คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : `` Prlogue way
the disabled way : prologue
ครืน ซ่า ครืน ซ่า
เสียงคลื่นกระทบฝั่งดังเป็นจังหวะไพเราะ ลมเอื่อยๆพัดให้บรรยากาศสดชื่นเย็นสบาย ร่างแบบบางของ
คชาสั่นไหวเล็กน้อยเมื่อถูกลมพัดผ่าน หากว่าจะบรรยายถึงรูปลักษณ์ลักษณะของร่างบางตรงหน้าคำๆเดียวที่จะให้ได้ก็คงมีแต่คำว่า ‘ น่ารัก ‘ เค้าโครงหน้าหวานได้รับมรดกตกทอดมาจากมารดาของร่างเล็กโดยตรง ดวงตากลมโตสีดำสนิทที่มีแพขนตาชุ่มน้ำล้อมรอบ จมูกโด่งได้รูปไม่รั้นเกินไปปลายจมูกมีสีแดงจางๆเล็กน้อย ริมฝีปากบางๆสีกุหลาบแรกแย้ม รวมไปถึงผิวขาวอมชมพูก็เป็นมรดกทางตรงที่ได้รับมาจากมารดาของคนร่างเล็กทั้งนั้น ผิดกับคนเป็นน้องชายที่ยืนเพิ่งเดินมาอยู่ข้างๆที่มีรูปร่างต่างจากกันแบบสิ้นเชิง ผิวคล้ำแดดและความสูงสมาร์ท ร่างบางมองน้องชายตัวดีที่อยู่ข้างๆอย่างสงสัยภายในใจ
‘ เคนท์มันสูงขึ้นเยอะเลยนี่นา อ่า..อันที่จริงเราสูงห่างกันแค่ไหนแล้วนะ? ‘
จะว่าไปก็เป็นเวลานานแล้วเหมือนกันที่คชาไม่ได้วัดเทียบความสูงกับคนเป็นน้องชายเลย อันที่จริงตอนนี้คนตัวบางน่าจะอยู่ประมาณปีสามได้แล้วหากแต่กลับตามาเรียนปีสองใหม่ด้วยเหตุผลบางอย่าง....เหตุผลที่ว่าก็คืออาการเจ็บป่วยของร่างบางนั่นเอง คชาถูกรถชนเมื่อต้นปีก่อนขณะกำลังจะไปเรียนเปิดภาคการศึกษาปีที่สองที่มหาวิทยาลัยวันแรกด้วยความประมาทรถหรือเมารถสีดำสนิทพุ่งชนคนตัวเล็กอย่างแรง ตัวคชาเองก็จำเหตุการ์ณนั้นได้เพียงแค่เลือนรางแม้แต่คนชนก็ยังจับไม่ได้ และนั่นทำให้ชีวิตของคชาเปลี่ยนไปตลอดกาล ผลจากการโดนรถชนครั้งนั้นนอกจากจะเจ็บทั่วไปแล้วคชาก็ยังคงช็อคจนรอยยิ้มกระจ่างใสหายไปรวมถึงเสียงเจื้อยแจ้วที่เคยดังจากปากคนตัวเล็กแทบไม่หยุดก็หายไปด้วยเพราะว่าขาเรียวเล็กทั้งสองข้างไม่สามารถใช้การได้อีกต่อไป คชาต้องกลายเป็นคนพิการเนื่องจากขาทั้งสองข้างเป็นอัมพฤกษ์ไป คนตัวเล็กไม่สามารถเดินได้เกิน3ก้าวด้วยซ้ำ ทำให้เป็นเวลาปีกว่าที่คชาต้องเข้ารับการรักษาทั้งด้านร่างกายและจิตใจ จนตอนนี้คชากลับมาพูดได้อีกครั้งแต่ยังคงพูดน้อยอยู่ดี
