ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Code geass] สิ่งที่สำคัญ what is most important?

    ลำดับตอนที่ #9 : [Short fic] Flower and Sword

    • อัปเดตล่าสุด 20 ก.ย. 54



    หยุดพักซะนิด แล้วหันมาแต่งเรื่องสั้น ^ ^

    วันนี้เราลองแต่งเรื่องสั้นมา ไม่รู้จะดีรึเปล่า 

    ช่วยๆกัน วิจารณ์หน่อยนะค่ะ ไม่ค่อยได้แต่งเรื่องสั้นแบบนี้สักเท่าไร

    ยังไงก็ฝากด้วยนะค่ะ บายๆๆ ^0^

    บอกไว้ก่อนว่า พี่สุกับนู่มารีน่า คนเดิมคู่เดิมไม่เปลี่ยนแปลง 55555+


    _________________________________________________________________

    มารีนาที่ตอนนี้เป็นแฝดน้องของลูลูซ เจ้าหญิงที่ถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวในบริททาเนีย

    ------------------------------------

    ---------
    -----------
    -------------

    เธอเหมือนกับดอกกุหลาบที่เต็มไปด้วยหนามแหลมที่คอยทิ่มแทงคนที่หยิบจับดอกไม้นั้น
    ส่วนเขาก็เป็นเหมือน ดาบที่จะคอยทำลายหนามแหลมนั้นให้หมดไป

     

    ยูฟี่น่ะเหรอ..... เจ้าหญิงพระองค์หนึ่งเอ่ยขึ้นในห้องพำนักของเหล่าเชื้อพระวงศ์ ผมสีดำยาว ดวงตาสีม่วงอะเมทิตส์ ริมฝีปากงดงามราวและสีแดงสดราวกับกุหลาบสีแดงสด เธอช่างงดงามเหมือนพระมารดาของพระองค์ เธอมีนามว่า มารีน่า วี บริททาเนีย ราชธิดาองค์โตของมารีแอนน์เธอมีพี่ชายฝาแฝดกับน้องสาวแต่ว่าตอนนี้ พวกเขาทั้ง2ถูกส่งตัวไปที่ญี่ปุ่นก่อนเกิดสงครามระหว่างญี่ปุ่นกับบริททาเนีย ส่วนเธอนั้นก็ยังคงอยู่ที่นี้เพียงคนเดียว อยู่ไปในฐานะของผู้สืบทอดบัลลังค์ เจ้าหญิงลำดับที่ 3 แห่งบริททาเนีย

     

    ก็น่าจะใช่ เห็นว่า....จะไปเป็นผู้สำเร็จราชการคนใหม่แทนโครวิสที่ตายไป.... เจ้าชายลำดับที่ 2 ชไนเซล เอล บริททาเนียเอ่ยขึ้น

     

    แล้วทำไม.....ถึงต้องเรียกฉันมาด้วยล่ะค่ะ ท่านพี่ชไนเซล..... มารีน่าด้วยน้ำเสียงเย็นชา เธอไม่พูดไม่จาได้แต่จ้องมองพี่ชายต่างมารดาของเธออย่างไร้ความรู้สึก

     

    น้ำเสียงและสีหน้า ยังเย็นชาไม่เปลี่ยนเลยนะ มารีน่า

     

    เหรอค่ะ แต่ฉันว่า มันก็เป็นปกติสำหรับฉัน แล้วก็กรุณา....ช่วยเข้าเรื่องสักทีเถอะค่ะ ฉันไม่ได้มีเวลาว่างน่ะ

     

    ยูฟี่อยากจะให้เธอไปที่แอเรีย 11ด้วยกันกับเธอ.....

     

    ทำไมฉันจะต้องไปที่นั้นด้วยล่ะค่ะ ประเทศที่มีแต่สงครามแบบนั้น.......

     

    เอาเถอะ มารีน่า น้องก็ควรไปเพื่อเปิดหูเปิดตาบ้างนะ

     

    นั้นสินะค่ะ ถ้าฉันถูกเซโร่ฆ่าตายเหมือนท่านพี่โครวิสคงไม่ไปเป็นไรสินะค่ะ........

