ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FicEXO-Hunhan,Kaido,Chanbaek] I Don't Wanna Be Your Lil Bro

    ลำดับตอนที่ #22 : I Don't Wanna Be Your Lil Bro - Chapter 17 (100%)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.31K
      1
      24 ต.ค. 55

    [Krislay]
     
    [Kris]

    ผมนั่งมองร่างบางที่นั่งทำงานด้วยสีหน้าเคร่งเครียดอยู่ในห้องผู้บริหารของโรงแรมห้าดาวของครอบครัวเขา งานเยอะจริงจังอะเมียผม เฮ้อออออ~~

    ผมตวัดปลายพู่กันบนกระดาษวาดรูปอย่างดีที่หามาจากในห้องนี้แหละ วันนี้ผมก็มานั่งเล่นนอนเล่นเฝ้าศรีภรรยาที่ต้องมาเคลียงานหลังจากไม่ได้เข้าบริษัทมาหลายวันเพราะมีเรื่องเข้าใจผิดกับผม แค่ไม่ได้เห็นหน้าหวานๆ ของเลย์ช่วงก่อนก็จะขาดใจตายแล้ว ตอนนี้ก็เลยขอมาอยู่ใกล้ๆ ให้หายคิดถึงซักหน่อย♥

    "อี้ชิงครับ~ คุณทำงานนานจนผมวาดรูปคุณได้ตั้งรูปนึงแน่ะ"

    ผมลุกจากโซฟาแล้วยื่นรูปไปวางทับกองเอกสารที่กองเต็มโต๊ะ ภาพที่ผมวาดเป็นภาพร่างเล็กที่กำลังนั่งทำงานบนโต๊ะแต่ร่างกายกลับไร้เสื้อผ้าปกคลุม รูปร่างสวยงามที่ผมเห็นจนคุ้นหากแต่ไม่เคยทำให้ผมห้ามสายตาไม่ให้มองได้ ไหล่บางและลำคอขาวเนียนในภาพที่ผมแอบแต้มสีแดงเป็นรอยคิสมาร์คทำให้บุคคลที่ถูกใช้เป็นแบบหน้าขึ้นสี ยอดอกสีชมพูที่ชูชันและร่างกายส่วนอื่นๆ ในรูปที่บ่งบอกถึงความต้องการ...ภาพนี้ทำให้อี้ชิงเริ่มไม่สนใจงานแล้วสินะ♥

    เลย์วาดแขนขึ้นมาโน้มคอผมลงไปใกล้แล้วกดริมฝีปากอิ่มลงบนปากผม ผมสอดลิ้นร้อนเข้าไปวาดลายเก็บเกี่ยวความหวานจากโพรงปากนุ่ม สัมผัสที่อ่อนหวานเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความเร่าร้อน ลิ้นบางตวัดเกี่ยวลิ้นผมหยอกล้อกันไปมาอย่างสนุกสนาน ผมขบริมฝีปากอิ่มเบาๆ แล้วไล่ลิ้นไล้ลงมาไซร้ที่ซอกคอขาว

    "พอแค่นี้ก่อนที่รัก♥ ฉันต้องทำงานอีกเยอะเลย คุณไปนอนก่อนไป ให้คนเปิดห้องไว้ให้แล้วล่ะ"

    เลย์ดันตัวผมออกแล้วหมุนเก้าอี้กลับไปทำงานต่อ

    "เลิกทำงานแล้วไป 'พักผ่อน' กันเถอะนะครับ"

    ผมกระซิบเสียงแผ่วข้างใบหูเล็ก พลางสอดมือเข้าไปใต้เสื้อเชิ้ตสีชมพูหวานแล้วลูบไล้หน้าท้องบางวนไล้ไปทั่ว คนตัวเล็กส่งยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเซ็กซี่ที่ทำให้ผมใจสั่น

    "ถ้าคุณแน่พอ...ทำให้ฉันอยาก 'พักผ่อน' ให้ได้สิ♥"

    ว่าแล้วคนตัวเล็กก็หันไปอ่านเอกสารบนโต๊ะต่อ...แต่เชื่อผมสิว่าสัมผัสจากมือผมแล้ววัดจากเสียงหวานๆ ที่ฉายแววเจ้าเล่ห์ของเขาแล้ว...ป่านนี้สุดที่รักของผมคงทำงานต่อไม่ได้แล้วล่ะ♥



    >>NC Krislay เมลมาขอได้ที่ four_145@hotmail.com นะคะ<<
    (ไม่ส่งเอ็นซีไปพร้อมเมลอัพเดต ต้องเมลมาขออีกทีนะคะ ระบุว่าขอเอ็นซีแชปไหนด้วยเน้อ><)









    [Hunhan]
     
    ครืดดด~

    ตึก ตึก ตึก

    เสียงรองเท้าส้นสูงกระทบกับฟุตบาทพร้อมกับเสียงล้อกระเป๋าเดินทางใบโตที่ถูกลากมาตามทาง ท่วงท่าการก้าวย่างของหญิงวัยกลางคนเต็มไปด้วยความมั่นใจ เรือนร่างสวยงามมีเดรสผ้าไหม
    แบรนด์เนมสีกุหลาบปกคลุม สวมทับด้วยเสื้อแจ็กเก็ตขนเฟอร์สีครีมดูสวยหรู แว่นกันแดดราคาแพงสั่งตัดพิเศษมีเพียงอันเดียวในโลกป้องกันดวงตากลมโตจากแสงแดดจ้า

    ร่างเพรียวหยุดลงที่ระหว่างบ้านหลังใหญ่สองหลังแล้วควานหากุญแจบ้านในกระเป๋าถือสีเลือดนกที่ดูเข้ากับชุด

    "เหม่ยลี่?...เหม่ยลี่ใช่มั้ย?!!"

