานมันฟ้องอยู่ขนาดนั้น
ใบหน้าที่เขาศึกษาจดจำมาอย่างดี.....มันจะเป็นใครได้ถ้าไม่ใช่
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
"บยอนแบคฮยอน.."
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น