คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : Chapter 11 (แก้ไข)
Chapter
11 ♥
“ดงอุนพร้อมถ่ายรูปยัง” ฮยอนซึงตะโกนถามร่างโปร่งที่ยืนมองตัวเองให้กระจกและวุ่นวายกับเสื้อผ้าที่เหมือนกับเขายังไม่โอเคกับมันสักเท่าไร
“โอเคครับพี่”
“โอเคนะ
เก๊กท่าหล่อๆนะฉันจะถ่ายเยอะๆ” ฮยอนซึงเริ่มการถ่ายขึ้น
วันนี้ที่สตูดิโอครึกครื้นขึ้นและมีการกระตือรือร้นในการทำงานมากเพราะหัวหน้าใหญ่อย่างยุนดูจุนที่วันนี้ออกตัวมาดูงานเองหลังจากที่พักฟื้นไปหลายอาทิตย์เขาเองไม่อยากเสียงานด้วยเขาเริ่มเองเขาก็จะทำเอง
ดูจุนไม่ปล่อยให้ฮยอนซึงเหนื่อยหรอกเขารักน้องชายเขายิ่งกว่าอะไร และอีกอย่างที่ทำให้ฮยอนซึงเองต้องยิ้มหน้าบานคือแฟนหนุ่มที่(น้อย)จะมาดูเขาทำงานและกลับบ้านพร้อมกัน
ไม่ทำงานก็ติดเที่ยวกับพวกรุ่นพี่ -.- หรือเพราะว่าเขามาดูอะไรหรือเปล่าน้า
“โอเคพอก่อนนะ
ดงอุนมาดูรูปถ้าไม่พอใจอันไหนบอกนะจะได้ถ่ายใหม่”
“ฮ่าๆ ร้านนี้ตามใจนายแบบจริง”
ฮยอนซึงส่งยิ้มหวานให้กับดงอุนพร้อมกับขยิบตาให้กับร่างโปร่ง
ดงอุนเองก็ส่ายหัวให้กับความน่ารักของฮยอนซึง
แต่ก็ดงอุนเองก็ต้องคอยระวังตัวเพราะมันมีรังสีอำมาหิตอยู่แถวนี้
“แหงแหละ” ดงอุนเดินเข้ามาดูรูปในคอมที่มียูอีและดูจุนคอยเปิดให้ดูอยู่วันนี้หน้าที่ของดูจุนคือมานั่งดูรูปและควบคุมงาน
ร่างสูงที่ยืนกินโค้กอย่างนิ่งเหลือบไปมองพวกคนที่อยู่หน้าคอม
แต่มีอยู่สองคนที่เด่นจริงๆคือดงอุนกับฮยอนซึง
มีจับแขนฮยอนซึงอีกยิ่งทำให้จุนฮยองอดที่จะหงุดหงิดไม่ได้..
“รูปนายมันโอเคหมดแหละ
ถ่ายชุดต่อไปได้แล้วน่า ช่างกล้องจะได้ไม่เสียเวลา” ฮยอนซึงบ่นดงอุนที่สังเกตแล้วสังเกตอีก
เพราะตัวเขาเองก็หล่ออยู่แล้ว
“ใช่นั้นแหละพี่
แต่ผมก็ต้องตรวจดูสิเพื่อภาพไหนผมออกมาแล้วไม่ดูดีแฟนๆผมก็หายหมดสิ”
“ฮ่าๆ ไม่หรอกน่าดงอุน
เดี๋ยวนายเตรียมถ่ายชุดต่อไปเลยส่วนรูปพวกนี้ฉันจะเอาให้ดูคืนนี้ที่ห้องแล้วกันนะ”
“โอเคเลยครับ” ดงอุนก็เดินไปทางห้องแต่งตัวเรียบร้อย
ฮยอนซึงเองยังคงดูรูปและพิจารณาต่อไป
“โอ้ะ
ฮยอนซึงเป็นไรกับดงอุนหรือเปล่าเนี่ยได้ยินนะ ฮ่าๆ” ทีมงานผู้ช่วยอีกคนนึงเอ่ยแซวขึ้นมาเพราะเขาได้คำว่า
‘เอาให้ดูที่ห้อง’
“อ๋อพอดีซึงนอนกับจุนฮยองน่ะ
เลยห้องเดียวกันกับดงอุน เอ้อพี่ยูอีฮะอย่าเพิ่งรูปอะไรออกล่ะกัน
พี่ดูจุนซึงรู้รูปนะพี่อยากทำอะไรมันคันไม้คันมือล่ะสิ” ฮยอนซึงบอกยูอีอย่างหน้าตาเฉยๆ
อารมณ์ยูอีเริ่มไม่ค่อยดีขึ้นมาล่ะ
ดูจุนเองก็อยากจะจับกล้องถ่ายรูปอยากจะถ่ายมัน
แต่เวลาจับมันรู้สึกเกร็งๆอย่างแปลกๆ
“เป็นไงบ้างพี่ดูจุน
รู้สึกสั่นมากไหม”
“ก็สั่นนะ
แต่ถ่ายก็ไม่มัวแล้วพี่จะกลับมาถ่ายได้ยังครับ” พูดจบมือหนาก็ลูบหัวทุยแดงของน้องชาย
“แล้วสีผมเมื่อไรจะไปเปลื่ยน”
“ ยังหรอกซึงชอบสีนี้ ยังไม่ให้ถ่ายขออีกสักหน่อยนะซึงกลัวพี่ฝืนแล้วจะเป็นหนักกว่าเดิม”
“เอาน่าพี่ไม่เป็นไรหรอกน่าซึง”
“พี่ไม่เป็นไรแต่ซึงสิเป็น!
