คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 4 (แก้ไข)
Chapter 4
พอได้ลงจากรถแท็กซี่ฮยอนซึงปล่อยมือจุนฮยองและรีบวิ่งไปเคาเตอร์จนจุนฮยองจะวิ่งตามแถบไม่ทัน
“คุณพยาบาลฮะ ห้องของคนที่ชื่อยุนดูจุนอยู่ห้องฮะ” ฮยอนซึงถามอย่างหน้าตาตื่นนางพยาบาลก็รีบเช็ดทันที
“คนที่เกิดประสบอุบัติเหตุเมื่อไม่นานมานี้ใช่ไหมค่ะ?”
“ฮะ” ตอนนี้เสียงของฮยอนซึงสั่นไปหมด
เขากังวลไปหมดทุกอย่าง
“ตอนนี้ยังอยู่ในห้อง 504 ห้องพิเศษนะคะ ชั้น 10 ค่ะ ปลอดภัยทั้งคู่นะคะ”นางพยาบาลยิ้มกว้างให้กับฮยอนซึง
จนฮยอนซึงต้องยิ้มออกมาพร้อมกับน้ำตาเพราะดูจุนไม่เป็นอะไรแล้ว
“นาย !พี่ดูจุนปลอดภัยแล้ว!” ร่างบางกระโดดเข้าไปกอดร่างสูงทำให้ร่างสูงมึนงง
เพราะเขาไม่คิดว่าฮยอนซึงจะเข้ามากอดเขา
“เห็นไหมล่ะ หมอนั่นกระดูกแข็งจะตาย ไปกันเถอะ”
ฮยอนซึงรู้สึกเขินขึ้นมาทันทีเพราะเขาเผลอไปกอดจุนฮยอง
เพราะเขาดีใจที่ทั้งสองคนไม่ได้เป็นอะไร แต่ตอนที่อยู่บนรถแท็กซี่จุนฮยองกุมมือของเขาไว้ทำให้เขาอบอุ่นและมีกำลังใจมากขึ้น
ทำให้ฮยอนซึงอยากจะให้จุนฮยองมาอยู่ข้างๆเขาตลอด..ในเวลาเขาทุกข์
ฮยอนซึงวิ่งไปยังห้องของดูจุน พอถึงห้อง ฮยอนซึงและจุนฮยองก็เดินเข้าไปในห้องอย่างเงียบๆเห็นดูจุนและโยซอบนอนหลับอยู่
ฮยอนซึงก็เดินไปดูอาการของสองคนนั้น ดูจุนแขนหักและมีแผลที่หน้าผากนิดหน่อย ส่วนโยซอบแค่มีแผลที่หน้าผาก
ฮยอนซึงเห็นว่าเจ็บค่อนข้างเยอะเลยทำให้เขาร้องไห้ออกมาอีก
“ฮึก..พี่น่าจะขับรถดีๆกว่านี้นะ ฮือ...” ฮยอนซึงร้องไห้ออกมาอีกครั้งทำให้จุนฮยองต้องปริปากบ่น
“นี่ ฮยอนซึงดูจุนมันปลอดภัยแล้วนิ นายจะร้องไห้ทำไม” จุนฮยองเป็นคนไม่ชอบเห็นคนร้องไห้เพราะมันรู้สึกว่าเราอ่อนแอมากเกินไป
“นายไม่เข้าใจฉันนิจุนฮยอง”
“เห้ย…จะมาทะเลาะอะไรข้างหูฉันเนี่ย...” ดูจุนลืมตาขึ้นมาพลางๆ
เมื่อเห็นฮยอนซึงตาแดงกร่ำ ดูจุนก็กำลังจะลุกขึ้นมานั่งแต่ก็ไม่ได้ผลเพราะเขายังเจ็บแขนอยู่
“โอ้ย!”
“พี่ดูจุน! จะรีบลุกทำไมนอนอยู่อย่างนี้แหละ”
“กระดูกแข็งนะ หึ!” จุนฮยองเอ่ยแซวดูจุนเบาๆทำให้ดูจุนยิ้มขึ้นมา
“แข็งบ้านนายดิ เจ็บปางตายแล้วเนี่ย…
ซึงพี่ขอโทษนะที่ทำให้ซึงต้องร้องไห้”ฮยอนซึงพยักหน้าแล้วจับมือดูจุน
“แล้วโยซอบอยู่ไหนหรอ”
“พี่โยก็อยู่เตียงข้างๆพี่ไง”
จุนฮยองเปิดทางให้ดูจุนได้เห็นหน้าแฟนของเขาที่นอนหลับอยู่
ดูจุนยิ้มอย่างดีใจที่โยซอบไม่เป็นอะไรมาก
“หมอยังไม่มาบอกอาการโยอีกหรอ?”
