ตอนที่ 23 : Lovely you : เธอน่ารัก ตอนยี่สิบสาม
คนอย่างโชรงคงจำแต่คงไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ แบคฮยอนคาดว่าหลังจากโดนขู่จนหน้าเขียวกลางลมฝนแล้วผู้หญิงคนนั้นต้องยิ่งเจ็บแค้นใจหนักกว่าเก่า ถึงอย่างนั้นก็คงฉลาดพอจะรู้ว่าสู้ทางไหนได้ไม่ได้และควรสู้อย่างไรไม่ให้ตัวเองบอบช้ำมากกว่าที่เป็นอยู่ คุณหนูสะสางกับคู่แข่งเรียบร้อยแล้วก็ไม่เท้าความถึงเรื่องเก่าให้อีกฝ่ายอับอายอีก แม้จะยังรับรู้ถึงออร่าความเป็นศัตรูจากฝ่ายตรงข้ามแบคฮยอนก็มองผ่านเสีย ถ้าไม่ล่วงล้ำก้ำเกินให้โกรธอีกก็จะปล่อยไว้เอาบุญละกัน
“ได้หรือยัง? จะครบชั่วโมงแล้วนะ” คนตัวเล็กวางของในมือลงที่เดิม ใบหน้ามุ่ย
“จะเร่งทำไม มันไม่มีที่ถูกใจเลยนายก็เห็น ดีไซน์เหมือน ๆ กันหมด ดูสิ ลายแบบนี้ก็อปขายตามตลาดนัดกันเกลื่อน ไม่เอาอ่ะ ซื้อของขวัญให้แฟนทั้งทีจะเอาของเหมือนคนอื่นได้ยังไง”
“แล้วจะเอายังไง นั่นก็ไม่สวย นี่ก็ไม่ทันสมัย โน่นก็มีคนใช้เยอะ ตกลงวันนี้ทั้งวันจะเลือกได้สักใบไหมครับคุณพี่” คนเป็นพี่ทำปากอูด มองไปทั่วร้านก็จะถอนใจเฮือกใหญ่ บอกเอาดื้อ ๆ
“ไม่ซื้อละ” จงอินหน้าเหวอ
“อ้าว ไหงงั้นล่ะ เข้าร้านนั้นออกร้านนี้มาเกือบครึ่งวันสุดท้ายบอกไม่ซื้อ”
“ไม่ซื้อ สั่งทำเลยดีกว่า”
“สั่งทำ! หมวกกันน็อคใบเดียวเนี่ยนะ” ดวงตาเรียวชำเลืองมองตอบ ปลายคางมนเชิดขึ้นประกาศความเอาแต่ใจขั้นสูงสุด
“ทำไม? ไม่ได้หรือไง?” ไอ้ได้น่ะมันได้ เงินหนาระดับคุณแบคฮยอนจะสั่งมาจากเมืองนอกแบบประดับเพชรทั้งใบแถมห้อยตุ้งติ้งเป็นสิบก็ยังไหว แต่ทำไมไม่ตัดสินใจให้เร็วกว่านี้ จงอินจะได้ไม่ถูกลากออกจากเตียงตั้งแต่เก้าโมงเช้า
“แล้วจะสั่งจากไหน”
“อเมริกา หาข้อมูลเอาไว้แล้ว”
“ถ้าเป็นงั้นแบคฮยอนก็สั่งไปเลยสิ จะมาเดินให้เสียเวลาทำไม”
“ใครว่าเสียเวลา เค้าเรียกมาหาข้อมูลต่างหาก ฉันต้องการไอเดียสำหรับการดีไซน์หมวกกันน็อคสุดพิเศษใบเดียวในโลก จะให้ของคุณแฟนทั้งทีทำเล่น ๆ ได้ไง มันต้องทุ่มเทต้องลงทุนแล้วก็ต้องทำด้วยใจ”
