คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : CHAPTER 15
CHAPTER 15
อากาศและมลพิษของกรุงเทพมหานครที่แสนคุ้นเคยกลับมาอีกครั้ง หลังจากผ่านการเข้าค่ายรับน้องมาแล้วเชื่อว่าเรื่องทั้งหมดที่เคยทำจะไม่มีวันเลือนไปจากหัวใจของคนตัวเล็กแน่นอน ย้อนกลับไปเมื่อวานหลังจากที่คชาเดินหนีกลับเข้าห้องพยาบาลโดยมีรุ่นพี่สุดหล่อวิ่งตามมาติดก็ทำทั้งริทและแม๊คงงกันยกใหญ่เพราะทั้ง2คนตัวต้นเรื่องเดินยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กลับมาแถมแก้มใสๆของคชายังขึ้นสีแดงแปร๊ดอีก เวลานอนแน่นอนได้เลยว่าคืนนี้คชานอนหลับเต็มตื่นได้อย่างแน่นอนเพราะพี่ชายคนสำคัญสุดหล่อนอนจับมือไว้ทั้งคืน
รถบัสทั้งสามคันเคลื่อนตัวออกจากจังหวัดนครราชสีมาในเวลาประมาณเที่ยงๆ อาจจะเป็นเพราะการจราจรที่ไม่ติดขัดอะไรผสมกับท้องถนนที่ดูโล่งเป็นพิเศษ ทำให้ขบวนชาวค่ายที่อยู่บนรถทั้งสามคันเคลื่อนตัวเข้าสู่ที่หมายอย่างมหาวิทยาลัยที่เดิมอย่างปลอดภัยในเวลาบ่ายสามกว่าๆเท่านั้น บนรถบัสคันที่สามที่เป็นที่นั่งของกลุ่มสีน้ำเงิน ขณะที่สมาชิกกำลังทยอยเดินลงจากรถ ก็ยังคงมีเด็กตัวจ้อยนอนหลับตาพริ้มไม่รู้เรื่องโดยใช้ไหล่กว้างของรุ่นพี่หนุ่มต่างหมอนอิงขนเป็ดชั้นดี ร่างสูงของเต๋าที่ยังคงไม่กล้าปลุกคนตัวเล็กได้แต่มองคชาหลับด้วยรอยยิ้ม ก็แหม โมเม้นท์ที่ไอ้แสบของเขาไร้พิษไร้ภัยก็มีแต่ตอนนอนเท่านั้นแหละนะ เต๋าก็เลยต้องขอมองนานๆหน่อย
ครืดดดดด
เสียงโทรศัพท์เครื่องหรูในกระเป๋ากางเกงของร่างสูงสั่นเป็นเวลานานทำเอาคชางัวเงียตื่นขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ มือเล็กยกมือขยี้ตาหน่อยๆพลางกวาดตาหาต้นตอเสียงสั่นช้าๆ
“ รับเซ่ มันสั่นอ่ะ น่ารำคาญ “ ร่างเล็กบอกเสียงงัวเงีย “ เอ้า รับซะสิ “
นิ้วขาวๆไสลด์ไอโฟนเพื่อกดรับเมื่อเห็นว่าเป็นชื่อของริทนั่นเองที่โทรเข้ามา “ ครับริท “ ร่างเล็กปรายตามองนิ่งๆ ขณะที่มือเล็กก็เก็บของลงกระเป๋าไปด้วย
( พี่เต๋าอยู่ไหนฮะ ริทลงจากรถแล้วนะ )