    ผู้หญิงวัยไล่เลี่ยกันเดินเข้ามาทักร่างเพรียวด้วยสีหน้าตกใจสุดขีด มือที่ถือถุงขยะที่หมายจะเอาออกมาทิ้งหน้าบ้านปล่อยทุกอย่างแล้วยื่นมือมากุมมือนุ่ม ร่างเพรียวเงยหน้าขึ้นมามองแม่บ้านจากบ้านหลังโตด้วยสีหน้าตกใจไม่แพ้กัน มืออีกข้างถอดแว่นกันแดดออกช้าๆ ดวงตากลมที่เริ่มมีน้ำตาคลอจดจ้องไปยังคนตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา

    "จางมี..จางมีใช่มั้ย? ฮึก...เธอหายไปไหนมา?..ฮึก..จางมี..ฮือๆๆๆ"

    ทั้งสองกอดกันแน่นเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายคือใคร...เพื่อนรักที่หายไปหลายปี...คิดถึงเหลือเกิน ทั้งสองเป็นเพื่อนกันเมื่อครั้งที่เหม่ยลี่ยังอยู่ที่เกาหลีแต่ก็ต้องจากกันเพราะเหม่ยลี่ต้องย้ายกลับไปอยู่ที่ประเทศจีนพร้อมกับสามีและลูกชาย จางมีตามไปเยี่ยมเหม่ยลี่ที่จีนแล้วก็ได้ขาดการติดต่อไปนานหลายปีจนเหม่ยลี่แทบจะถอดใจเลิกตามหาแต่ก็ยังคงรอคอยเพื่อนอยู่ที่บ้านในประเทศจีน เพราะลูกชายของเหม่ยลี่ติดใจรสชาติเค้กของจางมีเป็นอย่างมาก...ใช่แล้ว ลู่หานลูกชายของเธอชอบเค้กของจางมีที่สุด

    เหม่ยลี่คอยเทียวไปเทียวมาระหว่างจีนกับเกาหลีบ่อยๆ เธอรอคอยเพื่อนรักอยู่ที่จีนกับสามีส่วนลู่หานก็ตัดสินใจมาเรียนต่อที่เกาหลีเพื่อตามหาจางมีจากความทรงจำในวัยเด็กของตัวเอง อาจเพราะหน้าตาที่แปรเปลี่ยนไปตามกาลเวลาทำให้ลู่หานจำจางมีไม่ได้แม้จะอยู่บ้านติดกันก็ตาม..แต่เหม่ยลี่ไม่มีวันลืมเพื่อนคนนี้ได้หรอก

    "ว่าแต่เธอมาที่นี่ได้ยังไง? ตอนนี้เธอพักอยู่ที่ไหนหรอ? แล้วสามีกับลูกเธอล่ะ? แล้วเธอไม่อยู่ที่จีนแล้วหรอ? ทำไมหอบข้าวของมาเยอะจัง? แล้ว..."

    "ค่อยๆ ถามสิจางมี ฉันตอบไม่ทันนะ"

    เหม่ยลี่เอ่ยแทรกเมื่อเพื่อนเอาแต่ถามไม่หยุด ใบหน้ายิ้มแย้มของทั้งคู่แสดงถึงความสุขมากมายที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หลังจากได้เจอเพื่อนเก่า จางมีได้แต่หัวเราะเสียงสดใสให้กับเพื่อน

    "ฉันเพิ่งกลับจากจีน มาเยี่ยมลูกชายน่ะ เขาอยู่บ้านข้างๆ เนี่ย หลังเนี้ยๆ"

    เหม่ยลี่ชี้นิ้วไปที่บ้านข้างๆ ซึ่งเป็นบ้านของลู่หานที่ลูกชายตระกูลโอแทบจะหอบผ้าหอบผ่อนไปอยู่ด้วย ลู่หานก็มักจะเอาเค้กอร่อยๆ มาฝากคนที่บ้านโอแล้วก็พูดคุยกันจนเป็นที่รักของทุกคน จางมีทำตาโตแล้วรีบจูงมือเพื่อนเข้าไปในบ้านตระกูลโอโดยที่ไม่ลืมลากกระเป๋าใบโตติดมือไปด้วย

    "เหม่ยลี่! เธอรู้ตัวมั้ยว่ากำลังเดินเข้ามาในบ้านลูกเขย?! ถ้าลูกชายของเธอชื่อลู่หาน...เธอกำลังจะได้ลูกเขยแล้วล่ะ~~♥"

    เหม่ยลี่งุนงงกับคำพูดของเพื่อนรัก สีหน้าและน้ำเสียงตื่นเต้นของเพื่อนรักทำให้เหม่ยลี่ยิ่งอยากรู้ว่าลูกชายของเขาแอบไปกุ๊กกิ๊กกับใครตั้งแต่เมื่อไหร่

    "ยองเอ~~ ดูซิว่าฉันพาใครมา?♥"

    จางมีพูดกับคุณนายโออย่างสนิทสนม แม้จะเป็นแม่ครัวแต่จางมีถือว่าเป็นคนสนิทเลยทีเดียว

    "เห? ..สวัสดีค่ะ:)"

    คุณนายโอแสดงสีหน้าสงสัยเพราะผู้มาใหม่ไม่คุ้นหน้าเสียเลย จะมีก็แต่ดวงตากลมโตและใบหน้าสวยหวานราวกับนางฟ้าที่ดูคุ้นตาอย่างบอกไม่ถูก เจ้าของบ้านเอ่ยทักทายแขกอย่างสุภาพแต่ไม่ทันไรจางมีก็พูดต่อด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

    "นี่เหม่ยลี่ แม่ของลู่หาน ส่วนนี่คุณนายโอยองเอ แม่ของโอเซฮุน ว่าที่ลูกเขยเธอไง:D"

    "หา?!! ยินดีที่ได้รู้จักนะคะคุณเหม่ยลี่ เอ่อ..คงไม่เป็นไรนะคะถ้าลูกฉันจะเป็นผู้ชาย..."

    คุณนายโอถามผู้มาใหม่อย่างไม่มั่นใจ ตัวเธอยินดีอยู่แล้วที่จะมีลู่หานเป็นลูกสะใภ้ แต่คนเป็นแม่อีกคนล่ะ จะรู้สึกยังไง?

    "จะเป็นอะไรได้ยังไงกันคะ? แค่ลูกชายคุณเป็นคนดีก็พอแล้ว เอ่อ..เราไม่ต้องพูดเป็นทางการกันดีกว่ามั้ย?"

