ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fierce #ดื้อมั้ยล่ะ ไม่ดื้อก็ไม่ดุ [BTS X YOU]-END-

    ลำดับตอนที่ #6 : #ดื้อมั้ยล่ะไม่ดื้อก็ไม่ดุ 06 | ไม้ได้เธอสักทีแล้วเสียใจได้ป่ะ [100%]

    • อัปเดตล่าสุด 13 พ.ค. 64


    คำเตือนตัวโตๆ: ฟิคเรื่องนี้เป็นเนื้อหาแบบฟีลกู้ด มีดราม่าปะปน และฉากเรท บวกคำหยาบ พระเอกเป็นสายชิล ส่วนนางเอกเป็นสายเก็บกวาด กรุณาใช้จักรยานในการอ่านเป็นอย่างสูง ข่อมค้าบ

    #ดื้อมั้ยล่ะไม่ดื้อก็ไม่ดุ 06 | ไม้ได้เธอสักทีแล้วเสียใจได้ป่ะ

    jimin OOOMMMGGGG uploaded by Park♡Jimin on We Heart It

    -ไม้ได้เธอสักทีแล้วเสียใจได้ป่ะ-


    ​#ยังไม่ได้แก้คำผิด



    “แล้วเค้าก็บอกว่าเธอเป็นเมียเค้า”


    “....”


    อ่ะ พอประโยคนี้ฉันถึงขั้นสะอึก มือที่กำลังจะเลื่อนรูปในฟีดหยุดชะงักแบบไม่ต้องถามเลยว่าเพราะอะไร


    ไอ้ปาร์คมันปกติดีป่าววะ? ตอนไม่เมานี่ว่าหยอดเก่งละนะ พอตอนเมานี่แม่งหยอดเก่งคูณล้าน


    “น้องบอกว่าอยากต่อกับเค้า แต่เค้าบอกว่าเค้ามีเธอแล้ว น้องเลยโกรธนิดหน่อย”


    “อืม แล้วทำไงต่ออ่ะ”


    เพิ่งเคยโดนหยอดแรงก็วันนี้ เพราะงั้นฉันก็เลยตอบไปตามน้ำ ฉันแน่ใจว่ายังไงปาร์คจีมินมันก็ต้องเพ้อต่อแน่ๆ จนกว่าจองกุกจะสร่างและลุกได้ อย่างน้อยฉันก็อาจจะได้ข้อมูลอะไรสักอย่างที่ฉันอยากได้


    “ก็เลือกเธอไง” โอเค เข้าใจ ซาบซึ้ง


    “ความจริงมึงไม่ต้องสนใจกูก็ได้นะ กูทำกับมึงขนาดนี้มึงยังอยากเป็นเพื่อนกับกูอยู่อีกเหรอ”


    “อือ”


    “เออ โอเค” งั้นกูจะทำต่อไป


    “เอากันหน่อยไหม?”


             กึก!


             มือฉันชะงึกกึกอีกรอบเมื่อได้ยินคำถามที่เปล่งออกมาจากปากคนที่เพิ่งเรียกตัวเองว่าเพื่อนเมื่อกี้ ฉันมั่นใจนะว่าเมื่อกี้นี้เราน่าจะคุยกันรู้เรื่องแล้ว ในเมื่อเลือกที่จะเป็นเพื่อน ก็เป็นแค่เพื่อนดิ มึงจะมาถามว่าเอากันหน่อยมั้ยเหี้ยอะไรของมึงอีก


    “เอาอะไรนะ?”


           “เอากับกูไง”


            กว่าจะเงยหน้าถามมันได้ก็ตอนที่เลิกช็อกกับคำถามเมื่อกี้นี้ ฉันหยัดกายลุกขึ้นนั่งแต่ทว่าความหัวเสียก็ยังคงวนเวียนอยู่ในสมอง ฉันไม่ได้ดีใจที่จู่ๆเพื่อนสนิทก็มาถามอะไรแบบนี้ ถึงแม้ว่าฉันจะชอบมัน แต่ฉันก็ไม่ได้อยากจะเกินเลยไปมากกว่าสถานะเพื่อนหรอก เพราะฉันเคยบอกไปแล้วไงว่าจีมินมันแคร์เพื่อนมากกว่าแฟน แล้วถ้าเกิดว่าฉันยอมก้าวข้ามเส้นสถานะเพื่อนไปเป็นอย่างอื่นแล้วมันมีประโยชน์กับฉันตรงไหน


                “....”


