คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 3 (แก้ไข)
Chapter 3 ♥
“โอ้ะ คุณเป็นไรไหมครับ?” ฮยอนซึงลุกขึ้นประชันหน้ากับผู้ชายร่างโปร่งหน้าคมหล่อชวนหลงไหลที่สุด
“อ่อไม่เป็นไรฮะขอโทษด้วยฮะ” ฮยอนซึงก้มหัวให้กับร่างโปร่งนิดหน่อย
ร่างโปร่งยิ้มกว้างให้กับร่างบาง
อ่อไม่เป็นไรหรอกครับ คุณ…”
“ดงอุนฉันเสร็จล่ะ” ร่างสูงคนเดิมที่คุ้นเคย
ถือถุงรองเท้าและเก็บตังในกระเป๋าแล้วเดินมาหาร่างโปร่งที่ยืนอยู่กับร่างบางหัวแดงที่คุ้นเคย ทำเอาร่างสูงตกใจนิดหน่อย
นี่…นายตามฉันมาหรอว่ะ?
“นี่ นายรู้จักกับนายนี่ด้วยหรอ” จุนฮยองถามดงอุนที่ยืนมองฮยอนซึงและยิ้มกว้างมาก
แต่ฮยอนซึงยังยืนมองจุนฮยองอยู่
“เปล่านิครับผมเดินชนเขาน่ะพี่”
“หึ! แกจะไปเอาเพลงไหม” ฮยอนซึงถึงกับห่อเหี่ยวเพราะจุนฮยองไม่สนใจเลยวันนี้เขาอุส่าจะมาขอโทษ
“เอาดิพี่
เดี๋ยวผมไม่มีเพลงร้อง... ไปก่อนนะครับ ^^ ติดตามผลงานผมด้วยนะครับ” ร่างโปร่งพูดเสร็จก็เดินไปกับร่างสูง
ปล่อยทิ้งให้ร่างบางมึนงงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น คือดงอุนคือน้องจุนฮยอง
“ดงอุนหรอ…อ่อ!
เขาเป็นนักร้องนิ หือตัวจริงก็ไม่เห็นหยิ่งเลยแฮะ แต่กับโปรดิวเซอร์หยิ่งเองซะงั้น
เหอะ!ปากก็ห้อยยังทำตัวหล่ออีกชิ คนละขั่วโลกเลยพี่กับน้อง เห้อ..”
ฮยอนซึงจิกปากอย่างหงุดหงิด
คนอุส่าจะมาขอโทษแต่โดนหยิ่งใส่กลับซะงั้น โปรดรู้ไว้เลย
จางฮยอนซึงคนนี้เกลียดคนหยิ่งที่สุด!
ครืน….ครืน….
‘พี่ดูจุน’
“ฮัลโหลว่าไงหรอพี่ดูจุน”
[อยู่ไหน ไปที่ไหนก็ไม่บอกเลยนะ]
“อ่อ…ซึงขอโทษนะพี่ดูจุนพอดี..เอ่อ..ซึงวิ่งมาซื้อของลดราคาน่ะช่วงนี้มันเซล”
[จริงหรอ]
“ก็จริงน่ะสิ
ซึงซื้อของไปเต็มเลยนะ”
[โอเค ยังไม่กินข้าวใช่ไหม]
“ยังเลย”
[พอดีมีบีทูบีเลี้ยงข้าวเจอกันที่ร้านเนื้อย่างนะ]
“โอเคฮะ”
ฮยอนซึงกดวางสายดูจุน
เขาเดินซื้อของสักพักเพื่อเป็นข้ออ้างเพื่อจะไม่ให้ดูจุนรู้ว่าเขาตามใครบางคนมา
ผ่านไปไม่นานฮยอนซึงก็ซื้อของกินมาเก็บไว้ที่คอนโดเยอะๆ
เพราะไม่ค่อยมีเวลาสักเท่าไรที่จะออกมาซื้อ
ฮยอนซึงเดินก้าวเข้ามาในร้านเนื้อย่างและไม่เห็นว่าจะมีคนกลุ่มใหญ่นั่งเลยสักนิดสงสัยเอาห้องวีไอพีแหง
“สวัสดีค่ะมากี่ท่านค่ะ” พนักงานคนสวยเดินมาให้บริการตามหน้าที่
“อ่อผมจองไว้แล้วอ่ะฮะ
ห้องวีไอพี ไม่ทราบว่ามีห้องที่มีคนเป็นนักร้องเยอะๆไหมฮะ”
“อ่อ ห้องนั้นเอง เชิญด้านนี้ค่ะ”
พนักงานยิ้มกว้างแล้วเดินนำไปห้องด้านในสุด
ฮยอนซึงก้มหัวขอบคุณพนักงานนิดหน่อย เสียงดังคุยกันอย่างสนุกสนานภายในห้อง
“มาแล้วฮะ” ฮยอนซึงเงยหน้าไปมองสมาชิกที่นั่งอยู่โต๊ะเนื้อย่าง
แถมมีจุนฮยองและดงอุนแล้วยูอีอีกด้วย
จุนฮยองคุยกับทุกคนอย่างสนุกสนานเขาแค่เงยหน้ามามองฮยอนซึงแค่แปปเดียวเท่านั้นแล้วก็กินต่อ
“โหซื้อไรมาเยอะเนี่ยฮยอนซึง” โยซอบถามฮยอนซึงเมื่อเห็นซื้อของมาเต็มไม้เต็มมือ
“ซึงไปซื้อของมาเก็บไว้น่ะ
ขี้เกลียดออกไปซื้อหลายรอบ”
“อ่อ”