    เหม่ยลี่เอ่ยอย่างยินดี ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม...ขอแค่เป็นคนที่ลูกชายของเธอรักก็เพียงพอแล้ว:)

    "อ้อ จ้า ไหนๆ ก็จะเป็นทองแผ่นเดียวกันอยู่แล้ว ไปนั่งกันก่อนๆ เดี๋ยวฉันจะไปเอาอะไรมาให้ดู><"

    คุณนายโอดันหลังอีกสองคนให้ไปนั่งที่ห้องรับแขกแล้ววิ่งขึ้นไปเอาของที่สั่งทำเป็นพิเศษมาให้ทุกคนดูอย่างตื่นเต้น จางมีก็คุยกับเพื่อนเก่าด้วยความคิดถึง






    "ท้าดา~~~!! แหวนหมั่นของลูกๆ เรา~♥"

    คุณนายโอเปิดกล่องสีแดงกำมะหยี่ที่มีแหวนที่ทำจากทองคำขาวสองวงอยู่ภายใน

    "แหมมม ตื่นเต้นกับลูกสะใภ้ซะยกใหญ่เลยนะยองเอ แม่เขาจะให้หมั้นรึเปล่าเถอะ คิกๆ"

    จางมีแซวเพื่อนอย่างขำๆ แต่เหม่ยลี่กลับพยักหน้ารับรัวๆ

    "หมั้นสิๆ เรามาให้ลูกของเราหมั้นกันเถอะยองเอ ถึงฉันจะไม่เคยเจอเซฮุนแต่ทุกครั้งที่คุยโทรศัพท์กับเสี่ยวลู่ก็จะได้ยินชื่อนี้ตลอด ลูกฉันหลงลูกชายเธอแล้วล่ะ คิกๆ♥"

    คนเป็นแม่ทั้งสามหัวเราะกันอย่างมีความสุข แม้ลูกชายของจางมีจะยังไม่เป็นฝั่งเป็นฝาแต่เธอก็พลอยมีความสุขไปกับทั้งสองครอบครัวด้วย แต่หัวเราะได้ไม่นานคุณนายโอก็ทำสีหน้าคิดไม่ตก..ก็เธอไม่รู้ว่าจะให้แหวนหมั้นกันยังไงน่ะสิ! ลูกชายเธอดันหัวช้าไม่รู้จักขอหมั้นสักทีเธอเลยต้องดำเนินการเอง แต่ก็กลัวว่าลูกๆ จะคิดว่าตัวเองเจ้ากี้เจ้าการอีก

    คุณนายโอเล่าทุกอย่างให้เพื่อนทั้งสองฟังแล้วจางมีก็ดีดนิ้วดังเปาะเสนอความคิดดีๆ ให้

    "เอางี้สิ...พวกเธอก็เอาแหวนให้ลูกของตัวเองแล้วบอกว่าเป็นแหวนประจำตระกูล เป็นทำเนียมว่าต้องใส่ที่นิ้วนางข้างซ้าย...แค่นี้ก็เรียบร้อยแล้ว:D"

    ทุกคนปรบมือและหัวเราะไปกับความคิดของจางมี ไม่ใช่การหัวเราะเยาะแต่เป็นการหัวเราะชอบใจในความเจ้าแผนการของเพื่อนต่างหาก..แผนเธอแจ๋วมากพยอน จางมี♥









    ณ ร้าน Lulu's Sweetie
     
    [Luhan]

    "อาลู่~ ฉันขอเค้กชานมในตู้ไปกินนะ♥"

    เซฮุนวิ่งมาหาผมที่เคาน์เตอร์แล้วหยิบเค้กชานมไปนั่งกินที่โต๊ะโดยที่ไม่รอให้ผมอนุญาต จริงๆ ผมก็ทำให้เขากินนั่นแหละ ไม่ได้ขึ้นในเมนูของร้านซักหน่อย...เค้กสูตรพิเศษสำหรับคนพิเศษ♥

    ผมยิ้มให้เซฮุนที่กำลังเคี้ยวเค้กตุ้ยๆ เต็มปากแต่ก็พยายามส่งยิ้มหวานให้ผม น่ารักจริงจังอะเจ้าเด็กคนนี้ แบบนี้จะไม่ให้ผมรัก...

    กริ๊ง~

    "เซอร์ไพรซ์~~!!♥"

    ผมหันไปมองทางประตูร้านที่มีผู้หญิงสามคนเดินเข้ามาแล้วก็ต้องตาโตเมื่อผมเจอแม่ของแบคฮยอนกับเซฮุน และ...แม่ของผม!♥

    "แม่?! คิดถึงแม่จัง~~"

    ผมวิ่งเข้าไปกอดแม่แน่น ถึงแม่จะมาหาผมบ่อยๆ แต่ผมก็ยังรักและคิดถึงแม่อยู่ดี ว่าแต่ทำไมแม่มาพร้อมกับน้าจางมีกับน้ายองเอได้ล่ะ?

    "แล้วแม่มากับน้ายองเอกับน้าจางมีได้ยังไงครับ? รู้จักกันหรอ?"

    "จริงสิ! เสี่ยวลู่ ลูกยังอยากเจอเพื่อนแม่คนนั้นอยู่ใช่มั้ย?"

    แม่ถามเมื่อนึกบางอย่างขึ้นได้ เพื่อนแม่ที่ผมตามหามาตลอด ผมยังหวังที่จะได้เจอเธออยู่เสมอ แม้ตอนนี้ผมจะทำเค้กเป็นแล้วแต่ผมก็ยังอยากกินเค้กของเธออีกครั้ง ทั้งยังอยากขอบคุณที่เป็นคนจุดประกายฝันของผมขึ้นมา แต่ที่แม่ถาม...หรือว่าแม่เจอเธอแล้ว?!!

    "แม่เจอเพื่อนแม่แล้วหรอครับ?! เธออยู่ที่ไหนล่ะ?!"

    ผมถามแม่อย่างตื่นเต้นไม่สนใจเซฮุนที่ลุกจากโต๊ะมาหา แม่หันไปหาน้าจางมีแล้วหันกลับมามองผมอีกครั้ง ผมเบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อสายตา น้าจางมีที่ผมเห็นอยู่ทุกวี่ทุกวันหรอ? โธ่! ทำไมผมจำหน้าน้าเขาไม่ได้ล่ะ?

    "จางมี เธอจำตอนที่เธอไปเยี่ยมพวกเราที่จีนได้มั้ย? ตอนนั้นเธอทำเค้กไปฝากเสี่ยวลู่แล้วเขาก็ติดใจใหญ่เลย ตั้งแต่นั้นมาฉันกับเสี่ยวลู่ก็ตามหาเธอตลอดเลย ไม่นึกว่าเสี่ยวลู่จะเจอเธอมาก่อนแล้วนะเนี่ย"

    แม่พูดกับน้าจางมีแล้วหันไปทักทายเซฮุนแล้วพูดคุยอย่างเอ็นดู แม่รู้มั้ยว่ากำลังคุยกับลูกเขยอยู่น่ะ>//< เซฮุนพาแม่กับน้ายองเอไปนั่งคุยกันที่โต๊ะเหลือแค่ผมกับน้าจางมีที่ยังคุยกันอยู่หน้าประตู น้าจางมีทำหน้าแปลกใจแล้วส่งยิ้มมาให้

    "ชอบเค้กน้าขนาดนั้นเลยหรอจ๊ะลู่หาน ขอบใจนะจ๊ะ:)"

    "ผมต่างหากที่ต้องของคุณน้าจางมี ขอบคุณนะครับที่ทำให้ผมได้มีร้านนี้ขึ้นมา ได้ฝึกทำเค้กและหลายๆ อย่าง ขอบคุณสำหรับเค้กในวันนั้นนะครับ"

    ผมกล่าวขอบคุณอย่างจริงใจ รู้สึกขอบคุณจริงๆ ที่เธอทำให้ผมมีวันนี้ได้ ขอบคุณครับ:)

    "งั้นวันนี้น้าทำให้กินอีกดีมั้ย? น้าขอใช้ครัวหน่อยนะจ๊ะ"

    น้าจางมีพูดแล้วลูบหัวผมอย่างใจดี ผมพยักหน้ารัวๆ อย่างตื่นเต้นที่จะได้กินเค้กจากบุคคลที่จุดประกายฝันของผมอีกครั้ง

    "อ้อ แบคฮยอนก็อยู่ในครัวด้วย ช่วงนี้แบคหงอยๆ น้ารู้ใช่มั้ยครับ?"

