คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : CHAPTER 11
CHAPTER 11
แสงอาทิตย์สาดส่องตัดกับท้องฟ้าสีฟ้าสดใสเป็นที่สุด เป็นวันที่มีอากาศดีเหมาะกับเที่ยวอย่างยิ่งและก็ได้เที่ยวจริงๆ เพราะเป็นวันที่น้องๆทุกคนต้องไปเข้าค่าย เฮฮฮ! เวลาหกโมงเช้าแบบนี้มีไม่กี่วันเท่านั้นที่จะมีนักศึกษาเดินไปเดินมากันให้ควักขนาดนี้ นักศึกษารูปลักษณ์ต่างกันถือกระเป๋าคนละใบสองสองใบ สำอางหน่อยก็ถือมากหน่อย ห่ามๆถึกๆดิบๆก็ถือน้อยหน่อยแตกต่างกันออกไป ร่างเล็กติดจะบอบบางของริทยืนหันรีหันขวางอยู่บริเวณทางเดิน ดวงตาสดใสเที่ยวมองหาคนคุ้นเค้ย และก็เจอร่างเล็กรีบเดินเข้าไปหารุ่นพี่หนุ่มอย่างเศรษฐพงษ์ทันที
.
“ พี่เต๋าวันนั้นหายไปไหนมาฮะ ริทรอตั้งนานน “ เสียงเจื้อยแจ้วของริทดังก้องบริเวณใต้ตึก
“ พี่ขอโทษจริงๆนะครับริท พอดีคุณแม่พี่ตามให้กลับบ้านด่วนน่ะครับ “ ร่างสูงขาวของเต๋ากล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ โทรไปก็ไม่รับด้วยนะ ริทนึกว่าพี่เต๋าทิ้งริทไปหาคนอื่นซะอีก “ กลีบปากเล็กน่าทะนุถนอมของริทเม้มเข้าหากันอย่างเคืองๆ
“พี่จะไปหาคนอื่นได้ยังไงล่ะครับ ริทเชื่อพี่ใช่มั้ย? “
“ ฮะ ริทเชื่อพี่เต๋า ^ ^ “
“ งั้นก็หายโกรธพี่นะครับ “ ริทพยักหน้าหงึกหงักให้กับคำพูดของร่างสูงสองสามที มือเล็กของริทคล้องเข้ากับแขนอุ่นของรุ่นพี่หนุ่มเตรียมลากให้ไปขึ้นรถบัสแต่ก็ต้องชะงักเมื่อมีร่างหัวเห็ดมียืนขวางซะก่อน
. “ มึง อ่ะนี่ตังค์ค่าหมูปิ้ง “ คชายื่นเงินมาตรงหน้าร่างขาวเรืองแสง “ รับตังค์ไปสิ ยืนนิ่งเป็นหุ่นอยู่นั่นแหละ “ ร่างเล็กสำทับเมื่อรุ่นพี่สุดหล่อยืนนิ่งเป็นหินไปซะแล้ว จะไม่ให้เป็นหินได้ยังไงก็ตอนนี้มันอยู่ในวิกฤตแล้วนี่ ข้างๆก็ริท ช้างหน้าก็คชา แล้วเศรษฐพงษ์จะทำยังไงดี? ร่างสูงทำปากจู๋ทำเสียงชู่วว แปลได้ประมาณว่า
‘ ไอ้แสบ อย่าพูดนะ! ‘ แต่คงต้องเสียใจกับเต๋าด้วยจริงๆเพราะคชาดันไม่เข้าใจเสียนี่ คนตัวเล็กดันไปคิดว่าเต๋าคงงงหรือลืมมากกว่า
“ ค่าหมูปิ้งไง หมูปิ้งเมื่อวานอ้ะ เอ้า ทำหน้างงอีกงงทำไม ก็หมูปิ้งเมื่อวานเย็นไง “ จบ จบแล้วชีวิตของเศรษฐพงษ์ รุ่นพี่หนุ่มค่อยๆหันหน้าไปทางริท แล้วก็ ตู้มมมมมมมมมมม เกิดเป็นโกโก้ครั้นช์ ไม่ใช่สิ เละเป็นโกโก้ครั้นช์แช่นมเลยทีเดียว ริทในตอนนี้นี่ดูก็รู้ว่าอารมณ์แย่สุดๆยังคงนิ่งไม่ไหวติง เต๋ากลืนน้ำลายดังเอื้อกแต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ยื่นไปเก็บเงินสักที
“ อะไรของมึงวะ ไม่เอาก็ไม่เอา กูไปก็ด้ะ “ แล้วเจ้าตัวดีก็เดินถือกระเป๋าไปขึ้นรถ ทิ้งให้เต๋าเผชิญกับริทตามลำพัง
