คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : -SLAVEHOLDER 12- 100%
คำเตือน : เนื้อหาเรื่องนี้เเต่งขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียน ไม่ได้มีเจตนาทำร้ายหรือพาดพิงผู้ใด มีเนื้อหารุนแรง 18+ รับไม่ได้กดออกนะคะ อย่ากดแบน หรือเตือนกันดีๆก็ได้ไรท์รับฟังนะ
เจเดน Cr.Jungkook Bts
ฟ้าประทาน Cr.Olivia Hye LOONA
โจชัว Cr.Y Golden child
วอนอู Cr.Wonwoo Seventeen
--------
-SLAVEHOLDER-
-12-
#ฟ้าประทานเจเดน
Love me or hate me, but you will never change me – จะรักหรือเกลียดฉัน แต่คุณก็ไม่มีทางเปลี่ยนฉันได้
*ยังไม่ได้แก้คำผิด
-SLAVEHOLDER 12-
บทสนทนาที่กำลังดำเนินอยู่ทุกขัดโดยหญิงสาวแปลกหน้าที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้
ร่างสูงของเด็กหนุ่มวัยสิบเจ็ดปีผู้เป็นลูกชายคนเล็กของทาคาดะกรุ๊ปก็ขยับฝีเท้าหันมาเผชิญหน้ากับฟ้าประทาน
ใบหน้าของเขาเคลือบแคลงไปด้วยความสงสัยปนตกใจอยู่ไม่น้อยที่เขาบังเอิญได้เจอเธอที่นี่
“คุณรู้จักผมเหรอครับ?”
“ก็-“
“ประทานโทษด้วยครับ เธอคงจำคนผิด”
เด็กหนุ่มถามฟ้าประทานออกไป
คิ้วหนาก็เลิกขึ้นรอฟังคำตอบ แต่ทว่ายังไม่ทันที่ฟ้าประทานจะได้ตอบออกไปจบประโยค ร่างบางของเธอก็ถูกรวบโดยวอนอูซะก่อน
ใบหน้าสวยยับยู่ยี่เมื่อเธอเริ่มรู้สึกไม่พอใจที่วอนอูกล่าวหาเธอว่าเธอจำคนผิด
ถึงแม้ว่าร่างบางของเธอจะถูกรวบไว้โดยร่างสูงของวอนอู
แต่มีเหรอคนอย่างฟ้าประทานเธอจะยอม
“ฉันจำคนไม่ผิดหรอกค่ะ
เราโตมาด้วยกัน อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก จะจำผิดได้ยังไงคะ!”
“!...”
“เธอจะบ้าเหรอนี่-“
“ถ้างั้นผมขอคุยกับเธอเป็นการส่วนตัวได้มั้ยครับ?”
“คุณเจเดนท่าน-“
“ได้สิ!”
วอนอูกำลังจะปฏิเสธว่าเจเดนไม่อนุญาต
แต่ทว่าฟ้าประทานเธอกลับโพล่งออกไปว่าได้ ทำให้วอนอูชะงักกึก
เขากำลังจะเอ่ยกล่าวโทษเธอแต่ทว่าฟ้าประทานเธอก็เถียง
“เธอนี่มัน-“
“ถ้านายท่านจะลงโทษ ฉันรับผิดเองค่ะ คุณไม่ต้องกังวล”
“....”
“....”
ท้ายที่สุดแล้ววอนอูก็จำใจต้องปลดปล่อยร่างบางให้เป็นอิสระ
แต่เขาก็ยังจับตามองดูเธอตลอดเวลาตามที่เจเดนสั่งอยู่ดี
ร่างบางเดินตามร่างสูงของนิรินิกิออกมาที่ข้างนอกงาน
ที่ลานต้นสนที่เธอเพิ่งจะถูกเจเดนลากเข้างานเมื่อครู่ เมื่อถึงที่หมายที่ทั้งคู่คิดว่าปลอดภัยจากสายตาคนอื่นๆแล้ว
พวกเขาถึงได้หยุดเดินและหันมาเผชิญหน้ากันอย่างเปิดเผย
“ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่?”
