คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : Chapter 10 (แก้ไข)
Chapter 10 ♥
เรื่องราวที่วุ่นวายและค้างคาใจก็จบลงหมดทุกอย่างแล้ว
เรื่องรอยคอของจุนฮยอง สุดท้ายจุนฮยองก็เล่าให้ฟังทำให้ฮยอนซึงไม่พอใจอยู่ แต่เขาก็ไม่อยากพูดไรออกมาเพราะเดี๋ยวมันจะเรื่องใหญ่เสียก่อน
เรื่องที่จุนฮยองไปอยู่บ้านกีกวัง เรื่องนี้กีกวังเป็นคนเล่าเอง ตอนแรกที่ไม่บอกสาเหตุเพราะกลัวว่าฮยอนซึงจะเสียความรู้สึกแต่มันก็แหงอยู่แล้วล่ะ
31-12-13
“ฮยอนซึงนายทำไรอยู่น่ะ” ร่างสูงเดินเข้ามาพร้อมเอ่ยทักเมื่อเห็นร่างบางตื่นเช้ามา ยันบ่ายก็เอาแต่นั่งหน้าคอมและทำอะไรกับรูปเยอะแยะไปหมด..จนห้องของจุนฮยองตอนนี้จะเป็นของฮยอนซึงไปแล้วเพราะมีแต่รูปเต็มไปหมด
“ทำงานน่ะ นายหิวไรไหม” ปากถามแต่สายตาก็ยังคงมองไปที่หน้าจอโน๊ตบุ๊ค
“นายจะงานเยอะไปกว่าฉันแล้วนะไม่แบ่งให้ไอ้ดูจุนมันทำบ้างล่ะ”
“ไม่เอาอ่ะ
ได้ข่าวว่าสองคนนั้นแพ็คกระเป๋าหนีไปเที่ยวปีใหม่กันสองคนแล้ว ก็เลยไม่อยากรบกวนน่ะทำเองดีกว่า”
จุนฮยองไม่ได้ตอบอะไรก็เดินไปที่ตู้เสื้อผ้าและเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า
ก็จะอะไรซะอีกพ่อหนุ่มเจ้าเล่ห์จุนฮยองเนี่ยจะเซอร์ไพร์ฮยอนซึงต่างหากเขารู้ว่าฮยอนซึงกำลังน้อยใจและทำงานประชดประชันอยู่
“ปิดคอมและเลิกทำงานได้แล้ว”
ฮยอนซึงไปมามองอย่างงงๆแต่ในใจก็เริ่มลุ้นแล้วว่าจุนฮยองต้องพาเขาไปเที่ยวแน่เลย
“เก็บเสื้อผ้าสิตอนนี้ยังเย็นๆอยู่เดี๋ยวไม่ทันปาร์ตี้ที่ประธานเตรียมไว้ที่เกาะเซจูนะ”
ร่างบางดีใจจนวิ่งเข้ามากระโดดกอดร่างสูงแน่น
“เย้เย้! นายพาฉันไปเที่ยวแล้ว”
มือยังคงกอดจุนฮยองแน่น “น่ารักจังเลยแฟนใครเนี่ย”
ฮยอนซึงหยิกแก้มจุนฮยองเบาๆ
“แฟนมีร์” ฮยอนซึงหุบยิ้มและเหมือนจะไม่เล่นด้วย
“ฮ่าๆ ล้อเล่นก็แฟนนายไง
ไปเก็บเสื้อผ้าห้องนายเถอะ ป่ะ”
“นายมัน..จิ๊! ชอบเล่นอะไรที่ฉันไม่ชอบอยู่เรื่อย
มีร์น่ะเป็นแค่แฟนเก่านายมีที่ไหนชอบให้แฟนตัวเองพูดถึงแฟนเก่าล่ะ… แล้วนั่นไปด้วยหรือเปล่า”
“มีร์อ่ะหรอ” ฮยอนซึงพยักหน้า
“ไม่หรอกมั้ง ฉันบอกแค่พี่ซัมดี
ไอ้ดูจุน ที่เหลือก็คนในบริษัท”
“งั้นพี่จีน่าก็ไปด้วยหรอ”
“อืม มีไรอ่ะ”
“อ่อไม่มีไรหรอก ไปห้องฉันดีกว่า”
ฮยอนซึงว่าจบก็ปิดโน๊ตบุ๊คขนงานตัวเองทั้งหมดและขึ้นไปที่ห้องของตัวเอง
15 นาทีต่อมา…
มาถึงห้องตั้งนานแล้ว..กว่าฮยอนซึงจะเลือกเสื้อได้แต่ล่ะตัวนี่ก็ปาไปจะครึ่งชั่วโมงอยู่แล้ว
“จุนฮยองตัวนี้ไหม?” จุนฮยองที่นั่งมองแฟนของเขาเลือกเสื้อผ้า เขาเข้าใจแล้วว่ามีแฟนเป็นตัวเป็นตนก็เหนื่อยนะที่ต้องนั่งตอบคำถามในสิ่งที่ขี้เกียจ
“ถ้านายจะเลือกเยอะขนาดนี้นะเอาเสื้อเชิ้ตไปให้หมดเลยไม่ต้องเลือกจบ”
จุนฮยองบอกปัดๆไป เพราะถ้าไม่ตัดบท
วันนี้ฮยอนซึงก็ยังคงเลือกไม่จบไม่สิ้น
“นั่นมันเสื้อใส่ทำงาน ไม่ได้ใส่ไปเที่ยวสักหน่อย
ก็ซื้อมาหลายตัวไงเลือกไม่ถูก” และฮยอนซึงก็ยังคงให้จุนฮยองเลือกอยู่ดีจุนฮยองก็จิ้มไปมั่วๆนั้นแหละเพราะมันเป็นทางออกที่จะได้ไม่ต้องเสียเวลาถ้าจุนฮยองเอาแต่เถียงคงยาวแน่
“ฉันเปลื่ยนชุดก่อนนะ” ฮยอนซึงเดินเข้าไปในห้องน้ำและทำการเปลื่ยนชุดที่เลือกเมื่อกี้ จุนฮยองที่ไม่ค่อยเข้ามาในห้องของฮยอนซึงเลยเขาเดินไปที่ตู้หนังสือมีหนังสือรุ่นของโรงเรียนอันชานอยู่
แต่พอหยิบออกมา กับมีรูปอะไรบางอย่างตกลงมา
รูปเด็กผู้ชายหน้าสวยกำลังแปลงฟันใส่ชุดลายจุดเหมือนกับเด็กผู้หญิง
แล้วจะไม่ให้ว่าฮยอนซึงสวยได้ไง..
“จุนฮยอง! ทำอะไรน่ะ” ร่างบางที่แต่งตัวเสร็จแล้วเห็นร่างสูงที่ยืนถือรูปอยู่และมองไปยิ้มไป
“นายนี่สวยแต่เด็กเลยหรือไงหืม?”
จุนฮยองกระตุกยิ้มมุมปากและชูรูปที่อยู่ในมือให้ฮยอนซึงดู
“เห้ย! จุนฮยองเอามาเลย!
