ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [BTS X YOU] LOVELESS WORLD -ซาตานไร้รัก-

    ลำดับตอนที่ #1 : #ซาตานไร้รัก 01 | Kim Seokjin

    • อัปเดตล่าสุด 23 มี.ค. 63


    #ซาตานไร้รัก 01 | Kim Seokjin



    -Kim Seokjin-



    *ยังไม่ได้แก้คำผิด

     14102017..


           ณ ห้องโถง คฤหาสน์ตระกูลคิม


          ปรากฏร่างของผู้เป็นเจ้าของบ้าน และชายอายุราวๆปลายสามสิบขนาบข้างด้วยร่างบางของผู้เป็นภรรยาและลูกสาวที่นั่งอยู่ที่โซฟาห้องโถงตรงกันข้ามกับเจ้าของบ้าน หญิงสาวผู้มีในหน้างดงามราวกับเทพธิดา ดวงตากลมโตเปล่งประกายราวกับดวงดาวบนท้องฟ้าในยามราตรี สันจมูกโด่งรันเรากับลูกแพรและริมฝีปากกระจับที่อมชมพูราวกับผลราวกับสีของเชอรี่ ร่างบอบบางในชุดเดรสรัดรูปสีฟ้าอ่อนสวมทับด้วยเสื้อสูทผู้หญิงสีขาวทำให้เธอดูเป็นผู้หญิงที่มีภูมิฐาน


           ยองวอน คือนามของหญิงสาวผู้นั้นและเธอก็กำลังนั่งฟังผู้ใหญ่ที่กำลังคุยกันอย่างออกรสเงียบๆ ก่อนที่ผู้เป็นพ่อของเธอจะลุกขึ้นและฝากลูกสาวไว้กับเจ้าของบ้านที่เป็นหุ้นส่วนที่สนิทกันของบริษัท


          ถ้าตามความจริงแล้วแค่สนิทสนมกันทางธุรกิจไม่จำเป็นที่ต้องมาฝากลูกสาวตัวเองไว้เพียงเพราะตัวเองจะไปฮันนีมูนที่ต่างประเทศก็ได้ เพียงแต่ว่าเป็นเพราะเวทมนต์ที่ชายหนุ่มร่างสูงสง่างามราวกับเทพบุตรผู้มีนามว่า คิมซอกจินสาปใส่ตอนงานวันเกิดอายุครบยี่สิบสองปีของลูกสาวเขาเมื่อวานก่อนนี้ต่างหาก


           "น้าฝากลูกสาวด้วยนะจิน"


          ผู้เป็นเจ้าของชื่อคิมซอกจินพยักหน้ายิ้มรับก่อนจะโค้งให้ผู้อาวุโสกว่าอย่างนอบน้อม ร่างสูงกำยำในชุดสูทสีดำมองดูแล้วมีภูมิฐานขยับเท้าหลีกทางให้สองสมีภรรยาเดินออกไปก่อนที่ใบหน้าหล่อเหลาจะปรากฏรอยยิ้มออกมา ไม่มีใครรู้ว่ารอยยิ้มและท่าทีสุภาพสุขุมนุ่มลึกนั่นมันเป็นเพียงการแสดง จะมีปีศาจตนไหนกันเล่าที่จะยอมก้มหัวให้มนุษย์สกปรกนี้กันล่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะผลประโยชน์พวกเขาจะไม่เสียเวลาแม่แต่จะได้คุยกับคนพวกนี้พร่ำเพรื่อ


           แต่เพราะเพื่อจิตวิญญาณที่ส่งกลิ่นหอมหวานออกมาจากร่างบางต่างหาก ซาตานหนุ่มอย่างเขาจึงต้องใช้เล่ห์เหลี่ยมและอาศัยการแสดงเหล่านั้น


           "อย่าดื้อนะวอน เชื่อฟังคุณจินเขานะเข้าใจไหม?"


          เมื่อผู้เป็นบิดาและมารดาได้ทำการฝากลูกสาวของตนไว้กับเจ้าของบ้านแล้ว ร่างของชายหญิงวัยชราก็หันมาฝากลูกสาวของตนต่อ หญิงสาวผู้มีใบหน้างดงามประดุจดั่งดดอกไม้ช่วงฤดูหนาวและผิวพรรณที่ดูน่าสัมผัส ดวงตาสีน้ำตาลเปลือกไม้น่าค้นหา กับจมูกเล็กโด่งรันและริมฝีปากบางสีชมพูสดที่ผสมเข้ากันอย่างลงตัว พยักหน้ารับก่อนจะกอดผู้เป็นแม่ตามด้วยผู้เป็นพ่อต่อ


           เมื่อกอดล่ำลากันเสร็จสรรพรถคันหรูก็แล่นออกจากคฤหาสน์แห่งนี้และเป้าหมายของรถคันนั้นก็คือดิ่งลงเหว...


           ซาตานหนุ่มยกยิ้มอย่างเยือกเย็นทอดสายตามองตามรถคันหรูที่แล่นออกไปเรื่อยจนลับสายตา มือหนายกขึ้นมาขยับเนคไทเพื่อเป็นการจัดความเรียบร้อยของตน ก่อนที่ใบหน้าหล่อเหลาจะหันกลับไปหาหญิงสาวที่ยืนมองรถของบุพการีของตนด้วยแววตาทุกข์ระทม


           "คุณอยู่กับผมได้จริงๆใช่มั้ยวอน?"