นิรินิกิเป็นคนเปิดประเด็นก่อนเมื่อมาถึง
น้ำเสียงทุ้มต่ำที่เพิ่งแตกหนุ่มก็เปล่งออกมาด้วยความขุ่นเคืองเล็กน้อย
“พี่ต่างหากที่ต้องถามโปรดว่าทำไมมาอยู่ที่นี่
แถมยังมาเป็นลูกชายคนเล็กของทาคาดะอีก”
“....”
“มีอะไรปิดบังพี่อยู่ใช่ไหม?”
“เธอไม่ใช่พี่ฉัน”
“ฮ๊ะ?”
“เราไม่ใช่พี่น้องกันจริงๆสักหน่อย
ทำไมเธอถึงได้น่ารำคาญแบบนี้”
“....”
ทั้ง ๆ ที่ฟ้าประทานเธอดีใจมากที่บังเอิญได้เจอน้องชายที่นี่
แต่ทว่าพอได้ยินคำพูดที่เขาพูดออกมากลับทำให้ในใจของฟ้าประทานปวดหนึบ ทั้ง
ๆที่ตลอดหลายอาทิตย์ที่ผ่านมาเธอกังวลตลอดว่าน้องชายจะใช้ชีวิตอยู่ยังไงถ้าไม่มีเธอ
แล้วไหนจะเรื่องเตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัยอีก แต่ทว่าความเป็นห่วงของเธอกลับถูกเหยียบย้ำไม่มีชิ้นดีเมื่อได้ยินคำพูดของน้องชาย
“ยังจะมาใส่ใจอะไรอีก ทั้ง
ๆที่รู้ว่าครอบครัวนั้นมันจอมปลอม เพราะแค่จำไม่ได้ว่าเมื่อสิบสองปีเกิดอะไรขึ้น เธอก็อย่างแกล้งโง่ทำเป็นไม่รู้หน่อยเลยว่านั่นไม่ใช่ครอบครัวจริงๆ”
คำพูดโหดร้ายยังคงเปล่งออกมาไม่ขาดสายนั่นยิ่งย้ำเตือนให้ฟ้าประทานเธอรู้ว่าเธอนั้นโดดเดี่ยวมากแค่ไหน
นิรินิกิพูดถูกว่าครอบครัวนั้นมันจอมปลอม พ่อแม่ก็ไม่ใช่พ่อแม่จริงๆ
ตลอดหลายปีที่ผ่านมาฟ้าประทานเธอก็ถูกทอดทิ้ง
จนทำให้เธอต้องไปหางานทำเพื่อเลี้ยงชีพตัวเองและเพื่อน้อง
น้องที่เป็นถึงลูกชายคนเล็กของตระกูลมาเฟียญี่ปุ่น...
หลองลวง จอมปลอม
จะใช้คำไหนก็เจ็บเหมือนกันทั้งนั้น...
“โอเค..”
เพราะไม่มีคำตอบอื่นฟ้าประทานเธอถึงได้ตอบออกไปแค่นั้น
ไหนจะมีก้อนอะไรสักอย่างจุกอยู่ที่คอของเธอจนพูดออกมาแทบไม่ออก เสียใจ หวาดกลัว
หมดหวัง นั่นคือความรู้สึกที่ตีรวนกันอยู่ในอกของเธอตอนนี้
ก็แค่เกิดมา ทำงานหนักๆ
ถูกลักพาตัวมาขาย เสียใจอีกรอบ และตายก็แค่นั้น...
นั่นแหละชีวิตของเธอ...
“ไหน ๆไอ้คนตระกูลจอนก็รับดูแลเธอแล้วนี่
ดีซะอีกที่เธอไม่ต้องถูกขายต่อให้ไอ้พวกกุ๊ยเอาไปยำ”
“....”
“ใช้ชีวิตของเธอให้ดีไปก็พอ
แล้วอย่าได้ปริปากพูดออกมาอีกล่ะ ว่าเป็นพี่สาวฉัน”
“....”