“ ริท.. คือ พี่อธิบายได้นะครับ “
“ อธิบายอะไรหรอฮะ? ป่ะ พี่เต๋าไปดูประกาศสีกันเหอะ “ ร่างสูงขาวงงเล็กน้อยกับคนข้างๆ ที่ตอนแรกดูเหมือนจะโมโหแต่ตอนนี้กลับยิ้มน่าเริงราวกับไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น แต่เต๋าก็ยอมให้ริทดึงไปโดยดี ในใจก็รู้สึกดีเหมือนกันที่ไม่ต้องพูดอะไรออกไป “ อ่ะเอ่อ ครับๆ “
รุ่นพี่ปีสองทั้งหลายที่จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบน้องๆในการไปเข้าค่ายตัดสินใจว่าจะแบ่งน้องๆปีหนึ่งและรุ่นพี่ออกเป็นสามสีเพื่อให้ง่ายต่อการทำกิจกรรม ซึ่งก็คือ สีเขียว สีแดง และ สีน้ำเงิน โดยจะทำการสุ่มและแบ่งจำนวนคนออกเท่าๆกัน และคละกันโดยใช้คอมพิวเตอร์สุ่มดังนั้นเพื่อนก็อาจจะแยกกับเพื่อนได้ เป็นการให้น้องๆเข้าหารุ่นพี่มากขึ้นด้วย
“ เอาล่ะครับน้องๆ รีบมาดูชื่อที่บอร์ดตรงนี้แล้วไปขึ้นรถบัสตามสีด้วยนะครับ “ เสียงของรุ่นพี่สักคนตะโกนดังออกมา ทำให้น้องปีหนึ่งและบรรดารุ่นพี่ปีสองถึงสามรีบรุดเข้าไปดูทันที ริทใช้ความตัวเล็กมุดเข้าไปในวงอย่างง่ายดาย แต่เจ้าตัวออกมาพร้อมใบหน้าไม่ค่อยแจ่มใสเท่าที่ควร ร่างแบบบางพาตัวเองเดินเข้ามาหารุ่นพี่สุดหล่อที่ยังคงไม่สบายใจช้าๆ
“ พี่เต๋า ริทอยู่สีเขียวแหละ “
“ อ่าครับ แล้วพี่? “
“ สีน้ำเงินฮะ อยู่กับคชาอ่ะ “ คำว่าโชคดีคงเหมาะกับเต๋าในตอนนี้มาก ถึงร่างสูงจะยังคงนอยด์เรื่องริทอยู่แต่ก็ยังดีที่ที่ได้อยู่กับไอ้แสบตัวป่วน
“ อ้อ โอเคครับ งั้นเดี๋ยวริทไปขึ้นรถนะครับ สีเขียวเริ่มเช็คชื่อกันแล้ว “ ริทพยักหน้าลงพลางยิ้มกว้างให้กับเศรษฐพงษ์ ร่างสูงยิ้มให้บางๆขณะที่เดินแยกกับริทไปขึ้นรถบัสประจำสีของตัวเอง ขาสองข้างของเต๋าหยุดลงที่ที่นั่งบนรถบัสสีน้ำเงินที่มีเด็กตัวเล็กนั่งอยู่ริมกระจก
“ นั่งด้วยนะ “ เต๋าบอกคนตัวเล็กพลางล้มตัวนั่งลงแต่คชาที่เสมองออกไปนอกหน้าต่างก็เหมือนยังไม่เห็นบวกกับเฮดโฟนอันใหญ่ที่ครอบหัวอยู่ทำให้คนตัวเล็กไม่ได้ยิน เต่ายู่หน้าลงเล็กน้อยๆ มือขาวๆเอื้อมือไปดึงเฮดโฟนอันยักษ์ออกจากหู
“ เฮ้ย ไรวะ อ้าว มึงนี่เองนึกว่าใคร “ ร่างบางที่ถูกดึงอวัยวะชิ้นที่33ลงหันควับมาทันทีเหมือนจะด่าแต่ก็เงียบไปเมื่อรู้ว่าใครมานั่งข้างๆ
“ พี่เอง ขอนั่งด้วยนะ “ เต๋ายิ้มส่งยิ้มแมวๆไปให้ตามเคย
“ นั่งก็นั่งดิ ใครว่าอะไรล่ะ แล้วเมื่อเช้าอ่ะทำไมไม่ยอมรับตังค์วะ ให้ยืนจังก้าอยู่ตั้งนาน “ ร่างเล็กที่นั่งหน้ายุ่งคิ้วผูกโบว์อยู่ข้างๆหันไปมองหน้าไอ้รุ่นพี่รูปหล่อข้างๆตรงๆ
“ ก็เมื่อเช้า.....ริทอยู่น่ะ “
