คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : CHAPTER 7
Chapter 7
เสียงเคาะประตูดังขึ้น แหวกเสียงเพลงเบาๆที่คชาเปิดคลอไปในช่วงบ่าย วันนี้คชาไม่มีเรียน คชาจึงตัดสินใจนอนกลิ้งไปกลิ้งมาในหอดีกว่า เพราะรอยแดงๆจากการแพ้ยุงยังไม่หายไปดีนัก ร่างบางในชุดบ็อกเซอร์ตัวเดียวอ้าปากหาววอดๆ คชาไม่อยากใส่เสื้อผ้าหลายชิ้นนัก แค่ปกติเขาก็คันตามเนื้อตัวมากแล้ว ยิ่งไปถูไถกับเนื้อผ้าก็กลัวจะคันหนักไปมากกว่าเดิม
“เปิดเลยฮะ ประตูไม่ได้ล็อค”เสียงแหบๆตะโกนลั่น
สิ้นเสียงตะโกนประตูไม้เทียมของหอก็ถูกเปิดออกพร้อมกับกลุ่มคนขนาดยักษ์ที่โถมเข้ามาในห้องพร้อมกับเสียงเฮลั่น คชาที่นอนจะหลับแหล่มิหลับแหล่อยู่บนเตียงถึงกับสะดุ้งตื่นเต็มตาด้วยความตกใจ อะไร!!! ห้องกูไม่ใช่สนามราชมังคลา!!
“ไอ้เป็ดเปื่อยของพี่...”
เสียงคุ้นหูดังขึ้นพร้อมชายหนุ่มร่างรูงใหญ่กระโดดทับเขาอย่างแรง คชาเหลือกตายังไม่ทันได้มองว่าคนกลุ่มใหญ่ยักษ์นี่เป็นใครบ้าง แก้มสีระเรื่อยก็ถูกฟัดโดยคนที่มาให้เสียเรียบร้อยโรงเรียนจีนยังไม่พอ คนที่เหลือก็ยังตามมาฟัดเขถึงเตียง พอเห็นว่าเป็นใคร เป็ดเปื่อยก็เลิกป่วยมานอนหัวเราะร่า
“มาทำไมไม่ยอมบอกว้า”
“มึงก็รู้ว่าพวกกูชอบเซอไพรซ์!!”
คชาลงไปนอนขำกับพื้นเตียง ร่างแดงๆที่มีรอยแพ้ยุงกลิ้งไปมาบนเตียงอย่างน่ารัก คชามันเอาผ้าห่มมาพันตัวเองเหมือนไส้กรอก ก็จะไม่ให้หัวเราะแทบบ้านี่ได้ยังไงในเมื่อ..เพื่อนสมัยมัธยมของเขาสิบกว่าคนแห่กันมาเยี่ยมถึงหอขนาดนี้! ทั้งเพื่อน ทั้งรุ่นพี่ ทั้งรุ่นน้อง
เมื่อสมัยมัธยมคชาเป็นนักร้องนำอยู่ชมรมดนตรีที่โรงเรียนและควบไปด้วยภาระอันหนักอึ้งคือประธานชมรมดนตรี จึงทำให้มีรุ่นน้องรุ่นพี่รู้จักหน้าคร่าตากันเยอะ แต่เมื่อจบมัธยมปลายมา ทุกคนก็แตกระเจิงหนีไปเรียนที่ไหนบ้างก็ยังจำกันไม่หมด แต่เพียงเพราะคชาไปอัพเดตในเฟสบุ๊คว่าไม่สบายเท่านั้นก็สมารถรวมตัวเพื่อแห่มาเยี่ยมเขาได้ มันช่างเป็นความสุขที่หาที่ไหนไม่ได้แล้วจริงๆ
