คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : SLAVEHOLDER 09- 100%
คำเตือน : เนื้อหาเรื่องนี้เเต่งขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียน ไม่ได้มีเจตนาทำร้ายหรือพาดพิงผู้ใด มีเนื้อหารุนแรง 18+ รับไม่ได้กดออกนะคะ อย่ากดแบน หรือเตือนกันดีๆก็ได้ไรท์รับฟังนะ
เจเดน Cr.Jungkook Bts
ฟ้าประทาน Cr.Olivia Hye LOONA
โจชัว Cr.Y Golden child
วอนอู Cr.Wonwoo Seventeen
--------
-SLAVEHOLDER-
-09-
#ฟ้าประทานเจเดน
Love me or hate me, but you will never change me – จะรักหรือเกลียดฉัน แต่คุณก็ไม่มีทางเปลี่ยนฉันได้
*ยังไม่ได้แก้คำผิด
ย้อนไปเมื่อ10ปีก่อน
“ปู่เคยบอกเราว่ายังไง
เป็นผู้ชายห้ามอ่อนแอให้ใครเห็น!”
ฟึบ!
น้ำเสียงทุ้มแข็งกร้าวตะคอกดังลั่นก่อนที่มือหนาจะเหวี่ยงแส้เส้นใหญ่ค้างกลางอากาศและเหวี่ยงลงที่ไหล่เล็กของเด็กชายที่นั่งคุกเข่ากำมือน้อยๆแน่นอยู่ที่ผืนหญ้า
บนใบหน้าน่ารักของเด็กชายวัยสิบสามปีบุบบี้
ริมฝีปากเล็กๆก็เม้มปากเข้าหากันแน่นเพื่อข่มความเจ็บปวดที่ได้รับ ถึงแม้ว่าเจเดนจะเป็นเพียงแค่เด็กผู้ชายวัยสิบสามปี
แต่ที่ต้องรับความเจ็บปวดเช่นนี้ก็เพราะว่าเขาเกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะเป็นมาเฟีย
เจเดนจึงต้องได้รับการสั่งสอนที่โหดเหี้ยมมากกว่าเด็กชายคนอื่น ๆ
“สัญญากับปู่ว่าจะไม่อ่อนแอให้ใครเห็น
ในอนาคตแกจะต้องเป็นผู้นำแกจะมาอ่อนแอไม่ได้!”
ฟึบ!
“อึก!”
คำสั่งสอนถูกเอ่ยออกมาตามด้วยแส้เส้นใหญ่ที่ฟาดลงที่ไหล่เล็กตาม
ไม่มีเสียงร้องออกมาจากเด็กชายสักแอะ
มีเพียงแค่เสียงขบฟันแน่นเพื่อข่มความเจ็บปวดจากการที่โดนแส้ฟาด มีเพียงแค่ความอดทนเท่านั่นที่เจเดนทำได้
เพราะเหมือนอย่างที่ปู่ของเขาบอก ว่าในอนาคตเจเดนจะต้องเป็นผู้นำ เพราะฉะนั้น
เจเดนจะแสดงความอ่อนแอออกมาให้ใครเห็นไม่ได้เด็ดขาด
“ต้องท่องเอาไว้ให้ดีว่าแค่คือเจ้านาย
แกคือผู้นำ แกคือผู้ยิ่งใหญ่อย่าได้อ่อนแอ แกจะต้องแข็งแกร่งยวดยิ่งนักรบ!”
ฟึบ!
“อึก!”
แส้เส้นใหญ่ฟาดลงอีกครั้งเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้
จนกระทั่งเด็กชายเริ่มจะอดทนไม่ไหว
ถึงแม้ว่าปณิทานยิ่งใหญ่ที่ปู่ของเขาพร่ำสั่งสอนเสมอว่าเขาคือผู้นำที่แข็งแกร่ง
แต่ในเวลานี้เจเดนก็เป็นแค่เพียงเด็กชายที่อายุสิบสามปี เขาจะอดทนได้อีกนานเพียงใด
“กลั้นน้ำตาแกไว้อย่าได้-“
“พอเถอะครับคุณปู่!”
