คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : Father
นางิสะนั่งมองไปรอบๆห้องที่เธอได้เข้ามาพัก ห้องพักที่ถูกตกแต่งอย่างดีและสะดวกสบาย ดูๆไปแล้วมันดูจะมากเกินไปสำหรับเด็กอย่างเธอ แล้วก็อีกอย่างที่พักนี้ยังอยู่ในกองทัพของทหารบริททาเนียอีกด้วย นางิสะลองนึกถึงตอนที่เธอเข้ามาในกองทัพกับผู้ชายสวมหน้ากากคนนั้น
“ท่านเซโร่ครับ ท่านหายไปไหนมาครับ......” นายทหารคนหนึ่งพูดขึ้นหลังจากที่ผู้ชายคนนั้นเดินเข้ามา
“แค่ออกไปสำรวจในป่านิดหน่อยนะ ไม่เป็นไร”
“แล้วเด็กคนนั้นเป็นใครกันครับ....” เขาถามขึ้นเมื่อเห็นนางิสะที่จับผ้าคลุมไว้แน่น
“เด็กคนนี้มากับฉัน....ช่วยหาของว่างหรืออะไรก็ได้มาให้เธอทีนะ ฉันจะไปที่ห้องพักของฉันก่อน”
แล้วหลังจากนั้นเขาก็พานางิสะมาพักในห้อง ส่วนตัวเขาก็เข้าไปทำธุระส่วนตัว แล้วทิ้งให้นางิสะนั่งรออยู่สักพักอาหารและของว่างต่างๆก็ถูกนำเข้าแต่ว่า พอเธอทานเข้าไปแล้วรสชาติมันจืดชืดไม่อร่อยเหมือนกับที่แม่เธอทำเลยสักนิดเดียว
“ตอนนี้แม่กำลังตามหาฉันอยู่รึเปล่านะ......” นางิสะพึมพำเบาๆและรู้สึกผิดไปว่าแม่แบบนั้น แถมยังหนีออกมาจากบ้านแบบนั้นมารีน่าคงกำลังตามหาเธออยู่แน่ๆ
“อาหารไม่อร่อยรึไง เจ้าตัวเล็ก” เซโร่เดินออกมาจากห้องแต่งตัวโดยที่อยู่ในรูปของคุรุรุกิ สึซาคุ พ่อแท้ๆของนางิสะ แต่ว่าเจ้าตัวยังไม่รู้ เห็นนางิสะกำลังนั่งซึมอยู่โซฟา
“เปล่าค่ะ แต่ว่า หนูแค่รู้สึกผิดนิดหน่อยที่วิ่งออกมาจากบ้านแบบนั้น”
“งั้นเหรอ แบบนี้ก็แย่สิ ออกทั้งทีตัวเองยังเป็นเด็กแท้ๆ”
“อย่ามาหาว่า หนูเป็นเด็กสิ!! หนูไม่ชอบ” นางิสะทำหน้างอนแล้วหันไปมองทางอื่น เซโร่หัวเราะเบาๆกับอาการงอนที่น่ารักของนางิสะ
“ ฮ่า ฮ่า แต่ว่า....เจ้าตัวเล็กเธอชื่ออะไร....” สึซาคุนั่งลงข้างๆนางิสะ
“นางิสะค่ะ แล้วคุณน้าชื่ออะไรค่ะ”
“เรียกผมว่า เซโร่ล่ะกัน นางิสะจัง”
“ค่ะ แล้วน้าเซโร่ คือ วีรบุรุษเซโร่ที่ทุกคนพากันสรรเสริญจริงเหรอค่ะ”
“ใช่แล้วล่ะนะ แต่ว่า ผมไม่ค่อยที่จะได้ชื่อว่า วีรบุรุษ เลยสักนิด”
“ทำไมล่ะค่ะรึว่า น้าเซโร่สูญเสียสิ่งสำคัญไปค่ะ” สึซาคุยิ้มบางๆแล้วลูบหัวของนางิสะอย่างเบามือ พร้อมกับเอ็นดูลูกสาวตัวน้อยที่นั่งอยู่ข้างๆซึ่งดูยังไงก็ดูน่ารักเหมือนกับแม่ของเธอ แต่เขาจำเป็นต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับจนกว่าเขาจะได้เจอมารีน่า
“ใช่แล้วล่ะ ทั้งที่สูญเสียไปแล้วแต่ก็สามารถนำกลับมาได้แท้ๆ แต่ว่า ผมยังอุตส่าห์ปล่อยให้มันหลุดมือไปอีกครั้ง.......”
