ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 1 เพราะระบบมีปัญญหา
ปี๊นๆ
ถนนที่คราคร่ำไปด้วยรถหลายร้อยคัน กำลังบีบแตรเร่งรถคันข้างหน้าของตนด้วยความเซ็งจัดหรือจะเพราะเหตุผลอื่นก็ตามซึ่งยานภาหนะทุกอย่างของที่นี่ใช้ระบบพลังงานแสงอาทิตย์ในการขับเคลื่อนยกเว้นเครื่องบิน สองข้างทางเต็มไปด้วยตึกขนาดใหญ่ และสวนสาธารณะไว้สำหรับผู้ต้องการพักผ่อน แม้มันจะงดงามแค่ไหนกลับไม่เป็นผลกับหญิงสาวคนหนึ่งเลย
"ลุงจอดนี่เลย ติดขนาดนี้ไม่ไหวแล้ว ค่ารถเท่าไหร่"เสียงเล็กแหลมถามอย่างอารมณ์เสียภายในรถประจำทาง
"อ้าวไหนตอนแรกบอกขี้เกียจ อยากนั่งไงมินนี่"หญิงสาวข้างซ้ายเหน็บระหว่างที่กำลังหวีผมสีน้ำตาลยาวของเธออยู่
"เชอะ ก็นั่นมันชั่วโมงที่แล้วนี่ ตอนนี้เปลี่ยนใจแล้ว เธอไม่ต้องมาเหน็บเลยไอที"
"แทนที่จะใช้บอร์ดซะตั้งแต่ตอนแรก จะได้ไม่เสียทั้งเวลาทั้งเงินแท้ๆ"ชายผมดำทางด้านขวาเสริมพร้อมกับใช้นัยน์ตาสีนิลจ้องอย่างต่อว่า
"เงียบไปเลยไอ้คุณโรเจอร์"มินนี่พูดพร้อมยื่นเงินให้กับคนขับรถแล้วหันนัยน์ตาสีฟ้ามาจ้องกลับ
หลังจากลงรถ ทั้งสามก็วางบอร์ดที่ไม่มีล้อไว้บนพื้นแล้วกระโดดขึ้นทันทีพร้อมกับวางเท้าหน้าเหยียบปุ่มบนบอร์ด บอร์ดค่อยๆลอยขึ้นจากพื้นประมาณ 4 นิ้ว เมื่อเข้าที่แล้วก็รีบเร่งความเร็วพุ่งทะยานฉวัดเฉวียนอย่างคล่องแคล่วไปยังจุดหมายซึ่งก็คือโรงเรียนนั่นเอง โรงเรียนที่ทั้งสามอยู่เป็นโรงเรียนอันดับต้นๆของโลก มีผู้ที่อยากเข้ามากมาย ที่นี่ไม่มีเครื่องแบบนักเรียน ให้นักเรียนใส่ชุดไปรเวทกันตามสบาย โรเจอร์เป็นนักเรียนทุนเพียงคนเดียวในกลุ่มเพราะฐานะไม่ค่อยดีเท่าไหร่นักของเขาทำให้ต้องชิงทุนเพื่อลดค่าใช้จ่ายที่นับวันยิ่งเพิ่มขึ้นทุกที
ปี๊บๆปี๊บๆ
เสียงสัญญานมือถือทำให้ทั้งสามต้องเร่งความเร็วของบอร์ด
"ซวยจริง ได้เวลาเคารพธงชาติแล้ว ขืนเอ้อระเหยมีหวัง....."มินนี่สบถต่อ
"หึ แล้ววันนี้เวรใครชักธงขึ้นก็ไม่รู้เนอะว่ามั้ย"โรเจอร์เอ่ยแซว
"ซวยยกกำลังสอง วันนี้เวรฉันเองนี่หว่า"มินนี่ว่าเสร็จเธอก็เร่งระดับความเร็วของบอร์ดเพิ่มขึ้นและเข้าหาที่หมายซึ่งไม่ไกลจากทั้งสามเท่าไหร่ ลมพัดแรงพาเอาผมสั้นสีทองสวยของมินนี่ยุ่งไปหมด