    ผมบอกน้าจางมี น้าพยักหน้าด้วยสีหน้าหนักใจเล็กน้อยแต่ก็เผยยิ้มกว้างออกมา

    "ถ้าแบคผ่านเรื่องนี้ไปได้เขาก็จะโตขึ้นอีกขั้น ขอบใจที่ห่วงนะจ๊ะลู่หาน น้าไปทำเค้กให้กินกันดีกว่าเนาะ:)"

    น้าจางมีพูดแล้วเดินเข้าห้องครัวไป









     
    [Special: Baekhyun]
     
    ผมนวดแป้งสำหรับทำคุกกี้อยู่ในครัว วันนี้ชานยอลไม่มาช่วยทำงานเหมือนช่วงก่อน ไม่มีใบหน้าเอ๋อๆ กับรอยยิ้มกว้างๆ ของเขาอีกแล้ว...เขาเบื่อผมแล้ว..ฮึก..

    "แบค"


    ผมปาดน้ำตาแล้วหันไปส่งยิ้มให้แม่

    "แม่มาได้ยังไงครับ? มีอะไรรึเปล่า?"

    ผมถามอย่างแปลกใจ รอยยิ้มยังคงส่งมอบให้แม่เพราะกลัวว่าถ้าไม่ยิ้มแล้วแม่จะเห็นว่าผมกำลังเศร้าอยู่ แม่ส่ายหัวพลางเปิดตู้หาอุปกรณ์ทำเค้กมาจัดแจงเตรียมทำเค้ก แล้วทำไมอยู่ๆ แม่มาใช้ครัวร้านคนอื่นเขาล่ะเนี่ย?

    "ไม่มีจ้ะ แม่มากับยองเอแล้วก็เหม่ยลี่ เป็นแม่ของลู่หานน่ะ แม่ก็เลยมาทำเค้กให้กินกัน...ว่าแต่ลูกมีอะไรรึเปล่า? แม่ไม่อยากก้าวก่ายแต่ถ้ามีอะไรไม่สบายใจปรึกษาแม่ได้นะ แม่ไม่อยากให้ลูกแม่ยิ้มฝืนๆ แบบนี้เลย:)"

    แม่พูดอย่างอ่อนโยนโดยที่สายตายังไม่ละจากส่วนผสมเค้ก รอยยิ้มอบอุ่นของแม่ทำให้น้ำตาผมไหลออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่

    เผาะ!

    "ฮึก...แม่ครับ...ผมไม่รู้จริงๆ ว่าผมจะยิ้มสวยๆ ไปเพื่อใคร..ฮึก..คนที่ผมอยากยิ้มให้เขาไม่ได้อยากเห็นรอยยิ้มของผมแล้วครับ..ฮือๆๆๆ"

    ผมร้องไห้ทั้งที่มือยังนวดแป้งคุกกี้อยู่และแม่ก็ยังคงทำเค้กพร้อมรอยยิ้มอบอุ่น เราสองแม่ลูกคุยกันแบบไม่ต้องมองหน้ากัน แต่แค่น้ำเสียงของแม่ก็สื่อทุกอย่างออกมาหมดแล้ว

    ตอนนี้ความหมายของรอยยิ้มผมได้หายไปแล้ว ชานยอลคงไม่แม้แต่จะอยากเห็นมัน เขาคงเบื่อมันแล้วถึงได้ทำกับผมแบบนี้ เขาเบื่อผมแล้วใช่มั้ย? เพราะผมให้ความสุขเขาไม่ได้เขาเลยเลือกที่จะจากไปใช่มั้ย?

    "แล้วลูกอยากยิ้มให้เขารึเปล่าล่ะ?"

    "ฮึก..อยากสิครับ..ผมอยากยิ้มให้เขาทุกๆ วันเลย..ฮึก..เขามักจะยิ้มตามเวลาที่เห็นผมยิ้ม..ผมก็อยากเห็นรอยยิ้มของเขานะ..ฮึก.."

    "งั้นจะรออะไรอยู่ล่ะ?"

    "ฮึก..?"

    ผมหันไปมองแม่อย่างไม่เข้าใจ แม่ละมือจากชามเค้กแล้วหันมาส่งยิ้มให้ผม

    "ไม่มีใครไม่อยากเห็นลูกของแม่ยิ้มหรอก...ลองกลับไปหาเขาแล้วยิ้มกว้างๆ ให้เขาสิ ทุกคนชอบรอยยิ้มนะลูก:)"

    หลังจากที่แม่พูดจบผมก็ฝากครัวไว้กับแม่แล้วไปขอลางานจากพี่ลู่หานที่คิดเงินอยู่ที่เคาน์เตอร์ทันที แม่พูดถูก..ผมยังพอเข้าข้างตัวเองได้เพราะชานยอลยิ้มมีความสุขทุกครั้งที่เห็นผมยิ้ม..มันแปลว่าเขาชอบรอยยิ้มของผมใช่มั้ย? ผมควรจะยิ้มสวยๆ ให้เขาต่อไปใช่มั้ย?

