ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ exo ] 。 take me home ♡ { lubaek } ending

    ลำดับตอนที่ #1 : - take me home : Prologue

    • อัปเดตล่าสุด 1 มี.ค. 57






    คำว่าบ้านสำหรับคุณคืออะไร

     

    - What does “home” mean to you? -


    บ้าน  ในภาษาอังกฤษได้แบ่งคำนี้ไว้สองคำ  คือ House กับ Home  เขาบอกกันว่าความหมายนั้นต่างกัน  แต่สำหรับผม  มันก็คือบ้านเหมือนกันนั้นแหละ  บ้านที่ไว้พักพิง  กิน  อยู่  นอน  มีรั้วเป็นป้อมปราการกั้นอาณาเขต  ให้รู้สึกปลอดภัยจากข้างนอก  กำแพงหนาที่คนอื่นคิดว่ามนปลอดภัยนั่น

     



     

    ระเบิดทีเดียวแม่งก็ไม่เหลืออะไรล่ะ

     

     





     

     

     

    ความคิดกร่านโลกขอชายร่างสูงตามมาตรฐานชายเอเชีย  วัยยี่สิบห้าปี  นักศึกษาจบจากสถาบันชื่อดังด้านอินทีเรีย  ( interior ) ด้านการออกแบบตกแต่งภายในโดยตรง  กำลังนอนกลิ้งบนเตียงไม้สีเนื้อไม้อ่อน มีสลิงเส้นหนาสี่เส้นโยงเตียงเข้าไว้ยกลอยเหนือพื้น  กับเสาสี่ต้นล้อมรอบ  ออกแบบสร้างเฉพาะเจ้าของห้องเองเท่านั้น   ความกว้างขนาดหกฟุตอย่างเบื่อหน่าย  เพื่อรอเวลาให้พ่อของเขาออกไปทำงาน

     

    ก๊อกๆ  ก๊อกๆ

     

    เสียงเคาะประตูหน้าห้องทำให้ผมรู้ว่าผู้เป็นบิดานั้น  ได้ออกไปพ้นรั้วบ้านแล้ว

               

                “เสี่ยวลู่  ม๊าบอกกี่ครั้งแล้ว  เมื่อไรแกจะออกไปหางานทำสักที  เรียนจบมาก็สองปีแล้วนะ  นี่ยังนอนอืดไม่รู้สึกรู้สาอะไรอีกนะ”

     

                อื้อ  บ้านผมคงคึกครื้น  ถ้ามีเสียงม๊าโวยวายแต่เช้า

     

                “ม๊า  ผมจบอินทีเรียมานะ  จะให้ไปเดินสมัครงานตามร้านกาแฟที่ได้ค่าจ้างแค่สองร้อยแปดสิบบาทต่อสิบเอ็ดชั่วโมงได้ไง  ลู่ไม่บ้านะม๊า  มันหลอกใช้แรงงานชัดๆ”

               

                “ม๊าก็ไม่ได้บอกแบบนั้น  แกก็หางานที่แกถนัดทำสิ  ม๊ารำคาญป๊าบ่นเรื่องเสี่ยวลู่แล้วนะ”

     

                ป๊าจะไฟต์ใช่ป่ะ?

     

                อยากพูดออกไปแบบนี้  แต่คือรักพ่อรักแม่ไงครับ   เป็นลูกที่ดีไง  ทำได้แค่บอกไปว่า

     

                “อื้อๆ  ไว้ลู่จะหาเร็วๆนี้แหละ”  เส้นทางชีวิตตัวเองน่ะ

     

                เช้ามาผมก็เจอแต่คำถามเดิมๆ  แถมยังถูกพูดจากดดันแดกดันกันอีก  ไอ้ตัวผมก็เข้าใจความห่วงใยของป๊ากับม๊านะ

     

                “แล้วตอนนี้เสี่ยวลู่จะเอาต่อไปดี  ป๊าบอกไปทำงานกับป๊าก่อนดีมั้ย  ช่วยป๊าขายสายพานกับพี่คริส”

               

                เฮ้อ  กูล่ะไม่อยากอยู่บ้านจริงๆ  วันๆไล่ออกไปหาแต่งานนอกบ้าน  หาประสบการณ์ห่าอะไรนักไม่รู้  เยอะแยะไปหมด  คุณเข้าใจมั้ยครับ  คำว่าประสบการณ์มันแล้วแต่บุคคลป่ะครับ  มันจะมีประสบการณ์แตกต่างกันออกไป  ไม่เหมือนกันหรอก  ของใครของมัน  จะมายัดเยียดให้ได้ไง  พอพูดออกไปก็ชวนไปทำงานที่บริษัทพ่อ  ที่ขายสายพานซึ่งเป็นชิ้นส่วนหนึ่งของเครื่องจักรในโรงงานใหญ่ต่างๆ  ที่พ่อเข้าติดต่ออยู่  มีส่งออกต่างประเทศด้วย

     

                พูดมาก็เท่าที่เข้าใจ  ผมไม่ชอบงานแบบนั้นเลยเลือกเรียนอินทีเรียเนี่ยแหละ  แต่ในประเทศมันจะมีสักกี่คนที่จะต้องการ  ของแบบนี้รอเวลาและความติส  อยากทำก็ทำ

     

                และคือไม่ใช่ไง  ป๊าหลอกผมไปช่วยทำบัญชีที่บริษัท  เพราะกำลังขาดคน   โว๊ะ!

