ตอนที่ 24 : Chapter 23 : คนใจร้าย
|ChamCha Part|
ผมชะงักทันทีที่เห็นว่าใครเป็นคนชนผม ทำไมมันมาอยู่ที่นี่!?
หมับ!
“ชา! ชะ ช่วยเราด้วย” ร่างเล็กกว่าผมกอดขาแล้วร้องโวยวายไม่หยุด
“ใจเย็นๆก่อน ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้”
“เราไม่ได้อยากมาตะแต่...”
“วิน!!” เสียงเข้มๆทำให้ผมหันไปมองสีหน้าหงุดหงิดที่หาได้ยากจากคนหน้านิ่งทำให้ผมรู้ดีเลยว่าใครเป็นสาเหตุให้วินวิ่งเตลิดมาอย่างนี้ แต่ปฏิกิริยาที่สั่นเป็นเจ้าเข้า ตอนได้ยินเสียงกันต์ก็คลายความสงสัยของผมได้อย่างดีแล้ว
นี่กูคงไม่ได้หลงมาอยู่ในเรื่องจำเลยรักอะไรแบบนี้ใช่ไหม?
“ทำไมพวกมึงมาอยู่กันที่นี่” ผมหรี่ตาถามกันต์อยากจริงจังมันชะงักนิดๆแล้วสบถอะไรออกมาเบาๆลุคเถื่อนๆไม่ใส่แว่นนี่แปลกตาผมอย่างแรงแต่พยายามมองข้ามไป แต่มันก็สงสัยอยู่ดี
อดีตหัวหน้าห้องกูไม่ได้เรียบร้อยนิ่งๆสุขุมอะไรงี้หรอ??
“จะมีใครให้กูยืมเกาะทั้งเกาะได้บ้างล่ะ?” มันตอบด้วยสีหน้าไม่ทุกข์ร้อนเดินเข้ามาหาผมช้าๆ เกาะนี้เป็นของเฮียถ้าใครจะให้มันยืมได้คนจัดการก็ต้องเป็นไอ้ฝิ่น...
“มะไม่เอา!” วินร้องไห้เกาะขาผมแน่นซุกหน้าลงไม่ยอมหันมามองกันต์สักนิด ผมแอบสะเทือนใจท่าทางร้องงอแงเหมือนเด็กเล็กๆของวินเหมือนกันและพอสังเกตสภาพมันดีๆยิ่งสงสารยังกับถูกรุมโทรม ผมมองไอ้กันต์ดุๆให้มันหยุดเดินเข้ามาใกล้ รู้สึกเหมือนโดนหักหลัง ฝิ่นมันบอกจะไม่ทำอะไรรุนแรงแต่ว่าแบบนี้มันเลยคำว่ารุนแรงไปไกลแล้วว่ะ
“ชา เรื่องนี่เป็นเรื่องของกูกับมัน” กันต์ว่าด้วยสีหน้าสุขุม ผมเม้มริมฝีปากแน่นรู้สึกขัดใจแม่งทุกๆอย่าง ผมหันหน้าส่งสัญญาณให้เมียร์พยุงวินขึ้นมา
“กูว่าไม่ใช่แล้วล่ะกันต์ ทำขนาดนี้กูจะเอาวินกลับฝั่ง”
“นั่นเมียกูชา กูจัดการเองได้”
“กลับไปคุยกันที่ฝั่งจะเอายังไงค่อยว่ากัน” ผมหันหลังกลับเห็นเฮียมันมองมาด้วยสีหน้าไม่ทุกข์ร้อนกับไอ้ธันที่ทำหน้าหมางงว่าเกิดอะไรขึ้น
ที่ผมจะกลับเข้าฝั่งอีกเหตุผลนึงก็คือ จะไปจัดการไอ้คนไม่รักษาคำพูดด้วยนี่แหละ!
|Fin Part|
ผมขับรถเข้ามามาจอดที่หน้าบ้านพักเรียบร้อยก็เดินไปเปิดประตูด้านหลังที่เบาะติดตั้งคาร์ซีทไว้มีเจ้าตัวเล็กนอนหลับอุตุอยู่ ผมอุ้มลูกลงอย่างแผ่วเบาป้องกันเจ้าตัวน้อยตื่น หลังจากมีลูกมาผมรู้สึกใจเย็นขึ้นเยอะเหมือนกัน พวกเฮียๆมันก็ช่วยกันขนของลง พอเดินเข้าไปในบ้านผมก็ต้องเลิกคิ้วกับบรรยากาศมาคุที่แผ่กระจากอยู่
“มาแล้วหรอวะ” เฮียโคเคนร้องทักอย่างอารมณ์ดีผมก็ตวัดสายตาหงุดหงิดไปให้ เนื่องจากมองเห็นสิ่งที่คาดว่าจะเป็นต้นเหตุของสีหน้าบึ้งตึงของเมียผม
“เออ ดูท่าจะฝากเหี้ยอะไรไว้ไม่ได้เลยสินะ” ผมเหน็บมันไปเรียบๆ เกาะของเฮียเคน ไอ้กันต์จะเข้าไปใช้ได้ยังไงถ้าไม่ได้ผ่านผมถามเด็กอนุบาลยังคิดได้เลย
“ได้อยู่แล้วถ้าไม่ใช้ว่ากูก็อยากใช้” ผมกรอกตาอย่างหงุดหงิด เหตุผลเหี้ยๆนี้ผมขอเดาเลยว่า แม่งอยากปิดเกาะเอากับเมียกลางหาดกลางทะเล!