“แล้วน้าเซโร่ตามหาเจอรึยังค่ะ”
“เจอแล้วล่ะ.....แต่ว่า ไม่สามารถพากลับมาได้........แล้วก็นะ อันที่จริงผมมีลูกสาวที่อายุเท่าๆเธออยู่คนหนึ่งด้วยล่ะ นางิสะ” สึซาคุพยายามเปลี่ยนเรื่องคุยเพื่อไม่ให้นางิสะเครียดตายก่อน
“จริงเหรอค่ะ แล้วเธอน่ารักเหมือนหนูมั้ยค่ะ”
“น่ารักเหมือนหนูเลยล่ะ แต่ว่า ผมไม่เคยเห็นหน้าเลยสักครั้ง เห็นก็แค่ในรูปถ่ายเท่านั้นเอง”
“งั้นน้าเซโร่ ก็เป็นเหมือนหนูเลยสิ”
“จริงเหรอ”
“อื้อ ที่จริงแล้วหนูไม่เคยเจอหน้าพ่อสักครั้งเลย แม้แต่รูปถ่ายสักรูปก็ยังไม่มีแถมเวลาหนูถามเรื่องพ่อทีไร แม่ก็ต้องรีบเปลี่ยนเรื่องคุยหรือไม่ก็บอกว่า ไว้คุยกันวันหลังทันทีเลยล่ะ”
“งั้นเหรอ แล้วแม่หนูชื่ออะไรล่ะ.....”
“มารีน่าค่ะ ถามทำไมจะจีบแม่หนูเหรอ ไม่ได้นะ!! แม่เป็นของพ่อคนเดียว” สึซาคุหัวเราะเบาๆก่อนเขกหัวนางิสะไปทีหนึ่งกับอาการหวงแม่ของลูกสาวที่ทำเอาผู้เป็นพ่อถึงกับหมั่นไส้
“ผมพูดตอนไหนว่า จะจีบแม่ของหนูน่ะ แค่อยากถามเท่านั้นเองท่าทางจะหวงแม่สุดๆเลยนะ”
“แน่นอนอยู่แล้ว เพราะว่า.....หนูอยากจะให้แม่เจอกับพ่อเร็วๆนิ”
“ผมว่าสักวันหนึ่งคงจะได้เจอกันเองแหละ ว่าแต่จีโน่กับคาเรนไปที่บ้านของหนูบ้างรึเปล่า”
“อือ มาเกือบทุกอาทิตย์เลยล่ะ ว่าแต่น้าเซโร่รู้เรื่องได้ยังไงกัน”
“ฮ่า ฮ่า พวกนั้นเป็นเพื่อนของผมนะ จะไม่รู้ได้ยังไงกันล่ะแล้วพวกนั้นไปทำอะไรกันบ้างล่ะที่บ้านของหนู”
“ถามเยอะจังแหะ น้าคาเรนเขามาสอนการต่อสู้ให้กับหนู ส่วนน้าจีโน่แค่มาหาแม่เฉยๆ”
“การต่อสู้เหรอ ตัวแค่เนี่ยสนใจเรื่องการต่อสู้แล้ว”
“อย่าว่าหนูแบบนี้นะ.......แต่ว่าตอนนี้แม่ไม่อยากให้หนูเรียนแล้วนะสิ”
“ทำไมล่ะ ลองบอกเหตุผลมาหน่อยสิ เผื่อผมจะเข้าใจความหมายที่แม่หนูพูด”
“วันนี้หนูไปทะเลาะกับเพื่อนจนทำให้แม่ต้องบาดเจ็บไปด้วย แม่ก็เลยบอกว่า จะไม่ให้เรียนอีก ทั้งๆที่หนูน่ะอยากจะ.....ปกป้องแม่แท้ๆเลย” นางิสะก้มหน้าลงเล็กน้อย น้ำตาเริ่มคลอเบ้า
