ตอนที่ 27 : Chapter 25 : อกสั่นขวัญแขวน
วันนี้พวกเรามาเที่ยวเกาะกันครับ ถ้าถามว่าเกาะไหนก็ไอ้เกาะเจ้าปัญหาของเฮียเคนนั้นแหละ ถึงจะพูดว่าเราแต่ก็มีมาแค่ผมเฮียซิกการ์เฮียเคนไอ้ธันไอ้แกมม่าแล้วก็ไอ้เซนครับ ที่เหลือก็อยู่ที่รีสอร์ทแต่ไอ้กัลป์กับไอ้รัฐพาหลานไปห้างในตัวเมืองกัน ผมก็ต้องจำใจปล่อยมอร์ฟีนที่ดูท่าจะดีใจที่มีเพื่อนเล่นไปกับเขาด้วย เห็นหน้าเจ้าไคลแมกซ์ผมล่ะปวดใจ ส่วนไอ้กันต์ก็พาวินกลับไปแล้วครับเห็นที่บ้านมันเรียกตัวด่วนมีเรื่องอะไรรึเปล่าไม่รู้ ไอ้ฝิ่นก็ถูกเฮียบุหรี่ลากไปช่วยงานตอนแรกมันก็ไม่ยอมจนเฮียซิกการ์ต้องออกหน้าว่าจะดูแลผมอย่างดีผมถึงได้มาเที่ยวกับเขาได้
มารอบที่แล้วเดินยังไม่ทันพ้นชายหาดก็มีเรื่องต้องพากันกลับรอบนี้ก็เอาให้เต็มที่สักหน่อย การเดินทางพวกผมก็มากันด้วยเรือเฟอร์รี่ส่วนตัวของเฮียเคนที่นานๆจะได้เอาออกมาเล่นที่ปกติก็จัดสปีดโบ๊ทกันครับแต่พอผมท้องก็เอาออกมาใช้ทุกครั้งที่ออกทะเลกัน เห็นแล้วก็อิจฉาความรวยของตระกูลพวกมันจริงๆ มองก็รู้ว่าเฮียเคนมันต้องเคยจัดปาร์ตี้สุดเหวี่ยงบนเรือลำนี้แน่ๆ
พอถึงเกาะเฮียเคนก็พาเดินไปเก็บของที่เรือนหลัก พวกผมจะกลับบ่ายๆ แต่เฮียเคนบอกจะพักที่นี่สักสองสามคืน มองสีหน้ายิ้มแย้มกรุ้มกริ่มก็พอรู้ว่าตอนที่เกาะเหลือกันอยู่สองคนมันจะเป็นยังไง
“เฮียจะเล่นน้ำปะ?” ผมหันไปถามเฮียซิกที่เดินไปเปิดตู้เย็นอยู่ เดาได้เลยครับว่ามันหาเบียร์
“ไม่ว่ะ หรือมึงอยากเล่น?” มันเลิกคิ้วถามกลับผมก็ส่ายหัว ชูกล้องให้มันดูแทน ผมกะมาเดินเล่นเก็บบรรยากาศอะไรแบบนี้มากกว่า หรือถ้าจะโดนน้ำก็ขอเอาเท้าแตะๆพอ
“งั้นเดินเล่นแล้วกัน พวกมึงอะ” ผมหันไปทางไอ้เซนที่นั่งนิ่งๆกระดกเบียร์ที่เฮียซิกส่งให้มีพร็อพเป็นแว่นกันแดดสีชาดูไฮโซจนผมต้องเบะปากใส่
“กูมาดูน้ำตก” ไอ้เซนตอบพร้อมรอยยิ้ม ผมเลยพยักหน้าเป็นเชิงถามไอ้แกมม่าต่อ
“มาดูมึง” นิ่งๆสไตล์มัน ผมหลุดยิ้มนิดๆแต่ก็หมั่นไส้มันอีกคน ผิวแทนนิดๆเพราะแดดกับรอยสักกราฟฟิกอาร์ตๆบนตัวมันทำให้มันดูฮอตเหี้ยๆประกอบกับความพูดน้อยต่อยหนักของมัน ทำเอาผู้หญิงตบกันให้มันดูไม่รู้กี่คนเลยครับ
