คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #25 : Love passion: 23 คุณหนูริทสึ กับ คุณชายเจ้าสำอาง
ณ ที่ห้องจัดเลี้ยงในโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง
“เฮ้อ~ น่าเบื่อชะมัดเลย” ริทสึยืนบ่นพร้อมกับเอนหลังพิงกำแพงห้องด้วยสีหน้าเบื่อหน่ายจากการโดนคนเป็นพ่อบังคับให้มาเป็นตัวแทนบริษัทในงานเลี้ยงที่จัดขึ้นโดยเจ้าของงานคือ ทายาทคนเดียวของกลุ่มอาโตเบะเพิ่งจะเซ็นสัญญาทำธุรกิจอะไรสักอย่าง
“คุณพ่อนะคุณพ่อไม่เห็นต้องบังคับกันแบบนี้เลยนี่นา...” ริทสึยืนอยู่ในชุดเดรสออกงาน แบบสายเดี่ยว กระโปรงเป็นทรงบอลลูนสีชมพูสวยที่เธอโดนพี่สาวจับลากไปแต่งตัวชุดใหญ่จนออกมาสวยได้แบบนี้ แต่บังเอิญว่า คนใส่ดันไม่คิดอย่างงั้น
“....ไม่เห็นจะรู้จักใครสักคนเลย เพราะแบบนี้ไงฉันถึงได้เกลียดการเข้างานสังคมแบบนี้ที่สุดน่ะ” พูดแล้วก็ถอนหายใจเบา ๆ อีกรอบหนึ่ง
“คุณหนูที่น่ารักตรงนั้นน่ะ ดูเธออารมณ์ไม่ค่อยดีเลยนะหรือว่างานเลี้ยงแค่นี้มันธรรมดาไปสำหรับเธองั้นเหรอ” ชายหนุ่มเจ้าสำอางอาโตเบะเดินมาหาเธอพร้อมกับผู้ติดตาม
“เอ๋! ไม่หรอกค่ะ แต่บังเอิญว่า ฉันน่ะไม่ค่อยรู้จักใครในนี้เท่านั้นล่ะค่ะ” ริทสึวางท่าเป็นกุลสตรีตามที่เธอได้เรียนมาจากคุณย่าของเธอ (คุณย่าของริทสึเปิดโรงเรียนฝึกสอนมารยาท)
“งั้นเหรอ ถ้าไม่รังเกียจล่ะก็ฉันขอเป็นเพื่อนคุยให้เธอก็แล้วกันนะ เนอะ คาบาจิ” จู่ ๆ คุณชายก็เสนอตัวเองเป็นเพื่อนคุยให้กับริทสึไม่ได้ถามความต้องการจากอีกฝ่ายเลยสักนิด
“ครับ”
“ไม่เป็นไรก็ได้ค่ะ ฉันเกรงใจแขกคนอื่นที่กำลังรอจะได้พูดคุยกับคุณชายน่ะค่ะ” เธอปฎิเสธทำให้อาโตเบะหน้าเหวอเล็กน้อย
“ชะ ช่างเถอะ ถึงยังไงซะฉันก็ไม่มีอะไรจะคุยกับแขกคนอื่นอยู่แล้วซะด้วยสิ” อาโตเบะกลับมาวางท่าอย่างเดิม
“อย่างงั้นเหรอค่ะ ไม่น่าเชื่อเลยว่า คนอย่างคุณชายจะไม่อยากคุยกับคนอื่นเป็นด้วยเหมือนกัน...”
