ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Prince of tennis] love passion กระหน่ำหัวใจส่งให้เธอ

    ลำดับตอนที่ #22 : Love passion: 20 ศัตรูหัวใจ เทะสึกะ คุนิมิสึ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.38K
      22
      28 พ.ค. 55

     

    ที่ห้องริทสึ

    “ว่าไงจ๊ะ ตาแว่นจะกลับญี่ปุ่นเมื่อไร...” สาวน้อยริทสึนอนคุยโทรศัพท์กับเพื่อนสมัยเด็กอย่างสบายใจ

    “เลิกเรียกฉันแบบนั้นได้แล้วนะ ริทสึ” เสียงทุ้ม ๆ ปลายสายพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยใจ

    “อะไรกันยะ อุตส่าห์เป็นห่วงก็เลยโทรหาเชียวนะ” เสียงพูดของเธอดูน้อยใจนิด ๆ ทำให้คนอีกด้านหนึ่งแอบอมยิ้มในใจ

    “หึ ๆ งั้นก็ขอโทษด้วยนะ....”

    “......นี่เทะสึกะ...ไหล่น่ะหายดีแล้วใช่มั้ย” น้ำเสียงที่เอ่ยดูอ่อนโยนลงกว่าเมื่อกี้

    “อืม.....คงแข่งรอบประเทศได้แล้วทางเธอล่ะเป็นยังไง...”

    “ก็นะ มีบางคนที่หัวเสียเพราะแพ้ตอนแข่งรอบคันโต...ตอนนี้ก็กำลังฝึกหนักมากเลยล่ะ ยูคิมูระคุงก็หายดีเป็นปกติแล้วด้วยแข่งระดับประเทศต้องสนุกแน่ ๆ เลย”

    “นั่นสินะ......”

    “เทะสึกะจะกลับมาเมื่อไรงั้นเหรอ คือว่า....ฉันคิดถึงนายน่ะ....”ตัวเองพูดเองยังรู้สึกเขินอายเอง...

    “....ฉันก็คิดถึงเธอนะ ริทสึ...” เพราะว่า พูดคุยกันทางโทรศัพท์ริทสึถึงไม่ได้ภาพเทะสึกะกำลังยิ้มเบา ๆ ขณะพูดกับเธอ

    “....มะ ไม่ได้มีแต่ฉันนะที่คิดถึงนายน่ะ พวกโออิชิก็คิดถึงนายนะ...เอ่อ...ฉันเพิ่งได้คุยกับพวกนั้นเมื่อไม่นานนี่เองแหละ...." หน้าของริทสึเริ่มแดงขึ้นเรื่อย ๆ

    “ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยนะ ไอ้นิสัยที่ปากแข็งแก้เขินของเธอ...”

    “ขะ เขินอะไรกันเล่า ฉันไม่ได้เขินสักหน่อย” ริทสึปฏิเสธเสียงแข็ง

    “เข้าใจแล้ว.......ริทสึ....ฉันอยากเจอเธอจริง ๆ”

    “นายกลับมาเมื่อไรก็มาหาฉันได้นี่นา...”

    “ฉันคิดว่า จะกลับในวันที่ประชุมแบ่งสาย”

    “เอ๋! งั้นก็อีก 2 วันนี่นาจะให้ฉันไปหาที่จัดประชุมมั้ย....”

    “ได้สิ...ถ้าเธอไม่กลัวว่า ทางนั้นจะโกรธเธอนะ ริทสึ”

    “ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอกน่า ฉันจัดการเองได้......เทะสึกะ นายกลับมาเมื่อไรพวกเรามาแข่งเทนนิสกันอีกนะ...”