“ เอ่อ พี่ยังอยู่บนรถบัสน่ะครับ “
( ยังไม่ลงมาอีกหรอฮะ )
“ เดี๋ยวจะลงไปแล้วครับ แล้วริทไม่กลับบ้าน? “
(ก็..ยังอะครับ ริทรออยู่ข้างล่างนะ)
เต๋าตอบรับง่ายดายก่อนจะวางสายของคนตัวเล็กลง พลันมืออีกข้างก็เอื้อมไปคว้ากระเป๋าเป้ในเล็กของคชามาถือไว้ในมือ คชามองตามอย่างไม่ถือสาอะไรก่อนจะเดินนำอีกคนลงรถ แม็คที่ยืนเช็คชื่อน้องอยู่ตรงประตูรถยิ้มบางให้คชาก่อนจะเอ่ยกระซิบเบาๆ
“อย่าเพิ่งรีบกลับนะ รอพี่แป๊ปนึง”
แม็คก้มหน้าก้มหน้าเช็คชื่อน้องต่อไป คชาไม่ได้ตอบรับอะไรเพียงแต่เดินไปรวมกับริทที่ยืนรออยู่แล้ว เต๋าคุยอะไรสักอย่างกับริท ซึ่งคชาไม่ได้สนใจมัน ไม่รู้เพราะว่าไม่อยากได้ยินหรือเป็นเพราะว่าตนเพิ่งตื่นถึงได้เบลอๆกับทุกสิ่งแบบนี้ คชาโบกไม้โบกมือลาเพื่อนๆพี่ๆในคณะด้วยรอยยิ้มอึนๆ จนกระทั่งนักศึกษาคณะนิเทศกลับกันไปเกือบจะทั้งหมด
“ คชาครับ ” แม็กวิ่งทั่กๆเดินเข้ามาหาคนตัวเล็ก “ ขอโทษที่ให้รอนะครับ ให้พี่ไปส่งนะ”
คชาหลุดขำ “ อื้ออ ผมขี้เกียจเดินเข้าหออยู่แล้ว ”
“จะไปไหนกัน” ไม่ทันสิ้นเสียงของคชา เต๋าที่กำลังช่วยริทแบกกระเป๋าอยู่ก็ยื่นหน้าเข้ามาร่วมวง
“เอ่อ..ผมจะไปส่งคชาที่หอน่ะครับ” แม็กตอบพร้อมกับยิ้มบางๆให้รุ่นพี่หน้าหล่อ
“แล้วนี่ก็จะให้มันไปส่งหรือไง?” เต๋าเลิกคิ้วถามรุ่นน้องหัวเห็ด
“เออ กูใจง่าย แบร่”
คนตัวเล็กหันมาแลบลิ้นใส่รุ่นพี่หมาบ้า แม็คหันมาดึงกระเป๋าคชาจากไหล่ซ้ายของเต๋าอย่างถือวิสาสะ เต๋าตวัดสายตามองรุ่นน้องตัวสูงอย่างหงุดหงิด ในใจนึกอยากจะหาเรื่องติดรถไปด้วย คาดว่าถ้าให้ไปกันสองคน คชาตัวน้อยของเขาต้องโดนเอาไอติมล่อเข้าม่านรูดแน่ๆ
“ คชา หอชามีกีตาร์ใช่ป่ะ พี่ยืมหน่อยดิ ” เต๋าเอ่ยพูดเรียบๆพลางหันไปมองริทที่เดินกลับมาหลังจากไปทิ้งขยะ “ จะเอาไปฝึกเล่น ”
“ก็ไปเอาดิ ” คชาเอ่ยเรียบๆ
“เออ แม็ค” เต๋ายิ้มกว้าง “ งั้นกูขอติดรถมึงไปเอากีต้าร์ห้องคชานะ ”
ว่าแล้วเสียงใสของริทก็เอ่ยตาม “ไปไหนกันเหรอครับ น่าสนุกจัง ริทไปด้วยได้ไหม?”
