ตอนที่2
#เครื่องกลชนโยธา
ตกเย็น
แน่นอนว่าไทเกอร์เองไม่ลืมที่จะขับรถตรงไปยังบริเวณหลังมอซึ่งเป็นถนนเส้นสองเลนที่ทั้งสองข้างทางเต็มไปด้วยทุ่งหญ้า เขายืนอยู่กับเพื่อนร่วมสิบซึ่งแน่นอนว่ามีทอยอยู่ด้วย ก็ถ้าย้อนไปเมื่อตอนกลางวันหนึ่งคำที่ดังติดหูก็คือประโยคที่เสือเป็นคนพูดท้าขึ้นมาว่าเย็นนี้ให้ออกมาหลังมอ พื้นที่บริเวณนี้ถือเป็นจุดที่เด็กภายในเรียกกันว่าลานวิศวะ ประวัติมันไม่ได้ซับซ้อนอะไรแต่ก็แค่พวกเด็กวิศวะชอบยกพวกมาตีกันตรงจุดนี้ก็เท่านั้น
“ไอ้พวกแม่งจะมาตอนไหนวะ” ไทเกอร์พูดขึ้น
“เออนั่นดิ กูสูบบุหรี่รอจนจะหมดซองอยู่แล้ว” ทอยพูดสมทบพร้อมกับการถุยน้ำลายที่เต็มไปด้วยรสบุหรี่ลงบนถนน ไทเกอร์เอนแผ่นหลังพิงกับกระโปรงรถยนต์คันสีดำเงาของตัวเองพร้อมกับสายตาที่มองเลยไปยังถนนเส้นตรงหน้าที่บัดนี้ยังคงว่างเปล่าไร้เงาของรถจะขับผ่านเข้ามา
“หรือว่าแม่งป็อดไม่กล้ามา” หนึ่งเสียงจากเพื่อนในกลุ่ม
“ก็ไม่แน่” ไทเกอร์พูดตามอย่างเห็นด้วยทั้งที่ในใจค่อนข้างขัดแย้งเพราะตามปกติแล้วอย่างไอ้เสือน่ะหรอจะมาทำตัวหนีหัวซุกหัวซุนแบบนี้ มันเป็นไปไม่ได้หรอก เพราะอย่างงั้น....
..........................
ซึ่งเมื่อตัดภาพมายังอีกหนึ่งคน ภาพที่ปรากฏอยู่ในขณะนี้ก็คือร่างสูงของอดีตเดือนคณะที่กำลังเคลื่อนตัวว่ายน้ำอยู่กลางสระของมหาลัย แขนยาวกำลังขยับว่ายด้วยความเร็วที่เพิ่มมากขึ้น เสียงจากโค๊ทประจำตัวที่ดังไล่อยู่ริมขอบสระยิ่งเร่งให้เสือต้องเพิ่มทั้งแรงและความเร็วในการขยับแขน
..หมับ..
“ขอเร็วกว่านี้” จนเมื่อมือหนาแตะขอบสระ เสียงจากโค๊ทที่ดังตามมาก็ทำให้ร่างสูงต้องหลุดพ่นลมหายใจ มือข้างขวาดึงรั้งแว่นตากันน้ำขึ้นคาดผมเอาไว้ ส่วนมือข้างซ้ายที่ว่างก็ยกปาดหยาดน้ำออกจากปลายจมูกของตัวเอง ซึ่งในระหว่างนี้อกกว้างก็กระเพื่อมหอบด้วยความเหนื่อยไปด้วย
“อีกไม่กี่สัปดาห์ก็จะแข่งแล้วนะเสือ ถ้ารอบนี้ไม่ติดคัดตัวทีมชาติ โค๊ทก็คงผิดหวังในตัวเธอมากนะ”
“ครับผมรู้” เสียงราบเรียบดังออกมา
“โค๊ทไม่รู้ว่าเธอมีปัญหาอะไรส่วนตัว แต่สำหรับนักกีฬา...มันไม่สมควรที่จะต้องมีแผลมาทุกวันแบบนี้”
“..........”