“แต่ไอ้ชานยอลมันไม่ใช่แฟนผม ทำไมผมต้องตะลอน ๆ ไปทั่วเมืองเพื่อเลือกของขวัญให้มันด้วย” แบคฮยอนทำเสียงครื่อ ๆ ในคอ สอดแขนคล้องแขนน้องชายโดยไม่ลืมวางใบหน้าซบไปด้วย “น่า เห็นแก่ความรักของพี่ มาเป็นเพื่อนแค่นี้ก็อย่าบ่นเลย ถ้านายไม่มาด้วยใครจะช่วยออกความเห็นเล่า”
“พี่อี้ชิงไง”
“คนนั้นเค้ายุ่งกับครอบครัว เป็นจงอินน่ะดีที่สุดแล้ว อีกหน่อยนายมีแฟนพี่จะเป็นที่ปรึกษาให้ฟรี ๆ เลย ไปเป็นเพื่อนซื้อของขวัญให้แฟนด้วยก็ยังได้” ถ้าชานยอลยอมให้คุณแบคฮยอนไปนะ แต่ว่าคนหน้าหล่อดวงตาคมอย่างนั้นเค้าว่าขี้หวงตัวฉกาจล่ะ บางทีคุณแฟนอาจจะไม่อยากให้แบคฮยอนห่างตาไปไหนเลยก็ได้
โฮ้ยยยยยย มีความสุข >///////////<
“ผมยังไม่อยากมีแฟน” จงอินมองแล้วก็เมิน แบคฮยอนชอบคิดว่าตัวเองน่ารักตอนทำหน้าตาแบ๊วใสไร้พิษสงซึ่งมันก็...น่ารักจริง ๆ นั่นแหละ
“พูดเหมือนเพื่อนนายอีกคนแล้วนะ ไม่อยากมีแฟน ไม่อยากมีแฟน พี่จะรอดูหน้าคุณชายคิมตอนเวิ่นเว้อเพราะไปตกหลุมรักใครสักคนเข้า ใครจะเป็นผู้โชคดีคนนั้นน้อออออ”
“อย่ารอเลย มันยังไม่มาถึงง่าย ๆ หรอก”
“ใครจะไปรู้ เรื่องความรักเรากะเกณฑ์ได้ที่ไหน อยู่อย่างพี่สิ หงุดหงิดแทบแย่ตอนโดนนายโทรปลุกให้ไปเอารายงานให้ ไม่รู้ตัวเลยว่าจะโดนความรักพุ่งเข้าชนในเช้าวันเดียวกันนั้น บนดาวเคราะห์สีน้ำเงินดแห่งนี้อะไร ๆ ก็เกิดขึ้นได้” จงอินถอนหายใจอย่างไม่ซ่อนเร้น สำหรับแบคฮยอนนั่นคือรักแรกพบ สำหรับจงอินนั่นคือตราบาปในใจ ทุกวันนี้เขายังรู้สึกผิดกับเพื่อนรักไม่หายที่เป็นเหตุให้มันตกเป็นเป้าหมายของคุณหนูตัวร้าย
“ทำหน้าดี ๆ หน่อยสิ เดี๋ยวคนเค้าก็คิดว่าพี่บังคับนายมาเดินคู่กันหรอก”
“ก็มันจริง” คนเป็นพี่ทำเสียงหื่อ ๆ บอกให้รู้ว่าขัดใจ หากจงอินดูออกว่าอีกฝ่ายกำลังอารมณ์ดีเกินกว่าจะถือโทษจึงเล่นไม้แข็งบ้าง ชายหนุ่มดันประตูร้านแล้วก็เดินออกไปโดยมีพี่ชายตัวขาวเกาะแขนห้อยติดไม่ห่าง แบคฮยอนมองเสี้ยวหน้าคมหวานแล้วก็หัวเราะออกมาอย่างอดไม่อยู่
“นายนี่นะ ถ้ามีแฟนคงงอนแฟนวันละร้อยรอบ”
“ขอโทษนะที่ผมยังไม่มีแฟนเลยไม่รู้ว่าพี่พูดถูกหรือเปล่า”
