ตอนที่ 14 : Lovely you : เธอน่ารัก ตอนสิบสี่
“คุณแบคฮยอน”
“ครับ” ได้แต่รับคำอย่างเลื่อนลอยแล้วมองอีกคนก้าวเข้ามาหา
“หายแล้วจริง ๆ หรือ ทำไมถือของแค่นี้ไม่ไหว” ชานยอลติงแย่งแก้วจากมือเล็กไปวางรวมกับชิ้นอื่นในชุดเดียวกัน ทุกภาพในมโนนึกของคุณหนูถูกตัดฉับราวกับมีสวิตช์ปิด
“หายแล้ว เรา ตกใจนิดหน่อย”
“ผมขอโทษครับ ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้คุณตกใจ แค่คิดว่าจะเข้ามาช่วย” เจ้าบ้านที่ดีเค้าไม่ให้แขกต้องลำบากเรื่องต้อนรับขับสู้หรอกแต่พอคนหล่อเขามีใจห่วงหาอุตส่าห์เดินตามเข้ามาจะให้คุณหนูใจร้ายบอกปัดได้อย่างไร แบคฮยอนปล่อยแก้วให้ชานยอลรับไปตัวเองก็หันไปเปิดตู้อีกใบจะหยิบกระปุกชาออกมา คนที่ตามมายืนซ้อนด้านหลังก็ดึงไปถือเองอีก คุณหนูเม้มปากยิ้ม คลอเคลียเดินตามไม่ห่าง ปากก็ถามเสียงใส
“ชานยอลมากับคนนั้นได้ยังไง?” ชานยอลกวาดตามองคำแนะนำด้านข้าง แบคฮยอนคงไม่รู้ตัวว่าการชะโงกหน้าเข้ามาใกล้นั้นทำให้ลมหายใจอุ่นเป่ารดช่วงแขนแกร่ง ดวงตาคมยิ่งตั้งใจมองระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น ทบทวนอยู่ชั่วลมหายใจถึงได้ย้อนถาม
“ใครครับ พี่จุนมยอนหรือคุณโชรง” แบคฮยอนหยิบคุ้กกี้เข้าปาก อีกชิ้นส่งให้คนชงชา
“คุณโชรงสิ คุณจุนมยอนน่ะเรารู้ว่าชานยอลเป็นรุ่นน้องเค้าแล้วชานยอลก็ทำงานที่ร้านดอกไม้วันนี้จะมาด้วยกันก็ไม่แปลก แต่คุณโชรง ชานยอลไปเจอเค้าได้ยังไง นัดกันหรือ?”
“ไม่ได้นัดครับ”
“แล้วมาด้วยกันได้ยังไง” ชานยอลชำเลืองมอง มุมปากสีเข้มกดลึก แบคฮยอนจ้องดวงตาคมหวานด้วยความอยากรู้ จ้องนานเข้าก็ไหวตัวขึ้นมาเอง
“อ่า ขอโทษนะ เราถามเยอะเกินไปใช่ไหม”
“คุณโชรงไปหาเพื่อนแถวนั้นเลยแวะไปที่ร้านครับ”
“เหรอ” ผู้หญิงอะไรใช้มุขซ้ำ ไร้การสร้างสรรค์สุด ๆ
“คุณแบคฮยอนไม่พอใจที่ผมพาเค้ามาหรือครับ” คนตัวเล็กทำหน้าครุ่นคิดพลางปัดเศษคุ้กกี้ออกจากมือ “ก็ไม่เชิง แต่เราไม่ค่อยสนิทใจกับเค้า คือมันยังติดใจเรื่องที่เค้ากระโจนเข้าหาวันนั้นน่ะ ไม่รู้สิ ถ้าตรงนั้นมีกล้องวงจรปิดเราก็อยากไปขอดูภาพย้อนหลังนะ คือ คุณโชรงเค้าดูแปลก ๆ เวลาอยู่กันสองคนเค้าไม่ค่อยเหมือนเวลามีคนอื่นอยู่ด้วย เราเลยไม่รู้จะวางตัวยังไง”
“เค้าเป็นยังไง?”