“หึ! พูดได้ดีนิ” อาโตเบะหัวเราะ “จะรับแชมเปญหน่อยมั้ยคุณหนู” อาโตเบะยื่นแก้วแชมเปญของตนให้กับริทสึ
“ไม่ดีกว่าค่ะ ฉันไม่ค่อยถูกโรคกับของที่มีแอลกอฮอล์นะค่ะ”
“ไม่ต้องห่วงหรอกน่า แชมเปญแก้วนี้เป็นแบบไม่มีแอลกอฮอล์” ริทสึมองแก้วแชมเปญของอาโตเบะสักพักก่อนจะรับมันมาอย่างโดยดี
“อยู่ที่นี้เองเหรอ อาโตเบะ นึกว่า หายไปอยู่ที่ไหนซะอีก....” โค้ชซาคากิเดินเข้ามาหาด้วยอีกคน
“โค้ชซาคากิ”
“หือ! ที่แท้เธอก็มาหาคุณหนูคนนี้เองงั้นเหรอ....กำลังจะพามาแนะนำให้รู้จักอยู่พอดี” โค้ชซาคากิหันไปมองที่ริทสึสักพักก่อนจะหันกลับไปคุยกับอาโตเบะต่อทันที
“แนะนำ? ใครงั้นเหรอครับ”
“ก็คุณหนูที่ยืนอยู่ตรงนี้ยังไงล่ะ เธอเป็นตัวแทนของโคโนเอะกรุ๊ปที่มาร่วมงานในวันนี้ชื่อว่า โคโนเอะ ริทสึเป็นลูกสาวคนเล็กของประธานกลุ่มโคโนเอะ....” ริทสึก้มหัวให้ตามมารยาท อาโตเบะเอาแต่จับจ้องริทสึไม่ยอมวางตา
“โคโนเอะ ริทสึงั้นเหรอเป็นชื่อที่ดูเหมาะกับเธอมากเลยนะ เนอะ คาบาจิ”
“ครับ”
“คุณชายก็พูดชมเกินไปแล้วค่ะ” หน้าของริทสึเป็นสีชมพูเล็กน้อยมันยิ่งทำให้เธอดูน่ารักขึ้นมาทันที
“ไม่หรอกน่า......” พออาโตเบะพูดจบเสียงเพลงก็ดังขึ้น “จะโกรธมั้ย ถ้าฉันจะขอเธอเต้นรำสักเพลงน่ะ” อาโตเบะขอริทสึเต้นรำด้วยสักเพลง
“ฉันเต้นไม่ค่อยเก่งซะด้วยสิ แต่ก็...ได้สิค่ะ” ริทสึยื่นมือไปให้อาโตเบะ
“ทำได้ดีมาก อาโตเบะ” พอร่างของอาโตเบะและริทสึเดินเข้าไปตรงกลางฟอร์ ทุกคนก็รีบเดินออกไปทันทีเหลือแค่พวกเขา 2 คนเท่านั้น
“พวกนายทุกคนจงเมามัวในความงดงามของฉันซะ”
“คุณนี่พูดจาโอเวอร์จังเลยนะค่ะ”
“หึ ๆ ปากก็บอกว่า เต้นไม่เก่งแต่กลับเคลื่อนไหวได้พลิ้วไหวขนาดนี้เชียวนะ” อาโตเบะยิ้มอย่างพึงพอใจกับการได้เต้นรำกับริทสึ
“ก็มีผู้ชายที่เต้นเก่ง ๆ อย่างคุณเป็นคนนำฉันล่ะมั้งค่ะ”
“...นี่ฉันได้ยินมาว่า สาธิตริคไคมีผู้จัดการที่มีความสามารถเป็นผู้หญิง...มันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า”
“แล้วฉันบอกว่า จริงล่ะค่ะ คุณชายจะพูดกับฉันว่ายังไงค่ะ”
“หึ! ฉันก็จะบอกว่า ผู้หญิงคนนั้นคงเป็นผู้หญิงที่สวยและมีเสน่ห์ แถมยังฉลาด มีไหวพริบที่พอจะควบคุมเจ้าพวกตัวจริงนั้นได้ล่ะมั้ง”
“คุณพูดชมเกินไปหรือเปล่าค่ะ คุณชายอาโตเบะ”
“ฉันไม่ได้พูดชมเธอสักหน่อยแต่เป็นผู้จัดการสาวคนนั้นต่างหากล่ะ”
“...หึ ๆ แล้วถามฉันบอกว่า ผู้จัดการสาวคนนั้นเป็นฉัน คุณจะพูดยังไงค่ะ” รอยยิ้มแสนทรงเสน่ห์ผุดขึ้นมา
“.....คงจะบอกได้คำเดียวว่า ฉันชักเริ่มสนใจเธอแล้วสิ...”