ว่าจบร่างสูงในชุดสูทก็หันหลังกลับเข้างานไปในทันโดยที่เข้าไม่ได้หันกลับมาสนใจหญิงสาวที่เสียใจจนพูดไม่ออกอีกเลย
ใช้เวลาทำใจไปเกือบจะสิบนาทีร่างบางถึงได้เดินคอตกเพื่อที่จะกลับเข้าไปในงาน
แต่ทว่าที่ใต้ต้นสนต้นหนึ่งกลับมีร่างสูงของมาเฟียหนุ่มผู้เป็นเจ้าของของเธอยืนรออยู่ก่อนแล้วแต่ฟ้าประทานเธอไม่ได้สังเกตเห็น
ดวงตาสองคู่จับจ้องไปที่ร่างบางที่เดินคอตกจนกระทั่งเธอเกือบจะหายไปลับตา
“นายท่านจะไม่ลงโทษเธอใช่ไหมครับ?”
เป็นอีกครั้งที่มยองโฮเอ่ยร้องขอไม่ให้เจเดนลงโทษฟ้าประทานที่เธอดื้อดันอยากจะคุยกับนิรินิกิให้ได้
และก็เป็นอีกครั้งที่เจเดนต้องถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
เพราะหนักใจยิ่งกว่าตอนที่เขาเซ็นสัญญาพันล้าน ฟ้าประทานเธอเริ่มดื้อมากกว่าเดิมหลังจากที่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร
“พาเธอกลับเกาหลี ไปคุยกันที่นั่น”
“ครับ”
ทุกคนกลับมาถึงเกาหลีในระยะเวลาไม่นาน
เช้าในวันถัดมาฟ้าประทานเธอก็กลับมาถึงที่ที่เธอเพิ่งจะได้หนีออกมาได้ไม่กี่วัน ณ
คฤหาสน์ใหญ่โตของเจเดนที่เดิม
รถยนต์คันหรูสองคันจอดและดับลงก่อนที่จะมีคนวิ่งมาเปิดประตูให้
ร่างบางลงจากรถและเดินเฉื่อย ๆ
เพราะความรู้สึกเศร้าใจจนเหนื่อยจะดำเนินชีวิตอย่างปกติสุข
ไร้น้ำเสียงหวานๆเจี๊ยวจ๊าวของเธอก่อกวนคนอื่นๆ
ตั้งแต่ที่กลับมาจากงานเลี้ยง และนั่นก็อยู่ในสายตาของเจเดนตลอดเวลา ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้ขึ้นเครื่องบินชั้นบิสเซอเนสและขึ้นรถคันเดียวกันกับเขาก็ตาม
“ฮานึล..”
ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ฟ้าประทานเธอหันตามเสียงเรียกชื่อนี้
ดวงตาเลื่อนลอยหันไปปะทะกับร่างสูงของมยองโฮที่กำลังเดินมาหาเธอ และไม่ไกลเธอก็เห็นแผ่นหลังของเจเดนที่เดินเข้าไปในคฤหาสน์ในขณะที่เธอยังยืนเลื่อนลอยอยู่ที่ลานจอดรถ
“จะเอาฉันไปขังอีกเหรอคะ?”
“....”
“บอกนายท่านให้ฆ่าฉันเลยได้ไหมคะ
ฉันเหนื่อยแล้ว”
“ทำไมพูดแบบนั้นล่ะ”
“ทำไมคะ? ฉันตายไม่ได้เหรอคะ?
เพราะฉันคือควอนฮานึลเหรอคะ?”
“เพราะเธอคือเธอต่างหาก”
“....”