“ถึงไม่มีก็รู้ ขนาดอยู่กับพี่นายยังเป็นเลย รู้ตัวหรือเปล่าว่าพักหลังมานี่นายทั้งงอน ทั้งเหวี่ยง ทั้งบึ้งตึง สารพัดอ่ะ นั่น ๆ ๆ ค้อนอีกแล้ว ไม่น่ารักเอาซะเลย”
“ก็ไม่ได้รักอยู่แล้วนี่”
“โห งอนเต็มขั้นเลยแฮะ”
“ไม่ได้งอน ผมรู้ตัวดีว่าหน้าไม่หล่อ ตาไม่หวาน บ้านไม่จนอย่างใคร ไอ้เรื่องจะให้คุณแบคฮยอนมารักคงเป็นไปไม่ได้หรอก”
“โอ๋วววววว...” แบคฮยอนร้องปลอบพลางโน้มคอคนตัวโตกว่าลงมาหา จมูกโด่งเล็กกดเน้น ๆ ลงบนแก้มตอบ(พักหลังเจ้าน้องชายผอมลงจนแก้มอูม ๆ ไม่เหลือแล้ว) เป็นการง้อบวกเอาใจอย่างหาได้ยาก แน่นอนสิ ปกติแบคฮยอนไม่ค่อยง้อใครและจงอินก็ไม่ค่อยจะเคืองจนเมินหน้าหนีอย่างตอนนี้ นานทีน้องชายตัวดีถึงจะมีอาการรวนและนานทีแบคฮยอนจะยอมให้บ้างก็ไม่ใช่เรื่องเกินจะทำ
หอมแก้มไปหนึ่งทียังไม่หายก็จัดไปอีกที ย้ำ ๆ
“น่า เดี๋ยวพาไปชอปปิ้งทั้งวันที่เหลือเลย ดีไหม”
“ผมมีนัดตอนเย็นแล้ว”
“ครึ่งบ่ายก็ได้ เลี้ยงข้าวด้วยอ่ะ” จงอินยังไม่เปลี่ยนสีหน้า ชายหนุ่มหยิบแว่นกันแดดขึ้นมาสวม เอ่ยเสียงเข้ม
“ผมเลือกร้านนะ” คุณแบคฮยอนบิดปากใส่หากก็ยอมให้น้องชายโอบไหล่เดินไปพร้อมเสียงหัวเราะสดใส
คุณชายคิมจงอินขับรถคันงามหายไปพร้อมคุณหนูบยอน ลานแคบ ๆ หน้าร้านขายอุปกรณ์ตกแต่งรถจึงเหลือเพียงแสงแดดจ้ายามเที่ยง ตะวันดวงโตลอยสูงเหนือศีรษะ อุณหภูมิสูง กระไอแดดเร่งร้อนอบอ้าวเพราะไม่มีสายฝนช่วยบรรเทาดังทุกที
ห่างจากจุดที่จงอินจอดรถไว้ไม่ไกลนัก ร่างสูงยืนอยู่ข้างรถมอเตอร์ไซค์คู่กาย หน่วยตาดำกว้างไหวระริกล้อรับแสงกระทบ พวงกุญแจที่เคยเก็บรักษาอย่างดีหล่นอยู่บนพื้น
ทุกอย่าง หลุดร่วงไปพร้อมกัน
วันอาทิตย์อันแสนสดใสเวียนมาถึงอีกครั้ง
คุณชายคิมตื่นขึ้นมาบนเตียงที่เริ่มจะคุ้นเคยเมื่อเวลาล่วงเข้าสู่ยามบ่ายของวัน ชายหนุ่มจำใจบอกลาเจ้าของห้องก่อนจะขับรถตรงดิ่งไปยังบ้านหลังใหญ่ มีเวลาจิบกาแฟให้บิดามารดาชื่นใจไม่นาน หนึ่งในเพื่อนสนิทก็โทรตามตัวด้วยข้ออ้างที่ว่า ‘แฟนกูไม่อยู่ออกมาหาอะไรแดกเป็นเพื่อนหน่อย’
ให้มันได้อย่างนี้สิ เดี๋ยวพี่ เดี๋ยวเพื่อน นี่มันชีวิตกูหรือชีวิตใครวะ!
