ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [BTS]JIMIN X YOU ANODYNE [SM+] | รีไรท์ |

    ลำดับตอนที่ #1 : Anodyne 01 | เธอเห็นอะไร? [100%]

    • อัปเดตล่าสุด 9 ก.พ. 64


     

    17092018-

    Anodyne 01 | เธอเห็นอะไร?

    "All night, I'll comes to you"

     

            ตึกตึกตึก

     

            เสียงฝีเท้าเล็กย้ำลงกับพื้นปูน ภายในคฤหาสน์หลังใหญ่ในเมืองหลวง ร่างเล็กของหญิงสาวผู้มีใบหน้างดงามราวกับเทพธิดา ดวงตากลมโตสีน้ำตาลสว่างกับจมูกเล็กโด่งรัน ริมฝีปากสวยเป็นกระจับงามสีชมพูสดดูน่าหลงไหล เธอค่อยๆย่างกรายฝีเท้าสวยของเธอเดินผ่านประตูรั้วขนาดใหญ่ เธอหยุดยืนนิ่งสอดส่องสายตามองคฤหาสน์หลังใหญ่ชั่วครู่พร้อมกับสูดหายใจเข้าปอดลึกๆเพื่อรวบรวมความกล้าและกำลังใจให้ตนเอง ก่อนที่เธอจะค่อยๆเดินลากกระเป๋าเดินทางเข้าไปในตัวบ้านหลังใหญ่

     

    “น่าแปลก ทำไมไม่มีใครอยู่เลย? “

     

    เธอพึมพำออกมาเบาๆ แล้วล้วงมือลงไปในกระเป๋าเสื้อเอี๊ยมสีเเดงของเธอ และหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเพื่อที่จะโทรหาใครสักคนที่มีศักดิ์เป็นพี่ชายแท้ๆของเธอและยกโทรศัพท์มือถือแนบกับหูเธอ ก่อนที่…

     

    “หวา”

     

    ขวับ!!!

     

    เธอหันหน้ามองหาต้นเสียงที่เรียกชื่อเธอมือบางวางโทรศัพท์มือถือลงข้างตัวโดยที่ไม่ลืมเบะปากใส่บุคคลที่เรียกเธอเมื่อครู่ไปที ร่างสูงของชายหนุ่มผู้มีผิวขาวอมชมพูและดวงตากลมโตเช่นเดียวกันกับเธอ สอดส่องมองใบหน้าสวยของน้องสาวที่ยืนเวิ้งว้างอยู่คนเดียวตรงหน้าประตูใหญ่และค่อยๆเดินเข้าไปหาร่างบางของน้องสาวก่อนจะหยุดฝีเท้าลงที่ตรงหน้าของร่างเล็กที่มีนามว่า ‘จ้างชูหวา’

     

    “โทษที พี่เพิ่งว่างเลยมาช้า หวาเอากระเป๋าไปเก็บในบ้านเลยก็ได้เดี๋ยวพี่เปิดประตูให้” ชูหวาพยักหน้าเข้าใจแล้วเดินตามร่างสูงของชายหนุ่มไป “ไปทำอีท่าไหนม๊าถึงยอมให้มาอยู่กับพี่ล่ะ?”

     

    ชายหนุ่มเอ่ยถามชูหวาพลางไขกุญแจประตูบานใหญ่ไปด้วย เขาเปิดประตูออกและก็เดินเข้าไปในตัวบ้าน ชูหวาไม่ตอบเธอเดินก้าวเท้าสวยของเธอเข้าไปในบ้าน ภายในบ้านหลังใหญ่ถูกประดับตกแต่งด้วยเฟอนิเจอร์ราคาแพงและล้ำค่า เธอสอดส่องสายตาสำรวจเหล่าเฟอนิเจอร์เหล่านั้น และมองไปรอบๆตัวบ้านทั้งสระน้ำหน้าบ้านที่มองเห็นได้อย่างชัดเจนผ่านกระจกใส โดยที่ไม่ได้สนใจคำถามที่พี่ชายได้ถามเธอเมื่อครู่ก่อนเลยสักนิด

     

    และนั่นจึงทำให้ ‘จ้าง อี้ชิง’ จำเป็นต้องถอนหายใจออกมา เขารู้ดีว่าน้องสาวของเขาไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจามาตั้งแต่ไหนแต่ไร มันจึงไม่แปลกที่เขาจะถามเธอและไร้คำตอบกลับมา

     

    “พี่ถามเราอยู่ทำไมไม่ตอบพี่ล่ะหวา?”

     

    อี้ชิงเอ่ยถามน้องสาวซ้ำอีกครั้งเพราะเขาต้องการคำตอบจริงๆว่าเพราะเหตุใดมารดาของเขาจึงได้อนุญาตให้ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนออกมาอยู่ในที่ที่แสนอันตรายแบบนี้ได้ แต่ก็เป็นเช่นเดิม ไร้คำตอบจากชูหวา แถมเธอยังเบนสายตามามองหน้าพี่ชายนิ่งด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์ร่วมแบบสุดๆไปอีก

     

    “....”

