ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    12 Month In JaPanee ตะลุยญี่ปุ่นกัน

    ลำดับตอนที่ #9 : August------------------เดือนแห่งการรำลึกถึงสงครามโลกครั้งที่ 2

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 423
      2
      10 ต.ค. 52

    August

    はちがつ  (ฮาชิกัตซึ)

         ฮัทสึกิ (Hatsuki) หมายถึง เดือนแห่งใบไม้ ตำนานกล่าวว่าช่วงเวลานี้ของปี ใบไม้บนดวงจันทร์จะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอร่ามซึ่งทำให้เห็นแสงจันทร์สว่างขึ้น

     

     ต้นเดือนสิงหาคมร่องความกดอากาศสูงเหนือมหาสมุทรแปซิฟิกมีกำลังแรงทำให้ท้องฟ้าปรอดโปร่งตลอดประเทศ แต่ละท้องถิ่นจะทำสถิติอุณหภูมิสูงสุดในรอบปี

         เดือนสิงหาคือเดือนโอบ้ง (O-bon) คืองานพิธีทางศาสนาที่จัดให้มีในวันที่ 13-15 เป็นการต้อนรับวิญญาณบรรพบุรุษผู้ล่วงลับกลับคืนมาสู่บ้าน ในประเพณีโอบ้งมีการจุดไฟต้อนรับที่หน้าประตูบ้านและการถวายผักบูชาที่หิ้ง การละเล่นเช่นรำวงบงโอโดริ และการจุดดอกไม้ไฟ นิยมทำกันทั่วทุกแห่ง ในวันที่ 16 จะจุดไฟโอคุริบุ เป็นการส่งวิญญาณบรรพบุรุษ โอคุริบุ ที่ชื่อว่า ไดมนจิ

    ของโตเกียวจะมีชื่อเสียงมาก นอกจากนั้นในวันนี้บางแห่งจะมีการลอยโคมลอย โทโร นางาฉิ เพื่อส่งวิญญาณ บริษัทห้างร้านต่างๆส่วนใหญ่จะหยุดในช่วงเทศกาลโอบ้งผ็คนจึงใช้ช่วงวันหยุดไปเยี่ยมบ้านเกิด

      

      ในเดือนนี้ยังมีการแข่งขันเบสบอลระดับมัธยมตอนปลายทั่วประเทศ ทีมที่ชนะเลิศในรอบการแข่งขันรอบคัดเลือกจากเขตในระดับจังหวัดจะมารวมกันที่สนามโคชิเน จังหวัดเฮียวโงะ เพื่อชิงอันดับหนึ่งของประเทศ

    6 สิงหาคม ฮิโรชิมา เกมบาคุ คิเนมบิ (Hiroshima Genbaku kinenbi) วันรำลึกถึงการทิ้งระเบิดที่เมืองฮิโรชิมา

    9 สิงหาคม นางาซากิ เกมบาคุ คิเนมบิ (Nagasaki Genbaku kinenbi) วันรำลึกถึงการทิ้งระเบิดที่เมืองนางาซากิ

    15 สิงหาคม ชูเซน คิเนมบิ (Shusen kinebi) วันระลึกถึงการสิ้นสุดสงคราม

    ใน 3 วันที่กล่าวมานี้จะมีการชุมนุมเพื่อสวดมนต์อธิษฐานเพื่อสันติภาพของโลก

    โทโร นางาฉิ

          อีกรูปแบบหนึ่งของโคมไฟส่งวิญญาณบรรพบุรุษคือ โทโร นางาฉิ   ซึ่งเป็นโคมกระดาษคุดไฟลอยน้ำโคมนี้จะมีเทียนจุดไฟปักไว้ข้างในและจะถูกลอยน้ำเพื่อนำทางให้กับวิญญาณบรรพบุรุษลอยกลับสู่ทะเล แต่ละถิ่นโคมลอยก็จะแตกต่างกันไป

    โอบ้ง

         ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะฉลองเทศกาลโอบ้งตั้งแต่วันที่ 13-15 สิงหาตามความเชื่อในทางพระพุทธศาสนาที่ว่าวิญญาณของบรรพบุรุษจะกลับมาสู่โลกในช่วงนี้ของปี ประชาชนจะนำผักในฤดูร้อนมาทำเป็นพาชนะรูปม้า และจุดไฟต้อนรับที่เรียกว่ามุคาเอะบิ วางไว้หน้าประตูบ้านเพื่อนำทางให้กับวิญญาณของบรรพบุรุษให้กลับสู่บ้านได้ในระหว่างเทศกาลโอบ้งพระสงฆ์จะไปเยี่ยมบ้านที่เป็นสมาชิกของวัดเพื่อสวดมนต์ให้ ซึ่งถือว่าเป็นธรรมเนียมปฏิบัติอย่างหนึ่งของศาสนาพุทธ ส่วน โอคุริบิ คือไฟที่จุดในวันที่ 16 เพื่อส่งวิญญาณสู่แดนุคติ