    บางที...ผมอาจจะลองให้โอกาสเขาอีกรอบก็ได้









    [Sehun]
     
    "ว่าที่ลูกเขยของแม่น่ารักจังเลย><"

    หลังจากที่มานั่งที่โต๊ะน้าเหม่ยลี่ก็หยิกแก้มผมไม่หยุดเหมือนกำลังเล่นกับเด็ก ไม่รู้ว่าไปรู้ได้ยังไงว่าพวกผมคบกันอยู่ แต่เมื่อแม่ยายพอใจที่จะทำอย่างนี้...ลูกเขยอย่างผมคงต้องตามน้ำแหละครับ ขอคะแนนจากแม่ยายนิดนึง คึคึ♥


    "น้าเหม่ยลี่ก็สวยเหมือนนางฟ้าเลยครับ ไม่แปลกใจเลยที่อาลู่จะสวยขนาดนี้"

    "น้าเน้ออะไรกันลูก เรียกเหม่ยลี่ว่าแม่สิ เดี๋ยวเราก็จะเป็นทองแผ่นเดียวกันแล้วเนอะเหม่ยลี่ คิกๆ~"

    แม่ผมพูดขึ้นมาแล้วหัวเราะคิกคักกับว่าที่แม่ยายของผมก่อนจะหยิบอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋าถือแบรนด์เนมใบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ของแม่ สิ่งที่แม่ยื่นให้ผมเป็นแหวนสีเงินที่ดูเหมือนจะทำมาจากทองคำขาว แม่ยื่นมาให้พร้อมกับรอยยิ้มประหลาดๆ ที่ไม่น่าไว้วางใจ

    "อะไรอะแม่?"


    ผมถามพลางหรี่ตามองแม่อย่างจับผิด แม่เขกหัวผมทีนึงแล้วพูดขึ้น

    "สงสัยอะไรฮะ?! ฉันเป็นแม่นะไม่ใช่ศัตรู..นี่เป็นแหวนประจำตระกูลต่างหาก พ่อลูกบอกว่าใส่ไม่ได้ ช่วงนี้เขากินดีอยู่ดีเกินไปนิ้วเลยอ้วนจนใส่แหวนไม่ได้เลยให้ลูกใส่แทนน่ะ"

    "อ้อ"


    ผมพยักหน้าแล้วรับแหวนมาสวมที่นิ้วชี้แต่แม่ก็ร้องขัดขึ้นมาก่อน

    "ใส่ที่นิ้วนางข้างซ้ายสิ! ..เอ่อ..มันเป็น..มันเป็นธรรมเนียมสืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษแล้ว ต้องใส่ที่นิ้วนางข้างซ้ายเท่านั้น!"


    ผมพยักหน้าแล้วสวมแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายตามที่แม่บอกแม้จะยังสงสัยอยู่ก็ตาม น้ำเสียงตะกุกตะกักกับเสียงหัวเราะคิกคักของแม่เหม่ยลี่(ไรเตอร์: เรียกแม่เต็มปากเต็มคำเลยนะยะ5555)มันน่าสงสัยจริงๆ ไม่น่าไว้ใจเลยสองคนนี้

    "จะรับเครื่องดื่มกับคุกกี้อะไรระหว่างรอเค้กมั้ยครับ?"

    อาลู่เดินมาถามแล้ววางจานเค้กชานมและชานมไข่มุกรสช็อกโกแลตแก้วโตตรงหน้าผมอย่างรู้ใจแล้วถามพวกแม่ๆ ที่นั่งเม้าท์กันเหมือนรู้จักกันมาแรมปี ทั้งสองดันมาชอบอะไรหลายๆ อย่างเหมือนๆ กันทำให้คุยกันถูกคอซะเหลือเกิน แม่เหม่ยลี่ตบเก้าอี้ตัวข้างๆ ให้คนตัวเล็กนั่งแล้วเรียกอาลู่ด้วยเสียงยานคาง

    "เสี่ยวลู่จ๋าาาา~~ มานั่งนี่ก่อนสิ แม่มีของจะให้:D"


    อาลู่นั่งลงข้างคนเป็นแม่อย่างว่าง่าย แม่เหม่ยลี่(ต้องย้ำคำว่าแม่ทุกครั้ง♥)หยิบของบางอย่างออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นให้อาลู่ ของสิ่งนั้นทำให้ผมรีบซ่อนมือตัวเองแล้วหันไปหรี่ตามองแม่ทันที แม่ยิ้มแห้งๆ ให้เหมือนคนถูกจับผิด อย่าเพิ่งรุมประณามผมที่ทำกริยาแบบนี้กับมารดาผู้บังเกิดเกล้า...ก็แหวนที่อาลู่กำลังสวมเข้าที่นิ้วนางข้างซ้ายมันเหมือนกันกับแหวนของผมเด๊ะเลยน่ะสิ!

    "นี่มันอะไรกัน!"

    ผมหันไปกระซิบกระซาบกับแม่ ถึงผมจะชอบอาลู่แต่นี่มันก้าวก่ายเกินไปป่ะ?!

    "ยอม
    หมั้นเถอะนะลูกรัก พวกแม่ๆ ได้เตรียมการใหญ่หลวงไว้แล้ว ...ลูกรู้มั้ยว่าลู่หานสเน่ห์แรงแค่ไหน?! น่ารักขนาดนี้ถ้าลูกไม่รวบหัวรวบหางจะต้องหลุดมือไปแน่ๆ!"

    แม่กระซิบกลับ มันก็จริงของแม่ แต่มันก็ไม่แฟร์กับอาลู่อยู่ดีนั่นแหละ

    "แต่มันไม่แฟร์กับอาลู่นะแม่ แบบนี้มันมัดมือชกชัดๆ"


    "งั้นเอาแหวนคืนมา ไม่ต้องหมั้นมันแล้ว ปล่อยให้แฟนสุดที่รักของลูกโดนคาบไปต่อหน้าต่อตาเลยแล้วกัน!"

    แม่กระซิบแล้วหันไปยิ้มให้อาลู่เหมือนจะบอกว่าไม่มีอะไร แต่จะว่าไป...ถึงยังไงผมก็รักอาลู่แล้วก็คงจะขอหมั้นขอแต่งอยู่แล้ว หมั้นเร็วขึ้นอีกหน่อยจะเป็นไรไป? ตามใจแม่และ(ว่าที่)แม่ยายหน่อยละกัน

    ผมหันไปส่งยิ้มให้แม่เหม่ยลี่เหมือนจะบอกว่าผมเข้าใจทุกอย่างแล้ว อาลู่ก็เอาแต่ชื่นชมว่าแหวนประจำตระกูลเขาสวยอย่างโน้นอย่างนี้ ยังยื่นมือมาให้ผมดูอีก...โดนหลอกแบบเดียวกับผมเด๊ะเลย

    "เสี่ยวลู่~~ แม่หิวน้ำจัง ไปหาน้ำหาขนมมาให้แม่กับยองเอหน่อยสิ:D"

    "ใช่ๆ ตอนนี้น้าหิวน้ำมากๆ เลย...เซฮุน ลูกไปช่วยพี่เขายกน้ำมาสิ"