“ไม่เห็นต้องซื้อเยอะขนาดนี้เลย” ดูจุนเสริมขึ้นเมื่อเปิดของในถุงดู
“นิดหน่องเองพี่ดูจุน กินกันเถอะ”
ฮยอนซึงนั่งลงข้างๆดงอุนเพราะตรงไหนมีที่ว่างทีเดียว
ฮยอนซึงหันไปมองดงอุนและยิ้มน้อยๆให้ แล้วเริ่มกินเนื้อย่าง
“เอ่อ คุณชื่อไรหรอครับ” อยู่ๆดงอุนก็ถามขึ้นมาทำให้ฮยอนซึงที่เคี้ยวเนื้ออยู่ต้องรีบกลืนอย่างรวดเร็ว
“เอ่อ..ฉันชื่อฮยอนซึงน่ะ
นายเป็นนักร้องใช่ไหม”
“ครับ ผมเพิ่งเป็นนักร้องเอง คุณรู้จักผมด้วยหรอ”
“ทำไมจะรู้จักล่ะฉันทำงานอยู่บริษัทเดียวกับนาย”
“ผมไม่เคยเห็นคุณเลยนะ”
"ฉันไม่ค่อยเข้าบริษัทน่ะ มีแต่พี่ชายฉันเข้าไป”
“อ๋อผมรู้จักกับพี่ดูจุนอยู่”
“อ่อๆ” ฮยอนซึงพูดแล้วพยักหน้าแล้วกินต่อ อยู่ๆร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างหน้าฮยอนซึงก็เดินไปออกไปข้างนอก
เอ่อ..ฉันไปขอโทษหมอนั้นดีไหม?.....
ไม่ดีกว่า หมอนั่นหยิ่ง
“พี่ดูจุนซึงไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”
ดูจุนพยักหน้ารับแล้วฮยอนซึงเดินไปเข้าห้องน้ำ
ฮยอนซึงเดินเข้าไปนั้นเห็นร่างสูงกำลังยินล้างมืออยู่อ่างล้างมือ
จู่ๆร่างสูงก็เอ่ยทักร่างบางเอง
“ตามฉันมาอีกแล้วหรอ”
“อย่ามาหลงตัวเองหน่อยเลยฉันมาล้างมือต่างหาก”
“หึ!” ร่างสูงกำลังเดินออกไป
ร่างบางจึงตัดสินใจเรียกชื่อของจุนฮยองออกมา
“เดี๋ยวก่อนจุนฮยอง!” ร่างสูงหยุดเดินแล้วหันกลับมามองร่างบางที่อยู่ข้างหน้า
“เอ่อ…คือฉันจะบอกว่า
ขอโทษนะที่หาว่านายไปเป็นขโมยน่ะ”
“หึ ดูจุนในให้นายขอโทษสินะ”
“อือ กะ…ก็มีส่วน”
“ไว้นายตั้งใจเมื่อไรนายค่อยมาขอโทษฉัน” จุนฮยองเดินเข้ามาใกล้ร่างบางจนร่างบางเดินถอยหลังไปตัวชิดพนังแล้วร่างสูงเอานิ้วโป้งมาเช็ดที่มุมปากของฮยอนซึงที่เปื้อนน้ำจิ้มอยู่ ทันใดนั้นฮยอนซึง..
“ฮัสชิ้ว !” ฮยอนซึงได้จามใส่หน้าจุนฮยองอย่างเต็มที่
“หือ นายทำอะไรของนายเนี่ย
ฮยอนซึง !” จุนฮยองขมวดคิ้วอย่างอารมณ์เสียเพราะฮยอนซึชอบสร้างปัญหาให้เขาตลอด
และจุนฮยองก็เดินไปล้างหน้า เพื่อล้างน้ำมูกของฮยอนซึงออกจากหน้าของตัวเอง
“เฮ้ย นายฉันขอโทษนะ” จุนฮยองล้างหน้าเสร็จก็มองหน้าฮยอนซึงอย่างหงุดหงิด
“วันหลังนายจะจามกรุณาหันหน้าไปทางอื่นด้วยไม่ใช่จามใส่หน้าคนอื่น!” จุนฮยองเดินออกไปข้างนอกอย่าโมโหเลเวลล้านแปด…
ฮยอนซึงเดินกลับเข้าไปในห้องวีไอพี
กลับไปไม่เจอดงอุนและจุนฮยองแล้ว เขาคงจะโกธรมากเลยสินะ ก็เขาไม่เข้าใจฮยอนซึงเลย
ถ้าเขาเป็นคนเข้าใจอีกนิดจะดีมากเลย
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
-junhyung-
“พี่รีบออกมาทำไมเนี่ย” ดงอุนถามผมที่ขับรถมาเงียบๆมานานจนถึงคอนโด
“เซ็งว่ะเจอแต่เรื่องซวยๆ”
“เรื่องอะไรอ่ะพี่”
“เออชั่งมันเหอะ”
“เออพี่
ผมอยากรู้จักกับคนที่ชื่อฮยอนซึงอ่ะน่ารักดีว่ะ”
“นั่นมันก็เรื่องของแกกี่ยวไรกับฉัน”
“ก็พี่อ่ะสนิทกับพี่ชายของฮยอนซึงไม่ใช่หรือไง”
“แล้วไงว่ะ” ผมไม่รอคำถามต่อไปของดงอุน
ผมเดินเข้ามาในห้องและล้มตัวลงนอนที่เตียง
ผมย้อนกลับไปคิดเรื่องที่ผมเจอกับฮยอนซึงครั้งแรก…
หึ...