                เลือกที่จะเงียบแทนที่จะโวยวาย จากนั้นถึงได้รีบลุกออกจากเตียงและยืนมองสภาพของคนเมาที่เพิ่งจะพูดจาเพ้อเจ้อเมื่อกี้นี้นิ่งๆ


                ปาร์คจีมินมันยังคงนั่งพิงขอบเตียงและมองฉันด้วยสายตาที่ว่างเปล่า เห็นไหม? ว่าคำพูดกับสายตาของมันตอนพูดออกมามันไม่ได้สัมพันธ์กันเลยสักอย่าง เมื่อกี้มันกำลังชวนฉันทำเรื่องอย่างว่า แต่พอฉันลงจากเตียงเพื่อมามองตามันว่ามันพูดจริงหรือเปล่าฉันกลับต้องชะงัก เพราะมันไม่ได้มีความจริงใจแสดงออกมาทางสายตาของมันเลย


                ยอมรับว่าปาร์คจีมินดูแลและเทคแคร์ฉันในฐานะเพื่อนดีมาก แต่ที่มันชวนฉันทำเรื่องอย่างว่าเมื่อกี้ สายตาที่มันมองฉันนั้นมันมองฉันเหมือนกับว่าฉันเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่มันอยากแค่วันไนท์ด้วยแค่คืนหนึ่งก็แค่นั้น มันไม่ได้แสดงอาการออกมาทางสายตาเลยสักนิดว่ามันชอบฉัน


                “ไอ้เลว”


                อดไม่ได้ที่จะด่าหลังจากที่เงียบไปนาน จากนั้นฉันก็รีบออกมาจากห้องในช่วงเวลาเกือบจะตีหนึ่งแล้วแบบนี้ ทั้งๆที่ฉันไม่ได้มีเพื่อนที่อื่นไหนเลย แต่ฉันก็แค่อยากหนีออกมา ฉันไม่อยากเห็นปาร์คจีมินในตอนนี้เลยสักนิด ฉันกลัวว่าตัวฉันเองจะเผลอทำอะไรไม่ดีลงไปอีก


                ฉันไม่อยากพลาดเหมือนกับครั้งนั้นอีกแล้ว....



     

     

                ผ่านมาสามวันแล้วซึ่งไวเหมือนโกหก แต่ฉันไม่ได้โกหก หลังจากวันนั้นที่ฉันออกมาจากห้องฉันก็ไปหาห้องเช่ารายวันและนอนอยู่ที่นั้นคืนหนึ่ง ยอมสละเงินสี่ร้อยเพื่อที่จะหนีออกมา พอกลับมาถึงหออีกทีก็ไม่มีใครอยู่แล้ว ฉันเลยได้ใช้ชีวิตต่อไป และฉันก็ไม่ได้เห็นปาร์คจีมินอีกเลยตั้งแต่คืนนั้น


                ดูเหมือนว่าฉันกับจีมินเราเริ่มจะทะเลาะกันจริงจังแล้วหลังจากคืนที่ไปปาร์ตี้ในวันนั้น ฉันไม่ได้นึกแคร์หรือเสียดายอะไรทั้งนั้น เพราะในตามความเป็นจริงมันก็ควรจะเป็นแบบนี้อยู่แล้ว เพื่อนที่ไหนเขาถึงได้มาชวนกันทำเรื่องอะไรแบบนี้ แค่รู้สึกล้ำเส้นสถานะเพื่อนก็ผิดอยู่แล้ว มาเอาอะไรฝืนเป็นเพื่อนกันต่ออีก


                ฉันไม่เอาด้วยหรอก มันโคตรแย่


                “เห้ย นั่นมันไอ้ต้าวคนสวยนี่หว่า”


                ฉันหันตามเสียง หลังจากที่มีคนเอ่ยทัก ตอนนี้ฉันสิงอยู่ที่ห้องสมุดหลังจากที่เรียนคาบเช้าเสร็จก็มาสิงอยู่ที่นี่คนเดียว แต่พับผ่าสิ จองกุกมันดันตามหาฉันเจออีก ทั้งๆในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อย่างห้องสมุดคนอย่างมันไม่น่าจะเข้ามาได้ มันยังจะตามหาฉันเจออีก ไอ้พวกนี้นี่


