คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #33 : Love passion: 30 สาวน้อยริทสึในโรงเรียนเซงาคุ
ที่โรงเรียนเซงาคุ
“ลา ลา ลา~” สาวน้อยกำลังร้องรำทำเพลงอยู่คนเดียวขณะเดินสำรวจห้องชมรมของชมรมเทนนิสเซงาคุไปพล่าง ๆ
“ร้องเพลงอย่างมีความสุขจังนะ ริทสึ” กัปตันผู้แสนเงียบขรึมของเซงาคุเดินเข้ามา
“เถอะน่า~ นาน ๆ ทีจะได้กลับมาที่โรงเรียนเก่าบ้าง” พูดแล้วก็ค้นดูของไปเรื่อยเปื่อย
“แล้วถ้าพวกยูคิมูระไม่โกรธงั้นเหรอที่เธอมาหาพวกฉันแบบนี้”
“ฉันโทรบอกกับยูคิมูระคุงเอาไว้แล้วล่ะ คงจะช่วยอธิบายให้ซานาดะเข้าใจเองล่ะนะ”
“ชอบทำอะไรเอาแต่ใจตลอดเลยนะ”
“ช่างฉันเถอะน่า เทะสึกะ (‵^′)” ริทสึเผลอปิดล็อคเกอร์เต็มแรงทำให้ของบางส่วนที่ถูกยัดเอาไว้ตรงนั้นร่วงลงมาให้หัวริทสึทันที
“ริทสึ! ไม่เป็นไรใช่มั้ย....” เทะสึกะรีบเข้ามาช่วยริทสึทันที
“โอย~ ทำไมช่วงนี้ฉันดวงซวยอยู่เรื่อยเลยนะ....หืม! อัลบั้มรูปภาพของชมรมเทนนิสนี่นา” ริทสึรีบเปิดดูอัลบั้มที่ติดมือเธอมาทันที
“รีบเอาคืนฉันมาดีกว่านา...” เทะสึกะพยายามจะแย่งคืนมา
“ไม่เอา~ ฉันอยากดูรูปสมัยก่อนของพวกนายนี่นา”
“จริง ๆ เลย....แต่จะว่าไปก็คิดถึงเหมือนกันนะ เธอตอนที่ยังเรียนอยู่ที่เซงาคุน่ะ”
“อย่างงั้นเหรอ.....”
เมื่อ 2 ปีก่อนที่โรงเรียนเซงาคุ
“แฮ่ก ๆ.......” เด็กหญิงในชุดนักเรียนเซชุนกำลังตั้งหน้าตั้งตาวิ่งไปหาเด็กชายที่กำลังเดินนำหน้าเธออยู่....ผมสีน้ำตาลยาวประบ่า ดวงตากลมโตสีน้ำตาล....หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูเหมือนเด็กวัย 13 ทั่ว ๆ ไป
“เทะสึกะ....!!” เด็กหญิงรีบเข้าไปกระโดดกอดคออีกฝ่ายจากทางด้านหลัง
“......บอกตั้งหลายครั้งแล้วไงว่า อย่ากระโดดกอดฉันแบบนี้” เด็กชายผู้มีสีหน้าเรียบเฉยขัดกับใบหน้าละอ่อนหน้าตาน่ารักน่ากอดไม่แพ้เด็กหญิงตรงหน้า
“ก็เทะสึกะนั่นแหละที่ไม่ยอมรอฉันเองนะ...อุตส่าห์ได้เรียนอยู่โรงเรียนเดียวกันทั้งที” เด็กหญิงเอาแก้มมาถูกับหน้าของเด็กชาย
“พะ พอแล้วน่า คนอื่นเขามองมาที่เราหมดแล้วนะ” เด็กหญิงหยุดสนใจเด็กชายก่อนจะหันไปมองรอบ ๆ ตัวเองที่ตอนนี้มีแต่คนมองเธอเต็มไปหมดเลย
“ก็อย่าไปสนใจสิ....พวกเรารีบเข้าโรงเรียนกันดีกว่านะ” พูดแล้วก็จูงมือเด็กชายทันที
“ดะ เดี๋ยวก่อนสิ...ริทสึ...” ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปีเด็กหญิงก็ยังเป็นคนเดียวที่บ่งการคนอย่างเขาได้
ครืน~
“เทะสึกะ~ พวกเราไปที่ชมรมเทนนิสกันนะ....” เด็กหญิงวิ่งพรวดพราดเข้าหาเทะสึกะโดยที่ไม่สนใจคนรอบข้างเธอเลยสักคน
“ดะ เดี๋ยวสิ....ฉันยังไม่ได้....”