สุดท้ายสมการทั้งหมดก็จบด้วยการมาด้วยกันทั้งสี่คน แม็คตกลงว่าจะซื้ออาหารเข้าไปทานในห้องคชาเพราะคนตัวเล็กทั้งสองเริ่มจะโอดครวญกันแล้ว แม็คจำเป็นจะต้องขับรถออกจากมหาลัยเพื่อไปซื้ออาหารกันก่อนถึงจะวกเข้ามาในมหาลัยเพื่อส่งคชาเข้าหออีกรอบ ข้าวมันไก่หลังมหาลัยเป็นคำตอบง่ายๆของกระเพาะอาหารน้อยๆนี้
ข้าวมันไก่ถูกจัดใส่จานเอามาเสิร์ฟทุกคนด้วยฝีมือคชา “ห้องมันแคบ โต๊ะก็ไม่มีก็พยายามกินเอาก็แล้วกัน”
ทั้งสี่คนนั่งล้อมเป็นวงกลมโดยที่มีจานข้าวมันไก่และชามน้ำแกงวางอยู่ตรงกลาง เป็นเวลาไม่นานข้าวกับเนื้อไก่ก็พร่องไปเกินครึ่ง รุ่นพี่สุดหล่ออย่างเต๋าที่กินหมดเป็นคนสุดท้ายใจดีอาสาเก็บจานให้ ขายาวเดินก้าวตรงไปยังซิงค์ลางจานอย่างคุ้นเคย พลันขาขาวๆก็ชะงักเมื่อได้ยินเสียงกีตาร์กับเสียงร้องคลอเบาๆ เสียงที่ไม่ใช่เสียงของคชานั่นก็ทำเอาคิ้วของร่างสูงคันยิกๆเลยทีเดียว ก็เล่นร้องเพลงจีบทั้งทีเต๋ายังอยู่ในห้องนี้ด้วย คาดว่าใบหน้าของไอ้หล่อน้อยกว่าอย่างแม๊คจะไม่ได้สัมผัสมือสัมผัสเท้ามานานมากแล้ว ร่างสูงเก็บจานเสร็จเรียบร้อยก็เดินกลับมายังที่ที่ทั้งสามคนนั่งอยู่พลางหลุดหัวเราะออกมา เพียงที่แม๊คใช้ร้องนั้นเป็นเพียงความหมายดีมากๆ เต๋ษที่เป็นนักเรียนนอกมาตั้งหลายปีเข้าใจความหมายเพลงนี้ได้ไม่อย่างหากแต่คชา....โง่ภาษาอังกฤษแบบสุดๆ
“ Then say you'll share with me
ถ้าเช่นนั้น บอกฉันว่าเธอจะแบ่งปันกับฉัน
one love, one lifetime...
หนึ่งความรัก หนึ่งชีวิต
let me lead you from your solitude....
ให้ฉันนำเธอไปจากความเดียวดาย
Say you need me with you here, beside you...
บอกฉันว่าเธอต้องการฉันอยู่กับเธอตรงนี้ ข้างๆ เธอ
anywhere you go, let me go too
ทุกที่ที่เธอไป ให้ฉันไปกับเธอ
KC, that's all I ask of you...
เคซี ... นั่นคือทั้งหมดที่ฉันขอจากเธอ “
เสียงเพราะๆของแม๊คร้องมาจนจบ ร่างเล็กปรบมือเปาะแปะๆอย่างน่ารัก “ พี่แม๊คร้องเพราะจังเลย “
“ ไม่หรอกครับชา “ มือหนาวางกีตาร์ลงพลางส่งยิ้มบางๆไปให้จังหวะเดียวกับที่เต๋าทรุดตัวนั่งลงข้างๆคชาทันที ร่างสูงแค่นหัวเราะเบาๆ
“ ขำอะไรเหรอฮะพี่เต๋า “ ริทที่เงียบไปนานเอ่ยถามเสียงใส
“ ก็ขำคนแถวนี้น่ะสิ เพลงก็ซึ้งดีแต่คนฟังไม่ร็ความหมายซะนี่ “ สิ้นคำพูดจากคนตัวขาว แม๊คก็หันไปมองคชาแบบอึ้งๆ อารมณ์ประมาณกูร้องจีบตั้งนานมึงเสือกฟังภาษาอังกฤษไม่ออก..ร้องไห้แป๊บ
“ อะไรใครไม่รู้ความหมาย กูรู้นะ นี่กูเลยนะเว้ย เค้าเรียกท่านคชา1.5กันทั้งนั้นแหละ “
ริทตีหน้างงใส่ “ อะไร 1.5 หรอคชา “
