นิทานกระจกเงา - นิยาย นิทานกระจกเงา : Dek-D.com - Writer
×

    นิทานกระจกเงา

    เรื่องราวความรักของคนสองคนที่มีบ้านอยู่ห่างกันเพียงช่วงถนน หากแต่ถูกความคิดของตนปิดกั้นความรักที่มีให้กันอย่างไม่รู้ตัว ราวกับกระจกสองบานที่สะท้อนเงาต่างกัน...

    ผู้เข้าชมรวม

    408

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    408

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักดราม่า
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  1 ก.ย. 66 / 17:52 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    นิทานกระจกเงา (โลกสองฝั่ง) ตอนต้น

     

    กระจกบานที่หนึ่ง(ของหญิงสาว)

     

     

                    เสียงนกเจื้อยแจ้วที่ดังมาจากบ้านหลังตรงข้ามทำให้ฉันอดที่จะหันไปมองมิได้บ้านสีขาวหลังเล็กๆที่มีรูปทรงคล้ายคลึงกับบ้านของฉันยิ่งนัก  เงาของใครคนหนึ่งไหววูบใบหน้าที่คุ้นเคยค่อยๆเผยออกมาใช่แล้วเขานั่นเองคนที่พรากหัวใจไปจากฉันโดยที่เขาไม่เคยรับรู้เลย

                สวัสดีครับ เอ วันนี้ไม่ออกไปไหนหรือครับ สายตาเรียบเฉยดูเหมือนจะทักอย่างเสียมิได้

                คงจะไปตอนบ่ายนะคะนัดจุ๋มเอาไว้ ฉันตอบทั้งๆที่ในใจขมขื่นรู้ดีว่าชายหนุ่มสนใจเพื่อนตนเพียงไร

                    หรือครับงั้นผมฝากความคิดถึงถึงจุ๋มด้วยนะครับพักนี้ไม่ค่อยได้คุยกันเลย

                    ค่ะ ทั้งๆที่รู้อยู่แล้วแต่เหตุใดใจจึงเจ็บเช่นนี้หนอข่มใจตอบได้เพียงเท่านี้สองเท้าได้แต่รีบก้าวกลับคืนสู่บ้านที่ซึ่งเป็นที่พักหัวใจทันที

     

                    ท่ามกลางการจราจรที่คับคั่งบนท้องถนนแถมอากาศก็ร้อนจนแทนทนไม่ไหว  ทำไมนะรถฉันต้องมาเสียวันนี้ด้วยเวรกรรมจริงๆ  เพิ่งจะเข้าใจอาการที่เขาบอกว่าร้อนตับแทบแตกก็วันนี้เอง  ฮือๆทำไมฉันถึงซวยแบบนี้นะตอนเช้าก็ทีนึงแล้วไม่อยากเจอดันเจอหน้าตาบ้านั่นเสียได้

                    นึกถึงได้ไม่นานพลันรถใครคนหนึ่งก็มาจอดอยู่ข้างๆพลางบีบแตร  

                    ใครกันดันมาบีบแตร คนรถเสียไม่เห็นรึไง บ้าจริงพูดไม่ทันขาดคำฉับพลันสายตาก็เหลือบไปเห็นใบหน้าคุ้นเคยที่ฝันอยู่ทุกคืน

                รถเสียหรือครับชายหนุ่มถามทั้งๆที่รู้

                    ค่ะ หญิงสาวก้มหน้าก้มตาตอบอย่างเสียมิได้

                    ขึ้นรถสิ

                อะไรนะคะ

                เดี๋ยวผมไปส่งครับ เอ่อพอดีผมอยากจะไปหาจุ๋มอยู่พอดีนะ ชายหนุ่มกล่าวโดยหารู้ไม่ว่าใจของหญิงสาวแทบสลาย

                    ไม่เป็นไรค่ะดิฉันโทรให้เป้มารับแล้ว

                หรือครับ งั้นผมคงไม่รบกวนแล้ว ว่าแล้วชายหนุ่มก็ขับรถไปอย่างไม่ไยดี

    หญิงสาวได้แต่มองตามรถสีดำที่แล่นออกไปด้วยน้ำตาที่ปริ่มๆ เสียงสะอื้นดังระรัวในอก   ฉันคงต้องตัดใจเสียแล้วกระมัง หญิงสาวคิดในใจ

     

                    วันเวลาผันผ่าน  ในที่สุดวันแห่งการรอคอยของหญิงชายผู้มีความรักอยู่ในหัวใจก็วนเวียนมาถึง  ใช่แล้วล่ะวันกามเทพทำงานหนักที่สุดวันวาเลนไทม์    วันตัดสินของฉันใช่แล้วล่ะวันนี้ฉันตัดสินใจจะบอกความจริงกับเขาคนนั้น    ไม่ว่าผลมันจะออกมายังไงฉันก็พร้อมจะรับทุกสิ่งทุกอย่างมันจะได้จบลงเสียที

                การ์ดในมือสั่นตามแรงส่งของเจ้าของฉันค่อยๆแง้มประตูออกอย่างช้าๆ  สูดลมหายใจเต็มปอดเอาล่ะเป็นไงเป็นกันวันนี้                       ใบหน้าแน่วแน่ค่อยๆแผ่วลงเมื่อภาพตรงหน้า    ชายหนุ่มที่เธอมอบใจให้กำลังหัวเราะต่อกระซิกกับคนที่เป็นเพื่อนรักของเธอ  ช่อดอกไม้ที่อยู่ในมือบ่งบอกได้เป็นอย่างดีถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองคน 

                อา..สิ้นสุดกันที..ฮือๆ ความรักของเราช่างจบลงอย่างง่ายดายทั้งๆที่มันยังไม่ได้เริ่มต้นเลยด้วยซ้ำร่างน้อยๆพาหัวใจที่บอบช้ำก้าวเท้าไปยังรถแล้วสตาร์ทออกไปอย่างรวดเร็ว...