“ไม่ต้องมาอ้างอะไรแล้ว รีบไปกันเถอะ...” เด็กหญิงเดินเข้ามาจับแขนแล้วลากออกไปข้างนอกทันที
“ฉันชื่อ...โคโนเอะ ริทสึ อยู่ปี 1 ขอฝากเนื้อฝากตัวนะค่ะ” เด็กหญิงแนะนำตัวเองตามมารยาทเมื่อมาถึงชมรมเทนนิสหญิงของเซงาคุ
“....วันนี้พวกตัวจริงยังไม่มากันแต่ว่า....พวกปี 1 จะไม่มีสิทธิ์เหยียบเข้ามาเล่นในคอร์ทจนกว่าจะถึงปิดเทอมฤดูร้อนเข้าใจมั้ย...” พอไม่มีพวกตัวจริงกับกัปตันพวกรุ่นพี่ปี 2 ที่เหลือก็เริ่มทำตัวเป็นใหญ่ทันที
“นี่ ๆ ปี 1 คนนั้นน่ะเหมือนจะไม่ค่อยพอใจเท่าไรเลยนะ” ได้ทีก็แกล้งหาเรื่องรุ่นน้องทันทีแถมคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก โคโนเอะ ริทสึ....คนเดียวเท่านั้น...
“งั้นเหรอ....” พูดก่อนจะหันไปยิ้มสะใจให้กับเพื่อนตัวเอง “....เธอมีปัญหาอะไรกับพวกฉัน...”
“เอ๋! หนูเหรอค่ะ....ไม่มีอะไรนี่ค่ะ” ริทสึทำหน้างง ๆ ที่จู่ ๆ เธอก็โดนรุ่นพี่เพ่งเล็ง
“ฮิราเสะ....อย่าไปเชื่อที่เด็กนั่นพูดนะ” พอมีเพื่อนยุยงก็ยิ่งเหิมเกริมเข้าไปใหญ่
“หึ! ถ้าอย่างงั้นก็ลองแข่งเทนนิสกับฉันมั้ยล่ะ” คิดจะข่มขวัญพวกเด็กใหม่จึงต้องหาเรื่องกันสักหน่อยแต่พวกเขาดันคิดผิดที่มาท้าแข่งกับริทสึ.....
“กะ เกม แอน แมตท์ โคโนเอะ 6-0 เกม” เพียงไม่ถึง 15 นาทีก็เอาชนะรุ่นพี่ปี 2 ไปได้.....
“เอ่อ....ถ้าไม่มีอะไรแล้วหนูขอตัวก่อนนะค่ะ....” แข่งเสร็จก็รีบเดินออกจากคอร์ททันทีเหลือทิ้งแค่รอยความคับแค้นใจให้กับรุ่นพี่....แต่เธอไม่รู้เลยว่า เพราะการแข่งนี้เป็นต้นเหตุแห่งการสูญเสียครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเธอ
“เทะสึกะ!!” พุ่งเข้ากอดอีกฝ่ายตามสเต็ปเดิมของตัวเองทันทีไม่สนหรอกว่า ใครจะมองเธอยังไง ขอได้อยู่กับเพื่อนสนิทคนเดียวคนนี้ของเธอก็เกินพอแล้ว
“ว้าว ๆ ตัวแค่นี้แต่กลับมาสาวน้อยมาติดพันด้วยแล้วงั้นเหรอ” กัปตันทีมของเซงาคุ ยามาโตะ ยูไดเดินเข้ามาแซวเทะสึกะกับริทสึ
“.................” เทะสึกะไม่ยอมพูดอะไรแค่เบือนหน้าหนีเท่านั้น
“สวัสดีค่ะ ฉันอยู่ปี 1 ชื่อโคโนเอะ ริทสึ...เป็นเพื่อนของเทะสึกะค่ะ” ริทสึพูดแนะนำตัวเองทันที
“โคโนเอะ ริทสึ.....โคโนเอะ...อ๋อ....เด็กผู้หญิงที่ลงนิตยาสารเทนนิสของเดือนนี้ใช่มั้ยล่ะ...ฉันเพิ่งอ่านเจอพอดี...”
