ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    paparazzi

    ลำดับตอนที่ #9 : part 9

    • อัปเดตล่าสุด 23 มี.ค. 49


    paparazzi part 9
    จินเดินเข้ามาในห้องพักภายในมหาวิทยาลัยพร้อมกับกล่องพัสดุที่ส่งมาจากญี่ปุ่น คนที่จ่าหน้ามาให้คราวนี้ไม่ใช่คนรักของเขาเหมือนทุกทีหากเป็นอูเอดะ ทัตซึยะ เพื่อนตั้งแต่วัยเยาว์ที่เซ็นได เขาเปิดกล่องออกอย่างใจเย็นเพราะรู้ดีว่าของในนั้นคืออะไร แผ่นดีวีดีที่ทัตซึยะไรท์ส่งมาให้กับกระดาษที่ถูกตัดมาจากนิตยสารและใส่ลงในแฟ้มเอกสารถูกส่งมาถึงมือของเขาแล้วน่ารักจังเขาเอ่ยชื่นชมบุคคลในแผ่นกระดาษก่อนจะหยิบแผ่นดีวีดีมาใส่ในเครื่องเล่นแล้วตั้งอกตั้งใจดูมัน คลิปวีดีโอเปิดตัวโครงการค้นหาไอดอลหน้าใหม่ซึ่งคนรักของเขาไปประกวดเพราะอยากได้เงินรางวัลปรากฏอยู่ในจอทีวีตรงหน้า เขายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้กับร่างบางที่ไม่ได้เห็นหน้ากันมาสองเดือนกว่า ๆ แต่เหมือนกับว่านานเป็นแรมปีอย่างนั้นแหละ
    คาซึยะ~~~” ร่างหนาเอ่ยชื่อคนรักอย่างชื่นชมแล้วลุกพรวดจากเก้าอี้นั่งไปเกาะหน้าจอทีวี สู้ ๆ
    เฮ้!!!!จินเควิล เพื่อนร่วมห้องของเขาเปิดประตูเขามาเห็นท่าทางคลั่งไคล้ดาราของเพื่อนก็อดที่จะขำไม่ได้ ไม่น่าเชื่อว่านายจะบ้าดารานะเนี่ย
    จินหันหน้ากลับมาเขายังไม่ได้เป็นดาราสักหน่อย ผลการแข่งขันยังไม่ประกาศเลย
    ฉันว่ายังไงคนนี้ก็ได้เควิลบอกพลางใช้สายตาชี้ไปยังร่างบางที่ยังคงยิ้มหวานให้กล้องก่อนเดินเข้าไปยังห้องนอนส่วนตัว ปล่อยให้เพื่อนร่างหนาชาวเอเชียของตนดูรายการต่าง ๆ ที่ดาราคนโปรดไปออกจนจบ เขายิ้มให้กับคนรักของตัวเองอย่างภาคภูมิใจแล้วไปหยิบโทรศัพท์กดไปยังหมายเลขคุ้นเคยซึ่งโทรหากันทุกวันไม่เคยขาด เขารับรู้ทุกเรื่องราวของคนรักดีไม่ต่างจากร่างบางซึ่งรู้เรื่องทุกอย่างของเขาเช่นกัน
    จิน~~~” ปลายสายกรอกน้ำเสียงอ้อน ๆ มาให้ เติมพลังให้หน่อย~~~~”
    จุ๊บ~~~” จินจุมพิตร่างบางผ่านทางสายโทรศัพท์ถึงใครจะหาว่าบ้าแต่เขาสองคนรับรู้ได้ถึงสัมผัสอุ่นที่ส่งให้ถึงกันฉันได้ดูแล้วนะ
    เร็วจังร่างบางบอก ศุกร์นี้แล้วนะ อยากให้จินมาดูจัง
    ฉันอยู่ทางนี้จะเอาใจช่วยนะจินตอบคนรัก นายทำได้อยู่แล้ว