“ไม่ค่อยพูดหรอก ถ้าพูดก็พูดจาแบบแปลก ๆ ชอบเอาเรื่องชานยอลมาเล่าหรือมาถาม พอเราตอบไม่ได้เค้าก็ทำเหมือนชนะเราอย่างนั้นแหละ เราเพิ่งรู้จักกันได้ไม่นานจะไปรู้เรื่องชานยอลดีเท่าเค้าได้ยังไงใช่ไหม ไม่เข้าใจเลย” หยิบใบมิ้นท์ออกมาเด็ดใส่แก้วเครื่องดื่มจนพอใจแล้วก็เลื่อนเข้าหาตัวแต่ชานยอลฉวยไปถือด้วยมือเดียว อีกมือรั้งขอบแขนเสื้อคุณหนูเอาไว้
“เค้าทำแบบนั้นทุกครั้งที่เจอคุณแบคฮยอนเลยหรือเปล่า?” คุณหนูส่ายหน้า
“อึ๊ เปล่า แต่ล่าสุดเค้าถามเราว่ารู้ไหมคะว่าชานยอลชอบดอกลาเวนเดอร์มาก ขนาดน้ำยาล้างรถยังเป็นกลิ่นลาเวนเดอร์ เราก็เลยงงใหญ่ ไม่รู้ว่าลาเวนเดอร์กับการเป็นเพื่อนกันมันเกี่ยวกันยังไง แต่ก็นั่นแหละ เค้าอาจเป็นคนแบบนี้อยู่แล้วก็ได้ เราไม่เคยรู้ไม่เคยพบเลยไม่ชิน ถ้าชานยอลคบกับเค้าได้เราก็คงไม่เป็นไร”
“ผมไม่ได้คบกับเค้า”
“อ้าว ไหนบอกเป็นเพื่อนกันไง”
“ก็พูดให้ชัดสิครับ ใครมาได้ยินเข้าผู้หญิงเค้าจะเสียหาย” เชื่อเถอะว่าผู้หญิงเค้าอยากเสีย แบคฮยอนบอกใครไม่ได้เสียด้วยว่าอยากให้โชรงมาได้ยินเรื่องที่พูดกัน น่าเสียดายที่ผู้หญิงคนนั้นไม่ตามเข้ามา ไม่อย่างนั้นคงแทบกระอักเลือด พอได้คุยเรื่องที่ตั้งใจไว้ก็ตัดใจจากความใกล้ชิดอีกครั้ง ยากหน่อยเพราะนานทีถึงจะมีโอกาสยืนกระหนุงกระหนิงกันในห้องครัว โรแมนติกซะไม่มีอ่ะ
“ออกข้างนอกกันเถอะ แขกรอจนคอแห้งละ โอ๊ะ เกือบลืมเค้ก เราถือเอง ๆ”
โชรงมองสองร่างเดินคู่กันออกมาจากประตูห้องครัวแล้วก็รีบยื่นมือออกไปรีบถาดขนมจากเจ้าบ้าน หญิงสาวหายใจสะดุดเมื่อเห็นประกายระยิบระยับในหน่วยตาเรียว ชานยอลนั่งกับหล่อนอยู่ดี ๆ แท้ ๆ แบคฮยอนยังมาแย่งไปได้ ตอนเขาลุกขึ้นแล้วบอกให้จุนมยอนชวนหล่อนคุยไปก่อนโชรงนึกว่าเขาอยากเข้าห้องน้ำ ที่ไหนได้เดินลิ่วตามก้นไอ้เด็กบ้าไปหน้าตาเฉย โชรงจะตามไปก็ทำไม่ได้ ทิ้งจุนมยอนเอาไว้คนเดียวก็คงไม่เหมาะ อีกฝ่ายเองก็อุตส่าห์หยิบนิตยสารส่งให้ถึงมือ หล่อนต้องข่มใจนั่งนับเวลาจนอกแทบแตก สุดท้ายชานยอลก็กลับมาพร้อมเจ้าของบ้านอย่างที่คิด
คุยอะไรกันตั้งนานนะ
“ขอโทษที่ให้รอนะครับ ไม่มีเครื่องดื่มเตรียมไว้เลยต้องชงชาใหม่ คุณโชรงชอบของหวานไหม ถ้าชอบลองทานเค้กนี่สิครับ เพื่อนผมเปิดร้านกาแฟแล้วก็เป็นพาทิซิเยต์เองด้วย”
