ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Prince of tennis] love passion กระหน่ำหัวใจส่งให้เธอ

    ลำดับตอนที่ #51 : LOVE PASSION U-17 Past 17: Nyan Nyan (^w^)/

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 734
      4
      20 ส.ค. 55

     

     
     
     

    ที่ค่าย U-17 ช่วงเวลา 2 ทุ่ม 45 นาทีภายในค่ายแห่งนี้กำลังเกิดเหตุการณ์อันน่ากลัวที่สุดที่พวกหนุ่มไม่เคยได้พบเห็นมาก่อน

    “แฮ่ก ๆ ๆ วิ่งมาไกลมาขนาดนี้คงไม่ตามมาแล้วล่ะ” เหล่าผู้รอดชีวิตทั้ง 8 คนกำลังหลบหนีจากอะไรบางอย่าง

    “ทุกคนปลอดภัยกันดีใช่มั้ย...” 1 ใน 8 ผู้รอดชีวิตเทะสึกะถามเพื่อนผู้เคราะห์ร้าย

    “แต่ว่าเมื่อกี้พวกเราช่วยรุ่นพี่ยานางิกับรุ่นพี่มุคาฮิเอาไว้ไม่ได้....ขอโทษด้วยนะครับ!” ไคโดรู้สึกเจ็บใจกับความสับเพร่าของตัวเองที่ทำให้รุ่นพี่ทั้ง 2 คนต้องโดนอะไรแบบนั้น

    “อย่าเสียใจไปเลยไคโด พวกนั้นเสียสละตัวเองเพื่อให้พวกเรารอดมาได้” ซานาดะพยายามปลอบใจไคโด

    “นอกจากพวกเรายังมีใครรอดอีกหรือเปล่า” โอชิทาริเองก็เป็น 1 ในผู้รอดชีวิตด้วยเหมือนกัน

    “ฉันก็ไม่แน่ใจเท่าไรเพราะ เหตุการณ์ตอนนั้นมันชุลมุนมากอาจจะ....ไม่มีคนรอดเลยก็ได้” เทะสึกะตอบ

    “เร็นจิ........” อินูอิกำลังนั่งระลึกถึงเพื่อนผู้เสียสละ

    “แล้วแบบนี้เราจะทำยังไงกันต่อล่ะครับ” ซุปเปอร์รุกกี้อย่างเอจิเซ็นก็ดวงดีรอดมาได้เหมือนกัน

    “ตอนนี้พวกเราก็เหลืออยู่กันแค่ 8 คนจะทำยังไงดีล่ะ” ฟูจิถาม

    “จากจุดที่พวกเราอยู่ตอนนี้น่าจะเป็นห้องอะไรสักอย่างของชั้น 2 ถ้าพวกเราอยากรอดกลับไปคือ พวกเราต้องจับตัวคนร้ายให้ได้หรือไม่ก็ต้องรีบไปขอความช่วยเหลือจากพวกโค้ชซึ่งตอนนี้คงอยู่ที่ห้องมอนิเตอร์” เทะสึกะอธิบายสถานการณ์ทั้งหมด

    “เอ่อ......แน่ใจแล้วเหรอครับว่า มีแค่ 8 คนผมเห็นแค่ 7 คนเท่านั้นเองนะครับ” เอจิเซ็นถาม

    “ไม่หรอก 8 คนน่ะถูกแล้วล่ะ” อินูอิชี้ไปที่อีกคนที่นั่งกอดเข่าอยู่ตรงมุมห้อง

    “โคฮารุ โคฮารุ.....ขอโทษนะที่ช่วยเธอเอาไว้ไม่ได้ ฮือ ๆ” กำลังนั่งเศร้าสลดรำพึงถึงคนรัก?

