คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : Weekdays
2 วันหลังจากที่มารีน่าป่วย หนูน้อยนางิสะกำลังจ้องมองร่างสูงที่กำลังนั่งเฝ้าแม่ของเธอด้วยความเป็นห่วง หนูน้อยมองด้วยความสงสัย ทั้งๆที่บอกจะมาดูแลเธอแต่กลับคอยดูแลแม่ของเธอมากกว่าตัวเธอซะอีก
“น้าเซโร่ค่ะ....”
“นางิสะจัง ตั้งแต่เมื่อไรผมไม่ได้ยินเสียงหนูเลย” สึซาคุกวักมือเรียกนางิสะให้เข้ามาในห้อง เจ้าตัวเล็กปีนขึ้นไปนั่งบนตักของสึซาคุก่อนจะจ้องมองดวงตาสีเขียวเข้มของเขา
“หนูมาเยี่ยมแม่ค่ะ” คำพูดโกหกคำโตที่ทำให้ร่างสูงขมวดคิ้วอย่างงุนงง
“แต่ว่า นางิสะจังเพิ่งจะมาเยี่ยมแม่เมื่อกี้เองนะไม่ถึง10นาทีเลยนะครับ กำลังพูดโกหกผมอยู่รึเปล่าเนี่ย” นางิสะสะดุ้งเล็กน้อยทำให้คนเอ่ยถามหัวเราะเบาๆในลำคอ
“เปล่าสักหน่อย” นางิสะเบือนหน้าหนีไปทางอื่น
“มีอะไรรึเปล่าครับ นางิสะจัง”
“หนูสงสัยว่า ทำไมน้าเซโร่ดูจะแคร์คุณแม่จังล่ะค่ะ” สึซาคุยิ้มบางๆให้กับนิสัยอยากรู้อยากเห็นของลูกสาว
“อาจจะเป็นเพราะว่า แม่ของนางิสะคล้ายๆกับภรรยาของผมน่ะสิ..........” นางิสะทำหน้าไม่พอใจเล็กน้อย
“น่าเสียดายจังแฮะ”
“เอ๋!! ทำไมถึงได้พูดแบบนั้นล่ะ นางิสะจัง”
“ก็หนูน่ะอยากให้น้าเซโร่มาเป็นพ่อของหนูนิน่า”
“ฮ่า ฮ่า เรื่องนี้เขาต้องให้ทั้ง2ฝ่ายคุยกันก่อน แล้วก็มันต้องหมายความว่า ผมกับคุณมารีน่าต้องแต่งงานกันด้วยนะ นางิสะจัง”
“งั้นก็แต่งงานเลยสิ หนูอยากได้น้าเซโร่เป็นพ่อจริงๆ นะค่ะๆๆๆๆๆๆ” นางิสะเอาแต่กอดคอสึซาคุด้วยท่าทางออดอ้อนแบบที่ใครๆมาเห็นก็ต้องใจอ่อน.........แต่ว่า
“สึ....ซา....คุ” มารีน่าจู่ๆก็ละเมอเรียกชื่อของสึซาคุต่อหน้านางิสะ
“ใครกันเหรอค่ะ สึซาคุ หรือว่าเป็นชื่อของพ่อ.......” นางิสะกำลังจะลงจากตักของสึซาคุแต่ว่า
“ไม่ได้นะ นางิสะ คุณแม่กำลังป่วยอยู่ต้องการพักผ่อนเยอะๆอย่าเพิ่งไปปลุกเธอเลยดีกว่านะ”
“แต่ว่า...........”