“ยังเลย ให้ซึงตามไหม”
“เดี๋ยวหมอก็คงมาอ่ะแหละ” ไม่นานนักหมอก็เข้ามาในห้อง ฮยอนซึงกับจุนฮยองก็ก้มหัวเป็นการทักทายให้กับหมอ
“หมอจะมาบอกอาการของคุณดูจุนก่อนนะครับ
คุณดูจุนแขนหักแต่ไม่ถึงขันรุนแรงนะครับ ใส่เฟือกสัก2อาทิตย์นะครับแล้วก็อย่าโดนน้ำนะครับ
หัวของคุณก็มีการช้ำในนิดหน่อยนะครับเนื่องจากคุณกระแทกกับพวงมาลัยรถแรงไปหน่อย”
“เอ่อ..หมอครับแล้วถือของหนักได้ไหมครับ” ดูจุนถามอย่างนั้นไปเพราะงานช่างถ่ายภาพนั้นต้องถือของหนักแล้วยกนู่นยกนี่เรื่อย
แค่กล้องก็หนักแล้ว
“ได้ครับได้ แต่อย่าหนักเกินไปนะครับ”
“อ่อครับ แล้วยังโยซอบล่ะครับ” หมอหันไปมองโยซอบแปปนึงแล้วก็หันกลับมาตอบคำถามของดูจุน
“คุณโยซอบไม่เป็นอะไรครับแค่เป็นแผลที่หน้าผาก เพราะไปโดนกระแทกกับกระจกรถน่ะครับ”
“ขอบคุณมากครับ”
“หมอฮะแล้วจะออกจากโรงบาลได้เมื่อไรฮะ”
“อีก 2 วันก็กลับบ้านได้ครับ ผมจะให้ยาคุณทานนะครับ
มียาแก้ปวดแล้วก็ยาแก้ช้ำนะครับ”
“ขอบคุณครับ” ทั้ง3คนก้มหัวให้กับคุณหมอ
หลังจากหมอออกไปดูจุนก็กินยาแล้วการสนทนาก็เริ่มขึ้น
“เมื่อไรโยจะฟื้นเนี่ย...” ดูจุนหันหน้าไปมองแฟนที่นอนหลับนิ่ง
“เดี๋ยวแฟนนายก็ตื่นแหละเขาอาการน้อยกว่านายอีก”
“พี่ดูจุนไม่ต้องเครียดนะ” ดูจุนพยักหน้ารับคำที่ฮยอนซึงกะจุนฮยองพูดมา
“พี่อดกินข้าวที่น้องของพี่ทำเลย”
“เดี๋ยวซึงทำให้กินใหม่นะ^^”
“จะกินได้ไหมเนี่ย” ดูจุนพูดอย่างนี้ฮยอนซึงหน้าหงอยไปเลยทันที
“พี่ดูจุนอ่ะ! ถามจุนฮยองสิจุนฮยองชิมแล้ว” ดูจุนถึงกับสงสัยหนักกันเลยทีเดียว
เขาสงสัยมาตั้งนานแล้วล่ะ
ว่าทำไมจุนฮยองถึงมากับฮยอนซึงเพราะฮยอนซึงไม่ถูกกับจุนฮยองไม่ใช่หรือไง
“แต่..เดี๋ยว! ทำไมถึงอยู่ด้วยกันได้โปรดตอบ” ฮยอนซึงคิดอย่างหนักเขาไม่รู้จะตอบอะไรดูจุนดีเพราะถ้าบอกไปตามความจริงดูจุนต้องหาว่าเขาชอบจุนฮยองแล้วแน่
“เอ่อ..ไม่มีไรหรอกพี่ดูจุน^^”
“ก็วันนี้น้องนายอ่ะเขียนกระดาษมาขอ….อุ๊บ!” ฮยอนซึงแถบจะปิดปากจุนฮยองไม่ทัน
จุนฮยองพูดเร็วมากแถบจะจบคำพูดหมด หมอนี่เป็นแร๊ปเปอร์หรือไงกัน -.-
“ฮ่าๆ ^^ ไม่มีไรหรอกพี่ดูจุน
จุนฮยองใส่ร้ายซึงอีกแล้วน่ะ^^”
“อะไรนะฉันยัง….” ร่างบางปิดปากร่างสูงอีกครั้ง แล้วกระซิบข้างหูเบาๆ “นายห้ามพูด!ไม่งั้นฉันจะเอาคำขอโทษคืน”
“หึ ฉันไม่เอาก็ได้คำขอโทษนาย ทำความดีไม่เห็นหน้าอายเลย” ร่างบางแยกเคี้ยวใส่ร่างบางแต่ร่างสูงก็ขมวดคิ้วกลับให้
“พี่ดูจุนนอนเถอะ ซึงจะกลับบ้านแล้ว พรุ่งนี้มีนัดถ่ายรูปของดาราอีก เดี๋ยวตอนเช้าๆจะซื้อโจ๊กมาให้นะ”
“โอเคเลยครับ กลับบ้านดีๆนะซึง จุนฮยองดูแลน้องฉันด้วย”
“เออๆไม่ต้องห่วงเดี๋ยวผลักน้องนายไปกลางถนนเลย” ฮยอนซึงหันมาตวาดสายตาใส่จุนฮยอง
ร่างสูงก็ยกยิ้มมุมปากให้
“ปากเสียจริงๆเลยนายเนี่ย”
“อ้าวๆพอๆอย่าเพิ่งมาสร้างสงครามในห้องผู้ป่วย ตอนแรกก็ยังดีๆกันอยู่เลย หลังๆเป็นอย่างนี้ตลอด
เห้ย..ซึงกลับถึงคอนโดแล้วโทรหาพี่ด้วยนะ”
“โอเคเลยฮะ^^ ฝันดีนะพี่ดูจุน”
“ฝันดีครับน้องพี่”
“หายเร็วๆนะเว้ยไอ้ดูจุน”
“เออขอบใจมากเว้ย ดีละขากูไม่หักไม่งั้นอดเตะบอล ถ้าหายดีแล้วเดี๋ยวมีฉลอง”
“เออๆจัดไป”
ทั้งสองก็ได้เดินออกมาห้องของโยซอบและดูจุน ระหว่างทางเดินก็ไม่ได้เกิดบทสนทนาอะไรของทั้งสอง
มันทำให้เกิดความเงียบ
แต่การที่จุนฮยองและฮยอนซึงทะเลาะกันทำให้ฮยอนซึงรู้สึกสนุกอย่างไงไม่รู้
ครืน..ครืน.. โทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงของจุนฮยองสั่น
และหยิบขึ้นมาดู
‘พี่ฮีชอล’
“ว่าไงครับพี่”
[นายอยู่ไหนฉันขึ้นไปหาบนห้องก็ไม่มีใครอยู่]
“อ่อผมมาโรงพยาบาลน่ะ”
[ใครเป็นไร?]
“ดูจุนอ่ะ ที่เขาเป็นพี่ชายของลูกค้าประจำที่ร้านพี่น่ะ รถไปชนกับต้นไม้”
[จริงอ่ะ! ดูจุนเป็นไงบ้าง]
“ดูจุนก็ฟื้นแล้วน่ะพี่ เหลือแต่แฟนของดูจุนยังไม่ฟื้น เดี๋ยวค่อยคุยกันนะพี่
พี่ไปรอที่ล็อบบี้ข้างล่างนะ”
[โอเคเร็วๆน่ะฉันรอนานนายมากก]
“เค พี่อย่าเป็นเจ๊ขี้บ่นสิ”
[หึ หุบปากไปเลยจุนฮยองแค่นี้แหละ]
จุนฮยองหัวเราะและยิ้มออกมานิดหน่อย อย่างที่ฮยอนซึงยังไม่เคยเห็นสงสัยคนที่คุยกับจุนฮยองคงจะเป็นพี่ฮีชอลสินะ
“พี่ฮีชอลหรอ?” จุนฮยองหันมาตอบด้วยสีหน้าประจำของเขาเหมือนเดิม
“ใช่”
ฮยอนซึงพยักหน้าเบาๆกับคำตอบ
ระหว่างทางเดินก็มีแต่ความเงียบเขาไม่รู้จะคุยไรกับจุนฮยองดี
จนทั้งสองมายืนรอรถที่หน้าโรงพยาบาล
เสียงท้องร้องของฮยอนซึงทำให้จุนฮยองหันมาแล้วยิ้มให้นิดหน่อย
“หิวข้าวอ่ะดิ” ฮยอนซึงก็ลูบท้องตัวเบาๆแล้วก้าวขึ้นแท็กซี่ตามจุนฮยองไป
“อือ ยังไม่ได้กินไรเลย”
“กับข้าวที่นายทำยังกินได้อยู่ใช่ไหม”
“อือ อุ่นสักหน่อยก็กินได้แล้ว” จุนฮยองพยักหน้าแล้วก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดอะไรยุกยิกๆอยู่บนหน้าจอ
.
