คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : destiny::1
destiny::1
หลังจากผ่านการประชุมมาหนึ่งอาทิตย์บรรยากาศในที่ทำการดูปั่นป่วนไปหมดเนื่องจากได้
รับการรายงานจากวองโกเล่ว่าจะเดินทางมาหารือเรื่องแผนการกับทางจีเวลแฟมิลี่ในอีกไม่กี่วันที่จะถึงซึ่งตอนนี้มันก็มาถึงวันนั้นแล้วด้วย…..
“นี่! เตรียมอาหารเสร็จหรือยัง”เสียงพ่อครัวดังโหวกเหวกมาจากในครัวเรียกความสนใจจากโมน่าซึ่งกำลังเดินผ่านให้หันมามอง
“แล้วอย่าลืมเตรียมอาหารว่างเพิ่มด้วยนะ”แม่ครัวอีกคนหันมาสั่งลูกมือที่กำลังหั่นส้มเพื่อนำไปตกแต่งเค้กผลไม้ ลูกมือหันมาก้มหัวรับคำสั่งเล็กน้อยก่อนจะหันไปหั่นส้มต่อ
โมน่าขมวดคิ้วเล็กน้อยกับภาพตรงหน้าไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยชินกับบรรยากาศอันวุ่นวายแบบนี้แต่เธอกำลังรู้สึกรำคาญกับหลายๆสิ่งรอบๆตัวที่ดูวุ่นวายไปหมดเริ่มตั้งแต่คนสวนหน้าปราสาทที่วิ่งกันวุ่นเพื่อตกแต่งสวน แม่บ้านที่วิ่งเข้าวิ่งออกห้องแต่ละห้องเพื่อทำความสะอาด ไหนจะพ่อครัวแม่ครัวตรงหน้านี้อีก
“ไม่ทราบว่าคุณเดลเลียต้องการอะไรเพิ่มหรือปล่าวคะ?”แม่บ้านตัวเล็กคนหนึ่งถามโมน่าที่ยืนเหม่อไปทางห้องครัว
“ปล่าวหรอกไปทำงานต่อเถอะ”โมน่าหันไปบอกแม่บ้านก่อนจะเดินออกไป
“คุณเดลเลียนี่ยังเย็นชาไม่เปลี่ยนเลยนะ”พ่อครัวคนหนึ่งพูดพลางมองไปที่โมน่าซึ่งเดินออกไปที่มือของเขาตอนนี้ถือเค้กผลไม้ชิ้นใหญ่ที่พึ่งตกแต่งเสร็จ
“คุณเดลเลียก็เป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้วน่ะนะ”แม่บ้านพูดสิ่งยิ้มอ่อนๆให้พ่อครัวก่อนจะพึมพัมประโยคที่มีแค่ตัวเองที่ได้ยินออกมาเบาๆ “แข็งกระด้าง นิ่งและเย็นชา นี่แหละคุณเดลเลีย”
โมน่าเดินหนีความวุ่นวายออกไปที่สวนหลังปราสาทซึ่งปราศจากผู้คนก่อนจะนั่งลงที่ม้านั่งใกล้บ่อน้ำ ความสงบของธรรมชาติทำให้ใจของเธอรู้สึกสงบขึ้นมาทันที โมน่าไม่ชอบความวุ่นวายเธอชอบอยู่อย่างสงบๆคนเดียวในโลกส่วนตัวบางคนอาจจะเห็นเธอในมาดสาวนิ่งเย็นชาแต่ความจริงแล้วเธอเพียงแค่ทำไปอย่างงั้นเพื่อปกปิดบางอย่างในใจของเธอ
“อยู่นี่เองโมน่าหาตั้งนาน!!”เสียงใสๆดังขึ้นข้างหลังโมน่า “มาทำอะไรตรงนี้หรอ~”เจ้าของเสียงยังคงถามไปเรื่อยๆโดยที่เจ้าของคำถามยังเงียบอยู่