    สองสาว(แก่)ดันให้ผมกับอาลู่ลุกขึ้นจากโต๊ะ ผมกลอกตาอย่างหน่ายๆ ที่รู้สึกเหมือนถูกจับคลุมถุงชนทั้งๆ ที่ผมกับอาลู่รักกันอยู่แล้ว อาลู่ทำหน้าเหลอหลาเมื่อผมเอื้อมมือไปคว้ามือบางแล้วจูงไปที่เคาน์เตอร์

    "อย่าเพิ่งแสดงออกชัดเจนแบบนั้นสิเซฮุน ถึงแม่นายจะรู้เรื่องของเราแล้วแต่แม่ฉันยังไม่รู้นะ"

    อาลู่พูดด้วยน้ำเสียงกังวล ผมล่ะอยากจะบอกซะเหลือเกินว่าแหวนที่ใส่อยู่คือแหวนหมั้นที่แม่เขาเต็มใจให้ใส่..แต่ดันพูดไม่ได้ ถ้าเกิดพูดแล้วแม่กวางเกิดตื่นตูมขึ้นมาจะทำไงเล่า?

    "อ้อ โทษทีๆ ก็ฉันอยากจับมืออาลู่ตลอดเวลานี่นา~"

    ผมพูดอย่างอ้อนๆ แล้วพาอาลู่เข้าไปในห้องพักที่อยู่ติดกับห้องครัว ทันทีที่มาถึงผมก็สวมกอดร่างบางจากข้างหลังแล้วก้มลงหอมแก้มนุ่มนั่นฟอดใหญ่

    ฟอดดดด~~

    "อื้อ~ เดี๋ยวแม่ฉันมาเห็นเข้าหรอก>//<"

    อาลู่พูดแต่ก็ไม่ได้ผลักไสผม

    "มาหาอะไรสนุกๆ เล่นกันดีกว่า~"

    ผมกระซิบข้างหูอาลู่ด้วยเสียงเจ้าเล่ห์ สายตาเหลือบไปเห็นแก้มเนียนขึ้นสีแดงระเรื่อทำให้ผมยกยิ้มที่มุมปากอย่างพอใจ ผมไม่คิดจะทำอะไรเกินเลยตอนนี้หรอกน่า~ ...แต่เห็นอาลู่ทำท่าทางน่ารักแบบนี้มันก็น่าแกล้งไม่ใช่รึไง? คึคึ~♥

    "นะ..นาย..จะทำอะไร..ซะ..เซฮุน .///."

    ร่างบางพูดตะกุกตะกัก ตัวแข็งเหมือนทำอะไรไม่ถูก ใบหน้าหวานดูใสซื่อเหมือนกวางน้อยน่ารักเชียวล่ะ♥

    ฟอดดดด~

    "อาลู่ห๊อมหอม~ จะทำอะไรกับอาลู่ที่นุ่มๆ หอมๆ แบบนี้ดีน้าาา~"




     
     




    [Luhan]
     
    "ทะ..ทำอะไรเล่า จริงสิ! โรงเรียนนายจะเปิดเทอมแล้วใช่มั้ย?ไปเตรียมตัวไปโรงเรียนสิ"

    ผมรีบเปลี่ยนเรื่องเมื่อเสียงของเซฮุนเริ่มฟังดูกะล่อนและเจ้าเล่ห์แปลกๆ แล้วผมดันเขินหน้าแดงอีก ร้อนไปหมดแล้วเนี่ย ถ้าไม่รีบเปลี่ยนเรื่องเซฮุนจะต้องรู้แน่ๆ ว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่...ผมไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะครับที่จะไม่เข้าใจอะไรเลยน่ะ-///,- (ไรเตอร์: ลู่ก็คือลู่ ไม่ว่าจะคิดว่าตัวเองโตแค่ไหนแมนแค่ไหนแต่จริงๆ ก็ไม่ใช่อยู่ดี เน่เค้าแค่แกล้งเล่นแต่แม่นางดันคิดไปโน่น55555)

    "โรงเรียนไม่น่าสนใจเท่าอาลู่นี่~♥ ว่าแต่มหา'ลัยอาลู่ไม่มีอะไรที่น่าสนใจกว่าฉันใช่ป่ะ?"

    เซฮุนพูดด้วยเสียงอ้อนก่อนจะเปลี่ยนเป็นความมั่นใจ จริงๆ มันก็เป็นแบบที่เขาพูดนั่นแหละ เมื่อก่อนผมก็คิดถึงเขาทุกวันเลย ตอนนี้ก็คิดถึง เด็กนี่ทำให้ผมคิดถึงทุกเวลาแแหละ! -///- แต่จะพูดแบบนั้นไปเดี๋ยวเหลิงแย่เลย ผมทำหน้าคิดนิดนึงแล้วตอบไป

    "เอ...จริงๆ ก็มีรุ่นพี่คนนึงชื่อพี่แจจุง นายเห็นแล้วนายต้องชอบแน่ๆ พี่เขาเท่มากกกก! ><"

    ผมพูดไปตามความจริง พี่แจจุงดูหล่อแล้วก็เท่ แต่ความสวยกลบหมดจนใครๆ ก็คิดว่าเป็นผู้หญิง ทั้งสวย หวาน แต่ก็เข้มแข็งมีสเน่ห์สุดๆ ไม่แปลกใจที่หัวหน้าแก๊งยุนแจผู้ยิ่งใหญ่อย่าง
    รุ่นพี่ยุนโฮจะทั้งหลงทั้งหวงพี่แจจุงขนาดนี้♥

    "..."

    เซฮุนได้แต่เงียบฟังผมเล่า มันเงียบแปลกๆ ป่ะ?

    "เอ่อ...นั่นแหละๆ พี่แจจุงเขาเก่งมากเลยนะ ทั้งเรื่องต่อสู้ เรื่องการเรียน เรื่อง... อ่า...ทำไมนายเงียบแบบนี้ล่ะเซฮุน?"