.
.
ดูจุนลุกขึ้นมาจากเตียงและลากเก้าอี้มานั่งข้างเตียงของโยซอบ
มือใหญ่กุมมือเล็กของโยซอบไว้แน่นและยกมือเล็กของโยซอบขึ้นมาลูบหน้าของตัวเอง
“โยค้าบเมื่อไรโยจะฟื้นสักที ดูจุนอยากคุยกับโยแล้วนะ...”
1 ชั่วโมงผ่านไป…
ร่างเล็กลืมตาขึ้นมาช้าๆและมองไปรอบๆ ก็เห็นว่าที่นี่เป็นโรงพยาบาล…
ร่างเล็กกำลังจะขยับตัวแต่รู้สึกเหมือนว่ามีคนจับเขาอยู่
และมองไปยังมือข้างซ้ายเห็นว่าร่างสูงกำลังนอนฟุบไปข้างเตียงและกุมมือเล็กของเขาไว้อยู่
น้ำใสๆเริ่มออกมาจากตาแความรู้สึกที่ดีใจ ที่คนรักของเขาไม่ได้เป็นอะไรไป ร่างเล็กเอื้อมมือไปจับผมสีน้ำตาลของร่างสูงเบาๆ
ทำให้คนไหวพริบเร็วอย่างร่างสูงตื่นขึ้นมาอย่างงุนงง แล้วเห็นว่าคนรักของเขาตื่นขึ้นมาดูจุนก็ยิ้มหน้าบานทันที
“โย! เจ็บตรงไหนหรือเปล่าครับ? ปวดตรงไหนไหม?” ดูจุนพูดไปก็สำรวจร่างกายอีกรอบและโยซอบก็ยิ้มและบีบมือดูจุนเบาๆ
“โยไม่ได้เป็นไรเลย โยสบายดีแค่ดูจุนเป็นห่วงโย โยก็หายแล้ว^^” โยซอบยิ้มให้กับดูจุนทำให้ดูจุนสบายใจหายห่วง
“โอ้ะ ! ดูจุนแขนหักหรอ เจ็บไหม?” โยซอบพูดด้วยความตกใจและลูบแขนที่ดูจุนหักเบาๆ
และดูจุนก็จับมือเล็กไว้และจูบหลังมือเนียนของคนตัวเล็ก
“แค่นี้เอง ดูจุนไม่เป็นไร ถ้าโยเป็นไรไป ดูจุนคงเจ็บกว่านี้แน่นอน”
โยซอบมันเขี้ยวกับคำเน่าๆของดูจุน เลยหยิกที่แก้มของดูจุนเบาๆ
“หือออออ ! ทำเป็นเก่งนะดูจุน แขนหักเลยนะ ไหนจะต้องทำงานอีก” ดูจุนอมยิ้มให้กับร่างเล็กที่บูดหน้างอนอยู่
“เดี๋ยวก็หายน่ะแค่นี้เอง ส่วนเรื่องงานฮยอนซึงจัดการแทนแล้วไม่ต้องห่วงน่า
พรุ่งนี้โยก็กลับบ้านได้แล้วนะ”
“แล้วดูจุนล่ะ”
“หมอบอกให้อยู่ดูอาการอีกวันนึงอ่ะครับ นี่ก็ดึกแล้วโยนอนต่อไหม?”
“โยหลับเยอะแล้วนะ”
“หลับเยอะก็ต้องนอนต่อนะคนดี เดี๋ยวดูจุนก็จะไปนอนบ้าง ง่วงล่ะเฝ้าหมูน้อยมาทั้งคืน”
“หือ! ดูจุนว่าโยหมู” โยซอบเชิ่ดหน้าใส่ดูจุน
‘ฟอด!’
“ดูจุนเอาอีกแล้วนะ” พูดเสร็จก็ตีไปแขนข้างซ้ายดูจุน
“อยากหอมแฟน ดูจุนนอนก่อนนะ ฝันดีครับโยซอบ” โยซอบก็พยักหน้ารับและนอนต่อ
.
.
.
“พี่ฮีชอล” จุนฮยองเดินเข้าไปเอ่ยทักฮีชอลที่นั่งเล่นโทรศัพท์ที่ล็อบบี้
ฮีชอลก็ลุกขึ้นและถามไถอาการของดูจุน
“ฮยอนซึงดูจุนเป็นไงบ้าง”
“อ่อ ปลอดภัยแล้วฮะ ไม่ต้องห่วงนะฮะ เดี๋ยวพี่ดูจุนก็ดีขึ้น”
“หึ บอกคนอื่นไม่ให้ห่วงนายยังห่วงอยู่เลย”
ฮยอนซึงหันไปมองค้อนใส่จุนฮยองนิดหน่อย
ฮีชอลเห็นอย่างนั้นก็อดยิ้มออกมาไม่ได้เพราะสองคนนี้เริ่มมีไรแปลกๆซะแล้ว
“พี่ขึ้นห้องเถอะ” จุนฮยองก็เดินนำมาขึ้นลิฟท์ และเขากดชั้น5 และชั้น 8
“นายไปกินข้าวห้องฉันก่อนไหม นายยังไม่ได้กินไรเลยนิ” ฮยอนซึงเอ่ยขึ้นทำให้ฮีชอลเจ้าสงสัยคนนี้ยิ้มขึ้นมาอีกรอบ
“เอ่อ..อ่อก็ได้ๆ” ฮยอนซึงก็พยักรับ
ส่วนฮีชอลก็หยิกที่มือของจุนฮยอง
“อะไรพี่” จุนฮยองหันไปทำหน้าคิ้วขมวดใส่ฮีชอลแต่ฮีชอลก็ทำหน้าตาล้อเลียนใส่
ฮยอนซึงเปิดห้องออก และเปิดทางให้อีกคนเข้ามา
“พี่ฮีชอลกินข้าวมายังฮะ”
“อ่อกินมาแล้วล่ะ พี่ไปกินโอเด้งมา อิ่มมาก”
“พี่ซื้อให้ผมป่ะ”
“ซื้อมาสิ ฉันไม่ซื้อมานาย นายได้ฆ่าฉันแน่”
จุนฮยองหัวเราะในลำคอและทั้ง3ก็เดินเข้าไปนั่งโต๊ะกินข้าว
ส่วนฮยอนซึงก็ลุกขึ้นไปอุ่นแกงให้ร้อนๆมันจะได้หน้ากินหน่อย
ไม่นานแกงและข้าวก็มาวางไว้ที่หน้าจุนฮยอง
“หอมจังเลยแฮะ ฮยอนซึงทำเองหรอ” ฮีชอลสูดดมอาหารอย่างเต็มที่
“ฮะผมทำเอง พี่ไม่สนหน่อยหรอ” ฮยอนซึงยิ้มอย่างน่ารักทำให้อีกคนที่กินอยู่ถึงต้องยิ้มออกมา
“พี่รบกวนนายหน่อยนะฮยอนซึง^^” ฮีชอลลุกขึ้นตักข้าวอย่างรวดเร็ว
ฮยอนซึงมองไปยังจุนฮยองที่นั่งตรงข้ามและกินอย่างเงียบๆโดนที่ไม่พูดอะไรเลย…มันไม่อร่อยหรอ?