เห็นเพื่อนๆดูดีผมก็หนักใจทำไม่คนรอบตัวผมมันถึงได้ดูคูลดูเท่ไปหมด แต่พอคิดอีกทีถ้าผมดูคูลดูเท่อย่างพวกมันแล้วท้อง ...คงเป็นอะไรที่รับตัวเองไม่ได้หน่อยๆวะ แบบตัวถึกๆกล้ามล่ำๆแล้วลูกเรียกม่าม๊าๆ ผมคงจะให้ลูกเรียกพ่อหรือป๊าแทนแน่ๆ ตอนนี้ก็พยายามคิดบวกครับว่าคนหน้าตาดีมักหล่อและสวยในคนเดียวกัน หึหึหึ
ออกทะเลไปไกลกลับมาที่แพลนวันนี้ของเราต่อ
“งั้นกูไปน้ำตกกับมึงแล้วกันเซน”
“เออ” ไอ้เซนก็พยักหน้ารับอย่างง่ายๆ แล้วเอื้อมือไปรับสาระพัดขนมขบเคี้ยวที่เจ้าบ้านหอบมาให้แล้วนั่งลงข้างไอ้ธัน
“อ้าวแล้วมึงไม่ถามกูเลยหรอวะ ใช่สิกูมันก็เพื่อนเก็บของมึงสินะ เป็นน้อยเขา” ไอ้ธันโวยวายด้วยน้ำเสียงออดอ้อนตีน จนเฮียเคนส่ายหัว
“มึงมากับผัวกูเกรงใจ มาเป็นเพื่อนน้อยกูก็ดีกว่าเป็นเมียน้อยเฮียนะเว้ยยยย” ผมแซวกลับอย่างรวดเร็ว ไอ้ธันทำหน้าเหวอๆ ก่อนสบถดังลั่น
“ไอ้เชี่ยยยย”
“Don’t worry นี่เลิกหมดแล้ว” เฮียมันพูดยิ้มๆแล้วยีหัวไอ้ธันอย่างเอ็นดู ผมก็ได้แต่กรอกตากับความหวานของคู่มัน เฮียเคนโอ๋มันสัสๆ
“แล้วเฮียจะไปไหม” ผมก็เลิกคิ้วถาม เฮียมันทำหน้าครุ่นคิดแล้วหันไปหาไอ้ธันเป็นเชิงถาม
แหม่...ผัวที่ดี ถามความเห็นเมียก่อนซะด้วย
“ไม่อะกูอยากไปนะ แต่ขี้เกียจเดินว่ะ” มันก็มาทำลอยหน้าลอยตาใส่อีก
“กวนตีน” ผมด่ามันพร้อมกับเอื้อมมือไปผลักหัว
“ไม่เป็นไรเดี๋ยววันหลังพาไปลอง” เฮียพูด วางมือตบบ่าไอ้ธันเบาๆพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ แถมเน้นคำว่าลองจนรู้สึกตะหงิดๆผมพยายามคิดว่าไม่มีอะไรจนประโยคต่อมาที่เฮียมันหันไปถามความเห็นไอ้ธันอีกรอบ “น้ำตกก็จัดเป็นlocationเด็ดที่น่าลองเนอะ ขย่มกันกลางแจ้งน่าจะมัน”
ผมควรไปก่อนที่ธรรมชาติสวยงามจะถูกทำให้แปดเปื้อนสินะครับ...
“พอเหอะ” ไอ้ธันปัดมือเฮียออกอย่างฉุนๆ เห็นแก้มมันแดงหน่อยๆคงอายแหละครับ
“เออ พอเหอะเฮียเห็นใจตัวประกอบฉากอย่างพวกผมบ้าง”
“Why? Want to try? อ่า...จะบอกฝิ่นให้นะ”
“f*ck” ผมก็ชูนิ้วกลางส่งให้ไอ้เฮียเคนมันเลยครับ มันก็ยิ้มพร้อมเลิกคิ้วยักหัวนิดๆ เกลียดความลูกครึ่งของเฮียมันว่ะ แบบมันหล่อแบบแพรวพราวมากเกินไปอะ เกลียด!
“ไปแกล้งมันนะเคน” เฮียซิกพูดไปยิ้มไป ดูท่าจะสนุกสนานที่ผมโดนเฮียเคนมันหยอกไปหยอกมา
“ก็มันทำเหมือนอยาก...” เฮียเคนลากเสียงแล้วทำสายตากรุ้มกริ่ม
“เฮีย!” ผมเรียกมันเสียงดัง เฮียมันก็ยิ้มล้อ คนอื่นๆก็หัวเราะกันหมด
เข้าขากันดีไปแล้ว!!!