                “เสียงดังหา...มึงเหรอ?” ฉันเอ่ยขานรับแต่เว้นคำว่าพ่อเอาไว้ตรงกลางไม่ได้พูดออกเสียงไป จองกุกหน้างอ แต่ก็เดินมาที่โต๊ะที่ฉันนั่ง จองกุกมาคนเดียว ซึ่งนั่นก็ดี ฉันไม่ได้คาดหวัง และก็อย่าคิดว่าฉันคาดหวังด้วย


                “ทำไมอยู่คนเดียวอ่ะ ไอ้เทพเจ้าปาร์คอ่ะ” พอมาถึงคำถามแรกจองกุกก็เล็งถามหาไอ้ปาร์คเลย แต่ขอโทษนะ ฉันจะรู้มั้ย คืนนั้นลากกันกลับเองอยู่สองคนยังจะมาถาม


                “ไม่รู้”


                “อ้าว เธอนี่ยังไงอ่ะ”


                “ยังไงอะไร?”


                “ผัวหายไปตั้งสามวันยังมีกระจิตกระใจมานั่งอ่านหนังสืออีก” หนังสืออะไร ไม่ได้อ่านโว้ยเอามาเป็นพิธีเฉยๆเถอะ


                “ยุ่งอะไรอีกล่ะเนี่ย”


                “ทะเลาะกันเหรอ?”


                “เปล่า”


                “แสดงว่าใช่” แล้วมึงจะถามกูเพื่อ!


                “รู้แล้วจะไปไหนก็ไปไป”


                “ยังก่อนดิเธอ”


                “อะไรอีก?”


                “ช่วยหาหนังสือก่อนดิ พอดีเลย มานี่มา”


                ยังไม่ทันได้ปกิเสธ แขนฉันก็ถูกจองกุกหิ้วปีกแล้ว ฉันขัดขืนไม่ได้เพราะจองกุกแรงเยอะกว่าฉันเลยต้องจำใจเดินตามไปเรื่อยๆ จองกุกพาฉันมาที่ชั้นหนังสือเกือบในสุด ซึ่งน่าจะเป็นโซนหนังสือเกี่ยวกับวิทยานิพนธ์ต่างๆ แต่ยังไม่ทันที่จะได้หยุด จองกุกกลับเร่งฝีเท้าเดินไปไกลกว่าเดิมซึ่งมันเกือบจะสุดท้ายของชั้นหนังสือในห้องสมุดชั้นนี้แล้ว


                “จะไปหาหนังสืออะไรไกลขนาดนั้น” ฉันรีบถามเพราะเดี๋ยวจะยาวอีก นี่ห้องสมุดนะ และที่กบดานฉันก็มีแค่นี้ ถ้าโดนอาจารย์บรรณารักษ์แบนล่ะก็จบเห่เลยนะ


                “....”


                “จองกุก!


                “อย่าเสียงดังดิ เนี่ยถึงแล้ว”


    พรึ่บ ปึก!


    และมันก็เป็นอย่างที่ฉันคิดไว้ จองกุกพาฉันมาที่ชั้นหนังสือชั้นสุดท้ายซึ่งอยู่ห่างไกลผู้คนมาก ราวกับดอยแถวบ้านฉันที่เชียงราย จากนั้นจองกุกยังไม่พอผลักฉันชนกับชั้นหนังสือแล้วเท้าแขนสองข้างคร่อมขังฉันไว้อีก ฉันไม่รู้ว่ามันจะอะไรกับฉันนัก ขอใช้ชีวิตแบบสุขใจอีกสักวันก็ไม่ได้เลยเหรอ


    “เธอเป็นอะไรอ่ะ?”


    “เธอนั่นแหละเป็นอะไร?” อยู่ๆก็มาถามฉันว่าเป็นอะไร ฉันก็เลยถามกลับ ฉันจะเป็นอะไรได้ล่ะ นอกจากคนสวย ว่าไปนั่น


    “ทะเลาะกับไอ้ปาร์คจริงดิวะ” เอาอีกแล้ว มาเรื่องนี้อีกแล้ว จะไม่จบไม่สิ้นใช่ไหม


    “เออ ทะเลาะ พอใจยัง ทำไม จะแก้แค้นป่ะ หรือจะอะไรรีบพูด”


    “ขอโทษ”


    ฮ๊ะ? อะไรนะ?