“จุนฮยองไม่อร่อยหรอ?” จุนฮยองแค่เงยหน้าขึ้นมามองตาแล้วก็กินข้าวต่อโดยที่ไม่พูดอะไร
นั้นคือมันอร่อย แต่ฮยอนซึงดันมองไม่ออก
“หืออ ฮยอนซึงนายทำกับข้าวอร่อยนะ”
“ขอบคุณฮะพี่ฮีชอล^^” ฮยอนซึงก็ว่ากับข้าวเขาอร่อยนะ แต่ทำไมจุนฮยองไม่พูดไรเลย
หรือเขาชิมจนอิ่มนะ
“นี่ โปรดิวเซอร์ยง นายได้โทรหาแม่นายบ้างหรือเปล่า”
“คุยนานๆทีอ่ะพี่ เห็นแม่บ่นว่าปวดหลังด้วย” ตอนแรกฮยอนซึงคิดว่าจุนฮยองจะอยู่กันเพียงลำพังแค่สองคนซะอีก
เขาดูเป็นเฉยๆเหมือนไม่มีห่วงอะไร
“นายน่าจะเอาแม่นายมาหาหมอนะ
เมื่อวานฉันก็เพิ่งโทรไป”
“ผมบอกเขาไปแล้ว แต่แม่ก็บอกไม่เป็นอะไรอย่างเดียวเลย
แต่เดี๋ยวกะว่าจะรับเร็วๆนี้แหละ”
ฮยอนซึงดูเหมือนห้องนี้ไม่ใช่ห้องของเขาเลยแม้แต่นิดเดียว
-.- เพราะตอนนี้ในห้องมีแต่เรื่องราวครอบครัวของจุนฮยอง
“ก็ดีแล้วๆ ว่าแต่…ไหนนายบอกไม่รู้จักฮยอนซึง?” จุนฮยองกินอย่างเงียบๆไป
ฮยอนซึงหันมายิ้มน้อยๆให้กับฮีชอล
“อะไรกันเนี่ย เจอกับไม่กี่ครั้งชอบกันแล้วหรอ” เมื่อได้ยินสิ่งที่ฮีชอลพูดทำให้ฮยอนซึงกับจุนฮยองสำลักข้าวออกมาทันที
“พี่พูดไรเนี่ยพี่ฮีชอล”
“ไม่จริงหรือไงจุนฮยองน่าสงสัยซะมัด”
“ไม่มีไรหรอกพี่ฮีชอลทุกอย่างมันเป็นเรื่องบังเอิญหมดเลย^^”
“แน่ใจหรอ ?” ฮยอนซึงพยักหน้าและก้มหน้ากินข้าวต่อไป
“อ่า… วันนี้ขอบคุณสำหรับอาหารมากเลยนะฮยอนซึง เดี๋ยวพี่จะทำเค้กอร่อยๆให้กินนะ
เอ้อแล้วพรุ่งนี้พี่จะเข้าไปเยื่ยมดูจุน จะไปพร้อมกันเลยไหม?”
“ก็ได้ฮะ แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะฮะ ฝันดีฮะ^^” ฮยอนซึงกำลังจะปิดประตูแต่มือหนาดันไว้ก่อน
“วันนี้ขอบคุณที่ให้ฉันมากินข้าวนะ” ความรู้สึกของฮยอนซึงตอนนี้ถึงกับหน้าร้อนมากมันเป็นครั้งแรกที่ได้ยินคำขอบคุณจากปากเขา
..ฮยอนซึงพยักหน้ารับและปิดประตู
และวิ่งไปในห้องกระโดดนอนบนเตียงอย่างชื่นใจ..หรือเขาจะชอบจุนฮยองเข้าจังๆแล้ว
---------------------------------------------------------------------------------------------------
จุนฮยองเปิดห้องและให้ฮีชอลเดินเข้าไปก่อน จุนฮยองเป็นคนรักษาความสะอาดมากเขาไม่ชอบการที่มันห้องรกเพราะมันทำให้เขาอึดอัด
“ห้องนายมันเหมือนกับห้องผู้หญิงเลยนะสะอาดมาก”
“หึ มันต้องสะอาดสิ” ฮีชอลเดินไปเปิดตู้เย็นในครัวพบว่ามีโซจูอยู่เยอะเหมือนกัน โค้กก็เยอะกว่าอีก
น้ำเปล่านี้มี 3 ขวด
“นี่! จุนฮยองฉันว่าสักวันนายต้องตายแน่นอน”
“ทำไมอ่ะพี่” จุนฮยองพูดพร้อมกับถอดเสื้อพร้อมที่จะอาบน้ำ
“มีโซจูกับโค้กเต็มตู้เย็นเลยน้ำเปล่ามีสามขวด?”
