คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : I Don't Wanna Be Your Lil Bro - Chapter 1 (เพิ่มแปลไทยเป็นไทย>
[Sehun]
"แกนขนาดดดดด!"
(มันขึ้นๆๆ!)
เสียงแหลมจากคนตัวเล็กที่ยืนข้างๆ พูดขึ้นอย่างโมโหเพราะถูกเด็กกลุ่มหนึ่งแซวเรื่องความสูง
"อู้จะอี้ได้จะได ซักกำบ๋อ?"
(พูดงี้ได้ไง? เดี๋ยวปั๊ด!)
ท่าพับแขนเสื้อของไอ้ลูกหมาตัวเล็กทำให้ผมกับแก๊งเด็กซ่าพวกนั้นกลั้นหัวเราะไม่อยู่
"ฮ่าๆๆ"
"ไข่หัวยะหยังครับนายน้อยเซฮุน? ถึงผมจะเป๋นแค่ลูกแม่ครัวแต่ผมก็โกรธเป๋นเน้อครับ"
(หัวเราทำไมครับนายน้อยเซฮุน ถึงผมจะเป็นลูกแม่ครัวก็โกรธเป็นนะครับ)
อ้าว มาพาลใส่ผมด้วยซะงั้น อันที่จริงไอ้ลูกหมาแบคฮยอนที่ยืนทำเป็นเก่งเถียงอยู่กับเด็กป.6 นี่ไม่ได้เคารพผมเหมือนคำสรรพนามที่มันใช้เรียกผมหรอกครับ
ผมน่ะชื่อโอ เซฮุนครับ ถ้าเรียกแบบคนไทยที่จะเรียกนามสกุลตามหลังชื่อก็คงจะเป็นเซฮุน โอสินะ ที่ผมพูดถึงภาษาไทยก็เพราะตอนนี้ผมอยู่ในจังหวัดหนึ่งทางภาคเหนือของประเทศไทยน่ะครับ ครอบครัวของผมย้ายมาจากเกาหลีบ้านเกิดของผมตั้งแต่ผมอายุ15ปี เพื่อมาพัฒนาธุรกิจรีสอร์ทสาขาที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ ครอบครัวผมเป็นเจ้าของรีสอร์ทห้าดาวชื่อดังในหลายๆ ประเทศ ผมมาอยู่ที่นี่ได้เกือบสามปีแล้ว ภาษาไทยของผมดีเลยทีเดียวแหละครับ ก็ผมน่ะต้องเรียนหลายๆ ภาษาเพื่อเตรียมตัวรับช่วงกิจการต่อจากคุณพ่อนี่นา แล้วผมยังมีครูสอนภาษาเหนือพิเศษอย่างเจ้าตัวเล็กที่ยืนขู่แง่งๆ มาพูดเหนือกับผม ทุกวันเลยทำให้ผมเข้าใจภาษาเหนือได้ดีโดยเฉพาะคำด่าที่ผมได้ยินแทบทุกวัน
บยอน แบคฮยอนเป็นลูกชายของแม่ครัวที่บ้านผมครับ แม่ของแบคฮยอนสนิทกับแม่ผมมากเพราะเธอเป็นคนเกาหลีที่ย้ายมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่แบคฮยอนยังพูดไม่เป็นด้วยซ้ำ แล้วทั้งสองยังชอบทำอาหารเกาหลีเหมือนกันอีก บางครั้ง แม่ของแบคฮยอนก็สอนแม่ผมทำอาหารเหนือด้วย เข้ากันสุดๆ ล่ะสองสาวนี่น่ะ เพราะมีแม่ชอบทำอาหารเลยทำให้เจ้าหมาแบคฮยอนเก่งเรื่องเข้าครัวอยู่พอตัว แต่นิสัยใจคอน่ะหรอ? เหอะ! แก่นแก้ว แสบ ซนยังกับอะไรดี ปากคอเราะร้ายเป็นที่หนึ่ง โมโหง่ายขี้โวยวายอีกต่างหาก แต่เห็นแสบๆ แบบนี้ที่จริงเป็นคนอ่อนไหวง่ายมากเลยแหละครับ เหมือนแค่เอาความแสบมาเป็นเกราะไม่ให้ใครรู้ถึงความเปราะบางภายในน่ะ