     

    “....”

     

    “....”

     

    “ม๊าบอกว่าคุณชายใหญ่เรียกให้หวามาอยู่ที่นี่ เพราะว่าถึงเวลาอะไรก็ไม่รู้หวาก็ไม่เข้าใจ”

     

    หืม…คุณชายใหญ่เหรอ?

     

    นานพอสมควรกว่าที่ริมฝีปากสวยของชูหวาจะคลี่ออกและเอ่ยออกมาสักที อี้ชิงขมวดคิ้วมุ่นเพราะเหตุใดคุณชายใหญ่ถึงได้เรียกตัวชูหวามาเร็วขนาดนี้ ถ้าคำนวณตามเวลาแล้วชูหวาต้องอายุยี่สิบสามก่อนสิถึงจะเรียกว่าถึงเวลาจริงๆ แต่ตอนนี้ชูหวาอายุแค่ยี่สิบเอ็ดปีเอง อาจจะเกิดข้อผิดพลาดอะไรขึ้นซึ่งอี้ชิงก็ยังไม่รู้ แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆเขาก็ไม่อาจจะขัดอะไรไม่ได้ เขาไม่มีแม้แต่สิทธิ์จะขัดความต้องการของคุณชายใหญ่เลยต่างหาก เพราะถ้าหากเขาเรื่องมาก ก็มีอยู่ทางออกเดียวเท่านั้นแหละคือ ความตาย 

     

    “ที่นี่มีกฎค่อนข้างเยอะมากๆเลย หวามาอยู่ที่นี่ในฐานะอะไรพี่ยังบอกไม่ได้ วันนี้คุณชายไม่อยู่แล้วก็พวกแม่บ้านก็กลับกันหมดแล้ว หวาต้องดูแลตัวเองให้ดีเข้าใจไหม?”

     

    เมื่อไม่มีทางคัดค้านความต้องการของผู้เป็นใหญ่กว่า ดังนั้นอี้ชิงจึงเลือกที่จะเอ่ยเตือนน้องสาวของตนให้ดูแลตัวเองให้ดีซะดีกว่า อี้ชิงทำงานเป็นคนติดตามให้คุณชายใหญ่มาเกือบๆสิบปีทั้งนั้นก็เพื่อความอยู่รอดของครอบครัว แต่ในตอนนี้ต่อให้เขาจะเป็นห่วงน้องสาวมากแค่ไหน เขาก็ไม่อาจปกป้องน้องสาวได้เลย เพราะคนที่อยู่สูงกว่าเขามีอำนาจมากซะเหลือเกิน

     

    “ทำไมแม่บ้านต้องกลับด้วยล่ะ ทำไมถึงไม่อยู่รับใช้คุณชาย?”

     

    ยังดีที่ชูหวาเองก็มีความสงสัย เธอจึงได้เอ่ยถามพี่ชายที่ลุกเต็มความสูงพร้อมกับยกยิ้มบางๆไปพร้อมกับส่ายหัวเป็นคำตอบให้น้องสาวแล้วมุ่งหน้าไปที่ห้องครัวแทน ในตอนนี้อี้ชิงยังบอกไม่ได้ กฎของที่นี่อี้ชิงเองก็ไม่เข้าใจชัดเจนเพราะฉะนั้นเขาไม่อาจให้คำตอบแก่ชูหวาได้ละเอียดหนัก

     

    ไม่นานอี้ชิงก็กลับมาพร้อมกับกล่องเค้กช็อกโกแลตในมือมาด้วย ร่างสูงทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาและวางเค้กลงบนโต๊ะรับรองข้างหน้าชูหวา มือหนของเขาก็จัดการใช้ช้อนพลาสติกตัดเค้กให้เป็นชิ้นเล็กๆก่อนที่จะยื่นเค้กชิ้นเล็กที่อยู่บนช้อนพลาสติกให้แก่น้องสาวที่นั่งมองพี่ชายด้วยความสงสัย

     

    “มากินสิ”

     

    ร่างเล็กของชูหวาหยุดนิ่งไม่ทำตามที่พี่ชายพูด เธอยังนั่งปิดปากแน่นพร้อมกับสาดความสงสัยผ่านสายตาจนทำให้อี้ชิงไม่สามารถอดทนรับแรงอยากรู้อยากเห็นของน้องสาวได้ ดังนั้นอี้ชิงจึงหันช้อนเค้กนั้นกลับเข้าหาตัวเองและกินเค้กชิ้นนั้นเข้าไปเอง

     

    “พี่ก็บอกอยู่ว่าวันนี้คุณชายไม่อยู่ เราไม่ได้ฟังที่พี่พูดหรือยังไงกัน ถึงแม้ว่าพี่จะอยู่ในบ้านใหญ่หลังนี้พี่เองก็ต้องรักษากฎ หวาเองก็ต้องรักษา เดี่ยววันพรุ่งนี้ตอนแปดโมงจะมีแม่บ้านมาบอกหวาเรื่องกฎในบ้านนี้ ตอนนั้นหวาก็จะรู้เอง”

