[EXO] : Midnight Bell : (Chanyeol & Baekhyun) - [EXO] : Midnight Bell : (Chanyeol & Baekhyun) นิยาย [EXO] : Midnight Bell : (Chanyeol & Baekhyun) : Dek-D.com - Writer

    [EXO] : Midnight Bell : (Chanyeol & Baekhyun)

    หากสิ่งที่คิดว่าเป็นของเขา.. กลับไม่ใช่ของเขา, จุดจบจะเป็นอย่างไร?

    ผู้เข้าชมรวม

    293

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    293

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    4
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  18 พ.ย. 57 / 07:09 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น


    : Midnight Bell :








    บยอนแบคฮยอน - ผู้กระเสือกกระสนออกจากฝันร้าย หวังพึ่งเสียงกระดิ่งชะล้างความมืดมิดนั้น







    ปาร์คชานยอล - เทพแห่งเสียงกระดิ่ง จิตใจมนุษย์ช่างน่าหยั่งถึงยิ่งนัก









     





    Thanks theme: CRUSH ON YOU







     






    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      .
       




      กรุ๊งกริ๊ง~

      เสียงใสกังวาลทั่วท้องฟ้าจากจี้กระดิ่งของชายหนุ่มคนหนึ่ง ปีกสีขาวนวลที่สะท้อนกับแสงจันทร์จนเกิดประกายระยิบระยับพาร่างสูงโบยบินลงมายังโลกมนุษย์พร้อมกับ'มีมี่' แมวสีขาวดำบินได้ สัตว์เลี้ยงคู่ใจของเขา การปรากฎตัวของเขาบนโลกมนุษย์นั้นก็เพียงเพื่อลงมาฉกฉวยจุมพิตจากหนุ่มสาวบนโลกที่ตัวเองพึงพอใจเพียงเท่านั้น ซึ่งที่ผ่านมาก็มีคนหลายคนถูกขโมยจุมพิตไปในยามหลับใหลโดยไม่รู้ตัวมามากมายนัก

      'บยอน แบคฮยอน'.. เป้าหมายที่13ของวันนี้...







      "อื้ออออ~!"

      เสียงเล็กดังลอดออกมาจากลำคอร่างที่กำลังหลับใหลอยู่ในบ้านหลังหนึ่งบนโลกมนุษย์ ร่างกายบางที่ขยับดิ้นไปมาเหมือนกำลังดีดกายให้พ้นจากอะไรบางอย่าง หัวคิ้วผูกเข้าหากันเป็นปม อกบางกระเพื่อมเร็วราวกับว่ากำลังฝันร้าย...

      กรุ๊งกริ๊ง~

      เสียงกระดิ่งดังลอดเข้ามาในห้องสีครีมขาวที่ดูราวกับสรวงสวรรค์พร้อมกับการปรากฎกายของ 'เทพชานยอล' หรือในอีกโลกมักจะรู้จักกันในนาม 'เทพเบล' หรือเทพกระดิ่งตามจี้ที่ห้อยคอเขามาตั้งแต่เกิด

      ปีกใหญ่ที่สยายอยู่ค่อยๆจางหายไป ขายาวก้าวเข้ามาในอาณาเขตเตียงนอนที่มีร่างบางหลับใหลอยู่บนนั้น เรียวปากยกยิ้มขึ้นเล็กๆเมื่อเห็นว่าเสียงกระดิ่งจากจี้ห้อยคอรูปกระดิ่งนั่นสามารถทำให้ร่างเล็กหยุดอาการอึดอัดจากฝันร้าย คิ้วที่ขมวดอยู่คลายออกด้วยความผ่อนคลาย ดวงตาเรียวหลับพริ้ม ลมหายใจสม่ำเสมอเข้าสู่สภาวะการนอนหลับปกติ

      ชานยอลคลี่ยิ้มด้วยความพอใจเมื่อเห็นใบหน้าน่ารักของร่างบางจากแสงจันทร์ เขาจ้องมองตั้งแต่หน้าผากมนที่มีปอยผมสีน้ำตาลอ่อนปรกอยู่เล็กน้อย แพขนตาที่ปิดสนิทหลับพริ้ม จมูกเล็กจิ้มลิ้มที่น่างับเล่น ไล่สายตาลงมาที่ริมฝีปากสีชมพูธรรมชาติก่อนที่เขาจะแนบปากเรียวลงไปมอบจุมพิตอย่างห้ามใจไม่ไหว เพียงชั่วครู่จุมพิตแสนหวานก็ถูกถอนออกเหลือเพียงสัมผัสนุ่มละมุนที่ร่างเล็กยังรู้สึกได้แม้ว่าจะกำลังอยู่ในห้วงแห่งความฝันก็ตาม..

      หอมหวานยิ่งกว่าขนมสายไหม...

      ..พร้อมกับเสียงกระดิ่ง..

      กรุ๊งกริ๊ง~


       




       





      .



      "ฮือออออออออออออออออ เซฮุนนนน มึงงงง เปิดประตูสิ ฮืออออออออ"

      แบคฮยอนรัวกำปั้นเล็กๆของเขาลงบนประตูห้องเพื่อนสนิทที่เช่าบ้านอยู่หลังเดียวกัน ไม่เกินสามนาทีประตูห้องก็ถูกเปิดออกอย่างแรงพร้อมกับใบหน้าบูดบึ้งของเพื่อนสนิทที่โดนรบกวนการนอนในเวลาดีตีห้าแบบนี้

      ผัวะ!
      "แหกปากหาพ่องงงง มึงจะฝันร้ายอะไรนักหนาวะ?!"

