ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    █ ▌l o v e l o r n 。

    ลำดับตอนที่ #3 : SAKURA BEGIN || 02

    • อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 57


    @SQWEEZ

    SAKURA BEGIN :: 02



    เมื่อได้เวลาเรียนคาบสุดท้ายของช่วงเช้า แบมแบมก็ก้าวเข้ามาในห้องพร้อมกับที่อาจารย์กำลังเดินเข้ามาสอน แต่แล้วเด็กชายก็ต้องหยุดชะงักเมื่อภาพตรงหน้าที่เห็นคือมนุษย์ตัวสูงโย่งเด่นกว่าใครในห้องกำลังนั่งเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ด้วยท่าทางสบาย แบมแบมจะไม่ลำบากใจเลยถ้ามาร์คทำในที่นั่งของตัวเอง แต่ที่เขาเห็นมันที่นั่งข้างเขาชัดๆ 


    "หายไปไหนมาแบม" ยองแจกระซิบกระซาบในขณะที่แบมแบมกำลังนั่งลงบนที่นั่งของตัวเอง ร่างเล็กหันมากระซิบตอบเพื่อนว่าไปห้องน้ำ จากนั้นทั้งคู่ก็หันมาตั้งใจเข้าสู่บทเรียนที่อาจารย์กำลังจะเริ่มสอน 


    ป๊อก-
    ผ่านไปแค่ไม่กี่บรรทัด ยางลบขนาดเล็กก็ถูกโยนลงบนตรงหน้าพร้อมกับมีกระดาษผูกติดมาด้วย แบมแบมเหล่ตามองโต๊ะข้างๆ ซึ่งเดิมทีเป็นที่นั่งของเรียวมะ แต่ตอนนี้เจ้าตัวกลับระเห็ดไปนั่งแทนที่ไอ้ผู้ชายตัวสูงที่ทำท่าว่าตั้งใจเรียนเหลือเกินอยู่ข้างๆ เขา


    คิดจะยั่วโมโหเขาหรือไง ไม่มีวันซะล่ะ


    นิ้วเล็กเขี่ยยางลบไว้ขอบโต๊ะอย่างไม่สนใจไยดี ดวงตาใสแจ๋วมองกระดานด้วยความตั้งอกตั้งใจ สักพักดินสอกดก็ถูกโยนมาไว้ตำแหน่งกลางโต๊ะและแน่นอนว่ามีกระดาษผูกติดมาด้วย คิ้วสวยเริ่มขมวดมุ่นแต่เด็กชายก็เลือกที่จะเขี่ยไปกองรวมกับยางลบที่ขอบโต๊ะ ก่อนจะหันกลับไปตั้งใจฟังอาจารย์สอนโดยไม่สนใจมารผจญรอบตัว


    ป๊อก- ป๊อก- ป๊อก-
    ทั้งปากกา กบเหลาดินสอ ไม้บรรทัดกวาดกันมาหมดทั้งกระเป๋าดินสอที่ต่างก็ถูกโยนมาที่แบมแบมโดยฝีมือของคนที่นั่งติดกัน ถึงแม้คนตัวเล็กอยากจะกวาดทุกอย่างบนโต๊ะปาใส่หน้าหล่อๆ ของคนทำเสียหนักหนาแต่เขาก็เลือกที่จะทำเป็นไม่สนใจ จนกระทั่ง...


    ป๊อก-


    "มาร์ค ต้วนและกันต์พิมุกต์ โทษฐานที่เล่นกันในห้องไม่สนใจฟังอาจารย์ เลิกเรียนแล้วให้อยู่ทำความสะอาดห้องด้วย! เข้าใจนะ"


    "อาจารย์! ผมไม่..."


    "ตั้งใจเรียนกันได้แล้ว!"