    “เห็นเป็นแบบนี้ตั้งแต่เข้ามาแล้วล่ะ”

    “แบบนี้พวกเราจะรอดไปหรือเปล่าครับเนี่ย” เอจิเซ็นเริ่มคิดหนักแล้ว

    ว้ากกกกกก จู่ ๆ ไคโดก็ส่งเสียงร้องขึ้นมา

    “คะ ไคโด!!” ทุกคนมองร่างที่ไร้สติของไคโดที่ถูกสาวน้อยร่างบางกำลังกอดคอของเขาเหมือนกับกอดตุ๊กตาตัวโต

    “เมี้ยวเมี้ยวเมี้ยวเมี้ยว (จับตัวได้แล้ว)” สาวน้อยยิ้มเหมือนเด็กที่เพิ่งได้ของเล่นใหม่

    “เสร็จกัน....โดนหาเจอจนได้”

     

    ย้อนกลับไปเมื่อ 1 ชั่วโมงก่อนหน้านี้

    ...........พวกหนุ่มหลังจากได้พักผ่อน อาบน้ำ ทานอาหารเย็นจนเต็มคราบแล้วก็ได้มาชุมนุมกันที่ห้องโถงเพื่อพูดคุยถึงการแข่งของวันนี้หรือไม่ก็มานั่งพูดคุยตามประสาเด็กผู้ชายแต่ว่าก็มีแขกไม่ได้รับเชิญแอบเข้ามาโดยที่พวกเขาไม่รู้......

    แซ่ด ๆ ๆ ๆ ๆ เสียงของเหล่าเด็กหนุ่มกำลังเดินมาที่ห้องโถงแต่ว่า.....

    “เทะ~สึ~กะ~” ไม่ถึงวินาทีที่เทะสึกะก้าวขาเข้าไปก็มีร่างเล็กกระโจนเข้าหาทันที ผลก็คือ....

    โครม!

    “ริทสึบอกไปตั้งหลายครั้งแล้วว่า อย่ากระโดดใส่ฉันแบบนี้” เทะสึกพถอดหายใจเฮือกใหญ่พอรู้ว่า อีกฝ่ายเป็นใคร....

    “ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่นาก็ฉันกับเทะสึกะเป็นเพื่อนกันนิ แล้วอีกอย่างนะอุตส่าห์ได้ถอดสายรัดนั้นทั้งทีก็ต้องใช้เวลานี้คุ้มค่าหน่อยสิ” ริทสึพูดไปพร้อมกับกอดคอเทะสึกะไปพร่าง ๆ

    “แต่มันจะดีเหรอริทสึเธอเพิ่งบาดเจ็บไปเองนะ” โออิชิถามด้วยความเป็นห่วง

    “ก็ให้นอนรักษาตัวอยู่แต่ในห้องทั้งวันมันเบื่อนี่นาแถมเรียวก็ยังเอาแต่บ่นเหมือนเป็นแม่เลย ฉันก็เลยแอบหนีออกมาหาพวกนายไง” ยังไง ๆ ก็ไม่พ้นคำว่า แอบหนีออกมาสักที

    “ริทสึ เธอน่ะเอาแต่ใจเกินไปแล้วนะ” เทะสึกะดีดหน้าผากริทสึไปทีหนึ่ง

    “ช่างฉันเถอะน่า~ เทะสึนะเนี่ยชอบดุฉันอยู่เรื่อยเดี๋ยวก็หน้าแก่กว่าเดิมหรอก” ริทสึทำเชิดใส่เทะสึกะ

    “ก็คุณป้าฝากให้ฉันช่วยดูแลเธอนี่นาแถมนิสัยเธอก็เป็นซะแบบนี้”

    “งืม~ คุณยูคิมูระคุง~ เทะสึกะอ่ะชอบดุเค้าอยู่เรื่อยตลอดเลยอ่ะ” ในเมื่อโดนผู้ปกครองคนแรกดุไปแล้วก็เลยหันมาเรียกร้องความสนใจจากผู้ปกครองรายที่ 2 แทน

    “หึ ๆ ถามตามที่เทะสึกะคุงบอกดีกว่านะ ริทสึจัง” แต่รอบนี้ยูคิมูระดันเป็นฝ่ายของเทะสึกะซะได้

    “น่าสมเพชชะมัด.....” ไม่ต้องถามว่า ใครพูดมีคนเดียวเท่านั้นที่กล้าว่าริทสึ

    “ลองพูดอีกทีสิยะ แม่จะซัดให้ไม่เลี้ยงเลย” รอยยิ้มปีศาจผุดขึ้นบนหน้าของริทสึ

    “ฉันไม่กล้าเธอหรอก”

    “ริทสึ ฉันมีเครื่องดื่มบำรุงให้เธอด้วยจะลองดูหน่อยมั้ย” อินูอิเดินมาพร้อมกับเครื่องดื่มสุดพิเศษของตัวเอง

    “ได้อยู่แล้วล่ะ....” ริทสึไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยสักนิด

    “โคโนเอะอย่าลองดีกว่ามั้ง รอบที่แล้วก็ทำให้เธอเมาไปแล้วรอบหนึ่งไม่ใช่เหรอ” ซานาดะพยายามห้ามแต่ว่า....

