ตำนานแห่งเจมาโตนี
ใครว่าโลกแห่งเวทย์มนตร์ไม่มีอยู่จริง บางครั้งมนุษย์อย่างเราๆ อาจจะสัมผัสกับเวทมนตร์โดยที่ไม่รู้ตัวก็เป็นได้
ผู้เข้าชมรวม
326
ผู้เข้าชมเดือนนี้
8
ผู้เข้าชมรวม
แท็กนิยาย
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ตำนานแห่งเจมาโตนี
Introduction
มหานครนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา
เด็กหนุ่มผมบลอนด์วัยสิบเก้าปี
นัยน์ตาสีเขียวมรกต สวมเสื้อแจ็คเก็ตแบบมีฮู้ด สะพายกระเป๋าเป้ใบใหญ่ ยืนอยู่หน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง
เขาแหงนขึ้นไปมองท้องฟ้าที่กำลังมีหิมะโปรยปรายลงมาอยู่ตลอดเวลา เจ้าตัวใช้มือทั้งสองข้างจับฮู้ดที่อยู่ด้านหลังขึ้นมาคลุมศีรษะ
ก่อนจะเดินไปตามถนนเส้นประจำฝ่าพายุหิมะ ตรงไปยังห้องเช่าราคาถูกซึ่งในย่านนี้ เงินเดือนเกือบครึ่งของเขาหมดไปกับค่าเช่าห้อง
แต่ถึงอย่างนั้น ‘อาร์เธอร์’ กลับเจียดเงินบางส่วนเก็บไว้ซื้อหนังสือมือสอง
ที่ร้านประจำไปอ่านเกือบทุกเดือนไม่เคยขาด และวันนี้อาร์เธอร์ต้องแวะไปที่ร้านหนังสือก่อน
เผื่อจะมีหนังสือเล่มที่น่าสนใจติดไม้ติดมือกลับไปอ่านที่ห้องด้วย
กริ้งงง
เมื่อมือหนาดันประตูกระจกเข้าไปในร้านก็มีเสียงกระดิ่งดังขึ้น
เตือนให้เจ้าของร้านที่อยู่ด้านในรับรู้ว่ากำลังมีลูกค้าต้องการเข้ามาดูหนังสือ
ชายวัยกลางคนร่างท้วมสวมแว่นตาหนาเตอะนามว่า ‘ออสติน’ ที่กำลังตั้งใจนั่งอ่านหนังสือเล่มโปรดอยู่ในเคาน์เตอร์ชำระเงิน
ต้องละสายตาหันไปมองผู้เข้ามาใหม่ที่รู้จักและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี
“สวัสดีครับลุงออสติน”
ชายหนุ่มเอ่ยทักทายเหมือนเช่นทุกครั้งที่เข้ามาในร้าน
“ว่าไงอาร์เธอร์วันนี้งานยุ่งไหม”
ชายร่างท้วมเจ้าของร้านเอ่ยถามอย่างเป็นกันเอง
อาร์เธอร์ทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง
“นิดหน่อยครับ...ว่าแต่วันนี้ลูกค้าไปไหนกันหมด
ไม่เห็นมีใครเลยสักคน” อาร์เธอร์มองไปที่ชั้นหนังสือแต่ก็ไม่เห็นลูกค้าคนอื่นเลย
“หิมะตกสงสัยขี้เกียจออกมากระมัง
วันนี้มีหนังสือแนวแฟนตาซีเข้าใหม่เยอะเลย เข้าไปดูสิเผื่อมีเล่มที่ถูกใจ” ลุงเจ้าของร้านเอ่ย
“จริงดิครับ! ว่าแต่อยู่โซนไหน”
เมื่อได้ยินอย่างนั้นเด็กหนุ่มนัยน์ตาสีเขียวมรกตก็แสดงสีหน้าตื่นเต้นดีใจ เขาชื่นชอบนวนิยายแนวแฟนตาซีเป็นชีวิตจิตใจอยู่แล้ว
“ต้องใช้เวลาหานิดนึงนะ
เพราะลุงกองไว้หลังร้านยังไม่ได้แยกประเภทเลย”
“ไม่มีปัญหาครับลุงออสติน”