“เหมือนกันเลยค่ะ ฉันมีเพื่อนเปิดร้านกาแฟใกล้ร้านดอกไม้ของคุณจุนมยอน วันนี้ก็เพิ่งไปหามา”
“บังเอิญจังเลยนะครับ” เจ้าของห้องเลือกนั่งโซฟาตัวเดียวกับจุนมยอน จากจุดที่นั่งแบคฮยอนสามารถมองหน้าคนที่จับจองฝั่งตรงข้ามโดยไม่ต้องแอบซ่อน ชานยอลยังคงรักษาความสุขุมได้เหมือนเดิมแต่ดวงตาคมหวานคู่นั้นจริงจังกับการมองโชรงมากขึ้น คุณหนูเห็นโชรงเผลอไปสบตาคนหล่อแล้วก็ก้มหน้ายิ้ม ผู้หญิงคนนั้นเสยผมแก้เก้อแถมยังชำเลืองมาทางคุณแบคฮยอนเหมือนเขินอีก แบคฮยอนแนบยิ้มกับขอบแก้วชา ถ้าโชรงคิดอวดเขาด้วยจังหวะสบตานั่นล่ะก็ แบคฮยอนขอเชียร์ให้เธออวดซ้ำสองซ้ำสามได้เลย เอาให้บ่อย ขอแบบชัด ๆ ชานยอลจะได้ยิ่งมั่นใจในความรู้สึกของเพื่อนร่วมงานคนนี้
“คุณจุนมยอนกับผู้ช่วยมือหนึ่งมาแบบนี้ ใครดูร้านครับ”
“ผู้ช่วยอีกคน พอรู้ว่าคุณแบคฮยอนไม่สบายผมก็ส่งร้านให้เค้ารับผิดชอบแล้วก็ชวนชานยอลมาด้วยกัน รู้ไหม ตอนแรกหมอนี่ไม่ยอมมา ชวนยังไงก็ไม่ยอมอยู่นั่นล่ะ จะให้ผมคลำทางมาหาคุณแบคฮยอนคนเดียว” แบคฮยอนหน้าเหวอ ดีใจจนอยากยิ้มกว้าง ๆ เพียงแค่บทสนทนานั้นมีชื่อคุณแฟนเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ไอ้เรื่องที่ชานยอลไม่อยากมาหาแถมยังปล่อยให้คนอื่นมาหาคุณแบคฮยอนถึงห้องนี่มันไม่ค่อยชอบมาพากลนะ
“ทำไมชานยอลไม่อยากมาล่ะ”
“ไม่ใช่ไม่อยากมา ผมแค่...มันเป็นเวลางาน จุนมยอนไม่อยู่คนหนึ่งแล้ว ผมก็ควรอยู่ช่วยเพื่อนร่วมงาน” เหตุผลของคนดี แบคฮยอนฟังแล้วแทบจะตบตีตัวเองเป็นการลงโทษที่กล้ากล่าวหาความบริสุทธิ์ใจของคนตัวโต ร่างขาวยืดตัวขึ้นเล็กน้อย เสี่ยงมากกับคำถามต่อไปนี้ แต่ก็อยากรู้อ๊ะ >////<
“แล้ว ทำไมเปลี่ยนใจมาล่ะ...”
“เออ นั่นสิ พี่ก็ยังไม่รู้เลยนะว่าตกลงนายเปลี่ยนใจเพราะอะไร” ชานยอลจิบชาช้า ๆ ส่ายหน้าแทนความหมายหลากหลาย ไม่อยากตอบ ไม่มีคำตอบหรืออาจเป็นไม่มีอะไรสำคัญให้พาดพิงถึง แบคฮยอนลุ้นใจระทึก นึกเข้าข้างตัวเองว่าคุณแฟนอาจคิดได้ในตอนหลังว่าไม่ควรให้คนอื่นมาหาคุณหนูถึงห้อง ไม่ควรเปิดโอกาสให้ใครได้อยู่ตามลำพังกับคุณแบคฮยอน ชานยอลหวงโดยไม่รู้ตัวเลยเป็นคนพาจุนมยอนมาเองแต่ไม่กล้าแสดงความรู้สึกออกมาตรง ๆ เลยได้แต่นิ่งไว้ โอย แค่คิดแบคฮยอนก็ต้องกดปลายเท้ากับพื้นกันตัวลอยแล้ว
“เพราะอะไรวะชานยอล” นั่นสิ เพราะอะไร!