    “ได้สิ อย่าทิ้งฉันไปเมื่อตอนที่ไปเยอรมันนะ”

    “ฮ่า ๆ ไม่มีทางหรอกน่า......นี่เทะสึกะ เทนนิสสนุกดีนะ” ริทสึถามคำถามเดิมที่ชอบถามพวกซานาดะบ่อย ๆ

    “นั่นสินะ มันคงจะสนุกมาก ๆ ถ้าได้เล่นกับเธอ ริทสึ”

    “พอเลย ๆ เลิกพูดอะไรที่มันชวนเลี่ยนแบบนั้นได้แล้ว กลับไปนอนได้แล้วยะ” ริทสึรีบเปลี่ยนเรื่องแล้วสั่งให้เทะสึกะเข้านอนทันที

    “หึ ๆ ก็ได้....ไว้เจอกันที่โตเกียวนะ ริทสึ”

    “ราตรีสวัสดิ์นะ เทะสึกะ”

    “ฝันดีล่ะ ริทสึ”

     

    2 วันต่อมา ณ ที่ประชุมแบ่งสาย

    “....ฮ่า ๆ ไม่ค่อยสมกับเป็นพวกสาธิตริคไคเท่าไรได้ยินว่า แพ้ในการแข่งรอบคันโตด้วยล่ะ”

    “ราชันต์ริคไคคงมาได้แค่ปีที่แล้วล่ะมั้ง ฮ่า ๆ”

    “ถ้าอยากพูดอะไรทำไมไม่พูดต่อหน้าเลยล่ะ” ซานาดะเดินเข้าหา 2 หนุ่มที่กำลังนั่งนินทาทีมของเขาอยู่

    “ซะ ซานาดะ......”

    “ซานาดะเนี่ย ใช่นักเรียนม.ต้นที่ท่าทางขรึม ๆ ใช่เปล่า” เด็กหนุ่มผิวสีแทนสวมหมวกพูดขึ้น

    “แบบนี้ไม่ดีนะ คาอิคุง” เด็กหนุ่มผิวสีแทนสวมแว่นซึ่งนั่งข้าง ๆ เขาพูดห้ามขึ้น

    “คิเทะงั้นเหรอ ปีหน้าคิวชูรวมโอกินาว่ามาด้วยนี่นา” ซานาดะพูดกับตัวเอง “....แต่ที่น่าหงุดหงิดกว่านั้นก็คือ ทำไมโคโนเอะยังไม่มาสักทีไหนบอกว่า จะรีบทำธุระให้เสร็จเร็ว ๆ ยังไงล่ะ”

    “เซชุน โรงเรียนเซชุนตัวแทนเขตโตเกียวมาด้วยหรือเปล่าครับ”

    “คะ ครับ ขอโทษด้วยนะครับ” โออิชิมีท่าทางประหม่า

    ปัง!

    “โออิชิ ฉันขอเป็นคนจับแทนนายได้มั้ย....” เทะสึเกะยืนเด่นอยู่ที่ประตูโดยมีเด็กสาวร่างบางผมสีน้ำตาลยาวสวยกับดวงตาสีน้ำตาลกลมโตยืนอยู่ข้างหลังเขา

    “เทะสึกะ.....” โออิชิมองเพื่อนสนิทของตัวเอง

    “ขอโทษด้วยนะที่มาช้า ซานาดะ” ริทสึเดินแยกตัวออกมาหาซานาดะ

    “เธอหายไปไหนมาแล้วมากับเทะสึกะได้ยังไง” ซานาดะถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจที่เห็นริทสึเดินมากับเทะสึกะ

    “อย่าโกรธสิ ฉันแค่ไปรับเทะสึกะที่สนามบินเท่านั้นล่ะ”

    “แล้วทำไมเธอต้องไปรับเจ้านั่นด้วย”

    “ซานาดะ ฉันเป็นเพื่อนของเทะสึกะนะแถมเรา 2 คนก็นัดกันไว้แล้วว่า จะไปรับที่สนามบิน....อย่าโกรธไปเลยนะ” ริทสึพยายามทำให้ซานาดะอารมณ์ดีขึ้นแต่พอเธอยิ่งพูดมันยิ่งทำให้เขาหงุดหงิดขึ้นไปอีก

    “เฮ้! สาวที่นั่งข้าง ๆ ซานาดะคือใครอ่ะ” หลายคนต่างก็ถามด้วยเสียงเดียว

    “น่ารักสุด ๆ เลยอ่ะ...”