           หญิงสาวยกมือปาดน้ำตาออกจากดวงหน้างดงามก่อนที่จะหันมาหันมาพยักหน้าพร้อมยิ้มให้กับซอกจินอย่างน่ารักสมกับวัยของเธอ ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นอาจจะหลงรักรอยยิ้มนี้ไปแล้ว แต่สำหรับซาตานที่นับถือสีดำอย่างเขา ไม่รู้สึกอะไรสักนิด กลับกัน เขากลับคิดว่ามันคืออาหารของพวกเขาด้วยซ้ำ


           "ห้องคุณอยู่ที่ชั้นสองนะ เดี่ยวผมไปทำอะไรให้ทาน"


           ซอกจินเอ่ยยื่นข้อเสนอก่อนที่จะยิ้มให้ร่างบางอีกครั้งและหันหลังเข้าบ้านไป


           เขาน่ารักอีกแล้ว เขาเป็นคนอบอุ่นน่ารัก คอยดูแลเอาใจใส่ยองวอนเสมอไม่ว่าจะยังไงก็ช่าง


           หญิงสาวคิดในใจพลางทอดสายตามองตามแผ่นหลังกว้างน่าซบของชายหนุ่มจนเขาหายเข้าไปในครัว ยองวอนยกยิ้มกว้างให้กับตัวเองอย่างมีความสุข สำหรับเธอแล้วรอยยิ้มของซอกจินเปรียบเสมือนแสงของดวงอาทิตย์ยามเช้าตรู่ ที่ทั้งเปล่งประกายดูดี และอบอุ่น เธอชอบรอยยิ้มที่อบอุ่นนี้และเธอก็ชอบเจ้าของรอยยิ้มนั้นด้วย เธอจึงยอมมาอยู่ที่นี่และต่อไปนี้เธอก็จะอยู่นี้กับคนที่เธอรักอย่างมีความสุข


           ยองวอนได้แต่ยิ้มเขินอยู่คนเดียวก่อนที่เธอจะหันหลังขึ้นไปบนชั้นสองเพื่อมุ่งหน้าไปที่ห้องของเธอ ระหว่างทางเดินที่ร่างบางสำรวจดวงตากลมโตก็ไปสะดุดกัประตูบานสีน้ำเงินทึบดูลึกลับแต่ทว่าน่าดึงดูดนั่นที่อยู่สุดทางเดิน แสงวูบวาบสีน้ำเงินสะกดจิตให้หญิงสาวนึกสงสัย


           จะไม่น่าสงใสได้อย่างไรล่ะก็ในเมื่อทั้งคฤหาสน์แห่งนี้บานประตูทุกบานจะเป็นสีขาวทั้งหมด แต่ทำไมบานนี้ถึงเป็นสีน้ำเงินทึบนะ?


           ด้วยความสงสัยเพราะมนต์ดำของซาตานจึงทำให้หญิงสาวเดินเข้าไปใกล้ๆบานประตูสีน้ำเงินนั่น ยองวอนยืนชั่งใจอยู่ที่หน้าบานประตูนั่นอยู่ชั่วครู่ไม่รู้ว่าทำไมแสงสีน้ำเงินถึงได้ดึงดูดเธอมากยิ่งนัก ไม่นานมือบางสีขาวซีดก็เอื้อมเข้าไปจับที่ลูกบิดประตูเบาๆ


           วูบบบบบ


           "โอ้ย!!!"


           ทันทีที่มือบางจับลูกบิดประตูแสงสีน้ำเงินนั่นก็จัดการฉายพลังทำร้ายเธอทันที ยองวอนรีบชักมือกลับเข้าหาตัวทันก่อนที่เธอจะเห็นรอยแผลไหม้บนมือของเธอเอง รอยแผลไหม้รูปดอกกุหลาบทำให้หญิงสาวนึกงุนงงว่าเพราะเหตุใดกัน แผลเธอถึงเป็นเช่นนี้


           “นังมนุษย์โสโครก!


           !!!


           ทันใดนั้นเสียงทรงอำนาจของใครสักคนที่เปล่งดังออกมาจากข้างหลังบานประตู น้ำเสียงของเธอคนนั้นช่างน่าเกรงขามและทรงพลังยิ่งนัก แสงสีน้ำเงินที่ส่องออกมาค่อยๆเปล่งแสงชัดขึ้นอีกครั้งก่อนที่ยองวอนจะถอยหลังและวิ่งลงไปหาชายหนุ่มที่ห้องครัวทันทีอย่างไม่นึกชีวิต


            "แฮ่ก แฮ่ก"


           ยองวอนหยุดค้ำเข่าหอบหายใจอยู่ที่หน้าประตูห้องครัว ก่อนที่เธอจะแบมือดูรอยไหม้รูปดอกกุหลาบนั่น ดวงตากลมโตฉายแววตื่นกระหนกมาก ทำให้ซาตานหนุ่มซอกจินที่เดินออกมาพร้อมขนมคุกกี้ในมือหยุดชะงัก เขาหยุดนิ่งและมองดูรอยแผลที่มือของยองวอน รอยยิ้มเย็นยะเยือกปรากฏออกมาพร้อมกับดวงตาของเขาเปลี่ยนสีไปเป็นสีน้ำเงิน แต่เพียงแค่ชั่วครู่เท่านั้นก็กลับมาเป็นสีน้ำตาลเช่นเดิม ซาตานหนุ่มวางถาดขนมในมือลงบนโต๊ะก่อนจะคว้าข้อมือของอีกคนมาไว้ในมือของตัวเอง และเปล่งเสียงถาม


           "ไปโดนอะไรมาล่ะเรา?"


           ซอกจินเอ่ยถามพลางยกยิ้มอบอุ่นเมื่อเขาเงยหน้ามองใบหน้างดงามของยองวอน หญิงสาวหน้าแดงทันทีเมื่อรอยยิ้มอบอุ่นนั้นช่างมือเสน่ห์เหลือล้น เธอไม่สามรถห้ามใจไม่ให้รักชายคนนี้ได้เลยสักครั้ง เพราะคิมซอกจินอบอุ่น เพราะคิมซอกจินเป็นคนดี เธอมองเห็นซอกจินเป็นเช่นนั้นโดยที่เธอไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้วผู้ชายที่เธอหลงรักนั้น เขาเป็นซาตาน...


           "เอ่อ..คือ..ไฟฟ้าสถิตน่ะค่ะ..."