พี่โยน่ะห่วงพี่มากเลยนะกลัวมือแขนพี่จะเป็นไรอีก” ดูจุนไม่ตอบกลับแต่แค่จ้องตาฮยอนซึงนิ่งๆเลยทำให้ฮยอนซึงใจอ่อนและยอมให้ถ่ายชุดต่อไปของดงอุน
แต่ในใจเขาก็เป็นห่วงพี่ชายเขาอยู่ดี
การถ่ายรูปครึกครื้นไปยิ่งขึ้นเมื่อดูจุนได้ลงทำงาน
ดูจุนรู้เรื่องการถ่ายรูปมากกว่าฮยอนซึงแต่ไม่ใช่ว่าฮยอนซึงถ่ายรูปไม่สวย
ดูจุนเขามีทักษะมากกว่า
“ดงอุน” ดูจุนเอ่ยเรียกดงอุนที่เหมือนจะคิดท่าโพสไม่ออกเสียแล้ว
“ครับพี่ดูจุน”
“ท่าโพสนายหมดสินะฮ่าๆ” ดูจุนมองท่าแต่ล่ะที่ดงอุนถ่ายเหมือนไม่รู้จะไปอย่างไง
“เอางี้สิ
โพสถ้าตามท่าเต้นแล้วกัน โอเคนะ”
“จัดไปพี่” ดงอุนก็เริ่มโพสท่าต่างๆลงไปมันมีท่าแปลกใหม่
ร่างบางที่มองดงอุนและยิ้มไปด้วยทำให้ร่างสูงที่มองอยู่ต้องเดินไปกระซิบข้างหู
“หมายความว่าไง หืม มองอย่างนั้น”
เมื่อจุนฮยองพูดเหมือนแสดงความหึงออกมาทำให้ฮยอนซึงขำ
“ฮ่าๆ นายคงหึงสินะ
..พี่จีฮยอนคฮะฝากดูงานด้วยฮะนะ” ร่างบางหันไปหาทีมงานอีกคนที่ดูรูปอยู่คอมเหมือนกับยูอี
“โอเคเลยจ๊ะ”
“ถ้าพี่ดูจุนเขามีท่าทางแปลกๆให้พี่ยูอีเปลื่ยนถ่ายรูปด้วยนะฮะ”
“แล้วเขาหายแล้วหรอ”
“ยังหรอกฮะ พี่ดูจุนฮะดื้อจะตาย
งั้น…ซึงไปแล้วนะฮะ”
“จ้า” ฮยอนซึงก้มหัวให้กับทีมงานคนนั้นเพราะเขารุ่นเดียวกับดูจุน
“ฮยอนซึงจะไปไหนน่ะ” ร่างบางก้าวขาเร็วๆเหมือนราวกับวิ่งทำให้ร่างสูงที่เดินตามต้องเอ่ยถาม
ทำให้ร่างบางหยุดและหันมาคุยและยิ้มหวานใส่ จุนฮยองเกลียดรอยยิ้มฮยอนซึงที่สุดเลย
“
วันนี้ที่นายบอกว่าจะมารอฉันไปกินข้าวด้วยกันใช่ม่ะ..จะมารอฉันกินข้าวหรือมาเฝ้าฉันให้ห่างจากดงอุนกันแน่
นายมันตลกชะมัดและปากแข็งสุดๆด้วย”
“นายก็ทำให้ฉันปากอ่อนสิ” ร่างสูงยิ้มเจ้าเล่ห์และเดินเข้าไปใกล้ร่างบางอีก
“บ้า จุนฮยองจอมขี้หึง
ไปกินข้าวกันเถอะหิวแล้ว” ฮยอนซึงแลบลิ้นใส่ร่างสูงและเดินไปควงแขน
“นายก็ขี้หึงไม่ใช่เล่น
ตอนที่ไปเกาะเซจูแมวตัวไหนนะที่มันเดินบ่นคนเดียว ฮ่าๆ”
“ย๊า ยงจุนฮยอง! หืออกัดหูแม่ม”
ฮยอนซึงกระโดดจะงับหูจุนฮยองแต่จุนฮยองก็หลบๆแล้วขำ
“อ่ะแฮ่มๆ!” ร่างเล็กเดินมาพร้อมกับอ่ะแฮ่มแซวคนสองคนที่ยืนเล่นกันอยู่ “หวานกันจังเลยนะ อะไรเนี่ยอิจฉาสุดๆ”
“ฮ่าๆ อะไรกันพี่โย
ใครเป็นแฟนพี่ดูจุนน่ะหน้าอิจฉาที่สุดแล้วไม่เจ้าชู้ด้วย” คำว่าเจ้าชู้ถูกกระแทกใส่จุนฮยอง
“ฮ่าๆอย่าทะเลาะกันสิ แล้วนี่..เลิกงานแล้วหรอ ดูจุนล่ะ?” เมื่อโยซอบทักถึงดูจุน
เขาเองลืมไปสนิทเลยว่าโยซอบอยากให้ดูจุนพักเรื่องงานไปก่อน
แต่เจ้าตัวดันทำไปแล้วคงไม่ทันแล้วมั้ง
“เอ่อ…พี่ดูจุนอยู่ข้างในน่ะฮะ
ซึงไปก่อนนะฮะ” ฮยอนซึงรีบลากจุนฮยองออกมา
ถ้าเขาไม่รีบออกมาอาจจะโดนบ่นทางอ้อม -.- เพราะโยซอบยังคงไม่อยากให้ดูจุนทำงานอยากให้พักอีกสักหน่อย
“ห๊ะ อย่าบอกนะดูจุนทำงานหรอ” โยซอบรีบวิ่งเข้าไปตรงที่ถ่ายรูปและดูเหมือนว่าการถ่ายเสร็จหมดเรียบร้อยแล้ว
“ดูจุนอา...” ดูจุนที่ในมือถือกล้องและดูรูปในหน้าจอคอมอยู่
เงยหน้ามามองเสียงเล็กที่คุ้นเคยทำให้เขาตกใจนิดหน่อย
“อ้าวโย” ดูจุนทำตัวเหมือนปกติ
“จะมาแล้วทำไมโทรไม่บอกล่ะ”
“โยโทรไปแล้วแต่ดูจุนไม่รับน่ะเลยขับรถมาดูที่ร้าน..แล้วนี้ดูจุนทำงานได้แล้วหรอ”
ทุกคนตอนนี้จับจ้องไปที่แฟนของดูจุนที่บางคนก็ยังไม่รู้ว่าโยซอบคือใคร
“ยูอีเดี๋ยวเอาแมมใส่กล้องแล้วเอามาให้ฉันที่ห้องทำงานด้วยนะ”
“เออค่ะๆ” ยูอีตอบมาอย่างนั้นดูจุนเองก็ไม่ได้ว่าอะไรเขาเห็นยูอีเป็นเพื่อนสนิทเหมือนกันร่วมงานกันมาตั้งนาน
ทั้งสองเดินเข้ามาให้ห้องทำงานเงียบๆมันดูเหมือนห้องเก่าๆรกๆนิดหน่อยเพราะไม่มีคนมาทำความสะอาดให้ฮยอนซึงเองก็ไม่ค่อยชอบทำความสะอาดเท่าไรมีแต่ดูจุนเป็นคนทำ
ดูจุนไม่ได้มาทำงานนานเลยทำให้ห้องดูรกๆหน่อย
“เฮ้ย..ฮยอนซึงคงไม่ได้ทำความสะอาดเลยหรอเนี่ย”
“ดูจุน…ดูจุนหายแล้วหรอถึงได้ไปทำงานน่ะ”
ดูจุนเดินเข้าไปจับโยซอบมายืนระหว่างขาของเขาสองข้างและก้นเอานั่งพิงกับขอบโซฟาหรูและมือหนาค่อยๆไปโอบเอวเล็กของร่างเล็ก
“ลองทำก็รู้แล้วว่ามันหาย ก็…มีความสุขที่ได้จับมัน” ดูจุนดึงมือข้างซ้ายออกมามอง
“มันก็แค่สั่นเมื่อยแต่มันยังคงใช้งานได้
พักฝืนมานานมากแล้วและดูจุนคิดว่ามันหายดีแล้วโยเห็นม่ะลองจับสิ” โยซอบมองนั้นและไปจับมือหนา ร่างสูงได้จังหวะได้ไปจุ๊บปากร่างเล็ก
จุ๊บ!