แส้เส้นใหญ่กำลังจะเหวี่ยงฟาดลงที่ผิวของเด็กชาย
เสียงของเด็กชายวัยสิบขวบผู้เป็นน้องที่ในมือน้อยๆถือดาบของเล่นเอาไว้ก็ตะโกนดังลั่น
แต่เด็กน้อยก็ไม่กล้าวิ่งเข้ามาโอบกอดร่างของพี่ชายของตนเอาไว้ได้เพราะความหวาดกลัวที่โจชัวก็คิดว่าตัวเองอาจจะได้ฝึกแบบนี้เช่นกันในอีกสามปีข้างหน้า
บนใบหน้าของโจชัวเด็กน้อยวัยสิบขวบเต็มไปด้วยน้ำตา
เพราะเขาเองก็ไม่อาจทนเห็นพี่ชายสุดที่รักต้องทนเจ็บปวดแบบนี้อีกต่อไปได้อีก
“เหอะ ปู่กำลังสั่งสอนพี่แกอยู่ ทำไม?
หรือโจชัวอยากจะรับการสั่งสอนด้วย”
“ทำแบบนี้มันไม่ถูกนะคะ!”
ยังไม่ทันที่โจชัวจะได้ตอบปู่ของเขาออกไป
ก็มีน้ำเสียงเล็กๆของเด็กผู้หญิงผู้มีใบหน้าน่ารักในชุดเจ้าหญิงเอ่ยดังขึ้นจากข้างหลังของโจชัว
ก่อนที่เธอจะออกมาเผชิญหน้ากับผู้เป็นปู่
แท้จริงแล้วเด็กผู้หญิงคนนี้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเด็กผู้ชายสองคนนี้แต่อย่างใด
แต่เธอคือลูกสาวเพียงคนเดียวของทนายประจำตระกูลของเด็กชายสองคนนี้ต่างหาก
“หื้ม? หนูฮานึลก็อยากช่วยงั้นเหรอ?”
“หนูแค่อยากให้ความเป็นธรรมค่ะ
ถึงแม้ว่าคุณเจเดนจะต้องเป็นผู้นำในอนาคต แต่ตอนนี้เขาก็เป็นแค่เด็กอายุสิบสามนะคะ
ค่อยฝึกหลังจากนี้อีกสักปีสองปีก็ยังไม่สายนี่คะ”
เด็กหญิงเอ่ยพร้อมกับเหตุผลเพื่อให้บุคคลที่โตกว่าได้รับฟัง
แต่นอกเหนือจากนั้นเธอก็เป็นแค่เด็กผู้หญิงตัวเล็กที่อายุเพียงแค่แปดขวบ
แต่ที่เธอฉลาดและรู้จักพูดแบบนี้ก็เพราะว่าบิดาของเธอที่เป็นทนายผู้ซื่อสัตย์คอยสั่งสอนเธอถึงเรื่องความยุติธรรมต่างหาก
เด็กน้อยจึงได้รับการปลูกฝังเช่นนั้น
เธอจึงออกมาทวงความยุติธรรมให้แก่เจเดนเด็กชายผู้ที่อดทนมาตลอดถึงแม้ว่าในตอนนี้ร่างกายของเขาจะไม่ไหวแล้วก็ตาม
“หนูพูดแบบนี้ก็เท่ากับว่าปู่เป็นคนผิดสินะ”
“หนูไม่ได้หมายถึงแบบนั้นค่ะ
แต่หนูหมายถึงว่าร่างกายของเด็กจะอดทนความเจ็บปวดได้มากแค่ไหนกันคะ?”