     

    ฮ่า ฮ่า พูดแบบนั้นมันก็เกินไปนะ มารีน่า ว่าแต่จะไปรึเปล่าที่แอเรีย 11นั้นน่ะ

     

    ท่านพี่ต้องการให้ฉันไป ฉันก็จะไปค่ะ

     

    ดีแล้วล่ะนะ โคเนเลียเองก็จะไปสมทบทีหลัง เธอก็ไปพร้อมยูฟี่แล้วกัน

     

    ค่ะ ท่านพี่ชไนเซล ถ้าหมดเรื่องแล้ว.....ฉันขอตัวก่อน มารีน่าลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องพำนัก เธอเดินไปที่สวนดอกไม้ที่มีความทรงจำของแม่ พี่ชายและน้องสาวของเธอหลงเหลืออยู่ รอยยิ้มที่เคยสดใส เสียงหัวเราะอย่างสนุกสนาน มันหายไปหมดแล้วพร้อมกับครึ่งหนึ่งของชีวิตเธอ ที่มีให้กับพี่ชายฝาแฝดของเธอ ลูลูซ วี บริททาเนีย เจ้าชายอันดับที่ 11 แห่งบริททาเนีย เจ้าชายที่ถูกทอดทิ้ง

     

    จะมีใครสักคนมั้ยนะ ที่สามารถทำให้ครึ่งหนึ่งของหัวใจฉันกลับคืนมาอีกครั้ง........... คำพูดลอยๆของเธอที่ลอยไปตามสายลมที่พัดผ่านตัวเธอ มันมีเพียงแค่คำปรารถนาเล็กๆที่เธอขอให้มันเป็นจริงสักครั้ง..............................

     

    วันครบกำหนดการเดินทางไปที่ญี่ปุ่น

     

    มารีน่า ดูนี่สิเรามาถึงกันแล้วล่ะ ยูฟี่ หรืออีกชื่อ ยูเฟเมีย ลี บริททาเนีย เจ้าหญิงอันดับที่ 4 แห่งบริททาเนียเรียกมารีน่าที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ข้างๆ

     

    แล้วเธอจะเรียกฉันทำไมกัน ยูฟี่ มารีน่าเอ่ยถาม ขณะที่สายตาของเธอยังจ้องไปที่หนังสือในมือ

     

    ยูฟี่และมารีน่า 2เจ้าหญิงที่มีความแตกต่างกันอย่างมากมาย ยูฟี่ เธอเหมือนกับดอกทานตะวันที่สวยงาม สดใส รอยยิ้มก็เช่นเดียวกันทั้งอ่อนโยนและเจิดจรัสเช่นเดียวกับฤดูร้อนที่อบอุ่น ในทางกลับกัน มารีน่า เธอเหมือนกับกุหลาบอันงดงามที่แฝงด้วยหนามแหลม รอยยิ้มของเธอช่างเป็นรอยยิ้มที่ไร้ความรู้สึกใดๆและดูเย็นชาเช่นเดียวกับฤดูหนาวที่หนาวเหน็บ แต่เธอทั้ง2กับสามารถเข้าใจซึ่งกันและกันมากกว่าเชื้อพระวงศ์คนอื่น

     

    เธอน่าจะลองมองสิ่งอื่นๆบ้างสิ มารีน่า

     

    มันสำคัญขนาดนั้นเชียวรึไงกัน..........

     

    มารีน่า เธออยากจะให้......รอยยิ้มของเธอกลับคืนมามั้ย

     

    ของแบบนั้นน่ะ มันหายไปตั้งนานแล้วล่ะ ว่าแต่เธอก็เหมือนกัน ยูฟี่ เธอควรจะมีจิตสำนึกในการเป็นผู้สำเร็จราชการให้มากกว่านี้หน่อยนะ ตำแหน่งนี้มันไม่ใช่จะให้ใครง่ายๆอย่างที่เธอคิดน่ะ

     

    นั้นสินะ ขอโทษด้วย ฉันลืมตัวไปหน่อย

     

    ดีแล้ว เตรียมตัวซะเครื่องจะลงจอดในอีกไม่ช้านี่.....ยูฟี่ไม่ได้เอ่ยถามอะไรกับมารีน่า เพราะ เธอรู้ว่า มารีน่าที่อยู่กับเธอคือ คนสูญเสียสิ่งสำคัญไปพร้อมหัวใจของตัวเธอ

     

    ที่แอเรีย 11

     

    เธอคิดจะออกไปข้างนอกอย่างนั้นเหรอ ยูฟี่......