“มึงบอกกูก่อนกูก็ได้” ผมว่าแล้วว่าลูกลงที่โซฟาตัวโตข้างๆเมียที่ทำหน้าบูดไม่หายอีกข้างเป็นไอ้วินที่เกาะแขนเมียผมไว้อยู่ด้านตรงข้ามมีไอ้กันต์มองมานิ่งๆ
“That’s not fun!” มันยักไหล่อย่างกวนตีน เรื่องเหี้ยๆนี่ขอให้บอกมันจริงๆ
“นี่มึงคิดจะทำอะไรกันแน่” จู่ๆไอ้ชาก็โพล่งขึ้นมาฟังอาจน้ำเสียงคงหงุดหงิดน่าดู ผมตวัดสายตาไปมองคนที่เกาะแขนเมียผมอย่างออเซาะแล้วก็ต้องหมุนคิ้ว ก็ยังมีแรงนี่หว่า...
“ก็ไม่ได้คิดอะไร” ผมตอบหน้าตาย คนอื่นๆเริ่มลุกออกที่ละคน คงไม่อยากยุ่งกับเรื่องผัวเมียและไอ้คนแรกที่ลุกออกก็ไอ้เฮียเคนนี่แหละครับ แถมมีน้ำใจอุ้มลูกผมออกไปให้อีก จนเหลือแต่ผมกับชาและก็ไอ้กันต์กับไอ้วินที่ยังนั่งนิ่งไม่ไปไหน
“เหอะ แล้วดูที่ทำ” ชามันสบัดเสียงใส่แล้วหัยไปมองไอ้วินที่พอเจอทั้งผมทั้งกันต์จ้องก็ตัวสั่นเข้าไปใหญ่ ผมหันไปมองๆไอ้กันต์ที่ตอนแรกปฏิเสธคำผม แต่ดูตอนนี้คงบอกได้แค่ว่ามันโคตรให้ความร่วมมือสภาพไอ้วินดูผ่านๆยังรู้เลยว่าไปเจอกับอะไรมา
สงสัยคำแนะนำที่ให้ล่ามไว้กับเตียงแม่งคงทำจริง
“กูทำไม?” ผมถามกลับหน้าตาย ตีมึนเหมือนไม่รู้เรื่องอะไร
“อย่ามาตีหน้ามึน” ไอ้ชาแบะปากอย่างหงุดหงิด
“อย่าไปว่ามันจริงๆก็ความผิดกูเอง” ไอ้กันต์พูดขัดขึ้นมานิ่งๆแต่ไอ้ชาก็มองมันตาเขียวปัด
“เงียบไป!” แถมว่ามันไปอีกรู้เลยว่ามันคิดจะเอาไว้จัดการอีกที ไอ้กันต์ก็ทำหน้านิ่งหุบปากไปเฉยๆเลยครับ อารมณ์มันตอนนี้ไม่น่าปั่นสักนิด
“ชาใจเย็นก่อน มันไม่ดีกับลูกในท้อง” ผมว่าแล้วเอื้อมมือไปลูบขามันไปมาให้มันใจเย็นขึ้น มันส่งเสียงฮึดฮัดเหมือนจะงอนและบ่งบอกความไม่พอใจไปด้วย ผมฉีกยิ้มบางแล้วลูบหลังให้อารมณ์มันสงบมากยิ่งขึ้น แต่ไม่วายส่งสายตาเย็นๆไปให้ไอ้วินที่เกาะเมียผมไว้ไม่ปล่อย
“มีไร” ไอ้ชาตวัดสายตามามองแล้วถามหวนๆ สีหน้าบูดบึ้ง ผมรีบเก็บสายตากลับมาแทบไม่ทัน
“เปล่า” ก็ต้องตอบด้วยยิ้มบางๆ เหมือนตัวเองเป็นผู้บริสุทธิ์
ทำไงได้ เมียโกรธก็ต้องประจบไว้ก่อนสิครับ!
“น่าเชื่อชิบหาย เรื่องไอ้วินจากนี้มึงไม่ต้องไปยุ่งเลยนะ” มันชี้หน้าคาดโทษผมพร้อมส่งเสียงขัดใจ ท่าทางจะหมั่นไส้ผมน่าดู แต่ผมนี่หมั่นเขี้ยวท่าทางกระฟัดกระเฟียดของมันจริงๆ อยากจับฟัดชิบ!