เด็กหญิงเอ่ยอีกรอบ ก่อนที่เท้าเล็ก
ๆจะรีบวิ่งเตาะแตะมาที่ร่างของเด็กหนุ่มที่ยังนั่งคุกเข่ากำมือที่หน้าขาข่มความเจ็บปวกอยู่ที่เดิม
จากนั้นวงแขนเล็กๆก็วาดวงกางออกก่อนที่จะโอบกอดร่างของเด็กหนุ่มเอาไว้กันแส้เส้นใหญ่ที่จะฟาดลงมาอีกรอบ
และมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ จอนโจควอนไม่เพียงแต่จะหยุดสั่งสอนหลานชายเพียงเท่านั้น
แส้เส้นใหญ่จึงวาดวงค้างกลางอากาศก่อนที่จะฟาดลงมาอีกครั้ง
ในความคิดของผู้เป็นปู่คิดว่าหลานชายจะพลิกร่างเด็กหญิงเพื่อปกป้องเธอแต่ทว่าเจเดนกลับล้มลงกับพื้นเมื่อทนพิษบาดแผลไม่ไหว
การลงแส้ในครั้งนั้นจึงฟาดลงที่ไหล่ของเด็กหญิงแทน
และนั่นจึงเป็นที่มาของรอยแผลเป็นรูปจันทร์เสี้ยวของควอนฮานึลที่มีเพียงแค่จอนโจควอน
เจเดน และโจชัวที่รู้.....
ปัจจุบัน...
ตึกตึกตึก
เสียงฝีเท้าดังขึ้นบนทางเดินหินอ่อนราคาแพงในคฤหาสน์หลังใหญ่
เหล่าชุดดำก็โค้งศีรษะให้ผู้เป็นนายหลังจากที่เจเดนได้เดินทางกลับมาที่บ้าน
ร่างสูงในชุดสูทเดินเข้ามาในบ้านพร้อมกับปลดกระดุมเสื้อสูทที่รัดแน่นไปด้วย
ก่อนที่เขาจะมุ่งหน้าไปยังห้องขังใต้ดินที่เขาได้ขังร่างบางของฟ้าประทานเอาไว้
ทันทีที่มาถึงเจเดนก็พบเพียงแค่ความว่างเปล่า
แต่เขาไม่ได้มีท่าทีตกใจหรือตื่นกระหนกใด ๆ
เพราะก่อนหน้านั้นเจเดนได้รับข่าวการรายงานจากมยองโฮแล้วว่าฟ้าประทานเธอหายตัวไป
และนอกเหนือจากนั้นเจเดนก็รู้ด้วยว่าใครเป็นคนพาตัวเธอไป เพียงแต่ว่าเจเดนก็แค่อยากจะมาเช็กดูด้วยตัวเองก็เท่านั้น
“จะให้ผมตามนายน้อยไปเลยมั้ยครับนายท่าน”
เมื่อมาเห็นผลงานที่โจชัวจัดการไว้เรียบร้อยแล้ว
วอนอูก็เอ่ยถามเจเดนอย่างรู้งาน
แต่ทว่าเจเดนกลับยกมือห้ามไม่ให้วอนอูตามโจชัวไปก่อนที่ร่างสูงของเจเดนจะหันหลังกลับขึ้นไปข้างบนแทน
ที่ทำแบบนั้นก็เพราะว่าไม่จำเป็นที่ต้องตามโจชัวไปในทันทีทันใด
เพราะถึงยังไงหากโจชัวจะพาฟ้าประทานหนี ก็คงหนีไปไม่พ้นประเทศญี่ปุ่นเพราะที่นั่นเป็นที่เดียวที่โจชัวมีอำนาจสูงสุด
และต่อให้โจชัวคิดจะหนีไปที่อื่นได้ เจเดนก็ตามเจออยู่ดี
เพราะไม่มีอะไรที่เจเดนจัดการไม่ได้โดยเฉพาะไอ้เจ้าน้องชายตัวดีของเขา
@Japan