     

    ใช่แล้วล่ะ มารีน่าก็ออกไปด้วยกันกับฉันสิ

     

    ไม่ล่ะ ฉันขออยู่ที่นี้ดีกว่ายูฟี่จ้องมองมารีน่าอยู่สักพักก่อนจะแอบออกไปข้างนอกโดยที่ไม่ได้บอกใคร ยกเว้นมารีน่าคนเดียวที่รู้

     

    หลังจากนั้นยูฟี่ก็ได้พบกับสึซาคุทั้งคู่ก็คุยกันในหลายๆเรื่อง จนถึงเหตุการณ์ที่อดีตนายทหารต่อสู้กับเจเรเมีย สึซาคุขึ้นขับแลนสก็อตเข้าไปช่วยเจเรเมีย รวมทั้งยูฟี่ก็พยายามหยุดการต่อสู้โดยที่ประกาศฐานะของเธอ ส่วนมารีน่าที่บังเอิญออกมาข้างนอกเช่นเดียวกันก็เดินมาที่นี้โดยที่ตามเสียงระเบิดมาเช่นเดียวกับพวกยูฟี่

     

    ยูฟี่ เกิดอะไรขึ้น มารีน่าเอ่ยปากถามในขณะที่เธอเข้ามาในสเตเดียม ทุกคนต่างจ้องมองผู้ที่เข้ามาใหม่

     

    มารีน่า เธอมาทำอะไรน่ะ ไหนบอกว่าจะไม่ออกมาข้างนอกไง

     

    จะให้ฉันนั่งอยู่ในนั้นทั้งวันเลยรึไงกัน...... สายตาของมารีน่าเผลอหันไปมองสึซาคุที่จ้องมองเธออย่างๆแปลก

     

    ......ท่านยูเฟเมีย....ผู้หญิงท่านนี้คือ...... ลอยซ์เดินลงมาจากรถคอนเทนเนอร์ เอ่ยถามขึ้น

     

    ฉันคือ มารีน่า วี บริททาเนีย เจ้าหญิงอันดับที่ 3 แห่ง บริททาเนีย พวกนายต้องการจะถามอะไรฉันอีกมั้ยล่ะ น้ำเสียงที่ฟังดูเย็นชาจนคนรอบข้างสามารถสัมผัสได้

     

    เธอคือ คุรุรุกิ สึซาคุสินะ.....

     

    เออ.....ครับ

     

    มีอะไรรึเปล่า มารีน่า

     

    ไม่มีอะไรทั้งนั้นล่ะ ยูฟี่พวกเราก็ควรกลับกันไปแล้วนะ

     

    หลายวันต่อมา

     

    สึซาคุ ช่วยอะไรฉันอย่างหนึ่งสิ ยูฟี่เอ่ยถามขึ้น

     

    มีอะไรรึเปล่า ยูฟี่

     

    ช่วยพามารีน่าไปเดินชมที่แอเรีย 11 ทีสิ....

     

    เอ๋!! ทำไมถึงได้

     

    มารีน่าสูญเสียทั้งหัวใจและรอยยิ้มไปตั้งแต่ วันที่พี่ชายฝาแฝดของเธอถูกส่งตัวมาที่นี้ ฉันน่ะอยากจะเห็นอีกสักครั้ง รอยยิ้มที่สดใสของมารีน่า............