    ถ้อยคำประกาศิตจากอาจารย์ที่หันมาตะเบ็งเสียงใส่ทำให้ยูริถึงกับอ้าปากค้าง เขาไม่ได้มีส่วนรู้เห็นด้วยสักหน่อย ทั้งที่เป็นฝ่ายถูกแกล้งทำไมเขาต้องถูกทำโทษด้วย คนตัวเล็กคิดพลางตวัดสายตามองคนข้างกายที่ไม่ได้มีท่าทางเดือดร้อนเลยสักนิด


    รอยยิ้มมุมปากที่กดยิ้มมาให้อย่างจงใจแสดงออกชัดเจนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้หมอนี่เป็นคนวางแผนไว้ตั้งแต่ต้นแล้ว!

    .
    .
    .

    "ให้อยู่ช่วยด้วยไหมแบม" 

    ยองแจพูดขึ้นในขณะที่คนทั้งคู่กำลังเดินไปโรงอาหาร แค่ได้ยินแบมแบมก็ทำหน้าเบื่อทันที ไม่เข้าใจว่าหมอนั่นต้องการอะไร ตั้งแต่เมื่อวานแล้วแบมแบมรู้สึกไม่ชอบขี้หน้าเลยจริงๆ ยิ่งมาเจอพฤติกรรมกลั่นแกล้งแบบนี้เขาเองก็ชักจะเหลือทนแล้วเหมือนกัน


    "ต้องรีบไปสมัครชมรมบาสไม่ใช่หรือไง แต่ช่างเถอะ อย่าพูดถึงมันเลย" คนตัวเล็กว่าพลางเดินผ่านห้อง 1-A เพื่อลงบันไดไปชั้นล่าง ในจังหวะที่ก้าวลงก็พบว่ามีอีกคนที่กำลังเดินขึ้นมาพอดี


    "อ๊ะ ขอโทษนะ"


    คนที่เอ่ยขอโทษหลีกทางให้พร้อมกับรอยยิ้มหวานจับใจ เมื่อฝ่ายนั้นเดินผละจากไปยองแจที่มองตามอยู่แล้วก็พูดขึ้นทั้งที่สายตายังไม่ละไปจากใบหน้าสดใสที่ยังคงยิ้มทักทายเพื่อนฝูงไปตลอดทาง


    "คนนั้นน่ะ ปาร์ค จินยอง ฉันเคยเรียนที่เดียวกับเขาตอน ม.ต้น ยิ้มสวย นิสัยดี น่ารัก ดังพอตัวเลยล่ะสำหรับที่นี่" แบมแบมพยักหน้าตามแต่เขาก็ไม่ค่อยได้สนใจมากนัก สำหรับเขาแล้วการที่ต้องย้ายโรงเรียนแทบจะทุกปีตามหน้าที่การงานของผู้เป็นพ่อทำให้เขาไม่ค่อยจะยึดติดกับเรื่องเหล่านี้สักเท่าไหร่ ไม่ว่าจะสถานที่ คนเด่นคนดัง หรือแม้กระทั่งเพื่อน ต่อให้สนิทสนมรักกันมากแค่ไหนสุดท้ายระยะทางก็ทำให้คนห่างกันได้อยู่ดี


    "จินยอง"


    เสียงของมาร์คที่มาพร้อมกับเจ้าตัวซึ่งวาดลำแขนกอดคอหมับทำให้จินยองหันไปมองพร้อมด้วยรอยยิ้มที่ยองแจพูดไม่ผิดเลยว่าเป็นคนที่ยิ้มได้สวยจริงๆ


    "วันนี้ตอนเย็นกลับด้วยกันนะ" คนตัวสูงบอก หากแต่จินยองกลับส่ายหน้ามู่


    "คงไม่ได้หรอก มาร์คมีชมรมนี่ ส่วนเราก็กลับบ้านเย็นไม่ได้ ต้องไปช่วยแม่เฝ้าร้านน่ะ" แบมแบมเลิกคิ้วทำท่าคล้ายกับกำลังครุ่นคิดโดยมีคนตัวเล็กที่ถูกกอดคอแหงนหน้ามองรอว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไรอย่างตั้งอกตั้งใจ