หมอนั้นก็น่ารักไม่ใช่เล่นเลยล่ะ
แต่เจอกันทีไรสร้างปัญหาให้ผมทุกรอบเมื่อกี้ก็จามใส่หน้าผมเต็มๆ เห้ย…
หลังจากที่ผมอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้วไปเปิดโน้ตบุ๊ค
และเหลือบไปเห็นดินสอกับสมุดเขียนเพลงผมแต่งเพลงดีกว่า..
ผ่านไป1ชั่วโมง
“นอน กุม ชอ รอม เน เก ทา กา วา
ซอ ชั่วโมง1แต่งไปแค่นี้เองหรอว่ะเนี่ย
นอนดีกว่า” ผมปิดคอมเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ล้มตัวลงนอนบนเตียงนุ่ม
(เธอเข้ามาเหมือนกับฝัน)
ตั้งแต่กลับมาฮยอนซึงก็เดินเข้าไปอยู่ในห้องโดยที่ไม่ได้พูดอะไรกับดูจุน
จนดูจุนอยากรู้ว่าน้องเป็นอะไร
“ฮยอนซึงเปิดประตูหน่อย” ฮยอนเปิดประตูออกพร้อมกับเช็ดผมไปด้วย
“ว่าไงหรอพี่ดูจุน”
“เป็นไรหรือเปล่าไม่พูดไม่จาเลย
หรือไปทะเลาะกับจุนฮยองมาหรือป่าว”
“เอ่อ..ป่าวนิ”
“แน่ใจนะ แต่พี่คิดว่าอย่างนั้น”
“ก็มีนิดหน่อยน่ะ
พอดีซึงไปจามใส่หน้าจุนฮยอง”
“โห จามใส่หน้าเลยหรอ”
“ใช่ แต่ชั่งมันเหอะ
ซึงขอโทษไปแล้วเขายังโกรธอยู่ซึงก็ช่วยไรไม่ได้หรอกนะ”
"โอเค ฮ่าๆ พี่จะไม่ถามเรื่องนี้ล่ะกัน”
“พี่มีไรจะถามซึงอีกแน่เลยเนี่ย”
ฮยอนซึงหันไปยิ้มหวานให้กับพี่ชายของเขา ดูจุนเลยลูบผมแดงของฮยอนซึงเบาๆ
“กำลังมีใครในใจอยู่เปล่า”
ฮยอนซึงที่ยิ้มอยู่หุบยิ้มทันที
“ฮ่าๆ จะบ้าหรอพี่ ทำไมจู่ๆถึงพูดเรื่องนี้อ่ะ”
“ทุกอย่างดูออกหมดพี่เป็นพี่ชายซึงทำไมจะไม่รู้”
“หือ ทำเป็นเก่ง
แต่ซึงยังไม่ได้ปิ๊งใครเลยจริงๆนะ”
“ไปถามตัวเองให้แน่ใจนะ
แล้วเอามาบอกพี่ พี่ไปนอนก่อนนะ เอ้อเช็ดผมให้แห้งก่อนแล้วค่อยนอนเดี๋ยวเป็นหวัด”
ฮยอนซึงพยักหน้ารับคำของดูจุน
ดูจุนก็เอามือของตัวเองมายีหัวฮยอนซึงนิดหน่อยแล้วเดินออกไปจากห้องและปิดประตูให้
ฮยอนซึงล้มตัวนอนกับเตียง…หรือเขาจะชอบจุนฮยอง
แต่มันจะเร็วเกินไปนะเจอกันก็ไม่กี่ครั้ง เจอกันทีไรก็กัดกันตลอดจะให้ชอบกันได้อย่างไง
แต่ทุกอย่างที่ดูจุนพูดมามันทำให้เขาเข้าใจเลยว่าดูจุนหมายถึงจุนฮยอง
.
.
.
วันนี้ฮยอนซึงตื่นสายมากๆคือเที่ยงวันแล้ว
ดูจุนเลยแปะโน้ตไว้ว่า ‘ตื่นแล้วไปหาไรกินด้วยแล้วอย่าลืมโทรหาพี่ล่ะ’
ดูจุนทำประจำทุกครั้งที่ฮยอนซึงตื่นสาย
วันนี้ฮยอนซึงได้มาที่ร้านของฮีชอลเพราะมันเบื่อและมีเรื่องชวนคิดทำให้เขางงและสับสนกับตัวเอง
“อ่ะอ่าวววว
วันนี้รับอะไรดีค้าบบบ” ฮีชอลต้อนรับฮยอนซึงด้วยคำนี้เป็นประจำ
“ฮ่าๆ
เอาเค้กวนิลาฮะแล้วเอาคาปูชีโน่ปั่นให้ผมด้วยนะ”
“จัดไปรอสักครู่นะ” ฮยอนซึงพยักหน้าและเดินมานั่งเล่นคอมของร้าน
วันนี้ฮยอนซึงรู้สึกเบื่อๆอย่างไงไม่รู้
“ฮยอนซึงเป็นไรหรือป่าววันนี้ดูเซ็งๆนะ” ฮีชอลเดินมานั่งข้างๆแต่เค้กยังไม่มาส่ง
“อ่อไม่ต้องสงสัยนะพอดีพี่ให้ลูกน้องที่ร้านทำอยู่” ฮีชอลยิ้มแห้งๆให้กับฮยอนซึง
ฮยอนซึงเลยยิ้มกลับไป
“ก็ไม่มีไรหรอกพี่ฮีชอลซึงแค่เบื่อๆนิดหน่อยฮะ
แต่เอ่อ..ซึงถามไรพี่หน่อยได้ไหม”
“อะไรหรอ?”