    ใช่ ต้องทำให้ได้ ที่หนึ่งนะได้เงินตั้งล้านเยนเชียวนะ แค่นี้ฉันก็จะไปหาจินตอนคริสต์มาสโดยไม่ต้องขอเงินแม่แล้วร่างบางบอกใบหน้าเปื้อนยิ้มเมื่อคิดถึงอนาคตอันใกล้ที่ตนวาดเอาไว้

    ขอบคุณนะที่พยายามเพื่อฉันจินบอกจากใจจริง
    ขอบคุณอะไรกันเล่า ฉันบอกแล้วไงว่าถ้าเพื่อจินมากกว่านี้ฉันก็ทำให้ได้ร่างบางกล่าวย้ำขอแค่คริสต์มาสอีฟ ฉันได้อยู่กับจินทั้งคืนก็พอ
    ได้ยินแบบนี้แล้ว ฉันเองก็ต้องพยายามมากกว่านี้อีกจินกล่าวเสียงหนักแน่น
    เราพยายามด้วยกันนะจินร่างบางเอ่ยชวน
    อืมจินรับคำไม่ได้เจอนายมาสองเดือนกว่า ๆ รู้ตัวหรือเปล่าว่าน่ารักขึ้น
    ร่างบางคลี่ยิ้มออกมาเมื่อถูกชม อันนั้นใคร ๆ ก็บอก แต่ที่อยากรู้มากกว่านั้นก็คือ...ฉันน่ารักขึ้นแล้วจินล่ะอยากกอดฉันมากขึ้นกว่าเดิมหรือเปล่าเอ่ยถามน้ำเสียงยั่วยวน
    ร่างหนาหน้าแดงขึ้นมาน้ำเสียงของร่างบางทำเอาเขาคิดไปไกลเกินกว่าแค่กอดเสียแล้วอยากสิ อยากมากกว่านั้นด้วย
    ร่างบางที่ได้ฟังคำตอบกลับเขินอายขึ้นมาแทนทั้ง ๆ ที่ตนเองแกล้งยั่วก่อน บ้า~~~” ต่อว่าคนรักพลางดึงกระดาษทิชชู่ในกล่องออกมาทิ้งเล่นแก้เขิน
    เฮ้ย!!! จะดึงออกมาให้เปลืองเล่นทำไมเสียงหนึ่งแทรกเข้ามาในสายโทรศัพท์
    อยู่กับใครเหรอจินเอ่ยถามเมื่อได้ยินเสียงบุคคลที่สาม
    ในห้องแต่งตัวนะ เดี๋ยวจะไปถ่ายภาพลงในหนังสือด้วยร่างบางบอกกับคนรักก่อนยกมือขึ้นป้องหูโทรศัพท์เสียดายถ่ายตอนนี้ยังไม่ได้เงิน
    ฮ่า ๆ ร่างหนาหัวเราะร่วนออกมากลายเป็นคนงกตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย
    ก็ตั้งแต่รอใช้ชีวิตสองคนกับจินโดยไม่ต้องพึ่งเงินทางบ้านนั่นแหละร่างบางบอก
    รักนายนะคาซึยะคนร่างหนาบอกจากใจจริง เขาซาบซึ้งอย่างล้นเหลือที่ร่างบางทำเพื่อเขาได้ขนาดนี้
    ร่างบางระบายยิ้มออกมาฉันก็รักนาย รักมาก ๆ เลยด้วย
    คาเมะนาชิคุง เตรียมตัวด้วยเสียงเดิมตะโกนบอก ร่างบางหันหน้ากลับไปมองก่อนถอนหายใจออกมาเบา ๆ ไม่ให้คนรักได้ยิน เขาเรียกแล้วล่ะ อยากคุยกับจินนานกว่านี้จัง
    ฉันก็เหมือนกัน แต่เราต้องอดทนและก็พยายามเพื่ออนาคตของเราสองคนนะจินบอกกับคนรักหนักแน่น
    อืม~~~ วางแล้วนะร่างบางบอกก่อนจะตัดสาย
    จุ๊บ~~~” จินจุมพิตผ่านสายโทรศัพท์อีกครั้ง
    ร่างบางยิ้มกว้างออกมาก่อนจุมพิตตอบเช่นกัน จุ๊บ~~~”

    เป็นอะไรมากหรือเปล่าเนี่ยเสียงเดิมเอ่ยกับร่างบางเป็นครั้งที่สาม
