คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : - take me home : chapters - 001 { 100% }
- My new friend -
chapters – 001
ก๊อกๆ แก๊กๆ
เสียงปลายนิ้วเรียวยาวกดลงบนแป้นพิมพ์อย่างรวดเร็วและชำนาญ อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะรุ่นเก่าคร่ำครึจนเห็นร่องรอยของการใช้งานอย่างหนักหน่วง แสงไฟสลัวๆจากโคมไฟสีแดงฝุ่นเขรอะ สาดส่องให้เห็นใบหน้าหวานนวลเนียนของหนุ่มน้อยวัยยี่สิบ ดวงตาเรียวเล็ก กับนัยน์ตาสีดำเพ่งหน้าจออย่างขะมักเขม้น จมูกที่เชิดรั้นขัดใจ และริมฝีปากบางคว่ำงอเป็นสระอิ คิ้วเรียวรับกับใบหน้าขมวดเข้าหากันอย่างฉงน พลางเกาหัวขบคิดอะไรบางอย่าง
“เอ้ๆ เมื่อกี้เหมือนจะนึกออก ทำไม่ลืมเร็วจังวะ” ร่างเล็กสบถออกมาเบาๆ นิ้วเรียวยังคงกดปุ่มแบล็กสเปสรัว อารมณ์เสียที่ตนไม่มีสมาธิจดจ่อกับงานในคอมฯ เพราะมัวแต่จ้องมองเวลาบนหน้าปัดนาฬิกาสลับกับหน้าจอ “ทำไมยังไม่มาอีกเนี่ย ไหนว่าจะมาถึงเย็นๆ นี่ปาไปจะทุ่มแล้ว โว๊ะ”
ถ้าไม่ติดว่าต้องการเงิน เขาไม่มีทางปล่อยห้องว่าง ให้คนแปลกหน้าได้เช่า หรือย่างกรายเข้ามาในบ้านของพ่อเขาแบบนี้หรอก แบคฮยอนไม่มีทางเด็ดขาด...
บ่นไปก็คว้าถุงขนมห่อใหม่มากินไป มันฝรั่งทอดกรอบของโปรดปรานสำหรับนักเขียนไส้แห้งอย่างเขา บวกกับมาม่าดิบที่แค่บดให้แตกละเอียด เติมเครื่องปรุงแล้วเขย่า ก็พร้อมทานได้เลย เวลาพิมพ์นิยายมันเพิ่มความฟินได้ดีมาก ยิ่งถ้าหากมีเงินสักหน่อย ก็อยากจะซื้อช็อกโกแลตมาทานให้หายอยาก
ตัวคนเล็กแก้มกลมคิดถึงอาหารทีไร ท้องก็ร้องโครากครากต้องการข้าวมากกว่าขนมทุกที ทั้งที่พยายามคิดว่าแค่นี้ก็พอแล้วแท้ๆ
น้องแบคหิวข้าว!
“คิดถึงอาหารคุณแม่จัง...” แบคฮยอนพักสายตาจากหน้าจอ แล้วเอนหลังกับพนักเก้าอี้ท่าผ่อนคลายก่อนเอื้อมมือไปหยิบกรอบรูปไม้แกะสลักสีขาวมากอดไว้แนบอก
คิดถึงคุณแม่จัง
กริ๊ง กริ๊งๆ กริ๊ง กริ๊งงง
ชิบ!
แบคฮยอนสะดุ้งโผลง ผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้ด้วยอารามตกใจ เกือบทำรูปคุณแม่หลุดมือ กับเสียงกดออดกวนบาทาที่ดังมาจากหน้าบ้าน
เนื่องจากบ้านของแบคฮยอนตั้งอยู่ในแถบริมทะเลสาบ ห่างไกลจากผู้คน ทำให้บรรยากาศเงียบมาก พอมีเสียงอะไรมาสะกิดนิดหน่อยก็เผลอตกใจอยู่ตลอด แต่นี่มันไม่ใช่!