“เพราะคุณจุนมยอนบอกว่าการเอาดอกไม้มาส่งให้คุณแบคฮยอนก็ถือว่าเป็นการทำงานให้ทางร้านอย่างหนึ่งไงคะ ชานยอลเลยยอมมาด้วยกัน” คนถูกถามไม่ยอมตอบแถมคนที่ตอบให้ยังเฉลยความจริงที่คุณแบคฮยอนไม่อยากฟังแม้แต่น้อย คุณหนูระบายลมหายใจออกซ้ำเติมอาการเหี่ยวเฉาสาหัสในอกก่อนจะจิบชาแก้ช้ำในไปสองอึกใหญ่
“อ๋อ ยอมมาเพราะงานนั่นเอง”
“คุณจุนมยอนน่ะ เป็นคนบังคับน้องแท้ ๆ แต่กลับจำไม่ได้นะคะ” จุนมยอนหัวเราะร่วน ไม่มีใครสังเกตอาการเม้มปากพร้อมตวัดตาของคุณหนูตัวขาว ชานยอลเองโดนสายตานั้นเข้าไปเต็มอกก็ได้แต่นั่งสูดลมเข้า ทดแทนความรู้สึกหนักอึ้งที่โจมตีโดยฉับพลันเท่านั้น
“กลับก่อนนะ มีงานค้างอยู่ที่ร้าน” ชานยอลไม่รู้ว่าอาการคล้ายไม่พอใจนั้นหมายถึงอะไร ไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองว่าคุณหนูเคืองเพียงเพราะเหตุผลธรรมดาที่เกี่ยวกับตน ในขณะเดียวกันก็ไม่อาจทนมองคนตัวเล็กใช้สายตาตัดพ้อโดยไม่รู้สึกอะไรได้ ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนเต็มความสูงเห็นเจ้าของบ้านทำหน้าหมองก็ชะงักไปอีก
มึงจะเอายังไงแน่ปาร์คชานยอล!
“ฉันกลับด้วยนะคะ” ปาร์คโชรงร้องขอ
“จะรีบกลับกันทำไมวะชานยอล พี่บอกแล้วว่ามากับพี่ก็ถือว่ามาทำงาน นายเลิกห่วงร้านสักพักได้ไหม ขยันจนไม่รู้ใครเป็นเจ้าของใครเป็นเพื่อนเจ้าของแล้ว ส่วนคุณโชรง อย่าเพิ่งกลับเลยครับ ผมอยากชวนทานข้าวเย็นด้วยกันสักมื้อ หวังว่าคงไม่ปฏิเสธนะครับ”
“ฉัน เอ่อ...” โชรงอ้ำอึ้ง หญิงสาวไม่อยากเสียโอกาสดี ๆ แบบนี้แต่ก็ไม่กล้าตัดสินใจลงไปทันที เกิดหล่อนยืนยันจะกลับแล้วชานยอลเปลี่ยนใจอยู่ต่อล่ะ แล้วถ้าหล่อนสมัครใจอยู่ต่อแต่ชานยอลยืนกรานที่จะกลับ โชรงคงเสียโอกาสไปอย่างน่าเสียดาย หญิงสาวเลยหันไปมองชายหนุ่มคล้ายขอความเห็น พอเขาทอดสายตามองตอบแน่วนิ่ง...คล้ายกำลังครุ่นคิด โชรงก็ใจชื้น หรือชานยอลจะเห็นความสำคัญของเพื่อนคนนี้มากกว่าเมื่อก่อนแล้วนะ
“เอายังไงดีคะ? ชานยอลจะอยู่ไหม?”