“กูก็ไม่ได้ยุ่งอะไรขนาดนั้น” ผมยิ้มตอบมันไปแต่ดูจากสีหน้าบึ้งตึงก็รู้เลยครับว่าไม่เชื่อกันสักนิด แต่ผมก็ไม่ได้อยากให้มันเชื่ออยู่แล้วแถเล่นแหย่มันไปงั้นแหละ
“ขนาดเอาเกาะไปให้ทั้งเกาะคงไม่ยุ่งเลยมั้ง”
“ก็อำนวยความสะดวกให้เพื่อน” ผมว่ายิ้มๆเหลือบมองวินที่เม้มปากแน่นกับไอ้กันต์ที่มองมาล้อๆก็ยิ้มได้มากว่าเดิมแต่ชายิ่งเห็นไอ้กันต์ล้อก็ยิ่งตีหน้าดุ
“ถามจริง เรื่องนี้มึงไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องสักนิด?”
“☺” ยิ้มตอบสิครับยอมรับก็โดนด่า ไม่ยอมรับก็โดนด่ายิ้มมันเนี่ยแหละดีสุดแล้ว
“หึ่ย! ต่อไปนี้ไม่ต้องยุ่งกับมันแล้วนะ!” วกกลับมาประเด็นแรก ชามันคิดว่าผมจะไปแกล้งอะไรวินหรอถึงได้กันขนาดนี้ เห็นๆอยู่อยู่ว่าไอ้คนลงมือน่ะกันต์ทั้งนั้น ผมก็ทำได้แค่แนะนำนะครับใครจะเอาไปใช้รึเปล่าก็อยู่ที่รสนิยม
“อืม ชาก็ไม่ต้องไปยุ่งเรื่องผัวเมียของเขาเหมือนกันนะครับ” ผมยอมตกลงแต่ ถ้าผมไม่ยุ่งชามันก็ต้องไม่ยุ่งเหมือนกันนั่นแหละ ขืนมันมาเจ้ากี้เจ้าการไอ้กันต์ก็ลากกระต่ายไปกินไม่ได้พอดี
“กูว่านี่ไม่ใช่เรื่องผัวเมียแล้ว” มันขมวดคิ้วแสดงความไม่พอใจ
อ่า เชื่อเถอะ ไอ้กันต์มันรุนแรงไม่ได้ขนาดนี้หรอกถ้าวินมันไม่ยอม เห็นมันน่ารักเข้าหน่อยก็ใจอ่อนลืมไปรึเปล่าว่ามันเป็นคนที่รับผมกับชาพร้อมกันนะ ใช่ย่อยซะที่ไหนล่ะ
“เอากันมาเป็นเดือนไม่เรียกผัวเมียให้เรียกขาประจำ?”
“เหอะ!” พอรู้ว่าเถียงไม่ชนะมันก็สะบัดหน้าหนีแล้วลุกขึ้นแต่ไม่วายหันมาชี้คาดโทษ “เรื่องยังไม่จบนะแต่เอาไว้แค่นี้ก่อนง่วง!” ผมก็ได้แต่ยิ้มให้กับการเปลี่ยนอารมณ์ของมัน เอาลูกมาอ้างกับแม่นี่รอดทุกรายจริงๆ มองตามหลังคุณแม่ลูกสองไปจนลับสายตาผมก็หันมาสนใจวิวที่โดนสายตาไอ้กันต์ตรึงไว้ไม่ให้เดินตามชาไป
“มะ หมายความว่ายังไง ละ ลูกในท้อง?” วิวโพล่งขึ้นมาสติมันคงหลุดไปตั้งแต่เรื่องชาท้องแล้ว
“ก็ลูกกูในท้องชาไง” มาขนาดนี้ผมก็ไม่ได้คิดจะปิด
“ชะ ชาเป็นผู้ชาย” ท่าทางไม่เชื่อทำให้ผมยิ้มนิดๆ
“นั่นก็ถูก แต่ก็เป็นแม่ของลูกกูด้วย”
“ล้อเล่นหน่า...”
“ไม่ใช่เรื่องที่มึงต้องสนใจหรอก หันไปมองผัวมึงนู่น” ผมว่าเรียบๆ มองไปทางไอ้กันต์
“ฝิ่น เรา...” ท่าทีกล้าๆกลัวๆของวินดูเหมือนอยากจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็นะ ถ้าจะให้ช่วยผมก็ไม่ยุ่งหรอก ตอนแรกผมสั่งก็จริงแต่ตอนนี้มันกลายเป็นเรื่องผัวเมียแล้วไง
“วิน หนีออกมาอย่างนี้คงรู้นะว่าผมจะจัดการยังไง” ไอ้กันต์พูดขัดขึ้นมาเรียบๆ แต่น้ำเสียงแฝงความไม่พอใจชัดเจน ไอ้กันต์มันก็โหดกว่าที่ผมคิดนะเห็นแอบรักมาหลายปีนึกว่าจะถนอมกว่านี้ซะอีก แต่เท่าที่เห็นนึกว่าถูกรุมโทรมมารอยเต็มตัวไปหมด
หรือต้องบอกว่าอดกลั้นไว้นานปล่อยทีเดียวเลยระเบิดดี?