      เซฮุนพูดขึ้นมาอย่างหัวเสีย เขารู้ว่าแบคฮยอนมักจะฝันร้ายเป็นประจำ และมักจะนอนไม่หลับตอนดึกๆบ่อยๆ และทุกครั้งที่เกิดฝันร้ายแบคฮยอนก็จะวิ่งมาทุบประตูห้องเขาแบบนี้ ไม่สิ นี่มันเรียกว่าพังประตูเลยเหอะ-*-+

      "อะ..?!!"

      ยังไม่ทันที่แบคฮยอนจะได้อธิบายว่าครั้งนี้มันไม่ใช่ฝันร้ายแบบเก่าเซฮุนก็ล็อกคอเพื่อนตัวเล็กเข้ามาในห้องซะก่อน

      "อ่ะ นอนไป คราวนี้จะฝันร้ายอีกก็ให้มันรู้ไปสิ กูขลังนะเว้ย- -+"

      ลากๆอีกคนมานอนบนเตียงด้วยกันแล้วเซฮุนก็มุดผ้าห่มหลับต่อโดยไม่ฟังคนตัวเล็กที่นั่งอ้าปากพะงาบๆอยู่เลย และถ้าแบคฮยอนรบกวนการนอนของเด็กนี่ต่ออีกหน่อยเขาได้โดนเฉาะหัวหมกป่าแน่ รู้อยู่หรอกว่าปกติเซฮุนจะคุยโทรศัพท์กับลู่หานจนดึกดื่น แต่ที่โมโหนี่คงเพราะพรุ่งนี้พวกเขามีเดทตอนเช้ากันมั้ง

      "อา.."

      แบคฮยอนส่งเสียงเบาๆเหมือนกำลังนึกย้อนไปถึงเรื่องฝัน ใช่..เขาฝันร้ายเหมือนทุกๆคืนนั่นแหละ แต่ในคืนนี้มันค่อนข้างจะเปลี่ยนไป เปลี่ยนแปลงสู่ความหอมหวานนุ่มละมุนอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก มันสามรถปลอบประโลมเขาจากฝันร้ายนั่นได้... เสียงกระดิ่งดังก้องอยู่ในหัว ภาพนาฬิกาบอกเวลาเที่ยงคืนที่ยังคงติดตา และสัมผัสอุ่นบนริมฝีปากของตัวเอง

      แม้เขาจะเคยจูบมาไม่บ่อย แต่เขาก็รู้สึกเหมือนตัวเองโดนจูบจริงๆแม้ว่ากำลังหลับฝัน..

      อา.. จูบที่สี่ของผม...

      คือควานฝัน

      ..และเสียงกระดิ่ง..







      คืนต่อมา..

      แบคฮยอนพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียงเพื่อรออะไรบางอย่างที่แม้แต่เขาก็ไม่รู้ว่าหน้าตาของสิ่งนั้นเป็นยังไง เพียงแค่เสียง.. เสียงของกระดิ่งที่ยังคงก้องกังวาลอยู่ในหัว ดิ่งลึกเข้าไปถึงในจิตใจของเขา...แม้ว่ามันอาจจะดูงมงาย หากแต่เขาก็ยังเชื่อว่าสิ่งนั้นมีจริง.. เจ้าของจุมพิตแสนหวานเมื่อคืน..



      23.50

      นาฬิกาบนผนังชี้ไปใกล้ๆเลขสิบสองบอกว่าใกล้เวลาเที่ยงคืนตามภาพนาฬิกาในฝัน แบคฮยอนสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วหลับตาลงเพื่อแกล้งหลับหวังให้เกิดเหตุการณ์แบบเมื่อคืนอีกครั้ง..

      นึกแล้วก็ตลกตัวเอง รอคอยในสิ่งที่ไม่แม้แต่จะเคยเห็นตัวตน แค่เพียงความหลงใหลในรสจูบ..และเสียงกระดิ่งประหลาดที่ทำให้เขาสงบทุกครั้งที่นึกถึง..

      กรุ๊งกริ๊ง~

      เสียงกระดิ่งดังเข้ามาในโสตประสาทพร้อมกับหัวใจที่เต้นเร็วจนแทบจะทะลุออกมา อยากจะลืมตาขึ้นไปมองตามเสียงนั่นให้รู้ว่าตัวเองไม่ได้หูฝาดหรือหวังจะเห็นเจ้าของเสียงนั่นให้รู้แล้วรู้รอด หากแต่อีกใจกลับกลัวว่าถ้ารีบลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วเสียงกระดิ่งนั่นจะหายไปแล้วไม่มาหาเขาอีกเลย..

      ความรู้สึกอบอุ่นจากเสียงกระดิ่งที่แม้แค่ได้ยินไม่กี่ครั้งแต่ก็จดจำมันขึ้นใจแผ่ซ่านไปทั่วห้อง พื้นที่บนเตียงยุบลงเล็กน้อยเมื่อร่างสูงทิ้งตัวนั่งข้างร่างเล็ก แบคฮยอนกำมือที่เปียกชื้นอยู่ในผ้าห่มแน่นเมื่อรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นที่รินรดบนใบหน้าของเขาบ่งบอกว่าบุคคลนั้นกำลังเข้ามาใกล้ และ...