    “มาไม้ไหนอีกเนี่ย?”


    “ไม้ได้เธอสักทีแล้วเสียใจได้ป่ะ?” อะไรของมันอีกวะเนี่ย มุกอะไรเนี่ย


    “พอเถอะ ปล่อยเราไปเถอะ เราจะบ้าตายแล้ว”


    “เห้ย เดี๋ยวดิ!


    ฉันไม่รอให้จองกุกมาเล่นมุกอะไรต่ออีกไร้สาระ ฉันก็รีบมุดออกใต้แขนของมันแล้วรีบเดินออกมาจากที่ตรงนั้น แต่ยังก้าวเดินออกมาได้ไม่ทันสองก้าวเท้าฉันก็ชะงักที่เดิมเมื่อมีใครคนหนึ่งมายืนล้วงกระเป๋ามองฉันกับจองกุกเมื่อกี้


    หายหน้าหายตาไปสามวันไม่ยักโผล่หัวมา พอจะโผล่มาก็ดันโผล่มาได้จังหวะจริงๆ


    “กูว่ากูต้องจัดการกับมึงแบบจริงๆจังๆแล้วว่ะกิ”

    50%


    แถมยังมาพูดขู่เข็ญอะไรอีกก็ไม่รู้ บางทีก็ควรจะพักเรื่องเหล้าเบียร์บ้าง ดื่มมากจนสมองเบลอแล้วหรืออะไรยังไง


    “นี่ก็อะไรอีกคน” ฉันไม่ได้บอกให้จีมินมันหลบให้ฉันเดิน แต่ฉันเลือกที่จะเดินชนมันไปทั้งอย่างงั้น แต่ทว่าฉันคิดผิด แขนฉันถูกคว้าและเดินอีกรอบ และครั้งนี้จีมินมันพาฉันออกมาจากห้องสมุด แถมมันยังใจดีแวะเก็บกระเป๋ากับหนังสือที่ฉันเอาออกมาให้ด้วยอีกต่างหาก


    ฉันยอมเดินตามมันออกมาเงียบๆเพราะที่นี่ห้องสมุดไม่อยากเสียงดังรบกวนคนอื่น แต่ทันทีที่ประตูหน้าห้องสมุดเลื่อนปิดลงในตอนที่จีมินลากฉันออกมาถึงข้างนอกห้องสมุดแล้วฉันก็สะบัดแขนที่จีมินจับออกในทันที


    พรึ่บ!


    “....”


    “....”


    จีมินมันหันมามองค้อนใส่ฉัน แต่ฉันก็แค่ยกมือเสยผมแล้วเงยหน้าขึ้นแทน ไม่อยากเห็นหน้ามันเลยจริงๆ แต่ยังไงก็ต้องมอง ฉันถึงได้หันกลับมาและมองหน้ามันชัดๆ


    “เอากระเป๋ากูมา กูจะกลับ”


    ใช่ ที่จำเป็นต้องมองเพราะกระเป๋าฉันอยู่กับมัน ไม่ใช่แค่กระเป๋าอย่างเดียวด้วย โทรศัพท์มือถือ เงินใดๆก็อยู่กับมัน ถ้าฉันสามารถหนีมันไปได้เลยโดยที่ไม่ต้องเอาเงินไปจ่ายค่ารถได้ฉันทำไปแล้ว


    “ไม่”


    “จะอะไรอีก?”


    “โกรธอะไรขนาดนั้นวะ?”


    “มึงยังกล้าถามกูอีกเหรอ!


    “ก็เออไง ก็กูไม่รู้ว่ามึงเป็นอะไรไงกูถึงได้ถาม”


    “แต่คนที่หายไปคือมึงนะจีมิน มึงจะมาเอาอะไร”


    “แต่คนที่หายไปก่อนคือมึงต่างหากกิ มึงนั้นแหละจะยังไง”


    “....”