    “เอ๋! คนอย่างฉันไม่เคยเมาสักหน่อยนะ”

    “เอาไปสิ....น้ำผักสูตรพิเศษฉันคั้นมาให้เธอโดยเฉพาะเลยนะ หึ ๆ ๆ” ไอ้รอยยิ้มที่เหมือนปีศาจแบบนี้มันคืออะไรกันเนี่ย!!!

    “ทานแล้วนะค่า~” ทุกคนต่างลุ้นว่า มันจะเกิดอะไรขึ้นกับริทสึ

    “ริทสึเป็นไงมั่งอ่ะ เนี้ยว~” คิคุมารุถาม

    “เมี้ยว~ ม่ะ!? เมี้ยวเมี้ยวเมี้ยว!!” ริทสึแทบช็อคที่เห็นว่า เสียงของเธอกลายเป็นแมวไปซะแล้ว

    “อินูอิ!! นายทำอะไรกับริทสึเนี่ย” โออิชิโวยขึ้นเป็นคนแรก

    “อืม~ สงสัยจะใส่มาทาทาบิเยอะไปหน่อยต้องจดข้อมูลเอาไปก่อน” อินูอิไม่สนใจที่โออิชิพูดก้มหน้าก้มตาเก็บข้อมูลอย่างเดียวเลย

    “ริทสึไม่ได้เป็นหนูทดลองของนายสักหน่อย!! รีบหาวิธีแก้ให้ริทสึเดี๋ยวนี้เลย” อาโตเบะสั่ง

    “ถ้างั้นก็ลองดื่มขวดนี้สิเผื่อจะหาย......” อินูอิหยิบอีกขวดให้กับริทสึ

    “เมี้ยวเมี้ยวเมี้ยวเมี้ยว (แน่ใจนะว่าจะได้ผล)”

    “ใครก็ได้ช่วยแปลภาษาของยัยบ้านี่ทีสิ” ซานาดะเริ่มเครียดแล้ว

    “ริทสึบอกว่า แน่ใจนะว่าได้ผล” คิคุมารุเป็นคนแปลภาษาแมวไปซะแล้ว

    “เอจิ นายฟังภาษาแมวออกด้วยเหรอ”

    “ก็นิดหน่อยน่ะ.....”

    “อึก! เมี้ยว~ เมี้ยวเมี้ยวเมี้ยวเมี้ยว...เมี้ยวเมี้ยวเมี้ยว!! (เด็กคนนี้น่ารักจัง อาโตเบะคุงขอเล่นหน่อยได้มั้ย)” ริทสึเดินไปจ้องหน้าฮิโยชิก่อนจะหันมาพูดอะไรบางอย่างกับพวกเทะสึกะ แต่บังเอิญว่า ทุกคนไม่เข้าใจที่เธอพูดเท่านั้นแหละ....

    “เอ่อ.....คิคุมารุช่วยแปลให้หน่อย”

    “ริทสึบอกว่า อยากเล่นกับฮิโยชิเลยขออนุญาตจากอาโตเบะ”

    “จะเล่นกับฮิโยชิก็ไม่บอก เอาสิอยากเล่นแค่ไหนก็เชิญตามสบายเลย” ตอบไปไม่ได้ดูความสมัครใจของลูกทีมเลยสักนิด

    “เมี้ยวเมี้ยวเมี้ยว~ (อาโตเบะคุงเท่ที่สุดเลย~)” ริทสึลากคอฮิโยชิไปอีกห้องหนึ่งทันที

    “เธอบอกว่าไง....”