“กลับบ้านเรากัน
มีอะไรเราค่อยไปปรับความเข้าใจกันที่นั่น”
ไม่รู้ว่าเพราะเหตุผลอะไรที่ฟ้าประทานเธอถึงได้รับการละเว้นโทษจากเจเดน
แถมเจเดนยังให้อิสระแก่เธออีกต่างหาก มยองโฮทำหน้าที่เป็นพี่ชายที่ดีก็พาเธอขับรถกลับมาที่ที่เขาพักอาศัยอยู่เกือบจะทุกๆวัน
นั่นก็คืออพาร์ทเม้นหรูหราใจกลางเมือง ที่นี่อยู่ไกลจากคฤหาสน์ของเจเดนไม่น้อย
ซึ่งนั้นก็ยิ่งสร้างความแปลกใจให้แก่ฟ้าประทานเข้าไปใหญ่
ที่เจเดนยอมปล่อยทาสที่ยังใช้หนี้ได้ไม่เท่าไหร่อย่างเธอให้ออกห่างจากตัวเขาขนาดนี้
ร่างบางที่ดูดีขึ้นและกลายเป็นคุณหนูเพียงในชั่วข้ามคืน
ค่อย ๆย่างก้าวฝีเท้าเดินตามร่างสูงของผู้เป็นพี่ชายโดยบังเอิญ
จนกระทั่งมาถึงที่หมาย นิ้วเรียวของมยองโฮก็กดรหัสลงไปก่อนที่บานประตูจะเปิดออก
มยองโฮเป็นคนเดินนำหน้าฟ้าประทานให้เธอเดินตามเข้าไปในห้องที่เรียกว่าบ้านใหม่ของเธอ
“เป็นไง ชอบไหม?”
ดวงตากลมโตมองสำรวจสถานที่ใหม่เพียงแค่ผ่านๆ
เธอไม่ได้คิดว่ามันพิเศษหรืออะไร เพราะยังไงมันก็ดีกว่าคุกนั่นหรือไม่ก็ไอ้เจ้าห้องพักที่อยู่ในโรงเก็บผักอันแสนไกลนั่นอยู่ดี
“ชอบค่ะ ดีกว่าที่นั่นตั้งเยอะ”
“งั้นก็ดีแล้วล่ะ”
“....”
“พี่ดีใจนะที่เธอกลับมา”
“ค่ะ ฉันก็ดีใจที่ได้กลับมา”
“นายท่านเป็นห่วงเธอมากเลยนะ ที่ทำคอตกแบบนั้นตั้งแต่ออกมาจากงานเลี้ยง”
“....”
“มีอะไรอยากบอกให้พี่ฟังไหม?”
“อะไรล่ะคะ?”
“แผนการที่วางไว้ หรือไม่ก็...”
“....”
“ทำไมถึงรู้จักกับลูกชายคนเล็กของทาคาดะกรุ๊ป”
“....”
ไม่มีคำตอบออกมาจากปากของฟ้าประทานในทันที
มยองโฮเพียงก็แค่ถามเพื่อให้ฟ้าประทานเธอยอมพูดว่าเพราะเหตุใดเธอถึงได้มาไกลถึงขนาดนี้
และเพราะเหตุใดเธอถึงได้รู้จักกันกลับนิรินิกิ
และเพราะอะไรทำไมเธอถึงได้ปฏิเสธอยู่นั่นว่าเธอไม่ใช่ควอนฮานึลที่หายตัวไปไม่ใช่เสียชีวิตในอุบัติเหตุเมื่อสิบสองปีก่อน
จะไม่มีใครสงสัยเลยถ้าหากว่าเธอไม่ปฏิเสธว่าเธอคือควอนฮานึล
เพราะใครที่ไหนจะยอมรับว่าตัวเองคือคนที่ตายไปแล้ว...
ถ้าเกิดว่าอยู่คนที่ถูกประมูลมาเป็นทาสดันกลายเป็นคนรักเก่าของมาเฟียผู้ยิ่งใหญ่อย่างจอนเจเดน
แน่นอนว่าต้องไม่มีใครกล้าปฏิเสธ หนำซ้ำยังดีใจซะยิ่งกว่าตกกระไดพลอยโจน
แต่กับฟ้าประทานเธอไม่ใช่ เธอดันปฏิเสธ เธอปฏิเสธแล้วปฏิเสธเล่าว่าเธอไม่ใช่ควอนฮานึล
และนั่นแหละคือข้อผิดสังเกตที่มยองโฮจับได้ว่าเธอกำลังมีแผนอะไรสักอย่างที่เตรียมการมานานนม
“มานั่งนี่ที
วันนี้เรามาคุยกันให้รู้เรื่อง”
50%
“....”