     

    ทำไมต้องเป็นผมด้วยล่ะ

     

    เพราะ ฉันเชื่อมั่นในตัวของสึซาคุยังไงล่ะ

     

    ถ้ายูฟี่ พูดแบบนี้ผมคงจะปฏิเสธไม่ได้

     

    ในเขตย่านศูนย์การค้า สึซาคุกำลังยืนรอมารีน่าอย่างใจจดใจจ่อ เพราะ อะไรที่เขาต้องมาทำเรื่องแบบนี้ด้วย เขายังจำวันที่เขาพบกับเธอได้ดี เธอดูเป็นคนที่ไร้หัวใจและเย็นชาอย่างบอกไม่ถูกเลย

     

    คุรุรุกิซัง ขอโทษทีนะรอนานรึเปล่า สึซาคุหันหน้าไปทางเสียงของมารีน่า เขาจ้องเธอตาไม่กระพริบ ชุดที่เธอสวมอยู่นั้นดูคล้ายๆกับชุดของยูฟี่เพียงแต่ดูเรียบง่ายกว่ามากเท่านั้น เป็นเพราะ ชุดที่สวมใส่อยู่รึอะไรกันแน่ที่ทำให้เธอดูสวยอย่างนี้ผิดกับวันที่เจอครั้งแรกในสายตาของสึซาคุ

     

    เออ ไม่นานมากครับ ท่านมารีน่า

     

    ตอนนี้เรียกแค่ชื่อฉันเฉยๆก็พอ.....

     

    ครับ....... ทั้งคู่เดินชมรอบแอเรีย 11 ด้วยกันโดยที่พวกยูฟี่แอบสะกดรอยตามมาโดยที่มารีน่าไม่รู้ตัว

     

    ขอโทษแทนยูฟี่ด้วย ที่ให้เธอมาทำเรื่องแบบนี้

     

    ..............ผมไม่ถึงสาอะไรมากหรอกครับ

     

    งั้นเหรอ เธอนิมองโลกในแง่ดีจังนะ ต่างกับฉันคนนี้ลิบลับเลยล่ะ

     

    เอ๋!!”

     

    ฉันน่ะ เสียทั้งแม่ พี่ชายและน้องสาวไป หัวใจของฉันได้ถูกทำลายลงไปที่เหลืออยู่ตอนนี้ก็มีเพียงความเย็นชาและความเหงาที่อยู่ในตัวของฉัน ฉันน่ะอยากจะยิ้มได้อย่างยูฟี่อีกสักครั้ง อยากจะ.......หัวเราะอย่างร่าเริงเหมือนสมัยเด็กๆอีกครั้ง แต่ว่า........มันก็เป็นได้แค่ขอภาวนาเล็กๆเท่านั้น................ขอโทษด้วยที่เผลอพูดเรื่องของตัวเองขึ้นมาแบบนี้

     

    ไม่เป็นไร......ครับ สึซาคุมองหน้าเธอ จนมารีน่ารู้สึกแปลกๆ

     

    มีอะไรติดที่หน้าของฉันรึไงกัน......

     

    อ๊ะ! เปล่าครับ แต่ว่า.......เมื่อกี้คุณดูอ่อนโยนกว่าวันแรกที่เราพบกัน...

     

    อย่างงั้นเองเหรอ งี่เง่าจังนะเธอน่ะ มารีน่ายิ้มบางๆอย่างอ่อนโยนแบบที่สึซาคุยังอึ่ง ยูฟี่ที่แอบสะกดรอยตามเห็นภาพนั้นก็รู้สึกดีใจขึ้นมา ในที่สุดก็กลับมาแล้วสิ รอยยิ้มที่อ่อนโยนของเธอ......มารีน่า

     

    สวยจัง....

     

    เอ๊!!”

     

    รอยยิ้มของคุณเมื่อกี้สวยมากเลยนะครับ เหมือนดอกไม้เลย

     

    งั้นเหรอ ถ้าอย่างงั้นฉันก็คงเป็นกุหลาบที่อยู่ในดงหนามแหลม ที่ค่อยทิ่มแทงคนที่เข้ามาใกล้ล่ะมั่งนะ รอยยิ้มของเธอกลับมาเป็นรอยยิ้มที่เฉยชาอีกครั้ง

     

    งั้น...............ผมก็จะเป็นดาบที่จะทำลายดงหนามพวกนั้นให้เอง.....