     

    "แต่พี่ทำตัวอย่างกับพี่เป็นเจ้าของคฤหาสน์นี้ ทำไมหวาต้องรอฟังคำตอบจากคนอื่นด้วย”

     

    "พี่ดูเป็นงั้นเหรอ? พี่เป็นเลขาคนสำคัญของคุณชายน่ะ แล้วอีกอย่างคุณชายท่านไม่เคยทานอาหารที่นี่ ส่วนมากท่านก็จะหมกตัวอยู่ในเพนเฮาส์ซะมากกว่า"

     

    "อ่อ งั้นเหรอ?" ชูหวาพยักหน้าขึ้นลงอย่างเข้าใจ

     

    "และหวาอย่าลืมนะ หวามานี่นี้เพื่อมาดูแลคุณชายไม่ได้มีเจตนาอย่างอื่น หวาจะต้องเชื่อฟังคุณชาย เข้าใจไหม?”

     

    อี้ชิงร่ายยาวก่อนที่จะยกมือลูบศรีษะน้องสาวที่ยังไม่คลายความสงสัยเบาๆ ก่อนที่จะลุกเอากล่องเค้กช็อกโกแลตเข้าไปเก็บในตู้เย็นคืน ไม่นานอี้ชิงก็กลับออกมาและยกกระเป๋าเสื้อผ้าจากมือของชูหวา อี้ชิงมุ่งหน้าขึ้นบันไดชั้นสองไปที่ห้องห้องหนึ่งที่อยู่สุดทางเดิน ดังนั้นชูหวาเธอจึงเลือกลุกขึ้นและเดินตามร่างสูงของอี้ชิงไป ระหว่างนั้นเธอก็สอดส่องสายตาสำรวจสถานที่แห่งนี้ตลอดทางเดินไปด้วย

     

    “!!!”

     

    ร่างบางสะดุ้งเฮือกเมื่อสายตาเธอเหลือบไปเห็นคราบสีแดงที่เป็นรอยนิ้วชัดประจักษ์แก่ตาอยู่บนกำแพง ดูก็รู้ว่านั่นคือเลือด แต่เธอก็ทำเป็นไม่เห็นและรีบมุ่งหน้าไปตามอี้ชิงที่กำลังไขบานประตูห้องที่กำลังจะเป็นห้องเธอพอดี อี้ชิงเปิดประตูห้องของชูหวาและเอากระเป๋าไปวางไว้ที่ปลายเตียง เสร็จแล้วเขาก็ไม่ลืมหันหลับมาเอ่ยเตือนน้องสาวที่มีสีหน้าตื่นกระหนกอีกครั้ง

     

    “ห้องของคุณชายอยู่ชั้นสี่ อย่าได้ขึ้นไปสุ่มสี่สุ่มห้าเด็ดขาด”

     

    “ค่ะ...นี่พี่อี้ชิงหัดพูดเยอะแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันคะ?”

     

    “ช่างเหอะนา พี่พูดเพราะว่าพี่เป็นห่วงเรา พี่ไปแล้วนะ ฝันดีน้องรัก”

     

    อี้ชิงเอ่ยพร้อมกับลูบเส้นผมนุ่มสลวยสีดำของชูหวาเบาๆและเดินออกไปในทันทีโดยที่เขาไม่ลืมหันกลับมามองน้องสาวที่กำลังสอดส่องสายตาสำรวจทั่วห้อง ก่อนที่เขาจะปิดประตูและเดินออกมา มือหนาหยิบสเปรย์แอลกอฮอล์จากในกระเป๋าเสื้อสูทออกมาและฉีดมันลงบนรอยเลือดที่อยู่บนกำแพงด้วยท่าทีปกติ เขาไม่รู้หรอกว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น เพราะว่าจู่ๆคุณชายก็บอกให้เขาพาน้องสาวของเขามาอยู่ที่นี่ เขาเองก็รู้สึกกลัว กลัวว่าคุณชายจะทำกับน้องสาวของเขาเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆที่คุณชายเรียกมา…

     

    ปึง!!!