“ทำอย่างงั้นคงไม่ได้หรอกมั้งค่ะ เพราะ มีคนคอยคุ้มฉันอยู่ตั้ง 8 คนนี่นา”
“จะให้ฉันชิงตัวเธอออกมาดีมั้ย” พออาโตเบะพูดจบเพลงก็จบลงด้วยเหมือนกัน
“ขอบคุณนะค่ะที่ชวนฉันเต้นรำ” ริทสึยิ้มให้ก่อนจะเดินหายไปท่ามกลางแขนคนอื่น ๆ
ตืด ๆ ตืด ๆ
“ฮัลโหล อาคายะคุงมีอะไรเหรอจ๊ะ” ริทสึเดินออกมารับลมอากาศนอกระเบียง
“กำลังทำอะไรอยู่งั้นเหรอ ริทสึ”
“อ๋อ~ ตอนนี้ฉันกำลังอยู่ในงานเลี้ยงที่โรงแรมน่ะ”
“เอ๋! ไปทำอะไรที่ไหนนั้นกันเนี่ย”
“วันนี้ฉันต้องเป็นตัวแทนคุณพ่อมาร่วมงานเลี้ยงน่ะ แต่พอมาแล้วกลับรู้สึกเบื่อยังไงไม่รู้สิ ชุดที่ใส่ก็อึดอัดมาก ๆ เลยนะ” ริทสึบ่นให้คิริฮาระฟัง
“งั้นเหรอ ๆ นี่ริทสึช่วยถ่ายรูปชุดที่เธอใส่มากให้หน่อยสิ ฉันอยากเห็นอ่ะ”
“อาคายะคุงเนี่ยฟังที่ฉันพูดอยู่หรือเปล่าเนี่ย” ริทสึเริ่มน้อยใจขึ้นมาแล้ว
“ฮ่า ๆ ขอโทษนะริทสึ อ๊ะ! แม่บอกฉันไปเข้านอนแล้วสิ...ราตรีสวัสด์นะ คนสวยของฉัน” คิริฮาระพูดทิ้งท้ายไว้ก่อนจะวางสายทันที
“คนสวย....งั้นเหรอ ฉันไปเป็นของอาคายะคุงตั้งแต่เมื่อไรนะ” ริทสึบ่นพึมพำแต่ก็ยังรู้สึกจั๊กจี้หัวใจนิดหน่อย
“เมื่อกี้คุยกับใครงั้นเหรอ คุณหนูคนสวย” อาโตเบะเดินมาหาริทสึอีกครั้งแต่คราวนี้ไม่มีคาบาจิตามมาด้วย
“กับเพื่อนที่ชมรมน่ะค่ะ คุณชายอาโตเบะ” ริทสึหันไปยิ้มให้กับเขา
“เรียกฉันว่า อาโตเบะก็ได้.....เอ้านี่ น้ำพั้นซ์หวังว่าคงถูกปากเธอนะ” อาโตเบะยื่นน้ำพั้นซ์อีกแก้วให้กับริทสึ
“ขอบคุณค่ะ....”
“ทำไมถึงชอบออกมาอยู่ในที่ที่ไม่ค่อยมีคนจังนะ เธอเนี่ย...”