“ลงไปหาอะไรทานข้างล่างกันเถอะ อยากจะเล่นหมากรุกมั้ยล่ะ เดี๋ยวผมเล่นเป็นเพื่อน.....” นางิสะที่ได้ยินคำว่า หมากรุกก็หูผึ่งรีบลากแขนสึซาคุลงไปข้างล่างทันที จนลืมเหตุการณ์เมื่อกี้ไปซะแล้ว
“น้าคาเรนค่ะ สึซาคุนี่เป็นใครกันเหรอค่ะ” นางิสะเดินเข้าไปถามคาเรนที่กำลังนั่งดื่มชาอยู่ที่โต๊ะ ทำให้ชาที่เธอเพิ่งจะดื่มไปพุ่งใส่หน้าของจีโน่เต็มๆ
“โอ๊ย!! คาเรน ถ้าเธอไม่ชอบชานี้ก็ไม่เห็นต้องทำถึงขนาดนั้นเลยนิ”
“มะ ไม่ใช่นะ!! แต่ว่า นางิสะ หนูรู้ชื่อนี้ได้ยังไงกันล่ะ” คาเรนหันไปมองสึซาคุที่กำลังส่ายหัวทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไร
“แม่เขาเป็นคนพูดค่ะ”
“มะ มารีน่านะเหรอ แต่ว่าเธอยังนอนอยู่เลยนิ”
“ละเมอนะ คาเรน” สึซาคุอธิบายแทน
“แล้วสึซาคุนี่เป็นใครกันค่ะ หนูอยากรู้แล้วน่า~” นาสิงะงอนแก้มป่องใส่คาเรน
“เก็บแก้มป่องๆเธอไปเลย ยัยตัวยุ่ง” จีโน่เริ่มแหวกนางิสะ
“ลุงก็เหมือนล่ะ เลิกยุ่งกับแม่หนูได้แล้วเจ้าลุงชอบตีท้ายครัว”
“ยัยตัวยุ่งไปเอาคำพูดนี่มาจากไหนเนี่ย แล้วฉันก็อ่อนกว่าแม่เธอปีหนึ่งนะ”
“น้าคาเรนไงล่ะ” จีโน่หันไปมองคาเรนอย่างเคืองๆแต่คนถูกจ้องกับไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไรเลยสักนิด
“อะไร ฉันก็พูดลอยๆไปเท่านั้นเองนะ” คาเรนพูดสีหน้านิ่งๆแต่ยังไม่วายไปขยิบตาใส่นางิสะ เจ้าตัวเล็กรับรู้อย่างรวดเร็วจึงพยักหน้าเล็กน้อย
“พอเถอะ ทั้ง3คนนางิสะจังจะทานอะไรเดี๋ยวผมจะทำให้ทาน”
“เอาอะไรก็ได้ค่ะ หนูทานได้หมด”
“ครับๆ องค์หญิงแต่อย่าทานเยอะนะครับเดี๋ยวอ้วนไม่สวยเหมือนคุณแม่นะครับ”
“ฮ่า ฮ่า ไม่เป็นไรค่ะ” ก่อนเดินเข้าไปช่วยเป็นลูกมือให้กับสึซาคุ
“ทำเป็นด้วยเหรอ อาหารน่ะ” จีโน่ถามขึ้นมาลอยๆ แต่ว่าคาเรนกับไม่คิดอย่างนั้นก็เลยเหยียบเท้าของจีโน่เต็มแรง
“จีโน่ ผมอยู่คนเดียวมาตั้งนานแล้วนะ เรื่องแบบนี้ก็ต้องพอทำเป็นบ้างสิ” สึซาคุยิ้มบางๆก่อนจะเริ่มทำอาหารกับหนูน้อยนางิสะทันที
“ว้าว~ น่าทานจังเลย” นางิสะตาเป็นประกายเมื่อเห็นอาหารที่เธอเพิ่งจะช่วยกันทำกับสึซาคุ
“ฮ่า ฮ่า ดีจังนะที่นางิสะจังชอบนะครับ” สึซาคุลูบหัวนางิสะเบาๆ แล้วก็หันไปมองที่บันไดก็เห็นว่า มารีน่ากำลังเดินลงมา
“แม่ตื่นแล้วเหรอค่ะ” นางิสะวิ่งเข้ากอดแม่ด้วยท่าทางออดอ้อนตามนิสัยของเธอ
“จ๊ะ แล้วหนูกำลังทำอะไรอยู่ล่ะเสียงดังเชียว” มารีน่าหอมแก้มนุ่มๆของลูกสาวทีหนึ่ง
“พวกผมเพิ่งทำอาหารเสร็จน่ะ ไปรบกวนการนอนของเธอรึเปล่า”
“ไม่ค่ะ ท่านเซโร่ ตอนนี้ฉันก็หายเป็นปกติแล้วยังไง2วันที่ผ่านมานี้ก็ขอบคุณมากจริงๆนะค่ะ”
“แม่ค่ะ หนูทำซุปร้อนๆให้แม่ด้วยล่ะ” นางิสะดึงมารีน่าให้มาที่โต๊ะ