ไอ้บ้าที่ไหนมากดออดจังหวะห่วยแตกไร้รสนิยมสากลแบบนี้ เดี๋ยวเจอ!
คนตัวเล็กไม่รอช้าเดินอาดๆหลบหลีกสิ่งกีดขวาง เปิดประตูกระจกบานเลื่อนห้องรอง ก่อนจะเปิดประตูบ้านหลักออกไปพรวดแบบไม่ขานอย่างอารมณ์เสีย เตรียมอ้าปากด่าราวกับนางเอกในหนังสือนิยายที่ตนชอบอ่าน
พรวด! ปัก!
“โอ๊ย!” ประตูบ้านบานหน้าสีขาวเปิดกระแทกเข้ามาบนใบหน้าของคนแปลกหน้าอย่างแรง “อะไรวะเนี่ย” คนเจ็บพูดเสียงแหบพร่า พลางเอามือลูบดั้งจมูกกับหน้าผากขาว
“...”
คนทำความผิดถึงกับนิ่งพูดอะไรไม่ออก ได้แต่ทำสีหน้าเหยเกแล้วหัวเราะแฮะๆแทนการขอโทษ
“นาย ถ้าดั้งฉันหักจะทำยังไงห๊า อู๊ย ผลักมาได้เต็มๆ ซวยชิบ”
“ก็แล้วคุณมากด ออดเสียงกวนประสาทก่อนทำไมล่ะครับ ผมจะไปรู้เหรอว่ามีคนเอาหน้ามาไถประตูบ้าน ดูสิเป็นรอยเลย” ร่างเล็กกวนประสาทกลับ
“เอ๊ะ ไอ้นี่ ไปตามเจ้าของบ้านมาดิ” ร่างสูงชักสีหน้าหงุดหงิด นึกอยากเตะคนขึ้นมาตะหงิดๆ ติดที่ว่าต้องอยู่บ้านนี้ไปอีกนาน ไว้ค่อยเอาคืนที่หลังก็คงไม่สาย อีกอย่างมีเรื่องกับเด็กรับใช้คงไม่ใช่เรื่องดี
เมื่อได้ยินคนตรงหน้าถามหาเจ้าของบ้าน คนตัวเล็กก็คิ้วขมวดขึ้นทันที
“คุณคือ...”
“ฉันเสี่ยวลู่หาน คนที่จะมาเช่าห้องอยู่ที่นี่อ่ะ รีบๆไปบอกเจ้าของบ้านไป”
เอ๊ะไอ้นี่!
แบคฮยอนนึกในใจ อยากด่าคนตรงหน้าที่ไม่มีมารยาทเอาเสียเลย มาใช้คำพูดจิกกัดกันทั้งๆที่เพิ่งเจอกันครั้งแรกได้ยังไงกัน เป็นผู้หญิงไม่มีความเป็นกุลสตรีเลย ปากจัด แล้วยังวางท้าอีก
เอ๊ะหรือทอม?
เดี๋ยวนะ...คนร่างเล็กใช้ความคิด จำได้ว่าตัวเองนั้น ติดประกาศให้เช่าห้องกับนายหน้าขายบ้าน เพื่อหารายได้เข้าบ้าน ระหว่างที่ตัวเองกำลังเร่งพิมพ์นิยายเสนอสำนักพิมพ์เพื่อเป็นนักเขียนเต็มตัว ไม่ใช่นักเขียนออนไลน์แบบปัจจุบัน แต่เขาก็ได้แปะเน้นย้ำตัวใหญ่ๆกับนายหน้าว่า รับเฉพาะผู้ชายเท่านั้น จะได้ไม่มีปัญหาตามมาทีหลัง แล้วไหง เขาถึงส่งผู้หญิงมาให้ผมละเนี่ย
เมื่อตอนกลาวันที่โทรมาก็ผู้ชายนินา?