“ฉันน่ะไม่ค่อยชอบการเข้าสังคมแบบนี้มาตั้งนานแล้วค่ะ ถ้าเป็นไปได้ฉันอยากจะออกไปเที่ยวตามงานวัดกับเพื่อน ๆ หรือเดินเล่นตามชายหาดแล้วก็ได้นั่งดูดอกไม้ไฟก็น่าจะสนุกกว่ามาก ๆ เลยนะค่ะ” แววตาของริทสึที่มองออกไปข้างนอกมันดูเป็นประกายมากกว่าตอนที่อาโตเบะเห็นตอนเต้นรำกับเขาซะอีก
“ไม่อยากเชื่อเลยว่า คุณหนูที่ดูเป็นกุลสตรีอย่างเธอจะชอบอะไร ๆ ที่มันธรรมดาเหมือนกับคนทั่วไปด้วย”
“อิ ๆ ฉันก็โดนคุณย่าพูดอยู่บ่อย ๆ เหมือนกันนะค่ะ...แต่ว่าฉันอยากจะถามคุณอาโตเบะเหมือนกันว่า อยู่ในช่วงแข่งระดับประเทศแท้ ๆ แล้วทำไมถึงมาจัดงานเลี้ยงหรูหราแบบนี้ได้ล่ะค่ะ...”
“หึ! พอดีฉันเพิ่งจะเซ็นสัญญาทำธุรกิจใหม่กับพ่อของเธอน่ะก็เลยอยากจัดงานเลี้ยงฉลองเท่านั้นเองล่ะ”
“คุณนี่ชอบทำอะไรโอเวอร์อย่างที่ทุกคนชอบพูดกันจริง ๆ เลยนะค่ะ”
“ส่วนเธอก็ชอบทำอะไรที่มันเรียบง่ายสินะ”
“คงประมาณนั้นมั้งค่ะ”
ตืด ๆ ตืด ๆ
“ฮัลโหลค่ะ....อ๊ะ! ยูคิมูระคุง......” ริทสึเหล่มองที่อาโตเบะเล็กน้อยก่อนจะก้มหน้าเป็นเชิงขอโทษก่อนจะเดินหาที่คุยเงียบ ๆ กับยูคิมูระกันแค่ 2 คน
“โคโนเอะจังกำลังทำอะไรอยู่งั้นเหรอ”
“ตอนนี้ฉันอยู่ในงานเลี้ยงที่โรงแรมน่ะจ๊ะ พอดีต้องมาร่วมงานแทนคุณพ่อ”
“งั้นเหรอ ตอนนี้ผมเพิ่งจะจัดตารางแข่งเสร็จเลยโทรมาบอกโคโนเอะจังก่อน”
“อย่าหักโหมมากนักล่ะ ยูคิมูระคุงฉันเป็นห่วงเธอนะ”
“ขอบคุณมากนะที่เป็นห่วงผมน่ะ..แล้วที่งานเลี้ยงเป็นยังไงบ้างล่ะ”
“อืม....ก็เฉย ๆ นะ พอดีฉันไม่ค่อยชอบเข้าสังคมอยู่แล้วด้วยสินะ”
“ถ้าไม่ชอบก็อย่าฝืนเลยนะ ผมไม่อยากเห็นหน้าเศร้า ๆ ของริทสึจัง”
“ขอบคุณนะจ๊ะที่เป็นห่วงฉันน่ะ”
“ผมขอตัวก่อนนะ ราตรีสวัสด์นะ ผู้จัดการของผม....คุณเป็นของผมคนเดียวนะ โคโนเอะจัง”
“ฮ่า ๆ พูดอะไรก็ไม่รู้นะ ยูคิมูระคุงเนี่ย”
ช่วงงานเลี้ยงจบลง
“เฮ้อ~ พี่จิกะมัวทำอะไรอยู่นะ โทรไปก็ไม่ยอมรับสักที” ริทสึบ่นกับมือถือของตัวเองก่อนจะมองที่นาฬิกาข้อมือเรือนสวยที่ตอนนี้กำลังบอกเวลาว่า อีกไม่กี่นาทีจะ 4 ทุ่มแล้ว
“มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ คุณหนูโคโนเอะ” โค้ชซาคากิขับรถผ่านหน้าโรงแรมที่ริทสึกำลังยืนรอรถของพี่สาวพอดี