“....โคโนเอะ ริทสึงั้นเหรอ~” คิคุมารุวัยล่ะอ่อนก็อยู่ด้วยเช่นกัน
“กะ ก็นักเทนนิสหญิงที่ชนะเลิศการแข่งจูเนียร์รุ่นอายุ 12-16 ปียังไงล่ะ” คาวามูระตอบ
“เอ๋~ มีนักเทนนิสเก่ง ๆ มาเรียนที่โรงเรียนเราด้วยเหรอ อยากแข่งด้วยจัง...”
“นี่ ๆ เทะสึกะ ฉันขอแข่งกับเด็กผู้ชายคนนั้นได้มั้ย”
“........ริทสึกลับบ้านกันเถอะ....” เทะสึเกะเดินไปหยิบกระเป๋าแล้วเดินจากไปทันที
“เอ่อ...ขอโทษนะค่ะ แต่พอดีว่า ตาแว่นเกิดอารมณ์ไม่ดีนิดหน่อย” ริทสึบอกลาก่อนจะรีบวิ่งตามเทะสึกะไปทันที
หลังจากนั้นวันแข่งรอบชิงขนะเลิศระดับภูมิภาค
“วันนี้พวกเราจะต้องชนะโรงเรียนยามาบุกิให้ได้....เพราะฉะนั้นอย่าประมาณเด็ดขาดล่ะ” กัปตันหญิงแห่งชมรมเทนนิสพูด
“พวกเราต้องทำให้ได้แน่นอนค่ะ” เหล่าสมาชิกต่างส่งเสียงเชียร์
“หึ ๆ โคโนเอะถึงเธอจะเก่งแค่ไหนแต่ก็ยังเป็นแค่ปี 1 คงจะแข่งอะไรไม่ได้หรอกนะ” พวกรุ่นพี่ต่างมองรุ่นน้องด้วยความสะใจ
“ไม่หรอกมั้ง......” กัปตันยิ้มบาง ๆ
“หมายความว่ายังไงค่ะ กัปตัน...”
“โคโนเอะ....เดี่ยวมือ 1 น่ะฉันขอฝากเธอด้วยนะ...”
“ตะ แต่กัปตันบอกว่า จะเป็นคนลงเองไม่ใช่เหรอค่ะ”
“โทษทีนะ แต่พอดีอาการเจ็บข้อมือของฉันมันกำเริบน่ะ...ฉันฝากด้วยนะ โคโนเอะ” กัปตันยื่นเสื้อตัวจริงให้กับริทสึ
“เกม แอน แมตท์ ยามาบุกิ 7-6 เกม....” ตอนนี้ทั้งเซชุนและยามาบุกิมีคะแนนเท่ากันเหลือแค่การแข่งรอบสุดท้ายของเดี่ยวมือ 1 ซึ่งเป็นการแข่งระหว่างกัปตันทีมยามาบุกิกับริทสึ
“หึ! มีพวกเซชุนก็มากันได้แค่นี้ล่ะนะ....ส่งเด็กปี 1 มาแข่งเดี่ยวมือ 1 แบบนี้”
“เอาไว้แข่งให้ชนะก่อนแล้วค่อยพล่ามก็ได้ค่ะ....”