“อ่ะ! ดูจุนขโมยหอมไม่พอขโมยด้วยจูบหรอ”
ร่างเล็กแก้มเริ่มแดงเพราะความเขินที่ดูจุนจู่โจมเขาอย่างนั้น
“เขาเรียกว่าจุ๊บ ต่างหาก”
ดูจุนยังคงนั่งขำเมื่อได้แกล้งโยซอบ
โยซอบเองก็หน้าร้อนจนต้องใช้มือขึ้นพัดหน้า
“ดูจุนเสร็จ..รบกวนเปล่าเนี่ย”
“อ่อไม่หรอกฮะคุณยูอี”
“ไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณหรอกค่ะเรียกยูอีเฉยๆก็พอเราอายุเท่ากันนิ”
ยูอียิ้มอย่างเป็นมิตรให้กับโยซอบ
“อ่อฮะ”
“อ่ะดูจุนกล้อง
แล้วนี่นายกลับมาทำงานแล้วใช่ม่ะ….โอเค!ดีมากหัวหน้าที่รักฉันไปล่ะ
แล้วฮยอนซึงกลับไปแล้วหรอ”
“อื้ม จุนฮยองพากลับน่ะ
ปิดร้านให้ด้วยนะ”
“รู้แล้วน่ามันต้องเป็นหน้าที่ฉัน
…ไปก่อนน่ะค่ะ” ยูอีหันมาบอกลาโยซอบ
โยซอบก็ก้มหัวให้นิดหน่อยและเธอเองก็ทำเหมือนกัน
ยูอีไม่ใช่คนร้ายกาจอะไรแต่แค่เธอรู้สึกว่าชอบจุนฮยองมากจนอยากได้มาเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเพราะคราวนั้นที่ได้เลี้ยงเนื้อย่างกันเธอได้นั่งข้างจุนฮยองและรู้สึกคุยกันถูกคอเลยทำให้โดนคนนี้จริงๆ
……………………………………………………………………………
ชีวิตในวงการของเขาต้องทำตัวลับๆอย่างตลอดเวลาเดินไปตามท้องถนนก็ต้องมีหมวกกับแว่นใส่ปิดบังหน้าตลอดเวลาเพื่อไม่ให้ใครจำเขาได้
เขาเลือกที่ต้องทำอย่างนั้น แต่เขาไม่เลือกอีกอย่างหนึ่งคือการโดนกักขัง เขาอยากจะใช้ชีวิตอย่างสบายเมื่อลงจากเวทีแล้ว
ตอนนี้เขาก็เหมือนผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งที่ไม่ได้โด่งดังอะไร
“เฮ้ย..นานเท่าไรแล้วที่ไม่ได้เดินออกมาอย่างนี้กลางดึก”
ดงอุนมองไปรอบๆตอนนี้เป็นเวลาสองทุ่มครึ่งแล้วร้านฮีชอลยังไม่ปิดเขาเลือกที่จะไปที่นั่น
“เดี๋ยวนายทำข้อนี้ได้แล้วเดี๋ยวเลี้ยงน้ำแก้วนึงเลย”
เมื่อดงอุนเข้าร้านมาก็เจอกีกวังนั่งคุยอยู่กับเด็กผู้ชายที่ใส่ชุดนักเรียน
ดงอุนเลยเลือกที่จะเดินไปเคาเตอร์และมองเมนูว่าจะกินอะไรดี
“โหยจริงดิพี่
ฮ่าๆเดี๋ยวผมจะทำมันให้ถูก”
“แต่ถ้าไม่ถูกนายต้องทำข้อนี้จนกว่าจะได้และช่วยพี่ล้างจาน”
“หนักไปป่าว”
“ทำไปเลยอึนกวัง” กีกวังเห็นว่ามีลูกค้าเข้ามาและตรงไปที่หน้าเคาเตอร์เรียบร้อย
กีกวังจึงเดินไปที่หลังเคาเตอร์และทำหน้าที่ของตัวเองเช่นเดิม
“สวัสดีฮะรับอะไรดีฮะ?” เมื่อกีกวังเห็นร่างโปร่งยืนมองนู่นนี้อยู่ กีกวังรู้ดีว่าใต้แว่นนั้นคือใคร
“พี่จำผมได้ไหม?”
“ซนดงอุน ทำไมจะจำไม่ได้แว่นหมวกไม่ช่วยอะไรเลย”
“งั้นวันหลังผมจะใส่วิกนะครับ”
ดงอุนส่งยิ้มกว้างให้กับกีกวังแต่กีกวังต้องกั้นยิ้มเพื่อไม่ให้มันออกทางสีหน้าเป็นอันขาด
“ฉันจะแกล้งทำเป็นไม่รู้ว่านายเป็นนักร้องนะ
รับอะไรดีฮะ?” กีกวังยังคงเล่นต่อไปทำให้ดงอุนหลุดขำเมื่อเห็นความน่ารักของกีกวังออกมาเขาเลยเล่นด้วย
“เอาชาเขียวปั่นครับ”
“โอเคฮะ เชิญนั่งได้ตามสบายฮะ ลูกค้าไม่ค่อยมีแล้ว”
“โอเคครับ” กีกวังฟังจบก็หันหลังเดินไปตรงเคาเตอร์เพื่อทำชาเขียวให้กับดงอุน
ดงอุนเห็นเด็กผู้ชายที่เอาแต่นั่งจ้องกระดาษและก็เหมือนจะทดเลขอยู่เขาเลยไปนั่งข้างๆเด็กคนนั้น
“เอ่อ..แฮะๆ” อึนกวังยิ้มแห้งให้กับร่างโปร่งที่สวมแว่นดำและหมวกปกปิดใบหน้าอยู่
“เอาตัวนั้นมาหารกันสิ” ดงอุนชี้ตัวเลขที่อึนกวังมองๆอยู่ เขาเลยทำตามอย่างที่ดงอุนพูด
5นาที…
“ได้แล้วฮะคุณลูกค้า” ดงอุนเงยหน้ามามองร่างเล็กที่เอาชาเขียวมาให้เขา
“ขอบคุณครับ” ดงอุนหยิบขึ้นมาดูดและมองอึนกวังทำการบ้านต่อ
“นี่
นายจะนั่งตรงนี้ตลอดเลยหรือไง ห๊ะ” กีกวังเอ่ยบ่นเพราะเขาให้น้ำดงอุนไปแล้วแต่ดงอุนก็ยังคงไม่ไปไหน
“เสร็จแล้วพี่! ถูกแน่ๆ” อึนกวังพูดแทรกขึ้นมาเลยทำให้ดงอุนรอดจากการแก้ตัวว่าเขาน่ะอยากนั่งอยู่ตรงนี้ต่ออีกสักพัก
“อือ…….หือ?...อะไรเนี่ย..” กีกวังมองกระดาษที่น้องชายเขาตอบมาผลมาออกมามัน…
“นายทำผิดแล้วอึนกวัง เฮ้ย…ถ้านายยังไม่ไปเรียนพิเศษนายคงไม่ได้เข้าเรียนมหาลัยโซลอย่างฝันไว้หรอกนะ”
อึนกวังไม่สบตาพี่ชาย สิ่งแรกที่เขาไม่เลือกเรียนพิเศษคือ
เงินจะไม่พอใช้แม่ก็ไม่สบายต้องเก็บเงินไปรักษาแม่ ไหนจะต้องค่าใช้จ่าย ค่าเทอมอีก
“ผม…ไม่อยาก..เป็น..ภาระให้พี่ไง”
กีกวังได้ยินคำนั้นก็เงียบไปสักพัก เขาไม่เคยเห็นน้องชายเขาเป็นภาระเลยสักนิดเพราะอึนกวังน่ะเป็นที่พึ่งสุดท้ายให้แก่เขา
“เหอะ..อึนกวังนายพูดอะไรของนาย ตอนนี้นายสำคัญที่สุดนะ
พี่ให้เงินนายไปเรียนพิเศษให้หมดดีกว่าเอาให้พ่อนะ
ปีที่สุดแล้วอึนกวังไหนนายอยากทำเหมือนพี่ไง…” ดงอุนที่นั่งเป็นคนนอกอยู่เขารู้สึกว่าทุกอย่างเริ่มไม่ดีแล้วเขาเลยลุกขึ้นและคว้าข้อมือกีกวังออกมา
“เอาเป็นว่า..น้องชายไว้พี่จะมาสอนให้กับนายล่ะกันนะโอเค?”