“แค่โทรหาทางบ้านไม่ติดเท่านั้นเองค่ะ”
“ให้ฉันไปส่งที่บ้านมั้ย คุณหนูผู้น่ารัก” อาโตเบะเลื่อนกระจกลงมาทันที
“ไม่ดีกว่าค่ะ เดี๋ยวฉันนั่งรถแท็กซี่กลับไปก็ได้ค่ะ”
“อย่าทำเป็นเกรงใจไปหน่อยเลย เนอะ คาบาจิ”
“ครับ”
“เธอกลับบ้านพร้อมกับฉันก็ได้นะ ถ้าเธอยอมมานั่งข้าง ๆ ฉันจนกว่าจะถึงบ้านน่ะ” อาโตเบะเอามือตบเบาะข้าง ๆ ตัวเอง
“.....ถ้าอย่างงั้นก็....ขอรบกวนด้วยนะค่ะ” ริทสึขึ้นมานั่งข้าง ๆ อาโตเบะตามที่เขาพูดเอาไว้ แต่แทนที่พวกเขาจะไปส่งริทสึกลับถึงบ้านอย่างที่ได้พูดเอาไว้พวกเขากลับขับรถมาที่ชายหาดแทน
“คุณอาโตเบะ นี่มันอะไรกันค่ะ คุณบอกว่า จะพาฉันมาส่งถึงบ้านไม่ใช่เหรอ” ริทสึทำสีหน้าไม่พอใจอย่างมาก
“ชอบเงียบ ๆ แล้วเบิกตาให้ดีนะ ริทสึจัง” อาโตเบะเอามือเสยผมตัวเองก่อนจะชูมือขึ้นแล้วดีดนิ้วตามสไตค์ของตัวเอง
เป๊าะ!
ฟิ้ว~
ตูม!!
“นี่มัน.......ดอกไม้ไฟ.....” ริทสึมองดอกไม้ไฟที่ทยอยลอยออกมาเรื่อย ๆ เต็มไปทั่วท้องฟ้าในบรรยากาศที่สวยงามบนชายหาดแบบนี้
“...หึ ๆ แบบนี้คงจะทำให้พึงพอใจได้สินะ” อาโตเบะดูจะมั่นใจกับฝีมือของเขาอย่างแรง
“.....ทะ ทำไม...ถึงทำแบบนี้ล่ะค่ะ”
“ก็เธอบอกว่า งานเลี้ยงที่โรงแรมมันน่าเบื่อนี่นา ฉันก็เลยอยากจะหาอะไรทำให้เธออารมณ์ดีขึ้นมาเท่านั้นล่ะ” หลังจากที่ริทสึเดินไปหาที่คุยกับยูคิมูระ 2 ต่อ 2 อาโตเบะก็ทำการโทรจัดการแผนการณ์ทั้งหมดขึ้นมาทันที
“...แต่คุณไม่น่าทำอะไรแบบนี้กับผู้หญิงที่คุณเพิ่งรู้จักกันครั้งแรกแทบไม่ถึง 3 ชั่วโมงด้วยซ้ำ”
“พอดีมันเกิดแรงบันดาลใจให้อยากทำอะไรเซอร์ไพร...ผู้หญิงสวย ๆ คนหนึ่งเท่านั้นล่ะ เนอะ คาบาจิ”
“ครับ”
“อ่า~ คุณนี่มัน....คุณชายจอมโอเวอร์ขนานแท้เลยนะเนี่ย” ริทสึแทบจะพูดอะไรไม่ออกกับสิ่งวิเศษที่สวยงามอะไรแบบนี้
“หึ ๆ เรื่องนั้นมันแน่อยู่แล้ว....” ริทสึยืนชมดอกไม้ไฟกับอาโตเบะ
ศึกแข่งระหว่าง เฮียวเท กับ เซงาคุ
“เฮ้! พวกเฮียวเทมากันแล้ว” โมโมชิโระเรียกตัวจริงทุกคนให้หันไปมองพร้อมกันทั้งหมด
“หึ! การแข่งวันนี้ผู้ชนะจะต้องเป็นเฮียวเทของพวกเราเท่านั้น ส่วนคนที่แพ้ก็คือ พวกนาย...เซชุน....” อาโตเบะดูท่าทางมั่นใจเหมือนเพิ่งคว้าเทพีแห่งชัยชนะมาไว้ในมือของตัวเอง
“....อาโตเบะ....”