“มันเหนื่อยเลยกินให้ชื่นใจต่างหาก แต่ผมก็กินน้ำเปล่านะ
ผมไปอาบน้ำก่อนล่ะพี่อย่าค้นอะไรออกมานะงั้นผมปล้ำพี่แน่”
“หึ ไอ้บ้าเอ้ย” ฮีชอลยิ้มมุมปากอย่างสวย ฮีชอลเป็นคนที่ใบหน้าคล้ายผู้หญิงสุดๆถ้าจับมาแต่งหญิงนี่
ผู้หญิงทุกคนต้องหลบทางให้เขาเลย
เขาเดินดูอะไรไปเรื่อยในห้องของจุนฮยอง
มีกรอบรูปที่เขาถ่ายกับแม่ของเขาวางไว้ที่โต๊ะทำงาน
และเขาเห็นสมุดสีน้ำตาลเล่มหนาโผล่ออกมาจากกระเป๋าสะพาย
เขาสงสัยว่านี้คงเป็นสมุดแต่งเพลง ฮีชอลเลยหยิบออกมาและมีกระดาษ1แผ่นตกลงมา ฮีชอลเลยหยิบขึ้นมาดู เลยพบว่าเป็นเบอร์โทรศัพท์และลงท้ายชื่อด้วยยูอี…. ไม่นานนักจุนฮยองก็ออกมาพร้อมกับนุงผ้าขนหนูปิดแค่ท่อนล่าง
“พี่ค้นไรอีกเนี่ย”
“ฉันเปล่าค้นนะ แค่จะดูสมุดแต่งเพลง แล้วอีกระดาษแผ่นนี้ตกมาจากสมุด
นินายไปขอเบอร์สาวที่ไหนมาเนี่ย” จุนฮยองงงกับสิ่งที่ฮีชอลพูดออกมา
“ขอดูหน่อย” จุนฮยองเห็นเป็นชื่อของคนที่ชื่อ
ยูอี …มันคุ้นสำหรับจุนฮยองมากเหมือนกับเป็นผู้หญิงที่นั่งข้างเขาตอนที่กินเนื้อย่าง
“สงสัยเขาอยากให้เบอร์ผมมั้ง”
“ใครล่ะ”
“เขาเป็นช่างกล้องของไอ้ดูจุนมันน่ะ สวยดีนะ”
“หึ ฉันไม่เอายัยนี่”
“พี่เป็นแม่ผมหรือไง”
“แม่นายก็ต้องเลือกคนเดียวกับฉันเว้ย” พูดจบฮีชอลก็เดินไปอาบน้ำ
ส่วนจุนฮยองก็ยิ้มมุมปากและวางกระดาษแผ่นนั้นลงไว้กับโต๊ะอย่างเดิมและไปใส่เสื้อผ้าเพราะต้องมานั่งแต่งเพลงต่อ เขาไม่ชอบคนที่จูโจ่มาหาเขาก่อนมันทำให้เขามองคนนั้นไปอีกแบบ
และจุนฮยองไม่คิดจะโทรหาผู้หญิงคนนั้นเลยด้วย
--------------------------------------------------------------------------------------------
ติ๊งหน๊อง !
เสียงออดหน้าห้องดังขึ้นในเช้าวันใหม่ของฮยอนซึงที่แสนจะง่วงนอน
แต่ฮยอนซึงไม่สนใจกับเสียงออดหน้าห้องเลยสักนิดเพราะเขาเป็นคนที่ปลุกยากมากที่สุด
ครืน ครืน.. โทรศัพท์หัวเตียงดังสนั่น
ทำให้ฮยอนซึงสะดุ้งตื่นและกดรับ
“ฮัลโหล”
[ฮยอนซึง ตื่นหรือยังนี้จะใกล้10โมงแล้วนะ]
“ห๊ะ! ตอนนี้พี่อยู่ไหนหรอฮะ”
[พี่อยู่หน้าห้องนายน่ะ]
ฮยอนซึงรีบวิ่งออกห้องนอนและไปเปิดประตูอย่างเร็ว
สภาพฮยอนซึงตอนนี้ผมสีแดงของเขาขึ้นฟูและหน้ามึนๆเหมือนเดิม
“เอ่อ..พี่ฮีชอลฮะพี่จะเข้าไปเยื่ยมพี่ดูจุนใช่ไหมพี่ช่วยไปซื้อของกินให้พี่ดูจุนหน่อยนะฮะ” ฮยอนซึงวิ่งไปเอากระเป๋าตังมาและเอาแบงค์พันให้กับฮีชอล
“เดี๋ยวพี่ซื้อน่า ถือว่าเป็นการเลี้ยงคนเจ็บ ฮ่าๆ”
“เอาไปเถอะฮะพี่ฮีชอลผมฝากด้วยนะ ผมขอโทษด้วยนะฮะที่วันนี้ไปไม่ได้ผมนอนดึกไปหน่อยผมอาบน้ำก่อนนะฮะ”
ฮยอนซึงรีบวิ่งไปอาบอย่างเร็วเพราะเขามีนัดถ่ายแบบให้กับนางแบบคนสวยวันนี้
…
ฮยอนซึงแต่งตัวเสร็จและคว้ากระเป๋าออกจากห้อง และกดโทรศัพท์โทรหาพี่ชายเขา
[ฮัลโหล]
“พี่ดูจุนวันนี้ซึงไม่ได้ไปหานะขอโทษนะ วันนี้เดี๋ยวซึงไปนอนเป็นเพื่อน”
[ไม่เป็นไรหรอก พี่ฮีชอลมาเยื่ยมพี่ล่ะ ใกล้เวลาเริ่มงานแล้วนี่
ตื่นสายใช่ไหมเนี่ย]
“แฮร่ๆ ซึงแค่ตื่นสายนิดเดียวเองตอนนี้ซึงขึ้นแท็กซี่มาล่ะ”
[ค้าบไปดีๆล่ะ ตั้งใจทำงานด้วยนะ]
“โอเคเลยแค่นี้นะ”
ดูจุนได้วางสายจากฮยอนซึงก็มองดูโยซอบกับฮีชอลที่นั่งกินผลไม้และพูดคุยกัน
“โยป้อนแอ๊ปเปิ้ลให้ดูจุนหน่อยสิ”
โยซอบก็ทำตามใจของดูจุน
“อ้อนแฟนจริงนะดูจุน”
“ใครมันจะไปเหมือนเจ๊ละ ไม่มีแฟน”
“ไอ้ดูจุน ฉันไม่ได้เป็นผู้หญิงนะเว้ยมาเรียกฉันเจ๊อ่ะ ชิ!”