“ อะอ๋อ เข้าใจแล้ว แสดงว่าริทไม่รู้ใช่มั้ยว่ามึงหากูเมื่อวานน่ะ เยี่ยมเลยว่ะ “ ใบหน้าเรียวเล็กหัวเราะขึ้นมาอย่างฝืนๆ
“ชาครับ พี่ขอโทษนะ “ใบหน้าหล่อเหลาเจื่อนลงเล็กน้อยฝ่ามือหนาวางปุลงบนหัวทุยๆพลางลูบไปมาช้าๆ
“ ไอ้บ้า ขอโทษทำไมวะ มึงไม่ได้ทำอะไรผิดนี่ “
“ ก็แค่อยากขอโทษ รู้ไว้ก็พอน่า “ มือหนาขยี้หัวทุยๆกลมๆไปมาอย่างมันส์มือ คชาหันมายู่ปากให้เล็กน้อย
“ แต่พี่งงนิดนึง ริทเค้าเหมือนจะโกรธพี่แต่พอพี่คุยเค้าก็ทำเหมือนไม่มีอะไร นี่แปลว่าอะไรเหรอ? เค้าแบบนี้ประจำรึเปล่า? “
“ ก็ไม่รู้สิ ปกติไม่เคยทำแบบนั้นกับกูนะ “
“ หรอ... “
“ ไม่โกรธก็ดีแล้วนี่นา ใช่มั้ย? ง่วงว่ะ เมื่อคืนตื่นเต้นนอนไม่หลับอ้ะ ถึงแล้วปลุกด้วยนะ “ เต๋าพยักหน้าลง แพขนตาสีดำกระทบเปลือกตาล่างบ่งบอกได้ว่าเจ้าของใบหน้าสวยเข้าสู่ห้วงนิทราเป็นที่เรียบร้อยโดยมีไหล่แน่นต่างหมอนเป็นที่อิง
ใช้เวลาเกือบสี่ชั่วโมงกับการที่รถบัสจะเดินทางจากกรุงเทพมาจนถึงจ.นครราชสีมา ต้นไม้สีเขียวขจีขึ้นอยู่รายล้อมลานกว้างบริเวณข้างหน้าโรงแรมกว้าง บรรยากาศดีๆของเขาใหญ่พาให้นักศึกษาบันทึกภาพเก็บไว้เป็นพัลวัน รสบัสสามคันที่แบ่งเป็นสีต่างๆค่อยๆจอดเรียงรายกันอย่างเป็นระเบียบ บรรดานักศีกษาในชุดง่ายๆสบายๆทยอยลงจากรสบัสทีละคนสองคน บางคนที่เผลอหลับระหว่างทางก็ค่อยๆถูกปลุกลงจากรถ จนในรถบัสคันที่สองหนุ่มเต๋าคชานั่งมาไม่เหลือใคร เต๋าหันไปมองคนตัวเล็กที่นอนพิงไหล่ตัวเค้าเองหลับอยู่ด้วยรอยยิ้ม นัยน์ตาคมพินิจไปตามโครงสร้างใบหน้าได้รูปเริ่มจากขนตาเป็นแพสีดำขลับพลางจินตนาการถึงดวงตากลมโตสุกสกาวที่อยู่ใต้เปลือกตาสีมุกที่เวลาลืมตาขึ้นมักจะส่งสายตาทะเล้นเปี่ยมไปด้วยความสดใสมาให้เขาเสมอ สันจมูกเป็นสันสวยอย่างไม่ต้องทำปลายจมูกดูรั้นบ่งบอกความรั้นความดื้อของเจ้าตัวได้เป็นอย่างดี เลื่อนมาจนถึงกลีบปากเล็กที่เจ่ออกมาเล็กน้อยได้รูปสวย ริมฝีปากที่มักจะเปล่งคำหยาบคายออกมาเสมอไม่ได้ทำให้ริมฝีปากสีเชอรี่สดน่าจูบลดลงเลยสักนิดเดียว เต๋าเอื้อมมือไปโอบรอบไหล่ของคนตัวเล็ก แรงดึงดูดบางสิ่งบางอย่างดึงให้เต๋าขยับหน้าเข้าไปใกล้ริมผีปากน่าจูบนั้นเรื่อยๆ ค่อยๆขยับเข้าไปทีละนิด ทีละนิด จนลมหายใจร้อนๆสัมผัสโดนผิวใส
“ งื้ออ มึงทำอะไรเนี่ย “ เป็นคนตัวเล็กนั่นเองที่ตื่นขึ้นมาได้ถูกเวลาแบบสุดๆ ดวงตาเรียวรีกระพริบตาสองสามที เพื่อปรับสายตาให้ชินกับแสง สองมือผลักอกแกร่งของเต๋าออกอย่างงัวเงีย ดวงหน้าเล็กหันมองซ้ายขวาก็พบว่าไม่มีใคร ร่างแบบบางกะลีกุจอลุกขึ้นเก็บหูฟังและขนมที่ไม่ได้แตะเลยเก็บเข้ากระเป๋าเป้ใบใหญ่ที่ตอนนี้อยู่ในมือชองรุ่นพี่ร่างสูงเรียบร้อยอย่างเร่งรีบ