“เอ่อ ขอโทษนะครับ ผมรับผู้เช่าเฉพาะผู้ชาย ไม่รับผู้หญิง คุณคงมาผิดที่แล้วล่ะครับ” กล่าวขอโทษก่อนจะปิดประตู
“เฮ้ยเดียว ฉันเป็นผู้ชายนะเว้ย” มือหนาจับลูกบิดประตูไว้ก่อนที่จะถูกปิดลง เสียงติดเหมือนห้าวตะโกนโวยวายพ้นคำหยาบคายออก จนแบคฮยอนต้องส่งสายตาติดจะเคืองใส่
ตาเรียวมองไล่จากล่างขึ้นบน ตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง ทั้งใบหน้าสวยคม จมูกโด่งได้ ปากสวยกระจับ ผิวที่ขาวเนียนกระจ่างใส เข้ากับผมสีชมพูเข้มอ่อน คือต้องมั่นมากถึงทำสีนี้ได้ แล้วสไตล์การแต่ตัวที่เหมือนกับสาวห้าว หูฟัง Beat สีแดงคาดไว้ตรงลำคอ สังเกตดีๆถึงเห็นลูกกระเดือก เสื้อยืดสีขาวขอกลมสกรีนลายกราฟฟิค ดูดีมีระดับ สะพายกระเป๋าเป้ MCM สีดำ พอมาดูอีกที
ก็เหมือนผู้ชายดีนะ
“ยังไม่เชื่ออีกใช่มั้ย” ลู่หานทำหน้าเซ็ง ก่อนจะเปิดกระเป๋าเป้ตัวเองแล้วล้วงกระเป๋าสตางค์ราคาแพงออกมา หยิบบัตรประชาชนคนหน้าหล่อส่งให้
ออกจะหล่อแมนขนาดนี้ แม่งมองว่าเขาสาวได้ไง กวนทีนก็มากครับ ไอ้เด็กนี่
แบคฮยอนรับมามองคร่าวๆแล้วส่งคืนให้เจ้าของ เมื่อรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนผิด เลยตีหน้ามึนแสร้งเมินเรื่องน่าอาย แล้วกระแอมเรียกกำลังใจสองสามที
“ก็นะ ผมเนี่ยแหละเจ้าของบ้าน” พูดประเด็นที่ค้างคาอยู่
พอได้ยินก็ปรือตาทันที ถึงคราวลู่หานหน้าซีด ตีหน้ามึนแก้เก้อบ้าง
“อ้อ นายก็น่าจะบอกให้เร็วกว่านี่สิ” พูดเสียงอ่อน แต่คาดว่าจะไม่ทัน “ฉันเสี่ยวลู่หานที่จะมาเช่าห้องไง นายจำชื่อฉันไม่ได้รึไง”
“ขอโทษที่ครับ ผมลืม ก็แล้วทำไมถึงมาเอาดึกป่านนี้เล่าคุณ นัดกันไว้ห้าโมงเย็นแท้ๆ”
โยนความผิดกลับไปให้คนตัวสูงต่อ แน่ล่ะแบคฮยอนไม่ผิด
“เหอะ! เด็กเอาแต่ใจ” ลู่หานบ่นพึมพำ อยากด่าจริงๆ แต่คิดที่ว่าเพื่อที่พัก ต้อง อด ทน
“ขอโทษทีครับที่ผมเด็ก” คนฟังถึงกับสะดุ้ง เพราะคนตัวเล็กดันได้ยินเสียงบ่นของตัวเองเข้า “ไม่ต้องตกใจหรอกครับ หูผมไวกว่าคนปกตินิดหน่อย พอดีอยู่ที่เงียบๆมานาน ระบบประสาทดี”