    "ไปส่งไม่ได้ งั้นพรุ่งนี้ฉันไปรับนะ"


    "อื้อ ก็ได้"


    "ดีมาก" คนตัวสูงขยี้เส้มผมละเอียดไปมาพลางยิ้มจนตาหยีก่อนจะผละออกไปหาแจ็คสันและเจบีที่ยืนแบกกีต้าร์รออยู่ไม่ไกล แม้จะเป็นช็อตแค่เพียงสั้นๆ แต่ดูเหมือนบรรดานักเรียนที่อยู่ในบริเวณนั้นต่างก็แอบลอบมองความเป็นไปของทั้งสองคนเป็นตาเดียวกัน ไม่เว้นแม้กระทั่งแบมแบมเอง ทั้งที่ไม่ได้อยากจะสนใจเรื่องของคนอื่นแท้ๆ


    "มาร์คเนี่ยเพิ่งย้ายมาที่นี่แต่ดูสนิทกับจินยองจัง ดูไปดูมาก็เหมือนแฟนกันเลยเนอะ" ยองแจเปรยขึ้นด้วยท่าทางสงสัย แต่พอเจ้าตัวเจออาหารที่ถูกใจก็ทำท่าลัลล้าลืมเรื่องที่พูดไปก่อนหน้าเสียอย่างนั้น แบมแบมเสมองไปนอกหน้าต่างโรงอาหาร ภาพตรงหน้าคือมาร์คและผองเพื่อนกำลังตั้งวงตีกระป๋องสีกันเหมือนเด็กๆ


    เรื่องของพวกเขา ไม่เกี่ยวกับแบมแบมสักหน่อย


    .
    .
    .


    เสียงออดบอกเวลาหลังเลิกเรียน เหล่านักเรียนมัธยมปลายปี 1 ต่างกรูกันออกจากห้องเพื่อแยกย้ายไปทำกิจกรรมของตัวเอง จะมีเพียงก็แต่เด็กชายตัวเล็กที่ได้แต่นั่งนิ่งบนที่เก้าอี้ของตัวเองโดยที่เพื่อนๆ ต่างก็ค่อยก้าวออกไปทีละคนจนเหลือแค่เขากับ...ไอ้ตัวต้นเหตุที่ยังนั่งกระดิกเท้าอย่างอารมณ์ดีเสียเหลือเกิน


    "ทำความสะอาดกันดีกว่า"


    คนตัวสูงบอกพร้อมกับเดินออกไปเอาอุปกรณ์ทำความสะอาดจากห้องเก็บอุปกรณ์ที่อยู่มุมตึก แบมแบมนึกสงสัยจริงๆ ว่าหมอนี่ต้องการจะทำอะไร เห็นได้ชัดว่าจงใจให้เรื่องมันเป็นแบบนี้แต่กลับไม่เห็นจะมีท่าทีอะไรเป็นพิเศษนอกจากการเอาเฮดโฟนครอบหูราวกับจะกันแบมแบมให้ออกจากโลกส่วนตัวก็ไม่ปาน ทั้งที่ตอนแรกแบมแบมเข้าใจว่าหมอนี่ต้องการจะคุยกับเขาเรื่องชมรมเสียอีก


    เด็กชายตัวเล็กถอนหายใจกับตัวเองแล้วรีบลงมือลบกระดาน คิดไปก็เท่านั้น รีบทำความสะอาดให้เสร็จเร็วๆ จะได้รีบกลับบ้านดีกว่า


    ทั้งคู่จัดการงานของตัวเองกันอย่างเงียบๆ จนในที่สุดห้องเรียนที่ไม่ค่อยจะสกปรกสักเท่าไหร่ก็สะอาดและดูเป็นระเบียบเรียบร้อยขึ้น


    "ฉันจะเอาไม้กวาดไปเก็บเอง นายก็ไปเถอะ" แบมแบมอาสาเพราะเห็นว่าอีกฝ่ายยังมีกิจกรรมชมรมที่จะต้องทำแล้วมาร์คก็เป็นคนเอาของพวกนี้มาด้วย คนที่เก็บก็น่าจะเป็นเขาเอง