“ ปละ..เปล่า พี่แค่กำลังจะปลุกชาน่ะครับ “
“ งืมมม คนลงหมดแล้วนี้ รีบลงเลยนะมึง ไม่อยากโดนทำโทษอ้ะ “
“ งั้นก็รีบลงเลย เดี๋ยวพี่ถือเป้ให้ “ ร่างเล็กพยักหน้าหงึกหงักก่อนกึ่งวิ่งกึ่งเดินนำลงจากรถบัส ทั้งสองคนเป็นที่จับตามองของบรรดาชาวแคมป์รับน้องแห่งนี้เพราะทุกคนนั่งตามสีกันเรียบร้อยแล้ว รวมถึงสายตาของริทด้วยเช่นกัน หากว่าเป็นรุ่นน้องคนอื่นคงไม่พ้นโดนด่าและโดนทำโทษแน่นอน แต่เพราะคชามีพี่รุ่นพี่ว๊ากสุดหล่ออย่างเต๋าเดินตามมาๆติดๆ รุ่นพี่ปี2ผู้เป็นผู้ควบคุมแคมป์นี้เลยต้องหุบปากแบบเงียบสนิทเลยทีเดียว
“ เอาล่ะค่ะ มากันครบทุกคนแล้วเนอะ พี่ขอแนะนำเหล่าสต๊าฟกันก่อนละกันนะคะ “ เสียงกึ่งจะจิกของรุ่นพี่ปี3 อย่างซานิ ดึงดูดความสนใจของรุ่นน้องได้เป็นอย่างดี
“ พี่ชื่อซานินะคะ เป็นแกนนำแคมป์นี้ มีอะไรถามพี่ได้นะคะ “
“ สวัสดีครับ พี่ชื่อพี่ต้นเป็นรองแกนนำแคมป์ครับ “ เสียงทุ้มของพี่ต้นดังขึ้นมาตามมาด้วยเหล่าสต๊าฟปี2ทุกคนเช่น พัดชา นัททิว แต๊ก กี๋ นัท แม็ค บอส ต้อล และอีกมากมายตามแบบการรับน้องคือมีความสนุกสนานเฮฮาจนมาถึงคิวของรุ่นพี่ปีสามกันบ้าง
“ สวัสดีครับ พี่ชื่อพี่กรีนอยู่ปีสามเฮฮาสปาเกตตี้เฟรนด์ลี่วีว่ามาก มีอะไรถามได้นะครับ น้องปีหนึ่งทั้งหลาย “ พี่ปี3อย่างกรีนเรียกได้ว่าเป็นหัวหน้าของพวกปี3ในแคมป์นี้เป็นคนแนะนำพี่ปี3ที่มาด้วยทุกคนด้วยตัวเองโดยแฝงฉายาและเอกลักษณ์ของคนๆนั้นไปด้วยไล่มาจนถึงคนสุดท้ายของแถวอย่างเศรษฐพงษ์
“ ส่วนคนสุดท้าย ชื่อมันชื่อเต๋านะครับ อ้อ เรียกเต๋าหล่อก็ได้ครับเพราะในแคมป์นี้มี2เต๋า เต๋าหล่อกับเต๋าไม่หล่อ “ เรียกเสียงหัวเราะจากรุ่นน้องได้ทันทีกับคำของกรีนที่บรรยายถึงเต๋าปี2เทียบกับรุ่นพี่สุดหล่อซึ่งเทียบไม่ติดแน่นอน แกนนำปี3วางระเบิดต่อทันทีตามไสตล์โดยการมองไปที่ร่างเล็กของริทและคชาที่นั่งตามกลุ่มสีอยู่อย่างจงใจ “ ไอ้นี่มันหล่อมากครับเป็นหน้าเป็นตาของพวกเราชาวปีสาม น้องปีหนึ่งชอบตรึม จริงไม่จริง? “
เด็กๆปีหนึ่งพากันพยักหน้าไปตามๆกันเพราะรู้ถึงความฮอตของเศรษฐพงษ์มาบ้าง เป็นอันจบการแนะนำตัวซึ่งซานิและต้นเข้ามาช่วยอธิบายกฏและกำหนดการของการอยู่แคมป์นี้ เรียกได้ว่าเป็นความโชคดีของนิเทศปีหนึ่งปีนี้อย่างยิ่งเพราะปีนี้มาจัดรับน้องกันที่โรงแรมในเครือธุรกิจของพี่แม็คปีสองที่อำนวยความสะดวกแบบจัดเต็มให้อยู่กันอย่างสบายๆ
“ เอาล่ะครับ หลังจากรู้เรื่องต่างๆของแคมป์เรา ก็มาเริ่มกันเลยครับ ปีสองออกมาๆ “ พี่ปีสองค่อยๆเดินออกมาโดยที่ในมือมีตระกร้าที่บรรจุฉลากสีขาวมาให้น้องปีหนึ่งหยิบกันคนละใบ