“โอเคๆ ไม่เถียงนายแล้ว ชื่ออะไรนะ แบคฮยอนใช่มั้ย โอเคพาฉันเข้าไปข้างในทีเถอะ ยืนจนยุงทะเลจะหามอยู่แล้ว” ลู่หานพูดเองเออเอง คว้ากระเป๋าเดินทางใบใหญ่ที่พ่อและพี่จัดไว้ให้มาถือไว้เตรียมตัวลากเข้าบ้าน
แบคฮยอนยิ้มร่าโชว์ฟันขาวอย่าอารมณ์ดี เมื่อได้โต้วาทีกับเพื่อนใหม่ที่ตอนแรกจะกัดกันตายอย่างผู้มีชัย เปิดประตูคู่กรณีให้กว้างแล้วหลีกทางให้ลู่หานเข้ามาใบบ้าน ที่เป็นโซนชั้นวางรองเท้า ก่อนจะเปิดประตูบ้านเลื่อนกระจกขุ่นให้เพื่อนใหม่
“โทษทีนะ มันจะรกๆหน่อย” แบคฮยอนหยิบหมอนอิงที่หล่นระเนระนาดขึ้นไปไว้บนโซฟาหนังสีดำเหมือนเดิม “นี่ส่วนของห้องรับแขกนะ บ้านเราเป็นบ้านเล่นระดับ พอลงมาตรงนี้เป็นโซนทำงานของฉัน แล้วตรงนั้นก็เป็นห้องครัว โต๊ะกินข้าว อ๋อ นายวางกระเป๋าไว้ตรงนี้ก่อนนะ ขึ้นไปดูห้องนอนก่อน ฉันจัดไว้ให้บางส่วนแล้ว ถ้าขาดเหลืออะไรจะได้หามาเติม”
เจ้าของบ้านแนะนำส่วนต่างๆภายในบ้านอย่างกระตือรือร้น เป็นเพราะอยู่ตัวคนเดียวมากว่าห้าปีในบ้านหลังใหญ่ ที่เคยเล็กเมื่ออยู่ด้วยกันสามคนพ่อแม่ลูก แต่บัดนี้นับตั้งแต่วินาทีนี้ไป เขาจะได้มีเพื่อนร่วมชายคาเดียวกัน ค่อยพูดคุยโต้วาทีกัน ไม่ต้องถึงกับระบายทุกข์สุขกัน ทานข้าวเช้าด้วยกัน หรือทำกิจกรรมในบ้านด้วยกัน รวมๆคือมีเพื่อนเพิ่มอีกคน ถึงแม้จะไม่ได้ดีเด่เหมือนที่ตั้งใจไว้ แต่สำหรับเขา มันก็คือของขวัญชิ้นใหญ่จากพระเจ้า
เพื่อนใหม่ ชื่อเสี่ยวลู่หาน
ท่าทางอารมณ์ดีกับใบหน้ายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ทำให้ลู่หานที่อารมณ์บูดมาทั้งวันใจชื้นขึ้น พอเดินตามมาทาบันไดวนระยะสั้นๆ ก็มาถึงห้องนอนแบบมีสไตล์ตามที่ตนเองหวังไว้
คือมันดีมากกว่าที่คิดเอาไว้เสียอีก แล้วตั้งแต่เดินเข้ามาในบ้าน เขาก็รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นตลบอบอุ่นออกมาจากภายในบ้านที่เงียบเฉียบนี้ ในความรู้สึกเหมือนครอบครัว...
นี่แหละ ใช่เลยความรู้สึกนี้...