    ร่างบางกดวางสายก่อนนำโทรศัพท์เก็บแล้วเอ่ยตอบผู้จัดการส่วนตัวของยูอิจิ ซึ่งตอนนี้กลับมาวุ่นวายอยู่กับเขาแทนก็คนเขารักกันมันก็ต้องแสดงออกกันแบบนี้สิครับ พี่ไม่มีเลยไม่เข้าใจล่ะสิ
    ผู้จัดการได้รับคำตอบที่แทงใจดำตนเองแต่เขาก็ไม่แสดงอาการใด ๆ ออกมาเร็วเข้าเถอะ เกิดไม่ได้ติดหนึ่งในห้าจะไม่ได้เงินไปหาแฟนแล้วจะมาเรียกร้องอะไรไม่ได้นะ
    รู้แล้วน่าร่างบางตอบก่อนเดินผ่านแล้วออกไปจากห้อง ด้านนอกที่เป็นสตูดิโอถูกเซทฉากไว้อย่างเรียบร้อย เด็กหนุ่มวัยรุ่นราวคราวเดียวกับเขาจำนวนยี่สิบคนที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายมาเช่นกันหันมามองเขาเป็นสายตาเดียว ร่างบางยิ้มให้ทุกคนแต่กลับไม่ได้รับไมตรีที่ดีตอบ เขารู้ดีว่าหลายคนคงไม่พอใจเพราะคิดว่าเขาเป็นเด็กเส้น อีกทั้งภาพที่ปาปารัซซี่ถ่ายได้เมื่อก่อนหน้านั้นก็ถูกหยิบขึ้นมาพูดถึงอีกครั้ง เมื่อใบหน้าของเขาปรากฏต่อสายตาสาธารณชนในนามของผู้ประกวดไอดอลหน้าใหม่ของปีนี้ภายใต้สังกัดเดียวกับ นากามารุ ยูอิจิ
    ฉันต้องยืนตรงไหนเหรอยามาชิตะคุงร่างบางเอ่ยถามยามาชิตะ โทโมฮิสะ ผู้ซึ่งผ่านเข้ารอบมาเหมือนกันและหมายเลขอยู่ติดกับเขา
    โทโมฮิสะเหล่มองด้วยหางตาก่อนเพยิดหน้าให้โดยไม่ปริปากพูดอะไรออกมา ร่างบางไม่ได้ว่าอะไรแต่ก็แอบผิดหวังนิด ๆ ทั้งที่เขาคิดว่าอาจจะคุยกับคนหน้าหวานนี้ได้บ้างเพราะอย่างน้อยก็เคยคุยกันก่อนจะมาประกวด แต่เพราะข่าวที่พูดกันออกไปเกี่ยวกับตัวเขาจึงทำให้ไม่ได้รับความเป็นมิตรกลับคืนมา ช่างมันเถอะเขาไม่สนใจอยู่แล้วเพราะที่มาประกวดก็เพื่อเงินอย่างเดียวเท่านั้น
    ชิดกันหน่อยคาเมะนาชิคุงกับยามาชิตะคุง จะเว้นช่องว่างไว้ทำไมช่างภาพเอ่ยบอกกับคนทั้งสอง
    โทโมฮิสะจึงกระเทิบตัวเข้ามาใกล้จนแผ่นหลังร่างบางสัมผัสกับแผ่นอกของเขา
    โอเค!!!!ดีแล้ว~~~” ตากล้องเอ่ยบอกเมื่อได้ภาพถ่ายดั่งใจเดี๋ยวขอถ่ายภาพคู่ของคาเมะนาชิคุงกับยามาชิตะคุงหน่อยนะ ส่วนคนอื่นพักผ่อนได้ ขอบคุณมาก
    ผู้ประกวดคนอื่นโค้งตัวให้ตากล้องก่อนแยกย้ายกันเดินกลับไปในห้องแต่งตัว ร่างบางหันมามองหน้าโทโทฮิสะก่อนยิ้มบางให้ ไม่ต้องทำหน้าพะอืดพะอมขนาดนั้นก็ได้ ฉันรู้หรอกว่านายไม่ชอบขี้หน้าฉัน พวกนั้นก็ด้วย
    โทโมฮิสะมองร่างบางนิ่งรู้ด้วยเหรอเขาคิดในใจ