อึนกวังพยักหน้าอย่างเข้าใจและดงอุนก็พากีกวังออกจากร้าน
“เฮ้ย…ผมมันเรียนไม่เก่งนิพี่ถ้าผมได้เชื้อพี่มาเยอะก็คงไม่ตกเป็นที่ลำบากของใครในบ้านเราหรอก…พี่ชายคนนั้นบอกแค่นิดเดียวเองถ้าพี่บอกต่อผมก็ทำถูกแล้ว”
หลังจากที่กีกวังไปทำน้ำปั่นให้เขา
ดงอุนที่เห็นอึนกวังยังงงอยู่ก็เลยบอกไปว่าต้องทำไง
“เอาตัวนั้นมาหารสิ”
“ครับ…แล้วอย่างไงต่อแฮะๆ^^”
อึนกวังแกล้งเนียนให้ดงอุนสอนแต่ดงอุนกลับไม่ได้ทำอย่างนั้น
“ฉันได้ยินที่นายคุยกับพี่กีกวังนะฉันคงบอกได้แค่นิดเดียวลองทำด้วยตัวเองสิมันประเมินตัวเองได้เลยนะ”
“ขอบคุณพี่มากเลยครับผมรู้แล้วว่าตัวเองเรียนแย่แค่ไหน
….” อึนกวังบ่นบ่นพึมพํากับตัวอย่างเซ็งๆ
“ย๊า! อึนกวัง” ฮีชอลเดินออกมาอยู่หลังร้านออกมาตะโกนดังลั่นคล้ายๆกับอารมณ์เสียไรบ้าง
เมื่อได้ยินเสียงนั้นอึนกวังรีบลุกขึ้นและขานรับ
“คะ…ครับพี่”
“นายมาช่วยฉันหน่อยสิ เร็วๆเลย”
“อ่า..พี่ไม่เคยเป็นแบบนี้นิ”
“กำลังหงุดหงิดอย่างสูงมาก”
ฮีชอลกัดฟันพูดอย่างหงุดหงิด
“ฮ่าๆ พี่ซัมดีหรอครับ?”
“รู้มากจริง พี่ชายนายไปไหนล่ะ”
ฮีชอลมองรอบร้านแล้วไม่เห็นมีกีกวังจึงเอ่ยถาม
“เอ่อ..มีผู้ชายใส่หมวกใส่แว่นตาสีดำลากพี่กีกวังไป..แต่เหมือนรู้จักกันนะครับ”
ฮีชอลทำท่าคิด..และเขาก็นึกออกจนได้
“อ๋อ
นายไม่ต้องสนใจอะไรหรอกมาช่วยฉันทำความสะอาดดีกว่า ><” อึนกวังก็เดินตามฮีชอลไปหลังร้าน
ทั้งจุนฮยองดงอุนเลยเป็นอะไรกับคนร้านเขามากไหมเนี่ย
.
.
.
“นายลากฉันออกมาทำไมเนี่ย”
กีกวังเอ่ยถามอีกรอบอย่างจริงจังเพราะตลอดทางก็ไม่มีคำตอบอะไรเลย
“พี่ดูดุน้องพี่จังเลยนะ”
“ฉันเปล่าดุสักหน่อย
ฉันแค่ไม่อยากให้เขาต้องมาทุกข์เรื่องการใช้จ่าย….” แค่เขาคิดเพียงคนเดียวก็เกินพอแล้ว
“น้องพี่เขาก็ไม่อยากให้พี่ชายเขาทุกข์เหมือนกันเลยเลือกที่จะพยายามตัวด้วยเอง”
ดงอุนพูดแทรกขึ้นมาทำให้กีกวังเงียบไป เขาไม่มีความสุขเลยสักครั้งเงินที่จะให้น้องไปกวดวิชายังไม่มี
“พี่เรียนเคยเรียนกวดวิชาหรือเปล่า”
“อ่อ..เอ่อ..เคยสิ”
“แล้ว..พี่เรียนจบจากไหนหรอ”
“มหาลัยโซล” ดงอุนถึงกลับตาโตทันทีที่กีกวังเรียนมหาลัยโซลแสดงว่ากีกวังต้องเรียนเก่งสุดๆเลยแน่
“โอ้วพี่เข้าได้ไงหรอครับ”
“เอ้า
ก็สอบไง..แล้วนี่จะถามประวัติไปชิงของรางวัลหรือไงไม่เห็นจำเป็นเลย” มันไม่ใช่อารมณ์ที่กีกวังอยากจะตอบคำถามเหล่านี้เลย
“โอ้โห ! พี่เจ๋งซะมัดเลยอ่ะ
พี่ต้องเรียนเก่งแน่นอนใช่ไหมเนี่ยครับ”
“เอ่อ..ไม่รู้สิ” กีกวังตอบไม่ได้หรอกว่าเขาเก่งหรือไม่เก่ง
เพราะมันมีอีกมากมายหลายคนที่เก่งมากกว่าเขา
“แล้วพี่เรียนคณะอะไรหรอครับ”
“คณะศิลปกรรมศาสตร์”
“หือ..แสดงว่าพี่ชอบออกแบบใช่ไหม”
“อือ ตอนเรียนมัธยมฉันฝันไว้ว่าอยากเป็นออกแบบแฟชั่นเองและมีแบนเป็นของตัวเองแต่มันก็เป็นไม่ได้แค่ฉันได้เรียนมหาลัยโซลก็ดีแค่ไหนแล้วฉันต้องขอบคุณโรงเรียนกวดวิชานั้นจริงๆถ้าไม่ได้ตรงนั้นฉันแย่เลย”
“ฮ่าๆไม่หรอกครับพี่ต้องขอบคุณตัวเองดีกว่าที่มีพรสวรรค์เรียนเก่ง
ขนาดผมเรียนกวดวิชาอะไรมันก็ไม่มีซึมซับไปที่หัวผมเลยแสดงผมเรียนไม่เก่ง”
“อะไรกันเนี่ย
ฮ่าๆแล้วตอนนี้นายเรียนที่ไหนหรอฉันยังไม่รู้เลย”
“พี่ไม่ได้สนใจเกี่ยวกับประวัติผมเลยสิเนี่ย
เป็นแฟนคลับอะไรเนี่ย น่าน้อยใจซะมัด” ดงอุนแกล้งทำเป็นน้อยใจและเอาเท้าเขี่ยพื้นเล่น
“เอ่อ..ไม่ใช่สักหน่อย
ฉันชอบนายไงถึงได้เป็นแฟนคลับ ตะ..แต่ในเน็ตมันไม่บอกนิ นายอย่าขี้งอนเป็นเด็กสิ”
กีกวังไปตบบ่าดงอุนเบาๆ ดงอุนเลยส่งยิ้มละลายใจมาให้กีกวังจนกีกวังอยากจะบีบคอตัวเองตาย
โอ้วม่ายยยนายอย่าทำอย่างนี้ T_T
“พี่กีกวังครับ” ดงอุนเขย่าร่างเล็กที่กำลังเหม่อลอยอยู่
“อ่ะ เอ่อ..นายเรียนไหนล่ะ”
“ผมเรียนคอนกุ๊กคณะนิเทศสาขาภาพยนต์น่ะ”
“อ่อ..นายชอบหรอ”
“ครับผมอยากเป็นผู้กำกับและอยากเป็นนักร้องด้วย
ตอนแรกผมอยากเรียนโซลแต่ไม่เอาดีกว่าไม่ติดเดี๋ยวมานั่งร้องไห้ที่หลัง” ดงอุนฝันสูงมากไปแต่ก็ไม่มั่นใจอยู่ดี
“ฮ่าๆ นายยังคงเป็นเด็กอยู่สินะ”
“เห็นผมหน้าแก่แต่นิสัยผมยังเด็กนะ” ดงอุนยิ้มให้กับกีกวัง
ความจริงเวลาที่ดงอุนได้คุยกับกีกวังเขายิ้มตลอดเวลาเลย
“ฮ่าๆนายว่าตัวเองทำไมเนี่ย
ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกน่า นายน่ะหล่ออยู่แล้ว” ดงอุนยิ้มและเดินไปสักพักก่อนเอ่ยอะไรบางอย่าง
“พี่อย่าทำงานนั้นเลยนะ”
“หือ?งานไหน”
กีกวังงงกับสิ่งที่ดงอุนพูด
“ผมแค่..ไม่อยากให้พี่ทำงานที่คลับ”
“ทะ..ทำไม”
“มันไม่ดีนะ อันตรายด้วย เอางี้นะครับ
ผมมีงานให้พี่ดีๆกว่านี้ด้วย พรุ่งนี้สิบโมงเจอกันที่หน้าค่ายผมนะพี่ไปรอที่คาเฟ่นะครับ
ส่วนเรื่องเรียนพิเศษน้องชายพี่เดี๋ยวผมจะช่วยเอง ผมไปล่ะนะ พี่กลับบ้านดีๆนะครับ”
ดงอุนก้มหัวให้กีกวังและโบกมือบายๆให้และเขาก็เดินจากไป กีกวังเขาเป็นคนน่ารักและนิสัยดี
ดงอุนเห็นครอบครัวของกีกวังลำบาก..เขาอยากจะช่วยเท่านั้นเองแต่ก็ไม่รู้ทำไม
“อะไรของนายเนี่ยดงอุน” ร่างเล็กหันหลังและเดินกลับไปร้านฮีชอลเหมือนเดิม
หัวใจของเขามันเริ่มเต้นแรงอีกแล้ว และมันเป็นทุกครั้งที่เขาอยู่ใกล้ดงอุน
กลางดึก..