      ป๊อก~

      "ไม่ต้องแกล้งหลับก็ได้นายบ๊อง~"

      "0_0"

      ความเจ็บที่หน้าผากเรียกให้ร่างเล็กลืมตาโพลงขึ้นมาด้วยความตกใจ บุคคลประหลาดหัวเราะเสียงดังด้วยน้ำเสียง
      นุ่มทุ้มของเขา

      'บ๊อง'งั้นหรอ? ทำไมคนรอบตัวแบคฮยอนชอบพูดแบบนี้กับเขานักล่ะTT

      ว่าแต่คนๆนี้เป็นใครล่ะเนี่ย? คืนนี้เขาอุตส่าห์อดหลับอดนอนจากเด็กอนามัยนอนสี่ทุ่มมาถึงเที่ยงคืนเพื่อที่จะเจอเจ้าของเสียงกระดิ่งนี่เชียวนะ ต้องเห็นให้ได้สิ!

      นานแสนนานที่ร่างเล็กได้แค่นอนนิ่งจ้องใบหน้าหล่อคมของอีกฝ่าย ใบหน้าที่หล่อเหลาน่าหลงใหลที่แม้มองจากใต้แสงจันทร์ก็ยังละสายตาไม่ได้...

      "นี่เจ้าเปี๊ยก! จะจ้องหน้าฉันอีกนานมั้ยหาาาา??"

      ร่างเล็กสะดุ้งเล็กๆเมื่อชานยอลเรียกเขาเสียงดังพร้อมกับดวงตาโตที่แทบจะถลนออกมานอกเบ้าตานั่นน่ะ

      "ฉันไม่ใช่เจ้าเปี๊ยกซักหน่อย-3-"

      แบคฮยอนลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงแล้วยู่ปากเล็กๆ ชานยอลหัวเราะออกมาเพราะอากัปกริยาที่ดูน่าเอ็นดูนั่น

      "หัวเราะทำไมมมมม นี่ฉันพูดจริงๆนะ ฉันเนี่ยนะเปี๊ยก?? เหอะ! รู้ป้ะว่าวันก่อนฉันต่อยเพื่อนผู้ชายตัวโตกว่านายอีก ต่อยจนเจ็บเลยด้วย!"

      ร่างเล็กทำเชิดราวกับว่าตัวเองคือคิงคองอย่างไรอย่างนั้น

      "จริงหรอ? แล้วทำไมเขาตัวโตกว่านายแล้วยังโดนนายต่อยจนเจ็บล่ะเนี่ย?"

      "ก็มันบอกว่ามันไม่ต่อยผู้หญิงอะดิ ยังไม่พอไอคนที่ต่อยจนเจ็บน่ะฉันนี่ ต่อยมันจนเจ็บมือมันก็ไม่เห็นเป็นไรเลยTT เพราะงั้นฉันเลยเจ็บใจต่อยมันไปเยอะๆเลย บังอาจมาว่าฉันเป็นผู้หญิงดีนัก เจ็บมือแต่สะใจ กร้ากกกก"

      ชานยอลได้หัวเราะตามร่างเล็กที่บ่นรัวๆไม่หยุดก่อนจะพูดขึ้น

      "คนแก่นๆแบบนี้ฉันชอบจัง ฮ่าๆๆ"

      เจ้าของเสียงทุ้มเอ่ยออกมาอย่างไม่ใส่ใจ หากแต่คนฟังกลับรู้สึกหน้าร้อนใจเต้นแรงจนแทบอยากระเบิดตัวตายไปซะตรงนี้

      "อ่า-///- ..เอ๊ะ?! เดี๋ยวนะ!ว่าแต่นายเป็นใครน่ะ? นายรึเปล่าที่มาขโมยจูบฉันเมื่อวา.."

      ตุ้บ!!

      ร่างเล็กแทบจะกระโจนลงจากเตียงเมื่อนึกขึ้นได้ว่าบุคคลปริศนานั้นคือคนที่เขาไม่รู้จัก แต่ก็ดันซุ่มซ่ามสะดุดผ้าห่มจนล้มหน้าทิ่มพื้น ลำบากอีกคนที่ต้องมาพยุงกลับขึ้นไปนั่งบนเตียงอีกรอบพร้อมอธิบาย

      "ถ้าฉันจะทำร้ายนายฉันทำไปตั้งแต่เมื่อวานแล้วเจ้าเปี๊ยก== ซุ่มซ่ามจริงๆเลยให้ตายสิ อ่ะนั่งนิ่งๆทำตัวเป็นเด็กดีแล้วเดี๋ยวฉันเล่าให้ฟัง"

      ว่าแล้วชานยอลก็นั่งขัดสมาธิลงบนเตียงตรงข้ามกับแบคฮยอน

      "ฉันคือเทพที่มาจากอีกโลกหนึ่ง ฉันชื่อชานยอลหรือว่าที่เรียกกันว่าเทพเบล.. เบลที่แปลว่ากระดิ่ง มาจากจี้กระดิ่งอันนี้นี่แหละ"

      ชานยอลเขย่าจี้ของเขาเบาๆจนเกิดเสียงกรุ๊งกริ๊งที่แบคฮยอนฟังทีไรก็ต้องรู้สึกอบอุ่นทุกครั้งไป ครั้งนี้ก็เช่นกัน แม้ว่าร่างเล็กจะนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดฟังอีกคนเล่าที่มาของตัวเองอยู่ก็เหอะ

      "นั่นแหละ ฉันเซ็งพวกเทพจากโลกนั้นเลยชอบแอบมาเล่นกับพวกมนุษย์อย่างนายนี่แหละ ขโมยหัวใจคนในยามหลับใหลมันสนุกจริงๆนะ ฮ่าๆๆ ฮะ..ฮะ..เฮ้ย!!!"