“ไปไหม เดี๋ยวแดดจะจัด” เป็นไอ้แกมม่าครับที่ขัดการต่อความยาวสาวความยืดแถมลากกลับจุดมุ่งหมายหลักของเรา
“เออ” ผมว่าแล้วลุกขึ้นก่อนใครเพื่อนคนอื่นๆก็ลุกตาม
พวกเราเดินออกมา แล้วอ้อมไปด้านหลังเห็นว่าน้ำตกอยู่ไม่ไกลมากเพราะตัวบ้านก็จงใจสร้างให้สามารถเดินไปได้ง่ายแถมทางก็ถูกถางไว้อย่างดีเราเลยเดินชมนกชมไม้กันไป เห็นน้ำตกก็ไม่ได้ใหญ่อะไรมากครับแต่ให้ความรู้สึกสดชื่นดีเหมือนกัน ดูน่าเล่นกว่าทะเลซะอีก ไม่เหนียวตัวด้วย หันไปอีกทีไอ้เซนกับไอ้แกมม่าก็ถอดเสื้อลงเล่นกันแล้วครับ มีเฮียซิกนี่แหละที่เดินมายื่นข้างๆชี้ไปที่มุมที่ค่อนข้างอับสายตามุมหนึ่งแล้วพูดว่า
“มุมนั้นก็ดีนะมึง ไว้ชวนไอ้ฝิ่นมา”
มึงไม่ต้องมาแนะนำเลยไอ้เฮียยยยย!!
เดินชมธรรมชาติไปมาสักพักผมก็เริ่มรู้สึกเหนื่อย เห็นคนอื่นกำลังสนุกเลยไม่อยากขัดจังหวะปล่อยให้มันเล่นกันไปก่อน เลยชวนเฮียซิกกลับกันสองคน เฮียก็หันไปตะโกนบอกคนอื่นแล้วพาผมเดินกลับบ้านพัก พอถึงผมก็ไปนอนแผ่ตรงโซฟา ขมวดคิ้วนิดๆเพราะเริ่มรู้สึกอะไรบางอย่าง
"เฮีย..." ผมส่งเสียงเรียกเฮียที่กำลังก้มๆเงยๆหาอะไรไม่รู้ในบาร์เหล้าข้างห้อง
"หืม" เฮียมันเลิกคิ้วหันมามอง
"รู้สึกแปลกๆวะ"
"เป็นไงวะ" เฮียซิกการ์รีบเดินมาดูผมทันที สีหน้ามันเริ่มเสีย
"ไม่รู้สิ เหมือนจะคลอดเลย" ผมทำหน้าแหยๆ รับมือกับสถานการณ์อย่างนี้ไม่ทัน เหงื่อซึมออกมาตามกรอบหน้ายิ่งรู้สึกไม่ค่อยสบายตัว
"ห๊ะ!? แต่กำหนดคลอดเดือนหน้านี่!" เฮียซิกทำตาโตมันก็คงตกใจนั่นแหละ ดูรนๆจนหน้าขำแต่ก็ขำไม่ออกหรอกนะ จริงๆกำหนดคลอดมันก็ไม่ถึง 3 สัปดาห์เลยด้วย ฝิ่นมันก็เตือนๆแล้วนะแต่ตอนท้องมอร์ฟีนมันไม่เป็นไรไงเลยเผลอไปหน่อย ...อยากร้องไห้เลยอะ
"ไม่รู้มันปวดมาก" ผมเบ้หน้าตอบรู้สึกไม่ดีมากๆที่มาปวดท้องแบบนี้ตอนอยู่บนเกาะ รู้สึกไม่ปลอดภัยเลยสักนิด ตอนนี้ผมเริ่มคิดถึงไอ้ฝิ่นซะแล้วสิ
"ชาเราอยู่บนเกาะ" ว่าเสียเครียด ก็อยู่อยู่จะย้ำทำไมเล่า!!
"ก็เรียกเรือมาสิ!" ผมเริ่มโวยวายเฮียมันก็หันไปโทรไปหาเฮียเคนเพราะไม่แน่ใจว่าเรื่อได้จอดรอรับกลับหรือว่าไปรอที่ฝั่งแล้วค่อยมารับ เห็นคุยกันเสียเครียดสักพักสีหน้าเฮียมันก็ดีขึ้น
“เรือจอดรออยู่ที่อู่จอดเรือบนเกาะนี้แหละอยู่ข้างๆแป๊ปเดียวก็ถึงแล้ว” มันบอกยิ้มๆแล้วลูบหัวผมไปมา ผมหลับตาลง ความปวดท้องเริ่มทุเลาลง เหมือนจะปวดเป็นพักๆ
หรือจะปวดหลอกเฉยๆวะ?