    "ก็ตามใจ" มาร์คพูดพลางเดินมายื่นไม้ถูพื้นให้อย่างว่าง่าย ร่างเล็กรับมาแล้วเดินไปยังห้องมุมตึกเพื่อเอาของไปเก็บ แต่ทันทีที่ก้าวเข้าไปในห้องมืดแคบ ประตูที่เปิดอ้าทิ้งไว้กลับปิดลงสนิททั้งที่ไร้ซึ่งแรงลมจากภายนอก


    กึก- เสียงล็อคห้องดังมาจากข้างนอกทำให้คนตัวเล็กทิ้งไม้กวาดลงพื้นก่อนจะถลามาที่ประตู มือขาวพยายามจะหมุนลูกบิดแต่มันก็เป็นอย่างที่คิด 


    มีคนล็อคห้องจากด้านนอก!


    "มาร์ค เปิดเดี๋ยวนี้นะ!" แทบจะไม่ต้องรอให้ใครมาบอกว่าเป็นฝีมือใคร แบมแบมกระหน่ำทุบประตูจนสะเทือนแต่การเคลื่อนไหวภายนอกยังคงเงียบฉี่


    "ไอ้คนทุเรศ เจ้าเล่ห์ ฉันบอกให้เปิดประตู!!" ไร้การตอบกลับมาอย่างสิ้นเชิง ป่านนี้แล้วคนอื่นๆ คงกลับบ้านกันหมดไม่เว้นแม้กระทั่งอาจารย์ด้วย หรือถ้ายังอยู่ห้องอาจารย์ก็อยู่อีกฝั่งคงไม่ได้ยินคำร้องขอของเขาแน่ๆ แบมแบมผละถอยหลังออกมาเมื่อคิดว่าทุบประตูห้องไปคงไม่มีประโยชน์ คนตัวเล็กจึงมองไปรอบๆ ห้องที่มืดสนิท 


    คิดเหรอว่าแบมแบมจะร้องไห้อ้อนวอนขอร้องให้นายช่วย กะอีแค่ห้องแคบๆ และความมืดไม่ได้ทำให้ความกลัวของเขาสะเทือนหรอก มุมปากเล็กกดยิ้มเมื่อมองเห็นแสงสว่างที่ลอดเข้ามาผ่านหน้าต่างที่ถูกปิดไว้สนิท


    "คิดว่าฉันจะยอมนายเหรอ มาร์ค ต้วน"


    แบมแบมรุดเข้าไปดึงเบาะเก่าๆ ที่คงเอาไว้ใช้ในชั่วโมงพละออกจากการวางพาดทับหน้าต่างเอาไว้ให้นอนลงบนพื้น จากนั้นก็ใช้เบาะนั่นแหละเป็นตัวเพิ่มความสูงปีนขึ้นไปเปิดหน้าต่างซึ่งค่อนข้างจะอยู่สูงพอสมควร


    ชั้นของปีหนึ่งคือชั้นสอง ถ้าเขาคิดจะปีนลงจากหน้าต่างก็คงจะสามารถทำได้ล่ะนะ คนตัวเล็กคิดพลางใช้มือเลื่อนหน้าต่างให้เปิดออก แต่ทันทีที่แสงจากภายนอกส่องเข้ามา คนที่คิดว่ายังอยู่ในตัวอาคารกลับโผล่หน้ามายิ้มแฉ่งให้ด้วยท่าทียียวนกวนประสาทสุดๆ


    "คิดไว้แล้วว่านายต้องหนีทางนี้"


    "เฮ้ย!"