ภารกิจเพื่อโลกของจงอินยังไม่หมดแค่ต้องออกไปกินข้าวกับมัน โอเซฮุนยังหวังดีลากเพื่อนซี้ยาวมาถึงร้านดอกไม้ของคิมจุนมยอน ชายหนุ่มทั้งเพลียทั้งมึนเลยได้แต่เดินตามเซฮุนผ่านประตูเข้าไปอย่างเนือย ๆ เจอหน้าเจ้าของร้านก็พยักหน้าให้เนือย ๆ พอหันไปเจอไอ้ผู้ช่วยหน้าหล่อปรากฏว่ารายนี้เนือยกว่าจงอินเป็นดับเบิ้ล หนักไปถึงขั้นเหม่อลอยเสียด้วยซ้ำ ยังดีที่ชานยอลยังแสดงอาการรับรู้เมื่อหันมาสบตากัน
“เฮ้ย นั่นคนหรือซากวะ แกไปขุดมันมาจากหลุมไหนเซฮุน” จุนมยอนร้องทัก ชายหนุ่มใช้ภาษากันเองได้เต็มปากเพราะตอนนั้นไม่มีลูกค้าในร้าน
“ขุดมาจากบ้านมันนั่นแหละพี่”
“แล้วทำไมมันซีดแบบนั้น เป็นอะไรหรือเปล่า”
“ก็จะอะไรรรรรร กลับบ้านบ่ายสอง จะอะไรเสียอีกกกกกกก นี่ยังดีนะ ผมพาไปแดกข้าวแดกน้ำมาแล้ว ถ้าพี่ได้เห็นสภาพก่อนมันได้ซดไข่ลวกกับกาแฟดำจะยิ่งตกใจ”
“เป็นอะไรมากเปล่าจงอิน ฤดูติดสัดหรือวะ จัดหนักเกินกำลังสุขภาพจะแย่นะโว้ย”
“ก็บอกมันมาตลอดทางแหละ มีของดีอย่างเดียวไม่ได้ก็ต้องรู้จักใช้ด้วย หักโหมไม่คิดหน้าคิดหลังจะเสื่อมก่อนวัยอันควร” จงอินจิ๊ปาก ไม่ค่อยสนใจการแสดงความห่วงใยแบบแฝงนัยยะประชดประชันจากผู้หวังดีเท่าใดนัก ดวงตาคมเข้มลอบชำเลืองมองเพื่อนหน้าหล่ออีกครั้ง ไอ้ชานมันทำท่าเหมือนสนใจแต่งานตรงหน้าแต่หลายจังหวะที่ดวงตาดำจัดตวัดมาทางเขา จงอินหนาวหลังคอพิลึก สงสัยจะหักโหมอย่างที่เซฮุนมันค่อนจริง ๆ
“กูก็ทำเหมือนปกติเพียงแต่เมื่อวานมันหลายเรื่องหลายอย่างเลยเพลียสะสม”
“ทำอะไรบ้างวะ”
“ไม่ได้ทำไรแค่พาไปกินข้าวแล้วก็ดูหนัง”
“ดูบนเตียง” เซฮุนเสริมอย่างผู้รู้จริง จงอินก็ขี้เกียจแย้ง มันซักเขามารอบหนึ่งแล้วปล่อยมันแถลงการณ์ร่วมกับสองคนที่เหลือเองละกัน
“เด็กใหม่คนนี้ท่าจะแน่จริงทำคุณชายคิมคางเหลืองได้” จุนมยอนแซวขำ ๆ และเซฮุนอีกเช่นเคยที่ดำเนินรายการต่อ “ไม่ใช่เด็กหรอก โตพอใช้งานได้แล้ว ใช่ไหมไอ้คุณชาย”
“พอเถอะน่า พูดมากอีกฝ่ายเค้าจะเสียหาย”