“โหๆ ก็พี่หน้าสวยนิหว่า”
“อ่ะแน่นอน…นี่ดูจุนนายไม่สงสัยน้องนายกับจุนฮยองบ้างเลยหรือไงว่ะ”
“หลายเรื่อง
แต่ก็ไม่อยากพูดเดี๋ยวมันหาว่าอย่างนู่นอย่างนี้กับมัน เดี๋ยวเสียเพื่อน”
“เรื่องไรหรอดูจุน?” โยซอบถามอย่างสงสัยเรื่องที่สองคนนี้คุยกัน
“ก็จุนฮยองกับฮยอนซึงแปลกๆไงล่ะโย แต่ดูจุนก็พอจะดูออกนะว่าฮยอนซึงคิดอะไรอยู่ในใจ”
“สรุป…คือฮยอนซึงตอนนี้ชอบจุนฮยองหรอ?” โยซอบถามแบบตกใจ
“ก็ไม่เชิงมั้ง แต่กลัวว่าฮยอนซึงจะเสียใจจุนฮยองมันออกจะแบด”
“นั่นสิโยก็เห็นด้วยจุนฮยองก็ออกแบด”
“แต่พี่รู้ดีสุดพี่ฮีชอล”
“หือ ? ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันแต่ก็แอบแบดอยู่มั้ง
แต่ป่านี้คงเลิกแล้วไม่เห็นจะติดต่อใครเลย”
“ผมจะเชื่อเจ๊ดีไหมเนี่ย”
“นี่! คนเจ้าชู้มันก็มีสิทธิ์เลิกได้เหมือนกันแหละน่า
แต่ฮยอนซึงเคยมาถามฉันนะว่า ถ้าคนที่ทะเลาะกันบ่อยๆจะชอบกันได้ไหม ฉันก็บอกไปว่ามีสิทธิ์สูงเพราะมันจะเกิดเพราะความผูกผันกัน”
“ใช่โยก็คิดอย่างนั้น”
“ผมก็เริ่มรู้ใจฮยอนซึงแล้วล่ะพี่” ทุกคนหันไปมองจุนฮยองที่นั่งดูทีวีที่โซฟาและใส่หูฟังอยู่
และทั้ง3คนหารู้ไม่ว่าหูฟังที่จุนฮยองเสียบอยู่ไม่ได้เปิดเพลงเอาไว้
ตอนแรกได้เปิดเพลงแต่พอได้ยินชื่อตัวเองเขาเลยปิดเพลงและแอบฟังพวกนั้นคุยกัน มันทำให้นึกย้อนกลับไปเมื่อวานตอนที่เขาซบไหล่ฮยอนซึงเขาได้ยินคำนั้นจากปากฮยอนซึง
ทำให้เขายิ้มออกมานิดหน่อย
-----------------------------------------------------------------------------------------------
“โอเคครับ การถ่ายแบบเสร็จเรียบร้อยครับ^^” หลังจากที่ฮยอนซึงบอกเสร็จทุกคนก็ตบมืออย่างนี้เป็นจำและนางแบบที่ถ่ายเสร็จก็เดินมาหาฮยอนซึง
“วันนี้ทำไมคุณมาทำงานคนเดียวล่ะค่ะเนี่ย” สาวตาเล็กคนนี้ที่เดินมาทักฮยอนซึง
เธอเป็นนักร้องแต่ทางแบนเสื้อผ้าจ้างเธอให้มาเป็นพรีเซนเตอร์และให้ฮยอนซึงถ่ายภาพเพราะร้านของพี่น้องคู่ดังมากและใครหลายๆคนก็รู้จัก
“อ่อพี่ดูจุนเข้าโรงบาลฮะ คุณกาอินจะไปเยื่ยมไหมครับ?”
“อ่าวตายจริง คุณดูจุนเป็นไรหรอคะ?”
“พี่ดูจุนรถเสียหลักแขนหักฮะ ตอนนี้ก็เริ่มดีขึ้นแล้วฮะ”
“โห…ฉันอยากไปเยี่ยมนะคะ แต่ฉันไม่ว่างเลย
ขอให้คุณดูจุนหายไวๆนะคะ”
“ฮะ เดี๋ยวผมจะบอกพี่ดูจุนให้ฮะ” กาอินยิ้มให้กับฮยอนซึงและเธอก็เดินไปยังห้องแต่งตัว
เมื่อยูอีได้ยิน เขาจึงเอ่ยถามต่ออีก
“ฮยอนซึงดูจุนเป็นไรมากไหม” ยูอีตกใจมาก
ทำไมเขาถึงไม่รู้เรื่องอะไรเลย
“ตอนนี้ดีขึ้นเยอะแล้วพี่ พี่ยูอีจะไปเยื่ยมพี่ดูจุนไหม”
“เอาสิ เดะต้องรอเก็บของทุกอย่างก่อน หืมกาอินนี่เขาสวยเนอะแก่กว่าฉันปีนึงแต่ดูเขาเด็กอย่างไงไม่รู้” ฮยอนซึงเลยไปดูภาพที่เขาถ่ายกาอินไปเมื่อครู่เขาก็สวยจริงๆ
“นี่ฮยอนซึง นายรู้จักกับคนที่ชื่อจุนฮยองใช่ไหม” ยูอีถามไปด้วยเขินไปด้วย
“อ่อก็ไม่เชิงหรอก”
“พอดีฉันให้เบอร์เขาไปแต่เขายังไม่โทรมาเลย”
“อ่องั้นหรอ เอ้อพี่ยูอีพอดีผมมีธุระที่อื่นต่อพี่โรงบาลก่อนเลยนะ” ฮยอนซึงเก็บกล้องและของเขาและถือโทรศัพท์เดินออกไปอย่างเร็ว
เพราะเขาไม่อยากตอบคำถามมากมายและไม่อยากรับฟังเช่นกัน
ร่างบางเดินตรงมาทางร้านของฮีชอล วันนี้ก็อากาศเย็นเหมือนเดิม
“พี่ฮยอนซึงครับ!” ชายหนุ่มร่างโปร่งวิ่งเข้ามาทักฮยอนซึงทำเอาฮยอนซึงตกใจนิดหน่อย
“หืม?” เขาจำไม่ได้ว่าคนที่ใส่แว่นตาและหมวกคนนี้คือใครแต่มันก็ยังคุ้นๆ
“พี่จำผมได้ไหมครับ ผมดงอุนน้องพี่จุนฮยองอ่ะครับ^^”
“อ่อ! ที่นายเป็นนักร้องอ่ะหรอ”
“ใช่ครับแล้วนี่พี่จะไปไหนหรอครับ”