เอามานะ!” ฮยอนซึงเขย่งเท้าจะเอารูปที่อยู่ในมือจุนฮยอง
จุนฮยองก็ยิ่งชูสูงขึ้น
“นายก็เอารูปฉันมาก่อนสิ”
“เรื่องอะไรเล่านายเอารูปฉันมาสิ
อายเขา”
“ฮ่าๆ
อายอะไรกลัวคนอื่นแซวว่าสวยหรอ” จุนฮยองยิ้มมุมปากและแกล้งฮยอนซึงต่อ
“นายอ่ะ จิ๊!” ฮยอนซึงกำลังจะเดินหันหลัง มือหนารีบคว้าข้อมือเล็กให้หันมา และประคองใบหน้าและประกอบจูบกับปากฮยอนซึงทันที
ไม่ได้จูบลึกซึ้งอะไรแต่เป็นการจูบแกล้งฮยอนซึงต่างหาก
เพราะจุนฮยองเอาแต่หัวเราะในลำคอ ฮยอนซึงเลยดันอกจุนฮยองให้ออกไป
“นายไม่เปลืองจูบบ้างหรือไงปากฉันบวมหมดแล้วนะ”
“หึ ไปกันเถอะนายเก็บของเสร็จแล้วใช่ไหม
นั้นไปกันเดี๋ยวต้องขึ้นเรือข้ามฝั่งอีก” ฮยอนซึงพยักหน้าอย่างเข้าใจ
18.00
มาถึงเกาะเซจูพระอาทิตย์ก็เริ่มตกดินกว่าจะออกมาจากคอนโดก็ราวๆเกือบ4โมงแต่โชคดีจุนฮยองเป็นคนขับรถเร็วก็เลยทำให้ถึงก่อนที่จะมีงานปาร์ตี้
เมื่อฮยอนซึงเห็นน้ำทะเลก็สดชื่นขึ้นมา
จุนฮยองอุ้มฮยอนซึงลงจากเรือเมื่อน้ำโดนขาก็รู้สึกสดชื่นและได้กลิ่นธรรมชาติอันสวยงามมาก
“โห
จุนฮยองน้ำใสมากเลยอ่ะเย็นด้วย”
“หึ ทำอย่างที่นี่เป็นต่างประเทศนายไม่มาเคยมาหรือไง”
“ฉันไม่ได้มานานแล้วต่างหาก
เล่นน้ำกันไหมจุนฮยอง” ฮยอนซึงปากยู่ใส่อย่างน่ารักทำให้จุนฮยองหลุดยิ้มออกมา
“นายยิ้มอ่ะ! เฮ้ยๆ
นายอย่าหุบยิ้มสิ”
“คุณครับกระเป๋าเอาไปไว้ที่โรงแรมเลยนะครับ”
ลุงคนขับเรือเดินมาถามเรื่องกระเป๋าทำให้จุนฮยองรอดตัวไป
“ครับ ขอบคุณครับ”
“ชิ
แค่นี้ก็ไม่ยิ้ม..ขี่หลังเลย!เย้” ฮยอนซึงกระโดนขี่หลังจุนฮยองอย่างไม่ทันตั้งตัวทำให้คนที่ถูกขี่เซไปนิดหน่อย
“ตัวก็ไม่ใช่เบาๆนะเนี่ย”
ปากก็บ่นไปงั้น ฮยอนซึงก็ไม่ได้หนักอะไรมากมายหรอก
“นายมันขี้บ่น..ฉันก็แค่อยากขี่หลังนายบ้าง
เดินสิ” จุนฮยองก็ทำตามและอย่างฮยอนซึงบอก
เดินไปสักพักจุนฮยองก็เริ่มวิ่ง
“อ๊ากกกก จุนฮยองเดี๋ยวฉันตก
ฮ่าๆ” กลัวแต่ก็ยังสนุก จุนฮยองก็ยังคงแกล้งฮยอนซึงต่อไป
จุนฮยองวิ่งตรงไปที่ทะเลและทำท่าจะปล่อย
“ไม่เอานะจุนฮยอง เดี๋ยวเปียก
ฮ่าๆ”
“อยากเปียกไม่ใช่หรือไง
ตอนแรกบอกอยากเล่นน้ำ”
“ก็ต้องเปลื่ยนชุดก่อนไง
วันนี้ฉันเตรียมชุดนี้มางานปาร์ตี้เลยนะเนี่ย” ฮยอนซึงกระโดดลงจากหลังจุนฮยองและหมุนตัวโชว์ชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงสีชมพูและนุ่งทับและใส่รองเท้าแตะ
“หึหึ” ในสายตาจุนฮยองน่ะฮยอนซึงใส่ชุดไหนก็น่ารักไปหมดแต่แค่ไม่บอกเท่านั้นเอง
ฮยอนซึงก็ยังกระโดดขี่หลังจุนฮยองเหมือนเดิม
ฮยอนซึงชอบที่จะขี่หลังคนที่เขารักมันรู้สึกอบอุ่นมาก
สาวหุ่นดีกับชุดกระโปรงยาวใส่หมวกแอบมองคู่รักสองคนที่หยอกล้อกันอย่างกะหนุงกะหนิง
ทำให้คนยืนแอบมองอยู่เกิดอาการอารมณ์เสียเพราะเขาไม่มีวิธีที่จะไปคั่นกลางระหว่างสองคนนั้นได้เลย
“นี่ เธอมองสองคนนั้นอยู่หรอ?”
ผู้หญิงที่ยืนแอบมองอยู่ก่อนหน้านั้นหันมามองชายหนุ่มตัวเล็กที่เดินเข้ามาและจ้องไปที่สองคนนั้นอยู่เหมือนกัน
“นั่นมันเรื่องของฉัน นายมีอะไร?”
“แล้วเธอชื่อไรอ่ะ”
“ยูอี”
“เธอทำงานอยู่ที่เดียวกับจุนฮยองหรอ”
“เปล่าฉันทำกับฮยอนซึง”
“แล้วตอนนี้เธอกำลังคิดจะแยกเขาออกใช่ไหมเธอคงชอบจุนฮยองสินะ”
ยูอีหันขวับมาหาอีกคน
“ใช่ แล้วไง”
“จุนฮยองเป็นแฟนเก่าฉัน
เธอไม่มีสิทธิ์ได้หรอก” มีร์ยิ้มมุมปากให้กับยูอี
ที่คิ้วขมวดกว่าเดิม
“เหอะ! อย่าคิดหลงตัวเองสิ”
มีร์ไม่สนใจและเดินออกไปจากตรงนั้นปล่อยให้ยูอีพ่นลมใส่หน้าตัวเองอย่างเซ็งๆ
.
.
.