“ปอดเธอต้องทำงานหนัก อะไรที่มันจะทำให้ร่างกายต้องล้าลง...ฉันขอสั่งให้เธอเลี่ยง”
“........” จุดนี้เขาก็คงจะได้แค่เงียบ
“งั้นวันนี้ก็พอแค่นี้แหละมันดึกมากแล้ว แต่ถ้าว่างก็หมั่นฝึกฝนไว้”
“ครับผม ขอบคุณครับโค๊ท” เสือเอ่ยขอบคุณร่างของบุคคลที่บัดนี้เดินออกไปแล้ว พอมาอยู่คนเดียวคิ้วเข้มก็ขมวดแน่นในทันที เสียงจิ๊ปากไม่พอใจหลุดดังเช่นเดียวกับภายในหัวที่เริ่มนึกไปถึงใครบางคนที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาถึงสามปี
“ก็จะไม่ให้มีเรื่องได้ยังไงวะ ไอ้ไทเกอร์แม่งก็ น่าล่อจะตายห่า” น่าล่อในที่นี้ คือน่าล่อให้จมตีนนะครับ
แถมพอ ณ ตรงจุดนี้....
“สองทุ่ม” เสียงเข้มพึมพำขึ้นหลังจากก้มมองนาฬิกาข้อมือของตัวเอง เสือจำได้ว่าเมื่อกลางวันเขาพึ่งเอ่ยคำท้าทายให้ไทเกอร์ออกมาเจอที่ถนนเส้นหลังมอ แต่มันเกิดเหตุกะทันหันที่โค๊ทเรียกตัวไปซ้อมเสียก่อน เลยทำให้เขาไม่ได้ไปตามที่ตัวเองเป็นคนเอ่ยปากท้าไว้ ก็ไม่รู้ว่าป่านนี้ไอ้เครื่องแกงมันจะหัวเราะเยาะเขาไปหรือยัง ดังนั้นในตอนนี้สิ่งที่ต้องรีบทำก็คงจะหนีไม่พ้นการเปลี่ยนเสื้อผ้ากลับไปอยู่ในชุดนักศึกษา เพื่อที่จะได้รีบขับรถออกไปหาไอ้ตัวปากหมาที่ป่านนี้คงกำลังรอเขาอยู่
แต่จะให้ไปคนเดียวหรอ ก็คงไม่
เพราะงั้นถึงได้กดโทรเข้าไปยังแชทกลุ่ม พร้อมกับ
“เออกูซ้อมเสร็จแล้ว ออกมาได้เลย”
.......................
เสียงหัวเราะเฮฮาดังออกมาจากวัยรุ่นกลุ่มใหญ่ที่กำลังวิ่งเล่นไล่กันเหมือนเด็ก มีเพียงแสงไฟจากรถยนต์ที่เป็นความสว่างให้ ทั้งนี้แล้วบางส่วนยังนั่งอยู่ริมถนนพลางพูดคุยกันเหมือนกำลังนั่งเล่นมันเสียเลย ก็ตอนแรกกะจะออกมาตีกับไอ้พวกเหี้ยนั่น แต่พวกมันไม่มาซักที สุดท้ายพวกเขาเลยเปลี่ยนใจเป็นการนั่งคุยเล่นกันต่อไปซะเลย เพราะเอาเข้าจริงในเวลาที่ไม่มีอะไรทำไทเกอร์ก็ชอบชวนพวกมันออกมาขับรถเล่นกันอยู่แล้ว
“ปาให้ไกลกว่ากูดิ”
“โหไอ้เหี้ย กูปาไกลกว่าแล้วน่ะ!” เสียงไทเกอร์ที่โวยวายกำลังสร้างรอยยิ้มขบขันให้แก่เพื่อน
“ชอบเสียงดังน่ะมึงเนี่ย” ทอยพูดขึ้นพร้อมหันมองแล้วใช้มือสองข้างยืดดึงแก้มของไทเกอร์ สุดท้ายทั้งที่ก็รู้ว่าต้องโดยมันทุบพร้อมด่าแต่เขาก็ยังชอบหาเรื่องกวนตีนมันไปเพื่อสีสันของชีวิต แล้วก็มักจบด้วยการที่ไทเกอร์หัวร้อนจนต้องลุกขึ้นวิ่งไล่เตะทอยแบบนี้
แต่คนสองคนที่กำลังวิ่งไล่กันอยู่
ก็ต้องชะงักนิ่งกับแสงไฟของรถยนต์หลายคันที่กำลังวิ่งตรงเข้ามา
ไทเกอร์หันมอง ซึ่งก็เป็นเวลาเดียวกับที่เพื่อนในกลุ่มต่างรีบเดินมายืนอยู่กับเขา
“มันมาแล้ว” เสียงจากทอยดังขึ้น และเพียงไม่นานเท่าไหร่นักรถยนต์ของไอ้พวกนั้นก็จอดลงก่อนที่ร่างของพวกมันจะเปิดประตูลงมาจากรถ จำนวนของคนที่สูสีกำลังทำให้ไทเกอร์รู้สึกสนุกไม่น้อย เขากระตุกยิ้มก่อนจะเดินตรงเข้าไปหาไอ้คนต้นเรื่อง ที่ถ้าเอาเข้าจริง ประกายไฟระหว่างพวกเขาทั้งสองกลุ่มก็มาจากแค่เสือและไทเกอร์นี่แหละ
ก็ไม่ชอบขี้หน้าตั้งแต่วันแรกที่เจอ
แถมตอนที่ลงประกวดเดือนมหาลัยด้วยกัน ก็ต่างคนต่างด่ากันไปมา
จนมันเลยมาถึงตอนนี้
“นึกว่ากลัวจนไม่กล้ามา” ไทเกอร์เย้ยขึ้นก่อน
“เครื่องแกงไม่มีอะไรน่ากลัวขนาดนั้น” แต่ความยียวนกวนประสาทของเสือมันยิ่งทำให้เขารู้สึกไม่พอใจ ไทเกอร์ใช้สายตาจ้องใครอีกคน ก่อนที่มือจะจับหมับเข้าที่คอเสื้ออีกร่าง และ
..ผลั้วะ!!!...