"ซวยยกกำลังสอง วันนี้เวรฉันเองนี่หว่า"มินนี่ว่าเสร็จเธอก็เร่งระดับความเร็วของบอร์ดเพิ่มขึ้นและเข้าหาที่หมายซึ่งไม่ไกลจากทั้งสามเท่าไหร่ ลมพัดแรงพาเอาผมสั้นสีทองสวยของมินนี่ยุ่งไปหมด
เมื่อเข้าถึงโรงเรียนก็มีอันจะต้องโดนสายตาคาดโทษและจิกแทงของบุคลากรในโรงเรียนโดยเฉพาะผู้อำนวยการซึ่งวันนี้ดูจะอารมณ์เสียเป็นพิเศษ คุณเธอใส่ชุดสีเลือดหมูทั้งตัวยกเว้นเสื้อเชิ้ตข้างในและรองเท้าส้นสูงที่เป็นสีดำ ผมก็เกล้าเป็นมวยตึงเปรี๊ยะ จนคนมองหลัวว่าหนังหัวคุณเธอจะหลุดออกมา แว่นตาสีชาแหลมปิ๊ววางอยู่บนสันจมูกนั่นไม่ได้ทำให้ปกปิดดั้งแบนๆหน้าบานๆของเธอได้เลย
"ขออภัยที่มาสายค่า!!!!!!"มินนี่กล่าวพร้อมโค้งให้กับผอ. แล้ววิ่งไปที่หน้าเสาธงกล่าวคำสรรเสริญส่วนสองคนที่มาด้วยก็มีอันต้องระเห็จไปเข้าแถวคนมาสาย(ที่มีแค่ทั้งสองเท่านั้น)เมื่อเคารพธงชาติเสร็จก็แยกย้ายกันเข้าห้องเรียนอย่างเป็นระเบียบ
"เดี๋ยวก่อนนางสาวมินนี่ ทอมสัน กรุณามากับฉันด้วย อ้อเธอทั้งสองคนนั่นด้วย"ผอ.เรียกด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ
ห้องผู้อำนวยการ
ตึ้ง!
'หยึ๋ย!'เสียงในใจของสองสาวกับหนึ่งหนุ่มร้องขึ้นพร้อมกัน
"นี่พวกเธอเป็นอะไรกันห๊า!!!!"
'เป็นคนค่ะ / ครับ'ทั้งสามตอบในใจ
"ทำไมถึงไม่มีความรับผิดชอบเลยทั้งที่ฉันอุตส่าห์ไว้วางใจให้ทำหน้าที่เป็นกรรมการนักเรียน เป็นหูเป็นตาให้กับโรงเรียน แต่กลับมาโรงเรียนสายไปถึง ยี่สิบนาทีสามสิบเอ็ดวินาที่อย่างนี้"
'นับด้วยเรอะ'ทั้งสามว่าในใจ
"แล้วคุณคุณโรเจอร์นักเรียนทุนอันดับหนึ่งของโรงเรียนอย่างคุณและรวมถึงเป็นประธานนักเรียนด้วย ทำไมถึงไม่คิดที่จะทำตัวเป็นแบบอย่างให้กับโรงเรียนบ้าง คุณทั้งสองคนก็พอกัน เฮ้อ!ช่างหน้าผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง ดิฉันจะขอหักจิตพิสัยของพวกคุณทั้งสามคนด้วยนะคะ แค่นี้ล่ะคะ อ้อ! และกรุณาอย่ามาสายอีกเป็นครั้งที่สองมิฉะนั้นจะเกิดอะไรขึ้นดิฉันไม่ขอรับผิดชอบนะคะ เชิญ!!"