    ผมถามทั้งที่ยังไม่ได้เล่าถึงความเป็นเลิศในด้านกุลสรีของพี่แจจุงเลยด้วยซ้ำ อยากเล่าต่ออยู่นะ แต่ผมรู้สึกว่าได้กลิ่นแปลกๆ น่ะTT ผมหันไปมองใบหน้าหล่อเหลาของเซฮุนที่ยังวางอยู่บนไหล่ผม เซฮุนได้แต่จ้องหน้าผมนิ่งไม่มีน้ำเสียงเจ้าเล่ห์และสีหน้ากะล่อนแบบเมื่อกี้แล้ว

    "หึง หวง ไม่อยากให้อาลู่ชมใครนอกจากฉัน"

    เซฮุนพูดสั้นๆ แล้วกระชับกอดแน่นก่อนจะถอนกอดอย่างรวดเร็ว

    "อาลู่ไปทำงานเถอะ ฉันไม่เห็นแบคอยู่หน้าร้าน สงสัยโดดงานไปแล้วมั้ง"

    เซฮุนพูดติดตลก..ด้วยน้ำเสียงที่ฟังก็รู้ว่าไม่พอใจอยู่ ผมแค่ไม่อยากให้เขาเหลิงเองนะ ทำไมเขาโกรธผมแบบนี้ล่ะ? แล้วมาหึงผมกับใครไม่หึง ดันมาหึงกับพี่แจจุงสุดสวยประจำมหา'ลัยเนี่ยนะ? (ไรเตอร์ :แต่เน่มันไม่รู้จักมี๊แจนะลู่~~)

    แต่แบคฮยอนลางานไปแล้วก็ไม่มีใครอยู่หน้าร้านน่ะสิ? ตายละร้านผมมม! ผมรีบวิ่งไปยืนดูความเรียบร้อยจากตรงเค้าน์เตอร์ ดีที่ทุกอย่างยังเรียบร้อย
     ฮุ่วว~~

    ขวับ!!! กริ้ง~!

    เซฮุนเดินออกจากร้านไปด้วยความฉุนเฉียว อ๋าาา ผมยังไม่ได้อธิบายเรื่องพี่แจจุงเลยนี่นา ตั้งแต่คบกันมาผมยังไม่เคยทำให้เซฮุนโกรธเลยนะ พอเขาโกรธแบบนี้รู้สึกไม่ดีเลย ถึงแม้เขาจะคุยด้วยแต่น้ำเสียงเขามันเปลี่ยนไปจนผมอดรู้สึกผิดไม่ได้(แม้ว่าพี่แจจุงจะเป็นบุคคลที่ไม่ควรหึงที่สุดในโลกก็เถอะ) แต่แค่เรื่องพี่แจจุงคงไม่เป็นไรมั้ง เอาแค่รูปพี่เขาให้เซฮุนดูก็คงเข้าใจแล้วล่ะ ตอนนี้ขอดูแลร้านก่อนละกัน ไว้ปิดร้านแล้วค่อยเอาเค้กชานมไปง้อก็ได้









     
    [Taoho]
     
    [Suho]

    "ไม่ต้องลงมาหรอก เดี๋ยวพี่ไปเก็บของเองได้"

    ผมบอกเทาที่ให้คนขับรถพามาส่งที่คอนโดของชานยอลแล้วเดินเข้าคอนโดไป ผมไม่ได้จะกลับมาอยู่ที่นี่หรอก แต่ผมมาเก็บของต่างหาก ...วิธีที่ผมจะทำใจได้เร็วที่สุดคือการอยู่ห่างทุกที่ที่มีความทรงจำของเราอยู่ก็แค่นั้น อา..เวลาพูดถึงคำว่าเราผมก็รู้สึกเจ็บแปลบในอก จะให้ทำยังไงถึงจะลืมคนที่เรารักสุดหัวใจได้?...ทำยังไง...ผมถึงจะลืมชานยอลได้สักที?

    แอ๊ด~

    "ฮือๆๆ แบคฮยอน..ฮึก..แม่ครับ..ทำไมผมต้องทำเขาร้องไห้..ผมมันแย่..ฮึก..ผมมันเห็นแก่ตัว...ผมรักเขา..แต่ผมหยุดตัวเองไม่ได้..ผมต้องการเขา...แต่ผมต้องรอจนกว่าเขาจะพร้อม..ฮึก..ทนไม่ไหวแล้ว..ฉันต้องการนาย..แบคฮยอน..ฉันต้องการนาย.."

    ผมยืนมองร่างสูงที่นั่งร้องไห้อยู่ปลายเตียง กลิ่นเหล้าเหม็นคลุ้งห้องไปหมด ความอ่อนแอของชานยอลที่ผมไม่เคยเห็น..ชื่อของแบคฮยอนที่ถูกเอ่ยไม่มีที่สิ้นสุด

    เผาะ..

    "ฮึก.."

    ผมค่อยๆ เดินเข้าไปหาชานยอลช้าๆ น้ำตาแห่งความเจ็บปวดไหลเป็นทาง หัวใจเหมือนถูกบีบจนแทบสลาย

    ผมปล่อยเขาไปเพื่อความสุข...ไม่ใช่เพื่อหยาดน้ำตาของเขา

    "อย่าร้องไห้นะชานยอล..ฮึก..นายอย่าร้องไห้ให้ฉันเห็นนะ..ได้โปรด..ฮึก..ฉันเจ็บปวดที่เห็นนายเป็นแบบนี้.."

    ผมนั่งลงบนเตียงในระดับเดียวกับเขาแล้วเชยใบหน้าหล่อเหลาของเขาขึ้นมาสบตากับผม

    ขวับ!

    ชานยอลดึงผมเข้าไปจูบทันที สองแขนแกร่งโอบรัดผมแน่นอย่างโหยหาแล้วเอนตัวลงบนเตียงช้าๆ ริมฝีปากร้อนไล้ลงไปซุกไซร้ที่ซอกคอผมจนผมเริ่มรู้สึกถึงความต้องการของตัวเอง

    "อา..แบคฮยอน..ฉันต้องการนาย..เป็นของฉันนะ..แบคฮยอน.."

    เสียงทุ้มที่พร่ำเรียกชื่ออีกคนทำให้หัวใจผมเจ็บไปหมด เจ็บจนเหมือนจะกระอักเลือดออกมา..เจ็บยิ่งกว่าถูกมีดแทงซ้ำๆ ร้อยที ...ผมรู้แต่แรกแล้วว่าเขาคิดว่าผมคือแบคฮยอน ฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้สติของเขาแทบไม่เหลืออยู่

    ถึงจะรู้แบบนั้น...แต่ผมก็ยังต้องการเขา..ผมยังรักเขาไม่เปลี่ยน

    "อืมม..แบคฮยอน..ฉันรักนาย.."

    ชานยอลพูดก่อนจะไล้ลิ้นร้อนลงต่ำ ความรู้สึกที่พุ่งพล่านทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงบ่งบอกว่ามีความสุขกับการปรนเปรอของเขา มือจิกผ้าปูที่นอนแน่นเพราะทุกสัมผัสของเขามันยอดเยี่ยมจริงๆ

    'ผมอยากให้พี่คิดถึงผมคนเดียว'

    "!!"