หลังจากนั้นก็มีเพียงความวุ่นวายจากทั้งสองฝ่ายที่เกิดขึ้น หมัดที่ได้รับกลับมาทำเอาไทเกอร์หน้าหันเพราะความแรงของมัน ถ้าไม่ได้ไอ้ทอยมาช่วยยันไอ้เสือออกไปให้เขาเองก็ไม่ค่อยอยากคิดเท่าไหร่ว่าสภาพตัวเองจะเละขนาดไหน
ตีนแลกตีน
หมัดแลกหมัด
แล้วจบลงที่....
นั่งหอบหันเป็นหมาทั้งสองฝ่ายอยู่บนถนนแบบนี้ ไทเกอร์หายใจถี่ทั้งที่มือก็กำลังยกเช็ดเลือดออกจากมุมปากของตัวเอง พวกเขากับพวกมันตีกันบ่อยแล้วมันก็แทบจะทุกครั้งที่การต่อยตีจะยุติลงเมื่อต่างคนก็ต่างล้มลงเพราะทั้งเจ็บและหมดแรง แต่เหมือนว่าครั้งนี้ฝั่งเขาจะได้เปรียบเพราะเมื่อลองนับจำนวนคนดูแล้ว ของเขาเกินกว่าพวกมันมาถึงเกือบห้าคน
ดังนั้น
ไทเกอร์ถึงได้ลุกขึ้นพร้อมเดินเข้าไปหาร่างของไอ้เสือที่นั่งอยู่บนพื้น
..ผลั้ก!...
“ไอ้เหี้ยเอ้ย!” เมื่อถูกถีบเข้ากลางอก เสียงคำรามจากอีกร่างดังขึ้นแต่พอเสือจะซัดเขากลับไอ้พวกเพื่อนฝั่งของไทเกอร์ก็รีบวิ่งเข้ามากระชากแขนไว้ ในครั้งนี้พวกเขาเหนือกว่าและไทเกอร์เองก็กระตุกยิ้มพร้อมเอ่ยทิ้งประโยคนี้เอาไว้
“เหมือนตีกับเด็กอนุบาลเลยว่ะ รอบหน้าก็....อนุญาตให้เรียกเพื่อนมาเพิ่มได้อีกนะ” พอเอ่ยจบประโยคร่างของไทเกอร์ก็เดินกลับขึ้นรถของตัวเองก่อนที่จะขับออกไป เหลือทิ้งเอาไว้ก็แค่เสือที่กำลังใช้มือเช็ดคาบเลือดมุมปากพร้อมรอยยิ้มเล็กๆ
“โดนเขากระทืบขนาดนี้ยังจะยิ้มอีกไอ่สัส” เสียงด่าจากเพื่อนดังขึ้นมา
“วันนี้น่ะวันของมัน แต่วันอื่นมึงก็รอดูแล้วกัน” คำพูดนี้ของไทเกอร์ทำให้คนฟังเอือมกันทั้งหมู่คณะ เพราะเอาเข้าจริงไอ้สองคนนี้แม่งเหมือนเด็กอนุบาลที่ด่ากันไปมาก่อนจะมาลงท้ายด้วยการตีกัน แล้วเดี๋ยวมันก็กลับไปแกล้งกันอีก วนไปวนมา ถ้านี่จะคิดในอีกแง่มันก็ดูคล้ายคู่ผัวเมียตีกัน
แต่ก็คงจะตีกันแรงไปหน่อย
เพราะออกจากนี่ไป ถ้าไม่ไปร้านขายยา ก็คงจะต้องไปโรงพยาบาลเลย...