      พลั่ก! ตุ้บ!!!

      "ไปตายซะไอ้เทพล้านแปดมงกุฏ! ย้ากกกกกกกกก!!!!"

       
      "นายถีบฉันทำไมแบคฮยอน=[]=!"

      "เหอะ! อะไรคือการที่นายบอกว่านายคือเทพบ้าบอนั่น ถึงจะมีกระดิ่งประหลาดๆนั่นก็เหอะ แต่แมวที่ไหนจะเชื่อว่านายคือพระเจ้า ไม่ใช่ว่านายเป็นโจร..?!!!"

      พรึ่บ!

      คำพูดมากมายถูกกลืนหายไปหมดเมื่อร่างสูงลุกขึ้นยืนแล้วสยายปีกสีขาวขนาดใหญ่ออกจากแผ่นหลังของเขา ไม่เท่านั้น มือหนายังฉุดแขนร่างบางเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดแล้วใช้ปีกนุ่มนั้นโอบรอบสองร่างไว้

      "ทีนี้เชื่อรึยังล่ะ ปีกใหญ่ขนาดนี้น่ะ ฮ่าๆๆๆ"

      "อ..อือ.. อุ่นด้วย.///."

      แบคฮยอนได้แค่ยืนตัวแข็งทื่ออยู่ภายใต้ปีกใหญ่จนทำให้อีกคนหลุดหัวเราะออกมาอีกครั้ง

      ก๊อกๆๆ

      "ฝันร้ายอีกแล้วหรอแบค?.. อ้าวชานยอล?"

      เซฮุนวิ่งเข้ามาในห้องก่อนจะหยุดลงพร้อมกับชี้ไปที่ชานยอลที่ตอนนี้เก็บปีกยืนยิ้มอยู่ข้างแบคฮยอนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คงเพราะเสียงเอะอะที่แบคฮยอนถีบร่างสูงตกเตียงจนเสียงดังทำให้เซฮุนเป็นห่วงเพื่อนล่ะมั้ง?

      เซฮุนเดินเข้าไปหาชานยอลแล้วตบบ่าป้าบใหญ่แสดงถึงความสนิทสนมกัน ทั้งสองคุยเล่นหัวเราะกันซักพักก่อนจะหันมามองร่างเล็กที่ยืนงงมองตาปริบๆอยู่

      "นายรู้จักชานยอลด้วยหรอแบค?"

      "ห๊ะ? เอ้อเปล่า เพิ่งเจอนี่แหละ-////-"

      วิธีการพูดที่เปลี่ยนไปของทั้งสองคงเพราะมีอีกคนอยู่ด้วยทำให้แบคฮยอนและเซฮุนไม่สามารถพูดหยาบได้เหมือนตอนอยู่ด้วยกันสองคน เซฮุนมองใบหน้าน่ารักที่ขึ้นสีแดงระเรื่อของเพื่อนก็พอจะมองออก เขายิ้มเล็กๆก่อนจะอธิบายต่อ

      "พอดีชานยอลเคยจะมาแอบขโมยจูบฉันเมื่อหลายเดือนก่อนเลยรู้จักกันอะดิ ดีนะที่ฉันตื่นเพราะอาลู่โทรมาซะก่อนเลยรีบให้มันดูเลยว่าฉันมีแฟนแล้ว น่ารักมากอีกต่างหาก ฮ่าๆๆๆ"

      เซฮุนหัวเราะลั่นแล้วชานยอลก็ค่อยๆหัวเราะตาม

      "อ้อ อย่างนี้นี่เอง เอ๊ะเดี๋ยวนะ? ชานยอลคือท่านเทพนี่นา? งั้นฉันต้องคำนับอะดิ?"

      แบคฮยอนว่าแล้วก็รีบก้มหน้าก้มตาคำนับร่างสูงจนอีกสองคนกลั้นขำไว้ไม่ไหว

      "ฮ่าๆๆๆๆๆ แบคเอ้ยยยยย~ คำนงคำนับอะไร ฉันไม่เห็นต้องทำเลย ฮ่าๆๆๆ"

      เซฮุนว่าพลางขำไม่หยุด แบคฮยอนทำหน้าเหลอหลาซักแป๊บก่อนจะเริ่มแถ

      "ก..ก็เพราะนายเป็นภรรยาท่านเทพไงเซฮุน! นี่ฉันต้องถอนสายบัวทำความเคารพนายด้วยใช่มั้ยเนี่ย? ฮ่าๆๆๆๆๆ"

      แบคฮยอนแกล้งหัวเราะกลบเกลื่อนพลางทำท่าถอนสายบัวตลกๆเรียกเสียงหัวเราะจากทุกคนราวกับว่ามันเป็นเรื่องตลก.. แต่มันก็คือเรื่องตลกจริงๆนั่นแหละ==