เมื่อเดินไปถึงหลังร้านตามที่ลุงออสตินบอกแล้ว
ก็พบกับหนังสือกองโตที่ยังไม่ได้จัดแยกประเภท อาร์เธอร์วางกระเป๋าเป้ลงบนพื้นแล้วนั่งขัดสมาธิในท่าทีสบายๆ
ก่อนจะกรอกสายตามองหาหนังสือที่สนใจ เขาหยิบขึ้นมาดูเล่มแล้วเล่มเล่าไปเรื่อยๆ ระหว่างนั้นเจ้าตัวก็ได้ยินเสียงผู้หญิงดังแว่วเข้าหู
หันไปมองรอบตัวก็ไม่พบว่าจะมีใครเดินเข้ามาเลยสักคน จึงคิดว่าตัวเองหูฝาดเป็นแน่
เจ้าตัวยิ้มน้อยๆ แล้วส่ายหน้า ก่อนจะหันไปสนใจกองหนังสือต่อ
“พวกเรารอท่านอยู่องค์ราชาแห่งเจมาโตนี”
เสียงหวานของใครบางคนยังคงดังแว่วเข้ามาในหูไม่หยุดหย่อน
อาร์เธอร์ได้แต่หันไปมองซ้ำแล้วซ้ำเล่าแต่ก็ไม่พบใครเช่นเดิม ด้วยความที่เป็นคนเชื่อเรื่องเวทย์มนตร์และไสยศาสตร์อยู่แล้ว
จึงคิดว่าสถานการ์นี้เริ่มไม่ชอบมาพากลเสียแล้ว มาที่นี่อยู่บ่อยครั้งแต่เขาก็ไม่เคยเจอเรื่องอย่างนี้มาก่อน
คิดได้อย่างนั้นจึงลุกขึ้นเพื่อจะกลับห้องเช่า เอาไว้วันหลังค่อยกลับมาใหม่อีกที
แต่ระหว่างที่กำลังจะลุกขึ้นกลับมีหนังสือเล่มหนึ่งหล่นออกมาจากกอง ไม่รู้อะไรดลใจให้เจ้าตัวหยิบขึ้นมาแล้วตัดสินใจถือออกมาชำระเงินทันที
เหมือนมีอะไรบางอย่างเรียกร้องให้เขานำหนังสือเล่มนี้กลับไปด้วย
“เอาเล่มนี้ครับ”
อาร์เธอร์ยื่นหนังสือให้กับเจ้าของร้าน พร้อมเตรียมกระเป๋าสตางค์ไว้รอ
“เรานี่ชอบของเก่านะเนี่ย
เล่มนี้ลุงไม่คิดเงินละกันเพราะมันเก่ามาก ให้ฟรีในฐานะลูกค้าประจำ” คุณออสตินหยิบหนังสือใส่ถุงให้อย่างดี
แล้วยื่นให้พร้อมกับรอยยิ้มที่เป็นมิตร
“ขอบคุณลุงออสตินมากๆ
นะครับ” อาร์เธอร์ดีใจยกใหญ่นี่คือหนังสือเล่มแรกที่เขาได้ฟรีจากร้านลุงออสติน
“เอาเป็นว่ามาอุดหนุนร้านลุงบ่อยๆ
ละกัน” คุณออสตินเอ่ยด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“ครับถ้างั้นผมขอตัวกลับแล้วนะครับ”
“ขอให้สนุกกับหนังสือเล่มใหม่นะไอ้หนู”
อาร์เธอร์ยิ้มรับแล้วผลักประตูออกไปนอกร้าน
จับฮู้ดเสื้อขึ้นมาคลุมศีรษะเอาไว้แล้วเดินฝ่าหิมะกลับห้องเช่าอย่างเร่งรีบ
เดินมาเกือบห้านาทีก็ถึงอพาร์ทเม้นท์หลังเก่าๆ
มีทั้งหมดสามชั้น อาร์เธอร์เปิดประตูแล้วเดินขึ้นบันไดจนไปถึงชั้นสาม เลี้ยวขวาตรงไปจนสุดก็จะถึงห้องหมายเลย
‘312’ เขาใช้ห้องนี้เป็นที่หลบแดดหลบฝนมาเป็นเวลาเกือบสามปีแล้ว
เข้ามาในห้องแล้วอาร์เธอร์ก็เดินมาที่เตียงนอน
ก่อนจะนั่งลงแล้ววางกระเป๋าเป้ใบใหญ่ลงข้างตัว มือหนาเอื้อมไปกดสวิตซ์ที่ฐานโคมไฟบนโต๊ะหัวเตียง