    ชิ้ง!!

    “หยึย~” ซานาดะตวัดสายตาไปหาพวกผู้ชายทุกคนที่บังอาจมาจ้องร่างบางที่นั่งข้าง ๆ เขาด้วยสายตาที่แทบจะมองทะลุตัวได้เลย

    “เทะสึกะ~” พอประชุมกันเสร็จเรียบร้อยริทสึก็จูงมือซานาดะให้มาหาเทะสึกะกับโออิชิทันที

    “ริทสึขอบคุณที่มารับนะ” สายตาของเทะสึกะที่จ้องมองริทสึมันช่างอบอุ่นมากจนซานาดะเริ่มอารมณ์บูดรอบสอง

    “มิน่าตอนที่ฉันโทรหาถึงบอกว่า มีธุระให้ไปก่อน ไอ้ธุระที่ว่าคือแบบนี้สินะ” ซานาดะพูดด้วยน้ำเสียงนิ่ง ๆ แต่พอฟังดี ๆ ก็จะรู้ว่า แอบแฝงด้วยอารมณ์น้อยใจอยู่ด้วย

    “แต่ฉันก็มาหาแล้วไม่ใช่รึไง ทำเป็นน้อยใจไปได้”

    “แบบนี้มันดูไม่ได้เลยนะ ซานาดะ” เทะสึกะพูด

    “ไม่ใช่เรื่องของนายสักหน่อย เทะสึกะ” ซานาดะจ้องมองเขม็ง

    เปรี๊ยง!!

    “เอ่อ....ทำให้บรรยากาศดูอึมครึมจังเลยนะ” โออิชิพูด

    “.....เหมือนเห็นประกายไฟในสายตาของเจ้าพวกนั้นด้วยล่ะ” ริทสึมองทั้งคู่ที่จ้องเขม็งใส่กันจนแทบจะประกายไฟอยู่แล้ว

    “หึ!/ชิ!” ทั้งคู่หันหน้าไปทางอื่นพร้อมกัน

    “คะ ใครก็ได้ช่วยบอกฉันทีว่า เกิดอะไรขึ้นกับ 2 คนนั้นกันแน่”

    “ผมเองก็บอกธอไม่ได้เหมือนกันนะ ริทสึจัง” โออิชิก็ดูจะงง ๆ ไม่ใช่น้อย ๆ

    “เฮ้อ~ ถ้าอย่างงั้นพวกเราไปหาร้านข้าวอร่อย ๆ ทานกันเถอะนะ ฉันหิวแล้วด้วยสิ” ริทสึเดินเข้าไปแทรกระหว่างกลางแล้วควงแขนของทั้งคู่ก่อนจะลากไปยังร้านคาเฟ่ใกล้ ๆ

     

    ในร้านคาเฟ่

    ครืน~ บรรยากาศยังคงอึมครึมเหมือนเดิม ริทสึกับโออิชิที่นั่งข้าง ๆ เริ่มเหงื่อตกกับชายร่างสูงทั้ง 2 คนมาก

    “เอ่อ พวกนายจะสั่งอะไรกันดีล่ะ” โออิชิถามเผื่อจะลดบรรยากาศดูได้บ้าง

    “ฉันขอพาสต้าสลัดล่ะกัน....” ริทสึสั่งก่อนเป็นคนแรก

    “โคโนเอะ...ทำไมเธอถึงสั่งน้อยจังปกติเธอต้องสั่งเยอะกว่านี้ไม่ใช่เหรอ” ซานาดะถามด้วยสีหน้าเป็นห่วง