“คชาจ๋าดูสิ่พวกกูหิ้วอะไรมาด้วย”
“ไอ้เชี่ยย! หอกูห้ามมมม ”
คชากรีดร้องทันทีเมื่ออ้นพิธีกรประจำโรงเรียนยกถุงแอลกอฮอล์ขนาดใหญ่ยักษ์เข้ามา ข้างๆมีน้ำแข็งที่ชูกับแกล้มสารพัดอย่างที่ต้มตำยำย่างกับมาให้ครบ ลากยาวตั้งแต่อาหารเหนือยันอาหารใต้ คชาหลุดขำเบาๆก่อนจะขอตัวไปล้างหน้าล้างตา แต่ทันทีที่ลุกขึ้น ผิวขาวเนียนมีที่รอยแดงๆก็เผยต่อหน้าทุกคน
“โหย... คชามึงตุ่มเยอะมาก ” นิ้วสากๆของปอก็เอื้อมมาสะกิดตุ่มแดง จนคชาสะดุ้งแล้วถีบเพื่อนสนิทเบาๆ
“ ไอ้ห่า! อย่าโดนกูคัน ” เสียงแหบๆก่นด่าด้วยความหมั่นไส้ ปอจึงหัวเราะร่า มองตามร่างบางที่เดินเกาแขนขาไปตลอดทาง
“คชา.. แกขาวขึ้นอ่อวะ ดูมีน้ำมีนวลขึ้นเยอะเลยนะ” พี่ตี๋ชายหนุ่มร่างใหญ่มือกลองประจำชมรมที่เงียบตั้งแต่เข้ามาเอ่ยทักเป็นคำแรก คชาทำหน้างงหันไปมองตัวเองผ่านกระจก มือเรียวยกขึ้นลูบแขนลูบขาตัวเองเล็กน้อย
“งั้นมั้งพี่.. คนมันออร่าแรงก็เงี้ยแหละ”คชาคว้าเอาผ้าขนหนูขึ้นพาดบ่ากะจะเดินเข้าห้องน้ำไปแต่..
“เชี่ยเดี๋ยว กูปวดขี้”
ไม่ทันได้ก้าวขาเข้าห้องน้ำก็โดนเฟรมเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดวิ่งมาชนจนคนตัวเล็กปลิวกระแทกเข้าไปอยู่ในอ้อมอกพี่ชายมือกลอง ก่อนที่มันจะเข้าไปยึดครองห้องน้ำแต่แล้วเสียงโวยวายของเฟรมก็ดังลอดออกมาข้างนอกเพราะโซ่รุ่นน้องเข้าไปฉี่โดยไม่ปิดประตู เฟรมก่นด่าลั่นเพราะดันเข้าไปเห็นมังกรพ่นน้ำ ทำเอาคชาขำจนแทบเอาหัวลงไปไถกับพื้น
“เชี่ยโซ่ววววว ทำไมมึงไม่ปิดประตูวะครับบบบ คิดว่าใหญ่แล้วจะทำอะไรก็ได้เหรอไอ้ฉัดดด”
เสียงโหวกเหวกโวยวายเสียงดังจากในห้องพักขนาดเล็กทำเอาคนมาใหม่อย่างเต๋ากับริทยืนทำหน้างงใส่กันอยู่หน้าห้อง แต่ไม่ทันได้คลายความสงสัย ประตูไม้เทียมก็ถูกเปิดออก คนที่กำลังจะเทตัวออกจากห้องเล็กก็ต้องชะงัก
“คชามีคนมาเยี่ยม”
“ใครวะเต้.. อ้าวริท พี่เต๋า” คชาโผล่หัวหลุนๆออกมาทางช่องว่างระหว่างรักแร้ของโปเต้ พร้อมกับยิ้ม “เข้ามาดิ”