“งั้นเหรอ แต่ว่าผมพอจะเข้าใจความรู้สึกของแม่ของหนูน่ะ เธอคงไม่อยากจะให้หนูต้องเจ็บตัวล่ะมั่ง เพราะ ที่เธอทำไปก็เพื่อตัวหนูทั้งนั้น จะบอกอะไรให้นะสำหรับพ่อแม่แล้วลูกก็คือ สิ่งที่สำคัญมากกว่าชีวิตของพวกเขาอีกนะ” สึซาคุลูบหัวลูกสาวตัวน้อยคนนี้อย่างแผ่วเบาก่อนจูบที่หน้าผากหนึ่งทีเพื่อเป็นการปลอบโยน
“จริงเหรอค่ะ ขอบคุณค่ะน้าเซโร่”
“ไม่เป็นไร ทานอะไรก่อนดีกว่านะ จะได้เข้านอนข้างนอกรู้สึกว่า ฝนกำลังจะตกแล้ว” นางิสะทำตามที่เซโร่พูดอย่างโดยดี ทั้งทีปกติแล้วเธอจะค่อนข้างกลัวคนแปลกหน้าเอามากๆ แต่สำหรับเซโร่แล้วเขาดูอบอุ่นเหมือนกับเป็นพ่อของเธอจริงๆเลย
ฝ่ายมารีน่าที่ออกตามหานางิสะ
“นางิสะ หนูอยู่ที่ไหน!!!” มารีน่าออกตามหาลูกสาวด้วยความเป็นห่วงอย่างมาก พร้อมกับภาวนาอย่าให้ลูกสาวของเธอเป็นอะไรไปเลย เพราะ นางิสะเป็นสิ่งสุดท้ายที่ทำให้เธอสามารถใช้ชีวิตต่อไปได้
“มารีน่า หานางิสะเจอมั้ย ทางฉันไม่เจอวี่แววของนางิสะเลย” คาเรนวิ่งเข้ามาจากอีกทางหนึ่ง
“คาเรน!! ฉันให้หน่วยของฉันช่วยออกตามหาอีกแรงแล้ว อีกไม่นานคงจะแจ้งกลับมา.....”
“หน่อยของนายงั้นเหรอจีโน่ ทางกองทัพมาทำอะไรกันที่นี้”
“คือว่า.......ได้ยินข่าวลือแปลกๆว่า หมู่บ้านแถวนี้มีพวกโจรอยู่ในบริเวณภูเขานี้ทั้งหมดน่ะสิ”
“ไม่มีทางเป็นไปได้ สงครามและการต่อสู้แย่งชิงน่าจะหมดไปจากโลกนี้พร้อมกับตัวฉันเมื่อ 5 ปีก่อนแล้วสิ”
“เรื่องนั้นฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ว่า ฉันสังหรณ์ใจว่า จะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นมา”
“มันคงจะไม่ดีก็ตอนนี้ล่ะ นางิสะยังอยู่ในป่าแล้วยังมีพวกโจรอยู่แบบนี้อีก คาเรน จีโน่ พาฉันไปกองทัพหน่อยได้มั้ย.....”
“ไม่ได้นะ มารีน่า ห้ามไปที่กองทัพเด็ดขาดเลยนะ!!!” จีโน่แย้งขึ้น
“ทำไมล่ะ จีโน่ ถ้ามีทหารมาช่วยหาอีกทีคงจะหาได้ไม่ยากแท้ๆ”
“ก็คือว่า........งานนี้.......เออ.....เซโร่ก็มาด้วยนะสิ......”