    ฉันไม่ได้อ่อนต่อโลกถึงขนาดไม่รู้ว่าใครรักหรือเกลียดขี้หน้าฉันหรอกนะ แต่ว่ายังไงภาพต่อไปช่วยทำว่าเราสนิทกันหน่อยก็ดีจะได้ไม่เสียงานร่างบางบอกแล้วส่งยิ้มกว้างให้ก่อนยื่นมือไปเกาะบ่าคนหน้าหวานแล้วยิ้มให้กล้องอย่างสดใส
    โทโมฮิสะมองหน้าด้านข้างร่างบางอย่างตะลึงงัน ทำไมถึงยังยิ้มให้กล้องได้อย่างนั้นทั้ง ๆ ที่ถูกรอบข้างกดดันมากมายก็ไม่รู้
    ยิ้มหน่อยยามาชิตะคุงตากล้องเอ่ยบอก
    ครับ!!!โทโมฮิสะรับคำก่อนสลัดความคิดของตนเองทิ้งแล้วยิ้มส่งให้กล้อง
    !!!!!แชะ แชะ แชะ!!!!! ตากล้องกดชัตเตอร์รัว เด็กหนุ่มสองคนตรงหน้าสร้างบรรยากาศให้ได้ภาพอย่างที่เขาต้องการจริง ๆ ผู้จัดการส่วนตัวของยูอิจิมองตัวเก็งของการประกวดทั้งสองคนอย่างภูมิใจ ถ้าให้สองคนนี้สนิทกันจริง ๆ ได้คงดี
    ก็ดูสนิทกันดีนี่ฮะเสียงที่ดังมาจากด้านหลังทำเอาผู้จัดการส่วนตัวสะดุ้งแล้วหันกลับไปมอง
    ยูอิจิ มาเงียบๆตกใจหมดผู้จัดการเอ่ยว่าเล็ก ๆ
    ยูอิจิ ค้อมศีรษะให้ ขอโทษครับเขาเอ่ยบอกแล้วยืนมองคนทั้งสองที่กอดคอกันอย่างสนิทสนมแล้วยิ้มให้ตากล้องถ่ายภาพซ้ำแล้วซ้ำเล่า
    ถ้าสนิทกันจริง ๆก็ดีนะสิ จะได้จับเดบิวคู่ซะเลย สำหรับสองคนนี้ขายได้อยู่แล้วผู้จัดการเอ่ย ว่าแต่นายเถอะแอบแว่บมาแบบนี้ พอฉันปล่อยเข้าหน่อยเอาใหญ่เชียวนะ
    ถ่ายเสร็จแล้วครับ เลยเดินมาที่สตูนี้ยูอิจิบอก พูดถึงมาแบบนี้เดี๋ยวได้เป็นข่าวอีกแน่ ๆ
    ช่างเถอะ ตอนนี้นายเป็นข่าวกับคาเมะนาชิคุงยิ่งดี มันจะยิ่งทำให้ทั้งนายและคาเมะนาชิคุงยิ่งมีคนรู้จักผู้จัดการกล่าวเมื่อเขานึกถึงแต่หลักการตลาดเท่านั้น
    ยูอิจิเบ้หน้าข่าวแบบนี้ก็ไม่ไหวนะครับ ผู้หญิงห่างผมไปหมด
    นายเองบอกว่าอยากมีแฟนคลับเป็นผู้ชายบ้างไม่ใช่เหรอ ตอนนี้ได้มาสมใจยังจะอะไรอีกผู้จัดการเอ่ยแซว

    แต่ผมไม่ได้อยากได้แบบนี้นี่ครับ รู้สึกเสียวด้านหลังยังไงไม่รู้ยูอิจิตอบ
    เฮ้ยไอ้ห้อย!!!! ว่างหรือไงร่างบางเอ่ยทักเมื่อการถ่ายรูปคู่ของเขากับคนหน้าหวานเสร็จสิ้นลง เขาโค้งให้ตากล้องก่อนจะวิ่งมาหา
    คนหน้าหวานโค้งให้ตากล้องก่อนจะโค้งให้ยูอิจิและผู้จัดการส่วนตัว เขากำลังจะเดินกลับไปที่ห้องแต่งตัว
    เดี๋ยวสิ ยามาชิตะคุงยูอิจิเอ่ยรั้ง
    โทโมฮิสะหันหน้ากลับมามอง ครับ
    เมื่อกี้ถ่ายภาพออกมาสวยมากเลยนะยูอิจิบอกแล้วยกนิ้วหัวแม่มือให้
    โทโมฮิสะคลี่ยิ้มออกมา ขอบคุณมากครับ ขอตัวนะฮะเอ่ยลาแล้วเดินจากไป