    แบมแบมร้องตกใจพร้อมกับผงะไปด้านหลังจนเผลอสะดุดเบาะล้มจ้ำอ้าวลงกระแทกพื้น มาร์คเองก็ดูจะตกใจไม่น้อย คนตัวสูงที่ยืนอยู่บนบันไดยาวรีบปีนเข้ามาในห้องพร้อมกับช่วยประคองร่างเล็กที่จุกจนพูดแทบไม่ออกให้ลุกมานั่งบนเบาะ


    "ขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ตกใจ" ร่างสูงพูดร้อนรน แต่มือบางก็พยายามทั้งผลักทั้งดันให้ออกห่างพร้อมด้วยสายตาเคียดแค้นเต็มกำลัง


    "ออกไปเลยนะ ไอ้คนทุเรศ!" แม้จะเจ็บทั้งกายเจ็บทั้งใจแต่แบมแบมก็ยังไม่อยากให้คนที่เขาเพิ่งจะตระหนักด้วยตัวเองเลยว่าเป็นคนที่เขาเกลียดเข้าไส้จริงๆ มาช่วย คิดจะตบหัวแล้วลูบหลังกันอย่างนั้นเหรอ ร่างเล็กพยายามยื้อตัวออกห่างแต่กับอีกคนดูจะเห็นเป็นเรื่องสนุกที่อยากจะเอาชนะไปซะแล้ว


    "เจ็บขนาดนี้ยังจะอวดดี"


    "เรื่องของฉัน นายไม่ต้องมายุ่ง"


    "ไม่ให้ยุ่งอย่างนั้นเหรอ"


    คนตัวสูงพูดพลางล็อคคอกอดร่างเล็กจากทางด้านหลังโดยที่มีแรงขัดขืนจากอีกฝ่ายซึ่งดิ้นไปมาแทบหลุดจากอ้อมแขนหลายต่อหลายครั้ง ทั้งคู่ยื้อแย่งกันด้วยกำลังบนเบาะเก่าจนฝุ่นคละคลุ้งตลบอบอวลจนในที่สุดคนแรงน้อยกว่าก็ต้องตกอยู่ใต้อานัติของคนที่มีกำลังมากกว่าอยู่ดี


    "นายนี่มันฤทธิ์เยอะจริงๆ ให้ตาย" มาร์คพูดพลางหอบในขณะที่คนในอ้อมกอดเองก็ดูเหนื่อยหนักไม่ต่างกัน แต่ก็ยังมีแรงที่จะขัดขืนโดยบิดข้อมือที่ถูกล็อคจับไปมาให้หลุด


    "ปล่อยฉันนะ!" 


    "อยู่นิ่งๆ ก่อนจะได้ไหม มีเรื่องจะคุยด้วย" เสียงที่ส่งผ่านเฉียดใบหูไม่ไกลทำให้คนตัวเล็กยอมนิ่งอย่างที่อีกฝ่ายร้องขอ เมื่อเห็นว่าคนในอ้อมแขนเริ่มจะสงบมาร์คก็คลายมือออกแต่ก็ยังคงจัดการล็อคเอาไว้อย่างเบาๆ เพื่อกันไม่ให้ร่างเล็กแผลงฤทธิ์ดิ้นหนีก่อนที่จะทันได้คุยกันให้รู้เรื่อง


    "แจ็คสันน่ะมันชอบยองแจเพื่อนของนาย..." แค่ประโยคแรกที่ได้ฟังแบมแบมก็ต้องเอี้ยวหน้าเงยขึ้นมองคนที่กอดเอาไว้จากทางด้านหลัง สายตาที่ดูเหมือนจะถามทำให้มาร์คต้องก้มหน้าลงมายิ้มให้ และนั่นก็ทำให้แบมแบมต้องสะบัดหน้ากลับมาที่เดิมแทบจะทันทีเช่นกัน


    "แล้วทำไมไม่ไปชวนยองแจเองล่ะ มาชวนฉันทำไม" คนตัวเล็กแย้งเสียงเบา


    "ก็ยองแจประกาศปาวๆ ว่าตัวเองจะเข้าชมรมบาส พวกฉันเลยคิดว่าถ้านายมาอยู่ชมรมเรา ยองแจก็คงจะมาอยู่ด้วย"