    ฉันเลือกที่จะเงียบและมองไปรอบๆแทน เริ่มมีคนส่งสายตาจับจ้องและมองเรามาทางนี้เรื่อยๆ บางคนถึงขั้นยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่าย อย่างที่บอกจีมินมันเป็นคนดัง ผู้หญิงเกือบทั้งมหาวิทยาลัยอยากได้มันแต่ติดที่ว่ามีข่าวโคมลอยว่ามันคบกับฉันอยู่ผู้หญิงพวกนั้นถึงได้ไม่กล้า และนั่นก็หมายความว่าในตอนนี้ฉันโดนสมน้ำหน้าจัดๆเพราะทะเลาะกันให้พวกนั้นเห็น


    ฉันนี่มันน่าสมเพชจริงๆ


    “โอเค กูแพ้”


    “....”


    “เอากระเป๋ากูมา แล้วมึงจะทำอะไรก็ทำ”


    “....”


    “ไอ้ปาร์ค”


    “....”


    “...มึงจะไม่แล้วใช่ไหม?”


    “....”


    “ม-กรี๊ด!


    ยังไม่ทันที่ฉันจะได้พูดจบประโยค ร่างฉันก็ลอยวืดกลางอากาศ  เพราะถูกอีกคนคว้าไปอุ้มท่าเจ้าสาว จีมินมันอุ้มฉันและเดินว่อนต่อหน้าผู้คนนับร้อยในมหาวิทยาลัย ฉันไม่ยอมอยู่นิ่งและฉันก็ขัดขืนเต็มที่ พยายามดิ้นเพื่อให้จีมินมันปล่อยฉันลงเดินซะ หรือจะให้ฉันหลุดมือตกลงพื้นคอหักเลยก็ได้ทั้งนั้น แต่อย่ามาอุ้มฉันแบบนี้ฉันไม่ชอบ


    “มึงปล่อยกูนะไอ้ปาร์ค!


    ฉันตะคอกใส่มันเสียงดังให้มันปล่อยฉันลงสักที แต่ไม่ได้ผล ปาร์คจีมินมันไม่ยอมหันมามองหน้าฉันเลยสักนิด แถมมันยังสาวเท้าเดินให้เร็วขึ้นกว่าเดิมอีก จวนจะถึงรถมันแล้วฉันถึงได้หยุดดิ้น เพราะคิดว่ามันจะปล่อยฉันลง


    แต่ไม่ มันปล่อยแค่ขาฉัน พอขาฉันแตะพื้นมันก็ร่างกายแข็งแรงของมันเบียดฉันอัดไว้กับรถมันในทันที


    ปาร์คจีมินมันไม่เคยรุนแรงกับฉันขนาดนี้ แต่ครั้งนี้มันรุนแรงจนทำให้ฉันรู้สึกเจ็บได้ มันไม่ใช่ปาร์คจีมินคนเดิมแล้ว


    “มึงจะทำอะไร?”


    ฉันถามในขณะที่น้ำเสียงเริ่มสั่น ครั้นพอได้สบตากับจีมินฉันถึงได้รู้ว่ามันโกรธ ดวงตาของมันแดงก่ำ แสดงออกมาได้อย่างชัดเจนเลยว่ามันโกรธ แต่นั่นความผิดฉันเหรอ?


    “มึงมันแย่กิ”


    “....” เออ ก็รู้ไง


    “กูคงปล่อยมึงตามใจเกินไป มึงถึงได้ดื้อมากแบบนี้”


    “ถ้ากูดื้อแล้วมึงจะทำไม?”


    “....”


    ที่จริงฉันไม่ได้อยากจะสาดน้ำมันเข้ากองไฟหรอก ฉันรู้ว่าจีมินมันโกรธอยู่แล้วพอฉันยิ่งพูดมันก็จะยิ่งโกรธ แต่ฉันอยากให้มันปล่อยฉันไป แถวลานจอดรถนี้มีคนอยู่ประมานสามสี่คน ฉันเลยแน่ใจว่าการพูดไปแบบนี้ยังไงจีมินก็ต้องยอมปล่อยฉันไปแน่ๆ


    พรึ่บ


    และมันก็จริง จีมินยอมปล่อยฉัน มันผละร่างกายออกไป และอ้อมไปฝั่งคนขับในทันที ฉันได้ยินเสียงเปิดประตูรถ ไปจนถึงเสียงสต๊าทเครื่องยนต์ แต่ฉันยังยืนอยู่ที่เดิม จีมินมันต้อนฉันให้จนมุมอีกจนได้ สุดท้ายฉันก็ต้องจำใจขึ้นรถไปกับมันเพราะกระเป๋าฉันอยู่กับมันไง จะให้ทำยังไงได้


    ปึก!