พอออกมาจากห้อง
"หึ้ย! แล้วเมื่อคืนใครกันก็ไม่รู้เรียกให้ไปดื่มเป็นเพื่อนเพราะเพิ่งหย่ากับผัวมา แถมอ้วกอีกต่างหากต้องมานั่งเช็ดอ้วกให้ กว่าจะกลับก็เกือบตีสาม ไอ้ผอ.เฮงซวยเอ้ย"
"น่ามินนี่อย่าไปว่าอาจารย์เลย"ทีปลอบ
"เออๆ เห็นแก่เธอนะ"
"จริงสิพรุ่งนี้พวกเธอจะไปวาร์ปเล่นกันมั้ย ยังไงพรุ่งนี้ก็วันหยุดพิเศษอยู่แล้ว"ไอทีชวน
"ไปสิไป ถ้าไปกับเธอล่ะก็ไม่ต้องจ่ายค่าวาร์ปกับค่าจ้างไกด์นี่เนาะ แถมวาร์ปเมื่อไหร่ก็ได้วันหยุดพิเศษยังได้เลย"
"เฮอะ ยัยงกบ้านก็ออกรวยแต่ไม่ยอมจ่ายเอง เห็นทีเค้ามีพ่อเป็นเจ้าของเข้าหน่อยก็ติดสอยห้อยตามเชียวนะ"ใช่แล้วไอที หรือนางสาวไอที ฟรานดิส เธอเป็นลูกสาวของโจเซฟ ฟรานดิสนั่นเอง ไอทีไม่ใช่เด็กมีปัญหา แถมยังมีคนชอบเธออยู่มากมาย แม้ว่าพ่อของเธอจะยุ่งอยู่ตลอด จนไม่มีเวลาดูแลเธอเลย แม่ของเธอเสียไปตั้งแต่คลอดเธอออกมา และถึงบ้านเธอจะรวยแต่เธอก็ไม่หยิ่งเหมือนพวกคุณหนูคนอื่น
"เฮอะแล้วนายมายุ่งอะไรด้วยยะ"
"ก็ทีเป็นเพื่อนฉันนี่"
"ทีก็เป็นเพื่อนฉันเหมือนกัน"
"เถียงเรอะ"
"แล้วจะทำไม"
"ก็....."และทั้งสองคนก็เถียงกันยืดยาวเป็นชั่วโมงโดยลืมไปว่านี่เป็นเวลาเรียน
"เฮ้อ"หญิงสาวคนที่สามก็ได้หลุบนัยน์ตาสีนิลของตนแล้วถอนหายใจ
ศูนย์การท่องเที่ยวต่างมิติแห่งชาติ(ศทมช.)
แซ่ด แซ่ด
ศูนย์การท่องเที่ยวแห่งนี้ยังคงเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเวลาไหนก็ตาม โดยเฉพาะวันศุกร์คนจะมากเป็นพิเศษ แต่วันนี้เป็นวันหยุดพิเศษไม่มีคนมาทำงาน ประตูข้างหน้าศูนย์เป็นโครงเหล็กแบบเปิดอัตโนมัตสองบานขนาดใหญ่มากๆข้างบนรั้วสองข้างประดับด้วยโคมไฟที่คล้ายตะเกียง สีดำดูเรียบๆ
พอผ่านบานประตูเข้าไปก็จะพบกับตึกมากมาย มีรถขนาดเล็กสีขาว(ขนาดประมาณรถกอลฟ์)คอยบริการการเดินทางไปไหนมาไหนอยู่ตลอดเวลา ซึ่งตึกที่ใหญ่ที่สุดคือตึกที่รวมประตูมิติไว้ทั้งหมดหรือที่เรียกกันว่าตึกวาร์ปมีชั้นอยู่สี่ชั้นด้วยกัน เข้าไปข้างในจะมีเคาท์เตอร์บริการอยู่มากมายนับไม่ถ้วนเพื่อจ่ายเงินและรับตั๋ว แล้วผ่านการสแกนตรวจค้นว่ามีสิ่งเป็นอันตรายหรือไม่ ถ้าผ่านก็เดินขึ้นไปชั้นสองพร้อมกับรับเครื่องอำพรางตัวซึ่งมีลักษณะคล้ายแท่งดินสอเรียกว่าอิลลูชั่น เมื่อต้องการพลางตัวให้กดที่หัวแท่งของปากกา เมื่อเดินเลยผ่านไปจะพบกับห้องโถงที่กว้างไปสุดลูกหูลูกตา จะมีประตูมิติคล้ายอุโมงค์ซึ่งมีแสงสีรุ้งเปล่งออกมาภายในนั้นติดกับผนังเป็นจุดๆซึ่งแต่ละประตูห่างกันไม่มากนักเป็นทางเข้าซึ่งมีป้ายเขียนไว้ว่าเป็นที่ที่จะไปเป็นมิติไหน เมื่อววาร์ปเขาไปในมิติแล้วจะเจอกับไกด์อีกสองคน(ไกด์2คน ต่อ 15 ลูกทัวร์) แต่สำหรับไอทีแล้วเธอจะไปกันกี่คนก็ได้ แถมยังสามารถเลือกไกด์ได้อีกด้วย