ร่างบางที่นอนอยู่อย่างสงบก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะฝันอะไรแปลกๆ
แต่เขาเองก็จำไม่ได้…
“Girl, you’re so hypnotizing, นา
นาล อี รี จอ รี ชับ โก ฮึน ดึล จี เน อัพ
เพ คือ แด นึน มาชี นาล คา โร อุน กด กัด ดา ชัง มี นุน นี มอล กอด กัด ทา อา รึม
ดับ จี Woo Woo Woo You know that
I love you, I love you เยส”
“หือ?” ร่างบางมองร่างสูงที่อยู่ดีๆก็ตื่นขึ้นมาแร๊ปกลางดึก
“ฮ่าๆ
นายคงจะทำงานหนักแน่เลยเนี่ย ฮ่า” ร่างบางยังคงขำไม่หยุดเมื่อเห็นจุนฮยองละเมอแร๊ปออกมา
…………………………………………………………………………
เช้านี้ที่ยังคงมีหิมะตกอยู่แต่อากาศหนาวมาก
ฮยอนซึงกลับไม่เคยคิดว่ามันหนาวเขาอุ่นทุกครั้งเมื่อมีจุนฮยองอยู่ใกล้
“อ่ะ จุนฮยองน้ำหอมหมดน่ะ”
“อือ” เขาแค่ตอบอือและแต่งเพลงต่อไป
ฮยอนซึงคิดดีหรือเปล่าเนี่ยมีแฟนเป็นนักแต่งเพลง จุนฮยองหมกกับงานเกินไปแล้ว
ฮยอนซึงเดินเข้าไปใกล้ๆและหยิบกระดาษนั้นขึ้นมาดู
“Black Black Black white? เพลงของใครกัน”
“ของจีน่า”
“เมื่อไรเสร็จเนี่ย อยากไปห้าง
น้ำหอมหมดของใช้หมดด้วย”
“ทำงานก่อนเดี๋ยวค่อยไป” จุนฮยองบอกปัดๆไปและนั่งคิดเนื้อเพลงต่อ
“หือ ชิ เล่นหิมะตรงระเบียงดีกว่า” ฮยอนซึงวิ่งอยากเป็นเด็กและโยนหิมะเล่น
จุนฮยองเห็นก็แอบยิ้มเมื่อเห็นความน่ารักของฮยอนซึง ตลอดเวลาที่ผ่านมาที่เขาแต่งเพลงได้หลายเพลงก็เพราะมีฮยอนซึงอยู่ข้างๆ
.
.
.
ดงอุนที่ห้องทำการบ้านอยู่ในห้องเพื่อไม่ให้ได้ยินเสียงฮยอนซึงกับจุนฮยองเล่นกันเขาก็ไม่อยากได้ยินเลยหยิบหูฟังขึ้นมาเปิดเพลงและทำการบ้างค้างๆไว้ก่อน..
“หือ?” เขานึกอะไรขึ้นมาได้และยกดูนาฬิกาตอนนี้เป็นเวลา
9โมงครึ่งแล้ว
“เฮ้ย! นัดกับพี่กีกวังไว้นี่หว่า”
ดงอุนคว้าเสื้อกันหนาวพรอ้มสวมรองเท้าและวิ่งออกไปเขาเชื่อว่ากีกวังต้องมาตามนัดเขาแน่นอน
“จะไปอยู่ไหม” จุนฮยองหันไปถามร่างบางที่นอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนที่นอน
“อ่าไปสิ
นายแต่งเพลงนายเสร็จแล้วหรือไง” จุนฮยองพยักหน้าและหยิบเสื้อโค้ดมาใส่และคว้ากุญแจรถออกมา
หลังจากไปห้างเสร็จเข้าบริษัทด้วยนะ”
จุนฮยองบอกฮยอนซึงก่อนไป
เพื่อว่าคนสวยไม่อยากไปแล้วจะไปโวยวายที่นั่น
“เข้าใจแล้วน่า”
………………………………………………………………………
@Cute Ent.
“อ่า! กีกวังนายทำอะไรที่เนี่ย
มันเป็นที่ที่นายไม่ควรมารู้ไหม เฮ้ย..ฉันดันเคยไปพูดไม่ให้เขาช่วยเหลือ ฉันมันผิดสัญญาจริงๆเลย”
กีกวังทุบหัวตัวเองและหันหลังเดินออกมา
“พี่กีกวังครับจะไปไหนครับ”
ร่างโปร่งสูงยิ้มกว้างเมื่อเห็นกีกวังมาตามที่บอกไว้
“เอ่อ..ฉัน..ฉะ..ฉัน..กำลังจะเข้าไป
แฮะๆ ^^” กีกวังยิ้มแห้งๆและชี้ไปตรงประตู
“งั้นเชิญเข้าข้างในครับ”
ดงอุนเดินนำทางไปเข้าไป ข้างหน้าจะมีร้านกาแฟหรือว่าทคาเฟ่ร้านน่ารักซะมัด
และจะมีทางเข้าเข้าไปในตัวตึกแต่ต้องมีบัตรผ่าน
ดงอุนหยิบบัตรออกมาจากกระเป๋าและแตะมันกับที่สแกน
“เอ่อ..นายให้ฉันมาทำไรที่นี่หรอ”
“ทำความฝันให้พี่ไง”
“ห๊ะ..อะ..อะไรนะ?” กีกวังอยากจะได้ยินอีกครั้งให้แน่ใจ
“พี่ฟังไม่ผิดหรอก
ผมเห็นพี่เป็นพี่ชายคนนึง วันที่พี่จะเดินข้ามถนนและเกือบรถชน
ผมได้รู้อะไรเกี่ยวกับพี่ผมแค่อยากจะช่วยเหลือพี่ด้วย
อีกอย่างมันยังว่างอยู่ตำแหน่งนี้”
“โอ้ว แต่..ฉันขอบคุณนายมากนะ
พี่ฮีชอลแค่โกธรฉันแน่ๆเลยถ้า...”