ก็อย่างที่บอกแหละครับ เพราะแม่ผมกับแม่ของมันสนิทกันเลยทำให้พวกผมสนิทกันไปด้วย มันจะเรียกผมด้วยสรรพนามสุภาพแบบนั้นเพื่อประชดมากกว่า จะว่าไปผมก็สอนมุกตลกภาษาเกาหลีให้มันบ่อยๆ นะ เพราะถึงมันจะมาอยู่นี่ตั้งแต่ยังพูดไม่เป็นแต่คุณน้าจางมี ซึ่งก็คือคุณแม่ของมันก็สอนมันพูดเกาหลีตั้งแต่เด็กๆ แต่ก็ยังไม่ทันมุกเกาหลีใหม่ๆ อยู่ดีทำให้บางทีมันก็โดนผมเอาคืนอยู่เหมือนกัน คิดถึงตอนผมกับมันแกล้งกันเพราะภาษาที่ไม่แข็งแรงของเราทั้งคู่ตอนที่ผมมาอยู่ใหม่ๆ ก็อดขำตัวเองไม่ได้
ผมมองคนตัวเล็กที่ไม่ค่อยจะยอมรับความจริงเรื่องส่วนสูงของตัวเองตบกะโหลกพวกเด็กๆ อย่างมันมือแล้วทุกคนก็พากันหัวเราะลั่น ที่จริงพวกผมสนิทกับแก๊งเด็กซ่าพวกนี้นะ แต่ทุกคน (รวมถึงผม) ก็ชอบที่จะแกล้งไอ้ลูกหมาตัวเล็กนี่ให้โมโหจนลมออกหูแหละ มันทั้งตลกแล้วก็น่ารักกับที่พับแขนเสื้อกับประโยคเด็ด 'ซักกำบ๋อ?' ที่พวกผมได้ยินจนชิน
"ยืนอู้กับยานแม่อยู่กะครับไอ้นายน้อยเซฮุนโซซัดโซเซ? ยะหยังบ่มานั่ง? มาลู่ต๋ำส้มหมู่ละอ่อนน้อยกิ๋นกั๋นเต๊อะ"
(ยืนคุยกับยานแม่อยู่รึไงครับนายน้อยเซฮุนโซซัดโซเซ? ทำไมไม่มานั่ง? มาแย่งส้มตำของเด็กๆ กินกัน)
ไอลูกหมาจิกกัดแล้วตบเก้าอี้ตัวข้างๆ
"โด้ววววว!"
(โห่~)
พอเด็กๆ รู้ถึงจุดมุ่งร้ายของไอ้ลูกหมาต่อส้มตำของพวกเขาก็พากันโวยแต่ก็เดินไปหยิบส้อมมายื่นให้พวกผม ผมชอบเด็กพวกนี้นะครับ ถึงจะชอบแซวนู่นนี่แต่ก็เป็นเด็กที่มีน้ำใจมากๆ เลยแหละครับ บางวันผมเห็นเด็กพวกนี้รวมตัวกันเก็บขยะในหมู่บ้านด้วยแหละครับ คนที่นี่เขาอนุรักษ์กันมากเลย ตอนแรกได้ยินเรื่องรีสอร์ทที่พ่อของผมจะสร้างก็ออกมาประท้วงกันวุ่นวายเพราะกลัวจะไปทำลายธรรมชาติ แต่สุดท้ายก็ตกลงกันได้ครับ ผมไม่รู้รายละเอียดมากนักหรอก ก็ผมยังไม่ได้รับช่วงต่อตอนนี้นี่นา รู้ไปก็ปวดหัวเปล่าๆ ที่จริงผมไม่ได้อยาจะรับช่วงอะไรนี่หรอกนะ แต่แค่ยังคิดไม่ออกว่าอยากทำอะไรดี ไม่เหมือนพี่ชายคนหนึ่งที่มีเป้าหมายชีวิต และเดินตามเป้าหมายนั้นอย่างแน่วแน่ พี่เขาย้ายมาอยู่ข้างบ้านผมที่เกาหลี เพิ่งย้ายมาได้สามสี่เดือนผมก็ต้องมาอยู่ไทยซะแล้ว