ภายในห้องห้องหนึ่งในโรงแรมสไตล์ญี่ปุ่นชื่อดัง
บนเตียงไม้ราคาแพงสไตล์ญี่ปุ่นก็มีร่างบางของหญิงสาวผู้มีใบหน้าน่ารักที่ตอนนี้เธอถูกจับแปลงโฉมจนกลายเป็นสาวญี่ปุ่นเต็มตัว
บนร่างบางของฟ้าประทานในตอนนี้เธออยู่ในชุดกิโมโนสีแดงดูมีภูมิฐาน
หลังจากที่เธอถูกโจชัวจับหันหลังชนฝาที่คุกใต้ดินเมื่อไม่นานมานี้
ในทีแรกฟ้าประทานเธอไม่ได้มีความคิดที่จะเชื่อใจโจชัวแต่อย่างใด
เพราะก่อนหน้านั้นคนที่จะฆ่าเธอและอยากให้เธอตายมากที่สุดก็คือโจชัว
แต่ทว่าความคิดของฟ้าประทานเธอกลับผิดคาดเพราะโจชัวดันพาเธอหนีจริง ๆ และเพราะไม่มีทางเลือกฟ้าประทานเธอเลยต้องจำใจทำตามที่โจชัวต้องการจนกระทั่งเธอถูกจับพลัดจับพลูให้มาอยู่ที่นี่
ที่ที่ซึ่งเป็นโรงแรมสไตล์ญี่ปุ่นและเป็นสถานที่หนึ่งที่โจชัวเป็นเจ้าของ
หลังจากที่ฟ้าประทานเธออาบน้ำแต่งตัวเสร็จ
ก็มีหญิงสาววัยกลาวงคนที่ใส่ชุดกิโมโนสีซีดถือถาดอาหารเข้ามาเสิร์ฟให้เธอก่อนที่จะออกไป
ฟ้าประทานเธอไม่ได้ถามไถ่อะไรมากเธอเพียงแค่ก้มศรีษะขอบคุณ
จากนั้นก็นั่งอยู่เฉยๆจนกระทั่งเธอคนนั้นที่เอาอาหารมาเสิร์ฟก็ออกไปจากห้องที่เธออยู่
ยังไม่ทันได้พอถึงห้านาทีจากนั้นบานประตูเลื่อนก็เปิดอีกรอบก่อนที่จะปรากฏภาพร่างสูงของโจชัวที่มาพร้อมกับมยองโฮเข้ามา
และทันทีที่ฟ้าประทานเธอได้เห็นร่างสูงของมยองโฮที่อยู่ในชุดสูทสีดำร่างบางก็รีบลุกพรวดพราดเตรียมจะวิ่งไปกอดร่างสูงของมยองโฮทันที
แต่ติดที่ว่าหน้าผากมนของเธอดันถูกโจชัวดันไว้ก่อนนี่สิ
“นี่คุณ!”
ฟ้าประทานเธอโวยวาย
แต่ถึงกระนั้นเธอก็ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากหยุดฝีเท้าและปัดมือโจชัวออกจาหน้าผากมนของเธอ
“มยองโฮจะดูแลเธออยู่ที่นี่”
“คะ?”
“หูหนวกหรือไง ดูแลเธอดีๆล่ะ
ก่อนที่พี่เจเดนจะมาถึง”
ว่าจบโจชัวก็ออกจากห้องไปในทันที
ทั้งห้องจึงเหลือแค่ร่างบางในชุดกิโมโนกับมยองโฮที่โค้งศีรษะให้นายน้อยตลอดจนกระทั่งร่างสูงของโจชัวหายไปจนสุดสายตา
“นายท่านจะมาที่นี่เหรอคะ?”
เมื่อโจชัวไปพ้นแล้ว ฟ้าประทานเธอก็รีบพ่นคำถามถามมยองโฮทันที
แต่คำตอบที่เธอได้กลับกลายเป็นรอยยิ้มจากมยองโฮซะงั้น
“ไปกินข้าวกันเถอะ”
“แต่คุณยังไม่ได้ตอบฉันเลยนะคะ!”