“กำลังหิวอยู่พอดี งั้นขอแม่ทานหน่อยนะค่ะ” มารีน่าค่อยๆทานซุปอย่างใจเย็นโดยที่สายตาของลูกสาวจับจ้องเธออย่างตื่นเต้น
“เป็นไงบ้างค่ะ แม่”
“อร่อยจัง ขอบคุณนะค่ะ ลูกสาวของแม่” สึซาคุมอง2แม่ลูกอย่างมีความสุขโดยที่มีจีโน่มาตบไหล่เบาๆเหมือนกับจะให้กำลังใจเขา ทั้งที่เมื่อก่อนนี้ยังทะเลาะอย่างเอาเป็นเอาตายเพราะ เรื่องของมารีน่าแต่ตอนนี้ก็กลับมาเป็นเพื่อนเหมือนเดิมแล้ว
“ดีแล้วล่ะนะที่คุณหายดี” สึซาคุนั่งข้างๆมารีน่า
“ค่ะ นางิสะทานข้าวได้รึยังมาทานกับแม่สิ”
“ค่ะ แม่” นางิสะพยายามปีนขึ้นเก้าอี้แต่โชคดีว่า สึซาคุช่วยอุ้มขึ้นไปนั่งข้างๆมารีน่า หลังจากนั้นทั้ง3คนก็มานั่งเล่นด้วยกันซึ่งทำให้เพื่อนที่มองก็เห็นภาพครอบครัวขึ้นมาลางๆ จนถึงเวลานอนกลางวันของนางิสะ
“หาว~” เจ้าตัวเล็กนั่งหาวบนตักของผู้เป็นแม่ ก่อนจะเขยิบเล็กน้อยแล้วซุกหน้าเข้าหาอกอุ่นๆของแม่ก่อนนอนหลับไป
“นางิสะ หลับแล้วงั้นเหรอมารีน่า” สึซาคุหันไปถามผู้เป็นภรรยาที่กำลังมองลูกน้อยที่เพิ่งจะหลับไปในอ้อมแขน
“ใช่ แต่ก็แปลกเพราะ ปกติจะหลับยากนิดหน่อย สงสัยวันนี้จะเล่นมากไปก็เลยเหนื่อย ฉันขอพานางิสะขึ้นไปนอนบนห้องก่อน” มารีน่าพยายามจะลุกแต่ว่า.................
“ให้ผมอุ้มเธอไปเองดีกว่า เดี๋ยวถ้าเธอลุกขึ้นตอนนี้นางิสะจะตื่นได้นะ” สึซาคุอุ้มตัวนางิสะขึ้นอย่างเบามือ มารีน่ามองหน้าสึซาคุแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรนอกจากเดินตามสึซาคุขึ้นไปบนห้อง
“พ่อจ๋า~” สึซาคุวางนางิสะบนเตียงเบาๆแล้วจูบไปที่หน้าผากเบาๆ ทำให้นางิสะลืมตาขึ้นมาเล็กน้อยก่อนจะเห็นหน้าสึซาคุลางๆเลยเผลอเรียกว่า พ่อเบาๆ
“นางิสะ ไม่เป็นไรนะจ๊ะแม่จะอยู่เป็นเพื่อนหนูเองนะ” มารีน่านั่งลงที่เตียงแล้วยื่นมือไปลูบหัวนางิสะเบาๆก่อนจูบลงที่หน้าผากเช่นเดียวกับสึซาคุ ก่อนจะลุกขึ้นหันไปมองสึซาคุสักพักก่อนจะเดินออกจากห้อง
“ที่บริททาเนียเป็นยังไงบ้างล่ะ” มารีน่าถามขึ้นในระหว่างที่กำลังดื่มชากับพวกสึซาคุ
“ก็ยังสงบเหมือนเดิมแหละ จริงด้วยสิ!! มีข่าวจะบอกเหมือนกัน” คาเรนที่กำลังดื่มชาอีกถ้วยพูดขึ้น
“เรื่องอะไรล่ะ”
“ก็รีวัลกับประธานมิเรย์น่ะแต่งงานกันเมื่อ2 ปีก่อนแล้วแถมเพิ่งให้กำเนิดฝาแฝดชายหญิงชื่อ ไรมี่ กับ มาริเบล ล่ะ” มารีน่าที่ได้ยินก็เกือบทำแก้วชาหลุดมือ
“แล้วทำไมฉันถึงไม่รู้ข่าวนี้เลยล่ะ”
“ก็เห็นว่า เธอกำลังวุ่นเรื่องของนางิสะอยู่ก็เลยไม่ได้บอกน่ะ แล้วก็อีกเรื่องคือ คุณเจเรเมียกับคุณซาโยโกะเพิ่งจะแต่งงานกันล่ะไม่รู้ไปรักกันตอนไหน และเรื่องสุดท้ายคือว่า นานาลีกำลังจะหมั้นกับเจ้าชายของประเทศหนึ่งล่ะ”
“ว่าไงนะ!! นานาลีกำลังจะหมั้นเหรอ!!!”