           ร่างบางกระอักกระอ่วนนิดหน่อยก่อนจะตอบซอกจินไป ใบหน้าแดงๆของหญิงสาวเสมองไปทางอื่นอย่างเขินอายเป็นเช่นนั้นคิมซอกจินจึงมองหน้าอีกคนนิ่งในระยะประชิดก่อนที่เขาจะยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆกับใบหน้าของยองวอน และยกมือขึ้นหยิกจมูกของร่างบางอย่างหมั่นไส้


          คิมซอกจินรู้ว่าคนตรงหน้าชอบเขา ถ้าไม่อย่างนั้นมือเธอคงไม่ไหม้หรอกเพราะห้องนั้นเขาได้เฉพาะคนที่ไม่มีความรักเท่านั้น ถ้าหากใครมีความรักแค่จับลูกบิดประตูก็มีเหตุแล้ว ซอกจินไม่คิดว่าคนอย่างเธอจะสาระแนและขี้สงสัยได้มากขนาดนี้


           เหมือนพ่อกับแม่ของเธอไม่มีผิด นี่สินะที่เรียกว่าต้นไม่หล่นไม่ไกลต้น


          "คะ..คุณ..จิน..คะ"


          "ไปทำแผลเถอะมา"


           ยังไม่ทันทีที่อีกคนพูดจบซอกจินก็รีบพูดตัดก่อนจะลากมือร่างบางไปที่ห้องรับแขกซอกจินหยิบอุปกรณ์ทำแผลออกมาและทิ้งตัวนั่งข้างๆร่างบางของหญิงสาว


           "คุณจินไม่ต้องทำก็ได้ค่ะ วอนทำเอ-"


           "เถอะนาาา"


           อีกแล้ว....หญิงสาวยังไม่ทันได้พูดจบ ร่างสูงก็พูดตัดอีกครั้งก่อนที่จะยิ้มให้เธออย่างอบอุ่นเพราะรอยยิ้มของซาตานหนุ่มทำให้ยองวอนต้องเบือนหน้าหนีไปทางอื่นด้วยความเขินอาย ซาตานหนุ่มเหลือบสายตามองหญิงสาวที่เขินอายเพียงครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะหยิบแอลกอฮอล์ล้างแผลออกมาซับกับสำลีสีขาวและบรรจงทำแผลให้ร่างบางอย่างเบามือ


           รอยแผลรูปดอกกุหลาบทำให้ซอกจินตกใจไม่น้อย เพราะว่าเขาไม่อาจตามหาหญิงสาวคนนั้น ผู้ที่จะมาเป็นราชินีของเขาในอาณาจักรอะลาโน่ เขาไม่สามารถตามหาเธอเจอเขาจึงต้องฆ่าหญิงสาวคนอื่นๆตั้งมากมาย แต่ทว่าโชคชะตากับเล่นตลกเพราะคิมซอกจินใช้เวลากว่าห้าร้อยปีในการตามหาหญิงสาวคนนั้น บัดนี้...เขาได้หาเธอจนพบแล้ว...


           " เสร็จแล้ว"


           "ขอบคุณค่ะ"


           เมื่อทำเสร็จ ซอกจินเงยมองหน้าหญิงสาวก่อนจะยิ้มให้


           ทำไมเขาถึงได้อบอุ่นขนาดนี้กันนะ?


           หญิงสาวได้แต่คิดในใจก่อนจะเอ่ยขอบคุณอีกคนแล้วยิ้มอย่างเขินอาย


           "รักฉันมากกว่านี้สิ รักมากกว่านี้ ฉันมีความสุขที่เห็นเธอกำลังจะฆ่าตัวเอง ยองวอน"


           ซอกจินคิดในใจก่อนจะยกยิ้มอีกครั้งและอีกครั้งทำให้หญิงสาวก้มหน้าเขินอายเข้าไปใหญ่ แต่ต่อให้เธอเป็นราชินีของเขาได้เธอก็ต้องตายอยู่ดี เพราะเลือดและวิญญาณของเธอจะต้องสังเวยให้กับเขาเพื่อความยิ่งใหญ่ คิมซอกจินไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองพอถึงแม้ว่ามันจะถึงขีดสุดแล้วก็ตาม


           เขาจะไม่ยอมหยุดฆ่าตราบใดที่เขายังไม่เป็นใหญ่เขาก็จะไม่มีวันหยุด...


           "ไปเถอะเดี๋ยวฉันพาไปเที่ยว ขนมเย็นหมดแล้วเดี่ยวให้แม่บ้านอุ่นแล้ว เราค่อยกลับมากินด้วยกัน"


           น้ำเสียงทุ้มหวานอบอุ่นเอ่ยชวนหญิงสาวให้ออกไปเที่ยวด้วยกัน เมือ่ได้ยินดังนั้นใบหน้าสวยของยองวอนจึงเงยหน้ามองใบหน้าหล่อของซอกจินและพยักหน้าตอบรับเบาๆเชิงเขินอาย ซอกจินออกมาหัวเราะนิดหน่อยก่อนจะคว้าแขนของเธอออกจากห้องรับแขกแล้วไปที่รถทันที


           เมื่อไปถึงรถยนต์คันหรูร่างสูงก็ทำหน้าที่เปิดประตูรถให้กับหญิงสาวทำให้ยองวอนเธอเกิดอาการเขินอีกครั้ง ประตูรถถูปิดลงโดยฝีมือของซาตานหนุ่มก่อนที่เขาจะอ้อมไปขึ้นรถและก็ขับรถออกไปทันที


           รถหรูเลี้ยวเข้าจอด ณ ร้านอาหารอิตาลีแห่งหนึ่งที่ตกแต่งด้วยธรรมชาติน่าเข้าไป ทำให้หญิงสาวที่ชะเง้อคอมองออกไปนอกกระจกรถฉีกยิ้มอย่างกับเด็กที่พึ่งเคยเห็นอะไรแบบนี้อย่างตื่นเต้น


           "มีที่แบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย สวยจัง"


           เมื่อลงจากรถหญิงสาวก็รีบถามคนข้างๆที่ตั้งแต่เดินลงมาจากรถก็เงียบไปเลย


           "โง่จริง"


           "?" ร่างบางรีบหันขวับไปมองร่างสูงของซอกจินทันที ด้วยความตกใจเมื่ออยู่ร่างสูงก็ส่งเสียงแปลกๆออกมา 

           เสียงเค้าเหมือนคนแก่เลย...


