ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fiction TaoKacha { Prisoner no.233 }

    ลำดับตอนที่ #1 : ♢ PROLOGUE

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 166
      1
      12 พ.ค. 56

    ปีพ.ศ. 2554
                     ท่ามกลางความเงียบสงัดในความมืดมิดของท้องฟ้ายามค่ำคืนเสียงย่ำเท้าลงกับพื้นแฉะๆก็ดังก้องไปทั่ว ร่างสูงที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อหันซ้ายหันขวาก่อนเดินเข้าไปในโกดังอย่างชำนาญ ที่นี่เป็นที่นัดพบประจำของท่านรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมอย่าท่านสุรภัทร อัญชุลีประดิษฐ์ กับ เศรษฐพงษ์ เพียงพอ ชายหนุ่มวัย23 ปีที่มีฝีมือเรื่องการ 'ปกป้องดูแลรวมถึงกักขังบางสิ่งบางอย่าง' หรือจะเรียกว่าเฝ้าก็ไม่ผิดผู้คนกระเป๋าหนักระดับแนวหน้าของประเทศเคยจ้างชายหนุ่มคนนี้เพื่อเฝ้าอะไรก็ตามที่พวกเค้าหวงไม่ว่าจะเป็น ตัวยา เครื่องเพรช ของหวงต่างๆหรือแม้กระทั่ง'คน' รวมๆแล้วสินค้าที่นำมาให้เศรษฐพงษ์เฝ้านั้นมีจำนวนรวมกันมากกว่า200 ชิ้นได้ เมื่อได้ชื่อว่าทำสัญญาเฝ้ากับเศรษฐพงษ์แล้วของต้องปลอดภัยยังคงไม่มีใครสามารถดิสเครดิตชายหนุ่มได้และก็แน่นอนเงินก็ต้องหนักตามของที่ควรค่ากับการเหนื่อย ระยะเวลาก็ต่างกันออกไปบางชิ้น1วัน บางชิ้น 5 ชม. บางชิ้น1เดือน ท่านรัฐมนตรีก็เป็นหนึ่งในลูกค้าวีไอพีที่ฝากให้เศรษฐพงษ์เฝ้าของหลายครั้งเช่นเฝ้าบรรดาบ้านเล็กบ้านน้อยของท่านรัฐมนตรีและครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งที่ท่านรัฐมนตรีไว้ใจฝากของสำคัญของท่านไว้ ร่างสูงที่กำลังเดินเข้าไปก็เห็นชายวัยชรารออยู่แล้ว ท่านรัฐมนตรีเป็นชายมีอายุประมาณ50ปลายๆจะบอกว่าท่านเป็นคนเก่งก็เก่งเพราะกว่าท่านจะได้มาเป็นรัฐมนตรีท่านก็ผ่านอะไรมามากมายแต่ยังไงคนเก่งเกินครึ่งก็เป็นคนเลวอยู่ดีเป็นเงินไม่น้อยแล้วถูกโกงกินมาใช้หาความสุข ใบหน้าสูงวัยดูเจ้าเล่ห์อยู่เสมอนัยต์สีดำสนิทก็ดูมีอำนาจ ผู้สูงวัยผายมือคล้ายเชิญให้นั่งร่างสูงนั่งลงสายตาคมสอดส่องไปทั่วห้องอย่างตรวจสอบเมื่อแน่ใจแล้วว่าไม่มีและปลอดภัยเศรษฐพงษ์อะไรจึงหันกลับมามองท่านรัฐมนตรีอีกครั้ง

    " สวัสดีครับท่านรัฐมนตรี ร่างสูงเอ่ยทักนิ่งๆ

    " สวัสดีคุณเศรษฐพงษ์ เป็นไง? สบายดีใช่มั้ย? " คนวัยชราเอ่ยถามในแววตาเต็มไปด้วยความมีอำนาจแต่ก็ยังมีความกังวลบางอย่างอยู่

    " สบายดีครับ ท่านจะให้ผมทำอะไรล่ะครับครั้งนี้ " ร่างขาวจัดเลือกที่จะถามอย่างตรงไปตรงมา