     

    เมื่อร่างสูงของอี้ชิงออกไปแล้วเท้าเล็กของชูหวาก็ค่อยๆเดินสำรวจภายในห้องนอนของเธอช้าๆ ห้อนนอนนี้ขนาดกว้างพอสมควร ทุกอย่างในห้องตกแต่งด้วยสีขาวทั้งหมด มีทีวีขนาดกลางวางอยู่ตรงกันข้ามกับเตียงนอน ทางซ้ายมีห้องน้ำขนาดไม่ได้ใหญ่มากและก็ไม่ได้เล็กเกินไป ถัดออกมาทางขวาก็มีโต๊ะเครื่องแป้งและโต๊ะทำงานอยู่ถัดไป ดูรวมๆแล้วก็โอเคดี เธอชอบ

     

    ร่างบางเดินกลับไปที่กระเป๋าเสื้อผ้าของเธอและรูดซิบกระเป๋าออกเพื่อที่จะจัดของเข้าตู้ เธอเลือกจะมาอยู่ที่นี่เพราะว่าคุณชายใหญ่สั่งให้เธอมา และเธอก็คิดว่าไม่มีปัญหาอะไร

     

    ใครๆก็รู้จักและได้ยินชื่อของคุณชายใหญ่นามว่า ‘ปาร์ค จีมิน’ เขาคือคุณชายที่ยังดำรงอยู่ในสภาชนชั้นอีลีทที่มีมากทั้งทรัพย์สินและอำนาจ ชื่อของเขาเป็นที่เลื่องลือมากๆเพราะเขาเป็นคนเก่ง และมีความสามารถ น้อยคนนักที่จะมีโอกาสได้พบโฉมหน้าของเขา เพราะอย่างที่อี้ชิงเพิ่งจะบอกไป ว่าคุณชายใหญ่มักจะขลุกตัวอยู่แต่ในเพนเฮาส์ไม่ค่อยออกไปให้ใครเห็นหน้า

     

    ในตอนที่ชูหวาเธอได้เดินทางมาที่นี่ ความจริงแล้วเธอไม่ได้เต็มใจเท่าไหร่นักแต่เธอก็ไม่อาจฝืนความต้องการของผู้มีอำนาจได้ ชูหวาเธอเรียนจบมหาลัยแล้ว และเธอก็มีพี่ชายของเธอจ้างอี้ชิงที่ได้ทำงานเป็นเลขาคนสำคัญของคุณชายใหญ่ บ้านของเธอคือบ้านของตระกูลจ้างที่เป็นลูกครึ่งจีนเกาหลี บิดาของเธอเป็นคนจีน และมารดาของเธอเป็นคนเกาหลี เหตุเกิดตั้งแต่ที่บิดาของเธอเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุ ครอบครัวของเธอจึงจำเป็นต้องไปตั้งรากฐานอยู่ที่จีน โดยมีเงินจากคุณชายใหญ่คอยเจือจุนผ่านการทำงานของอี้ชิง

     

     

    2ชั่วโมงผ่านไป

     

    มือเล็กยกขึ้นปาดเหงื่อออกจากใบหน้าสวยเบาๆหลังจากที่เธอจัดเสื้อผ้าและโยกย้ายเฟอนิเจอร์ต่างๆในห้องของเธอสักหน่อย ก่อนที่ร่างบางจะเดินไปหยิบผ้าขนหนูพาดไว้ที่ไหล่เพื่อเตรียมตัวอาบน้ำและเดินเข้าห้องน้ำไป

     

    7.30น.

     

    การพักผ่อนคืนแรกในที่แห่งใหม่ที่ไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิตผ่านไปได้ด้วยดี และในวันนี้ชูหวาเธอได้ตื่นนอนแต่เช้าเพื่อเตรียมตัวไปทำหน้าที่ของเธอที่ได้ถูกสั่งการไว้ นั่นก็คือการไปช่วยดูแลคุณชายใหญ่ ร่างเล็กในชุดลำลองปกติยืนส่องกระจกจัดแต่งเสื้อผ้าหน้าผมจัดดูความเรียบร้อยของตัวเอง เมื่อเสร็จแล้วเธอจึงเดินออกมาจากห้องพักโดยที่ไม่ลืมหยิบกระเป๋าคู่ใจออกมาสบายไว้บนไหล่ด้วย

     

    “กรี๊ดดดดดด ปล่อยฉันนะ!!!”

     

    “??”

     

    ยังไม่ทันที่ร่างบางของชูหวาจะได้เดินไปถึงบันไดชั้นสอง จู่ๆเสียงกรีดร้องของผู้หญิงคนหนึ่งก็ดังออกมาจากที่ชั้นหนึ่ง ร่างบางสะดุ้งตกใจเล็กน้อยและรีบจ้ำอ้าวเดินไปตามเสียงกรีดร้องนั้น ระหว่างทางเธอเห็นรอยเลือดเป็นทางยาวน่าสยดสยองนั่นเต็มไปหมด แต่เธอก็รวบรวมความกล้าที่จะเดินไปดูที่ต้นทาง เพราะเธอคิดว่าหากเธอไม่สามารถช่วยอะไรผู้หญิงคนนั้นได้ อย่างน้อยเธอก็จะได้เตรียมตัวหนีทัน

     

    “ไอ้โรคจิต!!!ปล่อยฉันนะ!!!ช่วยด้วย!!!ใครก็ได้ช่วยฉันที!!ฮือฮืออึก..อึก!”