    “ก็แค่ชมนายเท่านั้นแหละ แต่ว่าอินูอินายเอาอะไรให้ริทสึทานงั้นเหรอ”

    “ก็แค่เอาเครื่องดื่มธรรมดาทั่วไปผสมเข้าน้ำคั้นสูตรพิเศษของฉันเท่านั้นเอง เกือบลืมบอกไปว่า ฉันผสมเหล้าสาเกลงไปด้วยนะ”

    “นี่นายเอาเหล้าให้ริทสึทานงั้นเหรอ!.....” ทุกคนเริ่มหน้าซีดกันหมดแถมยังรู้สึกว่า จะเกิดเรื่องร้าย ๆ ขึ้นมาอีก

    “ว้ากกกกกกก กัปตันช่วยผมด้วยฮะ!!” ฮิโยชิคุงวิ่งออกมาในชุด!? Alice in Wonderland

    “เมี้ยวเมี้ยวเมี้ยว~ (น่ารักใช่มั้ยล่ะ~)” ริทสึเริ่มมีอาการหน้าแดงเหมือนคนเมาอีกแล้ว

    “กะ ก็น่ารักดีนะ” งานนี้ไม่ต้องใช้คิคุมารุแปลก็รู้ว่า ริทสึต้องการจะพูดอะไร

    “เมี้ยวเมี้ยวเมี้ยวเมี้ยว.....เมี้ยวเมี้ยวเมี้ยวเมี้ยว!! (แต่เหมือนยังขาดอะไรอยู่นะ.....สงสัยต้องหาคนมาแต่งเพิ่มแล้วล่ะ!!)”

    “สงสัยงานนี้มาวิ่งแล้วล่ะ” คิคุมารุถอยออกมาก้าวหนึ่ง

    “มีอะไรงั้นเหรอครับ รุ่นพี่คิคุมารุ” โมโมชิโระถาม

    “ริทสึอยากได้คนเพิ่มน่ะ....”

    “เมี้ยวเมี้ยวเมี้ยวเมี้ยวเมี้ยว (ถูกต้องแล้วล่ะ พวกนายอย่าคิดหนีเด็ดขาดเลยนะ)”

    “ซวยแล้วไงล่ะ วิ่งหนีเอาชีวิตรอดเร็วเข้า!!” เหล่าหนุ่มต่างวิ่งหนีเอาชีวิตรอดแต่ว่า.....

    “เมี้ยว~เมี้ยว เมี้ยวเมี้ยวเมี้ยวเมี้ยว....เมี้ยวเมี้ยว เมี้ยวเมี้ยวเมี้ยวเมี้ยว (โง่จริง ๆ ตอนนี้น่ะฉันถอดสายรัดหนัก ๆ นั่นออกแล้วเพราะงั้น....ความเร็วของฉันก็จะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวนะ)” ริทสึวิ่งไล่ตามด้วยความเร็วสูงจนสุดท้ายก็....

    หมับ!!

    “เมี้ยวเมี้ยวเมี้ยว~ (จับได้แล้ว~)” ริทสึคว้าคอเสื้อของคิริฮาระเอาไว้ได้แถมยังจับตัวโมโมชิโระเอาไว้ได้ด้วย

    “อ้ากกกกก รุ่นพี่ช่วยผมด้วยฮะ~

    “เมี้ยวเมี้ยวเมี้ยว~ เมี้ยวเมี้ยว (พวกเรามาสนุกกันเถอะน่า~ ทุกคน)”

     

    กลับมาในเวลาปัจจุบันตอนนี้กลุ่มที่กำลังซวยที่สุดก็คือ กลุ่มของเทะสึกะ

    “เมี้ยวเมี้ยวเมี้ยวเมี้ยวเมี้ยวเมี้ยว (เทะสึกะใจร้ายที่สุดเลย ทำไมถึงทิ้งฉันแบบนี้ล่ะ)” ริทสึวางร่างอันไร้สติของไคโดลงแล้วเดินเข้าไปหาพวกเทะสึกะ

    “อย่าทำแบบนี้ดีกว่าริทสึ เธอไม่รู้ว่าตอนนี้ทำอะไรลงไป” เทะสึกะพยายามห้ามแต่ว่า...

    “เมี้ยวเมี้ยวเมี้ยวเมี้ยว (เทะสึกะไม่รักฉันแล้วใช่มั้ยถึงได้ไล่ฉันแบบนี้)”

    “หนีเร็วเข้า!!” ซานาดะสังเกตเห็นช่องว่างเพียงนิดเดียวจึงถือโอกาสส่งสัญญาณให้ทุกคนหนีไปทันทีแต่ว่า......