“มะ ไม่เอา!” วิวตะโกนลั่นส่ายหน้าไปมาไม่หยุด
“แล้วทำไมดื้อ”
“ปล่อยไปก่อน” ผมขัดจังหวะผัวเมียคู่นี้ก่อนเดี๋ยวจับฟัดกันตรงนี้มันจะเป็นเรื่องเปล่าๆ
“แล้วเอาไง” ไอ้กันต์ถามผมแต่สายตาไม่ละจากเมียมันสักนิด วินมันเม้มปากแน่นแล้วเบือนหน้าหนี ผมก็ได้แต่เหยียดยิ้ม แล้วยักไหล่นิดๆก่อนตอบ
“มึงก็รอให้ชามันเย็นลงก่อน” ถ้าไอ้กันลากวินมันตอนนี้คงขัดตาไปรอมันอารมณ์ดีๆมันก็ไม่สนแล้ว
“นานไหม” เสียงเข้มๆจริงจังขึ้นมากะทันหันจนผมต้องเลิกคิ้วมอง
“ติดเมีย?”
“ถ้ามึงได้ ติด มาทั้งเดือน คงไม่อยากห่าง” มันว่าแล้วกระตุกยิ้มนิดๆ เน้นคำว่าติดอย่างจงใจ
“หึ พอเข้าใจ” เข้าใจความว่าติดของมันอย่างแจ่มแจ้งเลยละครับ“เอาเป็นว่าเมียมึง มึงจัดการ เมียกู กูก็จัดการเองแล้วกัน”
“คงจัดได้ง่ายๆ” มันแซวผมหน้านิ่ง แต่จะว่าไงดีสถานการณ์ของผมมันดีกว่าเยอะถึงชามันจะจัดการยากว่าวินก็เถอะ
“หึ ของมึงเหอะสั่นขนาดนี้จะทำให้เชื่องได้เมื่อไหร่”
“ไม่นานหรอก ว่าแต่ข้อเสนอของลุงพลมึงว่าไง” แล้วมันก็เปลี่ยนเป็นหัวข้อที่ทำผมปวดหัวคิดหนักมาหลายเดือน เรื่องที่ไอ้กันต์มันบอกพร้อมเรื่องของวิน...
“เอาไว้ก่อน...”
“ควรบอกชานะ พ่อมึงเขาก็บอกไว้นานแล้วตั้งแต่ครั้งนั้น”
“ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรให้อะไรๆมันเรียบร้อยก่อน” ผมบอกปัดไปเรื่องนี้จะว่าจัดการง่ายก็งายจะว่ายากก็ยาก ผมก็ยังไม่ได้ให้คำตอบพ่อไป ทุกอยากผมเราไว้รอรับปริญญาเสร็จก่อนตอนนี้ถึงทำตัวสบายได้เต็มที่ แต่ผมก็รู้หลังจากนี้คงไม่สบายอย่างนี้ เงินที่ใช้ทุกวันนี้มันเงินพ่อแม่ หลังจากนี้ก็คงต้องหาใช้เอง
แต่ก็นะเมียลูกน่ารักขนาดนี้ทำงานจนตายก็ยอมครับ
ค่ำๆก็มีปิ้งย่างริมหาดกันครับ อาหารทะเลสดๆเฮียบุหรี่มันก็หามาให้ ใส่ลังน้ำแข็งมาสดทุกอย่าง อาหารอร่อย บวกกับบรรยากาศชิวๆริมทะเลเป็นอะไรที่ดีมาก ไม่ดีอยู่อย่างคือ...
“พี่รัญญ์ชอบกุ้งใช่รึเปล่าครับ ผมจำได้” เสียงที่ปกติผมชอบฟังหนักหนาแต่ตอนนี้อยากให้มันเงียบๆไปซะ เพราะมันกวนเส้นประสาทผมซะเหลือเกิน อารมณ์หงุดหงิดพลุ่งพล่านจนแทบรักษารอยยิ้มประจำบนใบหน้าไว้ไม่ได้
“อ่าใช่ครับ ดีใจจังที่จำได้” ไอ้เหี้ยนี่ก็อีกคน เจอตอนที่ชาไปเดินเล่น หลังจากนั้นตัวตนของผมแม่งก็หายไปด้วยเลยครับ นี่มันลืมไปรึยังว่าเป็นแม่ของลูกผมอยู่นะเว้ย!