      "โว๊ะ พูดเป็นนิยายไปได้แบค ฉันไปนอนดีกว่า ไม่เป็นก้างขวางคอละ คึคึ~"

      เซฮุนแซวก่อนจะเดินออกไปทิ้งระเบิดให้ร่างเล็กเขินจนหน้าแทบระเบิด

      "เอ้อชานยอล นายอยากกินอะไรมั้ย? ฉันมีช็อกโกแลตด้วยแหละ><"

      ร่างเล็กวิ่งไปหยิบกล่องช็อกโกแลตหลากสีออกมาจากลิ้นชักแล้ววิ่งกลับมาให้อีกคนเลือก ร่างสูงยิ้มให้อีกคนก่อนจะหยิบสีเขียวไป แบคฮยอนได้แต่ยืนมองดูอีกคนลิ้มรสช็อกโกแลตด้วยความหลงใหล ท่าทางมีสเน่ห์แบบนั้นชานยอลเขาทำมันได้ยังไงกันนะ?

      "อยากกินสีไหนอีกรึเปล่า?"

      แบคฮยอนถามพลางก้มหน้าก้มตามองดูช็อกโกแลตในกล่อง มีตั้งหลายสีแหนะ><

      "อืม.. เอาสีน้ำเงินละกัน^^"

      ชานยอลเอ่ยด้วยเสียงทุ้มของเขา

      "เห๋? ไส้มะพร้าวนี่นา รสนี้ฉันชอบพอดีเลย><"

      แบคฮยอนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเจื้อยแจ้วแล้วแกะช็อกโกแลตรสโปรดใส่ปากเคี้ยวเหมือนข้าวด้วยความหิว จริงๆวันนี้เขากินอะไรไปน้อยมากเพราะมัวแต่เอาเวลาไปคิดถึงเสียงกระดิ่งนั่นแหละ-///-

      "นี่ชานยอล อยากกินช็อกโกแลตป้ะ ฉันจะป้อนนายด้วยปาก>//<"

      แบคฮยอนทำใจกล้าเอ่ยถามออกไป.. จริงๆเขาคิดถึงจุมพิตแสนหวานในฝันนั่นด้วยแหละ เขาคิดว่าเขาโดนขโมยจูบจริงๆนะเนี่ย>///<

      "หือ? จะงับยังไงดีล่ะเนี่ย^^"

      ชานยอลตอบคำถามพลางมองไปที่ปากอีกคนที่ยังเคี้ยวช็อกโกแลตไม่หมดทำให้ร่างเล็กดีดพล่านวิ่งเข้าไปมุดตัวในผ้าห่มผืนหนาเมื่อรู้ตัวว่าตัวเองได้พูดอะไรออกไปก่อนจะรีบเปลี่ยนเรื่อง

      "เอ้อเนี่ย ฉันง่วงละอะ นอนนะ-///-!"

      "อ้าว? จะนอนแล้วหรอ? งั้นฉันกลับก่อนนะแบคฮยอน บ้ายบาย^^"

      "ด..เดี๋ยว!"

      แบคฮยอนกลั้นใจเรียกอีกคนไว้เมื่อเห็นเขาสยายปีกเตรียมจากไป ถามว่าตกใจมั้ยที่เจอปีก? ตอบว่าจริงๆเขาช็อคมากนะ แต่เพราะปีกนั่นแหละที่โอบร่างเขาไว้ทำให้เขาเขินจนลืมความช็อคน่ะ-///-

      "ว่าไงครับ?"

      ชานยอลลดปีกลงแล้วกลับมานั่งบนเตียงอีกครั้ง แผ่นหลังกว้างพิงหัวเตียงไว้แล้วโน้มหน้ามามองคนตัวเล็กที่มุดอยู่ในผ้าห่ม แบคฮยอนค่อยๆโผล่หน้าออกมาแต่แล้วก็ต้องพบกับใบหน้าคมที่เลื่อนเข้ามาใกล้

      ตึกตัก.. ตึกตัก.. ตึกตัก.. ตึกตัก..

      ทำไมเสียงหัวใจของเขาถึงได้เต้นแรงขนาดนี้กันนะ? ใครก็ไม่รู้ มนุษย์ก็ไม่ใช่ แต่เขากลับรู้สึกหลงใหลเสียงนั่นเหลือเกิน.. เสียงกระดิ่งนั่น

      "ฉันอยากฟังเสียงกระดิ่งก่อนนอนได้รึเปล่าชานยอล? มันทำให้ฉันหลับสบายน่ะ.///."

      แบคฮยอนถามเบาๆไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปสบตาอีกคนได้แต่ก้มหน้างุดเพื่อซ่อนความเขิน แต่กระนั้นพวงแก้มใสที่ขึ้นสีแดงระเรื่อก็ไม่พ้นสายตาร่างสูงอยู่ดี ชานยอลพยักหน้าเบาๆก่อนจะสั่นจี้กระดิ่งที่ห้อยตรงคอตัวเองเบาๆ

      กรุ๊งกริ๊ง~ กรุ๊งกริ๊ง~

      เสียงกระดิ่งที่ควรจะขับกล่อมร่างเล็กเหมือนครั้งก่อน แต่คราวนี้เขากลับไม่ยอมหลับ จิตใจว้าวุ่นสับสนไปหมด..