"อื้ม มุมดีเลย" ลู่หานเพ่งพินิจมองรอบๆห้อง โครงสร้างและปริมาณการจัดสัดส่วน ดีถึงดีมาก คนออกแบบสร้างบ้านหลังนี้คงเป็นมืออาชีพจริงๆ แถมยังบรรยากาศดี ติดริมทะเลอีกต่างหาก วิวจากหน้าต่างตรงหัวเตียงคือสมบัติล้ำค่าที่ปัจจุบันหายากมาก
"ชอบมั้ยครับ" แบคฮยอนที่เห็นลู่หานมัวแต่ยืนทำหน้าย่นจนริ้วรอยบนใบหน้าและห่างตาขีดเป็นเส้นๆ
"อื้อ ชอบ ชอบมาก ฉันสามารถตกแต่งจัดห้องและเพิ่มเติมอะไรก็ได้เลยใช่มั้ย"
"ไม่บิ้วอิน นอกนั้นก็ทำได้หมดครับ ถ้าจะเจาะพนังตรงไหนก็ต้องบอกผมก่อนทุกครั้ง"
คนตัวสูงพยักหน้าเข้าใจ
"งั้นเรามาเซ็นสัญญากันเลยแล้วกัน"
"เอ่อ...ก่อนจะเซ็น คุณหิวข้าวมั้ย" ร่างบางถามพลางชั่งใจไม่ให้แสดงอาการออกมามากนัก
เขาไม่ได้ทานข้าวมาสองวันแล้วนับจากที่เงินในธนาคารเริ่มติดขัด สภาวะไฟช็อตเพิ่งเคยเกิดขึ้น ทำให้ร่างเล็กแก้ขัดโดยการกินพวกขนมราคาถูกประทังชีวิตไปก่อนจะหาคนเช่าห้องได้ เวลานี้เลยหิวจนไส้กริ่ว กำลังพยายามจะหลอกชวนกินข้าวแล้วก็ให้เลี้ยงสักมื้อ
"ข้าวเหรอ?"
"ใช่ๆ พับนะข้าว กินข้าวก่อนกลับมาเซ็นก็ไม่สาย" แบคฮยอนยังคงโน้มน้าวต่อไป
"ก็เอาสิ แล้วจะกินอะไรดีล่ะ"
"ถ้าคุณหิวงั้นคุณก็ต้องจ่ายนะมื้อนี้ ปะๆ"
ทั้งสองคนเดินลงมาถึงชั้นล่าง เพื่อเตรียมตัวออกไปกินข้าวข้างนอก ร้านอร่อยที่แบคฮยอนเป็นคนแนะนำ พร้อมอาศัยรถออดี้คันงามราคาเหยียบล้านของลู่หานนั่งไปทาน ที่สำคัญ...ลู่หานเป็นคนเลี้ยง
นี่กูโดนเด็กหลอกกินตังปะวะเนี่ย !!
50%
เสียงตะหลิวกระทบกับกระทะเกรี
ทำไมคนถึงเยอะได้วะ พี่ลู่ไม่เข้าใจ!!
คนตัวเล็กยกเก้าอี้พลาสติกสี
"ไม่นั่งเหรอครับ" แบคฮยอนถาม เมื่อลู่หานยังคงยืนกำกุ
"..."
ลู่หานยังคงตีหน้านิ่ง กระพริบตาปริบๆ เผยอปากออกเล็กน้อย ร่างเล็กเห็นจึงเบ้ปากคว่ำเล็
เอาน้า ข้าวฟรี อดทนไอ้หมอนี้ไปก่อน!
"นาย... แน่ใจนะนี่ร้านข้าว"
ลู่หานสีหน้ากระอักกระอ่วน ก่อนจะพูดด้วยเสียงไม่เบาไม่ดัง
"ครับ ร้านนี้แหละคุณ อร่อยมากขอบอก ดูจากคนกินก็น่าจะรู้ รีบๆนั่งสักทีสิ ผมจะได้สั่ง"
"เดี๋ยว ไหนๆก็หยิบมาให้ละ เช็ดเก้าอี้ให้ฉันด้วย"
"ฮะ?"
คนออกคำสั่งคิดว่าถือไพ่เหนื
"ผมไม่มีผ้า คุณก็นั่งๆไปเถอะ" แบคฮยอนยังคงรบเร้า
ไอ้นี่มันกวนติ่ง!