“คิก คุยกันเมื่อวานเองครับถ้าจำไม่ได้ก็แย่แล้ว” เสียงหัวเราะเล็กๆแล้วยิ้มแบบนั้นอีก ไอ้สัสรัณณ์อะไรนั่นแม่งก็จ้องจะทะลุอยู่แล้ว หงุดหงิดจริงๆ เชี่ยเอ้ย!
“แหม่ผมอุตสาห์ดีใจนะเนี่ย” ไอ้คุณรัญญ์อะไรนั้นแซวกลับยิ้ม ถ้าไม่ติดว่าผมโดนชามันเมินอยู่นะลุกขึ้นไปซัดแม่งแล้วจริงๆ กวนอารมณ์ชิบหาย
“ป๊ะ! เอาจุ้งงงง” เสียงใสๆดึงผมให้หลุดจากภวังค์ สากสายตามาหาเจ้าตัวน้อยในอ้อมแขนที่นั่งพิงอกผมชี้นิ้วไปที่กุ้งสีสวย แต่ตอนนี้ไม่อยากให้ลูกกินกุ้งแล้ววะ เลยแกะเนื้อปูขาวๆป้อนให้แทน เจ้าตัวเล็กย่นคิ้วแต่ก็ยอมอ้าปากรับเนื้อปูเข้าไปเคี้ยวหยับๆจนแก้มตุ้ย น่าฟัดสุดๆ “อาหย่อยยย”
“อร่อยก็กินเยอะๆนะครับ จะได้โตไวๆ”
“อื้ม!” มอร์ฟีนยิ้มแฉ่ง พอได้ของกินก็อารมณ์ดี ผมก็นั่งป้อนข้าวลูกไปเหลือบมองเมียตัวเองเป็นระยะๆแต่แม่งก็ไม่สนใจ รู้สึกเหมือนเมียหลวงที่อยู่แต่บ้านเลี้ยงลูกส่วนผัวออกไปเที่ยวหญิงตงิดๆ
“ฟีนเอากุ้งไหมเดี๋ยวลุงแกะให้” เฮียบุหรี่ที่นั่งข้างๆผมหันมาหาหลานโบกกุ้งไปมา ลูกชายผมก็มองตามตาแป๋วเลยครับ พยักหน้าหงึกหงัก
“อาววว!” เห็นหลานขอบใจก็ยิ่มแก้มปริแต่พอจะป้อนกุ้งให้หลาน ก็มีกุ้งอีกตัวมาจ่อปากเล็กๆก่อน ไม่ตองบอกก็รู้ว่าใคร อีกข้างของผมก็เฮียซิกการ์นั่นแหละครับ แม่งกวนตีนพี่อีกแล้ว
“ซิก! เฮียจะป้อนหลานก่อนนะ”
“ก็ป้อนสิ” เฮียซิกว่าตาระยับจงใจกวนตีน เฮียบุหรี่ทำท่าทางจะเอาเรื่องแต่มีมือดีมารวบเอวขึ้นนั่งบนตักซะก่อน ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกไอ้ไฮนซ์นั่นแหละครับ
“ไม่โวยวาย” น้ำเสียงเนิบๆของไอ้ไฮนซ์ว่าเฮียช้าๆเหมือนดุเด็ก เฮียบุหรี่ก็กรอกตาไปมาแล้วยิ้มร้าย
“ก็หาอะไรมาอุดปากซะสิ” สายตานิ่งสงบของไอ้ไฮนซ์สว่างวาบวูบเดียวแล้วหายไปอย่างไร้ร่องรอยแต่ก็โน้มหน้าลงไปหาหน้าเฮียมัน...
นั่นแหละครับ...แล้วเขาก็อุดปากกันและกันไม่ได้อายสายตาใคร โดยเฉพาะเพราะน้องรหัสไอ้ไฮนซ์ที่ตาโตแก้มแดงแปร๊ด ส่วนลูกผมก็หันไปอ้าปากรับกุ้งจากเฮียซิกไม่ได้สนใจอะไร กินอย่างเดียวครับคนนี้ ส่วนเคนมันก็สะกิดไอ้ธันยิกๆ เหมือนอยากทำตามก็โดนไอ้ธันเอาปลาหมึกยัดปากไป
ส่วนเมียผม... แม่งก็ไม่ได้สนใจอะไรอยู่ดี
“เพื่อนน้องชานี่ เปิดเผยดีนะครับ” เสียงเสนียดหูผมแม่งมาอีกแล้วครับ แล้วดูมันเรียกเมียผม น้องชาห่าอะไร! นั่นเมียกู! ส่วนเมียผมก็หัวเราะกระซิกกันเข้าไป
นี่มันกำลังวัดขีดความอดทนของผมรึเปล่าวะ?