“ไม่เห็นต้องถามซ้ำเลย
ก็อย่างที่ได้ยินนั่นแหละ”
“ถ้างั้นนายท่านจะไม่ยิงฉันทิ้งเหรอคะที่ฉันหนีมาที่นี่กับนายน้อยน่ะ!”
น้ำเสียงตื่นกระหนกเปล่งออกมาอย่างไม่ขาดสาย
แต่มยองโฮกลับไม่ตอบฟ้าประทาน
ถ้วยน้ำชาสีสวยถูกมือหนาของมยองโฮยกขึ้นและรินลงในถ้วยสีเดียวกันเบาๆ
เมื่อไม่ได้คำตอบร่างบางที่ตื่นกระหนกก็รีบไสร่างบางเตาะแตะมานั่งคุกเข่าตรงหน้ามยองโฮในทันที
“คุณอยากให้ฉันตายเหรอคะ?”
“ฉันเคยพูดด้วยเหรอ?”
“ก็การกระทำของคุณมัน-“
“ฮานึล...”
“?...”
ร่างบางนิ่งชะงักทันทีเมื่อจู่
ๆมยองโฮก็เรียกชื่อของคนคนหนึ่งออกมา
ฟ้าประทานเธอยังไม่ทันได้นึกว่าชื่อนี้เป็นชื่อของใคร
แต่เธอก็แค่เคยได้ยินมาคร่าวๆก็แค่นั้น
ใบหน้าน่ารักถึงขั้นเหวอ
มยองโฮเอ่ยเรียกชื่อคนคนหนึ่งออกมาต่อหน้าเธอเพื่อให้เธอสงบคำพูด ฟ้าประทานเธอจึงปิดปากทันที
แต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังไม่คลายสงสัยอยู่ดี ร่างบางนั่งนิ่งก่อนที่จะขบริมฝีปากเบาๆเพื่อรวบรวมความกล้า
ถึงแม้ว่าเธฮจะเป็นเพียงแค่ทาสคนหนึ่งแต่อย่างน้อยเธอก็ควรจะมีสิทธิ์รู้ว่าใครคือฮ่นึลก่อนที่เจเดนจะมาถึงและฆ่าเธอสิ
“ฮานึลนี่คือใครเหรอคะ?”
ฟ้าประทานเธอตัดสินใจถามคำถามที่เธอสงสัยมานานแสนนานออกไปในที่สุด
ถึงแม้ว่าในใจเธอก็แอบคิดไว้อยู่แล้วว่าคนที่ชื่อฮานึลคนนี้อาจจะเป็นคนรักเก่าของเจเดนหรือไม่ก็...
คู่แค้น...
เพราะถ้าไม่อย่างนั้น
เจเดนคงไม่ฝังใจจนถึงขั้นครางชื่อเธอคนนั้นในตอนที่เขากำลังมีอะไรกับฟ้าประทานหรอก
“เธอไง”
50%
(นี่คือโฉมหน้าของมยองโฮนะคะ เพื่อจินตนาการ มยองโฮเป็นพี่ชายบุญธรรมของฮานึลนะคะ)
“เธอไง”
“คะ?”
แต่คำตอบที่ได้กลับทำให้ฟ้าประทานเอถึงขั้นอุทานเสียงดังลั่น
มือบางที่มีรอยช้ำจางๆรีบยกมือขึ้นมาปิดปากในทันทีทันใด
ดวงตากลมโตก็เบิกกว้างด้วยความตกใจ
เพราะคนที่ชื่อฮานึลจะมาเป็นฟ้าประทานได้อย่างไร
“ตกใจล่ะสิ”
“ใครจะไม่ตกใจล่ะคะ
คุณอย่ามาพูดเล่นได้มั้ยคะ ทำฉันกลัวเนี่ย”
“ก็เธออยากถามเองนี่”
“ก็ไม่คิดว่าจะได้คำตอบแบบนี้นี่คะ”
“เปิดไหล่ซ้ายเธอให้ดูที”
“คะ?”