“ผมเชื่อว่าพี่ฮีชอลเข้าใจผม
ไปกันเถอะครับ” ดงอุนคว้าข้อมือเล็กและวิ่งขึ้นบันไดไปเพื่อประหยัดค่าไฟของบริษัท
……………………………………………………………………………..
@ห้างxxxx
หลังจากที่ซื้อของเสร็จแล้ว
ฮยอนซึงอยากเข้าร้านหนังสือเพราะร้านหนังสือนี่แหละสงบและมีแต่หนังสือน่าอ่านปละน่าสนใจทั้งนั้น โดนมีแฟนหนุ่มเดินตามมาด้วยหน้านิ่งๆ
“ไม่อยากมาหรือไงยิ้มหน่อยสิยงจุนฮยอง”
จุนฮยองยังไม่ทันได้ตอบและมือสาวน้อยสองคนเดินเข้ามาสกิดไหล่จุนฮยอง
“ครับ?”
“พี่จุนฮยองใช่ไหมคะ เอ่อ..ฉันเป็นแฟนคลับพี่นะคะขอถ่ายรูปหน่อยได้ไหมคะ
?” จุนฮยองหันไปสบตาฮยอนซึงคล้ายๆเหมือนขออนุญาติ
ฮยอนซึงยักไหล่ความหมายก็คืออยากทำอะไรก็ทำ จุนฮยองเลยตอบตกลงไป
ฮยอนซึงเองเลยเดินจากตรงนั้นและตรงมาที่หนังสือบ้าน
“อ่าอยากได้บ้านสักหลังจัง”
“ซื้อให้ไหม?” ร่างสูงเดินเข้ามากระซิบที่ข้างหู
แต่ฮยอนซึงไม่ได้มองหน้าตาเอาแต่ดูหนังสือบ้านอย่างเดียว
“คุณคือใครฮะ?” ฮยอนซึงแกล้งทำเนียนไม่รู้จักจุนฮยองเพราะเขาเห็นว่าแฟนคลับจุนฮยองแอบมองอยู่
“อ่า คุณโปรดิวเซอร์ยงจุนฮยองนี่เอง
สวัสดีฮะผมช่างกล้องฮยอนซึง รู้สึกว่าแฟนคลับคุณจะเยอะนะฮะ”
“หึ เล่นไรของนายเนี่ย” จุนฮยองยิ้มมุมปากกับสิ่งที่ฮยอนซึงทำ
“ก็ทำเนียนไง”
“หึ ติ๊งต๊อง” มือหนายีหัวทุยแดงจนฟู “นายก็มีตังไม่ใช่หรือไงทำไมไม่ซื้อบ้านล่ะ
เวลาคนจ้างถ่ายงานทั้งทีเนี่ยได้เยอะไม่ใช่เล่นเลย”
“อือก็จริง แต่ยังไม่พร้อมน่ะ
เก็บให้ได้เยอะกว่านี้แล้วกัน อ่า..ฉันลืมบอกนาย”
“หือ เรื่อง?” ร่างถามกลับโดยที่ไม่ได้มองหน้าคนรัก
เพราะเขาเองก็หยิบพวกหนังสือตกแต่งบ้านขึ้นมาดูเช่นกัน
“นายอย่าทำงานหนักมากนักสิ
จนต้องละเมอแร๊ปน่ะ ฮ่าๆ ยงจุนฮยองละเมอแร๊ป แบร่ โย่วๆทั้งคืนเลยอ่ะ ฮ่าๆ”
ฮยอนซึงวิ่งหนีจุนฮยองก็วิ่งตามจะไปปิดปากเพราะฮยอนซึงเอาแต่พูดยงจุนฮยองละเมอแร๊ป
“ย๊า นายมันชอบทำร้ายฉันชะมัดเลย”
จุนฮยองพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดขมวดคิ้วอย่างเซ็ง
“ฮ่าๆ เปล่าสักหน่อย
แต่มันตลกจริงๆนึกทีไรแล้วขำนายมันเหมือนคนเมามาก” ฮยอนซึงขำไม่หยุดจุนฮยองกอดคอร่างบางแน่นและกระซิบข้างหู
“อยากโดนปิดปากตรงนี้หรือไง หือ?”
ฮยอนซึงรู้ว่านั้นมันหมายถึงอะไร
“บ้าเลิกพูดเลยจะไปบริษัทไม่ใช่หรือไงห๊ะ
เร็วๆสิ” ฮยอนซึงรีบวิ่งหนีไปเลย หน้าเริ่มร้อนด้วยความเขิน
จุนฮยองเล่นไม่เป็นที่อีกแล้ว
…………………………………………………………………………..
ดงอุนเดินนำร่างเล็กมาและหยุดตรงหน้าห้องที่เขียนว่า
‘สไตล์ลิสต์’ และเขาเปิดประตูเข้าไปเจอคนมากมายอยู่ในห้องนั้น
และทุกคนกำลังจับจ้องมาที่เขา
“สวัสดีครับ พี่ชินเฮอยู่ไหมครับ?”
สาวสวยที่ดงอุนกำลังตามหาอยู่นั้นชะโงกหน้าออกมาหลังฉากที่กั้นอยู่
“อ่ะอ่า ว่าไงน้องชาย” ชินเฮเดินออกมาจากหลังฉากและตรงมาหาร่างโปร่ง
“พี่ฮะ
เรื่องที่พี่บอกว่าสไตล์ลิสต์ขาดไปคนหนึ่งน่ะครับผมหาคนได้แล้วครับ” ดงอุนพูดและดันตัวกีกวังไปข้างหน้า
“อ่อใช่ยุนอาเขาขอลาออกไปอยู่กับครอบครัวน่ะ
คนนี้ใช่ไหม?” ชินเฮหันมายิ้มกว้างให้กีกวัง กีกวังก็ยิ้มแห้งๆกลับไปอย่างเขินๆ
“ใช่ครับ
จบศิลปกรรมศาสตร์มหาลัยโซล จบที่เดียวกับพี่เลย”
“โอ้วจริงหรอ ดีเลยพี่จะต้องไม่ทำงานหนักคนเดียว
แล้วชื่อไรจ๊ะ ?”
“กีกวังฮะ” กีกวังแนะนำตัวเสร็จก็โค้งให้กับคนสวยที่อยู่ตรงหน้า
“อ๋อยินดีที่ได้รู้จักจ๊ะ
พี่คิมชินเฮ อายุ 25 แล้วนะ
ฮ่าๆแล้วเอาพวกใบอะไรมาสมัครงานหรือเปล่า”
“เอ่อ..เปล่าฮะผม..”