           แต่ยองวอนเธอได้ยินไม่ชัดนักว่าร่างสูงพูดอะไรออกมา ดวงตากลมโตหันกลับมาจดจ้องที่ใบหน้าหล่อเหลาแต่ทว่าตอนนี้กลับเรียบนิ่งดั่งน้ำวนไหลลึก แววตาของคิมซอกจินเปลี่ยนไปทำให้หญิงสาวเริ่มแปลกใจ แต่ทว่าซอกจินกลับเอ่บประโยคหนึ่งออกมาเพื่อหลอกล่อให้เธอสบายใจ


           "เพื่อคุณต่อให้ไกลขนาดไหนผมก็หาให้คุณได้...วอน"


           หญิงสาวรีบถอนหายใจอย่างโล่งอกทันทีที่ได้ยินเสียงของซอกจินที่เป็นปกติไม่ใช่เสียงแหบๆเหมือนเสียงคนแก่แบบนั้น เธอฉีกยิ้มให้ซอกจินอย่างน่ารักสมวัยเด็กผู้หญิงอายุยี่สิบสองก่อนที่ซอกจินจะบอกเธอให้เข้าไปนั่งรอเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉย


           "เข้าไปนั่งเลยครับ เดี่ยวผมมา”


           คิมซอกจินยิ้มบางๆให้กับยองวอนก่อนจะเอ่ยบอกยองวอนให้รออยู่ในร้านและเขาก็เดินหลบออกไปทางหลังร้าน หญิงสาวก็พยักหน้าเข้าใจก่อนที่จะเดินเข้าไปนั่งที่มุมสุดของร้าน แต่แปลกที่ไม่มีคนเข้าร้านนี้เลย แม้แต่พนักงานสักคนก็ไม่มี บรรยากาศเงียบงันทำให้ยองวอนเริ่มมองซ้ายมองขวาสอดส่องสายตาดูรอบๆร้านอาหารแห่งนี้ ก่อนจะฉีกยิ้มราวกับเป็นคนบ้าอยู่คนเดียว


           "หวังว่าคุณจินคงจะไม่เหมาปิดร้านเพื่ออยากเดทกับเราสองคนหรอกนะ "  ยองวอนพึมพำออกมาคนเดียวและได้แต่ฉีกยิ้มอย่างมีคามสุขอีกครั้งก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายรูปเล่นอย่างมีความสุข


           " หึ ฉันปิดร้านเพื่อที่จะฆ่าเธอต่างหากยัยมนุษย์โง่"


           ไม่ไกลจากตรงนั้นปรากฏร่างสูงของชายหนุ่มที่ยืนมองหญิงสาวที่กำลังมีความสุขด้วยสายตานิ่งงัน ใบหน้าหล่อเรีบยนิ่งไร้แววตาและความรู้สึกนึกคิด รอยยิ้มที่เขาเคยยิ้มออกมาก็หายไปราวกับว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น เขายืนสอดส่องสายตามองดูอีกคนที่เขามองเป็นแค่เหยื่อคนหนึ่งอยู่ในที่ไกลๆ


           ซาตานอย่างเขาไร้ความรู้สึกใดๆเขาถึงได้คิดแบบนั้น


           กรุ้ง กริ้งง


           เสียงกระดิ่งหน้าร้านดังขึ้นก่อนที่ร่างบางของยองวอนจะรีบหันไปมอง เธอฉีกยิ้มอย่างกว้างเพราะคนที่เข้ามาคือคิมซอกจินที่ส่วมชุดทักสิโด้สีน้ำเงินเดินเขาพร้อมดอกกุหลาบสีน้ำเงินในมือช่อใหญ่


           ปึก


           ซอกจินเดินเข้ามาใกล้ร่างบางของยองวอนก่อนจะหยุดฝีเท้าลง เมื่อเห็นดังนั้นหญิงสาวจึงลุกขึ้นยืนและยิ้มหวานให้กับคิมซอกจินอย่างมีความสุข พวกเขาสองคนหยุดยืนมองหน้ากันอยู่สักพักก่อนที่คิมซอกจินจะยื่นดอกกุหลาบในมือให้กับหญิงสาวและเธอก็เต็มใจรับมันมาด้วยรอยยิ้ม


           "โอ้ย!!"


           ทันทีที่เธอเอื้อมมือไปรับช่อดอกกุหลาบหนามของดอกกุหลาบก็ปักเข้าที่มือของเธอจนเลือดหยดเป็นวงใหญ่ ยองวอนพยายามที่จะปล่อยช่อดอกกุหลาบนั่นทิ้งซะ แต่มือหนาของซอกจินกลับยิ่งบีบมือของเธอให้กำรอบกิ่งของดอกกุหลาบทำให้หนามฝังลงไปในฝ่ามือบางมากขึ้นกว่าเดิม


           "คุณจิน!!ฉันเจ็บนะ!!"


           เธอตวาดใส่ร่างสูงของอีกคนดังลั่น ริมฝีปากหยักของซอกจินจากที่ตอนแรกยิ้มกว้างก็เปลี่ยนมายิ้มมุมปากและบีบมือคิมวอนแน่นขึ้นอีก


           "คุนจิน!!!"


           "เงียบไปซะ!!!"


           เธอชะงักทันทีที่ร่างสูงตะคอกใส่เธอ เธอส่ายหัวไปมาอย่างไม่เชื่อหูตัวเองแล้วพยายามสะบัดมือหนีแต่ยิ่งสะบัดเท่าไหร่หนามของดอกกุหลาบสีน้ำเงินนั้นก็ยิ่งฝังลึกลงไปในมือเธอเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น


           "คุณเป็นอะไร!!ปล่อยมือฉันนะ!!"


