ทั่วโลกจับตา "สุริยุปราคาเต็มดวง" ครั้งเดียวในรอบปี |
โดย ผู้จัดการออนไลน์ |
29 มีนาคม 2549 07:30 น. |
|
เจ้าหน้าที่จากองค์การนาซาเตรียมการตั้งกล้องในโบราณสถานแห่งหนึ่งในแถบเมดิเตอร์เรเนียน อันเป็นบริเวณที่จะเห็นกึ่งกลางของปรากฎการณ์ | |
|
|
คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น |
| | |
|
เอเยนซี/สมาคมดาราศาสตร์แห่งประเทศไทย - ทั่วโลกเตรียมจับตาชม "สุริยุปราคาเต็มดวง" ครั้งแรกและครั้งเดียวในรอบปี ช่วง 5 โมงเย็นตามเวลาประเทศไทย แต่น่าเสียดายที่คนไทยไม่ได้เห็น นักท่องเที่ยวและนักดาราศาสตร์ทั่วโลกกำลังจับตาการเกิด "สุริยุปราคาเต็มดวง" ช่วงเย็นวันนี้ (29 มี.ค.) นับเป็นครั้งเดียวในรอบปีที่ดวงจันทร์เข้าบังดวงอาทิตย์มิดหมดดวง โดยมีข้อน่าสังเกตว่าอุปราคาที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ได้พาดผ่านกลุ่มประเทศยากจนหรือประเทศที่มีจำนวนประชากรมาก แต่น่าเสียดายที่ปรากฎการณ์ครั้งนี้ไม่สามารถสังเกตได้จากท้องฟ้าเหนือประเทศไทย ทั้งนี้ แนวคราสเต็มดวงซึ่งเป็นเส้นทางแคบ ๆ บนผิวโลกเริ่มต้นทางตะวันออกของบราซิล ลากผ่านมหาสมุทรแอตแลนติกและทวีปแอฟริกา ไปสิ้นสุดในเอเชียกลาง เงามืดของดวงจันทร์เริ่มแตะผิวโลกที่บราซิลในเวลา 15.36 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ที่บราซิลจะเห็นสุริยุปราคาเต็มดวงนาน 1 นาที 53 วินาที ขณะดวงอาทิตย์ขึ้น จากนั้นเงามืดเคลื่อนไปทางตะวันออกอย่างรวดเร็วลงสู่มหาสมุทรแอตแลนติก มุ่งหน้าไปยังทวีปแอฟริกา เงามืดของดวงจันทร์แตะชายฝั่งของประเทศกานาเมื่อเวลา 16.08 น. กึ่งกลางแนวคราสเห็นสุริยุปราคาเต็มดวงนาน 3 นาที 24 วินาที เงามืดเคลื่อนต่อไปยังประเทศโตโก เบนิน ไนจีเรีย ไนเจอร์ ชาด และลิเบีย ส่วนกึ่งกลางของแนวคราสซึ่งเห็นสุริยุปราคาเต็มดวงนานที่สุดนับเป็น 4 นาที 7 วินาที เกิดขึ้นในเวลา 17.11 น. จากนั้นเงามืดเคลื่อนไปยังทะเลเมดิเตอร์เรเนียน แตะขอบด้านตะวันตกเฉียงเหนือของอียิปต์แล้วเคลื่อนต่อไปยังตุรกี ทะเลดำ จอร์เจีย ทะเลแคสเปียน รัสเซีย คาซัคสถาน แล้วเข้าสู่ตะวันตกเฉียงเหนือของมองโกเลียพร้อมกับสิ้นสุดคราสเต็มดวงเมื่อเวลา 18.48 น. โดยที่มองโกเลียเห็นสุริยุปราคาเต็มดวงนาน 1 นาที 51 วินาที ขณะดวงอาทิตย์ตก บริเวณที่เห็นสุริยุปราคาบางส่วน ครอบคลุมตะวันออกของอเมริกาใต้ แอฟริกา ยุโรป และตะวันตกของเอเชีย "สุริยุปราคาเต็มดวง" นั้นเป็นปรากฎการณ์ที่หาชมได้ยากยิ่ง เพราะจะเกิดได้ต้องรอให้วงโคจรของดวงอาทิตย์, ดวงจันทร์ และโลกเข้าสู่แนวเดียวกัน ซึ่งสุริยุปราคาเต็มดวงครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นในอีก 2 ปีข้างหน้า อย่างไรก็ดี ยังมีอุปราคาอีก 2 ครั้งในรอบปีนี้ โดยคืนวันที่ 7 ต่อเช้าวันที่ 8 ก.ย.จะเกิด "จันทรุปราคาบางส่วน" และวันที่ 22 ก.ย. จะเกิด "สุริยุปราคาวงแหวน" ดวงจันทร์บังดวงอาทิตย์แต่ไม่มิดดวง และในวันที่ 9 พ.ย.จะเกิดปรากฎการณ์ "ดาวพุธผ่านหน้าดวงอาทิตย์" มองเห็นได้ในประเทศไทยขณะดวงอาทิตย์ขึ้นบนท้องฟ้าทิศตะวันออกจนถึงเวลา 7.11 น.หลังจากปีนี้ จะเกิดปรากฏการณ์ดาวพุธผ่านหน้าดวงอาทิตย์อีกครั้งในวันที่ 9 พ.ค.2559
| | | | http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9490000042128 | | |
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น