     





     

     

                ผมลงมาชั้นล่างของบ้าน  หาอะไรทำรอเวลาผ่านไปไวๆ  จะได้ดูใช้ชีวิตไม่ไร้ค่าจนเกินไป  อีกอย่างแบ่งเบาภาระแม่บ้าน

     

                “เสี่ยวลู่...”  รู้เลย  ม๊าพูดเสียอ้อนแบบนี้  ทุกครั้งที่ลงมาจะต้อง  “ชงชาให้ม๊าทีสิ  ชาเสี่ยวลู่ชงอร่อยกว่าแม่บ้านชงเป็นไหนๆ”

     

                นั้นไง...

     

                ชีวิตเสี่ยวลู่หาน  ต้องทำงานบ้าน  ทำกับข้าว  ทำสวน  ทำอะไรก็ได้ที่ไม่ต้องออกนอกบ้าน...เพราะเบื่อชีวิต  อยากอยู่บ้านนั่งเขียนแบบ  รับออเดอร์  ส่งงาน

     

                เบื่อชีวิตสังคมจังแฮะ  อยากย้ายไปอยู่ที่เงียบๆ...ออกจากบ้านดีมั้ยวะ

     

     

     

    ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น  ทุกอย่างมันรวดเร็วไปหมด  เร็วเสียจนผมที่กำลังยืนรีดผ้าอยู่ตั้งรับแทบไม่ทัน   มารู้ตัวอีกที  กระเป๋าใบใหญ่ใบหนึ่ง  ก็ถูกวางตึงอยู่ข้างกายผมโดยฝีมือพี่ชายแสนดี

     

    “ป๊า  ทำไมทำแบบนี้”  ม๊าเอ็ดขึ้น

     

    “ฉันรอแกไม่ไหวแล้วไอ้ลู่แกไม่แสดงอะไรให้ฉันเห็นเกี่ยวกับอนาคตของแกเลยสักนิด  คิดว่าไอ้การทำงานบ้านอย่างไร้ประโยชน์จะช่วยให้แกไม่ต้องออกไปทำงานรึไง  เกาะพ่อแม่กินถึงจะสบายใช่มั้ย  หรือแกจะเป็นแม่บ้าน”

     

    ผมยืนอึ้ง  เพราะเจอคำถามและคำว่าแบบฉุกละหุก  เลยไม่ได้เตรียมตัวตอบคำถามมา  แต่ถึงอย่างนั้น  คำตอบก็เคยพูดไปแล้วไง   ป๊าไม่ได้จำมันเลยรึไง

     

    “คราวนี้ถึงเวลาที่แกจะแสดงความสามารถแกให้ฉันเห็นจริงๆสักที  จนกว่าแกจะกระตือรือร้น  ดิ้นรนในการใช้ชีวิตให้มากขึ้น  ออกจากบ้านไปซะ”

     

    “โธ่  มันไม่มากไปหน่อยเหรอป๊าของแบบนี้มันต้องใช้เวลานะ  นี่  เสี่ยวลู่พูดอะไรสักอย่างสิลูก”  คุณนายใหญ่แห่งตระกูลร้องห่มร้องไห้  พร่ำหาเหตุผลซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้กับคนไม่เอาไหนอย่างผม

     

    “คุณ  เวลามันเดินไปเรื่อยๆ  ถ้าแกยังไม่ลงมือทำตอนนี้  รอจนวันตายก็ไม่ได้อะไรสักที!

     

    และนั้นแหละ  เป็นสิ่งสุดท้ายที่ผมได้ยิน  ก่อนจะลากกระเป๋าไปเก็บไว้ในรถออดี้คันดำ  ที่ถอยมาด้วยน้ำพักน้ำแรงตนเองตอนทำงานรับจ๊อบจากอาจารย์   ความจริงข้อนี้ที่ป๊าไม่รู้  คอยคิดแต่ว่าผมขอเงินม๊ามาซื้ออยู่ตลอด  และอีกหลายๆอย่างที่ป๊าไม่เคยใส่ใจจะรับรู้มัน   สนใจแต่พี่ชายคนโตที่เอาแต่ประจบประแจง  ปากบอกอยากเรียนอะไรก็เรียน  อยากทำอะไรก็ทำ  พี่จะดูแลธุรกิจให้เอง  พอผมโตขึ้น  ถึงได้รู้ว่า  ไอ้คำพูดหลอกลวงแบบนั้น  ถึงฟังดูห่วงใย  แต่แท้จริงแล้วมันก็หวงสมบัติตระกูล ที่กลัวจะตกเป็นของผมด้วยอีกคน  แล้วถีบผมลงหลุมจนเป็นหมาหัวเน่า  ทำอะไรสักอย่างก็ถูกมองข้าม