    " ฮ่าๆ ใจร้อนเหมือนเดิมเลยนะคุณเต๋า "  

    " เรียกเศรษฐพงษ์ดีกว่าครับ ผมไม่ชอบให้ใครเรียกชื่อจริง" ร่างสูงขัดเสียงเรียบ

    " เจอกันกี่ที่ก็ยังคเหมือนเดิม ถิตัวเหมือนเดิม ฮ่าๆ เข้าเรื่องเลยละกันนะ งานนี้ผมต้องบอกคุณไว้ก่อนว่าสินค้าชิ้นนี้ดูแลยากและสำคัญต่อผมมาก "

    "ท่านพูดเหมือนไม่ไว้ใจผม " ใบหน้าหล่อเหลาท้าทายด้วยสีหน้าเรียบเฉย

    " หึหึ ถ้าคุณไว้ใจไม่ได้แล้วใครบ่ะที่ไว้ใจได้ ผมไว้ใจคุณแต่งานนี้สำคัญมากจริงๆผมบอกไว้ก่อนเลย ถ้าคุณทำงานนี้สำเร็จผมให้คุณได้เลย 50 ล้าน "

    " ท่านให้เยอะขนาดนี้ของที่ว่าคืออะไรครับ? "

    " ลูกชายของผมเอง " ร่างสูงขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อได้ยิน

    "ลูกชาย? ท่านไม่มีลูกชายนี่ครับ " การที่เศรษฐพงษ์จะทำงานให้ใครคนๆนั้นจะต้องผ่านการตรวจสอบคร่าวๆเพื่อเป็นการประกอบการตัดสินใจรับงานทุกครั้ง

    " ลูกของพิมลดา ภรรยาเก่าของผมเองเธอเสียไปแล้ว.. "

    " แล้วทำไมท่านต้องเอาลูกของท่านมาให้ผมเฝ้าด้วยล่ะครับ? "

    " คุณจำเป็นต้องรู้เหตุผลตั้งแต่เมื่อไหร่กันแต่ยังไงคุณก็เหมือนลูกชายอีกคนของผม ผมจะเล่าให้ฟัง ลูกชายของผมชื่อคชาอายุเท่าๆกับคุณนี่แหละ ไอคชามันเป็นเด็กเลวพอแม่มันตายมันก็ไม่ฟังใครทั้งนั้นแม้กระทั่งผม มันเห็นผมเป็นแค่คนส่งเงินให้มันเท่านั้น " ร่างวัยชราถึงปากจะพูดว่าแต่ก็พอสัมผัสถึงความเป็นห่วงได้

    "แล้วความผิด? " ไม่แปลกที่เศรษฐพงษ์จะถามแบบนั้นถ้าสินค้าไม่ทำความผิดก็ต้องเป็นนายจ้างเท่านั้นที่ทำผิดเหตุผลที่เอา'คน'มาฝากมีแค่นี้แหละ

    "มันดันไปขัดขาลูกชายท่านวิชชาเข้าน่ะสิ"

    " ลูกชายนายกรัฐมนตรี มิน่าคุณถึงเอาเค้ามาฝากผม " ร่างสูงแค่นยิ้ม

    " เอาเป็นว่าผมฝากหน่อยละกันนะ "

    " แล้วกฏ? " แน่นอนว่าต้องมีกฏนายจ้างทุกคนมีกฏให้สินค้าอยู่กับร่องกับรอยเสมอ

    " ห้ามคชาออกไปที่อื่นนอกจากห้างกับมหาวิทยาลัยเท่านั้น "

    " แค่นี้? "

    " แค่นี้ก็เยอะแล้ว เอาล่ะคุณเศรษฐพงษ์ เห็นทีผมต้องไปก่อนเอกสารเกี่ยวกับคชาทุกอย่างอยู่ในซองสีน้ำตาลนี่เอาไปดูได้เลยส่วนค่าจ้างครึ่งแรกผมจะโอนให้คุณภายใน2วัน " ร่างวัยชรากระชับสูทพลางชี้เอกสารที่บรรจุอยู่ในซองสีน้ำตาลให้เศรษฐพงษ์ดู