“ก็ไม่ได้ทำอะไรนี่ริน”เสียงเรียบเอ่ยตอบเพื่อนสาว
“ผิดแล้วเธอกำลังนั่งเหม่ออยู่ต่างหาก”รินพูดพลางลุกขึ้นประจันหน้ากับโมน่าก่อนจะกอดอกแสดงสีหน้ามั่นใจกับสิ่งที่ตัวเองพูดออกไป
“ก็จริงของเธอ”โมน่าตอบพลางยิ้มอ่อนๆกับพฤติกรรมของเพื่อนตรงหน้าที่มักจะแสดงความเป็นเด็กออกมาให้เธอเห็นประจำ
“อะไรอ่ะไม่รับมุกกันเลย -^- ”รินทำหน้างอเหมือนเด็กพลางนั่งลงที่พื้นข้างบ่อน้ำแล้วหยิบก้อนหินแถวนั้นปาลงในบ่อน้ำอย่างอารมณ์เสีย
“แล้วมีเรื่อด่วนอะไรอย่างงั้นหรอ”
“อ้อ มีสิคือว่าตอนนี้นะรู้สึกว่าวองโกเล่อะไรนั่นน่ะเดินทางมาถึงแล้ว”
“อ๋อ มาถึงแล้วหรอ…..ตัวการของความวุ่นวายวันนี้”โมน่าตั้งใจลดเสียงประโยคสุดท้ายให้ได้ยินแต่ตัวเอง
“ใช่แล้วล่ะรุ่นที่เก้าเลยให้ฉันมาตามเธอไง”รินลุกขึ้นปัดกระโปรงที่ติดทรายออกอย่างเบามือ
“งั้นเดี๋ยวฉันจะรีบตามไป เธอไปก่อนเลย”
“แน่ใจนะว่าจะรีบตามไป”รินพูดพร้อมกับส่งสายตาจับผิดมาที่โมน่า
“ฉันพูดแล้วไม่คืนคำ”คำตอบของโมน่าทำให้เด็กสาวตรงหน้ายิ้มอย่างพอใจก่อนจะเดินออกไปจากบริเวณสวนจนลับสายตา โมน่าถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นหยิบกล่องไวโอลินของตนเองเดินออกไปแต่ระหว่างทางนั่นเองที่เธอจับความรู้สึกอะไรบางอย่างได้
“คุณคนที่อยู่ตรงนั้นน่ะเลิกซ่อนตัวซักทีได้ไหมคะ”เมื่อโมน่าเอ่ยจบด้านหลังของเธอก็ปรากฏชายหนุ่มทรงผมแปลกตาคนหนึ่ง
“หึหึหึ รู้ตัวตอนไหนกันครับผมว่าผมกลบจิตสังหารตัวเองได้ยอดเยี่ยมแล้วนะ”
“นั่นเรียกว่ากลบแล้วงั้นหรอคะ”หญิงสาวตรงหน้าตอกกลับด้วยใบหน้าไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ “ถ้าให้ฉันสันนิษฐานคุณคงอยู่ตรงนั้นตั้งแต่เมื่อสิบนาทีก่อนแล้วสินะคะ ฉันรู้สึกได้นะคะคุณโรคุโด มุคุโร่ ผู้พิทักษ์สายหมอกของวองโกเล่”การสันนิษฐานของคนตรงหน้าทำเอาชายหนุ่มชะงักไปซักพักหนึ่งก่อนจะยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์
“งั้นถ้าให้ผมสันนิษฐานคุณก็คือ เดลเลีย เดสดิโมน่า หัวหน้าหน่วยและผู้พิทักษ์สายหมอกของจีเวลแฟมิลี่สินะครับ”โมน่าขมวดคิ้วอย่างสงสัยกับข้อสันนิษฐานตรงหน้า จีเวลแฟมิลี่เป็นแฟมิลี่ที่ปกปิดข้อมูลได้อย่างแนบเนียนไม่น่าจะมีคนอื่นรู้กระทั่งชื่อผู้พิทักษ์