ริทกับเต๋ายิ้มแหยๆก่อนจะเดินตามคชาในชุดบ็อกเซอร์ชิ้นเดียวตัวเดิมเข้าไป ห้องพักขนาดที่ปกติก็เล็กอยู่แล้วแต่วันนี้กลับบรรจุคนสิบกว่าคนเอาไว้กลายเป็นอัดแน่นไปเลย
“พวกมึงนี่ริท เพื่อนกู ส่วนนั้น รุ่นพี่กู แม่งเป็นหมาบ้า ชื่อเต๋า”
สิ้นเสียงคชาผู้ชายทั้งห้องก็ยกมือไหว้เอ่ยทักทายอย่างเป็นกันเอง เต๋าเก็บของที่เอามาใส่ลงกระเป๋าเป้ตัวเองก่อนจะหยิบกระเป๋าของตัวเองกับริทวางไว้ที่มุมห้อง ทั้งสองคนยืนงงๆกันอยู่สักพักก่อนที่คชาจะเคลียร์พื้นที่พอให้นั่งเป็นวงกลมให้ได้แล้วเจ้าตัวก็จรลีหนีไปนั่งกับรุ่นพี่อีกฟากของวง
“เอาล่ะนะครับ กูจะแนะนำทีล่ะคนล่ะนะครับ” คชาหยิบตะเกียบที่เพิ่งจุ่มลงไปในแก้วเพื่อนคนเหล้าให้เข้ากันขึ้นมาเคาะแก้วเหล้าในมือตัวเอง
“อันตัวกระผมนั้นชื่อคชา ถัดจากผมนะครับพี่ตี๋ ต่อไปไอ้ผมยาวชื่ออ้นครับ ไอ้หัวฟูชื่อน้ำแข็งครับ ไอ้เตี้ยเหล็กดัดนั่นชื่อเฟรมครับ นั่งปั้นหน้าหล่ออยู่นั่นพี่รอนครับ นั่นไอ้โซ่ ไอ้ปอ ไอ้ไบร์ทรุ่นน้อง ส่วนไอ้บอสไอ้กันไอ้ตูมตามไอ้โปเต้เพื่อนกูลงไปซื้อน้ำแข็งมาเพิ่ม ส่วนคนมาใหม่ทั้งสองท่าน ไอ้ขาวๆนั่นชื่อเต๋าครับอยู่ปีสาม ส่วนไอ้หน้าหวานข้างๆชื่อริทเด็กในปกครองเฮียคชาเองฮะ”
ทั้งกลุ่มเฮลั่นพร้อมกับชนแก้วน้ำสีอำพันเป็นการทักทาย เสียงถามไถ่สารทุกข์สุกดิบดังไปรอบๆ ดีที่วันเสาร์และอาทิตย์เด็กนักศึกษาส่วนมากจะออกไปข้างนอกกัน แถมห้องคชาก็อยู่ถึงชั้นสามริมสุดชิดบันไดจึงไม่ทำให้ไปรบกวนใครเขามาก พูดคุยกันได้สักพักคนที่ลงไปซื้อน้ำแข็งก็ขึ้นมา
เต๋าเหลือบมองคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างๆ แก้วน้ำสีอำพันที่ถูกชงด้วยใครสักคนวางอยู่ตรงหน้าแต่กลับไม่มีร่องรอยการแตะต้องแม้แต่น้อย ริทหัวเราะให้กับมุกตลกของเฟรม จนทำให้เต๋าที่มองอยู่อดจะยิ้มตามไปด้วยไม่ได้
“ไม่ดื่มเลยเหรอริท?”เต๋ากระซิบชิดใบหูอีกคนเบาๆ