“คนเราเวลาเจอกันแล้ว..ทะเลาะตลอดนี้จะชอบกันได้หรือเปล่าอ่ะฮะ”
“หือ..”
“มาแล้วค้าบบ” ฮีชอลกำลังจะตอบมีเด็กหนุ่มหน้าหวานน่ารักมาเสริฟเค้กให้
“เอ้อ
กีกวังอย่าลืมเอาเค้กออกมาวางขายล่ะ”
“ฮะ^^”
“ต่อนะ…ก็มีสิทธิ์สูงสิ
ทะเลาะกันเยอะยิ่งผูกผันเกิดวันใดวันนึงไม่ได้ทะเลาะกันก็จะเหงา” ฮยอนซึงได้นึกอะไรขึ้นมาบางอย่าง..ความรู้สึกนั้นกำลังเกิดกับเขาอยู่สินะ
“อ้าวจุนฮยอง” ฮีชอลลุกขึ้นไปหาร่างสูงที่เดินเข้ามา
ร่างบางหันไปมองร่างสูงนิดหน่อย
ฮยอนซึงคิดว่าบางครั้งสองคนนี้อาจจะมากกว่าพี่น้องก็ได้
“เอาโค้กมาให้ผมหน่อยสิ” ร่างสูงเดินมานั่งโต๊ะคอมข้างๆร่างบาง ร่างบางเห็นเลยขยับของมาไว้อีกข้างหนึ่ง
“ร้านนี้ขายกาแฟกับเค้กไม่ได้ขายโค้กโว้ย
ร้านฉันเลยต้องมีโค้กเก็บตลอดเลย เพราะนายนั่นแหละ”
“นี่พี่อย่าเพิ่งบ่นลูกค้าได้ไหมเนี่ย”
ปากฮีชอลก็บ่นแต่มือกับไปหยิบโค้กมาให้เรียบร้อยแล้ว
“ฮ่าๆ นายมันน่าบ่นนิ”
ฮยอนซึงนั่งดูอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่หน้าคอมแอบมองร่างสูงที่นั่งเขียนอะไรบ้างอย่างลงสมุดแล้วฟังเพลงไปด้วย
“นายมองอะไรฉัน” ฮยอนซึงสะดุ้งทันทีเมื่อฮยอนซึงเหม่อมองจุนฮยองอยู่นาน
“ป่าวฉันมองข้างนอกต่างหาก
หิมะมันตกสวยดี” ฮยอนซึงแก้ตัวและมองหน้าจอคอมต่อ
“ทำอย่างกับไม่เคยเห็นหิมะ หึ”
“เออ! ฉันไม่เคยเห็น” จุนฮยองมองหน้าจอคอมและถอนหายใจยาว
ฮยอนซึงไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าจุนฮยองจะไม่ญาติดีกับเขาหน่อยหรอ?
“พี่ฮีชอลฮะ เก็บตังฮะ”
“จะไปแล้วหรอ”
“ใช่ฮะ ผมกะว่าจะทำธุระต่อด้วย”
“อ่อ” ฮีชอลเก็บเงินแล้วเดินมาถอนตังให้ฮยอนซึง
“ระวังเป็นหวัดนะฮยอนซึงพี่ว่าจมูกนายแดงมากแล้ว”
“โอ้ะจริงหรอฮะ เอ่อ เดี๋ยวก็หายมั้งฮะผมไปก่อนนะฮะแล้วจะมาใหม่ฮะ” ฮยอนซึงยิ้มหวานให้กับฮีชอล
รอยยิ้มนั้นก็ทำให้จุนฮยองหันมองฮยอนซุงแต่ก็แกล้งทำฟอร์มมองไปต่างอื่น
“กลับดีๆน้า ฮยอนซึง”
“ขอบคุณฮะ”
ฮยอนซึงเดินออกจากนอกร้านไป ร่างสูงมองร่างบางนิดหน่อยแล้วกลับมาสนใจคอมต่อ
คราวนี้ฮยอนซึงไม่ได้ลืมของอะไรทิ้งไว้ มีแต่กระดาษแผ่งหนึ่งวางไว้จุนฮยองเลยหยิบขึ้นมาดู
‘เอ่อ..ฉันขอโทษนะเรื่องที่หาว่านายเป็นขโมยและจามใส่หน้านายวันนั้น
แล้วขอบคุณที่นายช่วยฉันวันนั้นถ้าไม่ได้นายฉันคงแย่ขอบคุณนะ’
จุนฮยองยิ้มมุมปากกับกระดาษที่เขียนข้อความที่มาจากใจ
จุนฮยองมองไปยังนอกข้างนอกร้านที่มีหิมะตกอยู่…ร่างบางคงเดินตากหิมะแน่ๆ
“พี่ผมไปก่อนนะ” เขาบอกฮีชอลจบจุนฮยองคว้ากระเป๋ามาสะพายข้างตัว
“อะไรเนี่ยของนายเนี่ย ฉันเริ่มชักสงสัยแล้วนะ”
“สงสัยอะไรของพี่”
“นายรู้จักกับลูกค้าของฉันงั้นหรอ?”
