คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : จุดเริ่มของนิทานแห่งเอลาเซียร์(100%+แก้อักษรเล็กน้อยค่ะ)
ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมาไม่ขาด...ยังมีร่างเล็กของเด็กสาวยืนเด่นอยู่กลางถนนสายเล็กๆในหมู่บ้านแถบชนบท ร่างเล็กยืนนิ่งไม่ไหวติ่ง...เรือนผมสีนิลกาลยาวเปียกปอนพอๆกับเสื้อเนื้อบางสกปรกที่ชุ่มโชกไปด้วยหยาดฝน ใบหน้านวลที่ชาจนแทบด้านเพราะความเย็นเยียบของน้ำฝนที่กัดกินลงไปในเนื้อหนังแต่เจ้าตัวก็ไม่ได้แสดงอารมณ์ใดๆผ่านใบหน้านั้นแม้แต่น้อย ดวงตาเล็กๆนั่นหลุบต่ำลงเพราะเม็ดฝนที่แกะอยู่ตามใบหน้าไหลลงมาเข้าตาอย่างไม่ขาดสายแต่เด็กน้อยก็ยังคงยืน..อยู่ตรงนั้น....
มือบางที่แทบจะไร้ความรู้สึกเพราะความหนาวที่เริ่มแผ่ซ่านยังคงกำบางสิ่งบางอย่างเอาไว้ แต่ตอนนี้เธอแทบไม่รู้สึกถึงผิวที่ขรุขระของมันอย่างที่ควรจะเป็น ร่างเล็กเริ่มจะโอนเอนเพราะความอ่อนเพลียประกอบกับความหนาวที่เข้าจู่โจม นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนนั่นว่างเปล่ามีเพียงความอ้างว้างในม่านน้ำใสที่คลออยู่ในดวงตา
........ทำไม..........
.....ทำไมข้าต้องอยู่เพียงลำพัง......
ไร้คนสนใจ.....ไม่มีใครเหลียวแล
.....ชะตากรรมหรือไงกัน
............อยุติธรรมสิ้นดี.......
เด็กสาวมองกลุ่มคนที่เร่งฝีเท้าจากไปด้วยสายตาว่างเปล่าเหมือนเดิม แต่น้ำตาที่กักไว้นานก็ร่วงกรวยกราวลงมาไม่แพ้ห่าฝน ขาเรียวบางยันกายไว้ไม่แทบอยู่ เด็กสาวจึงทรุดตัวลงนั่งบนพื้นที่เจิ่งนองไปด้วยน้ำฝน เธอไม่ได้รู้สึกปวดใจเพราะสายตาเหล่านั้น แต่ภาพของแม่ที่ต้องการป้องกันลูกน้อยต่างหากที่ทำให้หัวใจเธอแทบสลาย
.........ทำไม.......
.......เธอถึงไม่มีใครคอยปกป้องบ้าง.......
น้ำตายังคงไหลรินเช่นเดียวกับหยาดน้ำก็ยังโปรยลงมา น่าแปลกที่ดวงตานั้นยังไร้ความรู้สึก น้ำตาที่ไหลคงมาจากส่วนลึกในใจแต่ภายนอกของเธอนั้นช่างเฉยชายิ่งนัก เธอที่ขาดทั้งพ่อทั้งแม่ ทำไมถึงยังไม่ชินกับภาพแบบนี้ซักที
เสียงในใจยังคงเรียกหาแต่ความเป็นจริงนั้นยังตอกย้ำเธอ
มือบางที่กำไว้นานคลายออก สร้อยเส้นบางคล้องด้วยจี้พลอยสีใสปรากฏชัดแก่สายตาของผู้จ้องมอง มันยังคงตอกย้ำความโดดเดียวของเธออยู่.....
ไม่เพียงตอกย้ำแต่ยังซ้ำเติมในสิ่งผู้คนต้องทำท่ารังเกียจเธอ......
ความผิดของใครกัน.....
ของเธอ......
ของบุพการี...ผู้เลี้ยงดูเธอมา....
....และทิ้งภาระแห่งความรังเกียจไว้ให้....
......ถ้าเป็นแบบนี้...ควรจะให้เธอเกิดมาทำไม....
หรือเท่านี่เธออาจโชคดีแล้วก็ได้......
เธอยังโชคดีที่เหลือชีวิตเอาไว้.....
ดีแล้วที่มีเพียงสายตารังเกียจ ไม่มีโซ่ตรวน ไม่มีกองไฟสูงท่วมหัว หรือเชือกที่มัดเป็นบ่วงแล้วแขวนไว้บนขื่อ
เธอเองก็เริ่มชินกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือแล้ว มันผ่านมานานเกือบปีแล้ว สมควรที่จะเริ่มชิน
สายฝนซาลงแล้วเช่นเดียวกับกับหยาดน้ำบนใบหน้าของเด็กสาว เธอยังต้องมีชีวิตอยู่ต่อ ถึงจะอยู่อย่างไร้ค่า ไร้คนสนใจก็ตาม แต่ตราบใดที่มีชีวิตอยู่ เธอก็ยังมีทางเลือกที่ดำเนินชีวิต ถึงมันจะมีไม่มากนัก แต่เธอ...ยังต้องอยู่.........เพื่อเป้าหมาย..ของเธอ....
.....อย่างน้อยก็ให้ผู้อื่น.....รับรู้ถึงตัวตน....ของเธอ.....