“ใช่แล้วล่ะ ทำไมเธอต้องเสียงดังด้วยล่ะ มารีน่า” จีโน่ถามขึ้นมาเล่นๆแต่ว่าคนที่ถูกถามกับไม่คิดอย่างนั้นเธอตวัดสายตาดุๆใส่
“น้องสาวฉันทั้งคนนะ!! ฉันก็ต้องตกใจสิที่จู่ๆนานาลีก็มาหมั้นแบบนี้นะ สึซาคุ!! นายช่วยหาประวัติของผู้ชายคนนั้นให้ฉันทีสิ!!!” มารีน่าขึ้นเสียงก่อนจะหันไปสั่งสึซาคุที่กำลังนั่งเอ๋อพอดี
“มารีน่า เบาๆเสียงก่อนเถอะลูกกำลังหลับอยู่นะ” สึซาคุพยายามห้ามผู้เป็นภรรยาที่กำลังโกรธแบบสุดๆ เพราะ เขารู้ดีว่า มารีน่าเวลาโมโหใครก็ห้ามไม่อยู่พอๆกับเขาเลยล่ะ
“เงียบนะ สึซาคุ นางิสะเป็นลูกของฉันคนเดียวนายไม่เกี่ยว!!” มารีน่าสวนกลับทันที
“ผมเงียบก็ได้......แต่ขอช่วยใจเย็นก่อนได้มั้ยล่ะ มารีน่า”
“ก็ได้..................”
หลังจากนั้นทั้ง3คนก็พยายามเปลี่ยนเรื่องคุยเพื่อทำให้มารีน่าอารมณ์ดีขึ้น ซึ่งก็เล่นเอาพวกเขาต้องเหงื่อตกกับนิสัยเอาแต่ใจและขี้น้อยใจของมารีน่า ที่ทำให้จีโน่รู้สึกว่า เขาโชคดีที่ยังไม่ได้แต่งงาน
“ว่าแต่ทั้งรีวัลกับประธาน ทำไมเพิ่งจะแต่งงานกันล่ะ”
“2 คนนั้น พวกเขาไม่เหมือนผมกับเธอนะที่แต่งงานกันตอนอายุ 18 แล้วหลังจากนั้นก็คลอดนางิสะนะ” สึซาคุพูดออกมานิ่งก่อนจะส่งชาอีกถ้วยให้จีโน่
“ที่เรื่องเป็นแบบนั้นก็เพราะ นายนั้นแหละสึซาคุ”
“อะไรกัน ทำไมถึงมาว่าผมแบบนั้นล่ะ มารีน่า” สึซาคุส่งสายตาออดอ้อนใส่มารีน่า เธอถึงกับเหนื่อยใจเพราะ ไอ้นิสัยขี้อ้อนแบบนี้เป็นทั้งพ่อทั้งลูกเลย
“พอเถอะ ว่าแต่เมื่อไรเธอจะคืนดีกันสักทีล่ะ มารีน่า” คาเรนถาม
“ถึงเจ้าบ้านี่จะมาทำดีกับฉันยังไง ฉันก็ไม่ยอมกลับไปอยู่ด้วยหรอก”
“มารีน่า ผมอยากอยู่กับเธอนิน่า~”
“ไม่มีวัน.............” คำพูดสั้นๆแต่ทำให้คนอย่างสึซาคุถึงกับคอตกได้ คาเรนดูจะเหนื่อยใจกับนิสัย เอาแต่ใจและปากแข็งของมารีน่า
“จริงด้วยสิ มารีน่า พรุ่งนี้เธอว่างรึเปล่า” จีโน่ถาม