“ว่าไงนะ เมื่อกี้นายบอกว่า เซโร่มาที่นี้งั้นเหรอ”
“ใช่แล้วล่ะ นานาลีขอร้องให้ เซโร่เป็นคนคอยสั่งการงานนี้ทั้งหมดเลย อันที่จริงหมอนั้นแค่นั่งสั่งการอยู่ที่ฐานทัพเลยก็ได้ แต่ว่า หมอนั้นอยากจะมาสั่งการด้วยตนเองก็เลย.........”
“สึซาคุมางั้นเหรอ ฉันจะไม่มีวันให้หมอนั้นเจอกับนางิสะเป็นอันขาดแน่” มารีน่าพูดออกมาอย่างหัวเสีย คาเรนเหนื่อยใจกับท่าทีปากแข็งของมารีน่า ทั้งทีตอนจีโน่ขอแต่งงานก็บอกว่า เธอยังรักสึซาคุอยู่ แต่พอมาตอนนี้กลับไม่อยากจะเจอหน้าสึซาคุ แถมยังไม่ต้องการให้ลูกสาวเห็นหน้าพ่อแท้ๆอีก
“มารีน่า ฉันว่า เธอพอเถอะนะ ฉันรู้ว่า เธอน่ะหายโกรธสึซาคุตั้งนานแล้ว แต่ว่าจะห้ามไม่ให้2คนพ่อลูกพบกันแบบนี้ มันไม่เกินไปหน่อยเหรอ........”
“แต่ว่า ฉัน..................” พอเธอเอ่ยปากตอบหยดน้ำเล็กๆก็ตกลงมาที่ปลายจมูกของเธอ
“ฝนตกงั้นเหรอ” สิ้นเสียงของจีโน่ฝนก็กระหน่ำตกลงแบบไม่ให้สุ่มให้เสียง ทำให้พวกเขาหาที่หลบฝนไม่แทบทันแต่ว่าคนที่หลบฝนกับเป็นจีโน่กับมารีน่าเท่านั้น ส่วนคาเรนเธอวิ่งที่กลับไปที่บ้านของมารีน่าเพื่อรีบไปเอาร่มมารับพวกมารีน่ากลับรอนางิสะอยู่ที่บ้าน
“หวังว่า นางิสะคงจะไม่เป็นไรนะ” มารีน่าพูดขึ้นหลังจากที่พวกเขาวิ่งมานั่งหลบฝนที่ต้นไม้ใหญ่
“มารีน่าไม่ต้องกลัว นางิสะต้องไม่เป็นอะไรแน่นอน” จีโน่โอมกอดมารีน่าแล้วขยับตัวให้เข้าไปใกล้ๆมารีน่า
“ฉันกลัว จีโน่ นางิสะเป็นสิ่งสำคัญสุดท้ายที่ฉันอยากจะปกป้อง.......” มารีน่าเอาหัวซุกอกของจีโน่
“ไม่เป็นไร ฉันสัญญา.....ฉันจะหานางิสะเจอให้ได้เลย”
กลับมาที่นางิสะและเซโร่
สึซาคุพานางิสะเข้านอนแล้วสัญญากับเธอว่า จะพาไปหาแม่พรุ่งนี้เช้า ส่วนนางิสะนั้นยังนอนไม่หลับเป็นเพราะ เธอเป็นห่วงผู้เป็นแม่หรือเป็นเพราะ เธอยังไม่คุ้นเคยกับสถานที่กันแน่ เมื่อเธอรู้ตัวเองยังนอนไม่หลับเลยลุกจากเตียงแล้วเดินไปหาเซโร่ที่กำลังอ่านหนังสืออยู่ที่โซฟา
“ยังไม่นอนอีกเหรอ นางิสะจัง” สึซาคุหันไปมองนางิสะที่เอาแต่แอบมองเขาอยู่ตรงประตู
“ค่ะ แล้วน้าเซโร่ยังไม่นอนอีกเหรอค่ะ........”