    “ไม่รู้สิ พอเดินเข้ามาในร้านก็รู้สึกแปลก ๆ เหมือนไม่ค่อยสบายน่ะ” ริทสึมีสีหน้ากระอักกระอวนดูเหมือนคนไม่ค่อยสบายอย่างที่เธอได้พูดไว้

    “สั่งซุปผักมาทานหน่อยมั้ย ริทสึ” เทะสึกะถามด้วยความเป็นห่วง

    “ก็ดีเหมือนกัน ฝากด้วยนะโออิชิ....แล้วก็ช่วยสั่งเนื้อผัดซอสมาให้ด้วยนะ”

    “เธอสั่งให้ตัวเองงั้นเหรอ....” ซานาดะถาม

    “เปล่า..ฉันสั่งให้นายน่ะก็คิดว่า เพราะฉันลากนายเข้ามาร้านนี้โดยที่ไม่ได้ถามอะไรเลยอาจจะทำให้นายหงุดหงิดจึงสั่งของที่คิดว่า นายน่าจะพอทานได้มาให้น่ะ”

    “.....ขอบใจนะ โคโนเอะ....” ท่าทางและการพูดระหว่างริทสึกับซานาดะอยู่ในสายตาของเทะสึกะทั้งหมด

    “ริทสึจัง ขอบคุณสำหรับวันนี้มากนะ” โออิชิพูดขึ้นหลังจากทุกคนเดินออกมาจากร้านนั้นแล้ว

    “ก็พวกเราเป็นเพื่อนกันนี่นา”

    “เอาไว้เจอกันอีกทีที่สนามแข่งก็แล้วกัน...” ทั้งเทะสึกะและริทสึต่างก็มองหน้ากันสักพัก

    “แน่นอนล่ะ...แล้วคราวนี้คนที่จะชนะต้องเป็นสาธิตริคไคเท่านั้น”

    “ หึ แล้วเจอกันนะ.....” เทะสึกะกับโออิชิเดินทางกลับบ้านของพวกเขาแต่พอแยกกันสักพักเทะสึกะก็ไม่ลืมที่จะหันกลับไปมองริทสึที่เดินกลับพร้อมกับซานาดะ

     

    วันแข่งคัดเลือกระดับประเทศระหว่าง ฮิวงะ กับ เซชุน

    ตอนนี้เหลือเพียงแค่การแข่งเดี่ยวมือ 1 ระหว่าง เทะสึกะ คุนิมิสึ กับ คิเทะ ฮิโยชิ เท่านั้น ขณะแข่งคิเทะได้ใช้วิธีต่าง ๆ เพื่อที่จะเอาชนะเทะสึกะแต่จู่ ๆ เทะสึกะก็เปิดสภาวะไร้ตัวต้นของตัวเองออกมา

    “สุดยอด!! นี่น่ะเหรอกัปตันเทะสึกะตัวจริงน่ะ” โมโมชิโรพูดขึ้น

    “ถูกต้องแล้ว นี่ล่ะคือ พลังที่แท้จริงของเทะสึกะ” 3 บิ๊กทรีของสาธิตริคไคเดินมาดูการแข่งของเทะสึกะด้วยตัวเอง

    3 ปีศาจแห่งสาธิตริคไคมากันหมดเลยงั้นเหรอ!!

    “เธอคิดว่ายังไงล่ะ โคโนเอะจัง....” พอยูคิมูระพูดจบริทสึก็เดินออกมาจากข้างหลังของ 3 คน ริทสึมองการแข่งด้วยสายตานิ่งเฉยและท่าทางหยิ่งยโส มันไม่ใช่แววตาสดใสร่าเริงที่ทุกคนเคยเห็นเหมือนทุกครั้ง....

