คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ความขัดแย้งในใจ
บทที่ 5 ความขัดแย้งในใจ
มัลฟอยเล่าเรื่องทุกอย่างให้ทุกคนฟัง ตั้งแต่ที่จอมมารเข้ามาพบเขาและแม่ภายในคฤหาสน์ ความทุกข์ทรมานใจของเขาที่ต้องเลือกจกระหว่างความปลอดภัยของครอบครัวและสิ่งที่ยากจะฝืนในทำ แผนการต่างๆ ของเขา ตลอดจนถึงการตายของศาสตราจารย์ดัมเบิ้ลดอร์ ทุกคนที่ได้ฟังต่างนิ่งเงียบ อาจเป็นเพราะว่าการกล่าวถึงการตายของดัมเบิ้ลดอร์ทำให้พวกเขาสะเทือนใจหรือว่าความเห็นใจที่มีต่อมัลฟอยก็ไม่สามารถมีใครคาดเดาได้ แต่ภายในใจของเด็กสาว “เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์” เธอรู้สึกได้ถึงสิ่งที่กดดันอยู่ภายในใจของมัลฟอย มันถูกส่งออกมาจากทางสีหน้าและน้ำเสียงของเขา สีหน้าของเขาเหมือนกับคนที่ทุกข์ทรมานใจมากมาย น้ำเสียงสั่นไหวราวกับสะกดกลั้นความหวาดกลัวเอาไว้ในใจ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเธอถึงรู้สึกเห็นใจเขาเหลือเกิน รู้สึกสงสารขึ้นมาจับใจเมื่อคิดเพียงว่าเขาต้องเจอกับอะไรมาบ้าง ดวงตาสีซีดของเขาช่างหม่นเศร้าอะไรเช่นนี้
‘บ้าจริง ! เธอไม่ควรจะไปสงสารหรือเห็นใจเขาเลย เขาทำไม่ดีต่างๆ นานากับพวกเธอ มันสมควรแล้วที่เขาต้องมาเจอแบบนี้ เธอควรจะสมน้ำหน้าเขามากกว่า’ เสียงหนึ่งดังขึ้นในใจของเธอ แล้วอีกเสียงหนึ่งก็เริ่มคัดค้าน
‘แต่เขาก็ไม่ใช่คนที่เลวร้ายอะไรนะ สถานการณ์บังคับเขา แล้วที่เขาแย่ก็เพราะเขาถูกเลี้ยงมาผิดๆ จะไปโทษเขาคนเดียวก็ไม่ถูก’ สองเสียงเริ่มเกิดการขัดแย้งกัน
‘โอ๊ย! แล้วทำไมฉันต้องมามัวคิดเรื่องเกี่ยวกับนายนั่นด้วยเนี่ย จะบ้าหรือไงยัยเฮอร์ไมโอนี่’ เธอคิดอย่างหงุดหงิด
“เฮอร์ไมโอนี่ๆๆ เธอเป็นไรไปน่ะ ฉันเรียกตั้งนาน แล้วยังทำหน้ายังกับจะกินใครเข้าไปงั้นแหละ” เสียงรอนดึงความคิดที่กระเจิดกระเจิงของเธอกลับเข้ามาอีกครั้ง เธอหันไปสายหน้ากับรอนเบาๆ แต่ดวงตายังคงจับจ้องอยู่ที่คนในความคิดของเธออยู่
“เอาล่ะ ฉันว่ามิสเตอร์มัลฟอยควรจะพักผ่อนได้แล้ว เธอช่วยพาเขาขึ้นไปนอนได้แล้วล่ะมอลลี่ แล้วก็เด็กๆ ด้วยทุกคนเลย ฉันมีเรื่องจะคุยต่อกับพวกภาคี” ศาสตราจารย์มักกอนากัลกล่าวสรุป
_______________________________ (^๐^) _________________________________
“ฉันไม่อยากเชื่อมันเท่าไหร่เลย มันต้องแต่งเรื่องเพื่อให้ตัวเองพ้นผิดอยู่แล้ว” รอนพูดเมื่อพวกเขาเข้ามาอยู่ในห้องนอนกันตามลำพัง
“แต่ฉันเชื่อว่าเขาไม่ได้โกหกนะพี่รอน ถึงเขาจะนิสัยแย่ แต่เขาก็ออกจะขี้กลัวเขาไม่กล้าทำเรื่องร้ายแรงขนาดนี้หรอกถ้าไม่มีเหตุจำเป็นจริงๆ” จินนี่เถียง
“ฉันก็คิดเหมือนจินนี่นะ แล้วก็เรื่องที่แฮร์รี่เล่าอีก อย่าลืมสิรอน บางทีสำหรับเขาออกจะน่าเห็นใจมากกว่า” เฟร็ดพูดเสริม
“อะไรกันทุกคน เจ้านั่นมันทำเลวร้ายกับพวกเรามากแค่ไหน มันเป็นตัวการที่ทำให้บัคบีคถูกฆ่า แล้วมันยังพยายามทำร้ายพวกเราตลาดมา นี่นายยังจะเข้าข้างมันอีกเหรอ” รอนตะโกนออกมาด้วยความโกรธ