“ก็ว่างอยู่นะ มีอะไรรึเปล่าหรือจะช่วยฉันหาทางให้อยู่กับนางิสะแค่2คนเท่านั้นล่ะ”
“แล้วผมล่ะ มารีน่า ผมเป็นสามีเธอนะแถมยังเป็นพ่อของนางิสะด้วยนะ” สึซาคุส่งสายตาอ้อนๆให้มารีน่า ทำให้พวกคาเรนได้รู้นิสัยอีกอย่างหนึ่งของสึซาคุคือ จะขี้อ้อนต่อหน้ามารีน่าแค่คนเดียวเท่านั้น
“นายไปไกลๆเลยดีกว่านะ.............” ก่อนมอบรอยยิ้มแบบเจ้าเล่ห์แบบสะใจนิดๆ
“มารีน่า เธอพูดแรงไปรึเปล่านะ ถึงแม้ว่า หมอนั้นจะดูเอ๋อๆ ป้ำๆเป๋อๆไปวันๆแล้วก็เอาแต่บ้าพลังแบบนั้น แต่ยังไงเขาก็เป็นสามีเธอนะ” คาเรนพูดหน้านิ่งๆแต่สำหรับจีโน่แล้วดูรู้สึกว่า นี้มันกำลังว่าชัดๆเลยนิ
“คาเรน เธอจะช่วยผมหรือมารีน่ากันแน่เนี่ย”
“ฉันเป็นกลางน่ะพอใจรึยังล่ะ สึซาคุ” คาเรนตอบแบบเรียบๆ แต่ว่า จีโน่นั้น “ฉันว่าเธอกำลังเข้าฝ่ายมารีน่ามากกว่านะ” เขาคิด
“จะให้ฉันคุยกับมารีน่าต่อมั้ยเนี่ย”
“ก็แล้วแต่นายสิยะ จีโน่”
“ไม่ค่อยเลยนะเธอ คาเรน........พอเถอะ.....จริงด้วยสิ....พอดีฉันกับคาเรนหยุดงาน3วัน เลยอยากจะชวนไปเที่ยวทะเลหน่อยน่ะ ไม่ต้องห่วงว่า จะมีใครมาเห็นเธอ เพราะว่า ฉันกะว่า จะไปค้างที่บ้านพักริมทะเลของตระกูลฉันน่ะ สนใจมั้ยล่ะ”
“ก็น่าสนใจดีนะ ตั้งแต่มาอยู่ที่นี้ก็ยังไม่ได้ไปไหนเลย น่าจะให้นางิสะได้เที่ยวสนุกบ้างก็ดีเหมือนกัน”
“น่าสนใช่มั้ยล่ะ~ ฉันกับคาเรนแล้วก็สึซาคุก็จะไปด้วยนะ......” มารีน่าเงียบไปสักพัก
“งั้นฉันไม่ไปดีกว่า..............”
“มารีน่า ทำไมเธอถึงใจร้ายกับสามีตัวเองแบบนี้ล่ะ” สึซาคุทำหน้าเหมือนจะร้องไห้
“ฉันล้อเล่นน่า ทำตัวเป็นเด็กไปได้แต่ที่ฉันไปก็เพราะ เพื่อนางิสะเท่านั้นนะ ขอบอกไว้ก่อน”
“ไม่เป็นไร ถ้าเธอไปด้วยผมก็ดีใจแล้วล่ะ” สึซาคุหันไปขโมยแก้มหอมๆของมารีน่าทีหนึ่ง แถมยังต่อหน้าต่อตาพวกคาเรนอีกต่างหากทำให้มารีน่าถึงกับค้างไปสักพักก่อนจะ.......
ผัวะ!!