แต่ผมก็ไม่โง่พอไปบวกกับไอ้รัญญ์อะไรนั่นหรอกครับ ชามันหงุดหงิดอยู่ขื่นไปล้ำเส้นมันคงวีนแตกแน่ๆ ก็สงบปากสงบครับไปก่อนครับ เมียหายงอนค่อยทบต้นทบดอกทีเดียว! เป็นอย่างนี้จนได้เวลานอนของไอ้ชานั่นแหละครับ พอมันลุกขึ้นผมก็รีบอุ้มลูกเดินตามไปทันทีเพราะมอร์ฟีนก็เริ่มหาวหวอดๆแล้ว พอเดินไปถึงห้องก็พาลูกไปแปรงฟันแล้วอุ้มไปนอนเล่านิทานไปครึ่งเรื่องก็หลับปุ๋ยแล้วครับน่ารักจริงๆ เขี่ยแก้มลูกเล่นไปมาก็หันไปมองแม่ของลูกบ้าง มันก็ทำท่าจะเตรียมตัวนอนแล้วเหมือนกันถ้าไม่ติดว่า...
ตุ้บ!
กระเป๋าผมครับปลิวออกไปนอกห้องโดยฝีมือเมียผมเรียบร้อย พอมันจัดการโยนกระเป๋าผมเสร็จก็เดินอุ้ยอายไปนอนที่เตียงปล่อยผมที่ยืนงงสถานการณ์อยู่กลางห้อง
มันจะให้ผมไปนอนนอกห้อง..? เอาจริง?
“ชา” ผมเรียกมันนิ่งๆ แต่มันเอาหน้าซุกหมอนหนีผมซะงั้น
“...”
“หมายความว่าไง” ผมถามเสียงเข้มขึ้น ชามันก็คงรู้ว่าผมเริ่มหงุดหงิดแล้วก็ส่งเสียงจิจ๊ะมองผมตาขวาง
“เห็นหน้าแล้วหงุดหงิด ไปนอนไกลๆตีนกูเลย” มันพูดแล้วซะบัดหน้าหนี
“ชา” ผมกดเสียงต่ำ เป็นการบอกกลายๆว่ากูไม่เอาด้วย นอนกอดเมียมาทุกคืนจะให้ไปนอนคนเดียวได้ยังไงวะ?
“กูง่วง มึงออกไป” มันซุกหน้าลงหมดตอบผมเสียงอู่อี้ แม่งงอแง!
มันไม่ยอมมองหน้าผมด้วยซ้ำ พูดไล่ผมซ้ำๆอีกหลายรอบ ผมก็ยืนหัวเสียอยู่ข้างเตียงโดยที่มันไม่ยอมลุกมาคุยดีๆ จนต้องปลงตก จะทำไงได้ล่ะครับเมียไม่ยอมให้นอนด้วยก็ต้องออกตามเมียว่านั่นแหละ เห็นมันโกรธแทนไอ้วินขนาดนี้แล้วหมั่นไส้ว่ะ
“เออ” ผมตอบเสียงหงุดหงิดอยากจะปิดประตูใส่ดังๆแต่ก็ทำไม่ได้ครับเดี๋ยวลูกตื่น เป็นพ่อคนนี่ต้องคิดอะไรเยอะเหมือนกัน
แกร็ก!
ผมหันขวับไปมองที่ประตูลองบิดเปิดดูปรากฏว่าล็อก นี่แม่งกะไล่ผมจริงจัง ?
“อ้าวนี่มึงมายืนอะไรตรงนี้” หันไปเป็นไอ้กันต์ครับที่ยืนทำหน้าหงุดหงิดอยู่ห้องใกล้ๆที่ถ้าจำไม่ผิดก็เป็นห้องไอ้วินนี่หว่า เพื่อนร่วมชะตากรรมชัดๆ
“หึ เมียไม่ให้เข้าห้องหรอมึง”
เรื่องตัวเองเอาไว้ทีหลัง ตอนนี้ขอทับถมเพื่อนก่อน!