ริทส่ายหน้าน้อยๆ “จริงๆ..ผมไม่ค่อยสันทัดเรื่องแอลกอฮอล์เท่าไหร่น่ะครับ”
คชามองสองคนตรงข้ามที่กระซิบพูดคุยอะไรกันสักอย่างแล้วหัวเราะใส่กันราวกับไม่สนใจคนรอบข้าง คชาหมุนแก้วแอลกอฮอล์ในมือไปมาๆช้าๆก่อนจะกระดกรวดเดียวหมดแก้ว ก่อนจะตบมือเรียกร้องความสนใจ
“มาเล่นเกมส์กันดีกว่า” คชาตะโกน
โปเต้ยกมือขึ้น “กูเอาด้วย”
คชายกยิ้ม “พวกมึงจำได้ไหม.. ไล่ชื่อห้ามซ้ำกันอ่ะ มานี่ กูเริ่มเองไล่ทางพี่ตี๋ เอาชื่อสัตว์นะ”
เกมส์มีอยู่ว่าให้ทุกคนนั่งเป็นวงกลมแล้วให้ไล่ตามที่โจทย์ตั้งมา ห้ามซ้ำกัน อย่างเช่นคนแรกบอกว่า เป็ด คนที่สองต้องบอกว่า เป็ด หมู คนที่สามต้องต่อไปอีกว่า เป็ด หมู ไก่ ไล่ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีคนแพ้ห้ามคิดนานเกินห้าวิ เกมส์นี้ฮิตมากสมัยคชาเรียนมัธยม ใครแพ้ก็กระดกเหล้าร็อคคนล่ะกรึ๊บจนกว่าจะน็อคกันจนหมด
“ ช้าง ”คชาตบเข่า
พี่ตี๋ยกยิ้มอย่างสนุกสนาน “ ช้าง แมว ”
“ ช้าง แมว ควาย! ” น้ำแข็งตะโกนลั่นพร้อมกับหัวเราะร่า
คชาหัวเราะลั่นก่อนจะเอ่ยแซว “ เลือกอะไรเหมือนหน้ามึงเลยวะน้ำแข็ง ”
สิ้นเสียงของคชาคนทั้งวงก็หัวเราะห่ากันท้องขดท้องแข็งจะมีก็เพียงแต่น้ำแข็งเท่านั้นที่นั่งช้อนตาคว่ำมองคชาอย่างงอนๆอยู่ คชาตบขาตัวเองพยายามกลั้นหัวเราะจนหน้าแดงก่อนจะส่งนิ้วก้อยไปสะกิดข้างแก้มเพื่อนรักเบาๆเป็นการงง้อ เรียกเสียงหัวเราะได้ไม่น้อยเลย
“เชี่ยอย่าแกล้งเดี๋ยวกูลืม” เฟรมสะบัดนิ้วโซ่ที่จิ้มเอวตัวเองอยู่ออก “ช้าง แมว ควาย เสือ”
พี่ใหญ่สุดอย่างร้อนกระดกน้ำสีอำพันลงคอก่อนจะชี้หน้าคชา “ไอ้นี่ช้าง.. แมว.. ควาย.. เสือ กู..จิ้งจก!!”
คนถัดมาอย่างโซ่หัวเราะร่าด้วยความสนุกสนาน “ช้าง แมว ควาย.. ควาย.. ไอ้เหี้ยพี่น้ำแข็งควาย..”
โซ่หลับตาแน่นอย่างใช้ความคิดโดยไม่รู้เลยว่าประโยคเมื่อครู่เกือบทำเอาทุกคนในหัวเราะจนแทบขาดใจตาย น้ำแข็งเบ้หน้าออกแอบเสียดายว่าตัวเองไม่น่าเลือกควายเลย
โซ่ดีดนิ้วดังเป๊าะ “ตุ๊กแก!”
