ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    You might be the one (WonKyu feat. Changmin)

    ลำดับตอนที่ #2 : Special - Weirderfool Love (1.23456789%) ฟิคแก้บนแก้ล่าง -*-

    • อัปเดตล่าสุด 2 ก.ค. 57


    คำเตือนก่อนอ่าน
    ครือว่าฟิคเรื่องนี้จากไอเดียมาจากทู้นึงพันดริฟท์เห็นว่ามันมุมิครุคริฟรุ้งฟฟริ้งดี๊ดี
    อนึ่งคนแต่งมิสามารถบอกได้ว่าความยาวฟิคมันจะประมาณไหน แต่คงจบเร็วๆนี้เพราะคนแต่งขี้เกียจ
    The One จิมาต่อเร็วๆนี้นะฮะ >3<

    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .



    Weirderfool Love

             

    “คือพี่คิดดีแล้วหรอที่ขอผมแต่งงาน?”

     

    ผมเจอน้องเขาครั้งแรกตอนที่ผมอายุ 34 ครับ ตอนนั้นผมเข้ามาในเมืองเพื่อนเป็นอาจารย์บรรยายพิเศษ คงไม่ต้องบอกว่าผมต้องเคาะฝุ่นมากแค่ไหนกับเนื้อการสอนจนลืมไปว่ายุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว....

     

    เมื่อสิบกว่าปีที่แล้วนั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมได้มาเยือนเมืองหลวงแห่งนี้  และเมื่อเรียนจบผมก็กลับไปทำงานที่บ้านทันที  ด้วยความที่ผมชอบกินผักชีและกะหล่ำปลีมากผมจึงตัดสินใจขอเงินทุนจากครอบครัวมาปลูกผักขาย จนท้ายสุดผมค้นพบว่าควรผันตัวเองมาทำรีสอร์ท ก็ตามท้องเรื่องนั่นแหละ ก็ทำรีสอร์ทไม่เท่าไหร่.... แต่ผมก็รับทำงานตามสายงานที่เรียนมา เพียงแค่ไม่ได้ออกจากพื้นที่ที่ตัวเองอยู่นานไปหน่อย

     

    ผมในชุดเสื้อยืดคอปกสีเขียวอ่อน กางเกงสีโอวัลติน และกระเป๋าหนังใส่เอกสารจำนวนหนึ่งเดินขึ้นบันไดซึ่งมุ่งหน้าไปยังห้องบรรยายรวมซึ่งผมเคยนั่งเรียนในห้องนี้มาก่อน  ระหว่างเดินขึ้นไปก็มีน้องๆนักศึกษาจำนวนไม่น้อยที่แอบมองมายังผมและหันไปกระซิบกับเพื่อน แน่นอนว่าคนอย่างผมไม่สนใจกับสิ่งเหล่านั้นหรอก ถ้าผมสนใจผมคงไม่ทิ้งเมืองหลวง ชีวิตมนุษย์เงินเดือน และไปปลูกผักชีและกะหล่ำปลีแทน

     

    “สวัสดีครับ ผมชื่อชเวซีวอน ผมเป็นอาจารย์พิเศษวิชานี้ วันนี้ผมรีบหน้าที่มาสอนในส่วนของเรื่อง....”  ผมนั่งบรรยายไปจนหมดเวลาและบอกกล่าวให้ทุกคนทราบหากว่ามีข้อสงสัยในส่วนใดสามารถส่งกระดาษคำถามมาถามได้

     

    มีคำถามมากมายที่ถูกส่งมาถามผม ส่วนใหญ่จะเป็นคำถามว่าผมจะออกข้อสอบในส่วนไหนหรือผมเน้นส่วนไหนซึ่งแน่นอนผมเป็นคนใจดีก็ได้บอกน้องๆนักศึกษาคร่าวๆ แต่เนื่องด้วยผมสัญญาว่าผมจะตอบทุกคำถามที่ส่งมากันจนคำถามสุดท้ายที่ทำให้ผมหายสงสัยได้ว่าทำไมทุกคนถึงแอบมองผมและแอบกระซิบกระซาบ มันไม่ใช่เพราะการแต่งตัวของผมแต่เพราะเขาถามผมว่า...

     

    “กางเกงอาจารย์ซิบแตกหรืออาจารย์ลืมรูดซิบหรอครับ”

     

    ลืมบอกไปว้าด้วยสไตล์การสอนของผมที่ชอบไม่หยุดอยู่กะที่  ผมจะชอบถือไมค์ลอยไปถามนักศึกษาโดยตรงทำให้....นั่นแหละ

     

    คงไม่ต้องบอกนะครับว่าผมทำอย่างไรต่อจากนั้น  และผมได้เจอใคร

     

    และแน่นอนกลุ่มนักเรียนห้าหกคนที่นั่งท้ายห้อง โดยมีน้องตัวโย่งหัวไม่หยุด  ผมมองผ่านกรอบแว่นผมไปถ้าน้องเขาลงไปกลิ้งแล้วขำได้คงทำไปแล้ว  ส่วนคนอื่นๆก็หัวเราะพอประมาณ  และสายตาผมมาสะดุดที่น้องที่นั่งท้ายสุดที่หัวเราะแล้วเอามือป้องปาก และไม่นานก็หยุด  แต่ดูเหมือนว่าเพื่อนสองสามคนของน้องป้องปากนั้นไม่มีทาทีหยุด น้องป้องปากจึงลุกขึ้นไปตบหัวเพื่อนสองสามคนนั้นเรียงตัว

     

    โหดจรุงเบย....

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×