“กะ เกม แอน แมทต์ เซชุน 6-0 เกม” ทุกคนต่างอึ่งและทึ่งเพราะว่า กว่าจะแข่งชนะได้ก็แทบหืดขึ้นคอแต่กับริทสึเธอใช้เวลาไม่นานก็เอาชนะคนอย่างกัปตันของโรงเรียนยามาบุกิลงได้อย่างง่ายดายแถมยังไม่เสียเหงื่อเลยแม้แต่นิดเดียว
“มะ ไม่จริงน่า....ยัยนั่นมัน...ปีศาจชัด ๆ เลย”
“หึ! จงเป็นเสาหลักของเซชุนต่อจากฉันซะ โคโนเอะ ริทสึ” เพราะการแข่งครั้งนี้ทำให้ริทสึถูกมองว่า จะเป็นกัปตันคนต่อไปเซชุน....
“ทำได้ดีมาก ริทสึ....” วันนี้เทะสึกะและพวกโออิชิมาดูการแข่งครั้งนี้ด้วย
“เทะสึกะ~” ว่าแล้วก็กระโดดกอดเทะสึกะทันที
“โคโนเอะจังติดนายมาก ๆ เลยนะ เทะสึกะ” ฟูจิหัวเราะเบา ๆ
“สุดยอดเลยน่า~ ริทสึสุดยอด~ ว่างมาแข่งกับฉันบ้างสิ” คิคุมารุดูคึกตักขึ้นมาพอเห็นการแข่งของริทสึ
“เอาไว้ก่อนดีกว่านะ....” ริทสึค่อนข้างจะสนิทกับพวกโออิชิมากกว่าสมาชิกในชมรมเดียวกันซะอีก
“ไง....วันนี้แข่งเป็นยังไงบ้างล่ะ” กัปตันยามาโตะแอบเดินเข้ามาหากัปตันหญิงของชมรมเทนนิส
“เฮ้! ยามาโตะฉันเจอแล้วล่ะ...เสาหลักคนใหม่ของชมรมเทนนิสหญิงเซงาคุ” เธอพูดด้วยหน้าตานิ่งเฉย
“เจอแล้วงั้นเหรอ....ฉันเองก็เหมือนกันนะ”
“รู้สึกว่า 2 คนนั้นเป็นเพื่อนกันด้วยใช่มั้ยล่ะ...”
“ก็น่าจะใช่นะ...”
“หึ! อีกไม่นานความฝันที่จะพาเซชุนไปสู่ระดับประเทศคงไม่ใช่แค่ความฝันลม ๆ แล้ง ๆ แล้วสินะ....” กัปตันทั้ง 2 ยืนมองแผ่นหลังเล็ก ๆ ที่น่าจะเป็นเสาหลักของเซชุนต่อจากพวกเขา
วันอำลาให้กับพวกรุ่นพี่ปี 3 ที่กำลังจะจบทุกคน
“โคโนเอะ....ฉันขอคุยอะไรกับเธอหน่อยได้มั้ย” กัปตันเรียกริทสึเข้าไปคุยกัน 2 ต่อ 2
“แบบนี้จะทำยังไงดีล่ะ...ฮิราเสะ เธอช่วยคิดหน่อยสิ” พวกปี 2 ต่างมาชุมนุมกัน
“ฉันให้คิดยังไงล่ะ....”
“ขืนปล่อยไว้แบบนี้มีหวังยัยเด็กนั่นก็ได้เป็นกัปตันแทนที่จะเป็นปี 2 อย่างพวกเรานะ”
“ก็รู้อยู่แต่จะหาวิธียังไงเท่านั้นล่ะ...”