"งั้นกลับเถอะ ฉันนึกได้ว่าไม่ค่อยหิว"
"อ่าวเฮ้ยคุณ! เช็ดแล้วๆๆ"
ราวกับลูกหมาตัวเล็กๆ วิ่งกุลีกุจอมาคว้าตัวเจ้
ชิ! สำออย
"ไม่กินอันนั้นเหรอออ" คนเคี้ยวข้าวมูมมามใช้ตะเกียบสีเงินชี้ไปที่จานข้าวฝั่งตรงข้าม หลังจากอาหารที่มาเสิร์ฟล้นโต๊ะหร่อยหรอลงด้วยฝีมือร่างเล็กเรื่อยๆ ลู่หานพยักหน้าแบบอึ้งๆ ใบหน้าแหยเกมองคนที่กำลังยกจานเขาไป กวาดทุกอย่างลงจานตัวเองอย่างไม่อาย
อดยากมาจากไหนวะเนี่ย บ้านก็ดูมีตัง
แค้กๆ แค้กๆ
คือข้าวติดคอแบบนี้? กูต้องเอาน้ำให้มึงใช่มั้ยครับ ไอเด็กเวรนิ
"เอา!" ยื่นแก้วน้ำให้ส่งๆ ใบหน้าหล่อหันหลบไปด้านข้าง ไม่กล้าชายตามองเสียด้วยซ้ำ กลัวภาพติดตา
แบคฮยอนรับแก้วน้ำมาดื่มอึกอักทันที แล้วลงมือกินต่ออย่างเอร็ดอร่อย
"ค่อยๆกินดิ๊ เดี๋ยวก็ติดคออีกหรอก ไม่ได้กินข้าวมารึไงตอนเที่ยง" ลู่หานถาม มือหนาก็เอื้อมมือไปดึงกระดาษทิชชู่ส่งให้ ไว้เช็ดคราบซอสที่เละปากคนตรงข้าม ร่างเล็กชูนิ้วสองนิ้วขึ้นมาลอยๆ ไม่เงยหน้าขึ้นมามองเพราะมัวแต่ดูดเส้นบะหมี่เย็นอยู่
"สองมื้อ?"
คนถูกถามส่ายหน้าดิกๆ "สองวัน"
สองวัน!!
"เด็กขี้โกหก" เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
"คุณเรียกผมเด็กๆ ตัวเองอายุเท่าไรกันเชียว ผมยี่สิบ"
"ฉันยี่สิบห้า พี่นายจบนะ รีบๆกินสักที ยุงกัดฉันเต็มไปหมดแล้ว!"
80%
เมื่ออิ่มหนำสำราญกับอาหารโอชะมื้อเย็นไปเรียบร้อย แบคฮยอนก็เดินนำลู่หานเข้าบ้านพร้อมเดินดิ่งไปยังโซฟาในห้องรับแขก เลื่อนซองสีน้ำตาลขนาดเอสี่ส่งให้ผู้อาศัย
"อันนี้เป็นสัญญาการเช่าครับ"
ลู่หานหย่อนตัวนั่งลงบนโซฟาด้วยมาดหนุ่มอินทีเรีย แล้วหยิบข้อมูลต่างๆมาอ่านอย่างละเอียด ก่อนจะสังเกตเห็นแผ่นกระดาษส่วนเกินหนึ่งใบ ที่ในนั้นมีตัวหนังสือเกาหลีพิมพ์ไว้เป็นข้อๆ ร่างสูงมองใบปริศนาในมือพลางเหลือบตามองเจ้าของบ้านแสนเจ้าเล่ห์อย่างไม่ชอบมาพากล เพราะนอกจากไม่รับเงินมัดจำครึ่งหนึ่ง แต่ต้องการเต็มจำนวน ลู่หานก็ไม่เห็นว่าคนตรงหน้าน่าไว้ใจเสียเท่าไรนัก ก้มลงอ่านทันที
อ๋อ มีหลอกกินข้าวฟรีอีก กูเพลีย!