“จะไปร้านเค้กแถวนี้น่ะ”
“นั้นผมไปด้วยสิ”
“ไม่ต้องหรอกแฟนคลับนายได้รุมฉันพอดี”
“ผมไม่ได้ฮอตไรขนาดนั้นพี่จุนฮยองฮอตกว่าผมอีก” พอดงอุนพูดถึงจุนฮยองทำให้ฮยอนซึงยอมให้ดงอุนเดินมาด้วยกัน
“ทำไมนายคิดนั้น”
“ฮ่าๆ ไม่รู้สิ พี่จุนฮยองเวลาเขาเข้าบริษัทไป สาวๆก็กรี๊ดๆกันไปหมด”
“นั่นมันคนในบริษัท เอาสาวๆข้างนอกสิใครๆก็ชอบนายตั้งเยอะแยะ
อีกอย่างจุนฮยองไม่ได้ดังสักหน่อย ฉันว่านายหล่อกว่าจุนฮยองอีกนะ” ที่ฮยอนซึงบอกอย่างนั้นไปมันคือความจริง
เพราะดงอุนสูงใบหน้าคมเหมือนหนุ่มตะวันตก ตอนแรกฮยอนซึงคิดว่าดงอุนเป็นลูกครึ่งเสียอีก
“จริงหรอฮ่าๆ งั้นมื้อนี้ผมเลี้ยงกาแฟพี่ดีกว่า”
“ไม่ต้องหรอก”
“ผมเลี้ยงเอง” ทั้งสองคนเดินเข้ามาในร้านของพี่ฮีชอล ฮยอนซึงคิดไว้แล้วเชี่ยวต้องเข้าร้านของฮีชอล
และเขาเป็นของจุนฮยองก็ต้องมาอุดหนุนญาติกันอยู่แล้ว
“รับอะไรดีครับ^^” หนุ่มหน้าหวานคนที่ชื่อกีกวังมารับออเดอร์ ฮยอนซึงจำได้เลยเพราะเขาเคยมาเสิร์ฟเค้กให้กับฮยอนซึง
“เอาโกโก้ปั่นแล้วพี่เอาอะไร”
“เอาชาเขียวปั่น”
“รอสักครู่นะครับ^^”
“ดงอุนแล้วนายจะไปไหนหรอ?” ฮยอนซึงพูดชื่อนั้นออกมาทำให้กีกวังหันมามองผู้ชายคนนี้อีกที
นี้มันดงอุน..คนที่เขาชอบมากเลย กีกวังอยากได้ลายเซ็นเขามากเลย
แล้วฮยอนซึงก็เดินเข้ามาหากีกวัง
“น้องฮะพี่ฮีชอลยังไม่เข้าร้านหรอ”
“อ่อใช่ฮะ เห็นพี่ฮีชอลโทรมาบอกว่าจะแวะไปซื้อของนิดหน่อยฮะ….เอ่อ..พี่เป็นลูกประจำที่นี้ใช่ไหมฮะ?”
“ใช่” ฮยอนซึงยิ้มหวานให้กับกีกวังกวังก็ยิ้มกว้างและหยิบกระดาษหนึ่งแผ่นมาให้ฮยอนซึง
“พี่ฮะ พี่ขอลายเซ็นผู้ชายคนนั้นให้หน่อยสิฮะ นะๆ” กีกวังทำหน้าตาอ้อนใส่ฮยอนซึง
ฮยอนซึงเลยเดินไปหาดงอุนและวางกระดาษกับปากกาให้ดงอุน
“นู่น มีคนขอลายเซ็น” ดงอุนยิ้มให้กีกวังและก็เซ็นให้
“ไหนบอกว่าไม่ฮอตไงนายมันขี้โม้”
ดงอุนขำและยื่นกระดาษให้ฮยอนซึงและเขาก็นำไปให้กีกวัง
“ขอบคุณมากฮะพี่ ^^ รออีกแปปนึงใกล้เสร็จแล้วฮะ”
ฮยอนซึงพยักหน้าและเดินไปนั่งเหมือนเดิม
-------------------------------------------------------------------------------------------------
ถึงวงที่จุนฮยองเป็นโปรดิวเซอร์ให้จะคัมแบ็คไปแล้วเรียบร้อย
เขาก็ต้องมานั่งทำเพลงอยู่ในห้องอัดเสียง
ช่วงหลังๆห้องอัดเสียงเริ่มกลายมาเป็นบ้านหลังที่สองของเขาแล้ว
เขารู้สึกสบายใจเมื่อได้มานั่งในห้องอัดเสียง
ครืน…ครืน… เขาหยิบไอโฟนขึ้นมารู้เลยเป็นใครเลยรับ
‘ดงอุน’
“ว่าไง”
[พี่อยู่ห้องอัดเสียงหรือเปล่า]
“อยู่”
[เดี๋ยวผมเข้าไปหา]
“โอเคๆ”
ไม่นานดงอุนก็มาถึงพร้อมกับร่างบางที่หลบอยู่หลังของดงอุนนิดหน่อยและกลัวว่าจุนฮยองคิดว่าฮยอนซึงตามมาอีก
แต่ไม่ใช่อะไรหรอกดงอุนบังคับให้เขามาด้วยต่างหาก
จุนฮยองได้หันมามองร่างบางที่ยืนนิ่งๆอยู่ เขาก็ไม่ได้สนใจไรและก็หันมาทำงานต่อ
“พี่ทำไรอยู่อ่ะ”
“ทำทำนองเพลงอยู่”
“ไหนเปิดให้ฟังหน่อย” จุนฮยองส่ายหัวเบาๆแล้วก็เปิดทำนองให้ดงอุนฟัง หลังจากฟังเสร็จดงอุนก็เริ่มพิจารณา
“ใช้ได้นะพี่ แล้วเนื้อเพลง”
“กำลังแต่งเว้ย มีไรให้กินบ้างของที่สั่ง?” ดงอุนก็ยื่นแก้วกาแฟให้กับจุนฮยอง
ก่อนจะกลับดงอุนก็สั่งมาให้จุนฮยอง เพราะถ้าสั่งทิ้งไว้นานอาจจะไม่เย็นแล้วก็ได้
สิ่งที่กลัวยิ่งกว่าคือจุนฮยองต้องบ่นเขาแน่ๆ และก็แวะซื้อของกินเล็กน้อยตามทางมาให้จุนฮยองกิน
“ได้แล้วมาพี่มานั่งกินนี้สิ”
จุนฮยองก็เดินไปนั่งโต๊ะไม้ไม่ยาวมากนี้คือโต๊ะเวลาที่ประชุมเพลง
และจุนฮยองก็นั่งข้างๆฮยอนซึง
“พรุ่งนี้ฉันจะไปรับแม่ นายจะไปด้วยกันไหม?”