“ไม่ได้มีแต่ฝ่ายคุณเท่านั้นหรอกครับที่รู้ข้อมูลของอีกฝ่าย J ”ชายหนุ่มตรงหน้ายิ้มอย่างจงใจกวนประสาทฝ่ายหญิงออกมา
“งั้นหรอคะ - - ”โมน่าตอบหน้าตายก่อนจะหันหลังเดินกลับอย่างสงบแต่ในใจแทบอยากจะกระโดดเข้าไปข่วนหน้าสักร้อยรอบกับท่าทางกวนประสาท
มุคุโร่มองแผ่นหลังของหญิงสาวตรงหน้าอย่างชอบใจ เขาไม่ค่อยจะเห็นผู้หญิงคนไหนที่มีปฏิกิริยากับเขาได้นิ่งและเย็นชาขนาดนี้ส่วนใหญ่หากเขายิ้มแบบนี้ทีไรผู้หญิงส่วนใหญ่ก็จะหน้าแดงและอายม้วนกันไปหมดแต่สำหรับผู้หญิงตรงหน้าเขานี้นอกจากจะไม่เขินอายแล้วยังเย็นชาใส่อีกต่างหาก
“เดี๋ยวก่อนสิครับ”มุคุโร่ตั้งใจจะคว้ามือของโมน่าไว้เพียงแต่ว่าคู่กรณีดันความรู้สึกไวหันมาประชันหน้าก่อนที่จะได้คว้ามือ แววตาสีสีโลหิตมองมาทางเขาอย่างเอาเรื่อง
“ไม่ยักรู้ว่าวองโกเล่มีพวกโรคจิตชอบฉวยโอกาส”โมน่าตอบเสียงเรียบใบหน้ายังคงนิ่งเหมือนเคย
“ถ้ามันทำให้คุณหันมาสนใจผมได้ผมก็จะยอมเป็นด้วยความเต็มใจครับคุณผู้หญิง J ”คำตอบที่ได้มาทำให้ระดับความอดทนของโมน่าตอนนี้ใกล้ถึงจุดประทุมากขึ้นทุกที
“งั้นก็รอชาติหน้าตอนบ่ายๆก่อนแล้วกันค่ะ”โมน่าตอบพลางเดินต่อไปอย่างหงุดหงิดแต่ก็ยังคงสีหน้าสุดเย็นชาไว้ซึ่งตอนนี้ถ้าสังเกตดีๆใบหน้าของเธอเริ่มจะไม่ค่อยเย็นชาเท่าไรแล้วเนื่องจากตอนนี้มีสีหน้าที่แสดงถึงความเก็บกดอะไรบางอย่างเพิ่มขึ้นมาแทน
“คุณกำลังชวนผมทะเลาะรู้ตัวหรือปล่าว”
“ฉันว่าคุณนั่นแหละที่กำลังชวนฉันทะเลาะ”สงครามน้ำลายยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ
“ไม่เอาน่าโมน่าตอนนี้เราถือว่าเป็นคนรู้จักกันแล้วนะครับ”สรรพนามของชายหนุ่มที่กำลังเดินตามเธอข้างหลังทำให้โมน่าต้องหยุดชะงักพร้อมกับหันไปเผชิญหน้ากับเจ้าของคำพูด
“โมน่า?”เธอพูดย้ำอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าตัวเองไม่ได้ฟังผิด
“ครับโมน่า J ”เมื่อได้ฟังคำยืนยันแล้วสาวตรงหน้าถึงกับเปลี่ยนสีหน้าจากเย็นชาเป็นโกรธขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว
“เราสนิทกันถึงขนาดเรียกชื่อเล่นกันได้แล้วหรอคะ”โมน่าพูดอย่างข่มอารมณ์ความโกรธตัวเองแบบสุดๆเพราะนอกจากเพื่อนหรือคนในครอบครัวแล้วไม่มีใครเรียกเธอแบบนี้
“ครับเราสนิทกันถึงขนาดนั้นแล้ว J ”ตัวการยังคงยิ้มอยู่
“อย่าเรียกว่าสนิทกันกันเลยค่ะสถานะคุณกับฉันตอนนี้เราเป็นแค่ มนุษย์ร่วมโลก แค่นั้นเอง ^^ ”โมน่ายิ้มหวานให้ชายหนุ่มตรงหน้าอย่างแดกดัน
“ดีใจจังที่คุณทำสีหน้าแบบอื่นนอกจากเย็นชาให้ผมแบบนี้”เมื่อมุคุโร่พูดจบโมน่าถึงกับชะงักที่ตัวเองเผลอแสดงนอกบุคลิกของตนเอง โมน่าส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะปรับโหมดมาเย็นชาเหมือนเดิม
“ฉันก็ไม่ได้ยิ้มแบบนี้ให้คุณคนเดียวซักหน่อยนี่คะอย่าสำคัญตัวเองผิดไปหน่อยเลย”พูดจบก็สาวเท้าอย่างรวดเร็วเดินออกไป
ติ๊ดๆๆ~!!!
โมน่าหยิบโทรศัพท์จากกระเป๋าเสื้อขึ้นมาก่อนกดรับสายเพื่อนสาวที่โทรมาขัดจังหวะหนีพอดี
‘ฮัลโหลโมน่า~’
“มีอะไรหรอยูเมะฉันกำลังรีบไปที่ประชุม”
‘เธอไม่ต้องมาแล้วก็ได้นะ’คำตอบจากเสียงปลายสายทำให้น่ารู้สึกแว่วๆว่ากำลังมีภัยเกิดขึ้นกับตนเองแน่นอน
“ทำไมล่ะ?”
‘คืองี้รุ่นที่เก้าสั่งว่าให้ผู้พิทักษ์แต่ละคนเดินไปส่งหน้าห้องพักของพวกวองโกเล่น่ะสิ’
“อะไรนะไม่ตลกเลยนะ!!!”โมน่าตะโกนออกมาอย่างลืมตัว
‘เอ่อ…โมน่าเป็นอะไรหรือปล่าวไม่สบายหรอ’
“อ๊ะ ปล่าวๆฉันสบายดี…ล่ะมั้ง ”โมน่าลดเสียงคำสุดท้ายให้เบาลง
‘งั้นก็ดีแล้วล่ะนะรุ่นที่เก้าสั่งมาว่าใครไม่ทำตามจะเจอบทลงโทษไอ้นั่นน่ะ’
“อะไรนะต้องเจอไอ้นั่นเลยหรอ!! ”
‘อืม ใช่แค่คิดก็สยองแล้วล่ะ’ เสียงปลายสายสั่นเล็กน้อย
“ก็ได้ๆ ฉันจะรีบทำตามคำสั่ง”พูดจบโมน่าก็กดตัดสายทิ้งแล้วหันไปมองชายหนุ่มที่ยิ้มให้เธออย่างดูเหมือนจะรู้เรื่องทุกอย่างเป็นอย่างดี
“เชิญค่ะ”โมน่าพูดด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์
“ขอบคุณครับคุณผู้หญิง J ”
Talk to writer
คู่แรกเสร็จแล้ว >.<
คู่นี้เป็นคู่ที่ดูแล้วน่าจะชนะผลโหวตอย่างขาดลอย
คู่นี้ไรท์ยอมรับว่าเขียนมันมากเนื่องจากเป็นคู่แรกที่คิดคอนเซปออก
สาวเย็นชากับหนุ่มเจ้าเล่ห์แค่เห็นพล็อตก็ไหลเข้ามาในหัวเรื่อยๆแล้ว
สุดท้ายนี้อย่าลืมเม้นและโหวตกันหน่อยนะจ๊ะ ^^
ความคิดเห็น