“คุณโชรงล่ะครับ ถ้าคุณอยากอยู่ต่อก็คงไม่เป็นปัญหาเพราะพี่จุนมยอนคงไปส่งคุณถึงบ้าน”
“แล้วชานยอลจะกลับเลยหรือคะ?” ดวงตาคู่โตยิ่งดำเข้ม คิ้วย่นเข้าหากัน จุนมยอนนั่งไขว่ห้างรอข้อสรุปส่วนแบคฮยอนวาดปลายนิ้ววนเหนือขอบแก้ว คุณหนูยิ้มบาง ๆ จากเคืองคุณแฟนเรื่องสาเหตุการมาเยือนเปลี่ยนมาเคืองเรื่องชานยอลจะกลับไปพร้อมโชรง แต่ตอนนี้แบคฮยอนคิดใหม่อีกครั้ง เขาควรสงสารโชรงที่ไม่รู้ตัวว่ากำลังแสดงกริยาเกินงามต่อหน้าผู้ชายที่ชอบมากกว่า
“ผมคงอยู่ต่อตามคำสั่งเจ้านาย” จุนมยอนไม่สะทกสะท้านแม้จะโดนประชดนิ่ม ๆ ชายหนุ่มส่งยิ้มล้อเลียนกลับคืนด้วยซ้ำเมื่อโชรงเปลี่ยนการตัดสินใจตามชานยอล
“ถ้าอย่างนั้นก็ต้องอยู่ด้วยกันสิคะ”
“โอเค ได้ข้อสรุปแล้ว แต่ผมลืมเรื่องสำคัญไป...คุณแบคฮยอนทานข้าวหรือยัง?” แบคฮยอนสั่นศีรษะ คิดถึงบรรยากาศการทานอาหารมื้อค่ำวันนี้แล้วก็นึกถึงผักสดกับอาหารสำเร็จรูปที่ถูกจงอินขนออกมาวางเรียงแล้วไอ้เจ้าคุณชายนั่นแหละที่จับยัด ๆ ใส่ตู้เย็นไว้เหมือนเดิม “ถ้าอย่างนั้น ผมขอเป็นเจ้ามือเลี้ยงในโอกาสที่คุณแบคฮยอนหายป่วย ตกลงไหมทุกคน”
สามในสี่กระตือรือร้น ไม่มีใครยอมพลาดโอกาสนี้
อีกหนึ่งคนไม่มีใครยืนยันความรู้สึกในใจได้
“ยิ่งมองก็ยิ่งสวย สมราคาคอนโดหรูทำเลดีเลยนะคะ เห็นแบบนี้ยิ่งรู้สึกถึงความแตกต่างระหว่างพวกเรากับคุณแบคฮยอน อย่างกับอยู่คนละโลกแน่ะ” เสียงหวานเอ่ยชื่นชมตลอดทางเดินจากหน้าลิฟต์ถึงลานจอดรถ ไม่มีใครตอบโต้คำเปรียบเปรยแฝงนัยยะแบ่งแยกนั้น โชรงกวาดตาไปรอบ ๆ ทำทีเหมือนสำรวจการตกแต่งอย่างปากว่าแต่สายตาก็ไม่ให้พลาดไปจากร่างสูง พอชานยอลชะลอฝีเท้าหล่อนก็หันไปมอง โชรงเห็นไอ้เด็กไฮโซนั่นรั้งเขาเอาไว้
ชานยอลผ่อนความเร็วของช่วงขา ก้มลงมองเจ้าของดวงตาเรียวใสแทนคำถาม พอมือเล็กชูพวงกุญแจขึ้นมาให้พร้อมรอยยิ้มเอาใจ ชายหนุ่มก็อดยิ้มตอบไม่ได้
“ใช้งานคนอื่น”
“เปล่าสักหน่อย”
“งั้นกุญแจนี่จะฝากไว้เฉย ๆ หรือครับ”
“ฮื้ออออออ ขับให้หน่อยน้า”
“ให้ผมขับเบนซ์ของคุณแบคฮยอนแล้วคุณจะไปยังไง อยากแลกรถกันขับหรือครับ” คุณหนูทำปากอูด กำหมัดต่อยแขนคนช่างแกล้งพอเป็นพิธี ไม่ตีบ้างไม่ได้หรอก เคยตัว เห็นว่ายิ้มแล้วทำให้คุณหนูใจสั่นก็ยิ้มได้ยิ้มเอา คนอะไร ไม่รู้จักพอ
“หวงคุณเวสป้ายิ่งกว่าอะไรแล้วยังกล้าเอามาพูดเล่นนะ ก็จอดเอาไว้ที่นี่สิ ทานข้าวเสร็จค่อยกลับมาเอา นะ”
“ใช้งานทั้งไปทั้งกลับเลยสิแบบนี้”
“เค้าเรียกว่าช่วยกันประหยัดพลังงาน”
“ชานยอล คุณแบคฮยอน เร็วเข้าเถอะค่ะ ช้าไปจะเลยเวลาทานยาหลังอาหารนะคะ” แบคฮยอนยักคิ้วใส่ตาคู่คม ร่างเล็กเดินไปสมทบกับโชรงที่หยุดรออยู่ระหว่างรถเก๋งของจุนมยอนกับเวสป้าของชานยอล ส่วนชายหนุ่มเจ้าของร้านดอกไม้ประจำอยู่ที่ตำแหน่งคนขับเรียบร้อยแล้ว ชานยอลเดินไปเปิดประตูด้านหน้า พอเขาสบตาด้วยโชรงก็เข้าไปนั่งแต่โดยดีแต่ตอนที่ชายหนุ่มปิดประตูแล้วเดินเลยรถมอเตอร์ไซค์ของตัวเองไปนี่สิ โชรงลืมตัวลดกระจกลงร้องถามทันควัน
“ชานยอล ไม่เอารถไปหรือคะ?”