“คนนี้มึงจริงจังกับเค้าหรือ?” จงอินเลิกคิ้ว เปิดตามองชานยอลเพื่อย้ำความมั่นใจว่าไม่ได้หูฝาด พอคิดจะร่วมวงสนทนามันก็แทรกคำถามได้เป็นเรื่องเป็นราวสุด ๆ นะไอ้นี่ ชายหนุ่มมองตอบประกายจริงจังในหน่วยตาคู่คมแล้วก็เสเบือนไปหาดอกกุหลาบช่อโต คิดถึงดวงตากลมโตกับรอยยิ้มเต็มแก้มของใครบางคนแล้วก็ตอบได้ไม่เต็มเสียงนัก
“ก็ ดู ๆ กันอยู่ ยังไม่มีอะไรแน่นอนหรอก”
“กูถามมันตั้งแต่บ่ายสามแล้วว่าลูกสาวบ้านไหน แม่งไม่ยอมคาย หวงแม้กระทั่งชื่อแซ่กับเพื่อนแบบนี้ แสดงว่าเล็งไว้เป็นตัวจริงแน่นอน”
“เออ ถึงเวลาพวกมึงก็รู้เองแหละ ซักมาก กูเวียนหัวเดี๋ยวจะพาลอ๊อกใส่เฟอรากาโม่มึงเข้าให้ พอแล้วนะ ห้ามใครถามอีก กูเวียนหัว...อุ่ก!...” วงล้อมแตกฮือออกไปคนละทิศเมื่อคุณชายคิมทำท่าจะสำแดงอาการอย่างที่ว่าจริง จุนมยอนเบี่ยงตัวหลบหลีกทางให้คนเมาค้างวิ่งเข้าไปทางหลังร้าน เสียงคุณชายท่านคายของเก่าออกจากกระเพาะดังมาถึงด้านหน้า โชคดีหนักหนาที่ยังไม่มีลูกค้าในตอนนั้น
“มันเป็นเอามากนะ ทั้งเหล้าทั้งเด็ก สงสัยเมื่อคืนจะหนักจริง”
“ก็ผมบอกแล้วเมื่อคืนมันดูหนังบนเตียง”
“แกไม่รู้จริง ๆ หรือว่าใคร” เซฮุนไหวไหล่ จนปัญญา ช่วงนี้เขาเองก็ผูกตัวเองติดกับแฟนแทบตลอดเวลา ค่อนข้างจะห่างเหินกับเพื่อนไปพอสมควร รู้แค่ว่าจงอินใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่คณะบ้าง อยู่กับพี่ชายตัวแสบบ้าง บางทีก็นัดเดทสาวตามประสาคุณชายรูปหล่อพ่อรวยเวอร์อย่างมัน ไม่เคยได้ข่าวว่ามันซุกเด็กซ่อนไว้
“ไม่รู้อ่ะ แม่งปิดเงียบ ผมว่าชักจะยังไงอยู่ ที่ผ่านมามันควงใครก็ควงเปิดเผย ไม่เคยปิดบัง รายนี้ซุ่มไปแดกซะเงียบเชียบไม่ยอมบอกกล่าวเพื่อนฝูง มันต้องจริงจังมากแน่ ๆ” จุนมยอนเบียดเข้าไปนั่งใกล้เจ้ากรมข่าว กระซิบถามลุ้น ๆ น้องจะมีแฟนเป็นตัวเป็นตนใครจะไม่ลุ้น
“ทำไมมั่นใจอย่างนั้นวะ”
“โธ่พี่ ผมโตมากับมันทำไมจะไม่รู้ ตั้งแต่เด็กแล้วล่ะไอ้ดำเนี่ย ของชิ้นไหนที่รักมากมันจะเก็บซ่อนไว้เล่นคนเดียว ไม่บอกใคร บางทียอมแค่ให้เห็นแต่แตะของมันไม่ได้ ไอ้นี่มันขี้หวง โตมาก็ไม่เปลี่ยนหรอก เชื่อผม” โอเซฮุนกระดิกนิ้วไปมา ท่าทางอมภูมิเหนือใครในโลก จุนมยอนสนุกกับการค้นหาความลับของคิมจงอินแต่คนฟังอีกคนกลับอยากไปให้พ้นจากตรงนั้น