“ เกรดกูเอง “
กา กา กา ...... มุขไม่ฮาพาสตั๊นท์ ทั้งห้องเงียบกริบขอไว้อาลัยให้เกรดขอคชา 1 นาที เต๋าที่เป็นนักเรียนนอกจากออสเตรเลียเกรดไม่เคยต่ำกว่า 3.5 แม๊คที่จบนอกมาจากอเมริกาเกรดก็ไม่ต่ำกว่า 3.5 เช่นเดียวกันและริทไม่จำเป็นต้องพูดถึงวิชาภาษาอังกฤษอย่างเดียวเพราะทุกวิชาเกรด4หมด
“ เงียบอะไรกัน กูไม่เห็นต้องเครียดเลย เนี่ยมีเพื่อนเก่งพี่เก่ง ชิวจะตาย “ คชายิ้มระรื่นอย่างไม่ร็สึกรู้สาอะไรสักนิด
“ โง่จริงจัง.. “
“ เชี่ยยยย พี่เต๋าเดี๋ยวนี้มึงกล้าว่ากูเหรอ “ ร่างเล็กหันมาเหวี่ยงใส่เต๋าทันที
“ เปล่าสักหน่อย ไอ้แม๊คเอากีตาร์มาดิ๊ เห็นเล่นแล้วพี่คันมือ “
แม๊คส่งกีตาร์ให้นิ่งๆ เสียงเล็กเอ่ยแซะเบาๆ “ จะเล่นเป็นเหรออ “
“ โห่ พูดงี้พี่เสียใจนะ “ ร่างสูงพูดแกมงอนแต่ก็ไม่ได้จริงจังอะไรมากนัก นิ้วขาวๆเริ่มเกากีตาร์เรียกความสนใจจากคนทั้งห้องก่อนจะเริ่มประโยคแรกของเพลง “ แวบเดียวแค่ดู ก็ทำให้รู้ว่าเธอนะโดนหัวใจ “
“ ถุยยยยย มึงมีเพลงอื่นป้ะวะ แหม่ เอาเพลงนี้กะให้กูเต้นเลยสินะ “
ร่างสูงหัวเราะเบาๆในลำคอ “ พี่เปลี่ยนเพลงก็ได้ เอาเพลงอะไรดี เพลงนี้มั้ย “ ร่างสูงเริ่มต้นเกากีตาร์เป็นจังหวะช้าๆ เสียงทุ้มนุ่มๆเริ่มร้องช้าๆอย่างได้อารมณ์
“ หลายครั้ง ที่เธอทำเจ้าชู้ ทั้งๆ ที่เดินอยู่กับฉัน
แต่หันมองคนอื่น ส่งยิ้มให้คนอื่นอย่างนั้น
มือเธอ ก็จับที่มือฉัน แต่ตาเธอ แอบมองใครคนนั้น
ก็ฉันดูเธออยู่ แต่เดี๋ยวเธอต้องโดนสักครั้ง
คนอื่นน่ารักฉันก็รู้ แต่อยากบอกเธอเอาไว้
ก็คนที่เธอรักอยู่ตรงนี้ แค่หันมาก็เจอ ไม่เห็นต้องไปมองที่ไหน
มีฉันแล้วยังจะมองหาใครอีก มีฉันแล้วเธอจะไปสนใครอีก
รู้ว่าเธอแค่มองก็พอจะเข้าใจ บางทีก็คิดมากไป
กลัวว่าฉันจะไม่ดีเหมือนใครๆ กลัวว่ารักเราที่มีนั้นจางไป
ถึงยังไงก็มีแต่เธอในหัวใจ และฉันก็ไม่ได้โกรธ แค่อารมณ์น้อยใจ
เพราะฉัน มีเธอเป็นคนรัก คนเดียว ในใจมันเลยหวง
ก็หึงและก็ห่วง เพราะฉันมีเพียงแค่เธอเท่านั้น
คนอื่นน่ารักฉันก็รู้ แต่อยากบอกเธอเอาไว้
ก็คนที่เธอรักอยู่ตรงนี้ แค่หันมาก็เจอ ไม่เห็นต้องไปมองที่ไหน
มีฉันแล้วยังจะมองหาใครอีก มีฉันแล้วเธอจะไปสนใครอีก
รู้ว่าเธอแค่มองก็พอจะเข้าใจ บางทีก็คิดมากไป
กลัวว่าฉันจะไม่ดีเหมือนใครๆ กลัวว่ารักเราที่มีนั้นจางไป
ถึงยังไงก็มีแต่เธอในหัวใจ และฉันก็ไม่ได้โกรธ แค่อารมณ์น้อยใจ
มีฉันแล้วยังจะมองหาใครอีก มีฉันแล้วเธอจะไปสนใครอีก
รู้ว่าเธอแค่มองก็พอจะเข้าใจ บางทีก็คิดมากไป
กลัวว่าฉันจะไม่ดีเหมือนใครๆ กลัวว่ารักเราที่มีนั้นจางไป