“ครับ” บ้าจริง ทำไมเขาไม่รู้จักอธิบายอะไรยาว ๆ บ้างนะ ตอบแค่นั้นแล้วหล่อนจะไปตรัสรู้ได้ยังไงว่าทำไมเขาถึงทำเหมือนจะไปกันสองคนกับบยอนแบคฮยอน เด็กนั่นต้องหลอกล่อชานยอลตอนที่เดินออกมาจากลิฟต์นั่นแน่ ๆ
“ถ้าอย่างนั้นทำไมไม่มาด้วยกันล่ะค่ะ ไปด้วยกันสี่คนเลย จริงไหมคะคุณจุนมยอน” จุนมยอนเห็นด้วย ชายหนุ่มก้มตัวร้องบอกเพื่อนสนิทที่ยังยืนอยู่ที่เดิม
“ไปด้วยกันเลยดีกว่า เผื่อรถติดมากจะได้มีเพื่อนคุย” ทั้งคู่เห็นภาพเดียวกันคือชานยอลสบตาคนข้างตัวคล้ายขอความเห็น พอคุณแบคฮยอนยิ้ม แค่ยิ้มตาเป็นประกายชายหนุ่มก็หันมาตอบเสียงเรียบ
“แยกกันไปเถอะครับ เผื่อเลิกดึกพี่จะได้ไม่ต้องวนรถไปมาหลายรอบ เจอกันที่ร้านนะ”
“เอาอย่างนั้นก็ตามใจ ขับรถดี ๆ นะโว้ย พึงระลึกไว้ทุกลมหายใจเข้าออกว่ามีคนสำคัญของพี่นั่งไปด้วย เดี๋ยวเจอกันนะครับคุณแบคฮยอน” จุนมยอนทิ้งท้ายจนแบคฮยอนแทบลืมความปลื้มเปรมที่ได้ฟังคุณแฟนบอกปัดการตามตื้อของโชรง กลีบปากบางเผยอออกจากกัน เงยหน้ามองคนตัวโตตื่น ๆ
“ไปกันเถอะครับ” คุณหนูเป่าปากโล่งอกได้ไม่นาน พอขึ้นมานั่งในรถก็แทบวิ่งโร่ไปบีบคอจุนมยอนให้แหลกคามือ
“รัดเข็มขัดด้วยครับ คนสำคัญ” กำปั้นเล็กทุบตุบ ๆ ลงบนเบาะนั่ง ขู่ด้วยท่าทางน่ากลัวเหมือนแมวน้อยแยกเขี้ยว
“เพิ่งรู้! เพิ่งรู้ว่าชอบล้อคนอื่น”
“ผมไม่ได้ล้อแค่พูดตามที่ได้ยินมา”
“หยุดเลย พูดไปเดี๋ยวก็มีข่าวผิด ๆ ออกมาอีกหรอก คราวคุณคิมฮิมชันก็ทีหนึ่งแล้ว เราไม่ชอบนะจะบอกให้” คราวนี้คิ้วคมเลิกสูง ชื่อที่ไม่ได้คิดถึงผ่านแวบเข้ามาพร้อมความทรงจำเมื่อวันก่อน บรรยากาศสลัวหลังร้าน ฮิมชันกับคุณแบคฮยอน เขาจำไม่ได้ว่าตอนนั้นตัวเองรู้สึกอย่างไรกับภาพที่เห็น จำได้แค่ว่ามันชา ชาจนไม่รู้สึกอะไร ชานยอลยังไม่ทันได้สำรวจอารมณ์ตัวเองก็มีเรื่องรถเวสป้าเข้ามาแทรก ความทรงจำที่เหลืออยู่คือความวุ่นวายและความรู้สึกหนักอึ้งเหมือนอกถูกถ่วงด้วยหินผา
“ฮิมชันทำไมหรือครับ”
“ก็คุณโชรงบอกว่าคนทั้งร้านเข้าใจว่าเราคบกับคุณคิมฮิมชันทั้งที่จริง ๆ แล้วเราเป็นแค่เพื่อนกัน เพื่อนใหม่ด้วยซ้ำ เจอหน้าแค่สองสามที คุยน้อยกว่าชานยอล สนิทน้อยกว่าชานยอลเป็นหมื่นเท่า”