ยิ่งได้ฟังหัวใจยิ่งเบาหวิวเหมือนไร้มวลสารกระนั้นความรู้สึกทรมานกลับสามารถครอบงำมันได้ ชานยอลปิดปากเงียบ กำหนดสมาธิอยู่เพียงงานที่ต้องรับผิดชอบ ใบไม้เน่าเสียถูกลิดทิ้งจนล้นตะกร้า บางส่วนปลิวระเกะระกะเหนือรองเท้าผ้าใบคู่ใหญ่ เจ้าของดวงตาคมทอดมองดอกไม้กลีบบางในมือก่อนจะยิ้ม กิ่งใบเน่าเสียทำให้ความสวยงามของดอกไม้ลดค่าลงได้เพียงแค่มอง พอกำจัดทิ้งเหลือไว้เพียงกิ่งใบสวยสดดอกไม้นั้นก็กลับมางดงามดังเดิม
แบคฮยอนเลิกเรียนด้วยความรื่นเริงอย่างที่สุด
หลังจากเล่าให้อี้ชิงฟังว่าสั่งร้านทำของขวัญให้สุดที่รักเรียบร้อยแล้วอี้ชิงก็ได้แต่ทำเสียงเหอะตอบกลับมาทันควัน คุณแม่ลูกหนึ่งไม่มีเวลาจิกกัดคุณแบคฮยอนอย่างที่ตั้งใจเพราะวันนี้สามีนักเขียนมารับเร็ว อี้ชิงกลับไปหลังจากขู่แบคฮยอนว่า ‘ระวังชานยอลจะรู้ว่าของขวัญนั้นเกินงบเงินเดือนไปหลายเท่าแล้วไม่ยอมรับเอาเสียดื้อ ๆ’ เด็กหนุ่มร้องเหอะบ้าง ไม่แคร์เพราะรู้ดีว่าอี้ชิงพูดไปเพราะอิจฉาที่คุณแบคฮยอนมีแฟนหล๊อออ หล่อนั่นแหละ
คนตัวเล็กกลับห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าสำหรับงานพิเศษอย่างมีความสุข อีกไม่เกินสามวันของที่สั่งน่าจะเสร็จ ถึงจะใช้เวลาน้อยแต่ด้วยอำนาจเงินทองทางร้านก็สามารถเนรมิตทุกอย่างตามที่เขาต้องการ วันนี้แบคฮยอนเสียเวลาอาบน้ำนานไปหน่อยเลยมาถึงช้าคุณแฟนคงเข้างานไปเรียบร้อยแล้ว เดินฮัมเพลงกำลังจะเข้าประตูก็ได้ยินเสียงคุ้นหูเข้าเสียก่อน
โอ๊ะ นั่นชานยอลนี่นา อะไรกันน่ะ วันนี้ก็มาสายเหมือนกันเหรอ คนตัวเล็กยกนาฬิกาขึ้นดูแล้วก็เข้าใจ เหลือเวลาอีกตั้งเกือบสิบนาที ไม่สายที่จะเข้างานแล้วก็ไม่สายที่จะรักกัน เอร๊ยยยยยยยยยย >//////<
“ชานยอล” ไม่ต้องบอกเลยว่าน้ำเสียงที่เรียกนั้นจะเจือความรักความหลงระดับไหน ถ้าเปรียบกับสารละลายก็ตัวที่เข้มข้นที่สุดอ่ะ