“ ที่อยู่ในมือน้องๆนะครับ ก็คือฉลากพี่รหัสซึ่งข้างในจะมีคำใบ้ของรุ่นพี่ปีสองคนนั้นๆอยู่ อ้อ ยังไม่ต้องรีบหาครับ เดี๋ยวพี่จะมีเวลาให้หา ตอนนี้เดาไปก่อนนะครับว่าใคร “ ต้นกล่าวบอกน้องเฟรชชี่ที่ตอนนี้กระตือรือร้นอยากจะตามหาพี่รหัสตัวเองกันยกใหญ่ คชาก็ด้วยเช่นกัน
“ คำว่า ‘ หล่อ ‘ ปีสองมีใครหล่อด้วยหรอวะ เบนมึงช่วยกูคิดหน่อยเด้ “ นิ้วเล็กๆสะกิดเพื่อนในคณะที่สนิทกันมาพักนึงอย่างเบนที่ได้มาอยู่สีเดียวกันให้ช่วยคิด
“ กูงอนมึงละ แม่ง กูจะนั่งด้วยขึ้นช้าแป๊บเดียวให้พี่เต๋านั่งเฉยเลย ตัดเพื่อนเว้ย “
“ อะไรว้า ก็มันมานั่งเองอ้ะ “
“ มึงก็ไม่กล้าไล่พี่เค้าอยู่ดี ไอ้เพื่อนเลว “
“ โห่วววว ไอ้เบนแค่นี้ต้องด่ากูเลยเหรอวะ เลิกงอนแล้วมาช่วยกูคิดเลยก่อนจะโดนตีน “
“ เออๆ ก็ได้ ของมึงได้คำว่าไรวะ ของกูได้ ‘ อ่อน ‘ ว่ะ “ ตึ้บไม่แพ้กันเลยเพราะคำใบ้ที่ทั้ง2คนได้มาไม่ค่อยนำไปสู่พี่รหัสสักเท่าไหร่
“ ของกูได้หล่อ ช่วยได้มากว่ะแม่ง “
“ หล่อก็ยังดีนะเว้ย แม่งหล่อไม่เยอะหรอกแคมป์เนี้ย นั่นไงหนึ่งหล่อมองมึงอยู่นั่น “ คชาหันขวับไปตามทิศทางที่เบนบอกทันที สายตาเรียวรีผสานเข้ากลับสายตาของรุ่นพี่หนุ่มอย่างไม่ทันตั้งตัวทำเอาคนตัวเล็กต้องเบือนหน้าหนีแทบจะในทันที
“ ไอ้บ้าเบน พี่รหัสมันปีสอง ที่มึงให้กูดูน่ะปีสามนะเว้ย “
“ กูรู้แล้ว ก็กูเห็นพี่เค้าส่องมึงตั้งนาน “
“ เอออออ ไปๆพี่ซานิเรียกละ เดินไปเลยนะมึง “ ขาเล็กๆติดใหญ่ที่น่องเตะป้าบเข้าที่ขาโปร่งของเบนให้เริ่มเดินไปยังกลุ่มสีน้ำเงินที่รวมตัวกันอยู่ใกล้ๆกับสีอื่นๆทันที
“ น้องๆเราจะมาเริ่มเข้าฐานกันก่อนนะคะ สีน้ำเงินเดี๋ยวไปฐานเจ้าพ่อกุ๊กไก่ สีเขียวไปฐานรัก สีแดงไปฐานแรนดอมกันเลยจ้า ทุกคนอย่าลืมที่พี่บอกไว้ตอนแรกนะ ระหว่างทางออกจากฐานทุกคนในสีจะโดนปิดตาและห้ามปล่อยมือกันนะ ถ้าใครหลุดต้องกลับไปเข้าฐานใหม่ ปีสามกับปีสองรวมกลุ่มกับน้องได้เลยค่า “ สิ้นเสียงชองซานิ รุ่นพี่ปีสองและสามที่มีหน้าที่ของตัวเองไม่ว่าจะเป็นสต๊าฟประจำฐานหรือสต๊าฟที่คุมน้องในสี เต๋าที่ทำในส่วนคุมเด็กๆสีน้ำเงินก็มาหยุดยืนคว้ามือคชาเข้าไปจับหมับทันที
“ ใครมาจับมือกูวะ ปล่อยนะมึงง “ เสียงโวยวายหงุงงิ้งดังขึ้นเบาๆ ด้วยคชาที่โดนปิดตาด้วยผ้าสีน้ำเงินเรียบร้อยยืนเป็นคนสุดท้ายของแถวเลยไม่คิดว่าจะมีใครมาจับมือตัวเอง มือเล็กๆสะบัดไปมา2-3ทีแต่ก็ไม่เป็นผล
“ อย่าโวยวายสิชาแล้วก็จับมือเพื่อนไว้ด้วย ถ้าปีสองทำโทษเราพี่ไม่รู้ด้วยนะครับ “ เสียงอุ่นนุ่มคุ้นเคยของรุ่นพี่หนุ่มบอกได้ทันทีว่าใครเป็นคนจับมือร่างเล็กไว้ คชาที่ไม่มีโอกาสจะเถียงจับมือเบนไว้หลวมๆ ข้างนึงจับเบนแน่นอนว่าไม่เป็นไรเพราะยังไงก็เพื่อนกันแต่อีกข้างเนี่ยสิ…