“เริ่มดีแล้วล่ะเฮียสงสัยปวดหลอก” ผมว่าแล้วพยายามยิ้มให้เฮียมันสบายใจ
“ยังไงก็กลับฝั่งก่อนเถอะ อุ่นใจกว่า”
“เห้ย! เป็นไงบ้างวะ~!!” เสียงไอ้ธันครับวิ่งหน้าตื่นเข้ามา มองไปก็ตลกดี ด้านหลังก็มีคนอื่นๆตามเข้ามา สีหน้าไม่ดีกันทุกคนเห็นเพื่อนเป็นห่วงขนาดนี้ผมก็ยิ้มออกมาบางๆ
“ดีขึ้นแล้ว”
Rrrrrrr-Rrrrrrrr
ผมหันไปมองเห็นเฮียเคนรับโทรศัพท์คุยกันแค่สองสามคำก็หันมาบอกพวกเรา
“เรือมาแล้ว Hurry up!” ตอนนั้นทุกคนยิ้มออกกระวีกระวาดมาช่วยพยุงผมขึ้น
“เดินไหวไหมวะ” ไอ้เซนถามคิ้วขมวด เหมือนทำอะไรไม่ถูกไม่รู้ว่าควรพยุงหรืออุ้มไปเลยดี
“ได้อยู่ๆ ใจเย็นๆกันหน่อย” เป็นผมซะงั้นที่ต้องมานั่งปลอบพวกมัน
ทุกคนรีบพาผมไปที่เรืออย่างระมัดระวัง เรือก็ออกอย่างรวดเร็วนั่งมาสักพักผมก็เริ่มปวดทองอีกรอบจนต้องกุมท้องไว้ ทุกคนรีบเข้ามารุมอย่างเป็นห่วงจนเฮียซิกการ์ต้องกันไว้แล้วบอกให้ห่างๆหน่อยกลัวผมจะเป็นลมเป็นแล้งไป เห็นท่าไม่ค่อยดี ไอ้แกมม่าก็โทรติดต่อรถพยาบาลเอาไว้ก่อนให้มารอรับที่รีสอร์ท แล้วก็โทรบอกฝิ่นกับเฮียบุหรี่ด้วย
ไอ้แกมม่ายื่นโทรศัพท์มาให้เห็นว่าไอ้ฝิ่นอยากคุยด้วย
“ฮัลโล...” ผมว่าเสียงแผ่ว รู้สึกผิดนิดๆที่วันนี้ก็ดื้ออย่ากออกมาเที่ยวทั้งๆที่ไอ้ฝิ่นอยากให้พักอยู่บ้าน แต่ก็นะไอ้ฝิ่นมันเล่นห้ามทุกอย่างอยู่แล้วผมเลยไม่ค่อยฟังนี่สิ บังเอิญมันมาเกิดตอนนี้พอดีด้วย
[ ไม่ต้องมาทำเสียงอ่อยเลยชา บอกน่ะเคยฟังไหม ] มันว่าเหมือนเหนื่อยใจรู้ว่าพยายามไม่ทำเสียงเครียดให้ผมไม่สบายใจหนักขึ้น แค่นี้ก็เริ่มยิ้มออกแล้ว
“อือ...”
[ เป็นยังไงบ้างหืม...] มันถามเสียงอ่อน จนผมอยากร้องไห้ อยากให้ตอนนี้มันอยู่ข้างๆมากเลย
“ปะปวดท้อง...”
[ ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็หายแล้ว กูรออยู่ที่ฝั่งนะแป๊ปเดียวก็ถึงแล้ว ]
“อืมม...”
บ้าจังตอนนี้ผมรู้สึกเขินๆยังไงไม่รู้ว่ะ ทั้งที่เอากันหลายรอบยังไม่รู้สึกเขินเท่าตอนมันพูดดีๆใส่เลยเลย นี่เป็นอารมณ์อ่อนไหวของคนท้องรึเปล่าวะ? แต่ในเวลาแบบนี้อยากยิ้มก็ยิ้มไม่เต็มปากเลยว่ะ
“ชามึงไหวปะเนี่ย” เสียงไอ้ธันดังลอดหูเข้ามา ผมรู้สึกเบลอๆเฮียหรือเพื่อนถามอะไรก็ตอบเออออไปหมด ปวดท้องเป็นพักๆก็ได้แต่ลูบท้องเบาๆไปมา
“เออ...”
“เอาดีๆดิวะ มึงงงง....”
รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนขึ้นจากเรือ ไอ้ฝิ่นมาจับแล้วพาขึ้นรถพยาบาลตอนนั้นมันเร็วๆแล้วก็หัวหมุนมากเหมือนเวลามันเดินเร็วและวุ่นวายมาก ทุกอย่างในหัวมันปั่นป่วนไปหมด สุดท้ายผมก็ค่อยๆหลับตาลง...
ปล่อยให้สติจมลงช้าๆ...
“...ชามึงกับลูกจะไม่เป็นไร...”
………………
……….
…..
และก็ไม่เป็นไรจริงๆครับ
สรุปแค่ปวดหลอก คุณหมอบอกว่าอาการปวดตอนท้องแต่ละครั้งไม่ได้เท่ากันหมดต้องสังเกตอาการอื่นร่วมด้วย แถมดุมาด้วยว่าท้องแก่ไม่ควรจะซ่าไปเที่ยวเกาะ ก็ให้นอนพักเฉยๆแล้วส่งกลับ กลับมาไอ้ฝิ่นมองผมตาเขียวเลยครับ
“กูบอกแล้วว่าอย่าไปๆ ฟังไหมหือ”
“ก็มันใกล้ๆนี่เองกูก็คิดว่าไม่เป็นไร...” ผมว่าเสียงอ่อยๆ ช้อนตามองมันนิดหน่อย
“แล้วนี่ไม่เป็นไรไหม?” มันก็ตีหน้าดุกลับมาครับ ผมเลยก้มหน้าพึมพำกับตัวเองเบาๆ
“ก็ไม่เป็นอะไรนะ...” มันก็แค่ปวดหลอกนี่
“ชา!” ไอ้ฝิ่นเรียกชื่อผมเสียงเสียงดังจนสะดุ้ง
“ทำใต้องเสียงดังอ่า แม่งงง...” แล้วผมก็บ่นงุ้งงิ้งกับตัวเอง
“มึงไม่ต้องมากลบเกลื่อนเปลี่ยนเรื่องเลย มันใช่เวลาไหม”
“ก็...อ๊ะ! มอร์ฟีน อย่าวิ่งนะครับ” ผมหันไปเห็นเห็นเจ้าตัวน้อยของผมเดินกึ่งวิ่งมาก็รีบบอกทันทีกลัวจะล้มเอา ฝิ่นมันก็ส่ายหัวกับผมอย่างเดียว ไม่ใช่ว่าผมไม่สนใจนะแต่ก็รู้แล้วไงไม่เห็นต้องดุเลย
“มะม๊า!” มอร์ฟีนยิ้มหวานแล้วกอดผมแน่น ผมเลยย่อตัวลงไปกอดเขา
“มอร์ฟีน!” ผมฟัดแก้มยุ้ยๆหอมๆจนพอใจ เจ้าตัวก็แค่หัวเราะคิกคักเอียงแก้มให้ฟัดอย่างน่ารัก ฝิ่นก็ถอนหายใจเบาๆแล้วโน้มตัวไปอุ้มลูกขึ้นมา
“เข้าบ้านกันนะครับ”
“ฮับ!”
พอเข้าไปถึงบ้านก็มีแต่คนรุมถามอาการของผมครับอย่างว่าเล่นใหญ่ซะขนาดนั้นแถมบ้างคนต้องเฝ้าเด็กๆด้วยเลยไม่ได้ไปที่โรงพยาบาล ถึงจะบอกว่าไม่เปนไรแต่พวกมันก็คงอดห่วงไม่ได้ ผมต้องใช้ชีวิตที่มีแต่สายตาระแวดระวังส่องมาตลอดจนกว่าจะคลอดแน่ๆเลย แม่มเอ๊ย!
“เฮ้อ...” เสียงถอนหายใจของผมเองครับ วันๆอยู่แต่ในรีสอร์ททำให้อดเบื่อไม่ได้จริงๆ หลังจากวันนั้นก็ผ่านมาได้สามวันแล้วครับสายตาระแวดระวังของเพื่อนๆก็ดีขึ้นกว่าเดิมที่มันไม่จ้องกันจนตัวพรุนผมก็มีปวดท้องเป็นพักมากน้อยแล้วแต่อารมณ์ลูกครับ
ผมนั่งเล่นอยู่ตรงโซนนั่งเล่นข้างสระว่ายน้ำเป็นโซนที่มีที่ร่มและลมดีพอสมควร อากาศก็ไม่ร้อนมาก เด็กๆเล่นกันอยู่ในสระกับไอ้ฝิ่นและพวกเพื่อนๆผมนั่นแหละครับ ดูสนุกสนานกันจนหน้าหมั่นไส้ ผมเบื่ออ่านหนังสือ ก็ได้แต่มองท้องกลมๆแล้วลูบไปมา
คนนี้จะตั้งชื่อว่าอะไรดีนะ หรือคราวนี้จะให้ไอ้ฝิ่นตั้งดี แต่ไม่รู้มันจะตั้งอะไรนี่สิ ผมก็มีที่คิดๆไว้เยอะเหมือนกันนะ ตื่นเต้นจัง
ใกล้จะได้เจอกันแล้วน้า ตัวเล็ก...