“เร็ว ๆ เข้า จะได้เวลาเริ่มงานแล้วนะ” คนหล่อหันมามองแล้วก็บอกเสียงทุ้ม
“เข้าไปก่อนเลยครับ ไม่ต้องรอ”
“ใครบอกว่าเรารอ เปล่าสักหน่อย” ชานยอลทำเหมือนไม่ได้ยินแต่ก็ได้ยิน คนตัวโตถอดหมวกคว้าเป้ได้ก็เดินผ่านแบคฮยอนเข้าไปในร้าน เด็กหนุ่มอมยิ้มแก้มตุ่ยยังรื่นรมย์ใจกับการเตรียมของขวัญให้คุณแฟน อันที่จริงคุณแบคฮยอนรื่นรมย์เพราะคิดถึงสีหน้าดีใจของชานยอลเวลาได้รับมันต่างหาก
“เสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมาทำอะไรบ้าง ห้ามตอบว่าทำงานพิเศษนะ” คนถามดักคออย่างรู้ทัน แบคฮยอนรู้ว่าชานยอลมักไปขลุกที่อู่ซ่อมรถตั้งแต่เช้าและตอนเย็นก็ไปทำงานพิเศษที่ร้านดอกไม้ต่อ เขาถามเพราะอยากรู้รายละเอียดมากกว่านั้นและปกติถ้าคุณแบคฮยอนเอียงคอยิ้มเอาใจทำตาใสอยากรู้อย่างตอนนี้ชานยอลจะต้องยิ้มตอบแต่โดยดี...แต่วันนี้มันไม่ปกติ ชานยอลไม่หันมามอง คนตัวโตจดจ่ออยู่กับการเก็บของ ผูกผ้ากันเปื้อน พอแบคฮยอนเอื้อมมือไปแตะแขนเบา ๆ ชานยอลก็ทำอาการเหมือนสะดุ้ง
“เป็นอะไร ถามก็ไม่ตอบ”
“ผม ไม่รู้จะตอบอะไร ไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากไปทำงานพิเศษสองที่เหมือนกันทั้งสองวัน” คนดีของคุณหนูตอบเสียงนุ่ม แบคฮยอนครางลึกในคอ รับรู้โดยสัญชาตญาณว่าอีกฝ่ายมีบางสิ่งผิดไปจากทุกวัน ออร่าของชานยอลเปลี่ยนไป ไม่ได้เปลี่ยนไปเป็นแบบที่ทำให้แบคฮยอนเขินได้แค่ทอดสายตามองแต่...ไม่ใช่สิ ตั้งแต่เจอกันเมื่อกี้ชานยอลแทบไม่มองมาทางเขาด้วยซ้ำ แบคฮยอนใจหวิววูบ ถึงแม้จะได้รับอารมณ์หวานละมุนมาเพียงไม่นานแต่แบคฮยอนตอกย้ำกักขังตัวเองอยู่กับความสุขที่ได้รับเสมอ พอสิ่งนั้นขาดหายไปเขาจึงรู้สึกได้ทันที
“ชานยอลไม่สบายหรือเปล่า”
“เปล่าครับ ผมสบายดี” นั่นไง เอาแต่อ่านโน้ตที่พวกกะเช้าทิ้งไว้ให้ ไม่ยอมมองหน้าเรา ทำไมชานยอลทำแบบนี้ แบคฮยอนถามคนตัวโตแต่มีเพียงตัวเองที่ได้ยินเสียง ในภาวะที่หัวใจฝืนทำงานอย่างหนักหน่วง คนตัวเล็กเกือบดึงกระดาษแผ่นนั้นออกจากมือหนา จะเอาไปเผาทิ้งเพราะถ้ามีมันอยู่ชานยอลก็จะไม่ยอมสนใจเรา!