    “ยูคิมูระคุงเรียกฉันมาเพราะเรื่องแค่นี้งั้นเหรอ...” ริทสึพูดน้ำเสียงเย็นชา

    “โคโนเอะ ริทสึนี่นา” นักข่าวนิตยสารโปรเทนนิสรายเดือนพูดขึ้น

    “รู้จักเด็กผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ทั้ง 3 คนด้วยเหรอค่ะ รุ่นพี่อิโนอุเอะ” นักข่าวสาวรุ่นน้องเอ่ยถามด้วยความสงสัย

    “อะ อืม.....นักเทนนิสหญิงอัจฉริยะ โคโนเอะ ริทสึ....เป็นนักเทนนิสหญิงม.ต้นที่เก่งที่สุดเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่วงการเทนนิสจับตามอง มีฝีมือสูสีกับเทะสึกะคุงหรือไม่ก็ 3 ราชันย์แห่งสาธิตริคไคเลยล่ะ...ไม่อยากเชื่อเลยว่า ขนาดนักเทนนิสหญิงที่เก่งที่สุดยังอยู่ที่สาธิตริคไคด้วย” อิโนอุเอะอธิบายให้ฟัง

    “เอ๋!! เก่งขนาดนั้นเลยเหรอค่ะแต่ทำไมถึงไม่เคยได้เห็นหน้าเด็กคนนั้นเลยค่ะ”

    “....เมื่อปีที่แล้วเกิดอุบัติเหตุรถชนแถมผู้ที่ประสบอุบัติเหตุก็คือ โคโนเอะ ริทสึ เด็กคนนั้นนั่นแหละ ถึงจะรอดตายมาได้แต่ก็บาดเจ็บหนักจนได้ยินข่าวลือว่า จะไม่สามารถเล่นเทนนิสได้อีก เห็นว่า บินไปรักษาตัวอยู่ที่เยอรมันยังไงล่ะ”

    “เฮ้อ~ ฉันล่ะไม่ค่อยชอบพวกนักข่าวก็ตรงนี้เนี่ยแหละ ดันรู้เรื่องส่วนตัวของคนอื่นมากเกินไป” ริทสึพูดพร้อมกับส่งสายตานิ่ง ๆ แต่เย็นยะเยือกให้กับอิโนอุเอะ

    “หะ หา....”

    “พูดแต่เรื่องไร้สาระอยู่ได้.....”

    “ไม่เห็นเป็นอะไรเลยนิ เก็นอิจิโร่....พวกเขาแค่ทำหน้าที่ในฐานะนักข่าวเท่านั้นล่ะ” ยานางิพูด

    “หึ ๆ โคโนเอะจังเป็นยังไงบ้างที่ได้เห็นการแข่งของเพื่อนสมัยเด็กของตัวเองน่ะ” ยูคิมูระเอ่ยถาม ริทสึเอามือเท้าเอวก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ

    “...น่าเบื่อจะตายไป ฉันน่ะแข่งกับเทะสึกะมาเป็นร้อย ๆ ครั้งแล้วนะ จะเรียกให้มาดูอีกทำไมกันเนี่ย ยูคิมูระคุง” ริทสึพูดอย่างไม่พอใจกับการที่ลากเธอมาด้วย

    “....แล้วผลมันเป็นยังไงบ้างล่ะ...” ยานางิถามต่อเพราะที่เขาถามแบบนี้เพื่อจะเป็นการประกาศความเก่งกาจของผู้จัดการทีมของพวกเขาด้วยเหมือนกัน

    “น่ารำคาญจริง ๆ ส่วนมากพวกฉันก็แค่เสมอกันเท่านั้น...แต่ก็นะ...ทั้งเทะสึกะและฉันเคยพ่ายแพ้ให้แก่กันแค่ครั้งเดียวเท่านั้นเอง....” แววตาของริทสึแอบเปลี่ยนเป็นแววตาที่เศร้าหมองในชั่วขณะ