      พรุ่งนี้เขาจะได้ยินเสียงกระดิ่งนี่อีกรึเปล่า?..
      พรุ่งนี้เขาจะได้เจอร่างสูงเจ้าของจุมพิตแสนหวานนี่อีกไหม?..
      พรุ่งนี้เขาจะฝันร้ายเพราะขาดเสียงกระดิ่งอีกไหม?..
      และพรุ่งนี้..
      เขาจะยังได้ใกล้ชิดกับคนๆนี้อีกไหม?

      รู้ทั้งรู้ว่าบุคคลนี้อาจไม่ควรแตะต้อง ไม่ว่าจะด้วยความเป็นเทพที่อยู่กันคนละโลก.. หรือแม้แต่ที่รู้ว่าเขาได้แค่เล่นกับใจคนไปวันๆ..

      แต่เพียงแค่คำว่า.. ความหวัง..

      กรุ๊งกริ๊ง~

      "นี่"

      แบคฮยอนเอ่ยแทรกเสียงกระดิ่งขึ้นมา

      "ต่อไปนี้ฉันอยากฟังเสียงกระดิ่งอีกได้มั้ย? ฉันชอบมันมากเลย มันทำให้ฉันไม่ฝันร้ายด้วย..ได้รึเปล่า?"

      แบคฮยอนเอ่ยถาม ความจริงแล้วมันไม่ใช่เพียงแค่เสียงกระดิ่งที่เขาชอบ แต่มันรวมถึงการได้ใกล้ชิดกับร่างสูงอีกด้วย เขาอยากจะฟังเสียงกระดิ่งทุกคืนก่อนนอน ฟังจนหลับไปเลย..

      กรุ๊งกริ๊ง~

      "ได้สิ ก็มันทำให้นายไม่ฝันร้ายนี่นา ถ้าฉันว่างฉันจะมาหานะ^^ แต่ตอนนี้นอนได้แล้วรู้มั้ย ดึกแล้วครับผม^^"

      ว่าแล้วมือหนาก็กระชับผ้าห่มคลุมร่างเล็กไว้ก่อนจะสั่นกระดิ่งต่อ..

      กรุ๊งกริ๊ง~

      กรุ๊งกริ๊ง~

      กรุ๊งกริ๊ง~

      กรุ๊งกริ๊ง..

      เสียงกระดิ่งหายไปเมื่อร่างสูงเห็นว่าร่างเล็กหลับไปแล้ว เขาเดินออกไปที่ระเบียงก่อนจะบินหายไปบนท้องฟ้าพร้อมกับมีมี่ที่นอนรออยู่ตรงระเบียง แบคฮยอนลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกว่าเสียงกระดิ่งนั่นได้จากไปแล้ว.. แม้ว่าเขาจะต้องการมันตลอดเวลา.. แต่สำหรับตอนนี้.. แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว..

      ขอบคุณนะชานยอล♥


      รอยยิ้มบางปรากฎขึ้นพร้อมกับหัวใจที่พองโตของร่างเล็ก ก่อนที่ดวงตาเรียวจะปิด อ้อมแขนเล็กกระชับกอดตุ๊กตารูปผู้ชายมีปีกที่ซ่อนไว้ใต้ผ้าห่ม.. ก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทราที่ไร้ความน่ากลัวจากฝันร้าย..

      มีเพียงเสียงกระดิ่งที่ดังก้องในหัว..

      กรุ๊งกริ๊ง~







      เช้าต่อมา..

      "อื๊ดดดดด~ อึ๊ดๆ ฮึบๆ อื้อออออ~"

      แบคยอนบิดขี้เกียจเต็มเหนี่ยวรับความสดชื่นในยามเช้า นั่งนิ่งบนเตียงเป็นชั่วโมงนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขา มันเร็วไปรึเปล่า? ทำไมเขาเอาแต่คิดถึงเสียงกระดิ่งนั่นล่ะเนี่ย-//-

      ร่างเล็กลุกขึ้นไปทำธุระส่วนตัวก่อนจะลงไปทำโจ๊กสำหรับมื้อเช้าโดยที่ในหัวยังสลัดเสียงกระดิ่งนั่นออกไปไม่ได้.. หรือไม่รู้ว่าเพราะเขาไม่คิดจะสลัดมักออกหากแต่เลือกที่จะนึกถึงมันทั้งวันเลยรึเปล่านะ? ปากเล็กยิ้มไม่หุบเมื่อนึกถึงเสียงกระดิ่งที่เขาหลงใหล นี่เขาจะต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆให้ตายสิ-///-

      ว่าแต่ตอนกลางวันแบบนี้เขาจะมาที่โลกมนุษย์ได้รึเปล่าน้า? ปกติมาแค่ตอนกลางคืนซะด้วยสิ..

      รู้ทั้งรู้ว่าเขาจะต้องไม่มาแน่ๆ.. แต่ทำไมเขายังหวังนะ? หวังว่าบางทีอีกคนอาจอยากมาเที่ยวเล่น หวังว่าเขาจะได้เจอร่างสูงบ่อยๆ

      ทั้งหวัง.. แล้วก็รอ...