มยองโฮทำหฟ้าประทานเธอช็อกแล้วช็อกเล่าไม่ขาดสาย
เมื่อกี้ก็บอกว่าเธอคือควอนฮานึล และมาตอนนี้มาให้เธอเปิดไหล่ให้ดูอีก
ใครล่ะจะไม่ตกใจ
“เร็วๆ”
“ฉันไม่คิดเลยนะคะว่าคุณจะเป็นคนแบบนี้”
“ฉันก็ไม่คิดว่าเธอจะเป็นควอนฮานึลจริงๆเหมือนกัน”
“ฉันไม่ใช่คนที่ชื่อฮานึลนั่นสักหน่อย
ฉันชื่อฟ้าประทานค่ะ”
“แล้วเธอแน่ใจได้ยังไงว่าเธอไม่ใช่”
“แล้วคุณแน่ใจได้ยังไงล่ะคะว่าฉันใช่”
“....”
“ก็ฉันมีพ่อมีแม่และชื่อฟ้าประทานมาตั้งแต่จำความได้
เป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ ถึงต่อให้เป็นไปได้ฉันก็ไม่เป็นอยู่ดีค่ะ
เพราะเดี๋ยวฉันก็ตายแล้ว”
ฟ้าประทานเธอร่ายยาวให้มยองโฮฟังเพราะเธอคิดว่ามยองโฮเป็นฝ่ายเข้าใจผิด
แต่มยองโฮกลับไม่คิดเช่นนั้น
เพราะเขาก็คิดไว้อยู่แล้วว่าฟ้าประทานเธอคือควอนฮานึลจริงๆเพราะมยองโฮรู้จักควอนฮานึลดี
เพราะเขาคือพี่ชายบุญธรรมของฮานึลที่ใช้ชีวิตร่วมกับเธอมาตั้งแต่เธอยังแบเบาะ
มยองโฮจึงรู้จักควอนฮานึลดี ถึงแม้ว่าก่อนหน้านั้นจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นทำให้ควอนฮานึลเธอหายตัวไป
เพียงแค่ได้ข่าวว่าเลือดของฮานึลที่อยู่บนซองจดหมายไม่ใช่เลือดของเธอจริงๆแค่นี้พวกเขาก็รู้แล้วว่าเกิดการจัดฉากขึ้น
คนที่ตายในอุบัติเหตุครั้งนั้นจริงๆจึงมีเพียงแค่บิดาและมารดาของเขา
ฮานึลไม่ได้ตายด้วยจริงๆ
“อย่าคิดแบบนั้น”
“คิดไปแล้วค่ะ
พอนายท่านมาฉันก็จะถูกยิงเพราะหนี อาหารมื้อนี้เป็นมื้อปลอบใจก่อนฉันตายสินะคะ
ขอบคุณค่ะ แล้วก็ฝากขอบคุณนายน้อยด้วยนะคะ ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนพาฉันมาตายก็ตาม”
“พูดเก่งเป็นต่อยหอย”
“เอ้า?
มันคือวิถีของคนทำงานบริการอย่างฉันนี่คะ อะไรที่ควรพูดก็ต้องพูดให้หมดสิ
คุณรู้มั้ยคะว่าฉันทำงานในร้านชาบูนั่นมาตั้งนาน
เดือนนี้เป็นเดือนแรกที่โบนัสสูงที่สุดเลยเพราะเป็นช่วงเทศกาลปีใหม่”
ฟ้าประทานเธอเอ่ยตัดพ้อก่อนที่มือบางจะหยิบตะเกียบและคีบเนื้อปลาเข้าปาก
ในความคิดของเธอไหนๆก็จะตายแล้ว อย่างน้อยให้เธอได้ระบายความรู้สึกอัดอั้นในใจที่มีมาตลอดให้มยองโฮฟังก่อนตายก็ยังดี
“....”