ในเมื่อมันแลกมาด้วยหลายชีวิต.....เธอก็ต้องใช้มันอย่างคุ้มค่า
เด็กสาวยันกายจะลุกขึ้นมาจากพื้น แต่ขาที่เปรอะไปด้วยคราบโคลนเหมือนถูกสูบแรงออกไป ขาที่กำลังจะยืนขึ้นจึงทรุดลงไปเกือบกองกับพื้นถ้าไม่ใช่มีบางอย่างมาช่วยฉุดแขนของเธอเอาไว้ เด็กสาวหันไปมองตามทิศทางของแรงที่ช่วยดึงเธอให้ยืนขึ้น
สิ่งที่เธอเห็นทำให้เธอได้แต่ส่งสายตาเป็นคำถามไปให้ผู้ช่วยเหลือ เขาคือชายรูปร่างสูงโปร่ง ผ้าคลุมผืนใหญ่ที่เค้าใช่ยังเปียกชื้น คงเพราะเค้าไม่มีที่หลบฝนเหมือนอย่างเธอ ดวงตาสีถ่านผายหลังแว่นบางฉายแววอ่อนโยนมายังเธอเช่นเดียวกับเส้นผมที่ยาวเลยออกมาจากฮูดที่เค้าสวม เค้าขยับยิ้มให้ก่อนเอ่ยขึ้นกับเธอที่ยังมีแต่สายตาคำถามปนหวาดระแวง แต่ความอ่อนโยนจากดวงตานั้นทำให้เธอรู้สึกเหมือนกำลังฝันอยู่เสียมากกว่า ยังมีอีกรึ...ความอบอุ่นบนโลกนี้....
"ไง เด็กน้อย มาทำอะไรอยู่ตรงนี้ เปียกไปหมดแล้วนะเรา"
เธอไม่อยากตอบเค้าหรืออีกอย่างเธอคงไม่รู้จะตอบอะไรไปดี ในเมื่อเธอก็ไม่เคยรู้จักกับชายท่าทางอารมณ์ดีตรงหน้า หรือชายคนนี้จะเป็น....คนของทางการ!!!!
คิดได้แค่นั้นเธอจึงเริ่มสำรวจชายตรงหน้าอย่างละเอียด เค้ายังคงส่งยิ้มละไมมาให้อย่างไม่เมื่อยปาก ผ้าคลุมผืนใหญ่สีขุ่นดูมอมแมม มีรอยขาดบ้างตามชายผ้า ที่รองเท้าที่ใกล้จะขาดก็มีก้อนโคลนแกะอยู่เต็ม มือที่ช่วยจับแขนของเธอก็สากเหมือนคนทำงานหนัก
ดูยังไงก็ไม่เหมือนคนของทางการ........เธอค่อยโล่งใจ แต่ก็ไม่ไว้ใจชายตรงหน้าอยู่ดี...
......เหมือนนักพเนจรไม่ก็นายพรานหรือคนที่ทำงานหนักตามสวนไร่
ท่าทางคงจะไม่เคยมาที่นี้.....ถึงได้มาช่วยเธอ.....
"....ขอบคุณค่ะ..."
เธอกล่าวเสียงเนิบๆไปตามมารยาทที่ควรทำ แล้วออกแรงที่แขนให้เขาปล่อยมันเป็นอิสระ ก่อนจะเดินเลี่ยงออกไป เธอกะว่าไปหาที่หลบนอนซักคืนแล้วจะออกจากที่นี้ไปตลอดกาล แต่ชายหนุ่มที่เธอนึกว่าเขาจะไปทำธุระอะไรของเขาต่อก็ช่าง กลับเดินตามเธอมาเงียบๆ
บางทีเค้าคงบังเอิญมาทางเดียวกับเธอมากกว่า แต่เธอไม่คิดอย่างนั้นแน่ เพราะฝีเท้าของเค้าเงียบเกินไป ไม่เหมือนคนธรรมดาเลย แต่เค้าคงไม่ได้จงใจเดินเบาๆเพื่อตามเธอเหรอ แต่เค้าเดินเบาจนเป็นนิสัยมากกว่า
...ชายคนนี้..........ไม่น่าไว้ใจซะแล้ว..
เธอหยุดเดินแล้วหันไปสบกับใบหน้าที่ยังเปื้อนยิ้มอยู่เหมือนเดิม เค้ายิ้มแล้วพูดกับเธอ2-3ประโยค
...ประโยคที่ทำให้เธอต้องอะไรเกี่ยวกับตัวเค้าใหม่อีกเยอะทีเดียว
........................................................................................................................
แต่ก็ดีใจค่ะ พิมพ์เสร็จแล้ว ช่วยติชมกันด้วยนะค่ะ
นิทานเรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะอารมณ์ที่มันเหงาๆ ฉากแรกเลยมาแบบนี้เลย
ติชมกันด้วยนะค้า~~
เรื่องติชมนี่ ข้าน้องขอตรงๆนะเจ้าค่ะ
ข้าน้อยเป็นคนตรง หากท่านคิดยังไงกับ นิทานเรื่องนี้
โปรดเม้นมาตรงๆนะเจ้าค่ะ
อย่าเม้นตามธรรมเนียมที่เค้าให้ฝากนิยายกันนะเจ้าค่ะ
ข้าน้อยไม่ได้ไม่ชอบ เพราะรู้ว่าเป็นวิธีที่ทำให้เข้าถึงนิยายที่แต่ง
แต่!! ถ้าท่านแน่จริงทำไมไม่ให้คนที่เคยเข้าอ่านนิยายของท่านเป็นตัวตัดสิน
ถ้าหากมันสนุกจริงๆเค้าจะกลับมาเอง และจำนวนคนเข้าชมจะเป็นตัวบอกเอง
ความคิดเห็น