“ทำไมไม่หาเรื่องเอาแร็ตเก็ตฟาดแขนให้เล่นเทนนิสไม่ได้เป็นไง...”ไ
“ทำแบบนั้นพวกกัปตันก็รู้ทันทีว่า เป็นพวกเราพอดี....แถมวิธีนั้นพวกผู้ชายก็เคยใช้มาแล้วนะเห็นว่า โดนลงโทษด้วยไม่ใช่เหรอ”
“แล้วจะทำอะไรดีล่ะ ความพยายามเป็นปี ๆ ก็เสียเปล่าพอดีนะ เธออุตส่าห์พยายามแทบตายเพื่อจะได้เป็นตัวจริงไม่ใช่เหรอ”
“ไม่หรอกน่า....ฉันน่ะจะหาวิธีที่ทำให้ยัยนั่นไม่มีหน้ากลับมาเข้าชมรมได้อีกเลยล่ะ” แรงอะไรก็ไม่แรงเท่าแรงอิจฉาริษยาของผู้หญิง
“ทุกคน....วันนี้ขอบคุณมาก ๆ เลยนะที่จัดเลี้ยงอำลาให้กับพวกฉันแบบนี้” เหล่าปี 3 พูดขอบคุณรุ่นน้องอีกครั้งหลังจากออกมาจากร้านอาหารที่พวกเขามาเลี้ยงอำลากัน
“ไม่เป็นไรอยู่แล้วล่ะค่ะ....” แกนนำอย่างฮิราเสะยิ้มหน้าระรื่นก่อนจะมองริทสึด้วยหางตา
“เกือบลืมบอกไป....ฉันน่ะได้เลือกกัปตันทีมต่อจากฉันไว้แล้ว....โคโนเอะช่วยเดินออกมาพูดอะไรกับพวกฉันแล้วก็ทุก ๆ คนหน่อยสิ...”
“เอาแบบนั้นก็ได้ค่ะ...กัปตัน....” ฮิราเสะเห็นว่ากำลังมีรถยนต์วิ่งมาพอดีเธอจึงใช้จังหวะนั้นผลักริทสึให้ล้มลงกับพื้นก่อนจะ.....
“โคโนเอะ....ระวัง!!!!”
โครม!!!
เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็ได้เกิดขึ้น....ริทสึถูกรถยนต์ชนแถมอาการของเธอยังสาหัสมากจนไม่รู้ว่า เธอจะสามารถกลับมาเล่นเทนนิสได้อย่างเดิมหรือเปล่า....
“ขอโทษด้วยจริง ๆ นะครับ....แต่ว่า กระดูกข้อเท้าขวาของลูกสาวคุณแตกแถมเอ็นข้อเท้าก็ยังฉีกอีก....อย่าว่าแต่เล่นเทนนิสเลยครับไม่รู้ว่าจะกลับมาเดินได้อย่างเดิมหรือเปล่าก็ยังไม่รู้” คำพูดที่เฉือนลึกเข้าไปถึงหัวใจของริทสึ
“ไม่จริง ๆ มันไม่จริงใช่มั้ยค่ะ!!!” ริทสึร้องไห้อย่างบ้าคลั่ง
“....ริทสึ......” ครอบครัวแทบจะทนไม่ได้ที่เห็นลูกสาวคนเล็กต้องตกอยู่ในสภาพที่สิ้นหวังแบบนี้
“.....ริทสึ....เทะสึกะคุงมาเยี่ยมจ๊ะ” เทะสึกะค่อย ๆ เปิดประตูเข้ามา.....
“อาการเป็นยังไงบ้าง.....” เขาวางขนมเค้กของโปรดของริทสึเอาไว้ที่โต๊ะ
“ก็เป็นอย่างที่เห็นนั้นแหล...แล้วที่ชมรมเป็นยังไงบ้าง”
“ฉันลองไปถามกับพวกรุ่นพี่ปี 2 เขาบอกว่า เธอสะดุดหกล้มไปเอง...” แววตาที่สิ้นหวังแปรเปลี่ยนเป็นแววตาที่โกรธเกรี้ยวทันที
“สะดุดหกล้มงั้นเหรอ....โกหก!! พวกมันโกหก!! พวกนั้นเป็นคนผลักฉันล้มเอง...!! จะบอกว่า ฉันสะดุดหกล้มเองได้ยังไงกัน!!!” ความรู้สึกสดใสในตัวของริทสึได้จากไปหมดแล้วเหลือแต่ความรู้สึกโกรธแค้นแสนสาหัสเท่านั้น
“ริทสึ.....” เทะสึกะกุมมือของริทสึไว้จนกว่าเธอจะใจเย็นลง
“เทะสึกะ....ขอโทษนะ..อึก...ฉันน่ะ...คงเล่นเทนนิส...อีกไม่ได้แล้ว....” ในที่สุดริทสึก็ยอมพูดสิ่งที่เจ็บปวดใจที่สุดออกมา ไม่ใช่เธอคนเดียวที่ทำใจไม่ได้เทะสึกะเองก็ทำใจไม่ได้เหมือนกัน....