“มึงก็ไม่ต่างนะฝิ่น” มันพูดเสียงเรียบกวาดตามองผมแล้วลากสายตาไปหยุดอยู่ที่กระเป๋าที่ปลายเท้าผมก็กระตุกยิ้มออกมา
“ก็แค่ตอนนี้” ผมเหยียดยิ้มเจ้าเล่ห์ส่งให้ มันก็ส่ายหัวหน่ายๆ “ส่วนเมียมึงกูแนะนำให้ไปนอน หรือไม่ก็ไปหากุญแจมา รู้สึกอีกชุดจะอยู่ที่เฮียบุหรี่”
“อืม” มันพยักหน้าแล้วเตรียมเดินออกไปหน้าบ้านที่เขายังตั้งวงไม่เลิก แต่ผมก็รั้งไว้ก่อน
“เออ กูเข้าไปอาบน้ำห้องมึนนะ” มันก็พยักบอกห้องไม่ได้ล็อก ผมก็จัดการตัวเองครับอาบน้ำแต่งตัวพร้อมนอนเรียบร้อยก็เดินออกมาหน้าบ้าน
“อ้าวไม่ใช่มึงไปนอนแล้วหรอ” เสียงเคนครับร้องทักแทบจะทันทีที่ผมก้าวออกจากประตูทำให้ทุกคนหันมามองด้วย
“ก็กำลังจะไปนอน” ผมตอบแล้วกระตุกยิ้มกวนตีน
“แล้วไมไปเข้าตรงนั้นวะ” ผมยักไหล่ไม่ตอบแล้วเดินออกมาแต่ได้ยินเสียงไอ้กันต์ตอบแทนแว่วๆ
ส่วนผมก็เดินสำรวจหน้าต่างห้องตัวเอง เจ้าได้ว่ายังไม่ได้ล็อกบานที่อยู่ใกล้ประตูห้องน้ำ เพราะผมเป็นคนปิดก่อนจะเดินออกมากินข้าวแต่ไม่ได้ลงกรไว้ แหม่ผมไม่เดินออกมาจากห้องที่ไม่แน่ใจว่าจะกลับเข้าไปได้หรอกครับ เสียดายที่กุญแจสำรองของผมก็วางรวมๆไว้กับพวกกุญแจรถเพราะวันนี้แยกกันไปเลยเก็บกุญแจไว้คนละชุด ปรากฏว่าตอนออกจากห้องมันเก็บเรียบเลยครับ
ผมค่อยๆแงะหน้าต่างอย่างใจเย็นปีนข้ามเข้าห้องไป พยายามเบาเสียงให้มากที่สุดไม่ให้ลูกเมียตื่น แล้วทิ้งตัวลงนอนเบาๆ ชาที่เหมือจะรู้สึกว่ามีคนมานอนข้างๆก็หันมาซุกตัวกับผม ผมคิดว่ามันหลับจนกระทั่ง…
“ช้า” เสียงอู้อี้ดังออกมาจากมันที่ไม่ยอมละจากตัวผม
“ไหนให้ไปนอนข้างนอก” ผมถามแหย่ไอ้คนอารมณ์แปรปรวน แต่ก็วางมือลูบท้องกลมนูนไปมา
“ถ้าเข้ามาไม่ได้ก็นอนข้างนอกไปเลย” ว่าอย่างนั้นแต่ไม่ยอมปล่อยมือผมสักนิดจนทำให้ผมแอบยกยิ้มบางๆไม่ได้
“งั้นไม่นอนแล้วเปิดห้องใหม่ไปเลยดีไหม”
“...” มันไม่ตอบแต่ส่ายหน้าที่ซุกอยู่กับอกผมไปมา
ท้องนี้ชามันอารมณ์แปรปรวนมากครับแถมเบื่อขี้หน้าผมบ่อยๆด้วย พอมีอะไรขัดใจก็ชอบไล่ผมไปไกลๆ แต่ก็รอผมกลับมาหา ตอนแรกๆก็ตามอารมณ์มันไม่ทันครับเดี๋ยวนี้รู้แกว เรียกกลยุทธ์ถอยเพื่อรุกครับแหม่ มันไล่ก็ไปก่อนเดียวค่อยตะคลุบที่หลัง
แต่คิดถึงตอนท้องมอร์ฟีนมากครับขี้อ้อนขี้อ่อยชิบหาย มอร์ฟีนก็นิสัยขี้อ้อนจริงๆด้วย แอบกังวลถึงอนาคตลูกคนที่สองไม่ได้ว่าที่มันเบื่อหน้าผมบ่อยๆไม่ใช่ลูกจะไม่ชอบหน้าผมนะ??ถึงมีอ้อนบ้างแต่ถ้าเทียบตอนท้องแรกก็ถือว่าไว้ตัวอยู่ หรือว่าเจ้าคนที่สองจะหวงแม่?
นอนคิดเล่นๆไปมารู้สึกตัวอีกทีลมหายใจของคนข้างๆก็สม่ำเสมอ คงจะเพลียๆนั่นแหละครับผมลูบหัวเล็กๆไปมาอย่างหมั่นเขี้ยว ผมไม่อยากถือสาอะไรกับอารมณ์แปรปรวนของมัน ปกติให้ท้ายมากอยู่แล้วพอท้องยิ่งไม่มีคนขัดใจ นี่ผมเลี้ยงเมียจนเสียคนรึเปล่าวะ? ก็ได้แต่คิดไปคิดมาจนเคลิ้มหลับไป
........................
...........
.....