ตึก...ตึก...
“อุ!”
ผมกุมท้องตัวเองเมื่อรู้สึกปวดท้องขึ้นมาอีกแล้วช่วงนี้ปวดท้องถี่ขึ้นผมเลยขยับเพื่อเปลี่ยนท่าเล็กน้อย รอสักพักมันก็สงบลง พอมาเป็นคนท้องเองแล้วก็รับรู้ความลำบากของคนเป็นแม่แล้วไม่แปลกใจเลยที่จะห่วงจะหวงลูกขนาดนั้น ตอนช่วงที่เที่ยวหยักๆก็ไม่ค่อยเข้าใจแม่เท่าไหร่ว่าจะห้ามอะไรขนาดนั้น แต่พอมาคิดๆดูแล้วถ้าถึงวัยที่มอร์ฟีนตัวน้อยของผมโต แล้วขอออกจากบ้านดึกๆดื่นๆผมก็ไม่ไม่ให้ไปแน่ๆ
ก็ลูกผมน่ารักขนาดนี้ออกจากบ้านไป เกิดใครฉุดไปเท่ายังไงเล่า!
ผมก็นอนคิดอะไรไปเลื่อยเปื่อยอาจเพราะนอนเปลี่ยนท่าแล้วมันสบายขึ้นผมก็เลยเผลอหลับไป...
“อะ!” ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมารู้สึกปวดท้องน้อยๆ หันไปมองก็ดูเหมือนจะพาเด็กๆมานั่งกินข้าวกันข้างสระ คงจะงีบไปไม่นานเท่าไหร่ ผมค่อยๆเปลี่ยนท่าอีกทีแล้วก็ต้องชะงัก
เชี่ย....
“ฝิ่น...” ผมเรียกมันเสียงอ่อยๆ
“หืม? มีอะไร” มันที่กำลังป้อนข้าวลูกอยู่หันมามองนิดๆ
“พากูไปโรงพยาบาลเถอะ...”
...นี่ผมต้องไปโรงพยาบาลอีกแล้วหรอวะ? เพิ่งไปมาเมื่อ 3 วันที่แล้วเอง...
“เฮ้ย! เป็นอะไรวะชา” พอไอ้ฝิ่นรีบวิ่งมาดูคนอื่นๆก็หน้าตื่นกันหมด
“เป็นไรปะวะ” ไอ้รัฐที่อยู่ใกล้ๆก็รีบเดินมา
“น้ำไหลเป็นทางเลยว่ะ...” ผมยิ้มตอบแห้งๆ
“ไอ้แกมมึงไปเอารถมาเร็ว!” ไอ้เซนรีบตะโกนบอกไอ้แกมที่อยู่ในบ้าน บรรยากาศชุลมุนไปหมด
“งือออ ม๊ะเปนไย...” มอร์ฟีนเดินมากระคุกชายเสื้อของผมเบาๆสีหน้าเหมือนตกใจไม่น้อย อย่างว่าโหวกเหวกกัยขนาดนี้ เจ้าตัวน้อยจะไม่ตกใจได้ยังไง
“ไม่เป็นไรครับแค่จะคลอดน้องเฉยๆ”
“อืออ”
“มอร์ฟีนรอที่นี่กับพี่ไคลแมกซ์นะครับ” ผมบอกแล้วลูบหัวทุยไปมาแล้วหันไปบอกไอ้กัลป์กับไอ้รัฐให้เฝ้าหลานๆไว้ เอาไปโรงพยาบาลด้วยคงไม่สะดวกเท่าไหร่
“ฮับ!” มอร์ฟีนพยักหน้าหงึกหงัก ฝิ่นก็เอื้อมมือมาลูบหัวลูกเบาๆ
“เดี๋ยวคลอดน้องจะให้ลุงพาไปเยี่ยมนะครับ ชาเดี๋ยวอุ้มขึ้นรถนะ ไหวไหม”
“อืม...”