“ไม่เป็นไร ฉันจะรอ....จนกว่าเธอจะกลับมาเทนนิสได้เหมือนเดิมเอง” เทะสึเกะเข้าไปกอดริทสึมันเป็นครั้งแรกได้มั้งที่เขาเป็นฝ่ายกอดริทสึ
ปัง!! เสียงเหมือนมีบางอย่างชนเข้ากับกำแพงหน้าห้องพักของริทสึ
“คุณน้าอิทารุเองเหรอค่ะ...” ไซโตะ อิทารุโค้ชของค่าย U-17 และเป็นลูกพี่ลูกน้องกับคุณแม่ของริทสึ
“เรื่องที่พี่สาวของฉันพูดเป็นเรื่องจริงสินะ....นักกีฬาชั้นเยี่ยมที่อุตส่าห์ฝึกมาตั้งแต่วัยเยาว์ของฉันทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะเนี่ย....” ไซโตะเดินเข้ามาพร้อมกุมหน้าผากตัวเอง
“ถ้าคุณน้ามีเรื่องจะคุยกับหนูแค่นี้ก็กลับไปดีกว่าค่ะ...”
“ใช่ที่ไหนกันล่ะ....ริทสึ...หลานอยากกลับมาเล่นเทนนิสอีกครั้งมั้ยล่ะ”
“แน่นอนอยู่แล้ว....หนูจะต้องกลับมาแล้วจัดการสั่งสอนพวกที่ทำให้หนูเป็นแบบนี้”
“เดี๋ยวเถอะ...เทนนิสไม่ใช่ของที่ใช้ทำร้ายใครนะ...อย่าลืมสไตค์การเล่นของหลานไปสิ” ไซโตะคืนแร็ตเก็ตให้กับเจ้าของตัวจริง
“แร็ตเก็ตที่พวกเทะสึกะอุตส่าห์เลือกให้หนูนี่นา....” ริทสึกอดแร็ตเก็ตไม่ยอมปล่อย
“ถ้าอยากกลับไปเล่นก็ต้องปล่อยวางเรื่องความแค้นส่วนตัวซะ...เดี๋ยวค่อยกลับมาล้างแค้นด้วยการแข่งก็ได้นี่นา...”
“เมื่อกี้คุณน้าเพิ่งบอกว่า เทนนิสไม่ใช่เครื่องมือล้างแค้นอยู่เลยนะค่ะ”
“โทษทีนะ..แต่พอดีน้ารู้จักศูนย์ทำกายภาพบำบัดที่น่าจะทำให้ขาของหลานกลับมาเดินแล้วก็เล่นเทนนิสได้เหมือนเดิมด้วยนะ”
“มันอยู่ที่ไหนเหรอค่ะ....” ริทสึเริ่มกลับมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง
“ที่เยอรมันน่ะ....ถ้าหลานอยากกลับมาเดินได้เหมือนเดิม...หลานจะต้องลาออกจากโรงเรียนแล้วบินไปทำกายบำบัดที่เยอรมัน”
“เอาแบบนั้นก็ได้ค่ะ.....หนูจะเดินทางไปเยอรมัน”
จากนั้นไม่นานน่ะ
“แฮ่ก ๆ” เด็กชายกำลังตั้งหน้าตั้งตาวิ่งไปยังบ้านหลังหนึ่งมันเป็นครั้งแรกได้ที่เขามีสีหน้าแตกต่างไปจากเดิม....ร้อนรนและตื่นตระหนก...
ปัง ๆ !!!