“ป๊ะ! ม๊ะ!” เสียงเล็กๆของลูกชายปลุกผมขึ้นมา เจอมอร์ฟีนยิ้มหวานแล้วก็หัวเราะอย่างอารมณ์ดีที่ปลุกพ่อขึ้นมาได้ ผมยิ้มให้ลูกแล้วเดินเข้าไปหาที่เตียงเล็ก
“อรุณสวัสดิ์ครับ”
“คับ!” เจ้าตัวเล็กตอบรับเสียงใสยิ้มจนตาหยี่ ชูมือกว้างเหมือนจะให้อุ้มผมก็อุ้มพาไปล้างหน้าแปรงฟัน ตอนยิงฟันเพื่อแปรงฟันเองดูน่าฟัดจนผมหัวเราะเบาๆ จัดการอะไรเรียบร้อยประมาณแปดโมงกว่าๆ ขี้เซาอย่างไอ้ชาคงไม่ยอมตื่นแน่ๆผมก็เลยพาลูกออกมาหาอะไรกินกันก่อน
ตอนเช้าอย่างนี้ไม่มีคนตื่นเลยครับไม่รู้ดื่มกันหนักแค่ไหน ผมก็เปิดตูเย็นรินนมให้ลูก แล้วก็หาผักกับเนื้อที่เหลือติดตู้เย็นมาทำแกงจืดง่ายๆ ส่วนข้าวก็มีที่เหลือจากกเมื่อวานมาเวฟเอา ทำเสร็จก็คลุกเข้ากับแกงจืดตัดเป็นชิ้นเล็กๆให้ลูกตักกินเองได้ง่ายๆ พวกผมพยายามให้ลูกได้ทำอะไรด้วยตัวเองเวลาอยู่ที่บ้านเลอะก็ไม่เป็นไรแค่ให้ลูกได้ลองทำเด็กเขาก็จะเคยครับ พอโตก็ไม่มีปัญหา ญาติผมบางคนเลี้ยงลูกสามสี่ขวบยังต้องป้อนอยู่เลยเพราะติดนิสัยเคยตัว
“อร่อยไหมครับ” ผมถามยิ้มๆ มอร์ฟีนที่เคี้ยวจนแก้มเต่งก็ฉีกยิ้มกว้าง
“อาหย่อย” เจ้าตัวเล็กพยักหน้าหงึกหงักเป็นท่าทางประกอบผมก็ลูบหัวด้วยความเอ็นดู เจ้าตัวก็ยิ้มเอียงคออย่างน่ารัก แล้วก้มไปจักการข้าวตัวเองต่อ รอจนลูกจัดการอาหารของตัวเองเสร็จผมก็พากลับเข้าห้องไปดูชาด้วย เดินมาไม่ทันถูกหน้าห้องประตูก็เปิดมาเองซะก่อน
หมับ!
“ฝิ่น...” ไอ้ชาโถมตัวกอดผมอย่างเร็วทำให้ชะงัดนิดๆแต่ก็ตั้งสติได้ ลูบหลังมันเบาๆ
“มีอะไรหือ?” ผมถามแต่มันไม่ได้ตอบ แค่ส่ายหน้าไปมา เดาว่าคงแค่ตกใจที่ตื่นมาไม่เจอผมมากกว่า มอร์ฟีนเห็นพ่อแม่กอดกันก็เดินมากอดขาแม่อีกคน
“กอดดดด้วยยย” เอาแก้มถูอ้อนอย่างน่ารัก ผมจะตอบอะไรได้นอกจาก
“ครับผม” ก้มลงไปอุ้มขึ้นมาหอมแก้มยุ้ยไปฟอดใหญ่ ชาก็เหมือนหมั่นเขี้ยวฟัดแก้มลูกเล่นจนมอร์ฟีนหัวเราะร่าพวกผมก็พากันเดินเข้าห้องกัน นั่งเล่นกับลูกที่เตียง
“ขอโทษ” ผมเลิกคิ้วนิดๆกับชาที่อยู่ก็โพล่งขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย มันก้มหน้าลงต่ำแต่ก็เหลือบมองมานิดๆ เห็นท่าทางน่ารักอย่างนั้นก็โกรธไม่ลง ไอ้ท่าทางกระมิดกระเมี้ยนแบบนี้หาได้ยากจริงๆ ปกติมันเป็นคนตรงๆไม่ได้ดูฟอร์มเยอะขนาดนี้นะ แปลกดี
“ไม่เป็นไร”
อ่านแล้วก็คอมเม้นหรือฟีดแบ็คกลับมากันด้วยนะคะ
มันเป็นกำลังใจให้คนเขียนจริงๆ☻♥
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

อยากเห็นน้องชาย(เอ๊ะ!หรือน้องสาว)มอร์ฟีนแล้ววววว รีบ ๆ ต่อนะคะ❤
แต่นี่อาจเป็นเพราะอารมณ์คนท้องหรือเปล่า ดีที่ตอนรู้สึกตัวก็ขอโทษ
แบบว่าเห็นด้วยกับไรท์ที่ว่า ตอนชาท้องมอร์ฟีนนี่น่ารักและขี้อ้อนมากจริงๆ