“ตุ๊กแกพ่อง!! จิ้งจกโว้ยยยยยย”
พี่รอนหัวเราะร่าพร้อมกับรับแก้วเป๊กที่ใส่เหล้าสีเข้มไว้จนล้นจากไบร์ทมาไว้ในมือ ยื่นไปให้รุ่นน้องสุดที่รัก “แด่น้องโซ่น้องสุดที่รักของพี่ แดกกกกก”
“แดกกกกกก”ทุกคนพร้อมใจกันประสานเสียงขานรับพี่รอนด้วยความสนุกสนาน
โซ่กลั้นใจกระดกเหล้าแบบออนเดอะร็อคเข้าปากก่อนจะกลืนมันลงด้วยใบหน้าขมขื่น ดวงตาตี่ค่อยๆเปิดออกอย่างช้าๆ ใบหน้าตี๋ๆหันไปจ้องหน้าไบร์ทอย่างหาเรื่อง
“เหี้ย.. ทำไมเหล้าแม่งเค็มวะไอ้สัด.. มึงแอบใส่น้ำปลาลงไปเหรอ”
ไบร์ทหัวเราะร่า “อ้าว มึงรู้ด้วยเหรอ กร๊ากกกกกกก”
“ไอ้เชี่ยไบร์ท!! เดี๋ยวมึงจะโดนมิใช่น้อยยยยยยยย”
ก้ำปั้นหลุนๆของโซ่ยื่นไปเคาะกะโหลกเพื่อนรักเบาๆ ทุกคนหัวเราะปรบมือให้กับภาพตรงหน้า คชาวางหน้าผากเข้ากับไหล่พี่ชายคนสนิทก่อนจะหัวเราะลั่น มืออีกข้างกำชายกางเกงบ็อกเซอร์ตัวเองแน่น ร่างบางสั่นสะท้านไปทั้งร่างเนื่องจากกลั้นหัวเราะไม่อยู่
เกมส์ดำเนินไปเรื่อยๆ ผลัดกันโดนคนล่ะกรึ๊บสองกรึ๊บรวมถึงคชาเองก็ด้วย แต่ที่น่าหมั่นไส้ก็คือถ้าเมื่อไหร่ริทเรียงผิดเต๋าจะเป็นอาสากินแทนเอง จนคนในวงอดไม่ได้ที่ผิวปากแซวหวือ คชาปราดสายตามองเต๋าที่กำลังกระดกเหล้าเดอะร็อคเข้าปากแทนคนตัวบางข้างๆที่มองด้วยความเป็นห่วง
“คชา สองคนนั้นเขาเป็นแฟนกันเหรอวะ”ตี๋ก้มลงมากระซิบเบาๆข้างใบหูจนริมฝีปากเกือบที่จะฝังเข้ากับแก้มใส
คชาเบ้ปากเล็กน้อยยักไหล่หวือ “ผมก็ไม่รู้อ่ะพี่ อาจจะเป็นแล้วก็ได้มั้ง”
เกมส์จบลงตรงนั้นเพราะดูเหมือนไอ้เฟรมใกล้จะน็อคเต็มทีแล้ว โปเต้หยิบอูคูเลเล่ของคชาที่นอนอยู่ใต้เตียงขึ้นมาดีดเล่นช้าๆ ปอหยิบตะเกียบขึ้นมาเคาะจานเคาะแก้วตามจังหวะ เกิดเป็นเพลงมั่วขึ้นมา คชาหลุดหัวเราะอีกครั้งเพราะเฟรมมันงัดหัวตัวเองขึ้นมาแล้วแหกปากร้องเพลงด้วยเสียงยืดยานของมันเอง
ท้องฟ้าด้านนอกมืดลงไปแล้วแต่ไม่มีท่าทีว่ากลุ่มคนเหล่านี้จะเลิกสังสรรค์กันสักที เต๋ามองร่างบางตรงข้ามที่เนื้อตัวเริ่มออกสีแดงๆเพราะฤทธิ์แอลกอฮอร์ ดวงตาเรียวสวยหลับพริ้มลงพิงศรีษะเข้ากับรุ่นพี่ด้านข้างที่ยอมให้รุ่นน้องพิงอย่างง่ายดาย ริมฝีปากอิ่มยังขยับร้องเพลงคลอไปกับจังหวะที่โปเต้ยังคงเล่นไม่หยุด