“อยากไปอ่ะพี่ แต่พรุ่งนี้ผมติดซ้อม”
“อือๆ” จุนฮยองก็กินต่อไปและเล่นโทรศัพท์ไปด้วย
“พี่ฮยอนซึงกินสิ”
“อ่อฉันอิ่มน้ำแล้วน่ะ”
อ่อเดี๋ยวผมเข้าห้องน้ำก่อนนะ” พอดงอุนลุกไปเข้าห้องน้ำทำให้ความเงียบมาคุมระหว่างฮยอนซึงและจุนฮยอง และทำให้ฮยอนซึงนึกถึงเรื่องที่ยูอีฝากมาบอก
“จุนฮยอง”
“หืม?”
“พอดีว่าพี่ยูอีฝากมาถามนายน่ะ ว่าทำไมนายไม่โทรหาเขา”
“ยูอี ? คนที่ทำงานกับนายอ่ะหรอ”
ฮยอนซึงพยักหน้าและกินน้ำไปด้วย
“หึ
ฉันคิดว่าฉันไม่มีธุระจะคุยไรกับเขา”
“หรอ” จุนฮยองก็เดินไปหยิบสมุดน้ำตาลเล่มใหญ่และดินสอแท่งนึงมาเหมือนเขาจะแต่งเพลง
“นายจะแต่งเพลงแล้วหรอ”
“อือ”
“งั้นฉันไปกลับล่ะน่ะ” ฮยอนซึงกำลังจะลุกแต่จุนฮยองจับข้อมือเล็กของฮยอนซึงไว้ก่อนทำให้ฮยอนซึงรู้สึกเกิดอาการร้อน
“เดี๋ยวนายค่อยไปพร้อมฉัน…นั่งลง” จุนฮยองพูดเสียงดุๆทำให้ฮยอนซึงนั่งลงและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นเป็นการฆ่าเวลาไป
และเวลามันชั่งยาวนานทำให้ฮยอนซึงเผลอหลับไป
จุนฮยองนั่งเขียนบทเพลงไปเรื่อยๆและมองคนที่นอนฟุบกับโต๊ะอยู่ จุนฮยองรู้สึกแปลกๆกับหัวใจของเขา
เขาแอบยิ้มทุกครั้งเมื่อเห็นรอยยิ้มของฮยอนซึง ตอนนี้ฮยอนซึงนั่งอยู่ข้างๆเขา เขาก็สามารถแต่งเพลงได้เรื่อยๆ
จุนฮยองกำลังเอื้อมมือจะจับผมแดงของฮยอนซึง..
“พี่ทำไรอ่ะ”
“เปล่า ฉันเห็นขี้ฝุ่นมันติดที่ผม”
ดงอุนเข้าไปสำรวจบนหัวฮยอนซึงก็ไม่เห็นมีอะไร
“นายปลุกฮยอนซึงดิ ฉันจะไปหาไอ้ดูจุนล่ะ”
“พี่ฮยอนซึงๆ”
“อย่ามาปลุกฉันได้ไหมฉันจะนอน”
ความขี้เซาของฮยอนซึงเริ่มขึ้น
“นาย ตื่นจะไปหาพี่ชายนายไหม”
จุนฮยองพูดข้างหูทำให้ฮยอนซึงลืมตาขึ้นมา
“นายแต่งเพลงเสร็จแล้วหรอ” จุนฮยองพยักหน้าเบาๆ
“เออพี่ผมฝากพี่ฮยอนซึงด้วยนะ พอดีผมมีธุระไปล่ะ” พูดจบดงอุนก็วิ่งออกไปจากห้องและจุนฮยองกับฮยอนซึงออกตามหลังมา
ข้างนอกมีหิมะตกอีกแล้ว ฮยอนซึงก็จามตลอดทำให้จมูกแดงอีกแล้ว
“ฮยอนซึงนายหยุดจามสักทีสิ”
“ฮัสชิ้ว! นาย! มันห้ามได้ที่ไหนเล่า! ฮัสชิ้ว!” จมูกของฮยอนซึงเริ่มแดงและมีน้ำมูกไหลออกมา
จุนฮยองเลยหยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดที่จมูกของฮยอนซึง จากจมูกที่แดงแล้ว ตอนนี้หน้าของฮยอนซึงก็เริ่มแดง
“อ่ะนายเช็ดเองแล้วกัน”
“ฉันเช็ดได้น่า”
“ไปโรงบาลนายก็ไปซื้อยามากินเลย ใครอยู่ใกล้นายติดหวัดแหง ตอนนี้ก็ฉันน่าจะติดนายแล้วล่ะ”
“เดี๋ยวมันก็หายเอง”
“หึ นายนี่มันดื้อจริงๆเลย”
“ฉันเปล่าดื้อ นายอย่าหาว่าฉันดื้อนะ”
“ก็มันไม่จริงหรือไงเล่า นายมันเด็กดื้อที่สุดเลย
ฉันโตกว่านายนะนายจะมาเถียงฉันทำไม”
“โตกว่าปีนึงแล้วไง นายไม่ใช่พี่ดูจุนสักหน่อย”
“แต่ฉันเพื่อนพี่นายนะ”
“แล้วไงไอ้ปากห้อยยยยยยยย” ฮยอนซึงก็ไปดึงปากล่างของจุนฮยองทำให้จุนฮยองหัวขวับมาทำตาดุๆใส่
เพราะตั้งแต่เกิดมาฮยอนซึงเป็นคนแรกที่กล้าทำถึงขนาดนี้
“นี่! นายมันจะมาเกินไปแล้วนะ”
ทำให้ฮยอนซึงหันหน้าหนี
จุนฮยองจับหน้าหันมาและหยิกไปแก้มของฮยอนซึงไม่แรงมากและเล่นหน้าเล่นตาฮยอนซึงและหยิกแก้มฮยอนซึงให้บู้ดเบี้ยวแต่ฮยอนซึงปัดมือของจุนฮยองแล้ว
แต่แรงสู้จุนฮยองไม่ได้เลย จนจุนฮยองต้องหัวเราะออกมาและฮยอนซึงก็หัวเราะเหมือนกัน
ทำให้เกิดเสียงเสียงดังขึ้น บางคนในรถเมย์ก็หันมามอง
BEAST♥BEAUTY
:) Shalunla
ความคิดเห็น