“ แล้วมึงจะจับแน่นทำไมวะเนี่ย อึดอัดโว้ยยยยยย “ มือเล็กพยายามสะบัดออกแรงๆแต่ก็ไม่สำเร็จ
“ จับไว้เถอะน่า เดี๋ยวเผื่อคชาหลงไง “
“ หลงพ่องงงงง เค้ามาเป็นกลุ่มครับพี่ครับ “ คชาโวยวายแต่เต๋าก็ไม่ยอมปล่อยมีอยู่ดี คนตัวเล็กหยุดโวยวายต่อทันทีเมื่อได้ยินเสียงคล้ายเอฟเฟ็กต์ระหว่างทางเดิน เป็นเสียงลม เสียงผู้หญิงร้องไห้ เสียงไก่ เสียงหัวเราะ คล้ายโดนจับเข้าเล่นบ้านผีสิง และรุ่นพี่สต๊าฟปีสองก็จะเริ่มเล่าประวัติของเจ้าพ่อกุ๊กไก่
“ ก่อนที่จะปิดตา พี่จะเล่าให้ฟังถึงเจ้าพ่อกุ๊กไก่ที่เราจะมาสักการะนี้กันนะครับ เดิมท่านเป็นกะเทยที่อยากแปลงเพศ เลยขโมยเงินจะไปศัลยกรรมทำนมแต่ทำไม่ได้ เสียใจผูกคอตายใต้ต้นไม้เป็นที่มาของเจ้าพ่อกุ๊กไก่ น้องๆแกะผ้าปิดตาออกได้เลยครับ “ พอจบคำบรรยายน้องปีหนึ่งในขบวนก็มีหลุดขำมาบ้าง พอเอาผ้าปิดตาออกก็จะเห็นว่ามีลักษณะคล้ายๆศาล บริเวณนี้เป็นเหมือนซุ้มศาลเล็กๆ มีม่านสีดำกั้นอยู่
“ ข้างหน้าของน้องๆนะครับ คือศาลของเจ้าพ่อกุ๊กไก่ ถ้าเจ้าพ่อพูดอะไรก็ห้ามขำนะครับใครขำเจอน้ำมนต์นะครับ “ พอรุ่นพี่สต๊าฟพูดเสร็จพี่ปีสองที่เหลือก็เดินถือถังน้ำมาคนละใบ ซ้อนอยู่บริเวณด้านหลังของพวกปีหนึ่ง และก็ถึงเวลาสำคัญม่านสีดำถูกเปิดออกและรุ่นปีหนึ่งหลุดขำพรืดออกมากันหมด อย่างที่บอกว่าใครขำจะต้องโดนน้ำมนต์สาดซึ่งมันไม่ใช่น้ำมนต์แต่มันเป็นน้ำเย็นเฉียบ ชนิดที่ว่าโดนไปแล้วทำเอาผู้ชายกรื้ดได้เลยทีเดียว พอสาดไปน้องปีหนึ่งก็แตกตื่นกันทันที ผู้ชายที่ไม่ชายก็มีหลุดกรื้ดกันออกมามาบ้าง เพราะคนที่อยู่ตรงหน้าเป็นรุ่นพี่คนนึงในแคมป์นี่แหละ พี่ท่านใส่ชุดขาวแว่นดำทาปากสีแดงและห้อยลูกประคำด้วย ใครไม่ขำคงจะยากหน่อย
“ ใครลบหลู่เจ้าพ่อ !!! “ เสียงพากย์ดังขึ้น ไม่ได้เป็นเสียงเจ้าพ่อแต่อย่างใด ด้านหลังมีคนพากย์อยู่ ซึ่งเจ้าพ่อก็พูดเรื่องราวของท่านไป ด้วยท่าทางตลกๆ น้องคนไหนที่หลุดขำออกมาก็โดนน้ำมนต์สาดจนตัวเปียกม่อล่อกม่อแล่กกันเกือบหมด เสื้อสีน้ำเงินล้วนลู่ไปตามรอบตัวของคชาอย่างห้ามไม่ได้
“ เมื่อวันก่อนนู้นน่ะ เจ้าพ่อได้มีโอกาสดูคลิปสงกรานสีลมมา พ่ออยากดู....ไหนออกมาเต้นให้พ่อดูหน่อยซิ “ สิ้นคำของเจ้าพ่อ น้องปีหนึ่งหล่อ 2-3 คนซึ่งมีเบนด้วย ก็โดนลากไปข้างหน้าเต้นกันสนุกสนานเป็นอันจบฐานเจ้าพ่อกุ๊กไก่ บรรดาน้องๆปีหนึ่งได้ความสนุกสนานและเปียกกันไปถ้วนหน้า ยังไม่ทันจะไปฐานอื่นต่อเสียงนาฬิกาบอกเวลา 12.00 น. ก็ดังขึ้นบรรดารุ่นพี่ทั้งจึงต้องพักการเข้าฐานแล้วให้น้องๆกลับเข้ามารววมกลุ่มตั้งแถวกันเพื่อกินข้าวก่อน