“นี่เลยพวกมึง.. เพลงนี้กำลังอิน” โปเต้พูดเบาๆก่อนจะเริ่มเกลาอูคูเลเล่จังหวะคุ้นหูอย่างคล่องมือ
“เชี่ยๆๆ เพลงนี้กูร้องด้ายยยยยย”คชางัดศรีษะตัวเองขึ้นมา ขนเรียวยกขึ้นอย่างเสนอตัวทำเอาคนที่มองอยู่ต่างเต๋าหลุดขำให้กับท่าทีน่ารักๆนั่น ก่อนจะโวยวายลั่นเมื่อเฟรมแย่งร้องท่อนเริ่มไปอย่างหน้าตาเฉย คชาปรือตาขึ้นมองคนที่กำลังจ้องตัวเองอยู่ พลันก็ถึงท่อนฮุค ริมฝีปากอิ่มก็ขยับร้อง เต๋าก็เช่นกัน
“บอกตอนนี้ไม่รู้จะเร็วไปหรือไม่ ก็ยังไม่รู้ว่าเธอคิดเช่นไร
ถ้าบอกคำนั้นแล้วเธอตอบมาว่าไม่ใช่ ถ้าเป็นแบบนี้ก็คงจะเดินหนีไป
เพียงพอแล้วถ้าได้มีเธออยู่ใกล้ๆ ได้ยินเสียงได้คอยดูแลอยู่ไม่ไกล
จะสร้างความลับเอาไว้ในหัวใจ มากเพียงไหนฉันจะไม่ยอมพูดไป..”
ดวงตาหวานเลือกที่จะเบนไปมองโปเต้ที่กำลังใส่อารมณ์กับอูคูเลเล่ตัวเล็กของเขาอย่างสนุกมือ สายตาเมื่อครู่ที่มองมามันมีอะไรอยู่ในนั้น อะไรบางอย่างที่คชาก็ไม่เข้าใจมัน อะไรบางอย่างที่ทำให้หัวใจดวงน้อยกระตุก เขาอาจจะดื่มมากเกินไป.. ดื่มมากเกินไปจริงๆ
เต๋าเม้มปากแน่น มองอีกคนที่เบนสายหลบไปแล้ว คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเล็กน้อย อารมณ์ขุ่นมัวแปลกก่อตัวขึ้นในจิตใจเมื่อคชาหลับตาพริ้มแล้วเอนกายไปพิงรุ่นพี่ที่นั่งอยู่ข้างๆอีกครั้ง ก่อนคิ้วเข้มจะคลายออกเมื่อร่างบางข้างๆเขาก็เอนตัวลงมาพิงเช่นกัน ดวงตาเรียวเงยขึ้นมองหน้าเขา เต๋ายิ้มบางขยับตัวให้อีกคนได้ซบลงมาดีๆ ก่อนที่แขนแกร่งจะเลื่อนขึ้นไปโอบเอวบางไว้ ริทผ่อนลมหายใจออกช้าๆ ริมฝีปากบางเอ่ยประโยคที่ทำให้เต๋าหน่วงในอกขึ้น
“ผม..รู้สึกดีจัง”
Talk with writer ♥
อ้ากกกกกกกกอรั้ยอ้ายอิ้วเอ้วว เกิดอะไรขึ้นในอกด้านซ้ายของรุ่นพี่หมาบ้ากันคะ เหมือนริทจะรู้สึกดีด้วยแล้วเหมือนสมหวังแล้วแท้ๆแต่ทำไมถึงหน่วงในอกแบบน้านนน ข้าวไม่รู้อะไรทั้งนั้น อ้ายยย โยนภาระอันหนังนี้ให้ไรท์มิลไปเลยย แบร่ ยังไงก็ฝากติดตามต่อไปด้วยนะคะ ยังมีช็อทฟิคอีกเรื่องนะด้วยนะ ฝากด้วยค่า รักกก – ข้าว
ความคิดเห็น