“พี่ฮีชอลฮะ พี่ไม่น่าพาผมมาเลยนะทำไมพี่ไม่ให้ผมอยู่ร้านล่ะทุกๆปีที่ก็จัดงานที่ร้านไม่ใช่หรอฮะ”
กีกวังซักถามฮีชอลอยู่เรื่อย เพราะมันที่นี้เป็นที่
ที่เขาไม่ควรมานั่นเอง
“ไม่เอาน่า กีกวังปีนี้ ซัมดีกลับมาด้วยก็เลยมาจัดใหญ่หน่อย
นายน่ะก็ควรจะมาหาที่สบายใจอยู่บ้างนะ”
จุนฮยองกับฮยอนซึงที่เดินขี่หลังกันมาก็เห็นว่ามีคนมาเพิ่ม
คือกีกวังซัมดีและฮีชอลและก็ได้ยินเสียงเถียงอะไรกันอยู่
ฮยอนซึงลงจากหลังจุนฮยองและวิ่งไปหาสามคนนั้น
“อ้าว! กีกวังมาด้วยหรอ” ฮยอนซึงถามกีกวังก่อนคนแรก เพราะไม่คิดว่ากีกวังจะมาด้วย แต่มันดีแล้วนะ
เผื่อจะได้รู้จักและสนิทกะดงอุนมากขึ้น
“ฮะ..ฮะ” กีกวังตอบฮยอนซึงแบบตะกุกตะกัก
เพราะรู้สึกเขิน ๆ
และทำตัวไม่ถูก
“มาฉันช่วยถือ” ฮยอนซึงเห็นกีกวังแบกของเยอะแยะ จึงจะยื่นมือไปช่วยกีกวังถือ
“ไม่เป็นไรฮะ” แต่กีกวังก็ปฏิเสธไป ใครจะกล้าให้ฮยอนซึงถือ รังสีอำมหิตยืนอยู่ข้างหน้า มองจ้องขนาดนั้น
ใครๆก็กลัว
“จุนฮยอง เฮ้ย” จุนฮยองกับซัมดีทักทายกันโดยการจับมือและชนไหล่กันตามปกติ
“สวัสดีพี่”
“ดีกับแฟนแล้วอ่ะดิ
เห็นเดินขี่หลังกันมา” จุนฮยองยิ้มและยักไหล่เบาๆแสดงถึงว่า
สำหรับผมมันง่ายอยู่แล้ว
“ก็ประมาณนั้นแหละพี่ เจอกันที่งานนะใกล้เริ่มแล้วล่ะ”
“โอเคๆ”
จุนฮยองลากฮยอนซึงออกจากตรงนั้นและเดินตรงมาที่จัดงานปาร์ตี้
สมกับเป็นปาร์ตี้ริมชายหากเสียจริง มีอาหารบุฟเฟ่ต์มากมายและส่วนใหญ่ก็มีแต่อาหารทะเลทั้งนั้น
ฮยอนซึงเห็นหลังพี่ชายของตัวเองก็วิ่งแจ้นไปหาโดยที่ไม่รอจุนฮยอง
“พี่ดูจุนนนพี่โยซอบบ” เมื่อดูจุนและโยซอบได้ยินเสียงที่คุ้นเคยก็หันไปมองอย่างรวดเร็ว
“อ้าวซึงมาแล้วหรอ
ทำไมมาเย็นนักล่ะ”
“ก็มัวแต่ทำงานน่ะพี่ดูจุน โหยยย
ถ้าซึงมาช้ากว่านี้พี่โยกินหมดแน่เลย ฮ่าๆ” ฮยอนซึงก็แหย่เล่นเขาเห็นพี่สะใภ้เขายืนจิ้มเอาๆไม่หยุดปาก
แต่ก็ไม่ได้สนใจแฟนตัวเองเลยที่ถูกใครบางคนลากไป
“จุนฮยองไปหาไรกินกันไหม”
จุนฮยองไม่ได้ตอบตกลงแต่ก็โดนคนตัวเล็กลากไปอยู่ดี
“มาได้ไง” จุนฮยองถามคนที่เคี้ยวอาหารตุ้ยๆที่มองอย่างไงก็น่ารัก
“มีร์ก็มาเองไงจุน กินนี้ไหมม่ะ”
มีร์ยื่นอาหารให้กับจุนฮยอง แต่จุนฮยองไม่ได้สนใจตรงนั้น
“อย่าเรียกอีกได้ไหม”
“ทำไมล่ะหรือนายยังคิดถึงคำนั้นอยู่
ฉันแค่เรียกเหมือนคนสนิทเรียกกันไง ทำไมหรอแฟนนายกับนายไม่เรียกหรอ”
“นี่นายคุยกับผิดประเด็นแล้วนะ ฉันหมายถึงใครบอกนายว่ามีงานที่นี่”
“อ่อ พี่ฮีชอลน่ะ” จุนฮยองฟังคำนั้นจบก็กำลังจะเดินไปแต่ร่างเล็กกอดจากด้านหลังไว้ทำให้ร่างสูงหยุดชะงักแต่ยังไม่ได้แกะมือเล็กออกจากเอวของตัวเอง
และดีที่ตรงนั้นไม่ค่อยมีคนไม่งั้นจุนฮยองที่ใครๆรู้จักคงโดนนินทาแล้วแน่นอน
“จุนฮยอง..ฉันขอโทษนะที่ฉันเคยทำตัวไม่ดีกับนาย”
“…...”
“ตลอดเวลาฉันคิดถึงนายนะ นายคิดถึงฉันไหม”
จุนฮยองถอดหายใจอย่างรุนแรง เขาเบื่อคำพวกนี้เสียจริง
เขาเบื่อกับทุกกริยาที่มีร์ทำกับเขา
“หึ ฉันคิดถึงนาย….เมื่อนานมาแล้วฉันคงไม่ทนหน้าโง่เชื่อนายอีกแล้วล่ะมีร์” จุนฮยองกำลังเดินไป แต่คำที่มีร์พูดขึ้นมาอีกทีทำให้จุนฮยองหยุดชะงักอีกครั้ง
“คำสัญญาล่ะ ลืมแล้วหรือไง?”
มันทำให้จุนฮยองคิดย้อนเรื่องราวกลับไป…
“มีร์….”
“หืม”
“รักมีร์นะ”
“รักจุนเหมือนกันน้า ><
พรุ่งนี้ครบ 4 ปีเราแล้วนะ”
“ฮ่าๆจำได้น่า”
“สัญญาสิว่ารักมีร์ตลอดไปนะ”
“มันก็แน่อยู่แล้ว
มีร์ต้องสัญญาด้วยสิว่าจะรักจุนตลอดไป”
“รักสิรักมากเลย จุนน่ารักขนาดนี้”
รอยยิ้มที่เคยมอบให้กัน
จุนฮยองยอมรับว่าในตอนนั้นมันเป็นช่วงเวลาที่ดี ใช่…มันเป็นช่วงเวลาที่ดีมาก ถ้าแต่มันเจ็บมาก ก็ควรลบทิ้งมันออกไป
“แต่นายกลับทำมันพังเองไม่ใช่หรอ
ฉันรักษาคำนั้นมาจนจบม.6 แต่นายเองกลับทำคำนั้นไม่มีคุณค่า”
“ฉันจะมาขอโทษไง
ฉันรู้ว่าเวลาที่ไม่มีนายน่ะ ฉันคิดถึงนายอยากกอดนายตลอดคนที่ฉันอยู่ด้วยและมีความสุขคือนายไง
ตอนที่นายพาฮยอนซึงมาที่บ้านฉันเห็น ฉันเสียใจมากที่ฉันมาไม่ทัน…ฉันขอโทษนะจุนฮยอง”
“มันผ่านมาจะเจ็ดปีแล้วมีร์ทุกอย่างดูเหมือนไม่มีค่าเลยนะ
ลืมเรื่องพวกนี้ไปซะเหอะ”
“เฮ้ยไอ้จุนฮยอง” เพื่อนชี้คู่หูอย่างอีจุนที่เพิ่งมาถึงก็เห็นเพื่อนรักคุยกับใครบางคนอยู่
เห็นว่าจุนฮยองหันหลังคุยคงไม่ใช่ธุระอะไร เลยเดินเข้าไปทักทาย
แต่จุนฮยองแค่หันมามองอีจุนและเดินออกไปจากตรงนั้น
อีจุนก็หันไปมองอีกคนที่ยืนร้องไห้อยู่ แต่มีร์ไม่ทนให้ใครมองเขาร้องไห้เขาจึงเดินออกไป
ร่างเล็กเดินอย่างหลบๆซ่อนๆเขากลัวว่าจะเจอคนที่เขาไม่อยากเจอ
“พี่ฮีชอลฮะผมกำลังลงไปแล้วเนี่ยพี่อย่าโทรจิกสิ”
ร่างเล็กบ่นกับโทรศัพท์ที่สั่นไม่หยุดเพราะมีคนโทรมาตามให้เขาลงไปงานปาร์ตี้ข้างล่าง
พึ่บ!