ถึงยังไงก็มีแต่เธอในหัวใจ และฉันก็ไม่ได้โกรธ แค่อารมณ์น้อยใจ
มีฉันแล้วยังจะมองหาใครอีก มีฉันแล้วเธอจะไปสนใครอีก
รู้ว่าเธอแค่มองก็พอจะเข้าใจ บางทีก็คิดมากไป
กลัวว่าฉันจะไม่ดีเหมือนใครๆ กลัวว่ารักเราที่มีนั้นจางไป
ถึงยังไงก็มีแต่เธอในหัวใจ และฉันก็ไม่ได้โกรธ แค่อารมณ์น้อยใจ “
เพลง u got me ที่ปกติจะเป็นผู้หญิงร้องก็ดูเพราะดีเหมือนกันเมื่อเปล่งออกมาจากร่างสูงตรงหน้า นัยย์ตาคมๆลอบสบตากลมๆเหมือนกวางแบมบี้ของคนตัวเล็กไม่ได้ขาดราวกับว่าทุกคำนั้นสื่อถึงตัวเองทั้งหมด พวงแก้มใสของคนถูกมองขึ้นสีน้อยๆ
“ หวงใครเหรอครับพี่เต๋าร้องเพลงนี้ “ แม๊คเอ่ยถามอย่างกวนๆเพราะรู้ว่าคนที่ถูกถามตอบอะไรมากไม่ได้ทั้งที่รู้ว่าจริงๆแล้วเต๋านั้นหวงใคร
“ ก็หวงกวาง หวงเป็ดแถวนี้แหละครับ แม๊คไม่ต้องสนใจหรอก แค่รู้ว่าพี่หวงก็พอ “ เต๋าพูดยิ้มๆ ทำเอาแม๊คที่หวังจะกวนสักหน่อยชักสีหน้าใส่ทันที
“ อย่าทะเลาะกันสิฮะพี่เต๋าพี่แม๊ค “ ริทปรามหน่อยๆ
“ เฮ้อ ผมก็ไม่อยากจะพูดอะไรมาก คชาครับพี่ขอตัวกลับก่อนละกันอยู่ไปก็เป็นก้างเปล่าๆ “ ร่างที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
“ เย็นนี้ริทก็มีธุระกับที่บ้านขอตัวก่อนละกันนะครับ “ ริทลุกขึ้นปรายตามองพี่ชายคนสนิท “ แล้วพี่เต๋าล่ะฮะ จะกลับบ้านยัง “
ร่างสูงส่ายหน้าเล็กน้อย “ ริทกลับไปกับแม๊คละกันนะ พี่จะให้คชาช่วยสอนกีตาร์อีกนิดหน่อย “
ริทเบะปากเล็กน้อย แต่ก็โบกมือลาทั้งคชาและเต๋าเดินนำแม๊คออกไปแต่โดยดี แม๊คที่ยังคงหงุดหงิดก็โบกมือลาเช่นเดียวกันพลางเดินตามริทออกไปนิ่งๆ เสียงหัวเราะจากในห้องยิ่งดังเท่าไหร่ก็ดูเหมือนว่าคนข้างนอกก็จะยิ่งเจ็บเป็นสองเท่า รถหรูของแม๊คเคลื่อนตัวออกช้าๆท่ามกลางความเงียบสงัด
"พี่แม็คครับ.. พี่น่ะ สนใจคชาใช่ไหมล่ะ ผมดูออกนะ"
แม็คหลุดขำเบาๆขณะที่มีทั้งสองกำลังบังคับพวงมาลัยอยู่ " โดนจับได้ซะแล้ว "
ริทยกแขนตัวเองขึ้นมากอดอก "ถ้างั้น..ผมว่าเรามีเรื่องต้องคุยกันหน่อยแล้ว" เจ้าของร่างแบบางคล้ายผู้หญิงยิ้มเจ้าเล่ห์
Talk with writer ♥
สวัสดีฮับ รีดเดอร์ที่น่ารักทุกคน รู้สึกว่าหายไปนานมากๆกับฟิคเรื่องนี้ ขอบคุณนะคะที่ยังรอกันอยู่เสมอ ถึงแม้ว่าช่วงนี้คนแต่งจะยุ่งและตันมาก พวกเราก็ยังจะพยายามแต่งฟิคเรื่องนี้ต่อไป เรื่องนี้ไม่ได้ทิ้งนะคะ ยังอัพอยู่แต่จะช้านิดนึง ขอบคุณทุกๆคนที่คอยเตือนคอยทวงพวกเรานะคะ รีดเดอร์ทุกคนคือกำลังใจของมิลลิกรัมนะคะ รักคนอ่านสุดๆไปเลยค่า ^^ ; มิล
Ps. 1 คอมเมนท์ = 1 กำลังใจนะคะ ♥
ความคิดเห็น