จุนฮยองชี้ไปยังโต๊ะคอมข้างๆที่ร่างบางเคยนั่ง
“อือนั้นแหละ”
“เหอะ ฮ่าๆ ผมยังไม่รู้จักเขาเลยพี่”
“หือก็ฉันเห็นเขาออกไปนายก็ออกตามตลอดเป็นอย่างนี้ฉันก็รู้นะ”
“พี่คิดผิดล่ะ
คนบ้าอะไรเจอกันไม่กี่ครั้งจะชอบกันแถมเจอกันด่ากันอีกไม่ไหวๆผมไปก่อนนะ”
จุนฮยองยิ้มมุมปากแล้วเดินออกข้างนอกร้านไป
และนี้ก็เป็นตอนเริ่มเย็น และมีอากาศหนาวจัดมาก เขาเดินไปรอบๆ
เขาก็กะจะหาร่างบางแต่เขาก็ไม่ได้ตั้งใจจะหาสักเท่าไรหรอกก็เดินมาเรื่อยๆซื้อนู่นซื้อนี้กินตลอดเวลา
และสายตาของเขาก็หยุดมองผู้ชายหัวแดงตัวเล็กๆกำลังเลียไอติมอย่างอร่อย
“นี่นาย” ร่างบางหันไปมองร่างสูงก็ตกใจเตรียมจะวิ่งหนีแต่จุนฮยองจับไว้
“จะวิ่งไปไหน” ร่างบางทำหน้าอึนใส่หน้านิ่งๆของร่างสูง
“ป่ะเปล่า..นายมีอะไรหรือเปล่า” ร่างบางถามพร้อมกับกินไอติมต่อ
“ฉันอยากฟังนายพูดมากกว่าเห็นโน้ตกระดาษแผ่นนี้”
จุนฮยองชูแผ่นกระดาษที่เขาเขียนเป็นการขอโทษให้กับจุนฮยอง
ฮยอนซึงทำหน้าอย่างเขินอายไม่กล้าที่จะสบตากับจุนฮยอง
“ฉันก็เขียนไปแล้วไงตาบ้าเอ้ย ฉันก็อายเป็นเหมือนกันนะ” ฮยอนซึงหันหลังใส่จุนฮยอง
ถ้าให้เขาพูดแก้มเขาคงระเบิด…
แล้วทำไมฉันต้องเขินต้องอายด้วยฟ่ะ
ฮยอนซึงนายต้องกล้าพูดหมอนั้นจะได้ไปไกลๆ
“เออ ฉันพูดก็ได้” จุนฮยองมองฮยอนซึง รอฮยอนซึงพูดออกมา
“ฉันขอโทษที่หาว่านายเป็นขโมยแล้วก็ขอโทษที่จามใส่หน้านายเมื่อวานและก็ขอบคุณที่นายช่วยฉันวันนั้น….” ฮยอนซึงก้มหน้าก้มตาพูดอย่างเร็ว
ไม่เห็นว่าร่างสูงกำลังยิ้มมุมปากอย่างพอใจเพราะเขารู้ว่าฮยอนซึงกำลังเขินก็อยากจะแกล้งต่อไป
“หึ! นายแน่ใจหรอว่ามันมีแค่นี้?”
จุนฮยองยกกระดาษแผ่นนั้นขึ้นมาดู “มันมีอีกคำหนึ่งนะนายลืมแล้วหรือไง”
ฮยอนซึงลืมไปสนิทว่าเขาเขียนคำว่า ‘ถ้าไม่ได้นายฉันคงแย่ขอบคุณนะ’ ฮยอนซึงก้มหน้าก้มตาอย่างเดียว
ฉันไม่หน้าเขียนคำนั้นลงไปเลย
“นายหลับหรือเปล่าฮยอนซึง” ฮยอนซึงตาโตทันทีเมื่อจุนฮยองพูดชื่อเขาออก
หัวใจที่ไม่เคยทำงานหนักมานาน จนวันนี้มันเต้นแรงอีกครั้ง
“อ่ะเปล่าๆ ฉันไปก่อนนะ” ร่างบางกำลังจะเดินแต่ร่างสูงรั้งไว้เหมือนเดิม
“เดี๋ยวฉันไปส่ง” ฮยอนซึงไม่คิดว่าจะได้ยินคำนี้จากจุนฮยอง
“ห๊ะ?”
“นายอย่าให้ฉันพูดหลายรอบได้ไหม
แล้วไอติมน่ะจะกินทำไมอากาศยิ่งหนาวๆอยู่จมูกนายก็แดงแล้ว”
จุนฮยองพูดจบฮยอนซึงก็เดินไปทิ้งไอติม
จุนฮยองก็กลางร่มสีน้ำตาลแล้วฮยอนซึงเดินเข้ามาในร่ม
เขาไม่คิดว่าจะมีวันเวลาอย่างนี้ด้วยไม่คิดว่าจะได้เลยเดินกลางร่มอย่างนี้ถึงจุนฮยองจะไม่ชวนคุยก็เถอะ
“ฮัสชิ้ว!” เมื่อได้นั่งบนรถเมย์จุนฮยองก็ได้จามออกมาทันทีและมีน้ำมูกไหลออกมาด้วยฮยอนซึงเลยหยิบกระดาษเช็ดชูที่เขาเอาติดตัวมาให้จุนฮยองเช็ด
“นายคงติดหวัดมาจากฉันสินะ”
“คงงั้น
ตอนฉันตื่นมาก็จามแต่ฉันกินยาดักไว้แล้วล่ะ”
“อ่อโทษทีนะ”
“เสียงนายก็เริ่มเปลื่ยน”
“หือฉันหรอ? ฉันปกติดีน่า” ฮยอนซึงยิ้มหวานให้กับร่างสูงจนร่างสูงหันหน้าหนี
ครืน ครืน..