ทำให้ห้องเช่าแคบๆ ที่เคยมืดสลัวกลับสว่างไสวขึ้นมาทันตา หลังจากนั้นก็ถอดเสื้อแจ็คเก็ต
เดินไปพาดไว้บนราวที่มีเสื้อผ้าหลายตัวพาดอยู่ก่อนแล้ว อาร์เธอร์เดินไปยังระเบียงหลังห้อง
เพื่อสำรวจหิมะที่กำลังตกโปรยปรายลงมาท่ามกลางแสงจันทร์ที่สว่างจ้า จนหลังคาตึกตรงข้ามขาวโพลนไปเสียหมด
ขณะยืนมองดูหิมะโปรยปรายลงมาจากฟากฟ้าอย่างเพลินตา
ก็ปรากฏแสงสว่างวาบจากในห้องทำให้อาร์เธอร์ต้องหันหลังกลับไปมอง รีบเดินเข้าไปดูแต่ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ
ก่อนจะปรายตามองหนังสือที่เพิ่งได้มาใหม่ จึงเดินเข้าไปนั่งบนเตียงแล้วหยิบมันขึ้นมาดูหน้าปกให้ชัดๆ
นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาตัดสินใจซื้อหนังสือทั้งที่ยังไม่ได้อ่านแม้กระทั่งชื่อเรื่อง
“ตำนานแห่งเจมาโตนี” อาร์เธอร์อ่านออกเสียงเบาๆ หนังสือเล่มนี้ดูเก่ามาก
หน้าปกเป็นภาพมงกุฎสีทองซึ่งมีทั้งหมดเก้ายอดและถูกประดับตกแต่งด้วยอัญมณีหลากหลายสี
ขอบปกเป็นลายเส้นที่ถูกถักทอรวมกันจนเป็นรูปร่างคล้ายเถาวัลย์แต่ดูอ่อนช้อยและสวยงามยิ่งนัก
ทำไมเขาถึงได้รู้สึกคุ้นตากับหนังลือเล่มนี้มากเหลือเกินราวกับว่าเคยเห็นมันมาก่อน
เพียงแค่เห็นหน้าปกก็ทำให้อาร์เธอร์รู้สึกหลงใหลกับหนังสือเล่มนี้มากเหลือเกิน
มันดูน่าค้นหาและรู้สึกได้ถึงพลังงานบางอย่าง เจ้าตัวยิ้มที่มุมปากพร้อมแล้วกับการเปิดหน้าปกเข้าไปสู่โลกแห่งนิยายที่น่าตื่นเต้น
ภาพแรกที่เห็นคือแผนที่อันซับซ้อนที่ถูกวาดขึ้นด้วยหมึกสีดำอย่างละเอียดละออ ทว่าเหมือนมีใครบางคนสั่งให้หนุ่มผมบลอนด์เอ่ยประโยคหนึ่งขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว
“ข้าคือองค์ราชาแห่งเจมาโตนี”
ทันใดนั้นลายเส้นสีดำบนแผนที่ก็เปลี่ยนเป็นสีเขียวอ่อนเรืองแสง
เริ่มเข้มขึ้นเรื่อยๆ จนเปล่งสว่างวาบออกมาจากหนังสือ ทำให้อาร์เธอร์ต้องปิดเปลือกตาทั้งสองข้างลงโดยอัตโนมัติ
หลังจากนั้นก็รู้สึกเหมือนร่างกายไร้ซึ่งแรงโน้มถ่วง เมื่อลืมตาขึ้นมาก็พบว่าตัวเองกำลังล่องลอยอยู่ในอากาศ
ที่เต็มไปด้วยเม็ดอัญมณีหลากสีเปล่งแสงระยิบระยับสวยงาม
อัญมณีเหล่านั้นกำลังลอยวนล้อมรอบตัวเขา ไม่นานพวกมันก็พร้อมใจกันส่องแสงจ้าจนอาร์เธอร์ต้องหลับตาลงอีกครั้ง
เขารู้สึกเหมือนกำลังได้เดินทางไปผจญภัยในดินแดนอันไกลโพ้นที่น่าอัศจรรย์ใจ
ผลงานอื่นๆ ของ ไมเลอร์ / กอบแก้ว ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ไมเลอร์ / กอบแก้ว
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ความคิดเห็น