           ซอกจินยกยิ้มอีกครั้งก่อนจะดึงดอกกุหลาบออกจนร่างบางกรีดร้องดังลั่น


           "กรี๊ดดดดดดด"


           ช่อดอกกุกหลาบสีน้ำเงินที่ตอนนี้อาบไปด้วยเลือดของหญิงสาวร่วงลงกับพื้น หญิงสาวทรุดเข่าลงกับพื้นก่อนจะเงยหน้ามองร่างสูงของซอกจินที่ตอนนี้ยืนทำหน้านิ่งมองหญิงสาวด้วยความสมเพชด้วยสายตาผิดหวัง


           ใช่เธอผิดหวัง... ชายคนที่เธอรักทำร้ายเธอได้อย่างเย็นชา


     

           "คุณทำอย่างนี้ทำไมฮึก...คุณเป็นอะไรคุณจิน...ฮึก.."


           เธอจ้องหน้าอีกคนด้วยสีหน้าผิดหวังเต็มทนไม่นานหยดน้ำตาสีใสก็ไหลออกมาจากเบ้าตาของหญิงสาว แต่อีกคนกลับยืนนิ่งมองเธออย่างไร้ความรู้สึก หญิงสาวก้มหน้าร้องไห้อย่างบ้าคลั่งหยาดน้ำตาสีใสไหลออกมาจากดวงตาคู่สวยอย่างห้ามไม่ได้ เธอทำใจไม่ได้กับความผิดหวังครั้งยิ่งใหญ่ของเธอ เธอรับไม่ได้...


           ฟึ่บ!!


           จู่ๆซอกจินก็คุกเข่านั่งลงกอดร่างบางของยองวอนไว้ในอ้อมแขนก่อนจะค่อยๆลูบหลังปลอบประโลมหญิงสาวอย่างอบอุ่น หญิงสาวยกมือที่เปื้อนเลือดนั้นกอดเขาตอบเช่นกันจนเสื้อที่ซอกจินใส่อยู่นั้นเปื้อนเลือดไปด้วย บรรยากาศในร้านจากเดิมที่เป็นร้านอาหารสวยๆกลับเปลี่ยนเป็นสุสานคริสต์เก่าแก่ที่เต็มไปด้วยหลุมศพของคนที่ตายไปแแล้ว


           อากาศเย็นเยือกก็คลืบคลานเข้าปะทะที่ต้นแขนของหญิงสาวจนขนลุกซู่ ยองวอนจึงหลับตาซึมซับความอบอุ่นจากร่างสุงของคิมซอกจิน แต่แปลกยิ่งนักขนาดเธออยู่ใกล้กับซอกจินขนาดนี้ เธอกลับไม่ได้ยินเสียงหัวใจเต้นของซอกจินเลย แม้แต่ลมหายใจที่ควรจะรดอยู่บนศรีษะของเธอก็ไม่มี


           "เธออยากตายแบบไหนเหรอยองวอน"


           ซอกจินเอ่ยถามหญิงสาวพลางลูบศรีษะของเธอไปด้วย หญิงสาวเบิกตากว้างก่อนจะผลักร่างของซอกจินออก นี่เขาเป็นบ้าอะไรของเขา เพราะประโยคคำถามแปลกๆทำให้ยองวอนส่ายหน้าของตัวเองไปมาอย่างไม่เชื่อหูตัวเองอีกครั้งพร้อมกับค่อยๆขยับตัวถอยหลังหนีอีกคน


            “หึ”


           ซอกจินลุกยืนขึ้นก่อนจะยกยิ้มและหัวเราะในลำคอ ร่างสูงของซอกจินที่อยู่ในชุดทักสิโด้สีน้ำเงินล้วนเปลี่ยนเป็นชุดเจ้าชายอนิเมะสีดำทั้งหมดแซมด้วยสีน้ำเงินแทน ผ้าคลุมสีน้ำเงินที่ยาวระย้าถึงข้อเท้าของชายหนุ่มปลิวสะบัดไปตามแรงลมช่างดูสง่า เข็มกลัดดอกกุหลาบสีน้ำเงินที่บ่งบอกตัวตนของเขาได้อย่างดีที่หน้าอกข้างซ้ายช่างน่าดึงดูดใจ สีของดวงตาของคิมซอกจินเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินทึบหม่นมองดูน่ากลัวอีกครั้งทำให้หญิงสาวขยับหนี


           ร่างบางหยุดชะงักเมื่อหลังของเธอสิ้นสุดที่จะถอยไปแล้ว ดวงตากลมเบิกกว้างด้วยความตกใจเพราะเธอเพิ่งรู้ว่าที่นี่ไม่ใช่ร้านอาหารที่เธอเข้ามา แต่กลับเป็นสุสานที่มีแต่คนตาย... 


           "ท...ทำไม.."


           เธอมองซ้ายมองขวาอย่างลุกลี้ลุกลนก่อนจะหันมามองร่างสูงของซอกจินที่ใสชุดแปลกๆ และกำลังยืนมองเธอด้วยสายตาที่นิ่งงันและเปลี่ยนสีอย่างน่ากลัวนั้น


           "ค..คุณมะ...ไม่ใช่คน"


           ....


           ยองวอนเปล่งเสียงที่ตอนนี้เริ่มที่จะแหบแห้งออกมาแล้วถอยหลังกรู ร่างบางของเธอจึงชนกับป้ายหลุมศพที่ดูเหมือนพึ่งจะฝังใหม่ หญิงสาวหันไปมองก่อนจะสะดุ้งถอยหลังไปอีกทาง ดวงตากลมโตเริ่มเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตาที่คลอเบ้า ไม่ต้องบอกก็รู้ได้ว่าป้ายหลุ่มนั่นคือ...


           "หลุมศพผู้ปกครองเธอน่ะ ดูชื่อที่สลักอยู่บนป้ายนั่นสิ”


           “....!


