ห้องเก็บตัวละครของผมครับ

ลำดับตอนที่ #84 : แอลเนลลีส มูสเสิร์ต

https://nikke-goddess-of-victory-international.fandom.com/wiki/Brid

"นายมีชะตากรรมที่แบกรับประเทศไว้บนบ่าเมื่อกับฉัน เพราะงั้นเราน่าจะเป็นเพื่อนกันได้"

ชื่อ:เเอลเนลลีส มูสเสิร์ต

เพศ:หญิง

อายุ:21

สัญชาติ:ดัตช์

อาชีพ:ผู้นำสูงสุดแห่งBenelux Federation(สหพันธ์เบเนลักซ์)

ประวัติ:ตัวของเธอนั้นะเป็นลูกหลานของผู้นำฟาสซิสต์เนเธอร์แลนด์สมัยสงครามโลกครั้งที่2 

ในช่วงเวลาปัจจุบัน ตัวของเธอนั้นเป็นลูกสาวของผู้นำประเทศ สหพันธ์เบเนลักซ์ ตัวของพ่อเธอ นั้นทหารที่มีความสามารถสูงเป็นอย่างมาก แถมยังมีชื่อเสียงและเกียรติยศมากมาย แต่วันรุ่งโรจน์ก็ต้องมีร่วงหล่น พ่อของเธอได้ถูกลอบสังหารโดย กลุ่มประชาธิปไตยหัวรุนแรง ซึ่งเธอก็ได้จับพวกนั้นและประหารพวกมันทันทีในฐานะของผู้ก่อการร้าย ตัวของเธอได้ขึ้นสืบทอดอำนาจต่อจากพ่อของเธอทันทีโดยมีแรงสนับสนุนจากเหล่าทหาร และเหล่าราชวงศ์ทั้ง3 เแ็นแรงสนับสนุนในการขึ้นปกครองประเทศ แต่เธอต้องปกครองด้วยความสบายๆในยุคปัจจุบัน เพราะรากฐานที่พ่อของเธอวางเอาไว้ และด้วย ประเทศกลุ่มแผ่นดินต่ำ ก็เป็นประเทศสงบสุขอยู่แล้ว และยังมีเศรษฐกิจที่ดีมากด้วยจาก การค้าขายกับอเมริกาและประเทศยุโรปรอบๆข้าง ทำให้เธอปกครองประเทศด้วยความปกติสุขโดยไม่มีปัญหาอะไรมากวนใจ

ต่อมาเธอได้ยินว่าที่ยาดิวา มีการเปลี่ยนผู้นำใหม่โดยผู้นำคนใหม่ มีอายุใกล้เคียงกับเธอ เธอเลยเดินทางไปทำการทูตด้วยตัวเอง เพื่อเสริมพันไมตรีกับยาดิวา และเพื่อพูดคุยกับผู้นำประเทศคนใหม่ ว่าทัศนคติแบบไหน และจะรองเป็นเพื่อนกันดู

อุปนิสัย:ถึงเธอจะดูเป็นคนสบายๆ แต่เธอก็เป็นคนจริงจังในหน้าที่การงานเป็นอย่างมาก ตัวของเธอมีทักษะมากมายมี่ได้รับการฝึกสอนมาตั้งแต่เด็ก ทั้งเรื่องการบริหาร หรือการบัญชาการทางทหารที่สูงมาก 

และตัวของเธอขอบดื่มกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ และเธอยังเป็นพวกแฟนคลับที่ครั้งใคร่พวก หัวรถจักรรถไฟเป็นอย่างมาก ถึงกับมีโมเดลรถไฟสะสมมากมายหรือแม้แต่ของจริงเธอก็เก็บสะสม หรือถึงขั้นมีที่ทำงานและที่อยู่อาศัยอยู่บนรถไฟเลย

เพิ่มเติม:

ธงของสหพันธ์เบเนลักซ์

สหพันธ์เบเนลักซ์ถือกำเนิดขึ้นมาจากสหภาพเบเนลักซ์ ที่มาจากการร่วมตัวของสามประเทศ เนเธอร์แลนด์ เบลเยี่ยมและ ลักเซมเบิร์ก ในช่วงปี2001ที่เกิดสงครามต่อต้านก่อการร้ายทั่วโลก โดยมีผู้นำคือสหรัฐอเมริกา และในยุโรปก็มีการถูกโจมตีโดยกลุ่มผู้ก่อการร้ายเกิดขึ้นทั่วทุกเมืองใหญ่ต่างๆของยุโรป ซึ่งในบริเวณภูมิภาคประเทศแผ่นดินต่ำ ก็โดนโจมตีเช่นกัน ทำให้สหภาพเบเนลักซ์ต้องระดมทหารของประเทศสมาชิกสหภาพเบเนลักซ์ เข้าปราบปรามผู้ก่อการร้ายทั่วภูมิภาคประเทศแผ่นดินต่ำ 