ร่างบางที่ในตอนแรกยืนตัวแข็งทื่ออยู่ตรงทางเดิน
ยอมเดินมานั่งบนโซฟาตัวยาวที่มีโต๊ะกระจกใสวางตรงหน้าดี ๆตามที่มยองโฮบอก
สายตาของมยองโฮก็จ้องร่างบางที่นั่งบีบมือตัวเองแน่นไม่ละสายตา
เพราะควอนฮานึลก็คือควอนฮานึล
เด็กผู้หญิงอัจฉริยะคนหนึ่งที่สามารถเอาตัวรอดได้แถมยัง...
มาได้จนถึงขนาดนี้นั้นยากนักที่เธอจะเป็นคนอื่น
“จะไม่พูดให้พี่ฟังใช่ไหม แต่อย่างน้อยเราก็เป็นพี่น้องกันนี่
เราช่วยกันแก้แค้นให้คุณพ่อคุณแม่ได้นะฮานึล”
“....”
“อย่าทำอะไรด้วยตัวคนเดียวเลยเธอมีครอบครัวนะฮานึล
เธอยังมีพี่อยู่”
แหมะ
“...!”
เพียงแค่มยองโฮเอ่ยถึงบิดามารดาผู้ล่วงลับไปแล้วกับคำว่าครอบครัว
หยดน้ำตาก็หยดลงบนข้อมือบางในทันที
ฟ้าประทานเธอร้องไห้เมื่อได้ยินมยองโฮเอ่ยออกมาแบบนั้น เพียงเพราะอยากแก้แค้นฟ้าประทานเธอถึงได้ทนมานานตั้งสิบสองปี
ในขณะที่มยองโฮเองก็หนีตายระหกระเหินจนต้องเปลี่ยนชื่อแซ่เพื่อเอาตัวรอดจนกระทั่งถึงตอนนี้….ตอนที่ทั้งสองพี่น้องได้อยู่ด้วยกันสักที
“นี่ไม่ใช่แผนที่ฉันคิดจะแก้แค้นไอ้พวกคนเลวพวกนั้น
ฮึก”
“....”
“ความจริงฉันกะว่าถ้าฉันเรียนจบฉันจะแฝงตัวเข้าไปทำงานให้ทาคาดะกรุ๊ปแล้วโค่นมันซะ
แต่ว่า ฮึก”
“....”
“ฉันถูกใครก็ไม่รู้ลักพาตัวมาขายให้ไอ้พวกมาเฟีย
แถมยัง-ฮึก”
“...”
“...เจอกับคุณเจเดนอีกต่างหาก”
ฟ้าประทานเธอยอมบอกความจริงให้มยองโฮฟัง
เป็นเหตุให้มยองโฮต้องยอมวางซองเอกสารที่มีเอกสารสำคัญลงกับโต๊ะ ที่จริงมยองโฮเองก็ยังเคลือบแคลงใจว่าฟ้าประทานเธอใช่ควอนฮานึลน้องสาวที่หายตัวไปของเขาหรือเปล่า
เพราะเขาเองก็คิดว่ามันคงจะเป็นไปไม่ได้
แต่เขากลับเริ่มฉุกคิดได้ในตอนที่เธอเถียงเขาว่าเธอไม่ใช่สุดใจนั่นจึงทำให้มยองโฮเริ่มเอะใจว่าฟ้าประทานเธอมีแผน
เพราะเหตุนั้นมยองโฮถึงได้รีบกลับมาที่เกาหลีเพื่อหากล่องใส่ความทรงจำของควอนฮานึลในตอนเด็กๆ
และเขาก็ดันบังเอิญเจอช่อเส้นผมของควอนฮานึลที่เธอตัดเมื่อตอนเจ็ดขวบในกล่องนั้น
ยังดีที่ในตอนนั้นตอนนั้นฮานึลได้ตัดผมเอาไว้ให้เขาเพราะมยองโฮป่วยหนักจนต้องเข้าโรงพยาบาลในวัยเด็ก
ฮานึลเธอเลยตัดผมของเธอเพื่อแลกกับการที่มยองโฮหายป่วย
เขาถึงได้มีหลักฐานที่จะเอาไปตรวจดีเอ็นเอเพื่อยืนยันว่าฟ้าประทานเธอคือควอนฮานึลจริงๆ
“ค่อยยังชั่ว ที่เธอยังมีชีวิตอยู่”
“พี่บอกเรื่องนี้กับคุณเจเดนแล้วเหรอคะ?”