“ผมยังไม่ง่วงน่ะ แล้วก็อีกอย่างคือ ผมเป็นผู้ใหญ่แล้วจะนอนดึกแค่ไหนไม่เป็นไร.....”
“ไม่ได้นะค่ะ!! แม่บอกหนูเสมอว่า ถึงจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่แต่การนอนก็เป็นเรื่องสำคัญมากนะ”
“งั้นเหรอ แม่หนูพูดแบบนั้นจริงๆเหรอ”
“อืม ใช่แล้วล่ะค่ะ เอ๋!! นั้นมันกระดานหมากรุกใช่มั้ยค่ะ” นางิสะหันเจอกระดานหมากรุกที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานของเซโร่ เธอจึงรีบวิ่งไปหยิบมันมาเพราะ ความอยากเล่นแต่ความรีบร้อนมากเกินไปจนสึซาคุกลัวว่า เจ้าตัวเล็กจะสะดุดขาตัวเองเสียก่อน
“นางิสะอย่ารีบวิ่งไปอย่างงั้นสิ เดี๋ยวก็หกล้มกันพอดี.......” นางิสะหยุดวิ่งแล้วเดินกลับมาพร้อมกระดานหมากรุกในมือพร้อมกับทำหน้าสงสัยบางอย่าง
“ทำไมน้าเซโร่พูดเหมือนแม่หนูเลยล่ะ......”
“ช่วยไม่ได้นิน่า ผมต้องเป็นห่วงหนูสิเดี๋ยวเกิดได้แผลขึ้นมาผมจะซวยเอาน่า~ ว่าแต่อยากเล่นเหรอหมากรุกน่ะ” นาสิงะพยักหน้าอย่างแรงจนสึซาคุกลัวว่า คอของเธอจะหักก่อน
“เล่นกันน่ะค่ะ น้าเซโร่ พอเล่นเสร็จหนูสัญญาว่า จะไปนอน....”
“ก็ได้แต่ว่า ถ้าผมแพ้ล่ะก็ผมจะยอมไปนอนล่ะกัน”
“ถ้างั้นน้าเซโร่ต้องมานอนกับหนูน่ะ ได้ป่าว” นางิสะทำเสียงออดอ้อนใส่มีใครบ้างล่ะจะใจร้ายไม่ยอมทำตามซึ่งแน่นอนว่า สึซาคุรับปากอย่างโดยดี
“ว่าแต่ทำไมน้าเซโร่ต้องมาที่นี้ด้วยค่ะ แถวนี้มันแต่ภูเขาเท่านั้นเองนะค่ะ” นางิสะถามขึ้นระหว่างที่พวกเขาเล่นหมากรุกกัน
“เพราะ หน่วยข้อมูลส่งข่าวมาว่า แถวนี้มีพวกโจรอยู่น่ะ”
“เอ๋!! ทั้งที่โลกในตอนนี้ก็ดีขึ้นตั้งเยอะแล้วทำไมถึงเป็นแบบนี้ล่ะ”
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันแต่ว่า ผมจะประจำการอยู่ที่นี้อีกสักระยะ”
“จริงเหรอค่ะ แบบนี้หนูก็เจอน้าเซโร่ได้ทุกวันเลยสิ”
“ก็อาจจะนะ เพราะ ต้องไปๆมาๆระหว่างที่นี้กับที่เมืองหลวง เพราะ งานของวีรบุรุษเซโร่มันมีงานล้นมือ”
“แบบนี้เหนื่อยแย่สินะค่ะ.........” นางิสะพูดก่อนจะให้ตัวคิงเริ่มเดินออกไป สไตล์การเล่นหมากรุกของนางิสะเริ่มจะเหมือนมารีน่ามากขึ้นเรื่อยๆ
“ฮ่า ฮ่า ไม่เป็นไร ผมมันเป็นพวกบ้าพลังอยู่แล้ว”