    “เดี๋ยวครับ! แล้วรุ่นพี่ยูจิล่ะ” ทุกคนหันไปก็เห็นริทสึกำลังยืนจ้องเขาอยู่พอดี

    “ขอร้องล่ะ ช่วยพาฉันไปหาโคฮารุที~

    “เมี้ยวเมี้ยวเมี้ยว (ตามใจคุณแล้วกันค่ะ)”

    “แฮ่ก ๆ ทำไมถึงรู้ล่ะฮะว่า พวกเราอยู่ในนั้น” พอทุกคนหยุดพักเหนื่อยก็ถามขึ้นมาทันที

    “ไม่รู้เหมือนกัน....แต่ตอนนี้พวกเราเสียไคโดกับฮิโทจิไปแล้ว”

    “เงียบก่อนฉันได้ยินเสียงคนกำลังวิ่งมาทางนี้” ฟูจิสั่งให้ทุกคนเงียบกันสักพัก

    “แฮ่ก ๆ ๆ อ๊ะ!....พี่ยังปลอดภัยดีเหรอฮะ” ยูตะนั่นเองที่วิ่งมา

    “ยูตะปลอดภัยดีสินะ”

    “พวกคุณมิซึกิบอกให้ผมหนีมาทางนี้แถวพวกพี่ทำไมถึงมาอยู่แถวนี้ได้”

    “พวกเราเพิ่งวิ่งหนีริทสึมาน่ะ ไคโดกับฮิโทจิก็โดนจับตัวไปแล้วด้วย”

    “เอ๋! พวกผมเองก็เพิ่งโดนไล่มาเมื่อกี้นี้เหมือนกัน.....”

    “หมายความว่ายังไงกันเนี่ย....พวกเราเพิ่งเจอริทสึได้แค่ 5 นาทีเองนะทำไมถึงไปอยู่กับพวกของยูตะคุงได้ล่ะ” ซานาดะถาม

    “ไม่รู้สิ......” เทะสึกะกำลังใช้ความคิด

    “ยูตะคุงนอกจากเธอแล้วยังมีใครที่เหลือรอดอยู่บ้างหรือเปล่า.....” โอชิทาริถามถึงเพื่อนคนอื่น ๆ

    “ก่อนหน้านี้กลุ่มของผมไปเจอเข้ากลุ่มของคุณอาโตเบะด้วยครับ รู้สึกจะมีอยู่ประมาณ 6-7 คนแต่มันก็ผ่านมาได้เกือบ 30 นาทีแล้ว”

    “ในเมื่ออาโตเบะยังปลอดภัยอยู่แบบนี้พวกเราก็น่าจะหาทางรวมกลุ่มกับพวกนั้นแล้วล่ะ”

    “แต่ปัญหาก็คือ จะไปกันยังไงนี้แหละ ริทสึดูจะรู้จักเส้นทางของบริเวณแถวนี้ดี”

    “แล้วทำไมพวกเราไม่ลองไปหลบในห้องของตัวเองล่ะครับ จุดที่เราอยู่คือ ชั้น 2 ไม่ใช่เหรอครับ” เอจิเซ็นออกความเห็น

    “ทีแรกพวกเราก็คิดได้ทำแบบนั้นเหมือนกันแต่ว่าประตูห้องพักของทุกคนมีใครบางคนจงใจล็อคประตูไม่ให้พวกเราเข้าไป....”

    “แบบนี้มันก็หมายความว่า พวกเราจะต้องวิ่งวุ่นอยู่ในตัวอาคารนี้งั้นเหรอ”

    “เมี้ยวเมี้ยวเมี้ยว (ใช่แล้วล่ะ)” ริทสึโผล่มาทางหลังของเอจิเซ็น

    “รุ่นพี่ริทสึทำไมถึง....!?