     

    ขอบคุณนะ.....คุรุรุกิซัง

     

    เรียกว่า สึซาคุ เถอะครับ

     

    สึซาคุ ขอบคุณที่ทำให้คนอย่างฉันกลับมามีหัวใจอีกครั้ง........

     

    ผมยินดี....เสมอครับ

     

    ฉันน่ะ เกลียดสงครามที่สุดเลยทั้งฉันและยูฟี่ต่างก็อยากจะให้โลกนี้กลับมาสงบสุข ไร้ซึ่งสงครามและการต่อสู้ อยากจะให้เป็นโลกที่มีแต่สันติตลอดไป แต่ว่า....สิ่งที่ยังติดอยู่ในใจผู้คนก็คือ ความเกลียดชัง.........

     

    ความเกลียดชังที่ไม่มีใครสามารถทำลายได้.......

     

    ใช่แล้วล่ะ แต่ว่า....ถ้ามีสักคนที่สามารถรวมความเกลียดชังไว้ที่จุดๆเดียวได้......คนๆนั้น.....ฉันอยากจะให้เป็นตัวฉันเองก็ยังดี ใครๆก็บอกมันหนักหนาเกินไปสำหรับผู้หญิงอย่างฉัน........แต่ว่า ฉันก็ยังจะทำเพื่อความสุขของโลกใบนี้ แล้วเธอล่ะ สึซาคุ......เธอคิดว่ายังไงกัน

     

    ผมก็ไม่รู้แต่ว่า ก็อยากจะสร้างโลกนี้ขึ้นมาใหม่โดยที่ไม่อยากจะสูญเสียคนสำคัญ....


    แต่ว่า ยังมันก็ต้องมีการสูญเสียอยู่ดี ฉันคิดว่า อย่างนั้นน่ะ.....

     

    มารีน่า...........

     

    พอเถอะ พอมาพูดเรื่องแบบนี้ในสภาพแบบนี้มันดูแย่ยังไงไม่รู้สิ........

     

    นั้นสินะ ครับ สีหน้าของสึซาคุบ่งบอกได้อย่างดีว่า เขารู้สึกเศร้าใจกับความรู้สึกจริงๆของมารีน่า จนมารีน่ารู้สึกอึดอัดต้องเดินเข้าดึงแก้มของสึซาคุอย่างเต็มแรง

     

    โอ้ย~ อ๋มเอ่บอะอับ

     

    เธอตอนนี้มาเป็นเพื่อนฉันเดินเที่ยวนะ อย่าทำสีหน้าแบบนั้นต่อหน้าผู้หญิงสิ! มันดูเสียมารยาทนะสีหน้าตอนโมโหของมารีน่า ทำให้ทุกคนถึงกลับรู้สึกดีใจนิดๆ ที่สามารถทำให้หัวใจของมารีน่ากลับคืนมาอีกครั้ง

     

    ขอโทษครับ......

     

    ช่างมันเถอะนะ รีบไปกันดีกว่า วันนี้ก็ช่วยทำให้ฉันมีความสุขทีนะ สึซาคุ

     

    ตอนเย็นของวันนั้น

     

    สึซาคุ ขอบคุณมากนะ ที่ทำให้รอยยิ้มของมารีน่ากลับมาน่ะ

     

    ไม่เป็นไร ยูฟี่

     

    คุรุรุกิคุง ช่วยหลับตาลงสักพักทีสิ สึซาคุยอมหลับตาอย่างโดยดีตามคำสั่งของมารีน่า

     

    ว้าย!!!!/อ๊ะ!!!