“งั้นเอาเป็นว่านะพี่ชินเฮ
วันนี้พี่จะให้พี่กีกวังทำอะไรก็สอนไปแล้วกันพรุ่งนี้จะเอาใบพวกนี้มาให้แล้วจะไปหาประธานทีหลัง
งั้นผมฝากด้วยนะดูแลดีๆ” กีกวังทำจะเอ่ยปากพูดแต่ดงอุนพูดแทรกขึ้นก่อน
“พี่ไม่ต้องห่วงเรื่องร้านพี่ฮีชอลผมจัดการให้ ไปล่ะครับ”
ดงอุนก้มหัวให้ทั้งสองและเขาก็เดินออกนอกห้อง แล้วทุกคนในห้องก็ทำงานกันตามปกติแต่มันค่อนข้างเงียบมากๆเลย
“พี่ฮะ แต่ผมไม่ค่อยเก่งเลยนะฮะ”
กีกวังคิดว่าเขาเองไม่เหมาะเลย แต่งหน้าก็ไม่เคยแต่งให้ใครเสื้อผ้าก็ไม่เคยออกแบบและลงทุนอะไรไม่เคยทำสักอย่าง
เขากลัวว่าทุกอย่างมันจะออกมาไม่ดี
แต่เขารักการแต่งตัวเลยทำให้กีกวังมีการแต่งตัวที่ดีถึงมันจะเป็นเสื้อผ้าถูกๆ
“พี่เชื่อนะเราทำได้
ถ้าไม่รักทางด้านนี้จริงๆก็คงไม่เรียนหรอกใช่ไหม? เอาเป็นว่ากีกวังมาเป็นตำแหน่งผู้ช่วยพี่แล้วก็ให้คำปรึกษาและออกความเห็นและช่วยกันลงมือโอเคไหม?”
กีกวังยืนนิ่งๆและไม่ตอบอะไร
“นั่งลงสิน้องชาย เฮ้ย…เรามาช่วยกันหน่อยดีกว่าอีกสองวันดงอุนต้องขึ้นโชว์เพลงเขาจะใส่ชุดไหนไปดีน้า”
“ต้องใส่ชุดที่เหมือนต้นฉบับฮะ”
“อ่านั้นแหละ ถูกต้องเยื่ยม
นั้นบ่ายโมงนี้เราจะไปซื้อเสื้อผ้าให้ดงอุนกันโอเค?”
“ฮะ”
ร่างโปร่งยังคงยื่นมองกีกวังผ่านกระจกอยู่
เขาแค่อยากรู้ว่ากีกวังเขาโอเคไหม แต่จากดูๆแล้วกีกวังจะเข้ากับชินเฮได้ดีเยื่ยม
มือหนาหยิบโทรศัพท์จากกระเป๋ากางเกงขึ้นมาและกดเบอร์พี่ชายหน้าสวยของเขา
ติ๊ด..ติ๊ด..
[ว่าไงดงอุน]
“พี่ผมขอยืมตัวลูกน้องพี่หน่อยนะ”
[นายเอากีกวังไปทำไรหะวันนี้ฉันต้องให้มีร์มาช่วยเนี่ย
เจ้านั่นก็เอาแต่บ่นๆ] ฮีชอลเหนื่อยใจทุกครั้งเวลาที่ต้องขอร้องให้มีร์มาช่วยงานที่ร้าน
เพราะมีร์ชอบบ่นนู่นนี้ไปเรื่อย ไม่เหมือนกีกวังที่ใช้ง่ายไม่มีปัญหาใดๆ
“ผมแค่พาพี่กีกวังมาทำตามความฝันเขา”
[นายนี่หวังดีเหลือเกินเลย
แต่ก็ดีแล้วว่าแต่งานอะไร]
“สไตล์ลิสต์”
[โหกีกวังอยากเป็นนะน่ะ
ขอบใจนายมากที่ช่วยเขา กีวังค่อนข้างลำบากนะที่เรื่องที่บ้านเขา]
“หึ ผมก็พอรู้เรื่องราวที่บ้านเขาผมก็อดสงสารไม่ได้ยิ่งเห็นบ้านเขาและเห็นทำงานรับจ้างอะไรเยอะไปหมด
ผมคิดว่าทางนี้แหละที่พี่กีกวังจะสบาย”
[อือนั่นน่ะสิ]
“แต่พี่กีกวังเขายังอยากทำงานกับพี่น่ะ”
[อ่า
ตั้งวันนี้ไปกีกวังก็คงไม่ว่างหรอก..อ่าๆ บอกเขามาก็ได้อย่างน้อยลูกน้องพี่พี่ก็ไว้ใจกีกวังที่สุดแล้ว]
“แล้วพี่มีร์ล่ะ?”
[โนว ฉันเบื่อมากวันนี้จำเป็นน่ะ
อ่า! วันนี้ซัมดีทำงานที่บริษัท เห็นบอกจะไปช่วยงานจุนฮยอง บอกหมอนั่นด้วย
อย่าไปไหน เป็น อัน ขาด !]
“ฮ่าๆพี่ซัมดีเป็นไรอีก”
[นายอย่ารู้เลย แค่นี้นะลูกค้าเยอะมาก] ดงอุนกดตัดสายทิ้งและต่อสายหาอีกคน
“พี่อยู่ไหน….อ่อๆเดี๋ยวผมไป”
…………………………………………………………………..
“เขาต้องการอย่างนี้นี่ใช่ไหม”
จุนฮยองยื่นกระดาษให้อีกคนที่นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่
“หือ? จีน่าใช่ไหม
อ่า~ วันนี้ฉันกะจะหยุดสักหน่อย” ชายอีกคนบิดขี้เกียจก่อนรับกระดาษนั้นมา
“ก็เมื่อวานพี่ไทเกอร์บอกผมว่าพี่ไปดื่มกับเขาและคุยเรื่องเพลงจีน่าพี่บอกจะรับผิดชอบเอง
พี่เขาเลยแฮงค์นอนอยู่บ้าน”
“ฉะ..ฉันพูดหรอว่ะ?” เขาทำท่านึก.. “อ่าไอ้ซัมดีแกเป็นอย่างนี้ทุกที
จัดการเองก็ได้เรียกจีน่ามาด้วยแล้วกัน”
“เรื่องนี้มันแน่นอนอยู่แล้วพี่ถ้าไม่เรียกมาฟังก่อน
เดี๋ยวเราจะทำใหม่กันอีกรอบ”
“ฉันอยากรู้จริงๆว่าจีน่าเขานิสัยดีจริงๆหรือเปล่า”
ซัมดีที่เพิ่งมาอยู่ที่นี่ใหม่ก็ยังไม่รู้จักใครดีสักเท่าไร
ก็ไม่รู้ว่าดีจริงไม่ดีจริง วงการแบบนี้มองกันยาก
“เขาดี อารมณ์ขึ้นๆลงๆปล่อยเขาไปเถอะ
อ่านสิพี่”
“เออๆรู้แล้วรีบหรอว่ะ? ทำไมรู้นะเว้ย ฮ่าๆ จะรีบกลับบ้านอ่ะดิ” จุนฮยองชี้ไปหาร่างบางที่นอนเล่นเกมอยู่
“ไม่อยากมาอยู่แล้ว” ซัมดีแค่นหัวเราะและอ่านเนื้อเพลงที่จุนฮยองแต่งประมาณชั่วโมงหนึ่งได้
“วันนี้จะช่วยไปดื่มสักหน่อยฮ่าๆ
นอวา นานึน Black
and white
เธอกับฉันเปรียบเสมือนสีดำและสีขาว
นานึน Hot
นอนึนCool
ฉันนั้นร้อน แต่เธอนั้นเย็น
Coupleอิน เก Mystery
มันน่าแปลกที่เรานั้นเป็นคู่รักกัน
จองมัล จองมัล จองมัล จองมัล
จริงๆแล้ว