    "ไม่มีทาง ยองแจชอบบาสจะตาย"


    "ก็ให้อยู่ทั้งสองชมรมเลยไง น่า ช่วยกันหน่อยสิ จริงๆ ชมรมเราก็ไม่ได้ต้องการผู้จัดการชมรมมากขนาดนั้น เพราะคงไม่มีงานอะไรให้ทำมากมาย นายก็แค่พายองแจเข้าชมรมไปให้แจ็คสันมันมีโอกาสได้ใกล้ชิดบ้างก็เท่านั้น"


    "แผนสูง" แบมแบมพูดอุบอิบกับตัวเอง แต่มีหรืออีกคนจะไม่ได้ยิน


    "รู้แล้วก็ช่วยตกลงหน่อยสิ" 


    "ไม่ ทั้งนายและก็เพื่อนของนายไม่มีความจริงใจ ถ้ารักถ้าชอบทำไมไม่มาบอกตรงๆ เข้าใจก็ปล่อยฉันได้แล้ว" แบมแบมว่าพลางดิ้น แต่คนตัวสูงกลับบีบรัดลำแขนกอดแน่นเข้าไปอีก


    "ถ้าไม่ยอมตกลงก็จะกอดไว้อย่างนี้แหละ"


    "ฉันเจ็บนะ" แบมแบมครางเสียงอ่อย แต่คราวนี้มาร์คเรียนรู้ด้วยตัวเองแล้วว่าจะไม่ตกหลุมพรางที่ร่างเล็กสร้างขึ้นมาอีก ใบหน้าคมจึงวางคางลงบนไหล่เล็กพร้อมกับกระชับอ้อมกอดแน่น


    "งั้นเหรอ แต่ฉันกำลังสบายเลยนะ" 


    "นายนี่มัน..." แบมแบมกัดฟันเข่นเขี้ยวแต่นึกคำด่าให้สาสมใจไม่ออก คนตัวเล็กจึงได้แต่กรอกตาไปมาก่อนจะถอนหายใจเสียงดังตั้งใจให้คนบ้าอำนาจที่เกาะหลังเป็นกระดองเต่าได้ยิน


    "ก็ได้ๆ ฉันจะพายองแจเข้าชมรมบ้าบอของพวกนายก็ได้"


    "ดีมาก" 


    มาร์คยิ้มพออกพอใจพร้อมกับยกมือขยี้ศีรษะเล็กไปมาเบาๆ พร้อมกับปล่อยร่างเล็กให้เป็นอิสระ ทันทีที่หลุดออกมาได้ แบมแบมก็ผละตัวออกห่างไกลเป็นวาโดยที่มาร์คค่อยๆ หยัดกายลุกพร้อมกับปัดเศษฝุ่นออกจากตัว


    "แต่ขอบอกเอาไว้ก่อนนะ ว่าฉัน...เกลียดนาย" 


    แบมแบมบอกชัดเจนแล้วเป็นฝ่ายปีนออกจากหน้าต่างลงบันไดที่มาร์คเป็นคนพาดไว้ตอนที่ขึ้นมา คนตัวสูงยักไหล่ เขาเองก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรนักหรอกเพราะยังไงก็ได้ทำหน้าที่ของตัวเองเสร็จสมบูรณ์แล้ว เด็กหนุ่มมองนาฬิกาข้อมือก็พบว่าเป็นเวลาห้าโมงกว่าแล้ว 


    "ตายห่ะ- ชมรม"


    คนตัวสูงตรงไปที่หน้าต่างเพื่อเตรียมปีนลง แต่บันไดที่มันควรจะพาดไว้กลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย จะเป็นฝีมือใครไปได้ล่ะ นอกจากคนที่เพิ่งจะใช้งานมันเมื่อไม่กี่นาทีนี้ จะให้เขาใช้ประตูก็ไม่ได้เพราะเป็นคนจัดการล็อคเองกับมือ


    "แสบจริงๆ นะแบมแบม"

     


     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×