กฎการอยู่ร่วมกัน
1. ช่วยกันรักษาความสะอาด โดยการแบ่งเวรผลัดเปลี่ยนกันเพื่อทำความสะอาด
2. ไม่รบกวนการทำงานของกันและกัน
"งาน?? นายทำงานอะไร" ลู่หานเงยหน้าขึ้นถาม
"นักเขียน (ออนไลน์)"
"อ้อ เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าอยู่กับศิลปิน แล้วสำนักพิมพ์ไหนล่ะ" ถามอย่างสนใจ เพราะได้ชื่อว่าเป็นศิลปิน ความติสมันก็ต้องมีเหมือนกัน คงเข้าใจกันง่ายขึ้น
แต่คนถูกถามกำชะงักกึก พอถามถึงสำนักพิมพ์ ก็จะให้ตอบว่าอะไรดีล่ะ สำนักพิมพ์เว็บไซน์เด็กดีเหรอ?
"ยังไม่มีสำนักพิมพ์ครับ กำลังเสนอผลงานอยู่ แต่ผมมั่นใจมากเลยนะว่าเรื่องนี้มันจะต้องถูกตีพิมพ์แน่ๆ" แบคฮยอนแสดงสีหน้ามุ่งมัน "ตอนนี้ก็ไร้สังกัด ลงออนไลน์ไปก่อน"
"โด๊ นึกว่าเป็นนักเขียนจริงๆ นี่คงเขียนนิยายรักปัญญาอ่อน โลกสวยอยู่ล่ะสิ ถึงไม่ได้กินข้าวกินปลา"
"เอ๊ะ!" ร่างเล็กอารมณ์ฉุนทันที เมื่อโดนจี้จุดอ่อน ที่ได้ยินเมื่อไม่นานมานี้จากบก.สำนักพิมพ์ชื่อดัง กำลังจะอ้าปากด่า แต่ก็ถูกถามขึ้นมาเสียก่อน
"แล้วงานบ้านที่ว่าเนี่ย คือฉันต้องช่วยนายด้วยว่างั้น?"
"ใช่ครับ เพราะว่าอยู่กันสองคน ต้องช่วยกันทำงานบ้าน ที่นี่ไม่มีแม่บ้านเซอร์วิสลูกค้า หรือลูกคุณหนูอย่างคุณทำงานบ้านไม่เป็นเหรอครับ"
เหอะ! กล้าพูดกับผู้ชำนาญการด้านงานบ้านอย่างนี้ได้ยังไง
ลู่หานเลือกที่จะไม่ตอบ บ่นงุบงิบแล้วก้มอ่านข้อต่อไป
3. ต้องแชร์กันออกค่าอาหารเช้า กลางวัน ข้าวเย็น ในการซื้อวัสดุมาทำ
นี่มันขูดเลือดขูดเนื้อนี่หว่า ที่เขาบอกนักเขียนไส้แห้งคงเรื่องจริง ดูท่าไอ้เด็กนี่ไม่มีเงิน แล้วลู่หานคนนี้ก็ต้องมารับชะตากรรมร่วมกัน
"เออๆฉันตกลงทุกข้อในนี้แหละ วู้ว งั้นตาฉันตั้งบ้าง" คนตัวสูงกว่าทนอ่านต่อไปไม่ไหว มีแต่ข้อที่ตัวเองเสียเปรียบชัดๆ เลยคิดเสนอขอความสะดวกสบายในตัวเองบ้าง
"ก็ได้ครับ" แบคฮยอนตอบ เพราะนอกจากปัจจัยสี่แล้ว นอกนั้นก็ไม่สำคัญสำหรับเขาเท่าไร
เรื่องกินต้องมาก่อน!