“โอ๊ะ…ขอโทษฮะผมไม่ได้ตั้งใจ”
ร่างเล็กก้มหัวรัวๆให้กับร่างโปร่งที่เขาชนไปเมื่อกี้
“พี่กีกวังใช่ไหมครับ ?” ร่างเล็กเงยหน้ามามองร่างโปร่งอย่างตกใจ เขาไปที่ไหนก็เจอคนนี้ตลอดเลย…ทำไมกัน
“เฮ้ย! ดงอุน” กีกวังกำลังหงายหลังแต่ดงอุนคว้าเอวเล็กไว้ทัน…หน้าใกล้กันจนได้เสียงลมหายใจ
และใจของกีกวังใจเต้นแรงมากขึ้นทำให้ต้องถอยตัวออกห่างก่อน
“ครับ..ผมขอโทษครับ”
“อ่าไม่เป็นไรหรอก
ขอบคุณนะที่ช่วยฉันไว้”
“ไม่เป็นไรครับ พี่มางานปาร์ตี้เดียวกับผมหรอ”
“อืม”
“งานเดียวกับผมเลย
พี่มาได้ไงหรอครับงานนี้มีแค่ฝ่ายผมรู้” กีกวังเงียบไป..แล้วดงอุนก็ทำท่าคิดอะไรบางอย่างได้
“อ๋อ พี่คงมากับพี่ฮีชอลแน่เลย
อ่าผมนึกว่าพี่มากับพวกแฟนคลับผู้โชคดีนะเนี่ย วันนี้พี่ก็เป็นแฟนคลับคนพิเศษที่ได้ใกล้ชิดนักร้องแบบเต็มๆเลยนะครับ
ลงไปกันข้างล่างเถอะครับแต่พี่รอผมก่อนนะผมเอาของก่อน
ว่าแต่พี่พักอยู่ห้องไหนหรอครับ”
“อ่อ..ก็แถวๆนี้น่ะ” ดงอุนยิ้มหล่อมาให้กีกวัง (อีกแล้ว) กีกวังพัดหน้าให้หายร้อน แต่อย่างไงก็ไม่หาย
เด็กคนนี้น่ารักกว่าที่กีกวังคิดไว้เยอะทั้งนิสัยและอะไรต่างๆนาๆ
23.20
“เฮ้ยเดี๋ยวฉันขึ้นห้องก่อนนะ”
จุนฮยองบอกเพื่อนๆที่กำลังนั่งดื่มเพื่อรอเวลาเคาท์ดาวน์
“อ้าวรีบขึ้นไปไหนว่ะ
ยังไม่ได้เคาท์ดาวน์เลยนะ” ดูจุนถามขึ้นอย่างสงสัยและเพื่อนๆนักร้องที่กินอยู่ด้วยก็เอ่ยถามตามๆกันเพราะจุนฮยองน่ะตัวหลักของงาน
“งานไม่จบเลยเมิงงง รีบไปไหนแว๊”
อีจุนที่ทำท่าจะเมาก่อนเพื่อนคนอื่น จุนฮยองเห็นจึงส่ายหน้าเบาๆ
“มึงอ่ะขึ้นไปนอนได้ล่ะอีจุน”
“เฮ้ย..กูจาอยู่เคาท์ด้าวกับคุณฮยอนซึงก่องเมิงมีไรปร้า”
ทุกคนก็ขำกับคำพูดของอีจุน
“หึๆฝันไปเหอะมึง
พอดีเพลงดงอุนต้องปล่อยวันนี้ตอนเที่ยงคืนน่ะประธานสั่งไว้ฉันไปก่อนนะ” จุนฮยองจับมือฮยอนซึงออกจากตรงนั้นมา
ฮยอนซึงก็เดินตามอย่างไม่ได้ถามอะไรเพราะจุนฮยองบอกฮยอนซึงไว้ก่อนหน้านั้นแล้วว่าเพลงของดงอุนต้องปล่อยตอนเที่ยงคืนวันปีใหม่
.
.
.
“ฉันขอฟังหน่อยสิ
เพลงที่นายกับฉันแต่งกับฉันใช่ม่ะ ?” ฮยอนซึงเดินมามองหน้าจอโน้ตบุ๊คที่จุนฮยองกำลังเคลียร์อะไรมากมายอยู่
“เดี๋ยวได้ฟังแน่
แต่นายต้องไม่อยู่ตรงนี้ก่อน”
“ก็ได้” ฮยอนซึงเดินไปมองวิวที่อยู่ตรงระเบียงที่มีกระจกใสปิดกั้นไว้อยู่
“สวยมากเลยวิวตอนกลางคืนเนี่ย โอ้วห้องเราดูจะสูงน่าดูเลยนะเนี่ย
เพราะเห็นงานปาร์ตี้ที่เราจัดไว้หมดเลย” และฮยอนซึงก็หยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูปเก็บไว้
15 นาทีผ่านไป
“อ่ะ! จุนฮยองใกล้เวลาเคาท์ดาวน์แล้วนะ”
จุนฮยองกระตุกยิ้มมุมปากให้ฮยอนซึงและก้มมองนาฬิกาที่ใกล้เวลานับถอยหลังเขาสู่ปี2011
“ 5 4 3 2 1 0!!!”
“5 4 3 2 10” เสียงสองเสียงประสานนับเลขกันจนจบและได้ยินเสียงพลุก็ดังขึ้นพร้อมกับคนในงานปาร์ตี้ก็ร่วมเฮกันอย่างมีความสุข
พร้อมกับนิ้วมือของจุนฮยองที่กดเอ็นเทอร์ลงเพลงDream
girl ลงยูทูป..