“ เฮียคชาเข้าบ้านเหอะจะถึงเวลากลับแล้วเนี่ย “ คนเป็นน้องเอ่ยถามเสียงทุ้ม
“ ฮื่อ เข้าก็ได้ เฮียก็อยากกลับบ้านแล้วเหมือนกัน “ คนเป็นพี่ชายตอบพลางยิ้มแฉ่งให้ เค้นท์ปลดล็อคล้อวีลแชร์ทั้งสองฝั่งแล้วเข็นรถวีลแชร์ที่มีพี่ชายร่างบางเข้าไปในบ้านพักตากอากาศสีฟ้าอ่อนอย่างช้าๆ
“ พรุ่งนี้แล้วนะที่เฮียจะได้กลับไปเรียนน่ะ ดีใจมั้ย? “
“ ต้องดีใจอยู่แล้วล่ะ แต่ก็ไม่อยากกลับเลยเนอะ “ ริมฝีปากเล็กๆเบ้ขึ้นอย่างน่ารัก
“ ทำไมวะ? “
“ ที่นี่บรรยากาศมันดี..อยู่แล้วมันคิดถึงเรื่องเก่าๆไง “ น้ำตาของคนตัวเล็กคลอขึ้นมาเมื่อพูดถึงเรื่องเก่าๆ
“ เอาอีกละเฮียร้องไห้อีกละ ไม่ร้องดิวะโตเป็นควายละเนี่ย “ มืออุ่นของน้องชายเอื้อมมายีหัวคนตัวเล็กอย่างแผ่วเบาๆคล้ายกับจะปลอบประโลม
“ ก็ว่า..ฮึก จะไม่ร้องแล้ว “ มือเล็กๆยกขึ้นมาปาดน้ำตาให้ตัวเองคล้ายเด็กๆ คนเป็นน้องถอนหายใจเบาๆให้กับพี่ชายตัวบางตรงหน้าสองขาเดินเลี่ยงเข้าไปในห้องนอนเพราะรู้ตัวดีว่าพี่ชายขี้แงต้องการอยู่คนเดียว
“ ฮึก...ฮือออ “ เสียงร้องไห้ของคชาดังแว่วทั่วๆบ้านพักตากอากาศหลังน้อย ถึงเวลามันจะผ่านไปแต่ก็ไม่สามารถรักษาจิตใจที่บอบช้ำของคชาให้หายขาดได้ คนตัวเล็กร้องไห้จนตัวโยนมือเล็กๆทั้งสองข้างทั้งหยิกทั้งทึ้งต้นขาตัวเองที่อยู่บนรถวีลแชร์ไปด้วยราวกับอยากให้มันกลับมาเจ็บปวดได้อีกครั้ง รอยยิ้มที่บางทีมีบนหน้าคชานั้นก็เป็นเพียงรอยยิ้มที่เจ้าตัวตั้งใจปั้นขึ้นมาเพื่อที่จะไม่ให้คนในครอบครัวอย่างหม่าม้ากับเค้นท์เป็นห่วงแต่ถ้าถามว่ายิ้มจากใจมีบ้างมั้ย? ตอบได้เลยว่าไม่มีตั้งแต่คชาตื่นมารับรู้เรื่องราวนี้ บางคราวน้ำตาของคนตัวบางก็หยดลงมาอย่างไม่มีปีมีขลุ่ยด้วยซ้ำ
เค้นท์ที่กำลังเก็บของอยู่ในห้องพยายามไม่ฟังเสียงของพี่ชายที่สะอึกสะอื้นอยู่ข้างนอกห้อง เขาลองทำทุกวิถีทางให้คชากลับมายิ้มได้อีกครั้งแต่ก็ยังคงไม่สามารถทำได้ เค้นได้แต่บอกตัวเองว่าวันเวลาจะทำให้คชากลับมายิ้มได้อีกครั้งเอง เป็นเวลากว่าครึ่งชั่วโมงน้องชายตัวดีก็เก็บของให้พี่ชายร่างบางจนหมด ขายาวก้าวออกมาพร้อมกับกระเป๋าเป้ของตัวเองและพี่ชายเต็มสองมือและก็เห็นว่าคชาหยุดร้องไห้ไปแล้วดวงตากลมโตของพี่ชายที่มีคราบจางๆของหยดน้ำตาทอดมองตรงออกไปข้างนอกบ้านเป็นภาพปกติที่เค้นท์เห็นเป็นประจำ