แม้จะเป็นเวลาสั้นๆ แต่ผมก็สนิทกับพี่เขาได้เร็วเลยแหละ จำได้ว่าพี่เขาบอกว่าย้ายมาจากจีนเพราะอยากมาเรียนทำเค้กกับอาจารย์คนหนึ่งที่เขาเคยชิมฝีมือของอาจารย์คนนั้นตอนเป็นเด็ก หลังจากนั้นเขาก็ตัดสินใจได้เลยว่าอยากเปิดร้านเค้กจนมาถึงตอนนั้นเขาก็พยายามตามหาอาจารย์คนนั้นตลอด เห็นบอกว่าเป็นเพื่อนของแม่ที่เคยเจอตอนเด็กๆ แล้วหลังจากนั้นก็ไม่ได้เจออีกเลย แม้แต่แม่ของเขาก็ไม่รู้ว่าอาจารย์คนนั้นหายไปไหน
พี่ชายคนนั้นน่ะ...ผมอยากเรียกว่าพี่สาวมากกว่าซะอีก ผมนึกถึงหน้าหวานๆ นั่นแล้วอดยิ้มไม่ได้ ทำไมพระเจ้าไม่ให้เขาเกิดมาเป็นผู้หญิงเลยนะ? ใบหน้าเรียวสวย จมูกเล็กกับริมฝีปากสีเชอร์รี่ที่ทำให้หลายคนแทบคลั่ง ดวงตากลมโตใสแจ๋วเหมือนกวางน้อย เสียงหัวเราะสดใสร่าเริงที่มักจะหลุดออกมาจากริมฝีปากบางนั่นน่ารักไม่น้อยเลยล่ะ ท่าทีที่มักทำเป็นเข้มแข็งชอบบอกว่าตัวเองแมนเต็มร้อยนั่นมีสเน่ห์สุดๆ ร่างกายบอบบางนุ่มนิ่มน่ากอดนั่นดูน่าปกป้อง ฝ่าเท้าเล็กที่มักจะวิ่งเตาะแตะไปมาไม่อยู่นิ่ง...ทั้งหมดนั่นคือคนที่ทำให้ผมหลงไหล
ทั้งหมดนั่น...คือพี่ชายที่ชื่อ'ลู่หาน'
ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนผมไม่รู้สึกอะไรกับพี่เขาแท้ๆ แต่พอมาอยู่ที่นี่แล้วรู้สึกคิดถึงแปลกๆ แม้จะส่งเมล์หากันบ่อยๆ แต่ผมก็ยังอยากเจอหน้า อยากได้ยินเสียง อยากอยู่ด้วยนานๆ อยากดูแล อยากปกป้อง หลายๆ ความรู้สึกปนเปกันไปหมดจนผมเริ่มคิดว่า ผมชอบพี่ลู่หานเข้าแล้วสินะ
"เซฮุน เซฮุน...บ่าฮ่าเซฮุน! หูหนวกกะ ฮาฮ้องตั้งนาน ซักกำบ๋อบ่า"
(
เสียงเล็กของไอ้ลูกหมาแบคฮยอนที่ด่าอยู่ข้างๆ ทำให้ผมตกใจจนส้อมแทบหลุดมือ คนกำลังอยู่กับตัวเองมาเรียกซะเสียงดัง วู้
"จะกิ๋นก่อต๋ำส้มเนี่ย ถ้าบะกิ๋นละอ่อนจะได้ช่วยกันโซ้ย นั่งยิ้มคนเดียวเป๋นผีบ้าอยู่นั่นเนาะ"
(จะกินมั้ยส้มตำเนี่ย? ถ้าไม่กินเด็กๆ จะได้ช่วยกันโซ้ย มันแต่นั่งยิ้มเป็นบ้าคนเดียวอยู่นั่นแหละ)
หมาแบคหันมาบ่นเป็นยายแก่ กล้ามากที่ว่าผมเป็นผีบ้า ชิ งอน! ผมสบัดหน้าไปอีกทางแล้วทำปากยื่นแสดงความงอนเต็มที่ แต่เจ้าตัวเล็กกลับพาพวกเด็กๆ สุมหัวกินกันจนเกลี้ยง
"ปิ๊กบ้านดีๆ เน้อ ถ้ามีไผมารังแกหมู่เฮามาบอกแบคฮยอนนี่…เดวก่อน ซักกำก่อน!"