“เทะสึกะ วันนี้ฉันจะต้องชนะแล้วขึ้นเป็นนัมเบอร์วันของประเทศให้ได้”
“แฮ่ก ๆ นึกว่า จะมาดูการแข่งไม่ทันทีซะอีก” ริทสึวิ่งมาดูการแข่งด้วยความรีบร้อน
“อ๊ะ! ผู้หญิงในตอนนั้นนี่นา” โฮริโอะบังเอิญสังเกตเห็นริทสึเข้าพอดี
“ริทสึ! มาเชียร์เทะสึกะงั้นเหรอ” คิคุมารุวิ่งเข้าใส่ริทสึทันที
“....เอ่อ....จ๊ะ....”
“มาชมการแข่งที่งดงามของฉันสินะ คุณหนูผู้น่ารัก” อาโตเบะเห็นก็หันมาจ๊ะเอ๋เข้ากับริทสึพอดีเหมือนกัน
“ไม่เจอกันนานเลยนะค่ะ คุณอาโตเบะ” ริทสึยิ้มทักทาย
“ก็แค่ไม่กี่วันเองนี่นา..เนอะ คาบาจิ”
“ครับ”
“ขอให้วันนี้เป็นเกมที่สนุกอีกเกมนะค่ะ” ริทสึพูดอวยพรไม่ใช่ให้กับอาโตเบะแต่เป็นทุกคน ๆ ที่กำลังแข่งขันในวันนี้
“ผู้ชนะจะต้องเป็นเฮียวเทเท่านั้น.....” พอมาถึงตาของอาโบเตะกับเอจิเซ็น...แม้แต่จอมราชันย์อย่างสาธิตริคไคยังตามมาดูด้วยเลย
“นึกไม่ถึงเลยว่า เธอจะมาดูการแข่งด้วยเหมือนกัน” ซานาดะเดินเข้ามาหาริทสึ
“อ๊ะ! ซานาดะ ยานางิคุง ยูคิมูระคุงก็ด้วยงั้นเหรอ”
“ใจร้ายจังเลยนะ ปล่อยให้พวกเราไปแข่งตามลำพังส่วนคุณแอบมายืนดูแบบนี้เนี่ยนะ” ยานางิพูดออกแนวขำ ๆ นิดหน่อย
“นาน ๆ ทีจะได้เห็นการแข่งที่สนุกแบบนี้นี่นา”
“เป็นยังไงบ้างล่ะ การแข่งขันน่ะ โคโนเอะจัง”
“ตอนนี้ถึงตาอาโตเบะคุงแข่งแล้วล่ะจ๊ะ” ริทสึหันไปยิ้มให้กับพวกเขา
“มะ มาแล้ว สภาวะไร้ตัวตนของเรียวมะคุงนี่นา!” อาโตเบะใช้การแข่งบังคับให้เอจิเซ็นปลดปล่อยท่าสภาวะไร้ตัวตนออกมา
“เจ้าอาโตเบะจะดึงมันออกมาใช้ตั้งแต่ต้นเลยงั้นเหรอ” ซานาดะยืนดูนิ่ง ๆ
“เกม เซงาคุ 2-4” เอจิเซ็นถึงจะโดนอาโตเบะเล่นงานซะหนักแต่ก็สามารถตีตื้นกลับมาได้เหมือนกัน
“รู้สึกว่า เด็กปี 1 คนนั้นจะสั่งสมฝีมือเอาไว้เยอะเหมือนกันนะ” ริทสึพูดกับทั้ง 3 คน
“ดูอยู่เฉย ๆ เถอะ โคโนเอะ” ซานาดะสั่งให้ริทสึอยู่เงียบ ๆ ทันที