      เอ.. จะว่าไปวันนี้ว่างๆ เขาอบเค้กซักหน่อยดีมั้ยนะ? ทำเผื่อชานยอลคืนนี้ด้วย-///- คิดแล้วร่างเล็กก็รีบเทโจ๊กลงกระเพาะแล้วไปแต่งตัวออกไปซื้อของมาทำเค้กทันที



      วันนี้ทั้งวันแบคฮยอนหมดเวลาไปกับการพยายามอบเค้กชิ้นแล้วชิ้นเล่ากว่าจะได้ช็อกโกแลตชีสเค้กตามสูตรที่ได้มาน่ะ ทำเสียไปตั้งหลายก้อนจนเกือบท้อแหนะ แต่ก็ไม่เป็นไรหรอกถ้าทำออกมาดีๆแล้วชานยอลจะชอบน่ะ♥



      11.50pm

      งืออออ ใกล้เวลาที่ชานยอลจะมาแล้วนี่นา>< แบคฮยอนวางเค้กไว้บนโต๊ะอ่านหนังสือแล้วนั่งรอ...



      12.30am

      เลยเวลามาเยอะแล้ว ทำไมชานยอลยังไม่มาสักทีนะ? ช่างเหอะ เดี๋ยวก็คงมา~ แบคฮยอนนั่งรอต่อพลางจินตนาการภาพไปตอนที่ร่างสูงได้ลิ้มรสมันแล้วยิ้มกว้างบอกว่าเขาชอบเค้กของตัวเอง แค่คิดก็เขินจนต้องยกมือขึ้นมาปิดหน้าตัวเองแล้วกรี๊ดในลำคอแล้วแหละ>///<



      2.00am


      หันไปจ้องนาฬิกาอีกทีนี่มันตีสอง.. ทำไม..?

      "อ้ากกกกกกกกกก!!"

      พลั่ก! พลั่ก! เพล้ง!!

      "ฮืออออออออออออออ!"

      ข้าวของบนโต๊ะถูกปัดจนตกพื้นเหลือไว้แค่เค้กก้อนโตกับร่างเล็กที่ฟุบหน้าลงข้างๆเค้กปล่อยโฮออกมาอย่างหนัก เขาไม่ได้เสียใจ เขาผิดหวัง หวังที่คิดว่าจะได้เห็นชานยอลยิ้มแฉ่งเพราะเค้กที่เขาทำให้ หวังที่คิดว่าคืนนี้จะได้ฟังเสียงกระดิ่งอีก...

      กลีบปากบางถูกกัดจนแดงช้ำเพื่อไม่ให้เสียงร้องไห้ดังไปถึงห้องเพื่อน.. ก็ได้! ถ้าคนที่อยากให้กินไม่กิน งั้นเขาเอาไปให้เพื่อนร่วมบ้านกินแทนก็ได้ เปลืองของ!!

      ว่าแล้วร่างเล็กก็ถือถาดเค้กเดินดุ่มๆไปที่ห้องเพื่อนเปิดประตูอย่างวิสาสะ...

      "ฮ่าๆๆ อย่าดิชานยอล ไอสามีบ้า ฮ่าๆๆๆๆ"

      "ทำไมครับคุณภรรยา.. ฟอด~ บ้าจี้นักโดนซะเลย ฮ่าๆๆๆๆ"

      เสียงหัวเราะของเซฮุนดังขึ้นพร้อมกับเสียงทุ้มที่แบคฮยอนจำได้แม่น เสียงหัวเราะและรอยยิ้มมีความสุขของทั้งคู่.. ภาพที่ชานยอลจี้เอวเซฮุนก่อนจะรั้งคนตัวเล็กกว่าเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดแล้วขโมยหอมแก้มฟอดใหญ่..

      ภาพเหล่านั้นถูกบันทึกไว้ด้วยดวงตาเรียวสวยของแบคฮยอนทั้งหมด...

      "..."

      ร่างเล็กสูดหายใจลึกๆก่อนจะเดินหันหลังกลับไปแล้วแกล้งเดินเข้ามาใหม่พร้อมเสียงอันเจื้อยแจ้วของเขา..

      รู้... แต่แกล้งไม่รู้...

      "เซฮุนนนนนน~ กินเค้กกันมั้ย><"




      "ห.. เห้ยไอ้หมา!"

      "เฮ้ ไงเจ้าเปี๊ยกบ๊อง^^"


      เซฮุนเด้งออกจากอ้อมกอดของชานยอลอย่างรวดเร็วต่างกับร่างสูงที่ตอนนี้ทำท่าทางไม่ทุกข์ร้อนอะไรเลย.. และนั่นยิ่งทำให้ผมพูดอะไรไม่ถูก ความผิดหวังและความเสียใจจุกอยู่ที่คอจนอึดอัด

      "ฉันเอาเค้กมาแบ่งให้เซฮุนน่ะพอดีทำแล้วกินไม่หมดเลยเอามาแบ่งไม่เห็นว่านายก็อยู่ด้วย งั้นกินกันไปเลยนะฉันอิ่มแล้วก็ง่วงมากเลยไปนอนก่อนนะฝันดีทุกคน^^"

      ผมก้มหน้าพูดรัวไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าใคร เพื่อนสนิทหรือชานยอลก็ตาม ได้แต่วางเค้กไว้บนโต๊ะหนังสือแล้วรีบเดินกลับห้องตัวเอง

      ฟุ่บ..

      "ฮึก.."