มัลโด อันดเว มัลโด อันดเว
มันช่างไร้สาระเหลือเกิน
มอรีบูทอ บัลกึทกาจี
ตั้งแต่หัวจรดเท้า
มัจนึน เก ฮานา ออพนี
ไม่มีอะไรที่เข้ากันได้เลย
นอโบดา จัล มัซนึน
ถึงแม้จะมีผู้ชายมากมาย
นัมจาดึล มันนึล เทนเด
ที่ดูเข้ากับฉันมากกว่าเธอ
จองมัล จองมัล จองมัล จองมัล
จริงๆแล้ว
มัลโด อันดเว มัลโด อันดเว
มันช่างไร้สาระเหลือเกิน
Hey boy มัจจวอ บวา บากวอ บวา
เธอลองพยายามที่ทำตัวให้เข้ากับฉัน
แฮ บวา Come
on boy
ลองเปลี่ยนตัวเองเพื่อฉัน
จาจนชิม ตาวิน
ทำสิ่งที่ชอบด้วยความภูมิใจ
Kick it Kick it Kick it
Oh no oh no oh no oh no
อีเจ จม มัจจวอ บวา
ในตอนนี้ลองเปลี่ยนตัวเองเพื่อฉัน
นอวา นา Black
and white
เธอกับฉันเปรียบเสมือนสีดำกับสีขาว
นอ นอ นอวา นา Black
and White Oh
เธอกับฉันเปรียบเสมือนสีดำกับสีขาว
เน มอซแดโร เจ มอซแดโร ออจอม
คือรอนี
ฉันจะทำตามที่เธอต้องการได้ยังไง
นอนึน อลรา แน มัม มลรา แว มลรา
ในเมื่อเธอไม่เคยรับรู้ความรู้สึกของฉัน
ทำไมเธอถึงไม่เคยรับรู้มัน
นอวา นา Black
and White
เธอกับฉันเปรียบเสมือนสีดำกับสีขาว
นอ นอ นอวา นา Black
and White
เธอกับฉันเปรียบเสมือนสีดำกับสีขาว
นาบักเก ออพซอ ออพดาโก จูวิล
ทุลรอบวา
เธอบอกว่าเธอไม่มีใครนอกจากฉัน
แต่ก็ยังมองหาคนอื่น
เจบัล เจบัล เจบัล Back
to me
ได้โปรด ได้โปรด ได้โปรดกลับมาหาฉัน
Black Black Black White
Black Black Black White” ไซ่ม่อนดีอ่านเพลงนั้นจนจบครึ่งเพลงจุนฮยองที่ฟังอยู่ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องอ่าน
“นี่ พี่พี่จะอ่านออกเสียงทำไมเนี่ย”
จุนฮยองบ่นพี่ชายเขาที่อ่านยันมาครึ่งเพลง
“ร้องให้แกฟังไง โด่
เนื้อเพลงเข้าท่าๆ เนื้อเพลงมันหมายความไง ?” จุนฮยองมองไปทางอื่นก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นทวิตเตอร์ไป
“พี่อ่านมันไม่รู้เรื่องไง”
“รู้เรื่อง
ฉันหมายถึงเรื่องแกต่างหากจุนฮยองน้องรัก ฮ่าๆ
ทำไมถึงเขียนมาอย่างนี้ได้ข่าวนักแต่งเพลงอย่างเราต้องมีประสบการณ์และช่วงนี้แกแต่งเพลงรักเยอะมากทำไมไม่ดำเหมือนแต่ก่อนแล้วไง”
“เฮ้ยพี่จะพูดเสียงดังทำไม”
จุนฮยองยกมือจุ๊จุ๊ให้กับซัมดี
เขาไม่อยากให้ฮยอนซึงรู้เรื่องเก่าเขาถ้าเขารู้ฮยอนซึงอาจจะไปถามซัมดี
และพี่ชายคนนี้ชอบเล่าความจริงที่สุด
“อ้าวพี่ซัมดีสวัสดีครับ..พี่ฮยอนซึงหลับคาโทรศัพท์เลยแฮะ”
ดงอุนเดินเข้าไปหาฮยอนซึงและหยิบโทรศัพท์ออกจากมือออก
“อะไรว่ะ เห็นพี่แกนั่งอยู่ตรงนี้ไหมเนี่ย”
จุนฮยองแขวะดงอุนที่เดินเข้ามาก็ทักทายซัมดี แถมยังมุ่งตรงไปหาฮยอนซึงเป็นคนแรกอีก
เห็นอีกทีก็ทำให้จุนฮยองหงุดหงิดและหมั่นไส้ตลอด
“เห็นครับ ทำไรกันอยู่” ดงอุนส่งยิ้มกว้างให้พี่ชายของตัวเองเป็นการง้อ
“กำลังจะเริ่มทำเมโลดี้แล้ว วันนี้แกไม่มีซ้อมนิ
แต่มีเรียนไม่ใช่ไง” จุนฮยองเอ่ยถามน้องชายเขาที่ทำตัวว่างผิดปกติ
“ผมมีเรียน
หกโมงถึงสามทุ่มน่ะวันนี้มาฝากงานให้คนน่ะ”
“ใครว่ะ?” จุนฮยองหันไปมองดงอุนอย่างสงสัย
หรือมันซ้อนเด็กไว้ว่ะ ?...
“พี่ทำงานไปเถอะน่า”
“เออ
โทรตามจีน่ามาหน่อยเดี๋ยวเจ๊แกไม่พอใจเพลง” ซัมดีสั่งดงอุนให้โทรหาจีน่า
“ให้พี่ซัมดีทำ?” ดงอุนถามเพราะไม่เคยเห็นเขามาลงมือทำเลย
“เออดิ
ฉันไปทำงานเป็นโปรดิวเซอร์ที่เมืองนอกมาหลายปีอย่าๆดูถูก” ซัมดีและจุนฮยองก็เริ่มทำงานกันอย่างตั้งใจ
เขาบอกฮยอนซึงว่าแค่มาให้ซัมดีดูเพลง
ดีนะที่หลับไปถ้าตื่นคงทนไม่ได้และหนีกลับไปก่อนแน่นอน
สุดท้ายจุนฮยองก็พาฮยอนซึงกลับดึกอีกเหมือนเดิม
-Junhyung-
ทำไมผมถึงแต่งเพลงนี้ออกมาได้ภายในหนึ่งชั่วโมงงั้นหรอ..เวลาผมมองฮยอนซึงมันจะมีเนื้อเพลงขึ้นมาเต็มเลยล่ะ
จีน่าเขาต้องการเพลงน่ารักๆสนุกๆถือว่าผมจัดให้แล้วนะ
ผมลองนึกย้อนกลับไปในหลายๆเรื่อง ผมพยายามที่ทำตัวให้เข้ากับฮยอนซึงให้ได้ ฮยอนซึงอยากให้ผมยิ้มบ่อยๆแต่ผมยิ้มได้ไม่เยอะมากเพราะมันชินกับยิ้มมุมปาก
แต่ผมก็แอบยิ้มให้เขาบ่อยนะ เขาอยากให้ผมพยายามเปลื่ยนตัวเอง
แต่ผมชอบเป็นแบบนี้มันก็เลยเหมือนblack &
white เขาชอบหาว่าผมมองคนอื่น แต่ฉันมองนายคนเดียวนะฮยอนซึง
*ผิดพลาดคำใดขออภัยด้วยนะคะ
BEAST ♥ BEAUTY
ความคิดเห็น