..............................
“เชี่ยแม่งโคตรได้เลยว่ะ สนุกฉิบ...อ๊า!ไอ้ทอย กูเจ็บ”
“โอ้โหนี่ก็ ครางยังกับโดยxเลยชิบหาย” ทอยบ่นขึ้นมาในขณะที่มือก็นั่งใช้สำลีจิ้มทำแผลให้ไทเกอร์ไปด้วย คนนอกก็อาจจะมองว่าที่พวกเขายกพวกตีกันนี่ถือเป็นเรื่องรุนแรง แต่สำหรับกลุ่มอื่นอะไม่รู้ เพราะสำหรับพวกเขาเอาเข้าจริงมันเหมือนการระบายอารมณ์โมโหในใจเท่านั้น เนี่ยพอเดี๋ยวตีกันเสร็จก็กลับมานั่งต่อปากต่อคำใส่กันแล้วจบลงด้วยการยกพวกตีกันอีก
“เดี๋ยวพรุ่งนี้มันก็กวนตีนกูอีก” คราวนี้ไทเกอร์บ่น
“มึงก็พูดเหมือนมึงไม่ได้ไปกวนตีนเขา”
“กูเปล่าเลยนะเว้ย!”
“อ๋อ แต่ที่ชอบไปแหกปากเวลาขับรถผ่านบ้านเขากลางดึกนี่ คือไม่เลยสินะมึง” คำพูดนี้ของทอยทำให้ไทเกอร์ต้องชักสีหน้า ก็เออแต่ก็ยอมรับก็ได้ว่าบางทีเขาก็เป็นฝ่ายเข้าไปกวนตีนมันก่อน แต่ว่า ถึงอย่างนั้นส่วนใหญ่ไอ้เสือมันชอบมาล้อเขาว่าเครื่องแกงก่อนนี่หว่า
“เสร็จแล้ว ไปนอนไป” ทอยเอ่ยไล่ เมื่อจัดการทำแผลให้มันเสร็จ
“คืนนี้กูนอนห้องมึงนะ นะๆ”
“เออกูรู้แล้ว เสร่อหน้าอยู่ตั้งนานขนาดนี้กูคงไม่รู้มั้ง” พอโดนว่าไทเกอร์ถึงได้ตบหัวมันไปที ก่อนจะเดินย้อนออกมานอนลงบนเตียงกว้างส่วนมือก็กยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมากดเล่น
เขาเข้าไปในแอพเฟสบุ๊ค
แล้วกด เข้าไปส่องที่หน้าไทม์ไลน์ของมัน
...อ๋อตอนนั้นประกวดเดือนด้วยกัน แล้วพวกพี่เขาให้แอดกันไว้ไง...
//งานหมาหมู่//
“.....” แน่นอนว่าไทเกอร์คิ้วกระตุกกับแคปชั่นล่าสุดของมัน
//ขี้แพ้เองแล้วทำปากดี// คราวนี้เขากดโพสบ้าง แล้วพอผ่านไปซักพัก ก็กลับไปส่องเฟสมันอีก...
//เบื่อเถียงกับพวกไม่รู้จักโต ง่วง//
//ง่วงก็ไปนอนสิไอ่ควาย//
มันเป็นการโพสด่ากันไปมา ท่ามกลางยอดไลค์ของคนเป็นพัน...
//เออกูก็กำลังจะนอนไง ฝันดีเครื่องแกง (พร้อมอิโมติค่อนยิ้มตอแหล) :hao3: //
ไทเกอร์ชักสีหน้าหนักแต่ก็เลิกที่จะโพสด่าโต้ตอบกับมันแล้ว เขาเลื่อนหน้าไทม์ไลน์ไปเรื่อยก่อนที่จะมาหยุดชะงักกับแคปชั่นของไอ้ทอยล่าสุดที่มันเพิ่งจะโพส
//กูจำเป็นต้องรู้เรื่องของพวกมึงมั้ยเนี่ย-_-//
แถมคอมเม้นใต้โพส ยังมีพวกเพื่อนในกลุ่มของเขาที่ตามมาเม้นด้วยประโยคแนว
..เออกู+ด้วย...
...+กูไปด้วย...
...เหมือนผัวเมียงอนกันเรื่องแตกนอกแตกใน..
เห็นแบบนี้ไทเกอร์เลยคอมเม้นต่อไปว่า
...สาระ เลว...
# # # # # #
ก็จะมีความหลายอารมณ์อยู่55555
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
5555
*สาขาเครื่องกล