           “ช่างเป็นศิลปะที่สวยงามจริงๆ"


           แปะ แปะ แปะ


           คิมซอกจินตบมือเบาๆเชิงชมอย่างกับชื่อนั้นเป็นงานศิลปะชั้นดีจริงๆ หญิงสาวที่ได้ยินดังนั้นจึงรีบหันไปมองชื่อบนป้ายนั้นทั้งๆที่สุสานแห่งนี้มืดมิดกลับมีแสงสว่างส่องไปที่ชื่อบนป้ายนั้นอย่างชัดเจน


           ยอง ซามูเอล และ อะเดล กยอร์ก


           "ฮึก..พ่อ แม่.."


           หญิงสาวปล่อยโฮอย่างหนักความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามา ไหนจะความเจ็บปวดของบาดแผลที่มือแล้วยังจะเจ็บปวดที่หัวใจกว่าเดิมอีก ตอนนี้เหมือนทุกสิ่งอย่างในชีวิตของยองวอนแหลกสลาย ชายคนที่เธอรักฆ่าพ่อและแม่ของเธอ ร่างบางคุกเข่าก้มหน้ามองพื้นและปล่อยหยดน้ำตาออกมาเยี่ยงคนไร้สิ้นที่ไป หญิงสาวหันใบหน้าที่เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดและน้ำตาขึ้นมองร่างสูงที่ยืนมองเธอราวกับกำลังชมหนังสั้นที่กำลังดำเนินเรื่องอย่างเข้มข้นยังไงยังนั้น


           "คุณทำใช่มั้ยจิน...ตอบฉันสิ!!" หญิงสาวตวาดเสียงดังลั่นร้องไห้อย่างหมดความอดทน  "ฮึก..ฮือ..คุณทำมันได้ยังไงจินฮืออ..คุณทำแบบนี้ทำไม..ฮึก.. ฉันรักคุณมากนะ..ฮืออ"


           คิมวอนปล่อยน้ำสีใสออกจากเบ้าตาสวยอย่างผิดหวัง เธอรู้สึกเสียใจและไร้ค่าในเวลาเดียวกัน เธอรักเขาตั้งเเต่แรกพบที่งานวันเกิดครบอายุสิบแปดของเธอ เป็นเวลากว่าสองปีที่เธอแอบรักซอกจินโดยไม่คิดว่าจะมีวันนี้...วันที่เธอได้มาอยู่กับเขาแต่กลับกลายเป็นวันตายของเธอ


            เธอไม่สนหรอกว่าเขาจะเป็นปีศาจหรืออมนุษย์ เธอรู้เพียงแค่ว่าเธอรักเขามากที่สุด รักสุดชีวิต และสุดหัวใจของเธอแต่ยองวอนไม่คิดว่าคิมซอกจินเขาจะทำเช่นนี้...


           "ความรัก ความอบอุ่น รอยยิ้มนั่นที่คุณให้ฉันคืออะไรจิน..ฮึก..คุณไม่รักฉันบ้างเลยเหรอ..สองปีที่ผ่านมาคุณไม่รักฉันบ้างเลยเหรอคุณจิน"


           หญิงสาวกัดฟันผ่อนลมหายใจถามอีกคนที่เอาแต่ยืนมองเธอนิ่งๆ เพราะคำว่ารักทำให้ซอกจินหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง เขาหยุดปรบมือแล้วชี้หน้าของยองวอน รอยยิ้มจากการหัวเราะเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นใบหน้าดุดันพร้อมแยกเคี้ยวฆ่าคนตรงหน้าทันที


           ซอกจินเกลียดคำว่ารัก...เขาเกลียดมันที่สุด!


           "ฉันเป็นปีศาจ...ปีศาจที่ไหนมีความรัก!"


          "คุณเป็นอะไรฉันก็รัก...แต่คุณไม่รักฉันบ้างเหรอคะ...ฮึก.."


          ร่าสูงเริ่มก่อประกายไฟสีน้ำเงินรอบกายทันทีที่ได้ยินคำพูดของยองวอน คำพูดนั่นกระตุ้นความโกรธ เกลียด และอารมณ์โทสะของเขามากขึ้น ดวงตาสีน้ำเงินทึบไร้แววตาไล่มองหน้าหญิงสาวนิ่งเมื่อนึกอะไรบางอย่างออก ก่อนที่เขาจะตอบหญิงสาวอย่างเย็นชา


           "ไม่"


           ซอกจินตอบออกไปตามความเป็นจริง เขาไม่เคยมีความรู้สึกรักใครทั้งนั้น เขาน่ะไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้นแหละ เขามีเลือดเนื้อก็จริงแต่เขาไม่มีความรู้สึก เขาไม่มีลมหายใจด้วยซ้ำ ยองวอนเธอยังจะหวังอะไรจากเขาได้อีก คิมซอกจินยืนมองหญิงสาวที่เงยหน้ารอฟังคำตอบจากปากของซิกจินอย่างมีความหวังด้วยสีหน้าดุดัน


           เพื่อความรักแล้ว....ยองวอนเธอหวังเสมอ แต่สิ่งที่เธอได้กลับเป็นคำตอบอันแสนเจ็บปวด เธอก้มหน้าร้องไห้อีกครั้งและอีกครั้งจนน้ำตาเปลี่ยนเป็นสายเลือด คิมซอกจินเองก็ยืนมองเยี่ยงนั้นจนประกายไฟสีน้ำเงินรอบกายของเขาเริ่มหายไป ซอกจินไม่ได้มีความรู้สึกสงสารอะไรเลยสักนิด เขาไม่มีวันยื่นข้อเสนออะไรทั้งสิ้นให้กับมนุษย์หน้าโง่พวกนั้น


           แต่เขาเห็นแก่ที่ว่ายองวอนเธอมีสัญญาลักษณ์เทพีที่ข้อมือแล้วเขาจะหยวนให้แล้วกัน


           "ฉันมีข้อเสนอให้เธอก่อนตายเอาไหม?"


           ซอกจินทรุดตัวนั่งยองๆตรงหน้าของยองวอนก่อนที่ร่างสูงจะเสนออะไรขึ้นมาให้เธอฟัง เธอจึงเงยหน้ามองร่างสูงของซอกจินอีกครั้งด้วยความหวัง ใบหน้างดงามตอนนี้เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดสำหรับซาตานหนุ่มแล้วมันช่างงดงามยิ่งนัก...