    ประตูรถปิดหลังจากที่ฉันขึ้นมานั่งที่เบาะหลังซึ่งเป็นที่นั่งของผู้โดยสาร ฉันไม่อยากไปนั่งที่ข้างคนขับ เพราะฉันคิดว่ามันคงไม่เหมาะกับคนอย่างฉัน


    “....”


    “....”


    เจ้าชิคไม่ได้เคลื่อนตัวออกไป จีมินมันแค่สต๊าทรถไว้แล้วนั่งนิ่งๆ มันคงกำลังพยายามสงบสตารมณ์ ฉันเองก็ไม่ต่าง ฉันแค่นั่งเงียบๆ เงียบมากเท่าไหร่ยิ่งดี ก็ดีแล้ว พูดไปก็ไม่เห็นมีประโยชน์อะไร ทะเลาะกันเสียเวลาซะเปล่าๆ


    “มานั่งข้างหน้า”


    “....”


    ฉันเงียบ ในตอนที่จีมินบอกให้ฉันไปนั่งข้างหน้าซึ่งเป็นที่นั่งข้างๆมัน แต่ฉันไม่ไป ก็บอกแล้วไงไม่อยากอยู่ใกล้


    “ไอ้เชี่ยกิ”


    “....”


    “หนึ่ง...”


    คราวนี้จีมินมันถึงขั้นนับรันเลขเพื่อให้ฉันไปนั่งข้างมัน ถึงฉันจะไม่อยากไปแค่ไหนก็ต้องไป เพราะในตอนที่ฉันเผลอสบตากับจีมินผ่านกระจก สายตาของมันไม่ได้ทีเล่นเลย มันเอาจริง เพราะฉันไม่เคยเห็นมันโกรธ ฉันเลยเพิ่งรู้ว่าตอนที่มันโกรธมันดุมากขนาดนี้


    ดุมากซะจนคนที่ดุอย่างฉันกลายเป็นหมาได้ภายในเสี้ยววิ


    ปึก!


    ฉันยอมเคลื่อนตัวมานั่งที่เบาะหน้า จากนั้นก็ปิดประตู การกระทำของฉันอยู่ในสายตาของจีมินเสมอซึ่งฉันรู้ตัว มันมองฉันอยู่ตลอด มองด้วยสายตาขุ่นเคือง มองฉันด้วยสายตาที่ฉันคาดหวังว่ามันจะมองฉันแบบนั้นสักครั้ง


    สายตาที่เบื่อหน่าย และรำคาญ


    “....”


    “....”


    เรานั่งเงียบอยู่ในรถแบบนั้นนานเกือบยี่สิบนาทีได้ โดยที่ไม่คุยอะไรกันเลย มันแย่มากที่ฉันรู้สึกอึดอัดจนอยากจะกัดลิ้นตายไปตรงนี้ ฉันเกลียด เกลียดกลิ่นหอมอ่อนๆที่คละคลุ้งอยู่ในรถคันนี้ เกลียดแม้กระทั้งกลิ่นน้ำยาปรับอากาศในรถมัน


    เกลียดเจ้าของรถด้วย


    กึก กึก


    จนกระทั่งมีเสียงเคาะกระจกดังขึ้น ฉันถึงได้หันไปตามเสียง เห็นอยู่ว่าคนที่มาเคาะกระจกรถฝั่งฉันคือแทฮยอง ซึ่งฉันแปลกใจมากที่เป็นแทฮยองโผล่หัวมาในเวลานี้


    “....”


    ฉันนิ่ง มองแค่ผ่านกระจกไม่ได้ลดกระจกลง ถึงแม้ว่าจะอ่านปากแทฮยองได้ว่านางให้เปิดกระจกรถลงให้ก็ตาม ขนลุกซวบซาบเพราะสายตาข่มขู่อยู่ไม่ไกลทำให้ฉันจำใจที่ต้องลดกระจกรถให้ โดยที่จีมินไม่ต้องออกเสียงอะไรออกมา


    “อะไร!


    ทันทีที่ลดกระจกรถลงฉันก็เอ่ยถาม และคำตอบที่ได้ก็คือแทฮยองเอื้อมมือมาดึงแก้มฉันจนเนื้อยืด


    “อื้อ ไอ้นี่!