    " ครับท่าน เศรษฐพงษ์นั่งรอให้ท่านรัฐมนตรีออกไปก่อนแล้วจึงค่อยตามออกมาเพื่อความปลอดภัยคนวัยชราที่กำลังเดินออกไปยิ้มออกมาบางๆ ในใจนึกหายห่วงนนทนันท์ทันที

    อีกครึ่งชั่วโมงต่อมา แสงจันทร์ยามค่ำคืนสาดส่องกระทบใบหน้าหล่อเหลา ถึงแม้เสี้ยวหน้าจะจะเรียบสนิทจนไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่แต่ก็ยังคงสามารถสะกดตาทุกคนได้อยู่ดี เศรษฐพงษ์สาวเท้าเข้าคอนโดที่คุ้นเคยอย่างรวดเร็ว ทันทีที่เปิดห้องเข้าไปความอ้างว้างก็เข้ามาในจิตใจอีกตามเคย แฟนสาวผู่เป็นที่รักของเค้าไม่อยู่ที่นี่อีกต่อไปทิ้งเศรษฐพงษ์ไว้แต่เพียงลำพัง ร่างกล้ามเนื้อถอนหายใจนั่งลงบนโซฟาพลางหยิบเอกสารในซองสีน้ำตาลมาดูในซองเต็มไปด้วยเอกสารหลายอย่าง สำเนาบัตรประชาชนรวมถึงรายละเอียดที่พักเพนต์เฮาส์ ร่างสูงไล่ดูจนหมดจนถึงแผ่นสุดท้ายแผ่นที่ทำให้เศรษฐพงษ์แปลใจ มันคือรูปของนนนทนันท์ ใบหน้าเรียวรีรูปไข่ ผิวขาวเนียนละเอียด ผมซอยทรงคล้ายกะลาครอบ จมูกเชิดๆแสดงความรั้นของเจ้าของ และที่ดูน่าดึงดูดที่สุดริมฝีปากเรียวเล็กสีแดงสด ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ทำให้ร่างสูงแปลกใจ ' ผู้ชายแน่เหรอ?' สิ่งแรกที่ร่างสูงคิดทันทีที่เห็นภาพ เศรษฐพงษ์เหยียดยิ้มก่อนวางซองสีน้ำตาลลง ร่างกล้ามเนื้อเดินเก็บของที่จำเป็นเพราะในสัญญาระบุแน่ชัดว่า 'ต้องย้ายไปอยู่เพนต์เฮาส์เดียวกันกับคุณนนทนันท์' ลูกค้าก็มีกฏของลูกค้า เศรษฐพงษ์ก็มีกฏของเศรษฐพงษ์และกฏข้อแรกบันทึกสินค้าทุกชนิด นิ้วสีซีดหยิบสมุดที่ทำจากหนังอย่างดีออกมาในสมุดปรากฏลายมือหวัดๆของเจ้าของแทบทุกหน้าทุกบรรทัดจะมีรายการสิ่งของทุกประเภท ร่างสูงหยิบปากกาเขียนลงที่บรรทัดล่าสุด

                                                       ‘ No. 233 นนทนันท์ อัญชุลีประดิษฐ์


    -TALK TO MILLIM WITH LETTER P-
    สวัสดีอีกครั้งค่ะ รีดผู้น่ารักทุกคน 
    ฟิคเรื่องนี้ ไรต์นั่งเล่นคอมอยู่เฉยๆพล็อตก็โผล่มาในหัวเฉยเลย
    ไรต์จึงเขียนฟิคเรื่องนี้ขึ้นมา คอมเม้นให้ไรต์กันด้วยนะคะ อยากรู้ความคิดเห็นของรีดทุกๆคนเช่นเคยค่ะ
    ถ้ามีคนสนใจฟิคพล็อตเรื่องแบบนี้เย็นนี้จะลงตอนที่ 1 ให้นะคะ คอมเม้นกันเยอะๆเนอะ 

    Minor!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×