“หมื่นเท่าเลยหรือครับ”
“ล้านเท่าเลยก็ยังได้” ชานยอลหัวเราะ เสียงทุ้มลึกบอกความพอใจทำให้แบคฮยอนมองแสงไฟข้างทางสวยงามกว่าเดิมเป็นล้านเท่าเช่นกัน คุณแบคฮยอนชอบวันนี้ ชอบคืนนี้ ชอบที่ชานยอลใจดียอมรับรถมาให้ ทุกอย่างล้วนเป็นใจให้เขาแก้ต่างให้ตัวเอง จริงอยู่ว่าแบคฮยอนไม่สนลมปากคน ใครจะคิดอย่างไรเขาไม่แคร์แต่กับชานยอลแบคฮยอนปล่อยให้เข้าใจผิดไม่ได้ คนดีที่แสนเจียมตัวของคุณหนูไม่มีทางไฟท์เพื่อดึงอีกฝ่ายลงไปเป็นของตัวเอง ยิ่งเป็นประเภทไม่อยากมีพันธะผูกพันทางจิตใจกับใครเป็นทุนเดิมอยู่แล้วจะยิ่งสร้างกำแพงกั้นตัวเองออกจากคุณแบคฮยอน เกิดมีลูกมหาเศรษฐีมาชอบเขาชานยอลก็คงแค่ยุส่งเห็นดีเห็นงามด้วยเท่านั้น
สิ่งที่แบคฮยอนต้องทำคือแสดงให้ชานยอลมั่นใจว่าตัวเองมีค่า มีความหมายมากกว่าคนพวกนั้นมัดรวมกันพร้อมสมบัติพัสถานเสียอีก!
“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องไปสนใจ เราบริสุทธิ์ใจเสียอย่าง ใครจะว่ายังไงก็ไม่สำคัญ” กลีบปากบางเบะออก ส่งสายตากล่าวหาให้คนหล่อเริ่มระแวง ชานยอลเพิ่งรู้ตัวตอนนี้เองว่าเขาเริ่มจับสายตาและความรู้สึกของคุณหนูได้บ้างแล้ว
“ชานยอลเองก็ยังยิ้มยินดีตอนได้ข่าวว่าเราคบกับคุณคิมฮิมชันไม่ใช่หรือ”
“ผม?”
“นายนั่นแหละ คุณโชรงบอกว่าทุกคนดีใจที่ฮิมชันสมหวังในความรักแม้แต่ชานยอลก็ยังเป็นไปกับเค้าด้วย ขอแก้ข่าวไว้ตรงนี้เลยว่าเราไม่ได้คบกับคุณคิมฮิมชัน ไม่ได้ชอบแบบอยากได้เป็นแฟน รวมทั้งคุณจุนมยอนด้วย ทั้งสองคนเป็นเพื่อนชานยอลเราก็คิดว่าเค้าเป็นเพื่อนเราเหมือนกัน ดีลไหม?” ชานยอลยิ้ม ชายหนุ่มยอมรับและจบเรื่องง่าย ๆ ทั้งที่ยังนึกไม่ออกว่าตัวเองเคยแสดงความยินดีกับฮิมชันตอนไหน ปาร์คโชรงเริ่มทำอะไรที่เขาไม่อยากเข้าใจเสียแล้ว
รถคันสวยวิ่งฝ่าการจราจรมาได้ไม่นานก็ถึงจุดหมาย แบคฮยอนกางนิ้วปลดเข็มขัดนิรภัยแต่มีคนใจดีเอื้อเฟื้อดึงออกให้คนมือเจ็บเสียก่อน คุณหนูยิ้มน่ารักแทนคำขอบคุณ โชรงคงนั่งคอแข็งมองกระจกหลังมาตลอดทาง อยากให้ยายนั่นมาเห็นจังเลยว่าชานยอลน่ารักกับคุณแบคฮยอนมากแค่ไหน
“ทำไมเลือกมาทานร้านนี้?”