      ผมทรุดตัวลงกับพื้นทันทีที่ปิดประตูห้อง น้ำตาที่กลั้นไว้ไหลรินออกมาไม่ขาดสายราวกับต้องการระบายความรู้สึกทั้งหมดออกมาแทนคำพูดมากมาย ความอึดอัดและไม่เข้าใจในตัวเอง ความเสียใจและผิดหวังในตัวผู้มาใหม่ หรือแม้กระทั่งความไม่ไว้ใจที่มีต่อเพื่อนสนิท

      ความประทับใจที่เกิดขึ้นเพียงข้ามคืน ความรู้สึกดีที่นำพาด้วยเสียงกระดิ่ง.. รวดเร็วแต่หยั่งลึก ความอบอุ่นที่ไล่ฝันร้ายของเขานั้นยากที่จะลืมเลือน..

      "เมี้ยว~"

      กรุ๊งกริ๊ง~

      ผมเงยหน้ามองตามเสียงกระดิ่งในใจหวังให้เป็นคนที่ผมเฝ้ารอมาตั้งแต่ลืมตาตื่น... หากแต่ข้างหน้ากลับเป็นเพียงแมวสีขาวดำตัวอ้วนที่มีกระดิ่งที่ปลอกคอเท่านั้น แม้ว่าจะไม่เหมือน แต่เสียงกระดิ่งนี่ก็คล้ายกับเสียงกระดิ่งของชานยอลมากทีเดียว มันแทบจะเหมือนกันด้วยซ้ำ.. ต่างก็แค่ต้นเสียงไม่ได้มาจากผู้ชายคนนั้นแค่นั้นเอง..

      "เมี้ยว~"

      กรุ๊งกริ๊ง~

      กรุ๊งกริ๊ง...

      เสียงกระดิ่งดังแผ่วเบาสลับกับเสียงหัวเราะมีความสุขดังมาจากห้องนอนที่อยู่ไม่ไกล น้ำตายังคงไหลไม่ขาดสาย มีเพียงเสียงกระดิ่งแผ่วเบาดังมาจากปลอกคอแมวตัวนี้เท่านั้น..



      แบคฮยอนนั่งร้องไห้พิงประตูจนพล็อยหลับไปในที่สุด ในหัวยังคงมีเสียงหัวเราะและภาพของชานยอลและเซฮุนวนเวียนเต็มไปหมด มันยิ่งกว่าฝันร้าย..







      11.40pm

      หลายวันแล้วที่ผมนอนหลับไปโดยไม่มีชานยอลมาหา นับตั้งแต่วันนั้นก็มีแค่แมวสีขาวดำมาคอยอยู่เป็นเพื่อนราวกับรู้ว่าผมชอบเสียงกระดิ่งของมันขนาดไหน ถึงมันจะไม่เหมือนของชานยอล แต่มันก็ทำให้ผมนึกถึงชานยอลแล้วลบฝันร้ายออกไปได้ ถึงมันจะยังไม่ชิน แต่ผมก็ต้องยอมรับเมื่อเสียงหัวเราะจากห้องของเซฮุนมันดังมาถึงห้องผมแทบทุกวัน.. เสียงหัวเราะของเซฮุนและชานยอล...

      ผมล้มตัวนอนบนเตียงนุ่มเอื้อมไปคว้าตุ๊กตาผู้ชายมีปีกมากอดไว้ ถึงจะยังไงผมก็ยังนอนดึกรอเขาบ่อยๆอยู่ดี....





      "อ..อื้อ! ไม่นะ!"

      ฝันร้ายเข้ามาคุกคามอีกครั้ง ความอึดอัดน่ากลัวนี่มันทรงพลังเกินกว่าที่ผมจะหลุดออกมาจากมันได้ มัน..

      ..

      ความมืดที่น่ากลัวหายวับไปอีกครั้งเหมือนวันนั้น ความรู้สึกเบาบางเหมือนกำลังล่องลอย..

      "อื้อ.."

      ผมฝืนความฝันพยายามปลุกตัวเองออกจากห้วงนิทรา.. ความรู้สึกแบบนี้มัน..

      "เบล!"

      "ไงเจ้าเปี๊ยกบ๊อง^^"







      """ และมันก็ยังไม่จบเช่นเคย-.- """


       
      TBC..







       
       
      เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องของท่านเทพชานยอลกับมนุษย์ตัวเล็กๆธรรมดาอย่างแบคฮยอนเนาะ

      เนื้อเรื่องดำเนินมาถึงจุดๆหนึ่งที่เหมือนจะสำคัญ? แต่มันก็สำคัญหมดทั้งเรื่องแหละเนอะ5555555 ตอนนี้ในหัวของไรเตอร์ได้พล็อตมาจนจบละจากที่ไม่รู้ว่าจะจบยังไง..

      สำหรับบางคนอาจจบด้วยรอยยิ้ม บางคนอาจจบด้วยความหดหู่ บางคนอาจจบลงด้วยกำลังใจ... ฟิคเรื่องนี้มีจุดจบหลายแบบถ้ามองจากหลายมุมมอง..

      อยู่ที่ว่าคุณจะเลือกมองจุดจบด้วยมุมมองไหน..


      แต่มุมนี้.. ลืมพล็อตT_T


      เอาเป็นว่า..

      ฟิคเรื่องนี้ที่จะบรรยายเกี่ยวกับความรู้สึก.. แอบชอบ;)



      สวัสดี:)

       





      [30/10/2556]

       
       




      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×