    “ยะ อย่างกัปตันเนี่ยนะเคยแพ้ด้วยนะ” โฮริโอะเด็กปี 1 ปากมากประจำชมรมเทนนิสเซงาคุ

    “มันก็แค่สมัยที่ยังเป็นเด็ก ๆ เท่านั้นล่ะ แต่หลังจากเหตุการณ์นั้น (ตอนที่เทะสึกะมีเรื่องกับรุ่นพี่ตอนปี 1) ฉันก็.....ไม่ได้แข่งกับเทะสึกะอีกเลย...” ริทสึเดินเข้าชมการแข่งใกล้ ๆ เทะสึเกะแอบเหล่มองที่ริทสึก่อนจะกลับไปสนใจการแข่ง

    “เอ๋! มันก็จริงนี่เน๋อ~ หลังจากตอนนั้นริทสึก็ไม่ยอมเป็นคู่ซ้อมให้เทะสึกะอีกเลยนะ” คิคุมารุพูดขึ้น

    “ฮะ เฮ้! เอจิ”

    “ไม่ต้องคิดมากหรอกน่า ฉันน่ะไม่ชอบพูดเรื่องอดีต ๆ สักเท่าไรน่ะ” ริทสึแกล้งทำเป็นยิ้มแต่จริง ๆ แล้วเธอกำลังเศร้าอยู่มากกว่าและคนเดียวเท่านั้นที่มองออกก็คือ...เทะสึกะ....

    “โคโนเอะเลิกคุยได้แล้ว รีบไปกันเถอะ” ซานาดะพูดเมื่อเห็นว่าการแข่งสิ้นสุดกันแล้วจึงคิดจะเดินทางกลับกัน

    “เข้าใจแล้วล่ะ คงจะได้เจอกันอีกรอบนะทุกคน” ริทสึโบกมือลาก่อนจะเดินไปกับ 3 ราชันย์

    “ริทสึ.....นี่เธอ........” เทะสึกะมองริทสึอย่างเงียบ ๆ

     

    ขณะที่ตัวจริงเซงาคุกำลังจะเดินทางกลับก็หยุดชะงักเมื่อมองเห็นร่างของสาวน้อยร่างบางยืนส่งยิ้มให้กับพวกเขาอยู่

    “ริทสึ.........” เทะสึกะมองร่างบางที่กำลังเดินเข้ามาหาเขา

    “ยังสุดยอดเหมือนเดิมเลยนะ เทะสึกะ” รอยยิ้มพิมพ์ใจที่แสนอบอุ่นของริทสึกลับมาอีกครั้ง

    “นี่เธอมายืนรอพวกฉันงั้นเหรอ”

    “หรือว่า ฉันทำแบบนั้นไม่ได้ล่ะก็อยากจะมาพูดกับเพื่อนสมัยเด็กเท่านั้นล่ะ รู้หรือเปล่ากว่า ฉันจะกล่อมซานาดะให้ปล่อยฉันมาหานายได้ก็แทบแย่เหมือนกัน”

    “เข้าใจแล้วล่ะ....เก่งมากเลยนะ ริทสึ” เทะสึกะเอามือลูบหัวของริทสึเบา ๆ

    “เฮ้ย! โคโนเอะพอได้หรือยัง” ซานาดะกับพวกยูคิมูระกำลังยืนรอเธออยู่

    “ระ รู้แล้วล่ะน่า!!” ริทสึหันไปตะโกนตอบกับซานาดะ

    “จะไปกันแล้วงั้นเหรอ....”

    “ขอโทษนะ แต่ฉันต้องไปแล้วล่ะ....” ในขณะที่ริทสึกำลังจะเดินกลับไปหาพวกซานาดะ เทะสึก็ได้ตัดสินใจคว้ามือของริทสึเอาไว้แล้วดึงตัวเธอเข้ามากอดต่อหน้าทุกคน

    “กะ กัปตัน!!” โมโมชิโระต้องรีบเอามือปิดหน้าตัวเองแล้วก็เอามือปิดตาของเอจิเซ็นด้วยเหมือนกัน