|Fin Part|
ผมเดินวนเวียนอยู่ในห้องพักผู้ป่วยที่ผมเปิดรอไอ้ชาผ่าตัดเสร็จ โดยมีเพื่อนๆนั่งกันหน้าสลอน ดีที่บอกไอ้กัลป์กับไอ้รัฐให้พาเด็กๆรออยู่ที่รีสอร์ทไม่งั้นเบียดกันกว่านี้แน่
“มึงเลิกเดินวนไปวนมาสักทีได้ไหม กูตาลายแล้วสัส” ไอ้เซนพูดแล้วส่ายหัวไปมา
“เรื่องของมึง” ผมตอบห้วนๆ นั่งไม่ลงจริงๆว่ะ
ผมรู้สึกกระวนกระวายนี่หว่า หมอก็บอกแล้วว่าอายุครรภ์เยอะพอสมควรคลอดก่อนกำหนดแบบนี้ไม่ได้มีความเสี่ยงมากขนาดนั้นให้ใจเย็นๆเพราะการคลอดกว่าเวลานัดไว้ 1-2 อาทิตย์ถือว่าเป็นไปได้ของไอ้ชาก็ถือว่าก่อนสองอาทิตย์กว่าๆไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่ผมก็ใจเย็นไม่ลงว่ะ
เดินไปเดินมาเกือบชั่วโมงร่างเพลียๆของไอ้ชาก็ถูกเข็นเข้ามา ผมก็รีบเข้าไปคุยกับหมอเลยครับว่ามีอาการอะไรน่าเป็นห่วงไหม
“แฟนผมเป็นยังไงบ้างครับแล้วลูกผมต้องเข้าตู้อบไหมครับ”
“คุณแม่และลูกแข็งแรงดีค่ะพรุ่งนี้ถ้าไม่เจ็บมากหมอแนะนำให้ลุกเดินนะคะ ยิ่งเดินได้ไว้ยิ่งฟื้นตัวเร็วค่ะ ส่วนน้องตรวจอาการเบื้องต้นยังไม่มีอะไรผิดปกตินะคะ ทางหมอก็ส่งไปวิเคราะห์เพิ่มเติมอยู่ค่ะ น้ำหนักแรกคลอดประมาณ 3500 กรัม ถือว่าตัวโตมากเลยนะคะไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงค่ะ”
ได้ยินแค่นี้ก็โล่งใจแล้วครับ
“ครับ แล้วลูกผมเป็นเด็กผู้หญิงหรือผู้ชายครับ” ผมรีบถามต่อเพราะยังไม่รู้
“อ๋อ น้องเป็นเด็กผู้ชายค่ะ เดี๋ยวตรวจน้องเสร็จพยาบาลก็มาส่งตัวแล้วค่ะ เพราะต้องให้นมน้องด้วยทุกๆสามชั่วโมงนะคะ” หมอยิ้มตอบอย่างใจเย็น
“อ่า ครับขอบคุณมากครับ” ผมก็ยกมือไหว้ขอบคุณหมอไป
พวกเพื่อนๆผมเห็นว่าไอ้ชาปลอดภัยแล้วก็ขอตัวกลับไปรอกันที่รีสอร์ท ค่อยมาใหม่พรุ่งนี้ปล่อยให้ไอ้ชาได้พักส่วนเฮียซิกการ์ก็กลับไปเอาเสื้อผ้าแล้วเดี๋ยวจะมาใหม่
พอทุกคนไปแล้วผมก็ไปนั่งมองหน้าไอ้ชานิ่งๆข้างเตียง ให้ความรู้สึกใจหายของผมกลับมาปกติบอกตัวเอง ซ้ำๆว่าชามันปลอดภัยแล้ว ไม่เป็นไรแล้ว แต่มือของผมก็ยังไม่ยอมหยุดสั่น ตอนเห็นมันเรียกด้วยเสียงอ่อยเหมือนไม่มีแรงทำผมตกใจมากมันจะรู้ไหมวะ ต้องเก็บอาการขนาดนี้มันล้าไปหมดเหมือนกันนะ ผมได้แต่ทอดสายตามองและแอบลูบแก้มใสๆนั่นเบาๆ
ผมนั่งมองมันอยู่ข้างเตียงมองมันหลับก็เพลินดีครับ เกลี่ยแก้มมันไปมา สุดท้ายเพราะเพลียได้ไม่ยอมขยับไปไหมทำให้ผมหลับไปทั้งที่ยังนั่งอยู่ข้างเตียงนั้นแหละ...