“รอน ใจเย็นน่า ฉันว่านายน่ะอคติกับเขามากเกินไปแล้ว แต่ใครมาเจอเหตุการณ์นี้ก็ต้องน่าเห็นใจทั้งนั้น” เฟร็ดพยายามใช้เหตุผล (ทั้งที่ปกติตัวเฟร็ดเองก็ไม่ค่อยมี) แต่ดูเหมือนเหตุผลกับคนอย่างรอนคงไปด้วยกันไม่ได้ เพราะตอนนี้เขาหน้าแดงยิ่งไปเสียกว่าผมของเขาเสียอีก
“นี่ๆ ทุกคนว่าศาสตราจารย์มักกอนากัลจะทำยังไงต่อไป” เฮอร์ไมโอนี่รีบเปลี่ยนเรื่องเพราะกลัวว่าเหตุการณ์จะเลวร้ายลง
“ก็ไม่รู้เหมือนกันนะ ฉันว่าต้องสำคัญมาแน่ๆ เลยถึงไม่ให้เราฟังด้วย” จอร์จกล่าว
“นั่นน่ะสิ” เฮอร์ไมโอนี่พึมพำ แต่ทำไมเธอถึงนึงถึงแต่ตาเศร้าๆ ของมัลฟอยได้นะ เห็นแล้วมันทำให้เธอรู้สึกสงสารเขาจับใจ เธอคิดว่าดวงตาคู่นั้นต้องมีมนต์สะกดอะไรแน่ๆ ถึงได้ทำให้เธอนึกถึงมันอยู่เรื่อย ‘ไม่สิ ยัยเฮอร์ไมโอนี่ เธอจะมาคิดถึงอีตาบ้านิสัยแย่แบบนั้นทำไม บ้าจริงๆ เลยเธอนี่’ เธอรีบสลัดความคิดนั้นออกไป แล้วรีบกลับไปนอน โดยคิดในใจไปตลอดว่า ‘ฉันต้องเกลียดเขาๆๆๆ’
_______________________________ (^๐^) _________________________________
แสงแดดยามเช้าส่องเข้ามาต้องกับใบหน้าที่ขาวซีด ดวงตาสีซีดของเขาค่อยๆ ลืมขึ้นมาอย่างช้าๆ ‘เช้าแล้วหรือนี่ ไม่เลยฉันยังไม่อยากตื่น ไม่อยากลุกขึ้นมาพบกับความเป็นจริงที่แสนโหดร้าย ทำไมฟ้าต้องเล่นตลกกับฉันด้วย ทำไมต้องให้ทุกอย่างเป็นอย่างนี้’ เขาคิด จริงสินะ เขาเป็นคุณชายที่แสนจะมีชีวิตที่สะดวกสบาย หาความเพลิดเพลินไปวันๆ แต่หลังจากพ่อเขากลับไปหาฝ่ายมืดอีกครั้ง ทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไป พ่อเขาเริ่มเดินทางบ่อยขึ้น บางทีก็หงุดหงิดกับเขา และเมื่อพ่อเขาถูกจับไปคุกอัสคาบันเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตเขาก็ได้เกิดขึ้น เขาเกลียดจอมมาร เกลียดมาก จอมมารทำให้ชีวิตของเขาต้องเลวร้าย นั่นเป็นสิ่งที่อยู่ลึกๆ ในใจของเขา ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาก็ทำอะไรกับมันไม่ได้
มัลฟอยค่อยๆ ลุกขึ้นช้าๆ แล้วเข้าไปอาบน้ำ เขาทำทุกอย่างอย่างเชื่องช้า เขาไม่อยากลงไปเจอกับทุกคนที่นี่ ไม่อยากเห็นสายตาเวทนาที่มองมายังเขา โดยเฉพาะกับเธอ ยัยเลือดสีโคลน เขาไม่อยากให้เธอมาสงสาร เขารู้สึกเหมือนทนไม่ได้ที่เห็นแววตาของเธอมองมายังเขา เขาเกลียดสายตาแบบนั้นของเธอ ความสงสารและเวทนาจากเธอเขาไม่ต้องการ เอ๊ะ! แล้วนี่เขาอยากให้เธอมองเขาแบบไหนกัน ไม่ได้นะ อย่างี่เง่าสิเจ้าบ้าเดรโก เขาเกลียดเธอนี่ ยัยเลือดสีโคลนโสโครก ใช่สิเลือดของเธอมันโสโครกน่ารังเกียจ มัลฟอยพยายามต่อสู้กับความคิดของเขาเอง (คนอะไรแม้แต่ความคิดของตัวเองก็ไปทะเลาะด้วยได้) แต่เขาสู้กับตัวเองได้ไม่นานเพราะนางวิสลี่ย์เคาะประตูเรียกเขาให้ลงไปกินข้าว เขาจึงต้องจำใจลงไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“เดรโก นายเกลียดเธอ นายเกลียดพวกเลือดสีโคลน” เขาพึมพำเบาๆ กับตัวเอง
ความคิดเห็น