                ลาก่อน...ความรักของฉัน  

     

    กระจกบานที่สอง(ของชายหนุ่ม)

     

                    เสียงนกเจื้อยแจ้วดังจนปลุกความสนใจของเขาให้ตื่นขึ้นและฉับพลันที่สายตาพบกับร่างของใครคนหนึ่งที่อยู่บ้านหลังตรงข้ามทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะออกมายืนยืดเส้นยืดสายอยู่หน้าบ้าน

                สวัสดีครับ เอ วันนี้ไม่ออกไปไหนหรือครับ เอ่ยไปแล้วก็ให้หัวใจหวั่นไหวยิ่งนักเธอจะรู้รึป่าวนะว่าเขาจงใจออกมาเพื่อพบเธอ

                คงจะไปตอนบ่ายนะคะนัดจุ๋มเอาไว้ ริมฝีปากงามตอบกลับมาโดยไม่คิดจะหันมามองผมด้วยซ้ำ   หรือครับงั้นผมฝากความคิดถึงถึงจุ๋มด้วยนะครับพักนี้ไม่ค่อยได้คุยกันเลย ผมได้แต่พยายามชวนเธอคุยต่อโดยหวังเพียงว่าเธอคงไม่รำคาญผมไปเสียก่อน

                    ค่ะ แค่สั้นๆแล้วเธอก็สาวเท้าจากไป  เธอคงเกลียดผมจริงๆตั้งแต่เธอย้ายมาอยู่ที่บ้านหลังนี้เธอแทบจะไม่มองหน้าผมเลย   ชายหนุ่มได้แต่เดินอย่างเหงาหงอยกลับเข้าบ้าน...

                    ท่ามกลางการจราจรที่คับคั่งบนท้องถนนแถมอากาศก็ร้อนจนแทนทนไม่ไหว  ขณะที่ผมขับรถเพื่อไปพบเพื่อน สายตาพลันสะดุดกลับรถคันหนึ่งที่คุ้นเคย    ครั้นเมื่อเห็นผู้ที่ยืนอยู่ข้างๆ ผมไม่ลังเลเลยที่จะหยุดรถ เธอเป็นอะไรมากรึปล่าวนะ  แต่เธอไม่สนใจมองผมเลยบีบแตรซักพักเธอก็หันมา

                    รู้สึกเธอจะพูดอะไรเบาๆผมได้ยินไม่ชัดนักแต่ได้เอ่ยปากถามออกไป

                รถเสียหรือครับ

                    ค่ะ เธอกลับก้มหน้าราวกับไม่อยากเห็นหน้าผม

                    ขึ้นรถสิ ผมพยายามข่มใจ ไม่อยากเห็นเธอต้องทนในอากาศที่ร้อนเช่นนี้

                อะไรนะคะ

                เดี๋ยวผมไปส่งครับ เอ่อพอดีผมอยากจะไปหาจุ๋มอยู่พอดีนะ ชายหนุ่มพยายามหาข้ออ้างด้วยกลัวว่าเธอจะไม่ไว้ใจ

                    ไม่เป็นไรค่ะดิฉันโทรให้เป้มารับแล้ว ชายหนุ่มระลึกถึงใบหน้าหนุ่มน้อยหน้ามนคนนั้นได้เป็นอย่างดี เขาคนนั้นที่เธอไปเที่ยวด้วยบ่อยๆ แถมยังพามาที่บ้านด้วย ใช่สิ  ผู้ชายคนนั้นคงเป็นเพื่อนสนิทของเธอไม่เหมือนผม

                หรือครับ งั้นผมคงไม่รบกวนแล้ว ความน้อยใจแล่นขึ้นมาเป็นริ้วๆ ผมพยายามหักใจและขับรถออกไปอย่างช้าๆ  เธอคงไม่รู้หรอกว่าผมขับรถออกไปจอดยังซอยใกล้ๆและคอยอยู่จนเพื่อนสนิทของเธอมารับด้วยความเป็นห่วง    วันนั้นผมได้แต่มองรถของเขาที่พาหัวใจของผมไกลออกไปอย่างรวดเร็ว

     

     

                    วันเวลาผันผ่าน  ในที่สุดวันที่ผมรอคอยก็มาถึงวันนี้เป็นวันวาเลนไทม์ผมตัดสินใจแล้วไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นผมจะบอกความใจกับเธอให้ได้  ผมขับรถออกไปตั้งแต่เช้าเพื่อไปเลือกซื้อช่อดอกไม้ให้กับเธอ  แต่ผมคงไม่มีความกล้าพอที่จะบอกรักเธอตรงๆ   ดังนั้นผมจึงวานให้  จุ๋ม เพื่อนรักของเธอช่วยนำดอกไม้ไปให้เธอ

                                    ฝากด้วยนะจุ๋ม  พี่ไม่รู้จะพึ่งใครแล้วจริงๆ

                            ได้ค่ะ  พี่ต้น  เดี๋ยวจุ๋มจัดการเอง หญิงสาวกล่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

    แต่แล้วทั้งสองก็ต้องตกใจเมื่อยินเสียงรถออกตัวไปอย่างรวดเร็ว    ทั้งคู่ได้แต่มองตามรถของหญิงสาวบ้านตรงข้ามด้วยความรู้สึกแตกต่างกันไป คนหนึ่งงุนงงสงสัยหากแต่อีกคนกลับหัวใจสลาย  เธฮคงออกไปหาผู้ชายคนนั้นสินะ.......

    ติดตามบทสรุปของความรักของเขาทั้งสองในตอนต่อไปนะคะ...

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น