           "...."


           "เธออยากจะตายที่ไหน....เธอเคยจินตนาการหรือคิดไว้บ้างรึเปล่า?"


           "..ฮึก.."


           "คนเราไม่มีทางเลือกมากหรอกนะยองวอน..ฉันให้โอกาสเพราะยังไงเธอก็จะต้องตายวันนี้..."


           ซอกจินยื่นข้อเสนอให้กับหญิงสาวและยกนิ้วมือเรียวของเขาวนไปมากลางอากาศอย่างไร้ความรู้สึก


           "ฉันขอตายในอ้อมแขนของคุณได้มั้ยจิน..."

     

           ซอกจินมองหน้าอีกคนอย่างนึกตกใจ เธอไม่มีทีท่ากลัวตายอย่างเช่นผู้หญิงคนอื่น หนำซ้ำยังกล้าขออะไรที่มันน่าขยะแขยงสำหรับเขาอีกต่างหาก


           "ถ้าฉันจะตาย..ฮึก..ฉันก็ตายในอ้อมแขนคุณนะจิน..ฉันขอแค่นี้...ฮึก..ได้ไหม"


           "...."


           "ถ้าฉันจะตายจริงๆฉันขอตายในอ้อมแขนของคนที่ฉันรักได้รึเปล่า?"


          สิ้นคำขอร้องซอกจินก็ตวัดสายตาสีน้ำเงินทึบมองร่างบางของยองวอนที่คุกเข่าและก้มหน้าร้องให้อย่างสะอึกสะอื้นน่าสงสาร นิ้วมือหยุดควงกลางอากาศก่อนที่ใบหน้าหล่อเหล่าจะค่อยเอียงซ้ายทีขวาทีและกลับมาหยุดที่ใบหน้าของหญิงสาว


           น่าสมเพช!!!


           "ฉันอยากให้คุณกอดฉันอีกสักครั้งฮึก..ได้ไหมคะคุณจินฮึก.."


           หญิงสาวเอ่ยของซอกจินและมองหน้าเขาอย่างอ้อนวอน ทั้งๆที่เธอกำลังจะตายเพราะรักเขาแล้วยังจะอยากขออะไรโง่ๆแบบนี่อีก เขาล่ะไม่เข้าใจจริงๆเลยว่าทั้งๆที่เธอจะตาย เพราะความรักโงๆ นั้นแล้วยังจะอยากขออะไรโง่ๆอีก


           "หึ"


           ฟึ่บ!!


           คิมซอกจินขยับเข้าไปใกล้ๆกับร่างบางของยองวอนก่อนจะดึงแขนของหญิงสาวเข้ามาใกล้ๆตัวเองแล้วกอดร่างบางเอาไว้


           กึก!!


           แสงของดวงจันทร์ส่องสะท้อนกับวัตถุเหล็กเงาเวาวับ มีดขนาดพอดีมือที่ด้ามสลักด้วยลายดอกกุหลาบยกขึ้นในระดับสายตาของหญิงสาว ยองวอนจึงเงยหน้ามองคิมซอกจินด้วยสายตาที่สั่นไหวและอ่อนแออย่างเห็นได้ชัด


           นี่เขาจะฆ่าเธอจริงเหรอ?


           เธอได้แต่คิดในใจเพราะถึงยังไงตอนนี้ร่างกายของเธอก็ไม่อาจทนพิษบาดแผลได้ไหวแล้ว


           "เธอจะให้ฉันฆ่าเธอหรือเธอจะฆ่าตัวเอง"


           "...."  ยองวอนไม่ตอบเพียงแต่มองหน้าซอกจินอยู่อย่างนั้น เธอใช้ความเงียบเป็นคำตอบทำให้ซอกจินคิดว่าคงจะให้เขาฆ่านั้นแหละ พวกมนุษย์แก่ตัวจะตายคงไม่ยอยทำร้ายตัวเองหรอก


           ...สกปรกสิ้นดี


           "....."


           "ทำไมฉันถึงต้องตาย...คุณบอกฉันได้รึเปล่าจิน?"


           คำถามที่หญิงสาวถามทำซอกจินไหววูบลงไปในพะวง นั่นสิ?เขาทำมันทำไม เขาเองก็ไม่มีคำตอบหรอก ตราบใดที่มนุษย์ยังหาทรัพย์สินเงินทองเพื่อให้ชีวิตอยู่รอด เขาก็หาจิตวิญญาณเพื่อความอยู่รอดเช่นกันนั่นแหละ


           "ไม่มีเหตุผล....ฉันเฝ้ารอดูเธอมาตลอดสองปีเพื่อที่จะรอเอาดวงวิญญาณของเธอ....”


           “....”


           “การที่ฉันดูแล เอาใจใส่เธอ..มอบความอบอุ่น..รอยยิ้ม..เธอเคยได้ยินคำว่ารอยยิ้มปีศาจมั้ย?"


           "...."


           "ปีศาจฆ่าคนไม่มีเหตุผลหรอกนะ"


           "....."


           "เธอหลงระเริงกับรอยยิ้มนั่นโดยที่ไม่รู้เลยว่า ความอบอุ่นของฉันนี้แหละที่จะฆ่าเธอ"


           ซอกจินพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเย็นก่อนจะจ้องหน้าหญิงสาวกลับ แววตาทุกข์ระทมของยองวอนทำให้เขารู้สึกดียิ่งนัก ราวกับว่าเขาได้รับพลังจากดวงตาหรือไม่ก็โลกใบนี้ ยามใดที่มนุษย์นั่นโศกเศร้าซาตานอย่างเขาก็เหมือนได้รับพลังและอาหาร...


           "เอาสิ...ฆ่าฉันเลย"


           ยองวอนหลับตาลงก่อนจะรู้สึกถึงสัมผัสอบอุ่นที่กำลังโอบกอดเธออยู่ หญิงสาวยกมือกอดร่างของซอกจินและเธอก็ยิ้มกว้างออกมาแล้วซึมซับความอบอุ่นนั้นครั้งสุดท้ายให้ได้มากที่สุด


           อย่างน้อย...แค่อย่างน้อยครั้งนี้ที่เธอได้เกิดเป็นมนุษย์ แค่เธอได้รักก็ยังดีที่เกิดมาไม่เคยรัก...