    ผมตกใจเมื่อได้ยินเสียงเทาก้องอยู่ในหัว ประโยคที่เขาชอบพูดว่าอยากให้ผมคิดถึงแต่เขาดังก้องหัว ใบหน้าไม่พอใจของเขาเวลาที่ผมร้องไห้เพราะชานยอล...ผมเริ่มกังวลว่าเขาจะเสียใจ

    ...แต่ในเมื่อความต้องการของผมมีมากกว่า...และความรักของผมที่ยังไม่ดับมอด...ผมยังอยากมีความสุขกับชานยอล..

    "อืมมม..ชานยอล...อาาาา"









    สองชั่วโมงผ่านไป...

     
    [Tao]

    ผมเดินขึ้นมาตามหาพี่ซูโฮตามหมายเลขห้องที่พี่เขาบอกไว้ พี่ซูโฮหายไปตั้งนานแล้วยังไม่กลับมาเลย ผมกลัวว่าพี่ซูโฮอาจจะกำลังนั่งร้องไห้อยู่ในห้องนั้นก็ได้ มันเป็นห้องที่มีความทรงจำของพวกเขา..ผมไม่ต้องการให้พี่ซูโฮเสียใจเพราะผู้ชายคนนั้นอีก

    ก๊อกๆๆ แอ๊ดดด~

    ผมเปิดประตูเข้าไปในห้องตามที่พี่ซูโฮบอกไว้ เดินหาในห้องนั่งเล่นหรือห้องอื่นๆ ก็ไม่เจอ เหลือแค่ห้องเดียว...ห้องนอน ผมจับลูกบิดประตูเตรียมเปิดแต่ใจก็เริ่มเต้นเร็วและรู้สึกเจ็บแปลบๆ เหมือนเป็นสัญญาณอะไรบางอย่าง

    แอ๊ดดด~

    "!!!!"

    ผมเบิกตากว้างมองภาพตรงหน้า สองขาหยุดนิ่งเหมือนไม่มีแรงจะก้าวเดิน สมองและจิตใจว่างเปล่าไปหมด ไม่ได้ยินเสียงจากสิ่งรอบข้าง

    ...ไม่ได้ยินแม้แต่เสียงหัวใจตัวเอง

    พี่ซูโฮนอนกอดกับผู้ชายคนนั้น ร่างกายขาวเนียนที่มีแค่ผ้าห่มปกปิดร่างที่เปลือยเปล่าของทั้งคู่ ...

    แปลบ!

    ความเจ็บปวดกัดกินหัวใจผมจนเหมือนตัวเองหยุดหายใจไปแล้ว น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าที่ไหลอาบแก้ม ภาพรอยยิ้มหวานของร่างเล็ก...ผมมารู้ตัวว่าชอบพี่ซูโฮตอนที่มันสายไปแล้วใช่มั้ย?

     








    [Chanbaek]
     
    [Baekhyun]

    ผมรีบนั่งแท็กซี่มาที่คอนโดของชานยอลทันทีหลังจากที่ได้รับคำแนะนำจากแม่ ผมเคยมาทำกับข้าวให้เขากินอยู่สองสามครั้ง แม้จะไม่บ่อย แต่ทุกๆ อย่างที่เกี่ยวกับเขา...แน่นอนว่าผมจำได้แม่น แม้ผมจะปากแข็งและไม่ค่อยยอมปล่อยตัวแต่ใช่ว่าผมจะไม่รักเขา แต่นั่นมันเป็นสไตล์ เข้าใจมั้ย?!

    เอ..ห้องนี้รึเปล่านะ? ผมเปิดประตูเข้าไปโดยไม่เคาะประตู(ขี้เกียจ มีปัญหาไรป่ะ?!) เห? มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งยืนกำมือแน่น หันหลังให้ผมอยู่ในห้องนอนของชานยอล เขาเป็นใครกัน? ใช่น้องชายที่ชานยอลเคยพูดถึงรึเปล่า? แต่เขาบอกว่าน้องเขาตัวเล็กนี่นา? แต่เด็กคนนี้ตัวสูงกว่าผมอีก

    "เอ่อ.."

    ผมเดินไปใกล้เขาแล้วส่งเสียงสักหน่อยให้รู้ว่ามีคนมา แต่พอเขาหันมาผมก็เห็นใบหน้าเปื้อนน้ำตาของเขา สายตามองหาสื่งที่เขาจดจ้องอยู่เมื่อครู่แล้วก็ต้องแสดงปฏิกริยาเดียวกันออกมา

    "ฮึก.."

    น้ำตาหยดแรกไหลออกมากับเจ็บปวด

    ...หยดที่สองกับความโง่ของตัวเองที่หลงคิดว่าบางทีชานยอลอาจจะยังอยากเห็นรอยยิ้มของผมอยู่

    เด็กหนุ่มที่ยืนอยู่เหลือบมองผมเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆ เดินไปแต่งตัวให้ร่างบางแล้วอุ้มคนตัวเล็กออกไปอย่างเงียบๆ ทิ้งไว้เพียงผมกับร่างสูงที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียง

    ตุ้บ!

    ผมทรุดตัวลงกับพื้นอย่างหมดแรง ร่างกายแกร่งที่เปลือยเปล่าของร่างสูง เสื้อผ้าที่กระจัดกระจายอยู่ตามพื้น ...และรอยคราบสีขาวบนเตียงที่เลอะเทอะเต็มไปหมด

    เพี๊ยะๆๆ!

    ผมตบตีตัวเองแรงๆ ทั้งตีทั้งหยิกจนหน้าและแขนแดงเป็นจ้ำๆ แต่มันยังไม่พอ...ผมต้องลงโทษตัวเองที่เชื่อใจเขามากเกินไป น้ำตาที่หมายจะกลั้นไว้พรั่งพรูออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

    "ฮืออออออออ..แบคฮยอน..นายมันไอ้หมาโง่! ..ฮึก..นายโดนหลอกมากี่ครั้งแล้ว?! ฮือๆๆ ..ชานยอล..ฮึก..นาย..นายมาหลอกฉันทำไม?! นายมาหลอกให้ฉันรักนายทำไมกัน!!! ฮือออๆๆๆ"






    ---------------------------------------------------------------------------
     
    เอ็นซีป๊าม๊าแต่ต้นแชปเลย เอ็นซีถี่ไปมั้ยเอ่ย? รีดเดอร์ไม่หื่นแต่ไรเตอร์หื่นนะ5555

    และแล้วดราม่าก็ตกลงมาที่คู่เทาโฮและชานแบคจนได้ โฮฮฮTOT


    ไรเตอร์รู้สึกว่ารีดเดอร์น้อยลง? รีดเดอร์จ๋าอย่าทิ้งกันไป
    T^T มารายงานตัวหน่อยยยย~~♥










    B B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×