“ หิวยังค้าปีหนึ่งงง? “
“ หิวค่า / หิวครับ /หิวว “ เสียงตอบหิวของน้องปีหนึ่งดังระงมเนื่องด้วยบางฐานก็ต้องใช้แรงมากบางฐานก็ต้องใช้แรงน้อยแตกต่างกันไป
“แหม่ มาถึงค่ายนิเทศทั้งที จะให้ยืนต่อแถวเป็นลูกเป็ดเฉยๆก็เห็นว่าจะไม่พอ..”สต๊าฟคนสวยตะโกนลั่น
“มึงรู้ไหม.. บางทีกูก็อยากเป็นลูกเป็ดนะ” คชากระซิบแผ่วชิดหูเบน
ไม่นานนักรุ่นพี่ปีสองก็ยกกลองยาวออกมาตั้ง ซานิยังคงทำหน้าที่ตะโกนอธิบายเกมส์เล็กๆน้อยๆก่อนทานอาหารกลางวัน ทำเอานักศึกษาผู้ชายถึงขั้นแขยงกันไปโดนปริยายก็เพราะว่า รุ่นน้องปีหนึ่งต้องออกไปเต้นควีโยมิแอ๊บแบ๊วเพื่อแย่งชิงอาหารน่ะสิ่ ให้ตายสิ่ สำหรับคชาแล้วการได้นั่งดูนักศึกษาหญิงออกไปเต้นก็กระชุ่มกระชวยไปอีกแบบ แต่พอถึงคราวตัวเองต้องออกไป ความรู้สึกกระชุ่มกระชวยก็หายวับไปกับตาทันที คชาเกาะหลังเบนแน่น
“เวรกรรมอะไรของกูวะเนี่ย..” คชาบ่นอุบ
“เดี๋ยวครับๆ น้องหัวเห็ดอ่ะครับ..” คชาสะดุ้งตามเสียงของพี่ต้น “พี่มองไม่เห็นน้อง ขยับออกมาหน่อย”
“ฮื่ออ..” คชาครางฮื่อด้วยความเขินอาย ให้ตายเถอะ เสียชาติเกิดชะมัด
ซานิหัวเราะร่าราวกับมีความสุขเสียเต็มประดา “ ยิ้มกว้างๆนะจ๊ะหนุ่มๆ เอ้า! หนึ่ง! สอง! สาม!”
เสียงกลองจังหวะมั่วๆดังขึ้น คชากลั้นหายใจแน่น รู้สึกตอนนี้หน้าตัวเองร้อนผ่าวๆจนแทบไหม้ ดนตรีเพลงควีโยมีถูกเปิดใส่โทรโข่งอันใหญ่จนดังก้อง และดูเหมือนอาการเหล่านี้ไม่ได้เป็นแค่คชาคนเดียว นักศึกษาชายดูจะเกร็งกันทุกคน จนกระทั่งเพลงจบมีเพียงคชาคนเดียวที่ยังยืนนิ่งไม่ยอมขยับแม้แต่ปลายนิ้ว แม้แต่เบนก็ยังยอมทำแบบงกๆเงิ่นๆ
“อ้าวๆ น้องหัวเห็ดคนนั้นอ่ะค่ะ ทำไมไม่ยอมทำล่ะคะ”เสียงซานิแหวลั่น คชาเบ้หน้าด้วยความรู้สึกอยากตาย ขาเพรียวๆกระทืบเท้าปึงปังเหมือนเด็กน้อยโดนแกล้ง “ ไม่เอาอ่า โฮรรรร ”
“ไม่ได้นะคะ ไม่ได้นะ เอาล่ะน้องคนอื่นไปรับข้าวได้ค่ะ ส่วนน้องหัวเห็ดคนนั้น.. ยืนอยู่ตรงนั้นค่ะ”
คชาอ้าปากค้างกระพริบตาปริบๆ มือบางพยายามคว้าคอเบนไว้ราวกับจะหาตัวช่วย แต่เพื่อนรักกลับหักเหลี่ยมโหดเสียอย่างนั้นสะบัดคชาทิ้งราวกับขยะกองโต ไม่นะ คชาอ้างว้าง ฮืออ สายตาทุกคนในห้องอาหารจับจ้องมาที่เด็กหนุ่มตัวบางที่ยืนอยู่หน้าห้องอาหารอยู่คนเดียว ไม่รู้ว่าเป็นเพราะใบหน้าแดงก่ำเหมือนจะร้องไห้นั่นหรือว่ารุ่นพี่หลายคนกำลังรุมแกล้งกันแน่ที่ทำให้เจ้าตัวถูกจ้องขนาดนี้
“ ทำใหม่ค่ะ เร็วเลย พี่หิวแล้ว ขอน่ารักๆนะ เอาแบบแอ๊บแบ๊วโลกเบี้ยวเลยนะ”
“ พี่ฮะ ไม่อาวววว ” คนตัวเล็กเริ่มงอแง
“เอาล่ะค่ะ มิวสิก!!”
.