“ฮึก
แต่สุดท้ายฉันก็ไม่มีโอกาสได้ใช้เงินนั่นเพราะต้องมาตายที่นี่ซะก่อน”
เนื้อปลาถูกคีบและเข้าปากไปอีกรอบพร้อมกับแรงสะอื้นเบาๆ
ส่วนมยองโฮก็ทำหน้าที่เป็นผู้รับฟังที่ดี เขาจึงได้นั่งรับฟังความลำบากของน้องสาวที่ยังไม่รู้ตัวเองสักทีเงียบๆ
“....”
“เงินนั่นฉันกะว่าจะชื้อของขวัญให้น้องชายที่กำลังจะสอบติดมหาวิทยาลัยค่ะ
ฮึก”
“...”
“แต่ฉันไม่มีโอกาสนั้นแล้วค่ะ
ขอบคุณนะคะที่รับฟังเรื่องราวงี่เง่าของฉัน”
มยองโฮนั่งรับฟังฟ้าประทานเธอเอ่ยตัดพ้อและเคี้ยวเนื้อปลาตุ่ยๆเงียบๆ
ถึงแม้ว่าภายในใจของเขาจะรู้สึกแย่มากที่น้องสาวเพียงคนเดียวต้องถูกจับพลัดจับพลูไปใช้ชีวิตที่แสนลำบากแบบนั้น
สายตาของมยองโฮจากที่เคยวางอยู่ที่ถ้วยย้ำชาก็ได้เลื่อนมองสรีระของน้องสาวที่นั่งเคี้ยวเนื้อปลาร้องไห้ไปด้วยนิ่งๆ
ทำให้มยองโฮได้เห็นรอยช้ำที่มือเล็กและความรู้สึกเศร้าหมองผ่านดวงตากลมๆของเธอ
สงสาร...
แต่มยองโฮไม่กล้าทำอะไรมากกว่านี้ ถ้าเจเดนยังมาไม่ถึง...
“ลำบากมากเลยสินะ”
แต่สุดท้ายความรู้สึกของพี่ชายจึงจำเป็นต้องเอ่ยออกไป
“ค่ะ ฮึก แต่ฉันก็อดทนมาตลอด
แค่นั้นชีวิตฉันก็แย่มากพอแล้ว ยังต้องมาถูกจับตัวมาเป็นทาสที่ใกล้ตายอีก ฮึก”
เสียงสะอื้นยังคงดังอยู่ไม่ขาดสาย
แต่ถึงกระนั้นฟ้าประทานเธอก็ไม่ลืมที่จะกินอาหารตรงหน้าโดยที่เธอไม่ได้คำนึงถึงว่าในอาหารนั่นมียาพิษหรือเปล่า
เธอมีเพียงแค่ความคิดสิ้นหวังในใจ
ถึงแม้ว่าเรื่องราวที่เธอเพิ่งจะได้ฟังจากปากมยองโฮมันเป็นเรื่องที่น่าดีใจก็ตาม
แต่ว่าเธอคงไม่มีโอกาสได้อีกนานเท่าไรนัก แค่สุขใจไปพร้อมกับอาหารอร่อยๆและชุดสวยๆนี่ก็พอแล้ว
ฟ้าประทานเธอคิดแค่นั้น
“อยากกลับบ้านมั้ย?”
“ฮึก คะ?”
“....”
“กลับบ้านเหรอคะ!”
“ใช่”
“ได้เหรอคะ!”
“ได้”
“กลั-“
“ถ้าเธอยอมรับว่าเธอคือควอนฮานึล”
“....”
เกือบจะดีใจไปแล้ว แต่ก็ยังไม่ทันไร
สีหน้าดีใจของฟ้าประทานฉายแววออกมาแค่เพียงชั่วครู่
ก่อนที่เธอจะกลับไปทำหน้าเศ้ราแบบเดิมอีก
“เธอไม่เชื่อเหรอ?”