    ฉันรีบสะบัดหน้าออกถึงแม้ว่าจะเจ็บ แทฮยองยิ้มจากนั้นมันก็เอาอะไรสักอย่างวางบนตักฉัน ก่อนที่จะโบกมือให้และหันหลังเดินออกไป ฉันได้แต่มองตามแผ่นหลังนั่นงงๆ อะไรของมันวะ


    “ปิดกระจกรถได้ละ”


    แต่มองยังไม่ทันไรก็ต้องปิดกระจกรถเมื่อเจ้าขอองรถบอกให้ปิด เจ้าชิคเคลื่อนที่ออกไปจากลานจอดรถในทันทีเมื่อได้สิ่งที่ต้องการ ฉันเพิ่งรู้ว่าจีมินมันจอดรอของจากแทฮยอง ของที่มันวางให้ฉันบนตัก แต่ฉันแค่ไม่ได้มอง พอนึกได้ถึงได้ก้มมอง


    มันคือถุงกระดาษเล็กๆ แต่ฉันไม่ได้ใส่ใจอะไร เพราะคิดว่ามันอาจจะเป็นเครื่องประดับยิบย่อยอะไรทำนองนั้น ฉันเลยหยิบถุงนั่นขึ้นมาแล้ววางมันไว้บนคอนโซลรถ จากนั้นก็นั่งกอดอกไปเงียบๆ


    ไม่ต้องเดาให้ยากก็รู้ว่ายังไงจีมินมันก็พาฉันมาหอมัน เจ้าชิคจอดและดับลง ก่อนที่จีมินมันละลงจากรถไปโดยที่ไม่ลืมหยิบกระเป๋าของฉันไปด้วย ความจริงฉันจ้องจะเอากระเป๋าฉันคืนตั้งแต่บนรถ แต่มันดันวางไว้บนตักมันฉันเลยไม่กล้าหยิบเอา ฉันเลยต้องมากับมันจนถึงนี่


    “ลงมา”


    “....”


    “หยิบของที่ไอ้แทให้มาด้วย”


    พอฉันยังไม่ยอมลงไป มันก็เปิดประตูตามฉันลง ฉันกะจะวิ่งหนีออกไปเลย แต่มันดันยืนเฝ้า จีมินจดจ้องทุกการกระทำของฉันเอาไว้ในสายตา คิ้วหนาๆขอมันขมวดมุ่น สีหน้าที่เคยทะเล้นและแพรวพราวก็ไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก


    เคยบอกไปแล้วว่าฉันไม่เคยเห็นจีมินตอนโกรธทั้งๆที่เป็นเพื่อนกันมาเป็นปี ฉันเลยไม่รู้ว่าจะรับมือกับจีมินยังไงต่อจากนี้


    ปึก


    ประตูเจ้าชิคปิดลงหลังจากที่ฉันลงมาแล้ว จีมินก็ปิดประตูและล็อกรถ ฉันยืนมองมันนิ่งๆ เพราะกะจะรอให้มันขึ้นไปก่อน ส่วนฉันจะหนี แต่มันไม่ไป มันก็ยืนล้วงกระเป๋ากางเกงมองฉันเหมือนกัน


    “ไปก่อน”


    “ไม่”


    “มึงอย่าดื้อดิกิ”


    “แล้วทำไมมึงไม่ไปก่อนล่ะ”


    “มึงคิดว่ากูไม่รู้เหรอว่ามึงจะหนีกู”


    “....”


    “กูรู้จักมึงดีกว่าตัวมึงเองอีก”


    100%

    #ปาร์คพักก่อนมั้ย

    Jimin Bts GIF - Jimin Bts Cute - Discover & Share GIFs

    TWR.

    ถ้ารู้จักดีแล้วทำมัยถึงทำอย่างนั้นล่ะคะ ทำไมถึงได้ชอบชวนให้สะกดกับว่าเพื่อนไม่ถูกตลอดเลย เธอมันร้ายปาร์คจีมิน เธอมันทำให้กิหลงทางและจนมุม ฮรึก

    ตอนหน้าใครรอพ่อทำโทษเพื่อนสาวดื้อๆ เกียมตัวดือๆนะคะ มีเลือดสาด กี้ด

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×