“ฮันนุน พัลจิมา นูกา มวอเรโด แนกอ แนกอ
อย่ามองคนอื่นนะ ไม่ว่าอะไรก็ตาม มองแค่ฉันคนเดียวนะ”
.
เพลงท่อนแรกถูกเปิดขึ้น คชาถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเริ่มขยับตัวริมฝีปากอิ่มฉีกยิ้มกว้างเพื่อให้เข้ากับความหมายของเพลง
“ทารึน ยอจารัง มัลโด ซอกจิมา นัน นีกอ นัน นีกอ
อย่าหลงไปกับคำพูดของผู้หญิงคนอื่นนะ ฉันเป็นของคุณ ฉันเป็นของคุณ”
ดวงตาเรียวเล็กหลุบต่ำ แก้มอูมอมลมจนน่าหยิก ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาทำหน้าออดอ้อนราวกับเน็ตไอดอลเกาหลีที่
คชาชอบเข้าไปดูบ่อยๆ
“แชกี ซนการัค กอลโค กก ยักซกแฮ ชวอโย
งั้นเราเกี่ยวก้อยสัญญากันดีกว่า
ชอลแต นา ฮนจา แนพอรยอ ทูจี อัลกีโร
สัญญานะว่าจะไม่ทิ้งฉันไว้คนเดียว”
นิ้วก้อยเล็กๆทั้งสองข้างถูกน้ำมาเกี่ยวกันไว้ ใบหน้าหวานอมยิ้มน้อยๆราวกับกำลังเขินอาย แก้มใสๆนั่นขึ้นสีระเรื่อเมื่อเงยหน้าขึ้นสบเข้ากับสายตาของคนนับสิบรวมทั้งรุ่นพี่หมาบ้าคนนั้นที่กำลังมองมาด้วยแววตาตะลึงงันพอๆกับคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ริมฝีปากเขาคนนั้นยกยิ้มบาง
“อิล ทอฮากี อิลลึน ควีโยมี
1 + 1 น่ารักป๊ะ?
อี ทอฮากี อีนึน ควีโยมี
2 + 2 น่ารักป๊ะ?
ซัม ทอฮากี ซัมมึน ควีโยมี
3 + 3 น่ารักป๊ะ?
ควี ควี ควีโยมี ควี ควี ควีโยมี
น่ารักป๊ะ? นะ นะ น่ารักป๊ะ? นะ นะ น่ารักป๊ะ?
ซา ทอฮากี ซาโด ควีโยมี
4 + 4 น่ารักป๊ะ?
โอ ทอฮากี โอโด ควีโยมี
5 + 5 น่ารักป๊ะ?
ยุก ทอฮากี ยุกกึน ซก ซก ซก ซก ซก ซก ควีโยมี นัน ควีโยมี~
6 + 6 จุ๊บๆๆๆๆ น่ารักป๊ะ? ฉันน่ารักใช่ไหมล่ะ?”
“ น่ารักสิ ” เต๋าหันมองรุ่นน้องปีสองที่พูดขึ้นเบาๆข้างเขา
“ อะไรของมึงวะแม็ค ”
“ เปล่า.. ก็แค่.. ตอบคำถามน้องคนนั้นน่ะ ”
TALK WITH WRITER ♥
ควีโยมิ อร๊ายยยยยยย ภาพในคอนลอยมาเลยค่ะ >< ตอนนี้เป็นตอนที่ยาวที่สุดเท่าที่เคยแต่งมาเลย จริงๆกะไว้ยาวกว่านี้แต่ขอยกยอดไว้ตอหน้าดีกว่านะคะ ^^ ถ้าเกิดว่าเป็นการรับน้องที่แปลกๆนิดนึง ขอโทษด้วยน้า เพราะไม่เคยรับน้องเลยยย ปู่เกิ้ลซะเป็นหลักก -..- ขอบคุณที่คอยทวงเน้อออ เวลาที่ไปตามพี่เต๋าพี่คชาก็มีคนคอยทักคอยทวง ขอบคุณมากๆเลยค่า ช่วยติดตามกันต่อด้วยน้าทั้งเรื่องพี่ว๊ากและพิการ ไรท์จะพยายามขุดตัวเองมาแต่งให้ได้ (ซึ่งยากมาก) ฝากคอมเม้นท์ด้วยน้า รออ่านคอมเม้นท์ของทุกคนนะคะ เยิฟเยิฟเยิฟ ♥ - มิล
นะ นะ นะ น่ารักป้ะ > < ? ไรท์ขอบิดสิบทีด้วยความเขิน เปิดคลิปคชาเต้นไปแต่งไป โอ้ย มือไม้สั่น ฮ่าๆ ขอโทษที่ช้าค่ะ เราไถ่โทษด้วยความยาวของแช็ปนี้แล้วกันเนอะ ยาวมากเลยอ่ะ หูย ขอบคุณที่ยังตามอ่านตามทวงนะคะ ทวงบ่อยๆด้วยน้า ไรท์ชอบ โฮะๆ – ข้าวหมาก
ความคิดเห็น