    “เมี้ยวเมี้ยวเมี้ยวเมี้ยว (หนีไม่รอดแล้วล่ะ)” ริทสึจับตัวยูตะเอาไว้ได้

    “พี่ฮะรีบหนีไปเร็ว” ยูตะบอกให้พวกเทะสึกะหนีเอาตัวรอดไป

    “ไม่นะ ยูตะ ๆ ๆ” ฟูจิต้องการจะช่วยน้องชายแต่อินูอิก็เข้ามาห้ามไว้แล้วพาตัวฟูจิหนีไปพร้อมกับพวกเขาทันที

    “ฟูจิตอนนี้พวกเราต้องหนีเอาตัวรอดกันก่อนนะ”

    “ไม่ต้องห่วงนะ ยูตะ! พี่ต้องกลับช่วยนายแน่”

    “แฮ่ก ๆ  กัปตันเทะสึกะครับจะเอายังไงต่อดีครับ ขืนวิ่งวนรอบตึกแบบนี้ต่อไปมีหวังโดนจับกันหมดแน่”

    “เทะสึกะคุงสามารถหยุดริทสึจังได้ไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงไม่ยอมหยุดเธอล่ะ” โอชิทาริถาม

    “ถ้าเป็นตอนที่ริทสึยังปกติก็พอจะหยุดได้แต่ว่า ตอนนี้ริทสึกำลังเมาไม่มีอะไรหยุดริทสึได้ต้องรออย่างน้อย 45 นาทีกว่าริทสึจะสร่างเมา”

    “แฮ่ก ๆ ถ้างั้นก็มีแค่วิธีเดียวคือต้องจับตัวยัยบ้านั่นให้ได้สินะ” ซานาดะถาม

    “ก็ใช่อยู่แต่จะทำรุนแรงกับริทสึก็ไม่ได้ เธอยังบาดเจ็บอยู่นะ”

    “ถึงจะพูดอย่างงั้นก็เถอะแต่การเคลื่อนไหวของริทสึเหมือนไม่ใช่คนที่กำลังบาดเจ็บเลยนะ” อินูอิพูดขึ้น

    “แบบนี้จะเอายังไงต่อดีล่ะฮะ” ทุกคนวิ่งไปจนเกือบสุดทางเดินก็พบเข้ากับกลุ่มของอาโตเบะทันที

    “พะ พวกนายเองงั้นเหรอ” อาโตเบะดูโล่งใจเล็กน้อยที่เห็นพวกเดียวกัน

    “ยังปลอดภัยดีสินะ เก็นอิจิโร่” ยูคิมูระยิ้มบาง ๆ

    “พวกนายเหลือกันแค่นี้เองกันเหรอ” โอชิทาริมองกลุ่มของอาโตเบะที่เหลือแค่อาโตเบะ ยูคิมูระ จิโทเสะและชินจิ

    “ที่จริงเมื่อกี้มีชิราอิชิด้วยแต่ก็โดนจับไปแล้ว....” จิโทเสะพูด

    “ทางเราก็เพิ่งเสียยูตะไปเหมือนกัน”

    “เหลือกันอยู่แค่นี้สินะ.....อาโตเบะนายพอวิธีที่จะหนีออกไปจากที่นี้มั้ย” เทะสึกะเริ่มระดมพลังสมองจากทุกคน

    “ที่จริงพวกฉันกะว่า จะขอความช่วยเหลือจากโค้ชแต่ว่าก็โดนริทสึไล่ให้ขึ้นมาบนชั้น 2 นี่ล่ะ.....”

    “แบบนี้ก็แสดงว่า ริทสึจังอยู่ที่ชั้น 1 สินะแถมยังรู้ว่า พวกเราซ่อนตัวอยู่ตรงไหนด้วย”

    “ไม่ใช่แค่นั้นอย่างเดียวยังรู้ว่า เป้าหมายของพวกเราอีกด้วย แบบนี้มันไม่ธรรมดาแล้วนะ” ยูคิมูระพูดเสริม

    “แบบนี้คงมีแต่จับตัวยัยนั่นอย่างเดียวสินะ”

    “ถึงจะให้จับตัวแต่ว่าชั้น 1 น่ะมืดยิ่งกว่าที่พวกเราอยู่ตอนนี้อีกนะแถมริทสึยังเคลื่อนไหวได้เร็วอีกด้วยนะ ขนาดคนที่วิ่งที่สุดอย่างเคนยะและคามิโอะยังโดนจับไปเลยนะ”

    “แบบนี้สงสัยคงต้องเสี่ยงกันหน่อยแล้วล่ะ”

    “เมี้ยวเมี้ยวเมี้ยวเมี้ยว (ถ้าทำได้ก็ลองดูสิ)” ริทสึโผล่ออกมาอีกครั้งแล้วแถมยังจับตัวเอจิเซ็นเอาไว้ด้วย

    “โคโนเอะปล่อยเอจิเซ็นเดี๋ยวนี้นะ!