     

    เสียงกรีดร้องด้วยความทรมานและเจ็บปวดดังขึ้นเรื่อยๆเมื่อร่างบางของชูหวาได้ลงมาหยุดอยู่ตรงที่บันไดชั้นหนึ่ง ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตกใจ เมื่อเธอเห็นร่างสูงของผู้ชายผมสีน้ำตาลสว่างคนหนึ่งกำลังบีบคอและใช้มีดพกอันเล็กกรีดคอของผู้หญิงคนนั้นอย่างเลือดเย็น เสื้อสีขาวของชายคนนั้นเต็มไปด้วยคราบเลือดสีแดงสด พร้อมกับกลิ่นคาวที่ลอยคละคลุ้งไปทั่วห้อง ภาพตรงหน้าชั่งโหดร้ายยิ่งนัก มือบางจึงยกขึ้นมาปิดปากและเธอก็ค่อยๆก้าวเท้าถอยหลังหนีไปอย่างเงียบเชียบ

     

    “ชะช่วยฉัน..ดะ..ด้วย..”

     

    แต่ทว่าวันนี้โชคของชูหวาไม่ค่อยดีนัก ผู้หญิงที่กำลังถูกกรีดคออยู่นั้นเธอดันกวาดสายตามาสบตากับชูหวาที่กำลังก้าวเท้าถอยหลังหนีพอดี แถมเธอยังขอร้องให้ชูหวาช่วยชีวิตเธอด้วย แต่ในตอนนี้ชูหวาเธอไม่สามารถช่วยผู้หญิงคนนั้นได้ และเธอต้องหนีเอาตัวรอดเท่านั้น

     

    ร่างบางรีบหันหลังและวิ่งกลับขึ้นไปที่ห้องของเธอ แต่ทว่าร่างสูงของชายหนุ่มเลือดเย็นคนนั้นกลับหันกลับมามองตามสายตาของผู้หญิงที่เขาพึ่งจะฆ่าไปเมื่อกี้ สายตาโฉบของเขาจึงได้เห็นแผ่นหลังของชูหวาที่กำลังวิ่งหนีพอดี รอยยิ้มเย็นยะเยือกปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลา จากนั้นเขาจึงรีบทิ้งร่างของผู้หญิงที่เขาฆาตกรรมเธอเมื่อครู่ออกจากตัวในทันทีแล้วจึงรีบเดินตามร่างบางของชูหวาไป

     

    ร่างบางที่วิ่งหนีกลับเข้ามาในห้องด้วยความหวาดกลัวรีบคว้ากลอนประตูและล็อคมันไว้ในทันที เธอถอยหลังออกห่างจากประตูสองสามก้าว และสอดส่องสายตามองไปที่เก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องแป้งเธอจึงรีบวิ่งไปหยิบเก้าอี้นั้นมาขัดกลอนประตูไว้ในทันที แต่โชคร้ายที่เธอดันหนีสายตาของชายเลือดเย็นคนนั้นไม่พ้น เสียงถีบบานประตูดังขึ้นในขณะที่เธอกำลังวางเก้าอี้ขัดกับกลอน ร่างบางจึงสะดุ้งเฮือกและล้มลงกับพื้น

     

    ปัง!!!! ปัง ปัง ปัง!

     

    อะไรกัน มันเกิดอะไรขึ้นเขาคนนั้นคือใคร?ทำไม

     

    ตอนนี้ในหัวของชูหวาเธอมีแต่ความสับสนและสงสัยไปหมด ทั้งหวาดกลัวและตกใจ แถมยังต้องหนีตายทั้งๆที่ยังไม่รู้อะไรเลยสักนิด ผู้ชายร่างสูงคนนั้นเขาทำแบบนั้นทำไมกัน แล้วเขาเป็นใคร ทำไมถึงได้ฆ่าคนที่นี่ได้ หรือว่าเขาอาจจะเป็นนักฆ่าที่ตามมาฆ่าคุณชาย ทุกอย่างเป็นปริศนาไปหมด และสิ่งที่เธอคิดได้ในตอนนี้นอกเหนือจากการเอาตัวรอดก็คือ...

     

    “ใช่สิ แจ้งตำรวจ!!”

     

    ชูหวาคิดได้ดังนั้นจึงรีบลุกขึ้นเพื่อที่จะไปหยิบโทรศัพท์มือถือและเธอก็จะโทรแจ้งตำรวจแต่ทันใดนั้นเอง...

     

    ปัง!!!!

     

    “!!!”