‘พี่ดูจุน’
“ว่าไงฮะพี่ดูจุน”
[พี่ขอโทษนะฮยอนซึงที่ไม่ได้โทรกลับกำลังยุ่งๆน่ะ]
“แล้วตอนนี้ว่างแล้วหรือไง”
[ว่างแล้วๆครับ]
“ทำไมไม่บอกล่ะว่าวันนี้มีงานเยอะซึงจะไปช่วยพี่ไง”
[ฮ่าๆไม่เป็นไรหรอกครับพรุ่งนี้ค่อยมาช่วยถ่ายรูปแล้วกันนะวันนี้แค่คัดรูปเมื่อวานซึงลืมคัดรูปให้พี่]
“อ่อจริงด้วย ขอโทษนะพี่ดูจุน”
[งั้นเปลื่ยนจากคำขอโทษเป็นทำกับข้าวให้พี่กินดีกว่านะ
เดี๋ยววันนี้โยไปกินด้วยนะ]
“ฮ่าๆโอเคเลยวันนี้ซึงจะโชว์ฝีมือสุดพิเศษให้พี่กินเลย”
[กินได้ไหมเน้อ?]
“พี่ดูจุนอ่ะ!” ฮยอนซึงจิกปากอย่างเซ็งใส่ดูจุน
เขาน่ะทำกับข้าวอร่อยที่สุดแล้วอย่าห่วงเลยว่ากินไม่ได้หรอก
[พี่ล้อเล่น
ฮ่าๆน้องพี่ได้เชื้อแม่เยอะ นั้นกลับบ้านเร็วๆล่ะ ซึงต้องถึงก่อนพี่โอเค?]
“รับทราบ” ฮยอนซึงวางสายจากดูจุนเรียบร้อยและหันไปมองคนข้างๆที่นั่งหลับสัปหงกอยู่
และจุนฮยองเอนหัวมาพิงกับไหล่ฮยอนซึงทำให้ฮยอนซึงรู้สึกร้อนขึ้นมาเมื่อเส้นผมสีทองนิ่มมากระทบกับแก้มของฮยอนซึง
“นายกำลังทำให้ฉันหวั่นไหวนะจุนฮยอง”
ร่างบางบ่นคนเดียวอย่างเบาๆร่างสูงก็ไม่ได้ยินสิ่งที่เขาพูดไปหรอก
“นายๆตื่นๆ” ร่างบางปลุกร่างสูงที่นอนพิงไหล่เขาอยู่ประมาณ20นาที
“ถึงแล้วหรอ”
“อือ” ฮยอนซึงยิ้มบางๆให้กับจุนฮยองที่หมือนยังไม่ลืมตา
“เดี๋ยวซื้อของไปทำกับข้าวก่อนนะ” พูดเสร็จฮยอนซึงก็เดินนำจุนฮยองเขาไปในชุปเปอร์มาเก็ตที่ไม่ไกลจากซอยคอนโดเขานัก
และก็ลากรถเข็นออกมา
“นายไปทำไรมาถึงได้ง่วงนอนขนาดนี้”
ร่างบางหยิบเลือกผักปากก็ถามร่างสูงแต่ไม่มองหน้า
“ทำงานน่ะ”
“อ่อลืมไปนายเป็นโปรดิวเซอร์.. แล้วทำไมโปรดิวเซอร์ต้องนอนดึก”
“ฉันเป็นคนแต่งเพลงด้วย”
“จริงหรอ?” ฮยอนซึงหันไปทำหน้าตื่นเต้นใส่ร่างสูงที่ไม่คิดมาก่อนว่าจุนฮยองแต่งเพลงด้วย และร่างสูงก็พยักหน้ารับ
“หือนายก็แต่งเพลงเก่งนะเนี่ย”
“เคยฟังแล้วหรือไง” จุนฮยองปากพูดพร้อมกับหยิบขนมต่างๆลงรถเข็นไปด้วย
“ก็เคยล่ะมั้ง นี่นาย
ตังฉันนะไม่ใช่ตังนายหยิบใส่ๆอยู่นั้นแหละ” เขาเห็นจุนฮยองหยิบขนมใส่รถเข็นอยู่นั่นแหละมันก็อดบ่นไม่ได้นั้นมันตังเขา!