“สวัสดีปีใหม่นะจุนฮยอง
ขอให้นายมีความสุขมากๆขอให้งานนายลาบลื่นทุกอย่าง ฉันรักนายนะ” ร่างสูงลุกจากเกาอี้หน้าโน้ตบุ๊คและตรงมาหาร่างบาง เสียบหูฟังให้กับร่างบางและเปิดเพลงที่เขาสองคนแต่งด้วยกัน
ฮยอนซึงเองฟังไปก็ยิ้มไป..ความหมายเพลงนี้มันดีเหลือเกิน
ปล.จะเปิดเพลงDream
girl ไปด้วยก็ได้นะค่ะ ><
“เพราะไหมล่ะเพลงของนาย” ฮยอนซึงถอนหูฟังออกและปากยังคงยิ้มไม่หยุด
“บ้าน่า เพลงของดงอุนต่างหาก”
“ก็ฉันแต่งให้นายไง”
“ขอบคุณนะ…เฮ้ย..อยากลงไปข้างล่างจัง”
“หึ” จุนฮยองก็ยืนเท้าระเบียงและมองลงข้างล่าง
ที่มีคนเต้นกันอย่างสนุก จนทำให้ร่างบางมองไม่หยุด แต่มันก็ไม่ใช่อะไรหรอก
เขาคิดว่าเวลานี้คงต้องอยู่ร่วมกันสักหน่อย
“ตอนนี้งานนายเสร็จแล้วลงเถอะ”
“ไม่เอาอ่ะขี้เกียจ”
“โหไปเป็นเพื่อนหน่อย” ฮยอนซึงจับแขนจุนฮยองและเขย่าเบาๆอย่างอ้อน
“ไม่เอาอ่ะ อยู่บนห้องนี่แหละเสียงเงียบๆ”
จุนฮยองพูดจบก็หันหลังพิงกับระเบียงเอามือขึ้นมากอดอกและหันหน้าไปทางอื่น
เพราะเขาไม่ชอบเวลาที่ฮยอนซึงอ้อน และเขาจะมักใจอ่อนให้อยู่เสมอ แต่…บางเรื่องเท่านั้นนะ
“แล้วทำไมถึงชอบไปผับ ? ผับมันเงียบนักหรือไงห๊ะ ชิ” ฮยอนซึงหันหน้าออกทางอื่นทำท่าแกล้งงอน
“มันเป็นที่วิปัสนาต่างหาก”
“มั่วแล้ว ยงจุนฮยอง…” ฮยอนซึงหันมามองตาขวางใส่จุนฮยองเสร็จก็มองลงไปข้างล่างอีกครั้ง
แต่ใครจะรู้ ยงจุนฮยองคนนี้ก็ยืนแอบยิ้มให้กับจางฮยอนซึงคนน่ารักของเขาอยู่
“หึหึ
ทำไมนายกับดูจุนถึงชอบถ่ายรูป”
“ก็ชอบให้คนยิ้มให้มั้ง
มันดูสบายใจเมื่อเห็นรอยยิ้มของใครหลายๆคน แล้วทำไมถึงเลือกทำงานเป็นโปรดิวเซอร์”
“ชอบทำเพลงมั้งอยากมีเพลงเป็นของตัวเอง”
สำหรับจุนฮยองแล้ว การได้เขียนอะไรลงไปมันเหมือนเป็นที่ระบายความรู้สึก
กระดาษก็เป็นเหมือนเพื่อนที่คอยรับฟังเขา
“รูปนี้นายหล่อมากเลยถ้าตัดอีจุนออกนะ”
ฮยอนซึงเปิดรูปที่เขาแอบถ่ายจุนฮยองเมื่อตอนเย็นในงานปาร์ตี้
“นี่แอบถ่ายหรอเนี่ย”
“ฮ่าๆ
ฉันเห็นนายอยู่กับเพื่อนแล้วยิ้มตลอด ฉันก็อยากเก็บรูปนายเวลายิ้มมาดูน่ะสิ นายน่ะยิ้มไม่ค่อยจะมีหรอก”
“ต้องคิดค่าปรับเสียแล้ว” พูดจบจุนฮยองก็โน้มใบหน้าเข้าไปอย่างรวดเร็วและประกบจูบไปที่ปากบางของฮยอนซึง…
มือหนาคว้ากล้องจากมือฮยอนซึงวางไว้ที่โต๊ะทานกาแฟใกล้ๆ
และประคองหน้าสวยอย่างเบา ลิ้นหนาเริ่มเข้าไปสอดแทรกเกี่ยวเล่นกับลิ้นบาง
ทำให้ฮยอนซึงสะดุ้งตัวเล็กน้อย…มันอาจจะไม่ใช่ครั้งแรก
แต่มันคนละความรู้สึกกับครั้งแรกต่างหาก การจูบครั้งนี้มันลึกซึ้งกว่าครั้งก่อน
Cut
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
#BTOB
“เฮ้ย ฮุลทำไรว่ะเล่นเกมกัน”
ชางซอบเดินมาชวนเพื่อนที่นั่งวุ่นวายอยู่กับกระดาษมาเป็นชั่วโมง
“ฉันยังแต่งท่อนแร๊ปไม่ได้เลยว่ะ
เพลงใหม่เรานี่ฉันแต่งท่อนแร๊ปเองนะ”
“ทำไมไม่ขอความช่วยเหลือพี่จุนฮยองล่ะว่ะ”
มินฮยอกเดินมาเสริมเมื่อเห็นพวกนี้คุยกัน
“เขาจะนอนยังว่ะ”
“อ้าวจะรู้ไหมเนี่ย
นายก็เดินไปดิพี่จุนฮยองอยู่อีกสองห้องถัดจากเรา”
“โอเค
ขอบคุณมินฮยอกถ้าฉันได้อะไรคืบหน้าแล้วจะกลับมาเล่นเกม ไปล่ะ” อิลฮุลเดินออกมาจากห้องของตัวเองและตรงมาที่ห้องของจุนฮยองโปรดิวเซอร์คนสนิทที่สามารถช่วยเรื่องเพลงได้ตลอดเวลา
“นี่ มันจะตี2แล้วนี่หว่าพี่เขาจะนอนยังว่ะ”
อิลฮุลเอาหูแนบกับประตูเพื่อฟังเสียงว่าจุนฮยองนอนหรือยังถ้าเงียบแสดงว่าหลับถ้ามีเสียงยังไม่หลับ…
“เฮ้ย.! เชี่ย..เสียงอะไรว่ะ O.O”
อิลฮุลได้ยินเสียงแปลกๆอยู่ในห้องเสียงครางเหมือนครางอะไรอยู่และเขาก็แนบฟังอีกครั้ง
“อือ อ่า..จะจุนฮยอง อ่ะอ่ะ” อิลฮุลเดินออกจากมาตรงนั้นและลูบแขนตัวเองที่ขนยังไม่หายลุก
“มันเกิดอะไรขึ้นว่ะ” ฮิลฮุลรีบวิ่งกลับห้องของตัวเองให้เร็วที่สุด
เพื่อนที่นั่งเล่นเกมกันอยู่ก็สงสัยว่าทำไมเพื่อนมีท่าทีรีบร้อนขนาดนั้น
“เอ้ยย” อิลฮุลวิ่งเข้ามาในห้องและนั่งระหว่างกลางวงของเพื่อน
“เฮ้ยๆ
อะไรเนี่ยหลบไปฉันจะเล่นเกม”
“เฮ้ยพวกนายฟังฉันก่อน
เมื่อกี้ฉันห้องพี่จุนฮยองมา ฮึก...” อิลฮุลกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่เพราะเขาคิดอะไรแบบนั้นขึ้นมาแล้ว
“มันมีอะไร” มินฮยอกถามขึ้น
“ก็ห้องพี่จุนฮยองมันมี …เสียงแบบ…อือ..อื้ม..อ่ะ อ่า”
“หือ!” ทั้งหมดหยุดเล่มเกมและตั้งใจฟังต่อ
“แล้ว..เขานอนกับแฟนเขาหรือเปล่าว่ะ”
ซองแจเอ่ยถามบ้าง
“นอนๆฉันเห็นตอนที่เขาขึ้นไปบนห้องพัก
คิดเหมือนกันไหม” ทุกคนก็พยักหน้า
“เฮ้ยเลิกพูดๆ
เรื่องของพี่เขาน่า” มินฮยอกพูดให้ทุกคนเลิกคิดถึงเรื่องนั้น
-----------------------------------------------------------------------------------------------
ภายในห้องอันเงียบมาเป็นชั่วโมงร่างบางที่นอนตะแคงให้กับคนรัก
นอนลืมตาอยู่บ่งบอกถึงยังนอนไม่หลับ
“ดูจุน..นอนหรือยัง”
“ยังอ่ะ ดูจุนยังไม่ค่อยง่วงเลย”
ร่างเล็กลุกขึ้นมานั่งพิงกับหัวเตียง
“โยถามไรหน่อยสิ...”