"วันนี้ไปมิติไหนดี"โรงเจอร์ถามระหว่างเดินทางไปศูนย์ฯ
"ไปเซอร์ไวล์มั้ย ครั้งที่แล้วยังดูไม่หมดเลยต้องรีบกลับมาทำการบ้าน"ไอทีว่า
มิติเซอร์ไวล์ที่ไอทีชวนนั้น เป็นมิติแห่งธรรมชาติมีสิ่งมีชีวิตประหลาดๆอยู่มากมาย รวมถึงสิ่งมีชีวิตในเทพนิยายด้วย
"เอาๆ"โรเจอร์และมินนี่กล่าวขึ้นพร้อมกัน มินนี่ไปเพราะอยากเห็นดอกไม้กินคนอีก ส่วนโรเจอร์อยากเห็นม้ามีปีกเพกาซัส
'เหอะๆ ทีงี้หละพร้อมใจกันตอบเชียวนะ'ไอทีว่าในใจ
ณ ห้องแล็ปลับ ใต้ตึกวาร์ป ศทมช.
"ใกล้จะเสร็จรึยัง"ชายวัยกลางคนถามชายหนุ่มผมฟ้าที่กำลังรัวแป้นพิมพ์อย่างเอาเป็นเอาตาย
"ยังเลยครับศาสตราจารย์"
ศาสตราจารย์ที่ว่าคือพ่อของไอทีนั่นเอง ตอนนี้พวกเค้ากำลังทำการทดลองเกี่ยวกับมิติแสนอันตรายหรือที่พวกเขาเรียกว่าแบล็คโฮล พวกเขาต้องการรู้ให้ได้ว่าข้างในมิตินี้มีอะไรอยู่กันแน่ทำไมถึงไม่มีใครสามารถกลับออกมาได้อีกเลย ยามที่เปิดมิตินี้ออกมามันจะดูดกลืนทุกสิ่งทุกอย่างเข้าไปและทุครั้งที่เกิดเหตุการนี้พวกเขาต้องคอยป้องกันอยู่ตลอดเวลา การทดลองครั้งถือเป็นเรื่องอันตรายและยังเป็นความลับอีกด้วย มีเพียงนักวิจัยภายในห้องนี้เท่านั้นที่รู้เรื่อง วันนี้เป็นวันหยุดพิเศษพอดีทำให้ไม่ต้องเตรียมการป้องกันอะไรมากนัก ภายในห้องเต็มไปด้วยเทคโนโลยีต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ เครื่องวัดค่าความถี่ เครื่องวัดพลังงาน ฯลฯ ซึ่งทุกอย่างต่อพ่วงไปที่วงแหวนขนาดใหญ่ซึ่งมีขนาดประมาณที่คนสี่คนเข้าไปได้
ปี๊บๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
"สำเร็จแล้วครับศาสตราจารย์ มิติเปิดออกแล้ว" ชายหนุ่มยิ้มให้กับตนเองที่ทำสำเร็จ พร้อมกับมองไปที่วงแหวน ซึ่งเริ่มมีปฎิกิริยากับอะไรบางอย่าง
"อย่าเพิ่งดีใจไป แจ็ค นี่ยังไม่สำเร็จทั้งหมดเลย เอาล่ะทุกคนประจำที่ของตัวเองเดี๋ยวนี้ !!"
"ครับ/คะ ศาสตราจารย์"
วู่มๆ
สิ่งที่ปรากฎต่อสายตานักวิจัยในห้องแล็ปนี้ คือ ควันสีดำสนิทที่ค่อยๆก่อตัวแป็นลูกกลมๆ และขยายขนาดขึ้นเรื่อยๆ จนมันขนาดเท่ากับวงแหวนที่เตรียมไว้สำหรับยึด ตอนแรกมันพยามยามต้านทานและทำลายวงแหวนที่ยึดมันไว้ แล้วในเวลาต่อไม่นานมันก็หยุดนิ่ง.....
ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบเป็นเวลานานเหมือนกำลังเหม่อ
"สะ สะ สำเร็จแล้วใช่มั้ย พะ พะพวกเราทำสำเร็จแล้วใช่มั้ย"ชายผมฟ้าที่ชื่อแจ็คกล่าวเสียงสั่น ทำให้ทุกคนได้สติจาการช็อค เพราะไม่คิดว่าตนจะทำสำเร็จจริงๆ
"เฮ!!!!!!!!!!!!" ทุกคนโฮ่ร้องกันอย่างดีใจ มีเพียงศาสตราจารย์โจเซฟเท่านั้นที่ไม่ได้ยินดีไปกับเขาด้วย
'ง่ายเกินไป มันง่ายเกินไป หรือว่าเราจะคิดไปเอง'
ระหว่างที่ศาสตราจารย์กำลังคิดไม่ตกนั้น วงแหวนก็เกิดอาการแปลกๆ มีเสียงดังเปรี๊ยะๆเหมือนไฟฟ้าช็อต แต่ดูเหมือนทุกคนจะไม่ได้ยิน เพราะถูกเสียงโฮ่ร้องกลบหมด จนในที่สุดก็มีนักวิจัยหญิงคนหนึ่งเหลือบไปเห็นเข้า เธอตกใจอย่างมาก แล้วรีบตะโกนเรียกศาสตราจารย์ทันที
"ศาสตราจารย์คะแย่แล้วประตูมิติกำลังจะระเบิดแล้ว วงแหวนของเรายึดมันไว้ไม่ได้ค่ะ"
"อะไรนะ"ศาสตราจารย์หลุดออกจากภวังค์อย่างตกใจ แล้วตะโกนสั่งการทันที
"ทำอะไรอยู่เล่า รีบประจำหน้าที่กันสิ"
ทุกคนวิ่งลุกลี้ลุกลนอย่างตกใจไปประตำตำแหน่งของตนเอง มิติแบล็คโฮลกำลังดูดทุกสิ่งทุกอย่างภายในห้องแล็บ
"ไซเรนกางม่านพลังไฟฟ้าไว้เร็วเข้า"
"รับทราบคะ กางม่านพลังงานไฟฟ้า ปล่อยกระแสไฟฟ้า 20%"ม่านพลังไฟฟ้าถูกกางออกคลอบคลุมพวกนักวิจัยไว้ทั้งหมด
"แจ็คช่วยปลดมิตินนี้ออกจากวงแหวนทีได้มั้ย"
"ตะ แต่มันอาจจะรุนแรงกว่าเดิมนะครับศาสตราจารย์"
"เถอะน่า ถ้าไม่ปลดล่ะก็มันจะไม่หยุดทำลายนะ"
"คะ ครับ"เมื่อปลดมิติออก ความรุนแรงก็เพิ่มขึ้นทันที ห้องแล็ปเริ่มสะเทือนอย่างรุนแรง ผนังและเพดานแตกร้าว มีเพียงบริเวณที่กางม่านพลังเท่านั้นที่ไม่เป็นอะไร
"ไซเรนกางม่านพลัง 50% ไปเลย"
"คะศาสตราจารย์ กางม่านพลังไฟฟ้า ปล่อยกระแสไฟฟ้า 50%"
เปรี๊ยะๆ เปรี๊ยะๆ แบล็คโฮลยังคงสำแดงพลังของมันอย่างบ้าคลั่งและรุนแรงขึนเรื่อยๆสมความหมายของมัน 'หลุมดำ'
และทันใดนั้นเอง เพดานด้านบนก็พังลงมา ทุกคนพากันตกใจ แต่ที่ตกใจมากที่สุดคือบางอย่างที่ตกลงมาพร้อมกับเศษเพดานแตกด้วย! หัวใจของทุกคนตกไปอยู่ที่ตาตุ่มโดยเฉพาะ ศาสตราจารย์โจเซฟที่บัดนี้หัวใจของเขาได้หลุดออกมาจากร่างแล้ว
"คุณพ่อคะ!!!!"
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น