           มือหนาข้างหนึ่งเลื่อนมาปิดปากของยองวอนเอาไว้ ส่วนอีกข้างก็บรรจงกดลงที่กลางอกฝั่งซ้ายทีละนิด ทีละนิด น้ำตาหยดสุดท้ายที่ผสมปนไปด้วยเลือดไหลลงอาบแก้มของหญิงสาวก่อนที่ทุกอย่างจะดับลง มือบางที่กอดชายหนุ่มอยู่ก็ร่วงลงสู่พื้น เลือดที่ไหลรินจรดปลายมีดนั้นหยดลงสู่พื้นดินบรรยากาศที่มืดมิดบ่งบอกถึงความเศร้าและเจ็บปวดได้อย่างดี


           ซอกจินหลับตาสูดกลิ่นเลือดเข้าสู่ปอด กลิ่นที่เขาคุ้นเคยดีแต่กลิ่นเลือดของหญิงสาวคนนี้ชั่งอบอวนไปด้วยความรักและความจริงใจที่แท้จริง เขาดึงมีดออกจากอกของอีกคนก่อนจะผละกอดออก


           ตุบ!!!


           ร่างของหญิงสาวก็ล้มลงกับพื้นตามเเรงโน้มถ่วงของโลกก่อนที่ร่างสูงของซอกจินจะลุกยืนขึ้นมองร่างของหญิงสาวที่นอนแน่นิ่งด้วยสายตาว่างเปล่า เขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทนเห็นภาพเหล่านี้ได้หลายครั้ง อาจจะเป็นเพราะเขาเป็นซาตานหรือเปล่านะจึงทำให้เขาไม่มีหัวใจและความรู้สึก


           ชายหนุ่มรูปงามที่ไม่มีหัวใจรักไครอย่างงั้นเหรอ?


           หึ! สำหรับเขาแล้ว ความรักก็เป็นแค่เรื่องตลกเท่านั้นแหละ


           แอดดดดด


           บานประตูบานสีน้ำเงินทึบถูกปิดลงด้วยมือของร่างสูงที่สวมชุดเจ้าชายอนิเสีดำน้ำเงิน ผ้าคลุมสีน้ำเงินปลิวสะบัดไปตามแรงเดินของร่างสูง และเข็มกลัดดอกกุหลาบสีน้ำเงินนั้นแสดงให้เห็นสัญลักษณ์ของตัวเขาเอง มือหนาถือกล่องไม้สักสีน้ำเงินที่ข้างในบรรจุดวงวิญญาณของหญิงสาวที่เขาพึ่งจะฆ่ามาหมาดๆนั้นเอาไว้ ถูกวางลงบนชั้นที่ทำจากไม้สักเช่นกันกับกล่องนั้น


           สถานที่แห่งนี้เปรียบเสมือนสุสานเพียงแต่ว่าไม่ได้ใช้เก็บฝังกายหยาบของพวกมนุษย์แต่ไว้เก็บดวงวิญญาณของหญิงสาว กล่องสีน้ำเงินหลายกล่องที่ถูกเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบซอกจินยืนมองกล่องเหล่านั้นก่อนจะหันหลังไปมองร่างของหญิงสาวที่สวมชุดราตรีสีน้ำเงินแซมด้วยสีดำ รอบข้างร่างไร้วิญญาณของเธอมีดอกกุหลาบสีน้ำเงินรายล้อมไว้ใบหน้าซีดเซียว


           ร่างไร้วิญญาณของยองวอนก็ถูกเก็บไว้ที่นี่เช่นกัน


           "ถ้านี้มันคือภารกิจ...เราก็จะต้องทำมันต่อไป"


           ซอกจินสูดอากาศที่อบอวนไปด้วยกลิ่นดอกกุหลาบสีน้ำเงินนั้นก่อนจะเดินออกมาจากห้องนั้น และเปลี่ยนชุดที่เขาใส่อยู่ให้เป็นชุดลำลองปกติ ลักษณะอบอุ่นนั่นได้เกิดขึ้นอีกครั้ง รอยยิ้มที่เขายิ้มให้แม่บ้านและหญิงสาวที่รออยู่ที่ห้องโถงนั้น


           หญิงสาวที่มีนามว่า คัง ซูฮวา...


           กำลังจะเกิดเหตุการณ์เดิมซ้ำอีกครั้ง และมันก็จะเป็นเช่นนั้นจนกว่าภารกิจที่พ่อของเขามอบให้กับเขาจะประสบผลสำเร็จ เมื่อนั้น..


           อาณาจักรอันรุ่งเรืองก็จะเป็นของเขาเพราะเขาได้พบราชินีของเขาแล้ว.....


           "ความรักก็เปรียบเสมือนเหล้าที่มียาพิษที่พร้อมจะฆ่าตัวฉันเอง แต่ฉันก็พร้อมที่จะดื่มมันลงคออย่างไม่กลัวตาย...."


    The and



     

    จบไปแล้วนะคะสำหรับตอบของพี่จินสุดหล่อworldwine handsome ของเรานั่นเองนะคะ ปมแต่ละปมจะเฉลยผ่านตัวละครคนต่อๆไปค่ะ อันนี้ยังไม่โหดเท่าไหร่นะคะเจอคนต่อๆไปหล่ะก็เตรียม ทิชชู่ซับน้ำตาได้เลยค่ะ เรื่องนี้เป็นแค่เรื่องสั้นซึ่งไรท์แต่งของทุคคนนะคะ อยู่ๆก็รู้สึกอย่างแต่งแนวแฟนตาซีเลยเอาไปเกลานิดหน่อย ถ้าอ่านแล้วชอบหรือไม่ชอบยังไงเม้นมอกไรท์ด้วยนะ

    ไพเเร้วววว


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×