“ก็ฉันไม่ใช่นี่คะ”
“เธอไม่เคยได้จดหมายจากคนแปลกหน้าบ้างเหรอ?”
“คะ?”
จู่ ๆ
มยองโฮก็พูดถึงจดหมายอะไรสักอย่างซึ่งนั่นทำให้ฟ้าประทานเธอตาตื่นเต็มที่ในทันที
มยองโฮรู้เรื่องจดหมายนั้นได้อย่างไรนั่นคือสิ่งที่ฟ้าประทานคิด
หรือว่าคนที่ส่งจดหมายมาคือมยองโฮ
“ฉันเอง”
“ค..คุณเป็นคนส่งมาเหรอคะ?”
“อืม”
“จ..จะเป็นไปได้ยังไงคะ?”
“เธอจะไม่ตายถ้านายท่านมาถึง
ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น ถ้าหากเธอคือควอนฮานึลจริงๆ”
“ถ้าไม่ใช่ฉันก็ตายอยู่ดีนี่คะ”
“เธอดื้อแบบนี้มันยิ่งชัดว่าเธอคือควอนฮานึล”
“?...”
คำพูดของมยองโฮยิ่งทำให้ฟ้าประทานเธอต้องนิ่งชะงักและกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ
มันจะเป็นไปได้อย่างไรกันที่เธอคือควอนฮานึล หรือว่าเธอคือควอนฮานึลจริงๆ
“ถ้านายท่านมา พี่จะพาเธอกลับบ้าน
เราจะไปพิสูจน์ด้วยกันว่าเธอใช่ควอนฮานึลจริงๆมั้ย หรือแค่เซ้นของนายท่านผิดไป
ถ้าไม่ใช่...“
“....”
“...เราก็แค่ตายด้วยกัน”
100%
-SLAVEHOLDER-
#ออลออฟเจเดน
TBC.
เอาแล้วๆ น้องมีการไม่เชื่อว่าตัวเองคือใคร คูมเจเดนเค้าไม่ฆ่าหนูหรอกรู้ก ถ้าหนูใช่น้องฮานึลพี่รับประกันนุจะปอดภัย เชื่อพี่พี่เป็นคนเขียน55555 ตอนนี้เฉลยความสัมพันธ์ของตัวละครไปอีกหนึ่งแล้วนะคะ ว่าแท้จริงแล้วคูมมยองโฮที่เป็นมือซ้ายของคูมเจเดนแท้จริงแล้วคือพี่ชายบุญธรรมของน้อง นั่นคือสาเหตุว่าทำไมมยองโฮถึงดีกับน้องนะคะ ความผู้พันธ์อะเน้อะแค่ได้เห็นแววตาก็จำได้แล้วถึงแม้ว่าน้องจะจำตัวเองไม่ได้ก็ตามแถมยังเป็นคนส่งจดหมายไปให้น้องงงด้วยหนึ่ง
ตอนหน้าอาจจะได้รู้ว่าทำไมมยองโฮถึงได้บอกว่าถ้าไม่ใช่ก็ตายด้วยกัน แล้วก็ทำไมมยองถึงรู้ว่าน้องมีแปลเป็นที่ไหล่ซ้ายทั้งๆที่มีแค่สามคนที่รู้ก็คือเจเดน โจชัวแล้วก็ปู่ ที่จริงก็โจชัวบอกแหละค่ะ ไม่งั้นคงไม่ตามมยองโฮมาดูแลน้องนะ คุคิ
ขอบคุณทุกๆคนที่ติดตามนะคะ เค้าขอบคุณมากจริงๆค่ะ วันนี้วันที่24แล้วใกล้วันที่1กันยายนแล้ว แต่งสเปเชี่ยลดีมั้ยนะ ขอความคิดเห็นรีดหน่อยนะคะ เค้ากลัวไม่ต่อพาร์ท แง
ความคิดเห็น