และเกิดเหตุการณ์หนึ่งที่ำให้ทั้งประเทศต้องสั่นสะเทือน เพราะอาคารรัฐสภาในกรุงบรัสเซลส์ที่เบลเยียม โดนลอบวางระเบิด ทำให้ผู้นำประเทศและเหล่านายพลคนสำคัญของทั้ง3ประเทศตายกันหมด ทำให้ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาแห่งความโกลาหลจาก ภาวะสูญญากาศจากการไรผู้นำ และในช่วงนั้น นายทหารยศพลเอกคนสุดท้ายที่เหลือรอดจากการระเบิด ได้ขึ้นมาเป็นผู้นำสหภาพเบเนลักซ์ทันที่ ด้วยแรงสนับสนุน จากกองทัพทั้ง3ประเทศ และด้วยการปราศรัยกับเหล่าผู้คนในการต่อสู้กับเหล่าผู้ก่อการร้าย ทำให้ประชาชนทั้ง3ประเทศ จึงสนับสนุนกองทัพในการต่อสู้อย่างหนัก และด้วยแรงสนับสนุนจากประชาชนและกองทัพ ทำให้เขาขึ้นเป็นผู้นำสหภาพเบเนลักซ์อย่างเต็มลูกแบบ ตัวของเขาได้นำกองทัพเข้าสนับสนุนอเมริกาในการต่อสู้กับเหล่าผู้ก่อการร้ายทั่วโลก มากมาย ซึ่งทางอเมริกาก็ไม่ได้อะไรกับการที่อีกฝั่งมีทหารปกครองประเทศ แถมยังสนับสนุน เงินทุนและอาวุธให้อีกด้วยเพราะต่อสู้กับเหล่าผู้ก่อการร้าย ตัวของนายพลรู้ว่า เมืองอัมสเตอร์ดัม บริเวณท่าเรือมันชอบมีพวกแก๊งค้ายาและพวกผู้ก่อการร้ายชอบมาแวะพักของตลอด เขาจึงเข้าปราบปรามอย่างหนัก จนในปี2005ตัวของเขานั้นมีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก ในการเป็นผู้นำในการปราบปรามผู้ก่อการร้าย และด้วยแรงสนับสนุนจากเหล่าราชวงศ์ของทั้ง3ประเทศที่เขาให้ความเคารพและนับถือมาตลอด ที่สนับสนุนเขาด้วยลาภยศและบรรดาศักดิ์ นั้นจึงทำให้เขามีชื่อเสียงเพิ่มเข้าไปอีก ตัวของเขาได้ประกาศในการร่วมประเทศทั้ง3ประเทศ ถึงจะมีเสียง ต่อต้านจากฝ่ายตรงข้ามว่าประเทศจะถูกปกครองโดยเหล่าทหาร แต่นั้นเป็นแค่เสียงกลุ่มน้อย เพราะเสียงข้างมากมาจากกลุ่มประชาชนที่นับถือและเหล่าทหารทั้ง3ประเทศ และแรงสนับสนุนสำคัญก็คือเหล่า ราชวงศ์ทั้ง3ประเทศก็สนับสนุน นั้นทำให้เขาสามารถก่อตั้งประเทศขึ้นมาใหม่ได้ โดยเขาได้เปลี่ยนชื่อ จากสหภาพเบเนลักซ์ เป็นสหพันธ์เบเนลักซ์แทน ซึ่งมีผู้ปกครองเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด ตัวของจอมพลได้ แต่งตั้งลูกสาวของเขา แอลเนลลีสเป็นผู้สืบทอดคนต่อไป ถึงจะมีเสียงคัดค้านจากกลุ่มผู้คนบ้างส่วน แต่ฝ่ายทหารก็สนับสนุนให้เธอเป็นผู้สืบทอดคนต่อไป ร่วมถึงเหล่าราชวงศ์ทั้ง3ด้วย