    “เมี้ยวเมี้ยว~ เมี้ยวเมี้ยวเมี้ยวเมี้ยวเมี้ยวเมี้ยว (เอจิเซ็นคุง~ ผิวนุ่มจังเลยคงจะเป็นตุ๊กตาที่น่ารักที่สุดของฉันแน่)”

    “นี่เธอ....!

    “เมี้ยวเมี้ยวเมี้ยวเมี้ยว (ฉันจะรอเล่นกับทุกคนอยู่นะ)” ริทสึค่อย ๆ หายเข้าไปในความมืดพร้อมกับร่างของเอจิเซ็น

    “คงไม่มีทางเลือกแล้วสินะ”

    “ถ้างั้นทุกคนลองทำตามแผนของฉันนะ” อินูอิเป็นคนวางแผนการณ์ทั้งหมด

    “จำเอาไว้นะสิ่งแรกที่พวกเราต้องทำคือ จับตัวริทสึจากนั้นก็ช่วยพวกที่โดนจับไปเข้าใจมั้ย”

    “อื้อ!!

    ตึก! ตึก!! โครม!!!

    “อ๊ะ!! กัปตัน!! รุ่นพี่ฮะ!!!” พอพวกเทะสึกะพังประตูเข้าไปก็เห็นบรรดาพวกพ้องที่โดนจับอยู่ในชุด....เอ่อ....รวม ๆ กันแล้วยังกะจัดงานแฟนซีอยู่เลยล่ะยกเว้นเอจิเซ็นที่ยังอยู่ในชุดเดิมอยู่

    “ทุกคนไม่เป็นไรใช่มั้ย!!” ทุกคนอย่างวิ่งเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง

    “เอจิเซ็น....แล้วริทสึล่ะอยู่ที่ไหน” เทะสึกะถาม

    “ผมก็ไม่รู้ว่า มันเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่ผมถูกตัวมาไว้ที่ห้องนี้แล้ว รุ่นพี่ริทสึก็มีท่าทีเปลี่ยนไปเห็นเดินเข้าไปในอีกห้องไม่ยอมออกมาสักทีเลยครับ....”

    “เทะสึกะ” ซานาดะส่งสายเป็นเชิงบอกให้เข้าไปดูในอีกห้องหนึ่งพร้อมกัน

    “ริทสึ....เธออยู่ไหน....” ทั้ง 2 ตามหาร่างบางจนทั่วไปแต่ก็หาไม่พบ

    “ฟี้~ เมี้ยว~

    “เงียบก่อนเทะสึกะ ฉันได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง”

    “งึมงำ หิวข้าวอ่ะ เมี้ยว~ มีเสียงบางอย่างดังมาจากกองเสื้อผ้า (ใครมันเป็นคนเอามาฟะเนี่ย)

    “นะ นี่มันริทสึ!

    “คงกำลังหลับอยู่น่ะ....แล้วจะเอายังไงต่อดีล่ะ” ซานาดะถาม

    “พาไปให้โค้ชไซโตะแล้วพากลับค่ายของพวกผู้หญิงดีกว่า...”

    “งั้นฉันจะเป็นคนอุ้มยัยตัวแสบนี่ไปเอง ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาจะหยุดได้ทัน” ซานาดะอาสาแบกร่างของริทสึไปหาโค้ชไซโตะซึ่งพวกเขาเองก็โดนโค้ชไซโตะดุใส่ไม่ใช่น้อย ๆ ที่วิ่งบนอาคารแถมยังสร้างความเสียหายอีก โดยไม่รู้เลยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นฝีมือของหลานสาวตัวเอง

     

    “คราวหน้าฉันจะถามอินูอิก่อนจะให้โคโนเอะดื่มไอ้น้ำคั้นพวกนั้น”

     

    Photobucket


    Photobucket


    Photobucket


    Photobucket


    Photobucket


    Photobucket


    Photobucket
     

    MusicPlaylist
    Music Playlist at MixPod.com
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×