“ยัง”
“ค่อยยังชั่ว”
“แล้วทำไมถึงได้รู้จักกับเด็กนั่น?”
ถึงแม้ว่าจะเบาใจที่ได้เจอน้องสาวสักที
แต่ทว่ามยองโฮก็ยังไม่วางใจที่ทำไมฮานึลเธอถึงได้รู้จักกับนิรินิกิเขาถึงได้ถามซ้ำ
“ก็เราโตมาด้วยกันนี่คะ”
“....”
“ตอนนั้น
ในตอนที่ประสบอุบัติเหตุนั่น ฉันเห็นลูกสุนักตัวหนึ่งบาดเจ็บอยู่กลางถนนค่ะ ฉันก็เลยบอกให้คุณพ่อจอดรถและฉันก็ลงไปดูลูกสุนัขตัวนั้นแต่พอหันกลับมา
ก็มีรถบรรทุกคันใหญ่ชนรถที่มีคุณพ่อคุณแม่อยู่ในนั้นไปซะแล้วค่ะ”
“....”
“นั่นคือสาเหตุว่าทำไมฉันถึงรอด
แต่ว่าหลังจากนั้นก็มีผู้ชายคนหนึ่งลงมาจากรถบรรทุกคันนั้นเพื่อเช็คว่าพวกเราตายหมดหรือยัง
ฉันเลยแกล้งทำเป็นนอนสลบอยู่ที่บนถนน
และดีหน่อยที่เลือดของลูกสุนัขตัวนั้นเปื้อนฉันพวกนั้นถึงได้คิดว่าฉันตายไปแล้ว
พอพวกนั้นขับรถออกไป ฉันถึงได้วิ่งไปที่รถยนต์ที่มันเละไม่เป็นรูปทรงคันนั้นและหยิบกระดาษออกมาแผ่นหนึ่งเพื่อเขียนจดหมายเอาไว้ถึงคุณเจเดนค่ะ”
ไหน ๆก็ไหน ๆแล้ว
ไม่มีเหตุผลอะไรที่ฟ้าประทานเธอจะต้องปิดบังความจริงที่เธอเก็บไว้คนเดียวมาตลอดสิบสองปี
เพราะเธอรู้ว่าเธอคงแก้แค้นไม่ได้หรอก
เพราะคนที่ฆ่าครอบครัวของเธอดันเป็นลูกชายคนโตของทาคาดะที่ชื่อว่า โมริ ทาคาดะ
และโมริทาคาดะก็ตายไปตั้งนานแล้วด้วยเธอเพิ่งรู้ก็ตอนที่เธอเห็นโนริโยชิเป็นคนขึ้นรับตำแหน่งประทานทาคาดะกรุ๊ปแทนที่จะเป็นโมริ
ทาคาดะ หนำซ้ำ เธอยังไม่กล้าพอที่จะทำร้ายคนที่ยังอยู่ต่อ
“....”
“พอเขียนเสร็จแล้วฉันก็เอาจดหมายนั้นโยนไว้ที่เบาะหลังแล้วฉันก็วิ่งหนีค่ะ
และฉันก็ดันไปบังเอิญเจอคนคนหนึ่งที่กำลังจอดรถเพื่อช่วยลูกสุนัขอีกตัวที่กำลังข้ามถนนเหมือนกัน..”
“คนคนนั้นคือพ่อแม่ปลอมของเธองั้นเหรอ?”
“ไม่ใช่ค่ะ เขาคือคุณโนริโยชิ”
“!...”