     

    ประตูห้องของเธอที่ขัดด้วยเก้าอี้กลับถูกเปิดออกอย่างแรง ชูหวาหันหน้ากลับไปที่ต้นตอของเสียงอย่างทันที และเธอก็แสดงสีหน้าตกใจออกมาอย่างโจ่งแจ้งเพราะเธอกำลังจะไม่รอดแล้ว

     

     ร่างสูงสง่างามของชายหนุ่มที่เพิ่งกระทำการฆาตกรรมหญิงสาวเมื่อสักครู่ค่อยๆย่างกรายฝีเท้าด้วยสีหน้าเรียบนิ่งเข้ามาในห้องที่มีร่างบางของชูหวาอยู่ ชายเลือดเย็นเข้ามาพร้อมกับเสื้อผ้าที่เปื้อนเลือดและมือขวาของเขาก็ถือมีดสั้นที่เขาใช่ฆ่าผู้หญิงเมื่อตะกี้เข้ามาด้วย ชูหวาเธอส่ายหัวไปมาเพราะเธอไม่เชื่อตาตัวเองว่าผู้ชายเลือดเย็นคนนี้จะพังประตูเข้ามาฆ่าเธอ

     

    พรึ่บ!!!!

     

    “กรี๊ดดดดดดดด!!”

     

    ร่างสูงเข้าประชิดและคว้าเอวบางของชูหวาและกอดเธอไว้อย่างแนบแน่น แถมเขายังสูดดมกลิ่นหอมจากซอกคอของเธอราวกับหื่นกระหาย มือเล็กของชูหวาปัดสะเปะสะปะแบบไม่รู้ทิศทางเพื่อต้องการหนีเอาตัวรอด แต่ชายร่างสูงก็สูดดมกลิ่นหอมจากร่างกายของเธออยู่อย่างนั้น มือหนาของเขาเริ่มที่จะบีบเค้นส่วนต่างๆของร่างกายเธอ ทั้งเอว สะโพกและมาหยุดอยู่ที่บั้นท้ายงอนงามของเธอ

     

    “หอม “

     

    “ไม่อย่าทำแบบนี้ ช่วยด้วย!!!”

     

    พรึ่บ!!

     

    “อ๊ะ!!”

     

    ชายหนุ่มใช้มือหนาของเขาสะบัดร่างของชูหวาให้ล้มลงกับพื้นตามด้วยร่างของเขาที่ขึ้นคร่อมร่างบางทันที มือหนาของเขาเริ่มแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตตัวบางสีฟ้าอ่อนของเธอแต่ไม่ทันใจเขาเขาจึงใช้แรงผู้ชายของเขาฉีกมันออกแทน

     

    แควก!!!!

     

    “ฮึกฮืออ..ใครก็ได้ช่วยด้วยช่วยฉันที”

     

    หยดน้ำตาสีใสหยดลงมาทันทีหลังจากที่การขัดขืนของเธอไม่เป็นผล ชูหวาร้องให้อย่างน่าเวทนาแต่คนบนร่างเขาก็ยังไม่หยุดการกระทำอันป่าเถื่อนนั้นทั้งๆที่เขาและเธอยังไม่รู้จักกันกับเขาด้วยซ้ำ

     

    “กรี๊ดดด อย่านะ พี่อี้ชิงช่วยหวาด้วย!”

     

    กึก!

     

    จู่ๆร่างสูงบนร่างของชูหวาก็หยุดการกระทำเสียดื้อๆเมื่อเขาได้ยินอีกคนเรียกชื่ออี้ชิง สายตาโฉบเฉี่ยวจึงจ้องตาของชูหวาที่อยู่ใต้ร่างของเขาอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ ลิ้นหนาแลบออกมาเลียริมฝีปากหนาของตัวเขาเองเบาๆ พร้อมกับโน้มใบหน้าหล่อลงมาที่หลังหูของหญิงสาวผู้น่าสงสาร เธอรีบหันหน้าหนีเขาเพราะไม่อยากให้เขาครอบครองริมฝีปากของเธอแต่มันกลับเปิดทางให้กับริมฝีปากหนาของเขาขบเม้มที่ใบหูของเธอและดูดดึงมันเบาๆแทนก่อนที่เขาจะผละริมฝีปากออกเขากระซิบที่ข้างๆใบหูของหญิงสาวเบาๆด้วยน้ำเสียงที่แหบกระเส่าว่า

     

    “เธอเห็นอะไรบ้างล่ะชูหวา?”

     

    “….”

     

    “รู้อะไรก็หุบปากเงียบไว้ซะ ถ้ายังไม่อยากตาย

     

    หญิงสาวไม่กล้าแม้แต่จะหันมาสบตาเขากลับด้วยซ้ำ เขาน่ากลัว น่ากลัวมาก กลิ่นเลือดคละคลุ้งเต็มตัวเขาไปหมด ความเย็นชาและอำมหิตแผ่ซ่านคลอบคลุมร่างบางจนร่างกายของเธอชาหนึบ มีเพียงแค่น้ำเสียงกระเส่ากับรอยยิ้มพอใจของชายเลือดเย็นที่ก้องภายในคฤหาสน์ที่เงียบเชียบ และเสียงสะอื้นร้องไห้ของหญิงสาวผู้น่าเวทนา

     

    “วันนี้ฉันอารมณ์ดี” เขาไม่เอ่ยเปล่า ริมฝีปากหนาก็บรรจงจูบลงบนแก้มใสด้วยก่อนที่เขาจะเอ่ยต่อ “ฉันจะปล่อยเธอไป “