“บรรยากาศดี อาหารอร่อยแล้วก็ไม่ไกล ถามทำไม”
“เปล่าครับ นึกว่าเลือกเพราะรู้ว่าพี่จุนมยอนก็ชอบร้านนี้เหมือนกัน” แบคฮยอนเอียงคอก่อนจะหน้าร้อนวาบ
“นิสัยไม่ดี! ถ้าไม่เลิกล้อเราจะไม่พูดด้วยแล้วนะ บอกแล้วไงว่าไม่ชอบ ไม่ชอบ ไม่ชอบ ฮึ่ย! โกรธชานยอลจริง ๆ แล้ว” คนตัวโตกลืนเสียงหัวเราะลงคอ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงรู้สึกร่าเริงนัก อยากหลิ่วตาล้อ อยากพูดเล่น อยากเห็นคนตัวขาวทำตาวาว กำหมัดเหมือนจะต่อยใครสักคนซึ่งในที่นี้ก็คงเป็นเขาเอง
“ผมไม่ได้ล้อ แค่พูดเรื่องจริง”
“นายจงใจล้อ”
“ผมเปล่า เดี๋ยวสิครับ...” แต่คุณหนูไม่ลงมืออย่างที่ชานยอลคิด ร่างเล็กก้าวฉับ ๆ ตรงไปทางตัวร้าน ชายหนุ่มวิ่งตามไปทันกันก่อนถึงประตู ชานยอลแทรกตัวขวางหน้าไม่กล้าแม้จะจับเนื้อต้องตัวคุณหนูตัวขาว
“โกรธจริง ๆ หรือครับ”
“ก็บอกแล้วว่าไม่ชอบ” ยิ่งชานยอลพูดยิ่งไม่ชอบ ทำไมต้องทำท่ามีความสุขเวลาได้จับคู่เรากับคนอื่นด้วย
“ขอโทษครับ ต่อไปผมจะไม่ล้ออีกแล้ว” ควันกรุ่นหนักอึ้งล้อมรัดรอบตัว แบคฮยอนไม่อยากได้ยินใครชื่นชมยินดีเรื่องตนกับคนอื่นแต่หัวใจงี่เง่าก็ดันเต้นกระหน่ำเหมือนคนบ้าได้ยินเสียงกลอง มีความสุขแปลก ๆ ที่เห็นประกายทุกข์ร้อนกังวลในหน่วยตาคม ใบหน้าหล่อเหลาอยู่ในระยะประชิดเพราะไม่ทันมีใครทันระวังตัว เรียวปากบางเผยอออกจากกัน
อันตรายแบคฮยอน
ชานยอลกำลังทำให้นายมีความสุขมากเกินไป
อันตราย
“ถ้าจะล้อก็ไม่ต้องเอาไปยกให้คนอื่น ล้อกับตัวเองนั่นแหละ!”
“...........”
จบค่ะ
พูดอะไรออกไปห๊าแบคฮยอนนนนนนนนนนน!
#lovelycb
12 ตอนแรกตอนแต่งเราสต็อคไว้เลยได้ตอนยาว
ส่วนที่เหลือแต่งไปอัพไปแถมงานรุมแต่ละตอนเลยมาสั้น ๆ
เราจะพยายามอัพทุกวันนะคะ
ใจจริงอยากจะอัพจนจบทีเดียวแต่แบบนั้นก็จะไม่ได้ลุ้นกันสิเนาะ
ชอบอ่านแฮชแท็กกับคอมเม้นต์มากค่ะ
ขอบคุณทุกคนมากนะคะ
Twitter @MineLay07
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

กรี๊ดดดดดดดดด
ดีลตอนจบบทนี้แหละค่า