"ฉันไม่ขอเขียนนะ ดังนั้นใช้สมองนายจำให้ดีๆ ข้อแรกฉันจะออกค่าอาหารให้ นายมีน่าทีทำมาให้ฉันกิน เหมือนโรงแรม ตรงตามเวลาทุกมื้อ เช้าหกโมงครึ่ง มื้อเที่ยงถ้าฉันอยู่ต้องเป็นเที่ยงพอดี เย็นคือหกโมงเย็น และทุกมือต้องฟูลครอส จัดเต็มไปด้วยโภชนาการห้าชนิดครบถ้วน โอเคนะ? ข้อสองฉันอาจจะไม่ว่างหลังจากนี้ ฉันจะจ่ายค้าจ้างให้นายดูแลความสะอาดแทนส่วนของฉัน สองข้อ ตกลงก็เซ็นทับลงบนนี้เลย"
ร่ายยาวเสร็จก็ส่งปากกาและกระดาษกฎของแบคฮยอนส่งคืนให้เจ้าตัวเล็ก ที่บัดนี้กำลังใช้สมองประมวลสิ่งที่ได้ฟังก่อนหน้าทั้งหมด ค้าของความเสียหายและการได้เปรียบเสียเปรียบ
เอ๊ะ ตกลงนี่เราหรือเขา ใครเจ้าของบ้าน? แต่ดูดีๆ เหมือนเราจะได้กับได้ แค่ทำนิดๆหน่อย...เงิน และเงิน ความอยู่รอด ความอุดมสมบูรณ์ ความสบาย แค่งานบ้านกับอาหาร...
"โอเค ตกลง!" กลัวคนตัวสูงเปลี่ยนใจ รีบคว้าปากกามาเซ็นทันที
ฮืออออ ต่อไปนี้ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องปากท้อง ทำงานอย่างสบายใจแล้วเรา
"โอเค งั้นตั้งแต่นี้ไป นายกับฉันก็คือเพื่อนบ้านกัน" ลู่หานลุกขึ้นยืน ดึงเสื้อผ้าที่ยับจากการนั่งให้เรียบร้อย ตีหน้าหล่อใส่แบคฮยอน ที่ลุกขึ้นยืนเช่นกัน
"ตามนี้ครับ ยินดีต้อนรับสู่บ้าน ที่แสนสวยหลังนี้" คลียิ้มบางๆส่งให้อย่างเป็นมิด พร้อมยื่นมือเล็กๆส่งให้เพื่อนใหม่ หวังผูกมิดหลังจากนี้
สองมือประสานจับกันแน่นกลมเกลียว... อะนะ คาดว่าจะเป็นเช่นนั้น
"โอ๊ยตาย มือเหนียวชิบ! ไม่ได้ล้างมือรึไง" ลู่หานโวยวายหลังจากเอื้อมมือไปจับแล้วสัมผัสได้ถึงคราวเหนียวๆ เหมือนเป็นซอส
"เอ้า ก็เดินเข้ามาพร้อมกัน เห็นผมเข้าห้องน้ำปะล่ะ" ปากเรียวยกเถียงอย่างไม่ยอม
"โว๊ยยย เด็กบ้าอะไรวะ สกปรก ฮึ้ย ฉันอาบน้ำก่อนดีกว่า ยืนใกล้ๆนายแล้วจะอ้วก"
"โอ๊ยตาย ตัวเองสะอาดตายละเหอะ ใครไม่รู้เหยียบขี้หมาตอนออกจากร้านข้าว!"
ปี๊ดดดด
เส้นความอดทนขาดผึง เมื่อร่างเล็กยกเรื่องเมื่อตอนหัวค่ำหน้าร้านข้าว ที่เขาเผลอไปเหยียบอุนจิสีเหลืองเข้มแฉะๆ ติดรองเท้าหนังแสนกว่ามาเปิดประเด็น พอกำลังจะหันไปด่า สั่งสอนให้รู้เด็กและผู้ใหญ่เสียบ้าง แต่ก็ต้องชะงัก เมื่อแบคฮยอนวิ่งนำโด่งขึ้นบ้านไป
"จะหนีไปไหน!" วิ่งขึ้นบ้านตามไปแบบไม่ลดความพยายามในการด่า
"อาบน้ำ! คนแก่ป่าเถื่อนหยาบคาย"
เฮ้ย ดู๊วววววว ไอ้เด็กเวร หน้าตาก็น่ารักเหมือนผู้หญิง แต่ปากแม่งงง กูจิครายยย (แกก็พอๆกันนะลู่)
100%
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ความคิดเห็น