“พวกคาเรนก็อยู่ด้วยนะ หัดอายกับเขาบ้างสิยะ!!” มารีน่าให้หมัดแก่สึซาคุเป็นรางวัล
“สามีผิดไปแล้ว~ ยกโทษให้ผมนะ” สึซาคุยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆมารีน่าแต่ยังไม่ลืมทำเสียงอ้อนๆใส่ ทำให้คาเรนรู้สึกหมั่นไส้ขึ้นมา
“อะแฮ่ม!! สึซาคุ เห็นใจพวกฉันบ้างสิยะ เห็นมั้ยว่า เพื่อนกำลังนั่งมองอยู่แถมตั้ง2คนนะ”
“ขอโทษด้วย ผมลืมไปนึกว่า อยู่ด้วยกันแค่2คน” พอพูดจบมือหนาของสึซาคุก็ไปคว้าเอวของมารีน่าทันที
“สึซาคุ............” มารีน่าพูดเสียงนิ่งๆ
“มีอะไรครับ ที่รัก~” สึซาคุยิ้มหวานๆให้ แต่พวกจีโน่ถึงกับหันหน้าไปทางอื่นเมื่อได้ยินคำพูดที่ไม่อายปากและท่าทีของสึซาคุ
“กรุณา......เอามือของนายออกไปจากเอวฉันที ไม่งั้นนางิสะได้หาพ่อใหม่จริงๆแน่” มารีน่าพูดนิ่งๆแต่เน้นประโยคสุดท้ายที่สุด
“ก็ได้จ๊ะ......” สึซาคุเงียบไปสักพักก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินไปที่บันได
“แม่ค่ะ กำลังทำอะไรอยู่ค่ะ” นางิสะที่ยังงัวเงียเพราะ ตื่นนอน ถามขึ้นในอ้อมแขนของสึซาคุ
“เปล่าจ๊ะ แค่กำลังคุยกันอยู่น่ะจ๊ะ แล้วเป็นไงบ้างค่ะคนเก่งหลับสบายหรือเปล่าจ๊ะ” มารีน่าเดินเข้าไปหอมแก้มนางิสะทีหนึ่งก่อนจะปล่อยให้สึซาคุอุ้มลูกสาวไปนั่งบนตักของเขา
“นางิสะจัง หนูอยากไปเที่ยวกับพวกน้ามั้ยครับ” สึซาคุถามทำให้ลูกสาวตัวน้อยมองด้วยสายตาที่เป็นประกาย
“ไปค่ะ!!” คำพูดสั้นๆแต่สามารถเข้าใจง่ายๆ
“ถ้าอย่างงั้นก็ดีเลย ว่าไงมั้ยครับ มารีน่า”
“ใช่แล้วล่ะค่ะ.......”
“มีอะไรกันรึเปล่าค่ะ น้าเซโร่”
“แบบว่า น้าจีโน่เขาช่วยแม่ของหนูไปเที่ยวทะเลนะครับ หนูอยากจะไปพร้อมกับแม่มั้ย”
“ไปค่ะ คุณแม่ไปด้วยกันนะค่ะ” นางิสะส่งสายตาออดอ้อนมาทางมารีน่า เธอถอดหายใจเล็กน้อยก่อนจะยิ้มบางๆให้กับลูกสาว
“ถ้าหนูอยากไปแม่ก็คงขัดหนูไม่ได้”
คุยกับนามามิวันล่ะนิด
I love you, I trust you~ ^0^ kimi no kodoku o wakete hoshii~ ^ ^
I love you, I trust you~ ^w^ hikari demo yami demo.......futari dakara shinjiaeru......mou hanasanaide ~ ^_^
นามามิยังไม่ได้บ้าหรืออะไรนะค่ะ แต่กำลังอารมณ์ดีสุดๆเลย ( แต่ว่ามาทำเป็นอารมณ์ดีทั้งๆที่ตัวเองมาอัพฟิคหลักช้าแบบนี้ มันก็รู้สึกผิดเหมือนกัน แฮะ -__-'' )
พอๆ ดีกว่าเนอะ เอาเป็นว่า นามามิกลับมาอัพอีกแล้วนะค่ะ แต่ตอนหน้าอาจจะช้าหน่อยเพราะ นามามิไปเที่ยวทะเลกับเพื่อนและครอบครัว ยังไงก็ขอแจ้งเอาไว้ก่อนดีกว่า 55555+
เมษานี้~ ทุกคนมีโปรแกรมไปเที่ยวไหนกับครอบครัวบ้างรึเปล่าน่า~ แต่สำหรับนามามิแล้ว วันที่13 เมษานี้ นามามิก็จะอายุ 17 แล้วดีใจจังเลย ในที่สุดก็แก่เพิ่มไปอีก1ปีแล้ว ( นี่เราจะชมหรือด่าตัวเองกันแน่เนี่ย =_=""" ไม่เข้าใจตัวเองจริงๆเลย )
ยังไงก็ขอให้โชคดีนะค่ะ บายๆๆๆๆๆๆๆ
เธอยังสวยไม่มีวันเปลี่ยนแปลง แบ๋วขึ้นป่าวเนี่ย
นานาลี อายุ 20กว่า ก็ประมาณนี้มั้งนะ
ต่ายดำ( สึซาคุ )จะอุ้มต่ายขาว( มารีน่า )ไปไหนน่ะ
และรูปสุดท้ายของวันนี้ 555555+
ความคิดเห็น