     

    มารีน่าเงยหน้าขึ้นไปจูบที่หน้าผากของสึซาคุอย่างแผ่วเบา จนทำให้ทั้งลอยซ์ เซซิลและยูฟี่ถึงกับอึ่ง รวมไปถึงสึซาคุที่ทำหน้างงสุดๆ

     

    นี้เป็นของตอบแทนที่ทำให้วันนี้ฉันมีความสุขนะ คุรุรุกิคุง

     

    หลังจากวันนั้น ก็มีเหตุการณ์มากมายสึซาคุได้รับเลือกให้เป็นองครักษ์ประจำตัวของยูฟี่ และต่อมายูฟี่ได้ก่อตั้งโครงการสำหรับคนญี่ปุ่นแต่จู่ๆยูฟี่กลับยิงชาวญี่ปุ่นด้วยตัวเธอเองและถูกยิงด้วยฝีมือของเซโร่ ยูฟี่เสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนสึซาคุก็สาบานว่า จะฆ่าเซโร่ แล้วเข้าร่วมการต่อสู่อีกครั้ง ผลการต่อสู้สรุปก็คือ เซโร่เป็นฝายพ่ายแพ้

     

    สึซาคุจับกุมตัวเซโร่มาให้องค์จักรพรรดิโดยที่เขาไม่รู้เลยว่า มารีน่ารู้เรื่องนี้เรียบร้อยไปแล้ว เธอรู้สึกตกใจเมื่อตัวจริงของเซโร่ก็คือ พี่ชายฝาแฝดของเธอ ลูลูซ วี บริททาเนียและรู้สึกเสียใจและโกรธแค้นเมื่อสึซาคุขายพี่ชายของเธอ เพื่อตำแหน่งไนท์ออฟราวน์

     

    1 ปีผ่านไปที่นครหลวงเพนดรากอน

     

    สึซาคุและไนท์ออฟราวน์อีก2คน กำลังเดินเล่นในราชวังจนสึซาคุได้กลิ่นหอมอ่อนๆของดอกไม้ จากที่ไหนสักแห่ง พวกเขาจึงเดินไปที่แห่งนั้นทันที และสิ่งที่เขาได้เห็นก็คือ สวนดอกไม้ที่สวยงามจนหาที่เปรียบไม่ได้ แต่ต้องแปลกใจว่า ทำไมถึงไม่มีใครสักคนแต่แล้ว...............

    นั้นใครน่ะ!! ที่นี้เป็นเขตหวงห้ามนะ พวกเธอเข้ามากันได้ยังไง น้ำเสียงเย็นชาที่สึซาคุเคยได้ยิน ดวงตาสีอะเมทิตส์ที่คุ้นเคย สึซาคุมองบุคคลที่เข้ามาใหม่อย่างเศร้าๆ

     

    ท่านมารีน่า......ขออภัยด้วยครับ

     

    ไม่หรอก ฉันต่างหากที่ต้องขอโทษ ไม่นึกว่า จะเป็นท่านไนท์ออฟราวน์ทั้ง3....คุณคุรุรุกิยินดีด้วยกับตำแหน่งนี้.....สีหน้าที่ดูเย็นชาเหมือนกับ1ปีที่ผ่านมา หลังจากที่เขาขายลูลูซให้กลับองค์จักรพรรดิ มารีน่าก็กลับมาเป็นคนที่เย็นชาอีกครั้งและทำเหมือนว่า เขากับเธอไม่เคยรู้จักกันมาก่อน

     

    ครับ ท่านมารีน่า

     

    ฉันอยากจะให้คุณคุรุรุกิช่วยเล่าเรื่องของแอเรีย11ให้ฟังหน่อย จะได้รึเปล่า

     

    “Yes! your Highness” คนอื่นเดินออกไปเหลือเพียงแค่มารีน่ากับสึซาคุ2คน บรรยากาศที่ดูเงียบสงัดจนอึดอัดอย่างบอกไม่รู้

     

    รู้สึกดีมั้ยล่ะ สึซาคุที่ได้ตำแหน่งมาเพราะ ขายท่านพี่ให้กับองค์จักรพรรดิ

     

    ที่ผมทำไปก็เพื่อ ความสงบจะได้กลับคืนมาอีกครั้ง

     

    แต่ต้องถึงกลับทรยศเพื่อนตัวเองงั้นเหรอ.....