“มีไรครับ?”
“เรื่องระหว่างจีน่าและดูจุนมีเรื่องอะไรที่ค้างคากันอยู่หรือเปล่า”
พอโยซอบพูดจบดูจุนพูดขึ้นมาอย่างมั่นใจ
“ไม่ครับเราสองคนไม่มีอะไรทั้งสิ้น”
ดูจุนยืนยันอย่างหนักแน่น ให้กับคนรักฟัง
“แล้วดูจุนพอจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้โยฟังได้ไหม?”
ดูจุนลุกขึ้นและกุ้มใบหน้าเล็กของคนรัก
“ได้สิ
งั้นเราลงไปเดินเล่นกันไหม?” โยซอบพยักหน้าตอบตกลง
เดินมาได้สักพักดูจุนก็เริ่มเปิดเรื่องราวระหว่างเขากับจีน่าในอดีตให้โยซอบได้สบายใจ
ถ้าโยซอบอยากรู้อะไรดูจุนคนนี้ก็บอกให้หมดทุกอย่าง
“เอ่อ…ดูจุนคบกับจีน่ามาตั้งแต่เข้ามหาลัยปีหนึ่งเขาคือเพื่อนคนแรกที่ดูจุนสนิท
เขาน่ารักดีนิสัยดีแต่ไม่รู้ว่าตอนไหนความสัมพันธ์ของดูจุนกับจีน่าได้เปลื่ยนเป็นมากกว่าเพื่อนไปแล้ว
และวันหนึ่งเขามาบอกว่าเขาเป็นเด็กฝึกหัดอยู่ที่ค่ายคิวบ์
ดูจุนก็ไปที่บริษัทนั้นบ่อยจนเขาชักชวนให้มาเป็นนักร้องแต่ดูจุนรักงานกล้องมากกว่าดูจุนเลยปฏิเสธไปจีน่าเองเขาก็อยากให้ดูจุนเป็นนักร้อง”
โยซอบตั้งใจฟังอย่างมากเพราะเรื่องนี้เขาไม่เคยรู้ และดูจุนเองก็ไม่อยากเล่า
“เขาก็โกธรเรื่องนี้อยู่นาน
พอเข้าหนึ่งปีที่จีน่ากับดูจุนคบกัน
ตอนนั้นจีน่าก็ได้เป็นนักร้องแล้วแถมดังอีกด้วยนะ”
“แล้วดูจุนทำไงต่อไป”
“ก็รอเวลาที่จีน่าว่างน่ะ
ตลอดเวลานั้นเขาไม่ค่อยโทรหา โทรไปก็ไม่ว่างงานเยอะตลอดดูจุนก็คิดถึงเขามาก
แต่อย่างไงก็ต้องยอมรับความจริงยอมให้คนที่เรารักทำตามความฝันของตัวดีกว่า
จากนั้นจีน่าเขาก็บอกเลิกดูจุนไป แต่เราก็ไม่ได้บอกว่าจะเป็นเพื่อนกัน
ตอนนี้จีน่ากับดูจุนก็แค่คนร่วมงานกันเท่านั้น”
“ดูจุนยังรักจีน่าอยู่ไหม..”
ดูจุนหยุดเดินและหันมามองหน้าคนรักของเขาอย่างจริงจัง
“ตอนที่เลิกกันใหม่ๆรักมาก
ไม่อยากเสียเขาไป แต่ถ้าวันนั้นดูจุนรถไม่เสียและต้องเดินไปดู
เสียงโยร้องเพลงทำเอาดูจุนต้องหยุดฟังเลยล่ะ
วันนั้นโยไม่สงสัยเลยหรือไงว่าทำไมดูจุนถึงเข้าไปในร้านของโย” โยซอบทำหน้าคิดออก
“อ่ะอ่อ ! ฮ่าๆ นั่นสิ ใครก็ไม่รู้
อยู่ดีๆก็เข้ามาคนกำลังสอนร้องเพลง”
“ก็อยากเห็นหน้าคนร้องไง
พอเห็นนะภาพโยน่ะติดตาดูจุนเรื่อยเลยล่ะ”
“แล้วหลังจากนั้นดูจุนก็บังเอิญเจอกับโยบ่อยๆแถมพาไปดูสตูดิโอถ่ายรูปของดูจุนอีก
โยน่ะเริ่มแอบปลื้มดูจุนแล้วนะตอนนั้นน่ะ คิคิ”
“ความรู้สึกช้าจังเลยนะ หึหึ^^”
“เปล่าสักหน่อยน้า โยรักดูจุนนะ”
“ดูจุนรักโยมากๆกว่าเยอะเลยล่ะ
ใครจะมาแทนที่โยไม่ได้อีกนะรู้ไหม” ร่างสูงเข้าไปโอบกอดร่างเล็กให้ความอบอุ่นเหมือนที่เคยทำบ่อยๆคราวนี้อุ่นกว่ายิ่งเก่า
--------------------------------------------------------------------------------------------------
สองร่างนอนกอดกันกลมโดยมีผ้าห่มผื้นใหญ่ปิดปังร่างกายอันว่างเปล่าของเขาทั้งสองไว้
“ฮยอนซึงตื่นได้แล้ว หึ
ฉันรู้ว่านายตื่นนะ” ร่างสูงรู้ว่าร่างบางที่นอนซบอกร่างสูงอยู่ตื่นนานแล้วแต่ไม่ยอมลุกจากที่นอน
“อืออออ” ร่างบางกอดร่างสูงแน่นกว่าเดิม
“ถ้านายตื่นช้าระวังอดเที่ยวนะ”
ร่างบางเด้งตัวออกจากผ้าห่มและวิ่งเข้าห้องน้ำทันที
ฮยอนซึงน่ะชอบเที่ยวถึงมากที่สุดเลย
ทั้งสองทำอะไรเสร็จเรียบร้อยแต่งตัวอะไรเสร็จหมดทุกอย่างแต่ดูเหมือนฮยอนซึงยังคงไม่เสร็จเพราะเอาแต่มองตัวเองในกระจก
“ทำอะไรอยู่น่ะ
ฮยอนซึงเห็นดูกระจกอยู่นานแล้ว”
“ปากบวมมากไหมอ่ะหน้าโทรมไหมอ่ะ”
ร่างสูงเดินมายีหัวร่างบางเบาๆ
“สวยเหมือนเดิมหึ”
“ไอ้บ้า
หล่อสิเฟ้ยไม่ใช่ผู้หญิงนะ นายทำฉันไว้เยอะเลยเนี่ย ปากบวม คอแดง
เจ็บปวดสะโพกไปหมดเลย” ร่างบางยู่ปากใส่ร่างสูงอย่างน่ารัก
“นั้นเดี๋ยวฉันรับผิดชอบเอาอีกสักคืนไหมเผื่อโดนอีกทีแล้วจะหายเลย
ฮ่าๆ”
“ไม่เอา จิ๊!