“จริงเหรอค่ะ อ๊ะ!! รุกฆาต หนูชนะแล้วนะ”
“แย่จังเลย เอาล่ะเล่นจบแล้วเราไปนอนกันดีกว่า”
“น้าเซโร่ อุ้มหน่อยสิ” นางิสะยื่นแขนทั้ง2ข้างขึ้นเพื่อต้องการให้ร่างสูงอุ้ม สึซาคุแอบถอดหายใจเล็กน้อยก่อนโอบแขนรอบตัวนางิสะแล้วยกร่างเล็กขึ้นมา นางิสะใช้แขนเล็กทั้ง2ข้างกอดคอของสึซาคุให้กระชับ
“ขี้อ้อนจังนะเราเนี่ย”
“หนูขี้อ้อนเหมือนกับพ่อ นิสัยเกือบทั้งหมดของหนูเหมือนพ่อหมดเลยล่ะ”
“งั้นเหรอ ผมชักจะเห็นพ่อของนางิสะจังแล้วล่ะสิ ฮ่า ฮ่า”
“ถ้าน้าเซโร่เจอพ่อหนูก่อน อย่าลืมบอกหนูด้วยนะ”
“ครับๆ รับทราบขอรับองค์หญิง ฮ่า ฮ่า” สึซาคุวางเจ้าตัวเล็กลงบนเตียงเบาๆ นางิสะหันไปหอมแก้มสึซาคุเบาๆ
“น้าเซโร่ หอมแก้มหนูบ้างสิ” นางิสะยื่นแก้มป่องๆให้สึซาคุ ทำให้เขาแอบกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่ ไม่อยากเชื่อเลยว่า ลูกสาวของเขาจะขี้อ้อนอะไรแบบนี้ ทั้งทีเขาก็ไม่ได้ขี้อ้อนมากมายแต่เป็นเฉพาะตอนที่เขาอยู่กับมารีน่าเท่านั้นเอง
“ก็ได้ครับ จุ๊บ!” สึซาคุหอมแก้มนางิสะก่อนเรื่อยหน้าของเขาลงมาถูที่ท้องของนางิสะอย่างสนุกสนาน
“ฮ่า ฮ่า จะ จั๊กจี้ ฮ่า ฮ่า” นางิสะหัวเราะอย่างมีความสุขกับการแกล้งของสึซาคุ ซึ่งเหมือนกับพ่อลูกที่หยอกล้อกันอย่างสนุกสนาน แต่เสียดายที่สึซาคุต้องเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับก่อน
“เป็นไงบ้างครับ จะนอนได้รึ หือ! คนดี” สึซาคุถามขึ้นก่อนจะเอาหน้าถูที่ท้องของนางิสะอีกครั้ง
“ฮ่า ฮ่า นะ นอนแล้ว ฮ่า กะ ก็ได้” สึซาคุหยุดการแกล้งแล้วเขยิบมานอนข้างๆนางิสะ
“นอนซะนะ พรุ่งนี้เดี๋ยวพากลับบ้าน” สึซาคุดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวของเขาและนางิสะ โดยที่เจ้าตัวเล็กจ้องหน้าเขาไม่กระพริบ
“ไม่เอา.....หนูอยากอยู่กับน้าเซโร่” นางิสะเอาหัวไปซุกที่อกของสึซาคุ ทำให้เขารู้สึกเหนื่อยใจท่าทีเอาแต่ใจของนางิสะซึ่งเหมือนแม่ไม่มีผิดเพี้ยนเลยสักนิดเดียว
“ไม่ได้นะ ถ้าแม่หนูมาได้ยินเข้าจะรู้สึกยังไงล่ะครับ ไม่เป็นไรนะ ผมสัญญาว่า จะพยายามแวะมาหาหนูบ่อยๆ โอเคมั้ยครับ”
“ก็ได้ค่ะ...............”