“คุณป้าครับ!! อยู่หรือเปล่าครับ!!!” เด็กชายแทบจะพังประตูเข้าไปหาเจ้าของบ้านทันที
“เทะสึกะคุงมีอะไรเหรอจ๊ะ....” คุณแม่ของริทสึเปิดประตูออกมา
“มันหมายความว่ายังไงกันครับ!! ทำไม...ทำไมริทสึถึงต้องลาออกจากโรงเรียนด้วยครับ!!!”
“.....ริทสึไม่ได้บอกเธอไว้เหรอจ๊ะว่า จะไปเยอรมันน่ะ....”
“เยอรมัน!! ไม่ครับ...เธอไม่ได้บอกอะไรผมสักคำ.....”
“งั้นเหรอจ๊ะ...”
“แล้วริทสึล่ะครับ เธออยู่ในบ้านหรือเปล่า....” เทะสึกะต้องการถามริทสึให้แน่ใจว่า ทำไมเธอถึงต้องไปเยอรมัน
“ขอโทษนะจ๊ะ แต่เธอมาเสียเที่ยวแล้วล่ะ ริทสึน่ะออกเดินทางตั้งแต่เมื่อคืนแล้วจ๊ะ”
“หลังจากผ่านมาได้ปีกว่า ๆ ฉันก็เดินทางกลับญี่ปุ่นแล้วก็ย้ายไปเรียนที่สาธิตริคไคจากนั้นก็ได้เจอเจ้าพวกบ้านั้น.....ทำเอาฉันปวดหัวไปนานพอดูเลยล่ะ...”
“งั้นเหรอ........”
“ก็ใช่น่ะสิ....เป็นอะไรงั้นเหรอ”
“เธอน่ะไม่ยอมบอกฉันเรื่องไปทำกายภาพบำบัดที่เยอรมัน.....รู้หรือเปล่าว่า ตอนนั้นฉันโกรธเธอมากเลยรู้มั้ย”
“งะ งั้นเหรอ...ฉันไม่ได้บอกนายเหรอ...” ริทสึทำท่าทีหลบเกลื้อน
“ใช่....ไม่ยอมบอกสักคำ จดหมายหรืออีเมล์ก็ไม่ยอมส่งมาด้วย ฉันน่ะเป็นห่วงเธอมาตลอดเลยรู้มั้ยล่ะ”
“เอาน่า ๆ ตอนนี้ฉันก็ได้มาเจอกับนายอีกครั้งแล้วยังไงล่ะแถมขาก็กลับมาเดินได้เหมือนเดิมแล้วด้วยสิ”
“นั่นสินะ........” เทะสึกะแอบยิ้มบาง ๆ ไม่ให้ริทสึเห็น
“เทะสึกะ เรามาแข่งกันสักแมทต์มั้ย....แข่งกันเล่น ๆ ไม่มีเงื่อนไขอะไรโอเคมั้ย”
“ก็เอาสิ....”
“หึ ๆ แต่ถ้านายแพ้ฉันต้องเลี้ยงขนมฉันน้า~ เทะสึกะ”
“ไหนเมื่อกี้เธอบอกว่า ไม่มีเงื่อนไขอะไรเลยไงล่ะ”
“เอ๋! ฉันพูดแบบนั้นด้วยเหรอเนี่ย....” ริทสึทำสีหน้าไม่รู้ไม่ชี้
“เธอนี่จริง ๆ เลยสิน่า...” เทะสึกะหัวเราะเบา ๆ
“เมื่อกี้นายหัวเราะนี่นา.....ทุกคน~ เมื่อกี้เทะสึกะหัวเราะด้วยล่ะ” ริทสึรีบวิ่งออกป่าวประกาศให้คนที่อยู่ข้างนอกรู้ทันที
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ ถ้าเธอพูดออกไปฉันจะยึดขนมในกระเป๋าเธอแน่” เทะสึกะวิ่งเข้ามาปิดปาดริทสึทันที
“ขอโทษค่า~ ยึดอย่างอื่นได้ยกเว้นขนมของเค้านะ T^T”
“ไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปกี่ปีหรือระยะทางจะห่างไกลกันแต่สำหรับพวกเราแล้ว.....พวกเราก็ยังคงเป็นเพื่อนกันตลอดไป......”
ความคิดเห็น