ไปกินข้าวเถอะหิวแล้ว เอ้อไหนนายบอกว่ามีร์ไม่มาไง
ฉันเห็นยังเดินร่อนคุยกับคนนู่นคนนี้ไปทั่วเลย”
“อ่อ..ฉันไม่รู้น่ะ
ไปกินข้าวเถอะ” ฮยอนซึงไม่ต่อบทสนทนาต่อและเดินลงไปกินข้าวที่ห้องอาหาร
พวกคนที่เจอกันเมื่อคืนก็เดินเข้ามาทักทายจุนฮยองและฮยอนซึงตลอดทาง
“จุนฮยองฮยอนซึงทางนี้” โยซอบตะโกนเรียกจุนฮยองฮยอนซึงมาทานข้าวที่โต๊ะเดียวกัน
“โหพี่สองคนลงมาก่อนผมอีกนะฮะ”
“โยบ่นหิวตั้งแต่เมื่อคืนเลย
ฮ่าๆ”
“ใส่ร้ายโยอีกแล้วนะ เอ๊ะคอ…ทำไมแดงเป็นจัมๆอย่างนั้นล่ะ?”
โยซอบยิงคำถามใส่ทันทีเมื่อเห็นรอยแดงที่คอแถมฮยอนซึงเป็นคนผิวขาวทำให้เห็นชัดขึ้น
จุนฮยองไม่ได้สนใจอะไรและลุกไปตั้งอาหารบุฟเฟ่ต์ที่ทางโรงแรมจัดให้กับทางบริษัท
“อ่อที่นอนมีมดนะมดแดงตัวใหญ่มากเลย
ตอนนี้ซึงยังไม่หายคันเลยพี่โย”
“หายาทาหรือยัง
อย่าเกานะเดี๋ยวเป็นแผล”
“โอเคฮะ”
.
.
.
.
“เฮ้ยพี่จุนฮยองสวัสดีครับ”
นักร้องหน้าใหม่ในค่ายเดินเข้ามาทักทายจุนฮยองอยากเป็นกันเอง
เพราะปกติเขาก็สนิทกับเจ้าฮิลฮุลอยู่แล้ว เพราะคอยมาปรึกษาเรื่องเพลงตลอด
“เออๆสวัสดีอิลฮุล”
“ผมแต่งท่อนแร๊ปได้หมดแล้วนะพี่”
“เออดีแล้ว” จุนฮยองยังก้มหน้าก้มตาหยิบอาหารต่อไป
“ผมถามอะไรพี่หน่อยดิ”
“อะไร”
“เมื่อคืนผมบังเอิญไปห้องพี่แล้วได้ยิน...”
พอฮิลฮุนพูดอย่างนี้ขึ้นมาก็ทำให้รู้ทันทีเลยว่าเรื่องอะไร
“หยุดพูดเลย! เป็นเด็กเป็นเล็ก”
จุนฮยองส่ายหัวเบาๆและเดินออกจากตรงนั้นมา แสดงว่าสิ่งที่อิลฮุลคิดก็เป็นจริงทุกอย่าง
อิลฮุลก็ได้แต่ยืนหัวเราะคนเดียว
พอรับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อยทุกคนคือมีโปรแกรมจะไปเดินตลาดนัดกันมีของขายเยอะแยะไปหมด
ร่างบางที่หดหู่อยู่คนเดียวเพราะโดนแย่งคู่เดินไปอ่ะสิ
ยูอีที่แกล้งทำเป็นไม่รู้ว่าจุนฮยองกับฮยอนซึงคบกัน เขาก็ควงจุนฮยองให้ร่อนเลยล่ะ
จุนฮยองเองก็ปฏเสธไม่ถูกและหันหน้ามามองฮยอนซึงที่เดินช้าสุดเพราะตัวเองกำลังเจ็บสะโพกอยู่
ฮยอนซึงเองก็บอกปล่อยไปเถอะ ไม่ใช่อะไรหรอกถ้าเขาหายเจ็บสะโพกก่อนเถอะ
จุนฮยองน่ะของฮยอนซึงคนเดียว
“หึ เดินควงกันเข้าไปไม่นานมีร์คงจะมา
ฉันยังเจ็บสะโพกอยู่ถ้าหายนะไม่มีใครได้ยุ่งกับจุนฮยองแน่” ฮยอนซึงแค่เดินช้าๆแต่ไม่แสดงออกมาว่าเขาน่ะปวดเพราะเดี๋ยวคนอื่นจะสงสัย
“พี่ฮยอนซึงทำไมเดินอยู่คนเดียวล่ะ”
ร่างโปร่งและคนตัวเล็กที่เดินมาด้วยกันเอ่ยทัก
“อ่อฉันไม่ชอบเดินเร็วน่ะ…โอ้ย!” ร่างบางถูกใครที่ไหนไม่รู้เดินชนจนเซไปเลย
“คุณครับ รอผมด้วยสิคุณ”
“อะไรของนายเนี่ย!” ร่างเล็กหันมาตวาดใส่ร่างสูงที่เดินตามต้อยๆ
“โถ่คุณมีร์ครับผมขอเดินด้วยไม่ได้หรอ”
“ไม่ได้!” และสองคนนั้นก็เดินจากตรงนั้นไป
“พี่ฮยอนซึงฮะพี่เป็นไรไหม”
“ไม่เป็นไร
แล้วกีกวังเดินกับดงอุนสองคนหรอ?”