“118 117 เอจิเซ็นเป็นฝ่ายนำ” ทุกอย่างถูกดำเนินต่อไปจนถึงรอบแมตซ์พอย อาโตเบะถึงแม้จะหมดสติแต่ก็ยังลุกขึ้นมาอย่างราชันย์
“เกม แอน แมตซ์ เอจิเซ็น 7-6 โรงเรียนเซชุนผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ”
“นี่ขอโทษด้วยนะ ถึงจะหมดสติแต่ยังไงสัญญาก็เป็นสัญญานะ” เอจิเซ็นหยิบแบตตาเลี่ยนตัดผมออกมา
“เฮ้ย! เอจิเซ็นเอาจริงเหรอกับคนหมดสติไร้ทางสู้เนี่ยนะ” โมโมชิโระพูดขึ้น
“เดี๋ยวก่อน! ถ้าจะโกนล่ะก็มาโกนผมฉันดีกว่า” ซากิตัวจริงของเฮียวเทเข้ามาขวางทางไว้ก่อน
“งั้นก็ช่วยไม่ได้สินะ...” เอจิเซ็นกำลังโกนผมของซากิแต่มือของอาโตเบะก็มาแย่งแบตตาเลี่ยนไปจากมือของเขา
“หึ! คิดหรือว่า ความสง่างามของฉันจะมาสิ้นสุดลงด้วยเรื่องแค่นี้งั้นเหรอ” อาโตเบะเป็นคนโกนผมด้วยตัวเองก่อนจะเดินออกไปจากคอร์ท
“เป็นคนที่มีทิฐิสูงจังเลยนะ อาโตเบะคุงเนี่ย” ริทสึหัวเราะเบา ๆ
“จบแค่นี้สินะ กลับกันเถอะโคโนเอะ” พอเห็นว่า การแข่งจบลงซานาดะจึงสั่งให้กลับทันทีแต่ว่า....
“เดี๋ยวก่อนสิ ซานาดะ.....” อาโตเบะเดินเข้ามาพวกเขา
“มีธุระอะไรกับพวกเรางั้นเหรอ...” ทั้ง 3 คนหันไปมองอาโตเบะพร้อม ๆ กัน
“ใครบอกว่า ฉันมีธุระกับนายล่ะ....ฉันมีธุระกับผู้จัดการของพวกนายต่างหากล่ะ” อาโตเบะพูดพร้อมกับคว้าข้อมือของริทสึแล้วพาริทสึไปพร้อมกับเขาต่อหน้าต่อตาทุกคนที่อยู่บริเวณนั้นทันที
“คะ คุณอาโตเบะ”
“หึ! นี่ริทสึ....ตอนนี้เธออยากจะไปที่ไหนต่อล่ะ”
“เอ๋!...หึ ๆ คุณเนี่ยโอเวอร์ไม่เปลี่ยนเลยนะค่ะ” ริทสึก็ตามอาโตเบะไปเชียวกัน
“มันแน่นอนอยู่แล้ว แต่ก่อนอื่นเธอต้องมาเล็มผมให้ฉันใหม่ก่อนนะ”
“ได้สิค่ะ คุณอาโตเบะ”
“เดี๋ยวก่อนสิ อาโตเบะ!! จะพาผู้จัดการของพวกฉันไปไหนน่ะ” พวกซานาดะตะโกนขึ้นพร้อม ๆ กัน ถึงแม้ว่า การแข่งเทนนิสของอาโตเบะจะจบลงแต่การแข่งขันเรื่องความรักยังไม่จบอยู่เพียงเท่านี้แน่นอน.........
ความคิดเห็น