     

    จากนั้นเขาจึงผละร่างหนาของเขาออกจากร่างบางของหญิงสาว แล้วยืนมองร่างบางที่นอนขดตัวอยู่ที่พื้นด้วยสายตาที่เรียบนิ่ง และเดาะลิ้นก่อนที่จะยกยกมือหนาปาดเลือดที่เปื้อนริมฝีปากของตัวเองไปด้วย

     

    “ลุกขึ้นแล้วไปอาบน้ำซะ แล้วไปรอฉันที่ห้อง”

     

    หญิงสาวไม่ได้ตอบเพียงแต่ลุกขึ้นนั่งตามคำสั่ง สองมือเล็กช่วยกันกอบกุมเสื้อเชิ้ตที่ถูกฉีกขาดโดยฝีมือของร่างสูงตรงหน้าเธอให้ชิดกันเพื่อป้องกันตัวเอง

     

    “จำคำที่ฉันพูดไว้”

     

    “….”

     

    “ไม่ว่าจะเห็นอะไร ก็หุบปากเงียบไว้ซะ...”  ร่างสูงของเขาย่อเขาลงนั่งชันเข่าข้างหนึ่งก่อนที่ มือหนาของเขาจะเชยคางมนของชูหวาเบาๆ “ถ้าไม่อยากมีจุดจบเหมือนกับผู้หญิงหน้าโง่คนนั้น”

     

    เขาเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาและผละมือสะบัดหน้าของชูหวาจนหน้าหันแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนที่จะหันหลังเดินควงมืดสั้นออกจากห้องไป ทิ้งให้หญิงสาวนั่งกอดเขาร้องให้อยู่คนเดียวอย่างน่าสงสาร ไม่นานก็มีผู้หญิงวัยกลางคนเข้ามาที่ห้องนอนของเธอสี่คน และพวกเธอก็โค้งศรีษะให้ชูหวาอย่างเคารพ ชูหวาค่อยๆพยุงร่างบางของเธอลุกขึ้นยืนก่อนจะกลืนน้ำลายลงลำคอสวยอึกใหญ่

     

    เธอได้รับการทำความเคารพจากเหล่าหญิงรับใช้แปลกหน้าพวกนี้...นั่นจึงทำให้เธอรู้ตัวว่าชายเลือดเย็นเมื่อกี้ก็คือคุณชายใหญ่ ปาร์ค จีมิน...

     

    “พะ..พวก..คุณ”

     

    “คุณชายให้พวกเรามาทำความสะอาดร่างกายของคุณค่ะ คุณชูหวา”

     

    คิ้วสวยขมวดเป็นปมทันทีที่หนึ่งในสี่คนนั้นเอ่ยออกมา ทำความสะอาด... พูดอย่างกับเธอคือสิ่งของ...

     

    ไม่รอช้าหญิงวัยกลางคนก็พากันวิ่งกรูมาจับแขนและลากร่างบางของชูหวาออกจากห้องนอนไปในทันที สาวใช้ทั้งสี่คนพาเธอที่อยู่ที่ชั้นสองขึ้นไปบนห้องที่ชั้นสามและชูหวาก็ยอมทำตาม มือบางกำชายเสื้อเชิ้ตที่ขาดวิ่นไว้แน่น เหล่าสาวใช้เหล่านั้นก็พากันเตรียมน้ำอุ่นและสมุนไพรไว้ให้เธอ กลิ่นดอกกุหลาบผสมกับกลิ่นเทียนหอมตลบอบอวลเต็มห้องอาบน้ำนี้เต็มไปหมด ก่อนที่สาวใช้คนหนึ่งจะเดินตรงปรี่มากระชากเสื้อที่ชูหวาใส่อยู่อย่างไม่ใยดีนัก

     

    “คุณถอดเสื้อฉันทำไม!!”

     

    ชูหวาตวาดเสียงดังลั่นเเต่สาวใช้คนนั้นเธอกลับไม่ได้มีความตกใจหรือว่าเกรงกลัวอะไรเลยทั้งสิ้น แถมยังพากันกรูมาเพื่อแก้ผ้าเธออีกต่างหาก เสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนและกระโปรงทรงเอสีขาวถูกหญิงวัยกลางคนเหล่านั้นถอดออกจนหมด ร่างกายขาวผุดผ่องปรากฎต่อหน้าพวกเธอเหล่านั้น ก่อนจะค่อยๆดันร่างบางอันงดงามของชูหวาให้ลงไปในอ่างอาบน้ำที่มีกลีบดอกกุหลาบสีแดงลอยอยู่เต็มอ่าง

     

    12.45น.