“เดี๋ยวฉันจ่ายเองแค่ใส่ไปรวมๆเท่านั้น”
ก็เลือกของกันอยู่นาน ความรู้สึกของฮยอนซึงนั้นเหมือนมาเดตเลย
ถึงแม้ความจริงมันจะไม่ใช่ก็ตาม วันนี้ฮยอนซึงคิดว่ามีความสุขที่สุดเลยล่ะเป็นครั้งที่เขามาซื้อของกับคนที่ไม่รู้จักแถมเถียงกันเรื่องของนี้ดีกว่าของนั้นดีกว่า
ผ่านไปกว่าชั่วโมงที่เลือกซื้อของกัน
จุนฮยองกำลังแยกของตัวเองไปจ่ายเองแต่ฮยอนซึงเลยห้ามไว้ก่อน
“นายไม่ต้องแยกก็ได้เดี๋ยวจ่ายให้นายเอง”
ฮยอนซึงว่าแล้วหยิบของจากมือจุนฮยองมาวางเคาเตอร์เดียวกับของเขา
“ไม่ต้องเลยฉันไม่ได้จนสักหน่อย”
“แล้วใครว่านายจน
ฉันจะซื้อให้เป็นการขอบคุณและขอโทษถือว่าฉันเลี้ยงนายจบ” ฮยอนซึงหยิบของออกมาวางทุกอย่างและรอพนักงานคิดตังเสร็จเรียบร้อย
“400ค่ะ” ฮยอนซึงยื่นธนบัตร500ให้กับพนักงานไป
“ขอบคุณที่ใช้บริการค่า” ทั้ง2คนก็ยิ้มให้พนักงานและเดินมาทางซอยของคอนโดแถมมีจุนฮยองถือของให้อีก
“นายวันนี้นอนมากินข้าวห้องฉันไหม
วันนี้ฉันทำกับข้าว”
“หึไม่ต้องหรอกน่า”
“ก็ถือว่าแสดงความเป็นเพื่อนใหม่ไง ต่อไปนี้นายกับฉันเป็นเพื่อนกันนะ?”
ร่างบางยื่นมือไปขอจับมือร่างสูงเพื่อขอความมิตรให้แก่กัน
แต่ร่างสูงกับยิ้มน้อยๆตามสไตส์ของจุนฮยอง ร่างสูงเอื้อมมือมาจับที่ก้นผมแล้วยีเบาที่ก้นผมสีแดงนั้นเบาๆและเดินนำหน้าไป
ร่างบางก็ได้แต่ยื่นอึ้งเมื่อได้รับความอบอุ่นและเอ็นดูจากมือหนานั้น
“นายไม่เดินสักทีเล่า
เดี๋ยวถ้าไอ้ดูจุนมันกลับมาก่อนระวังโดนมันบ่นนะ”
ฮยอนซึงพยักหน้าแล้ววิ่งตามจุนฮยองมา
แล้วก็เดินไปกันไปอย่างเงียบๆจนถึงห้องของฮยอนซึง
ฮยอนซึงเอาคีย์การ์ดออกมาเสียบแล้วก็เปิดประตูออกให้จุนฮยองเขาไปก่อนแล้วเขาค่อยเขาตาม
ถ้าพี่ดูจุนมาเห็นต้องเข้าใจผิดแน่
“เดี๋ยวนายเอาของไปวางไว้ในครัวนะ”
“ใช้เลยนะ”
“ก็นายถือของอยู่อ่ะ” จุนฮยองเดินเอาของไปวางและเดินมานั่งโซฟา
“นายอยู่ห้องไหนหรอ?”
“ฉันอยู่ห้อง518ชั้น5 จะมาหาฉันหรอ”
“ปากดี” ฮยอนซึงเลยสวนกลับไปคำว่า
‘จะมาหารอ’ ทำให้ฮยอนซึงคิดไปไกลมากไม่ชอบเลย
“นายก็ปากดีเหมือนกันแหละ”
“ปากดีก็อยู่ด้วยกันได้สิ”
ฮยอนซึงพูดเบาๆแล้วเดินไปห้องครัว
“นายว่าไรนะ” จุนฮยองตะโกนถามแต่ฮยอนซึงไม่ตอบ เขาเตรียมของทำแกงกิมจิ ผัดเผ็ดปลาหมึก
แกงจืดสาหร่ายของพวกนี้เป็นของโปรดพี่ดูจุนทั้งนั้นแถมมีเนื้อย่างหมูย่างอีกด้วย
ใช้เวลาในการทำก็ใกล้ประมาณ6โมงเย็นได้เพราะตอนนี้4โมงเกือบจะห้าโมงล่ะ
ฮยอนซึงเริ่มทำแกงกิมจิก่อนขั้นแรก
ก็เริ่มใส่นู่นใส่นี้ลงไป
กลิ่นหอมๆก็เริ่มออกมาจากครัวทำให้จุนฮยองต้องลุกขึ้นแล้วเดินเข้ามาในครัว
“ให้ฉันช่วยไรไหม” จุนฮยองเดินเข้าถาม ฮยอนซึงก็ยุ่งกับการหานู่นหานี้
“อ่อไม่เป็นไรหรอกนายนั่งดูทีวีเถอะ”
“มาๆเดี๋ยวช่วย ฉันก็ทำเป็นน่า”
“ปากดี”
“ว่าฉันปากดีอีกล่ะ
อยากลองไหมล่ะว่าปากฉันดีแค่ไหน” จุนฮยองก้มหน้าลงไปใกล้ฮยอนซึงซึ่งตอนนี้หน้าของเขาทั้งสองห่างกันแค่นิดเดียว