“เขาเป็นคนช่วยฉันไว้ค่ะ ฉันแกล้งความจำเสื่อมเพราะดันบังเอิญได้ยินคุณหมอพูดว่าฉันเกิดอาการช็อกจากอุบัติเหตุแล้วเขาก็เป็นคนจัดหาครอบครัวใหม่เพื่อดูแลฉันกับน้องชายของเขาที่ไทยค่ะ
เพราะเหตุนั้นฉันถึงได้รู้จักกับเด็กนั่น”
เมื่อได้ฟังที่มาที่ไปของเรื่องราวแล้วทำให้มยองโฮรู้สึกสับสนและแปลกใจมากที่เป็นโนริโยชิที่ช่วยฮานึลจนกระทั่งทำให้เขามีโอกาสได้เจอกับเธอที่หายตัวไปตั้งสิบสองปี
ก็สมกับที่ฮานึลเธอเป็นเด็กสาวอัจฉริยะ ทั้ง
ๆที่ในเหตุการณ์เมื่อสิบสองปีก่อนเธอมีอายุเพียงแค่แปดขวบ
แต่เธอกลับคิดวิธีที่แยบยลสร้างเรื่องว่าเธอตายไปแล้วเพื่อลวงตาคนที่อยู่ต่อได้
และเพราะเลือดที่ติดบนจดหมายแห้งกรังนั่นเป็นเลือดของเจ้าลูกสุนัขตัวน้อยที่เธอช่วยเอาไว้
จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมเจเดนถึงไม่สามารถตรวจดีเอ็นเอได้นั่นเอง
“....”
“ทีนี้เป็นตาพี่บ้างแล้วนะคะ
ว่าทำไมถึงได้ตามหาฉันเจอทั้ง ๆที่ไม่มีหลักฐานชัดเจนเลย”
เมื่อสิ้นสุดเรื่องราวที่มยองโฮต้องการรู้แล้ว
ครานี้ก็เป็นทีของฮานึลที่เธอถามมยองโฮกลับว่าทำไมถึงรู้ว่าเธอคือควอนฮานึล
สีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกของมยองโฮทำให้ฮานึลเธอเริ่มจับสังเกตได้ว่าเขาแอบทำงานเองโดยที่เจเดนไม่ได้สั่งให้ทำ
เพราะถ้าเจเดนสั่งให้มยองโฮทำ เขาคงไม่สามารถพาเธอมาถึงที่นี่ในตอนนี้ได้
“...”
“อ่า..
ฉันลืมไปเลยค่ะว่าฉันเคยตัดผมเอาไว้ให้พี่”
“อืม”
“นี่คงเป็นเอกสารตรวจดีเอ็นเอของฉันสินะคะ
พี่กะจะเอามาขู่ฉันถ้าฉันไม่บอกความจริงพี่หรือไง”
น้ำเสียงหวานๆเอ่ย
พร้อมกับวางสายตาไปที่ซองเอกสารสีน้ำตาลนั่น ถึงแม้ว่ามยองโฮจะยังไม่ได้พูดถึงเรื่องช่อเส้นผมของเธอ
ฮานึลเธอก็สามารถจับผิดเขาและพูดออกมาได้ก่อนอยู่ดี
และนั่นก็ทำให้มยองโฮรู้เบาใจจนตัวเบาโหวง ที่ในที่สุดน้องสาวของเขาก็กลับมาแล้ว
เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่เป็นทาสชื่อฟ้าประทานอีกแล้ว
“สมกับเป็นเธอจริงๆ”
“ขอบคุณค่ะ”
“...”
“...”
“แน่ใจเหรอว่าจะไม่แก้แค้นทาคาดะน่ะ”
“ไม่ค่ะ”
“....”
“แต่จะแก้แค้นวาตานาเบะแทนค่ะ”
“?...”