ผมรู้สึกตัวอีกทีก็มืดค่ำแล้ว เลยขยับตัวลุกขึ้น คงเพราะเหนื่อยทำให้นอนยาวเลย ขนาดพยาบาลเขาเอาลูกมาให้นมตอนไหนผมยังไม่รู้สึกตัวเลยว่ะ ลุกขึ้นมาเห็นชายังนอนหลับอยู่ มองนาฬิกาข้างห้อง ก็สามทุ่มแล้วครับเลยไปหาผ้าห่มกับหมอนมานอนเฝ้าตรงโซฟา ห้องด้านในก็มีนะแต่ผมกลัวว่ามันตื่นมาอยากกินน้ำหรือเข้าห้องน้ำจะไม่ได้ยิน แถมเฮียซิกแม่งนอนมันกลางเตียงสบายจนไม่เหมือนมาเฝ้าคนป่วย
ผมหันไปมองไอ้คนที่หลับสบายบนเตียงก็ยิ้มเป็นบ้าเป็นหลังอยู่คนเดียว มันทั้งสบายใจและก็ปลอดโปร่งที่ปลอดภัยทั้งแม่ทั้งลูก
ก๊อกๆ
ผมขยับตัวลุกจากโซฟา ไอ้ชาก็ยังไม่ตื่นครับขี้เซาอย่างมันยิ่งเจ็บตัวด้วยไม่อยากขยับไปไหนหรอก ผมลุกไปเปิดประตูเห็นเป็นไอ้เซนกับไอ้แกมม่าครับ มากันเช้าไปไหนว่ะขนาดหมอเวรยังไม่เข้ามาตรวจเลยครับ
“พวกมึงมากันทำห่าอะไรแต่เช้าวะ” ผมขมวดคิ้วมองพวกมันสองตัว
“กูกลัวมึงนอนนานเกินไปไง” ไอเซนตอบอย่างกวนตีนรู้ว่าตัวเองมาปลุกผมแน่ๆมันก็ยังมากัน
“สัส” ผมก็ได้แต่ส่ายหัว เดินพาพวกมันเข้ามาในห้อง
“พวกกูซื้อโจ๊กมา แดกเลยไหม” ไอ้แกมชูถุงที่มีทั้งโจ๊กน้ำเตาหู้ปาท่องโก๋ และสารพัดของกินที่หาได้ตอนเช้ามา
“เช้าขนาดนี้มึงแดกลง? ว่างไว้ตรงนั้นแหละ” ผมทิ้งไปที่โซนครัว ถึงผมจะกินไม่ลงแต่ไอ้แกมม่าดูไม่ได้มีปัญหาเปิดตู้หาถ้วยชามอย่างไว้ บางคนตื่นเช้าแล้วหิวไว้ แต่ผมมันพวกเช้าๆกินอะไรไม่ลง
“เออแล้วหลานอยู่ไหนวะ กูยังไม่เห็นหน้าเลย” ไอ้เซนที่ยึดโซฟาผมเรียบร้อยหันมาถาม
“ห้องเด็กแหละ เดี๋ยวสักพักก็คงเข็มมาแล้ว เออที่เหลือล่ะวะ” ถามหาเพื่อนก่อนถ้ามันมาถล่มห้องกันแต่เช้านี่คงปวดหัวมาก
“ยังไม่ตื่นมั้ง” ไอ้เซนยักไหล่ตอบอย่างกวนตีน
“แล้วมึงรีบมาทำห่าอะไร”
“กูตื่นเต้นนอนไม่หลับ มึงก็ต้องตื่นอยู่เป็นเพื่อนกูสิ” มันก็ลอยหน้าลอยตาตอบ น่าเอาส้นตีนลูบหน้าชิบหาย
“สัส” ผมก็ได้แต่สบถด่ามันไปมันก็หัวเราะอย่างชอบใจ
“ที่เหลือสายๆหน่อยเดี๋ยวก็ตามมา รอเด็กๆตื่นด้วย ” ไอ้แกมที่กินโจ๊กอยู่ก็เสริมขึ้น ผมก็ได้แต่พยักหน้ารับ ไม่รู้มอร์ฟีนจะทำหน้ายังไง ถ้าได้เห็นน้องที่อยู่ในท้องแม่เขาจริงๆ
ก๊อกๆ
ผมเกร็งตัวขึ้นโดยอัตโนมัติ เดาได้ว่าน่าจะเป็นเวลาให้นม...
มาแล้ว...

อ่านแล้วก็คอมเม้นหรือฟีดแบ็คกลับมากันด้วยนะคะ
มันเป็นกำลังใจให้คนเขียนจริงๆ☻♥
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ปล.ดีใจที่ไรท์กลับมาค่า
ปล.อยากเห็นหลานตัวน้อยใจจะขาดแล้วค่าาาา