ฮยอนซึงตอนนี้กำลังใจเต้นแรงเลยดันหน้าจุนฮยองออกไป
“นายคอยหยิบของให้ฉันแล้วกัน”
ฮยอนซึงโบกมือพัดหน้าตัวเองเพราะมันรู้สึกร้อนมาก
จุนฮยองก็เป็นลูกมือที่ดีมาก
บอกอะไรก็หยิบให้หมดจนเวลา6โมงทุกอย่างก็เสร็จตามที่ฮยอนซึงคลาดหมายเอาไว้
“อ่า หอมจังอยากกินแล้วเนี่ย”
ฮยอนซึงชูดกลิ่นหอมๆของอาหารเข้าเป็นเต็มปอด “เดี๋ยวฉันโทรหาพี่ดูจุนก่อนนะ
นายจะกินก่อนเลยหรือเปล่า” จุนฮยองส่ายหน้าแล้วก็มานั่งดูทีวีต่อ
“พี่ดูจุนอยู่ไหนๆ”
[พี่เพิ่งรับโยเสร็จครับ
อาหารเสร็จแล้วแน่เลยกินหอมมาแต่ไกล]
“เว่อร์น่าพี่ดูจุน รีบกลับมานะอย่าขับรถเร็วนะ”
[ค้าบผม]
ฮยอนซึงกดวางสายของดูจุนเสร็จก็เดินมานั่งข้างๆของจุนฮยอง
“นายหิวหรือเปล่า”
“ไม่ค่อยหิวหรอก
ชิมแกงนายจนฉันอิ่มล่ะ”
ฮยอนซึงหัวเราะเบาๆให้กับจุนฮยองเพราะฮยอนซึงก็ให้จุนฮยองชิมๆอยู่นั้นแหละว่ามันโอเคเลยหรือยัง
แล้วก็ดูหนังไปด้วย แต่นี้..มันทุ่มนึงแล้วนะทำไมเขาไม่กลับ
ฮยอนซึงกดโทรหาโยซอบและดูจุนต่างก็ไม่รับทั้งคู่
“จุนฮยอง
ทำไมสองคนนั้นยังไม่กลับมาอีกล่ะ”
“เขาไปทำธุระอะไรหรือเปล่า”
จุนฮยองพูดให้ฮยอนซึงรู้สึกสบายใจแต่ตอนนี้ฮยอนซึงไม่รู้สึกสบายใจเลยสักนิด
เพราะมันเลยเวลามามากพอแล้วนะดูจุนเป็นคนตรงเวลาถ้ามีอะไรก็ต้องโทรมาบอกก่อน นี่แถมไม่รับโทศัพท์ทั้งสองคนเลย
“ฉันเป็นห่วงพวกเขา”
“เดี๋ยวก็กลับมานายอย่าคิดมากๆ”
ผ่านไป 20 นาที เวลา 19.20
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นพร้อมกับหมายเลขแปลก..ที่ไม่คุ้นเคยฮยอนซึงกดรับอย่างดีใจเผื่อดูจุนจะใช้เบอร์คนอื่นโทรมาและฮยอนซึงก็รับอย่างมั่นใจ
“พี่ดูจุน!”
[ขอโทษนะคะไม่ทราบว่าคุณคือคุณฮยอนซึงที่รู้จักกับคุณดูจุนใช่ไหมค่ะ]
“ฮ..ฮะ
คุณคือใครหรอครับ...” ฮยอนซึงถามเสียงสั่นๆ
และน้ำใสๆที่เริ่มคลอก็ออกมาจากตาสวยคู่นั้น และคำพูดของผู้หญิงคนไหนก็ทำเขาช็อค..
[ตอนนี้คุณดูจุนกับคุณโยซอบได้เกิดอุบัติรถเสียหลักไปชนกับต้นไม้ตอนนี้อยู่โรงบาลxxx]
ฮยอนซึงได้ยินคำนั้นน้ำตาก็ไหลออกมาแล้วทรุดตัวนั่งลง
จนจุนฮยองเห็นต้องตกใจและวิ่งเข้าไปหาฮยอนซึง
“ฮยอนซึง ดูจุนเป็นไร” จุนฮยองจับไหลทั้งสองข้างแล้วฮยอนซึงก็เงยหน้าขึ้นมามองจุนฮยองด้วยน้ำตาที่เต็มใบหน้า
“ฮึก..ฮือ..จุนฮยองพี่ดูจุนรถเสียหลัก
พี่ชายฉันต้องไม่เป็นไรใช่ไหมจุนฮยอง ฮึกฮือ...” จุนฮยองที่ไม่เคยปลอบใครมาก่อน
ตอนนี้เขาต้องทำให้ฮยอนซึงมีสติ
“ฮยอนซึงฟังฉันนะ ดูจุนและแฟนดูจุนจะต้องไม่เป็นไร”
จุนฮยองจับฮยอนซึงลุกขึ้นและวิ่งออกไปจากคอนโดและโบกรถแท็กซี่เพื่อมุ่งหน้าไปโรงบาลที่นางพยาบาลบอกมา
มือหนาของจุนฮยองกุ้มมือเล็กของฮยอนซึงไว้อย่างแน่น
จนทำให้ฮยอนซึงได้รู้ถึงความอบอุ่นและการปลอบใจ และปาดน้ำตาของฮยอนซึงที่ไหลไม่หยุด
เขาเหลือพี่ชายเขาคนเดียวไม่อยากเสียคนที่เขารักไปอีก เพราะฮยอนซึงไม่ชอบความโดดเดี่ยวเพราะเขาสูญเสียทุกอย่างไปมากพอแล้ว…
BEAST♥BEAUTY
:) Shalunla
ความคิดเห็น