(
พออิ่มหนำสำราญกันถ้วนหน้าแล้วก็ได้เวลาแยกย้าย แบคฮยอนบอกลาพวกเด็กๆ ด้วยท่าพับแขนเสื้อประหลาดๆ นั่น แล้วก็ไฮไฟว์กับทุกๆ คนอย่างอารมณ์ดี ผมก็แค่โบกมือบ้ายบายไป ไม่รู้ว่าเจ้าตัวเล็กนี่พูดมากหรือผมพูดน้อยกันแน่ แต่ผมรู้สึกว่าบทพูดของผมมันน้อยกว่ามันยังไงไม่รู้สิ
"กลับยัง?"
แบคฮยอนเปลี่ยนภาษาพูดกับผม เขาจะพูดเหนือตอนอยู่กับคนอื่นเพื่อให้ทุกคนเข้าใจหรือไม่ก็ตอนอุทาน...และตอนพูดกับตัวเอง
อย่าสงสัยว่าทำไมผมรู้ว่ามันพูดเหนือตอนพูดกับตัวเอง เพราะมัน'พูด'กับตัวเองจริงๆ พูดออกเสียงเลยด้วย บางทีก็พูดกับตัวเองภาษาเกาหลีเอาแน่เอานอนไม่ได้
"นี่! จะกลับบ้านก็พูดออกมาสิ คนนะไม่ใช่เทวดาจะได้อ่านความคิดนา..อ๊ะ!"
เสียงเล็กชะงักไปเพราะผมเอาอมยิ้มยัดปาก ผมไม่ได้รำคาญอะไรขนาดนั้นนะ ผมพยักเพยิดหน้าไปทางคู่รักคู่หนึ่งที่กำลังกอดกันแล้วก็กำลังจะจูบกันภายใต้แสงตะวันยามเย็นอย่างโรแมนติค แต่เสียงเล็กของไอ้ลูกหมานี่ทำให้พวกเขาต้องชะงักแล้วผละออกจากกันด้วยความเขินอาย
"ขอโทษนะครับ"
ผมก้มหัวเล็กน้อยเป็นเชิงขอโทษแล้วรีบคว้าข้อมือบางของแบคฮยอนวิ่งทันที
"เอ่อ...-///-"
แบคฮยอนมองผมที่หยุดยืนหอบแฮกๆ อยู่ข้างบึงใหญ่ในหมู่บ้านแล้วก้มลงไปมองที่ข้อมือที่ถูกผมกำไว้แน่น
"อ้อ โทษที เหนื่อยจนลืมปล่อยน่ะ นายนี่ก็นะ โวยวายไม่ดูสถานที่เล้ยยย คนเขากำลังจะจู..."
ผมชะงักเมื่อเริ่มรู้สึกว่าใบหน้าใสรูปไข่ของคนตัวเล็กเริ่มใกล้เข้ามาเรื่อยๆ... ดวงตาเรียวที่มักจะกรีดอายไลน์เนอร์จ้องลึกเข้ามาในตาของผม ถึงแบคฮยอนจะดูห้าวๆ แสบๆ แต่ที่จริงน่ารักอย่าบอกใครเลยแหละ ตัวก็ดูบอบบางไม่แพ้พี่ลู่หานเลย
พยอนแบคฮยอนน่ะ... ที่จริงแล้วทำให้หลายคนหลงใหลภายในไม่กี่วินาทีอย่างสบายๆ...
ปั้ก!
ไอ้ลูกหมาตัวแสบเอื้อมมือขึ้นมาตบหัวผมอย่างแรงแล้ววิ่งหนีไป
"หยุดนะไอ้ตัวแสบ ย้ากกกกก!"
ผมกับมันวิ่งไล่กันอย่างบ้าคลั่งจนถึงบ้าน
"อ้าว ทั้งสองคนไปวิ่งสู้ฟัดที่ไหนมาล่ะเนี่ย ไปๆ ไปอาบน้ำ"
คุณนายยองเอ หรือคุณแม่ของผมเห็นพวกผมในสภาพเหงื่อท่วมตัวก็ไล่ไปอาบน้ำทันที
-------------------------------------------------------------------------------------
เหมือแบคจะเด่นกว่าเน่?
จะอัพเรื่อยๆ เป็นกำลังใจให้หน่อยเน้อ :)
ดิท: เพิ่มคำแปลไทยเป็นไทยเผื่อคนไม่เข้าใจ
ไรเตอร์ลืมไปว่าบางคนอาจไม่รู้จักภาษาเหนือ><
ไม่รู้จะหาคำอะไรมาอธิบาย 'ซักกำบ๋อ' ดีTT
[09/08/12]
ความคิดเห็น