“เฮียเค้นท์เอากระเป๋าไปเก็บนะ รอแป๊ปนึง “ เค้นท์เดินไปพูดไป คชาพยักหน้าให้เล็กน้อยทั้งๆที่ยังมองออกไปนอกหน้าต่าง คนเป็นน้องถอนหายใจเล็กน้อยแต่ก็เอาของไปเก็บที่รถโดยดี
‘ พรุ่งนี้ต้องไปมหาลัยแล้วสินะ...เราไหวใช่มั้ย? ‘ คชาถามตัวเองในใจแต่ตัวเองก็แต่คนตัวบางก็ตอบคำถามของตัวเองไม่ได้เหมือนกัน ไม่ใช่ว่าไม่อยากปคชาก็อยากเรียนให้จบแต่คชากลัว...กลัวสายตาจากคนอื่น สายตาจากคนในคณะ สายตาจากเพื่อนรุ่นเดียวกัน รถวีลแชร์ถูกเลื่อนไปช้าๆโดยเค้นท์ คชายังคงไม่รู้ตัวเพราะยังคงจมอยู่ในมวลความคิดของตัวเองอยู่
“ เฮีย ถึงรถแล้วเดี๋ยวเค้นท์อุ้มนะ “ ร่างสูงของน้องชายเดินอเอนมาด้านหน้า แขนสองแขนช้อนตัวคชาเข้าไปในรถ คชายังเสมองออกไปนอกหน้าต่างขณะที่เค้นท์เดินเข้ามาในรถฝั่งคนขับ รถสีขาวสนิทเคลื่อนตัวออกช้าๆไปตามทาง สายตาของร่างแบบบางทอดมองออกไปยังวิวสวยๆที่ผ่านตาเข้ามา
“ I’m more than a bird...I’m more than a plane
More than some pretty face beside a train
It’s not easy to be me “
“ นี่เพลงโปรดเฮียนี่นา ” เค้นท์เอื้อมมือไปปรับ volume ขึ้นเล็กน้อยให้พี่ชายตัวเล็กที่นั่งข้างๆฟัง เสียงใสของคชาฮัมเพลงออกมาเบาๆ คำแปลของเพลงโปรดที่แวบเข้ามาในหัวทำให้คชายิ้มออก
I’m only a man in a silly red sheet
Digging for kryptonite on this one way street
Only a man in a funny red sheet
Looking for special things inside of me
Inside of me
‘ ซูเปอร์แมนเศร้าเหรอ? แต่เค้าก็ยังเป็นฮีโร่อยู่ดีนี่นา นั่นสินะ ถึงยังไงเราก็ยังเป็นคชาอยู่ดีนั่นแหละ ‘
TBC.
สวัสดีค่ะรีดเดอร์ทุกคน '/\' มิลกลับมาอีกแล้วค่ะ เรื่องนี้เป็นช๊อทฟิคนะคะไม่น่าจะเกิน 10 ตอน เป็นแนวดราม่าแบบที่มิลชอบเป็นพิเศษค่ะ แต่ว่าไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงบ้างดราม่าไปมั้ยคะ? 55555555 ยังไงก็ฝากเรื่องนี้ไว้ด้วยนะคะ
ปล.ฟิคพี่ว๊ากที่หายไปเนื่องจากมิลกดผิดเองค่ะTT อีกสักพักมิลจะลงใหม่ฝากติดตามด้วยนะคะ ♥
ความคิดเห็น