     

     

     

    แม่งเอ้ยถ้ารู้ว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้  กูน่าจะเอาเตารีดทับเสื้อมันให้ไหม้ดับคาเตารีดเลยเม่ง

     

    แล้วจะไปอยู่ไหนดีวะเนี่ย

     

     

     

     

     

    รถออดี้เอสห้าสีดำเงา  จอดเทียบฟุตบาทหน้าตึก House For  Rent  บริษัทจัดหาบ้านและห้องเช่า  ตามที่ลูกค้าต้องการ   อีกทั้งยังรับฝากหาผู้เช่าได้อีกด้วย

     

    ลู่หานถอดแว่นกันแดดออก  เยหน้าขึ้นมองบริษัทที่ไม่เคยคิดว่าจะได้มาใช้บริการ  ช่างใจอยู่นิดหน่อย   เพราะตัวเขาอยากได้ห้องเช่าที่มีสไตล์  เหมาะกับอินทีเรียอย่างเขา  เมื่อตัดสินใจอยู่นาน  ร่างสูงก็ผลักประตูกระจกบานเข้มเข้าไปข้างใน

     

    “ยินดีต้อนรับค่ะ”

     

    เสียงพนักงานสาววัยกลาคนในชุดสุภาพคนหนึ่งกล่าวต้อนรับอย่างเป็นมิตร  เธอลุกจากเก้าอี้ทำงานสีขาว  ผายมือเชิญให้นั่งฝั่งตรงข้ามของเจ้าหล่อนทันที

     

    “เอ่อ  ขอไม่อ้อมค้อมเลยนะครับ  พอดีตอนนี้ผมกำลังหาห้องเช่าอยู่”

     

    “ค่ะ  ห้องเช่านะคะ  ได้กำหนดพื้นที่เขตไว้มั้ยเอ่ย” 
     

    “ไม่ครับ  แต่ขอที่เงียบๆ  บรรยากาศดีๆ  ไม่วุ่นวาย”  หญิงสาวจดรายละเอียดตามที่ลู่หานบอกอย่าตั้งใจ  “อ๋อ  ผมอยากได้แบบมีดีไซน์ด้วย  อยากได้แบบที่ให้ความรู้สึกเหมือนกับบ้านจะดีมากเลยครับ  มีพื้นที่กว้างไว้จอดรถ  แล้วก็ที่สำคัญ  ห้องนอนจะต้องไม่คับแคบนะครับ  ราคาเท่าไรเท่ากัน”
     

    เมื่อพูดจบ  คนฟังถึงกับเงิบ  ลมแทบจับ  จ้องลู่หานไม่วางตา

     

    “เอ่อ   แบบที่คุณลูกค้าต้องการเนี่ย  ออกจะหายากไปสักหน่อย  ถ้าไม่รีบ...”

     

    “ผมรีบครับ  อยากได้ก่อนเย็นนี้”  ชายหนุ่มส่งยิ้มละไมให้กับพนักงาน สาว  ร่างบางถึงกับเคลิ้มจนเผลอพยักหน้ารับคำ  พร้อมถามชื่อแส่ของคนตัวสูงและประวัติส่วนตัวอย่างละเอียด

     

     

     

     

     

    “เราขอหลักฐานการเช่าด้วยนะคะ  ดิฉันว่าตอนนี้หาห้องเช่าที่เหมาะสำหรับคุณลู่หานได้แล้วล่ะคะ” 
     

    “ขอบคุณมากนะครับ”  ลู่หานที่นั่งจิบกาแฟรออยู่กล่าวขอบคุณตามมารยาท   รับเอกสารทั้งหมดพร้อมคำแนะนำของพนักงานจัดหา

     

     

     

     

     

    “นี่เบอร์ของผู้เปิดให้เช่านะคะ  เมื่อสักครู่  ดิฉันโทรไปบอกไว้แล้ว  ว่าคุณลู่หานจะเข้าไปหาเย็นนี้”

     

    “ขอบคุณอีกครั้งนะครับ”

     

     

     

    ลู่หานกดเบอร์โทรศัพท์ตามที่จดไว้ในเอกสารข้อมูลของผู้ให้เช่า  ก่อนกดโทรออก  รอสายสักพัก  ก็มีคนรับ






     

     

    “สวัสดีครับ  คุณบยอนแบคฮยอนใช่มั้ยครับ...”


     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -


    #ฟิคกลับบ้าน

     
    thank you:)  Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×