    บงโอโดริ

         บงโอโดริ (bon-odori) คือการรำวงพื้นบ้านที่จัดขึ้นตามแหล่งชุมชนต่างๆทั่วประเทศตลอดเทศกาลโอบ้ง ทั้งชายและหญิงวัยรุ่นและผู้สูงอายุจะพร้อมใจกันแต่งชุด ยูกาตะ หรือกิโมโนที่ทำด้วยผ้าฝ้ายบางสำหรับฤดูร้อน ออกไปรำวงตามเพลงรอบๆเวทียกตั้งพื้นสูงแต่ละท้องถิ่นจะมีการรำที่แตกต่างกัน

    ไดมนจิ

       การจุดไฟส่งวิญญาณบรรพบุรุษขนาดใหญ่บนหุบเขา 5 ลูกที่ล้อมรอบเมืองโตเกียวนั้นไฟมีชื่อเสียงมากที่สุดเรียกว่าไดมนจิ ซึ่งเป็นรูปไฟตัวอักษรจีนที่อ่านว่าได มีความหมายว่าใหญ่โต ในเวลา 20.00 น. ของคืนวันที่ 16 สิงหาคม ไฟจะเริ่มจุดจากภูเขาเนียวอิงาตาเคะและรูปตัวอักษรจีนขนาดยักษ์ที่อ่าว่า ได จะปรากฏบนเนินเขาที่มืดสนิทจากนั้นไฟส่งวิญญาณอีก 5 ดวงบนเขาอีก 4 ลูกก็จะจุดขึ้นเป็นตัวอักษรต่างๆ

    การกลับไปเยี่ยมบ้าน

          ผู้คนจำนวนไม่น้อยที่ทำงานในเมืองใหญ่เช่น โตเกียว โอซากานั้น เป็นคนที่มีภูมิลำเนาอยู่ในส่วนอื่นๆทั่วประเทศญี่ปุ่น เทศกาลปีใหม่และเทศกาลไหว้บรรพบุรุษ จึงเป็นโอกาสสำคัญ 2 ครั้งใน 1 ปีที่ครอบครัวชาวญี่ปุ่นได้กลับมาพบกันพร้อมหน้า ดังนั้นเราจึงเห็นสภาพรถติดเป็นทางยาวบนทางด่วนหรือท้องถนนสายใหญ่ๆบางครั้งยาวไปถึง 50-60 กิโลเมตร ที่สนามบินและสถานีรถไฟก็เนืองแน่นไปด้วยผู้คนจำนวนมาก

    วันหยุดเทศกาลโอบ้ง

          ร้านค้าและภัตตาคารส่วนมากจะหยุดกิจการชั่วคราวในระหว่างเทศกาลโอบ้ง เช่นเดียวกับ

    บริษัทสำนักงานทั่วไป ย่านสำนักงานในเขตโตเกียวที่ปกติจะคลาคล่ำไปด้วยนักธุรกิจที่กำลังเร่งรีบจะร้างผู้คนในช่วงนี้

    วันระลึกถึงการทิ้งระเบิดปรมาณู

         ปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 ระเบิดปรมาณู 2 ลูกถูกทิ้งลงมาที่เมืองฮิโรชิมาและนางาซากิ โดยกองทัพทหารของอเมริกัน นี่เป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่มีการนำระเบิดปรมาณูมาใช้ ทำให้ในเมืองฮิโรชิมามีประชาชนจำนวน 90,000-120,000 คนเสียชีวิตทันทีและเสียชีวิตใน 4 เดือนต่อมา

    ส่วนที่นางาซากิมีผู้เสียชีวิตประมาณ 60,000-70,000 คนและอีกหลายพันคนที่มีชีวิตรอดจากระเบิดแต่ต้องตายเพราะผลข้างเคียงของระเบิดบ้างก็มีชีวิตที่ทนทุกข์ทรมานกระทั่งปัจจุบันเนื่องจากพิษของสารกัมมันตภาพรังสี (อุยO.Oจริงเหรอ เค้าน่าสงสารจัง)

    การเดินขบวนเรียกร้องสันติภาพในวันรำลึกถึงการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่2

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×