“ครับ
เข้าร้านนี้ดีกว่าพี่ฮยอนซึง” ดงอุนส่งยิ้มหวานให้กับฮยอนซึงและลากเข้ามาในร้านที่ขายหมวกเยอะแยะเลย
และจุนฮยองเองก็เข้าร้านนี้เหมือนกัน
เห็นดงอุนสวมหมวกให้กับฮยอนซึงลองเล่นๆกันจนทำให้จุนฮยองเริ่มหงุดหงิด
เพราะเขาเองรู้ว่าดงอุนยังตัดใจจากแฟนพี่ชายตัวเองไม่ได้
ร่างสูงเดินเข้ามากระชากแขนฮยอนซึงและเดินออกนอกร้าน
ยูอีก็อ้าปากค้างเพราะจุนฮยองไม่สนใจเขาเลย กีกวังก็ทำหน้างงเช่นกัน
แต่สำหรับดงอุนเขาเข้าใจว่าพี่ชายเขากำลังหึงอยู่
ก็นานๆทีเขาจะได้เข้าใกล้ฮยอนซึงบ้าง ดงอุนอิจฉาจุนฮยองทุกอย่างถึงแม้เขาจะมีคนรักเขามากมาย
“พี่กีกวังเอาอะไรไหมครับ”
“อ่ะอ่อ..ไม่เอาหรอกนายล่ะ”
“เดี๋ยวซื้อนิดหน่อยแล้วกันครับ”
“อื้มโอเค” กีกวังเองก็รู้ว่าดงอุนจะซื้อหมวกใบนั้นให้ใคร
.
.
.
“ลากฉันมาทำไมเนี่ย
เดินช้าๆหน่อยก็ได้เจ็บสะโพกอยู่นะ” ร่างสูงหยุดและนั่งลงเพื่อให้ร่างบางขึ้นหลัง
“ขึ้นสิ” ร่างบาง..อั้มๆอึ้งๆอยู่เพราะคนแถวนี้ก็เยอะ
เขาก็ไม่กล้าแค่จุนฮยองนั่งยองๆให้ นักท่องเที่ยวก็มองเยอะแล้ว
“เอ่อ…ไม่ต้องหรอกน่า”
จุนฮยองเงียบและยังคงตั้งท่าเดิม
ฮยอนซึงเลยต้องขึ้นไปอยู่บนหลังพอขึ้นเสร็จจุนฮยองก็เดินต่อไป
“อะไรเนี่ย จะง้อฉันหรือไง”
ฮยอนซึงอมยิ้มให้กับคนที่แบกเขาอยู่ เขาก็ไม่รู้หรอกนะว่าสิ่งที่จุนฮยองทำอยู่มันเรียกว่าง้อหรือเปล่า
“ง้อเรื่องอะไรของนาย” มันก็ง้อแหละ แต่จุนฮยองก็แค่ปากแข็งไปเรื่อย เขาเห็นฮยอนซึงเจ็บสะโพกและก็ไม่อยากให้เดินคนเดียว
เพราะหมามันจ้องจะคาบไปเยอะแยะ
“ก็ที่นายไปอยู่กับพี่ยูอีไงแล้วไม่เดินกับฉันน่ะ”
“หึ ฉันจะง้อนายทำไม
ทีนายยังอยู่กับดงอุนเลย”
“เปล่าเดินกับดงอุนสองคนสักหน่อย
กีกวังก็เดินด้วยไม่เห็นหรือไง”
“เห็น แต่นายกับดงอุนใกล้ชิดกว่า”
“ชิ ทีนายเล่าให้พี่ยูอีควงแขน”
“เขาควงฉันเอง”
“หรอ ! -.-
แล้วนี้อีจุนเขาตามจีบมีร์หรอ” เขาเห็นอีจุนที่วิ่งมาอย่างเร็วและเดินไปจับมีร์แต่ก็โดนมีร์สะบัดออกมาจนได้
“อือประมาณนั้นแหละ มันบอกสนใจ”
“บอกให้อีจุนเอาไปเลย” ฮยอนซึงทำน้ำเสียงดีใจและร่าเริงขึ้นมาทันที เพราะถ้าอีจุนสนใจมีร์ก็ดี
จะได้หมดมารไป
“ทำไมล่ะ” จุนฮยองตีหน้ามึนถามคนสวยอีกครั้ง
“ฉันจะได้ไม่ต้องมารอีกแล้วไง
ถ้าไม่มีมีร์นะชีวิตฉันคงราบรื่น หมอนั่นอ่ะเอาแต่พูดกวนประสาทตลอด
ฉันเบื่อ..ที่ต้องให้มีใครมายุ่งกับนาย..แล้วตอนนี้ก็มันก็มีเพิ่มขึ้นมาอีกแล้ว นายรู้ไหมฉันรักนายมากเลยนะ
นายจะไม่มีใครนอกจากฉันใช่ไหม” ตลอดเวลาที่ผ่านมาฮยอนซึงก็ยังกังวลเรื่องที่จุนฮยองจะไปเจ้าชู้กับคนอื่นอยู่
แต่เขาก็จะพยายามเชื่อใจจุนฮยองให้มากๆ
“หึ ทำไมถึงคิดอย่างนั้น”
เขารู้ ว่าคนสวยของเขายังกลัว แต่จุนฮยองว่าไม่มีคือไม่มี
“ก็กลัวนี่น่า
มีร์น่ะเป็นคนที่นายรักมากที่สุดไม่ใช่หรอ...”
“ตั้งเจ็ดปีมาแล้วฉันไม่ได้คิดถึงมีร์หรือรักมีร์แล้วนิ
คนที่ฉันรักก็ให้ขี่หลังอยู่นี้ไง…หนักอย่างกับช้าง”
“หึ! นั้นก็เอาลงเลย”
“ฮ่าๆ ล้อเล่นน่ะ” จุนฮยองกระตุกยิ้มมุมปากหันมามองฮยอนซึงนิดหน่อย
“เอออีกเรื่องนึง
การยิ้มของนายนะเลิกยิ้มมุมปากได้แล้วนะ รอยยิ้มของนายน่ะทำให้ใครๆหลงได้ทั้งนั้น”
“แล้วนายจะให้ฉันยิ้มอย่างไง
ให้ยิ้มอย่างนี้หรอ” จุนฮยองทำท่ายิ้มเห็นฟันหมดทุกซีกทำเอาคนอยู่บนหลังขำเมื่อได้เห็นความน่ารักของแฟนตัวเอง
“ฮ่าๆ เมื่อกี้นายตลกซะมัดยิ้มอย่างนั้นแหละดีมาก”
“ตลกแล้วฮยอนซึง” ฮยอนซึงยังขำไม่หยุดและสายตาของเขาก็เหลือบไปมองนิ้วมือที่จับขาของเขาอยู่
“อ่ะ นายใส่แหวนแล้วหรอ
นิ้วเดียวกันเลย” ฮยอนซึงละมือข้างซ้ายและชูนิ้วให้กับจุนฮยองดู
จุนฮยองเองก็ใส่ข้างซ้ายเหมือนกัน เขาก็ได้แต่ยิ้มแต่ไม่ได้ตอบอะไรไป
“นายน่ะน่ารักมากเลย” ฮยอนซึงกระชับกอดแน่นขึ้นแต่จุนฮยองก็ยังหายใจออก
จุนฮยองเดินไปโดยมีฮยอนซึงอยู่บนหลังแต่ไม่ได้แคร์สายใครเลยสักนิดเหมือนเกะเซจูมีแค่เขาสองคนเท่านั้น
*ฉากที่ตัดไปสามารถเข้าไปอ่านได้ในทวิตนะคะ
ไรทปักมุดไว้ค่ะ
BEAST ♥ BEAUTY
ความคิดเห็น