“มึนตึงอ่ะ โกรธอะไรเรา”
ถะ ถอนใจด้วยอ่ะ T T
“เปล่าครับ แล้วคุณแบคฮยอนล่ะครับ ไปไหนมาบ้าง...” โชคดีที่ไม่ต้องทำเรื่องเอาแต่ใจ คุณหนูรีบยิ้มกว้าง ด้วยอยากเอาใจคนถามเลยตั้งท่าจะเล่าให้ฟังตั้งแต่ก้าวแรกที่ออกจากบ้านแต่สมองส่วนหนึ่งสั่งให้ชะงักก่อนกลีบปากจะงับเข้าหากัน บอกไม่ได้นะ ขืนบอกออกไปตอนยื่นกล่องของขวัญให้ชานยอลก็ไม่แปลกใจน่ะสิ ไม่ได้ ๆ เรื่องนี้ต้องเก็บเป็นความลับสุดยอด
“ก็ ไม่ได้ไปไหน อยู่บ้าน”
“อยู่บ้าน ทั้งสองวันเลยหรือครับ”
“อื้อ”
“...........”
“คือ พักนี้เราออกบ้านบ่อย ทุกวันเลยก็ว่าได้ พอมีเวลาพักเลยนอนเล่นให้เต็มที่น่ะ อยากจะแวะไปหาชานยอลที่ร้านดอกไม้เหมือนกันนะแต่กลัวจะไปเกะกะเสียเปล่า” สาบานได้ว่าไม่อยากโกหกเลยจริง ๆ แต่แบคฮยอนไม่มีทางเลือก ถ้าไม่อยากให้งานใหญ่ที่ตระเตรียมมานานนับเดือนรั่วไหล จำใจยังไงก็ต้องทำ
ขอโทษนะชานยอล เราจำเป็นจริง ๆ
“อย่างนั้นหรือครับ” ไม่มีปฏิกิริยาอื่นนอกจากการตอบรับอันแสนสุภาพ การโกหกเพื่อหวังผลในอนาคตไม่สามารถทำให้ดวงตาคมกลับมาพราวระยับยามมองคุณแบคฮยอนได้ เมื่อชายหนุ่มขอตัวไปทำงานโดยไม่เอ่ยชวนแบคฮยอนก็เหมือนไม่มีแรงจะเดินคู่ไปด้วย คนตัวเล็กได้แต่มองตามจนแผ่นหลังกว้างลับหายไปจากประตู
หลังเลิกงานคืนนั้นชานยอลบอกลาคุณแบคฮยอนด้วยการก้มศีรษะให้
ไม่มีคำพูดสักคำ
#lovelycb
บางทีพี่เขาก็ต้องทำใจ
เข้าสู่ช่วงสุดท้ายของเรื่องแล้วค่ะ จากนี้จะเป็นเรื่องของคุณหนูกับแฟนจน ๆ โดยล้วน
พร้อมเนาะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ฮ์อสงสารงะ
มันคือชีวิตจริง
ชานเอ๊ย ถ้ารุ้ความจริงจะหายโกรธรึจะยิ่งโกรธกันนะ โกรธที่เพื่อนมาหลอกถามนุ่นนี่ กับไม่โกรธเพราะรู้แล้วว่าแบคไม่ได้ชอบจงงิน แต่จะโกรธที่แบคมาเล่นละครใส่รึเปล่าน้า
ชานยอลเห็นแล้วว่าเป็นจงอินนนน
คุณแฟนของเราขี้หึง ขี้งอน ขี้มโน ละเมอเพ้อพกไปเองอีกด้วยนะะ
งื้ออออออออออออออออออออออออออ
น่ารักจังอ่ะ
อย่างอนนานเลย เดี๋ยวจะเสียช่วงเวลาดีดีที่ควรมีร่วมกัน
งื้อออออออออออออออออ
เขิลอ่ะะะ
เขิลล งอนกันเรายังเขิลลลลล
จะจบแล้วอ๋อออออออออ ยังไม่อยากให้จบเลยยยย
งื้อออออออออออ เราต้องคิดถึงคุณแบคฮยอนมากแน่ ๆ ฮิ_ฮิ