“ราตรีสวัสดิ์นะครับ” สึซาคุจูบราตรีสวัสดิ์นางิสะก่อนที่เขาจะเข้าสู่ห้วงนินทราเหมือนกัน ความรู้สึกที่อบอุ่นใจที่เขาได้มาเห็นหน้าลูกน้อยทำให้แทบจะไม่อยากให้มันหายไปอีกครั้ง แต่ว่า พอนึกถึงสีหน้าที่กำลังเสียใจของมารีน่าทำให้เขาอดห้ามใจไม่ได้ที่จะต้องพาตัวลูกสาวกลับไป
ในตอนเช้าที่บ้านของมารีน่า
มารีน่าลุกขึ้นมาจากเตียงแล้วแอบมองที่ข้างๆเตียงซึ่งในตอนนี้ไม่มีร่างของลูกสาวตัวน้อยที่มักจะนอนอยู่ข้างๆเธอ มารีน่ารู้สึกเสียใจกับสิ่งทำลงไปด้วยความโกรธจนเธอต้องเอาไปลงกับนางิสะ แต่ว่าเธอต้องหยุดคิดเรื่องนี้ไว้ก่อนเพราะว่า วันนี้เธอรู้สึกเพลียอย่างบอกไม่ถูก แถมยังรู้สึกปวดหัวเอามากๆเหมือนกับว่า เธอกำลังปวดยังไงไม่รู้ แต่ทุกอย่างก็หยุดลงด้วยเสียงของคาเรน
“มะ มารีน่า!! แย่แล้ว!” คาเรนวิ่งขึ้นมาอย่างรีบร้อนเพราะว่า...........
“ขะ ข้างล่าง นางิ แฮ่ก นางิสะกลับมาแล้ว แฮ่ก แฮ่ก” ยังไม่ทันทีคาเรนจะได้พักเหนื่อยก็ต้องวิ่งกลับมาข้างล่างอีกครั้งพร้อมกับมารีน่าที่รีบวิ่งลงมาอย่างรีบร้อน ทั้ง2คนวิ่งลงมาก็เห็นว่า นางิสะกำลังเดินกลับมาที่บ้านพร้อมกับใครคนหนึ่งซึ่งเป็นคนที่มารีน่าไม่อยากจะเห็นมากที่สุด.........................
“สึซาคุ...........” มารีน่าพูดออกมาเบาๆ เมื่อเห็นว่า สึซาคุกำลังเดินจูงมือนางิสะมาในภายใต้หน้ากากเซโร่ ส่วนสึซาคุที่ได้เห็นหน้าของมารีน่าเป็นครั้งแรก หลังจากที่เธอหนีเขาไปก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมากในใจ
“ในที่สุด ผมก็ได้เจอซะทีนะ มารีน่า......................”
คุยกับนามามิวันล่ะนิด
ดีค่ะ 5555555555555+
วันนี้ก็ไม่มีอะไรมากมาย ก็แค่มาทักทายเท่านั้นเอง อิ อิ ^ ^
แต่ว่า ยังไงก็ขอฝากทุกคนช่วยกัน เชียร์ด้วยล่ะกันว่าตอนนี้จะจบยังไง
แต่ขอแอบบอกไว้ก่อนว่า ไม่ใช่ว่า มารีน่าคืนดีกับสึซาคุแล้วก็จบนะค่ะ 55555555555+
ยังมีต่อีกเยอะ แล้วแต่ความคิดของนามามิที่ไม่รู้ว่า จะหมดลงเมื่อไร ไปแล้วนะค่ะ บายๆๆๆๆๆๆ
เธอเป็นคน......ทำลายโลกนี้......และ สร้างโลกนี้
I love U ___My Princess
ทายเอาเองนะ ว่าใครกับใคร
ช่วยๆกันหน่อยนะ คิดไม่ออกจริงๆTT^TT
ความคิดเห็น