“วาตานาเบะจับฉันมาขายนี่คะทำให้ฉันกลับมาแก้แค้นคนที่ฆ่าพ่อกับแม่ไม่ทัน
ฉันจะแก้แค้นพวกนั้นให้สาสม”
ผ่านไปสามวันแล้วที่ฟ้าประทานเธอได้ชีวิตเดิมของเธอกลับมา
ร่างบางในชุดไพรเวทก็เอาแต่นั่งจ้องหน้าจอเพื่อหาข้อมูลมาจัดการกับวาตานาเบะยกใหญ่
แต่ทว่าการที่เธอจะแก้แค้นวาตานาเบะนั้นเธอจะต้องใช้ความช่วยเหลือจากใครสักคนที่มีอิทธิพลมากพอเพราะในตอนนี้วาตานาเบะมีทาคาดะคุ้มหัวอยู่
เพียงแค่เธอกับมยองโฮสองคนคงจัดการไม่ได้ง่ายๆแน่
บนหน้าจอแม็กบุ๊คราคาแพงที่เธอเพิ่งจะได้ใหม่นั้นมีข้อมูลเกี่ยวกับสองพี่น้องวาตานาเบะกรุ๊ปปรากฏเด่นหรา
และนั่นก็ทำให้ฮานึลเธอโกรธจี๊ด
ๆเมื่อเธอได้เห็นรูปของมิโกะลูกสาวคนโตขอวาตานาเบะยิ้มแย้มทามกลางพรมแดง
ฮานึลเธอเคยเจอกับมิโกะมาก่อนแล้วตั้งแต่ครั้งแรกในรอบสิบสองปีที่เธอได้ย้ำเท้ากลับมายังประเทศบ้านเกิด
หนำซ้ำมิโกะยังเคยด่าเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันอีกต่างหาก
ในขณะที่เธอต้องมาเจอเรื่องราวเสี่ยงตายลำบากลำบนมากมาย
โดยการถูกเจเดนลงโทษซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ยัยมิโกะที่เป็นคนจัดการจับเธอมาขายดันมีความสุขมากมายซะงั้น
ฮานึลเธอจะไม่โกรธก็แปลก
แกร็ก
“กลับมาแล้วเหรอคะ?”
ถึงแม้ว่าสายตาของเธอจะจับจ้องอยู่กับหน้าจอแม็กบุ๊คแต่ทว่าหูของเธอก็ยังได้ยินเสียงประตูที่เปิดออกโดยผู้มาใหม่
อานึลเธอถึงได้ทักถามผู้มาใหม่เพราะเธอคิดว่าเขาคือมยองโฮผู้เป็นพี่
แต่ทว่ากลับไม่ใช่มยองโฮอย่างที่เธอคิด
ทันทีที่บานประตูปิดลงร่างสูงในชุดสูทก็ค่อยๆก้าวเท้าเข้าไปใกล้กับร่างบางที่ยังสนใจจดจ่อกับหน้าจอ
ก่อนที่วงแขนแกร่งจะสวมกอดที่คอของเธอจากด้านหลังเบาๆด้วยความคิดถึง
“ฮานึล..”
“!....”
100!
-SLAVEHOLDER-
#ออลออฟเจเดน
TBC.
มาแล้วๆๆๆๆๆๆๆ อันนี้ก็คือเฉลยแล้วนะคะว่าแท้จริงแล้วน้องก็คือควอนฮานึลที่ยังไม่ตุยค่ะ ที่บอกตุยคือแผนและคนที่ฆ่าครอบครัวน้องไม่ใช่คนตระกูลทาคาดะ แถมทาคดะยังเป็นคนเลี้ยงน้องมาซะอีก (ถึงแม้จะเลี้ยงไม่ดีก็เถอะ) ก็ยังมีคนร้ายตัวจริงอยู่ค่ะ แต่น้องแค้นมิโกะที่จับน้องมาขายเฉย55555 ตอนหน้ามาลุ้นว่าน้องจะได้แก้แค้นวาตานาเบะมั้ย หรือจะถูกคูมเจเดนกอดทั้งวัน เอ๊ะ? ก็คนมันคิดถึงอะเน้อะ ความรู้สึกแบบว่ายังไงก็ใช่เธองี้5555
ความคิดเห็น