     

    ใช่แล้ว

     

    หึ! นายน่ะมันก็ไม่ต่างอะไรกับนักบุญในคราบปีศาจ

     

    แล้วพี่ชายเธอล่ะ เขาเป็นคนทำให้ผู้คนต้องตายนะรวมถึงยูฟี่ด้วย พี่เธอก็ไม่ต่างอะไรกับมารร้ายน่ะหรอก!!”

     

    แต่ว่า ที่สิ่งท่านพี่ทำไป ฉันคิดว่า มันถูกที่สุดแล้ว....

     

    ถึงเธอคิดว่า มันถูกต้องแต่สำหรับฉันมันคือ สิ่งที่ผิด

     

    พอกันที!! สึซาคุ ฉันว่า ความสัมพันธ์ของเราที่เคยมีกัน....ขอให้มันจบลงตรงนี้ซะเถอะ

     

    ฉันก็คิดว่าอย่างนั้นเหมือนกัน ในเมื่อความคิดของฉันกับเธอมันต่างกันถึงขนาดนี้

     

    ใช่แล้ว...... มารีน่าเดินผ่านสึซาคุไปเหมือนกับว่า เขาไม่มีตัวตน ที่สวนดอกไม้แห่งนี้ไม่ได้มีเขามาตั้งแต่แรกแล้ว

     

    ลาก่อน......มารีน่า สึซาคุพูดเบาๆแต่เสียงของเขาดังก้องหูทั้ง2ข้างของมารีน่า มารีน่ายิ้มบางๆเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะพูดกลับไป.....

    ลาก่อนเช่นกัน.....สึซาคุ เสียงของมารีน่าลอยไปตามสายลม เข้าไปในหัวของสึซาคุ

     

    มันจบลงแล้ว ทั้งๆที่เขาไม่อาจจะปกป้องยูฟี่ไว้ได้ แต่ว่าก็อยากจะปกป้องคนสำคัญอีกคนหนึ่งไว้ก็ยังดี แต่ว่า เขากับเธอตอนนี้คงจะไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้อีกต่อไปแล้ว

     

    ขอให้มันลืมมันไปซะ....สึซาคุ ความทรงจำของพวกเราที่เคยมีให้แก่กันนั้นน่ะ ทั้งที่ไม่อยากให้หายไปแต่ว่า ฉันทนไม่ได้ที่เห็นนายเป็นแบบนี้................

     

    ไม่มีอีกแล้ว...........ดาบที่คอยทำลายดงหนามแหลม.........ของกุหลาบแสนสวยดอกนั้นไม่มีอีกแล้ว...........ดาบที่คอยทำลาย.......น้ำแข็งในใจ.....เจ้าหญิงหิมะ.......ผู้ที่ไร้หัวใจ

    ไม่มีอีกแล้ว.......ความเชื่อใจ.........ที่พวกเขาเคยมีด้วยกัน....มันได้จบลงไปแล้ว


    ลองเข้าไปฟังได้นะค่ะ เพราะดีเหมาะกับเรื่องนี้ เพราะ ชื่อเหมือนกัน ^ ^ 5555555+



    MusicPlaylist
    Music Playlist at MixPod.com เอาล่ะ วันนี้พอแค่นี้ก่อนนี้กว่า คราวน่าจะลองแต่งเรื่องของ อาเธอร์ กับ มารีน่า ดูดีกว่า มังคงจะแปลกไปอีกแบบแหะ บายๆๆๆ

    แล้ว เจอกันใหม่น่ะค่ะ ก่อนจากกันสักรูปดีกว่าเนอะ!!



    คู่นี้ก็ยังน่ารักไม่เคยเปลี่ยน



    รูปอาจจะเล็กไปหน่อย

     
    แล้วก็สุดท้าย รูปของ ซีทู Ver.ชาย ที่พยายามหามา แต่สุดท้ายก็หาเจอ 555555555+

    หล่อป่าว~

    เราแก้ไขเรียบร้อยแล้ว แล้วก็อยากบอกว่า เรื่องสั้นทุกเรื่องจะไม่เกี่ยวกับฟิคหลักเลยนะค่ะ บายๆๆๆ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×