    “คะ โคโนเอะ!!” ฝ่ายซานาดะเองก็ตกใจไม่ใช่น้อย ๆ เหมือนกัน

    “ทะ เทะสึกะ....” ริทสึที่อยู่ในอ้อมแขนเงยหน้ามองอีกฝ่าย

    “....................................” เทะสึกะกระซิบข้าง ๆ หูริทสึ

    “.......................” ริทสึหน้าแดงจนทำอะไรไม่ถูกแล้ว

    “.......อย่าลืมที่ฉันบอกล่ะ.....” เทะสึกะจุมพิตที่หน้าผากของริทสึเบา ๆ

    “.........อ๊อก!...” ริทสึหน้าแดงจนสลบคาแขนเทะสึกะ

    “โคโนเอะ!!” พวกซานาดะตกใจรอบ 2 พอให้เห็นริทสึสลบเหมือดไปข้างในอ้อมแขนของเทะสึกะ

     

    วันต่อมา

    ครืน~

    “โคโนเอะ!!” ซานาดะเปิดประตูเข้ามาแล้วเดินอ่าวจ้ำมาหาริทสึทันที

    “มะ มีอะไร” หลังจากวันที่ริทสึสลบคราวนั้นซานาดะก็ยิ่งหวงเธอมากขึ้นกว่าเก่าแถมยังไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ริทสึเกินที่กำหนดอีกด้วย

    “บอกมาเดี๋ยวนี้นะว่า เทะสึกะพูดอะไรกับเธอบ้างในวันนั้นน่ะ” ริทสึทำหน้าเซ็ง ๆ พอรู้ว่า ซานาดะมาหาเธอเพราะเรื่องอะไร

    “เปล่านิ เทะสึกะไม่ได้บอกอะไรกับฉันเลย” ริทสึตอบอย่างหน้าตาเฉย

    “เธอโกหก!!” พูดกี่รอบ ๆ ซานาดะก็ไม่ยอมเชื่อสักที

    “ก็บอกแล้วไงว่า ไม่ได้พูดอะไร” ริทสึก็ปฏิเสธเสียงแข็งเหมือนเดิม

    “ฉันไม่เชื่อ! บอกมาเดี๋ยวนี้นะ” แหมแต่ตอนที่เธอกำลังเดินซานาดะยังไม่ยอมปล่อยให้เธอรอดตัวไปได้

    “โอย~ ก็บอกว่า ไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้นแหละ” ริทสึพยายามเดินหนี

    “ฉันสั่งว่า ให้บอกมาเดี๋ยวนี้” ซานาดะพยายามเดินตามแทบจะวิ่งเข้าใส่ด้วยซ้ำ

    “อ้าก~ เลิกยุ่งกับฉันสักที!!” ริทสึวิ่งสุดชีวิตจนสามารถหนีซานาดะเข้ามาหลบในห้องเก็บของได้

    “แฮ่ก ๆ คงจะหนีพ้นแล้วสินะ” ริทสึมีอาการเหนื่อยหอบสุด ๆ “โอย~ ไม่นึกเลยว่า จะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาเนี่ย ทั้งซานาดะทั้งเทะสึกะชอบสร้างเรื่องให้ฉันกันจังเลย” เธอบ่นกับตัวเอง

    “งืม~” ริทสึนั่งลงกอดเข่าตัวเอง “......นี่เทะสึกะยังไม่ลืมคำสัญญานั้นอีกเหรอเนี่ย...”

    “ริทสึ....ฉันมาทวนคืนสัญญา...เพราะงั้นริมฝีปากนี่ห้ามมอบให้ใครเด็ดขาดนะ” นี่คือ ประโยคที่เทะสึกะได้พูดเอาไว้กับริทสึ

     

    เผยจุดอ่อนข้อแรกของริทสึ : ริทสึมีจุดอ่อนอยู่ตรงที่ว่า ถ้าใครเข้ามากอดเธอจากด้านหน้าโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัวแล้วล่ะก็เธอจะเขินมากจนสลบไปทันที (คนที่รู้ความลับนี่คือ เทะสึกะ คนเดียวเท่านั้น) 


    Photobucket
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×