     

    ร่างบางของชูหวานอนแผ่หลาอยูบนเตียงนอนขนาดคิงไซต์ สีน้ำเงิน หลังจากที่เธออาบน้ำอีกรอบเสร็จเหล่าสาวใช้เหล่านั้นก็ส่งเธอขึ้นมาที่ชั้นสี่ ก่อนที่จะมีแม่บ้านวัยกลางคนเข้ามาบอกกฎต่างๆในคฤหาสน์หลังนี้ที่ชูหวาจะต้องจำ รวมถึงทุกๆอย่างที่เธอจะต้องทำด้วย พวกเธอห้ามไม่ให้เรียกจีมินว่าคุณชายใหญ่แต่ให้เรียกเขาว่าคุณจีมิน นั่นจึงทำให้ชูหวาเธอแน่ใจว่าชายเลือดเย็นคนนั้นก็คือจีมิน คุณชายที่เป็นเจ้าของบ้านหลังใหญ่แห่งนี้จริงๆ แม่บ้านบอกกับชูหวาว่าให้ทำตัวให้ชิน ไม่ว่าจะเห็นอะไรก็ปิดปากเงียบไว้ซะ เพราะว่ามันไม่จำเป็นที่เธอจะต้องเข้าไปยุ่ง ถ้ายังไม่อยากตาย

     

    ตุบ ตุบ

     

    มือบางทุบลงที่อกข้างซ้ายตัวเองเบาๆเป็นการให้กำลังใจตัวเอง ก่อนที่จะมีสาวใช้ผมยาวสีแดงเดินเข้ามาพร้อมกันถาดอาหาร เธอวางมันไว้ที่โต๊ะข้างเตียงก่อนที่เธอจะออกไปโดยที่ไม่ส่งเสียงหรือคำชี้แจงใดๆทั้งสิ้น ชูหวาก้าวเท้าเล็กลงจากเตียงไปกินข้าวที่สาวใช้เอามาให้ แต่ชูหวาเธอก็ทำได้แค่นั่งกอดเข่ามองอาหารที่ถูกนำมานิ่งๆ เธอไม่ไว้ใจใครทั้งนั้นในตอนนี้ เพราะฉะนั้นเธอจะไม่ยอมกินมันเด็ดขาด

     

    18.25น.

     

    ร่างเล็กที่นอนหลับอยู่บนเตียงสีน้ำเงินขนาดใหญ่ขยับเปลือกตาเล็กน้อยเมื่อรู้สึกว่ามีอะไรมายุ่มย่ามกับเธอ ดวงตากลมโตค่อยๆหรี่ตาปรับโฟกัสก่อนเธอจะพบว่าเป็นสาวใช้คนใหม่เข้ามาและกำลังจัดการกับเสื้อผ้าของเธออยู่

     

    “จะทำอะไรอีกคะ?”

     

    ริมฝีปากบางขยับถามสาวใช้สามคนที่ช่วยกันถอดเสื้อผ้าของเธอออกจากร่างกาย

     

    “คุณจีมินบอกให้คุณไปอาบน้ำค่ะ”

     

    อ่า....อาบน้ำอีกแล้วเหรอ?

     

    เธอพยักหน้าเขาใจก่อนจะลุกขึ้นมือบางรวบสาบเสื้อที่เหล่าสาวใช้พวกนั้นพยายามที่จะถอดมันออกก่อนที่จะเดินออกไปจากห้องและลงมาที่ชั้นสามที่เดิมที่เธอมาอาบเมื่อเช้า

     

    ร่างสูงของชายหนุ่มผู้มีศักดิ์เป็นเจ้าของคฤหาสน์แห่งนี้มีนามว่า ปาร์คจีมิน เขายืนกอดอกพิงขอบประตูห้องข้างๆถัดจากห้องของชูหวาเขาแลบลิ้นหนาโลมเลียริมฝีปากหนาอย่างหื่นกระหาย

     

    “ไม่อยากจะเชื่อว่าฉันจะมีคู่หมั้นที่น่ารักขนาดนี้”

     

    เขากระตุกยิ้มมุมปากแล้วสอดสายตามองตามร่างเล็กของของชูหวาลงไปที่ชั้นสามก่อนที่เธอจะหายเข้าไปในห้องอาบน้ำ

     

    “รอฉันก่อนนะชูหวา”

     

    100%

    #ฟิคจีมินปริ๊นซ์

     

    Talk with O paral

    เนื้อหาในเรื่องนี้ไรท์รีไรท์ใหม่ทั้งหมดเลยนะคะ เพราะว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเเรกที่ไรท์แต่งลงเว็บ ภาษาในตอนแรกมันเลยแหม่งๆ แถมยังคำผิดเยอะมากเพราะว่าตอนนั้นไรท์พิมพ์ในโทรศัพท์ แต่ตอนนี้ไรท์รีไรท์ใหม่แล้วนะคะ ทั้งรูปปแบบการใช้คำของตัวละครแล้วก็การปรับภาษาใหม่ ผิดพลาดประการใด ไรท์ขอกราบขอโทษมา ณ ที่นี่ ด้วยนะคะ 

    ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ จุ๊บเหม่งที 
     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×