    เด็กคนนั้นถ้าไม่ทำหน้าบึ้งตึงอยู่ตลอดเวลาก็ดีนะสิยูอิจิเอ่ยขึ้น
    ร่างบางหันกลับไปมองก่อนจะหันกลับมาหรี่ตามองยูอิจิ ฉันจะบอกพี่มิซูรุ
    เฮ้ย!!!!ยูอิจิร้องลั่น คิดอะไรของนาย ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นสักหน่อย
    จะหมายความว่ายังไงก็ช่าง แต่มิซูรุคือใครผู้จัดการส่วนตัวเอ่ยถามทันที
    ร่างบางยิ้มแห้ง ๆ ก่อนจะค้อมศีรษะให้แล้วชิ่งออกไปทันที ผู้จัดการส่วนตัวหันมามองยูอิจิเด็กในปกครองตนเองอย่างคาดคั้น ยูอิจิยิ้มกว้างให้แล้ววิ่งตามร่างบางออกไปติด ๆ
    **********************
    เห็นไหมฉันบอกแล้วว่าคาเมะนาชิคุงนะเส้นชัดๆ แล้วที่เขาบอกว่ามีอะไรกับนากามารุคุงและก็ผู้จัดการตาขวางนั่นก็คงชัวร์ ถึงขนาดตามมาดูแลกันแบบนี้คนหน้าหวานเอ่ยบอกกับเพื่อนผู้เข้าประกวดไปพลางเก็บของไปพลาง
    คาเมะนาชิคุงเขาก็เด่นอยู่แล้วไม่ต้องทำขนาดนั้นยังไงก็ได้ที่หนึ่ง แต่เห็นกับตาบ่อย ๆ แบบนี้เข้ามันก็น่าจะมีมูลความจริงบ้างล่ะเพื่อนผู้ร่วมประกวดคนหนึ่งกล่าวเห็นด้วย หรือพวกนายว่ายังไง
    ฉันก็ว่าน่าจะจริงแหละ อย่างนี้ก็ขี้โกงนะสิ พวกเรานะตั้งใจและก็พยายามกันขนาดไหนเพื่อนคนอื่นชักเห็นด้วย
    คนหน้าหวานเหยียดยิ้มขึ้นเมื่อการปลุกระดมของเขาที่แอบทำเงียบ ๆ ค่อย ๆ มีผู้เห็นชอบด้วยแล้วเพราะฉะนั้นที่ฉันบอกให้พวกนายบึ้งตึงใส่คาเมะนาชิคุงเพื่อเป็นการกดดันให้หมอนั่นถอนตัวออกไปเองนะยังน้อยไป

    อย่างนั้นเหรอ~~~” ร่างบางเอ่ยถามพลางยืนกอดอกพิงขอบประตู
    คนหน้าหวานรวมทั้งคนอื่น ๆ หันกลับไปมองด้วยความตกใจ ร่างบางกวาดสายตามองตอบโดยไม่ได้ต่อว่าอะไร คนหน้าหวานจึงไม่สนใจหันกลับไปเก็บข้าวของของตนเช่นเดิม
    ถ้าไม่พอใจอะไรก็พูดมาเลยตรง ๆ เด่ะ อย่าเล่นกันลับหลังสิว๊ะ อย่างนี้มันก็ไม่แฟร์สำหรับฉันที่ถูกพวกนายรวมตัวกันกดดันให้ออกจากการประกวดร่างบางบอก
    โทโมฮิสะหันหน้ากลับไปมองอีกครั้ง ใครกันแน่ที่ไม่แฟร์ พวกฉันใช้ความพยายามกันจนกว่าจะมาถึงรอบนี้ ในขณะที่นายใช้อย่างอื่น
    พูดอย่างนี้หมายความว่าไง ยามาชิตะคุงร่างบางถามกลับ
    รู้อยู่แก่ใจไม่ต้องมาตีหน้าซื่อหรอกน่า นายเองมันไม่ได้ใสซื่อไม่ใช่เหรอ เสร็จใครมานักต่อนักแล้วนี่ถึงได้เข้ามาง่าย ๆ โทโมฮิสะกอดอกบอก หรือว่าไม่จริง
    เออ!!! ไม่จริงร่างบางบอกก่อนสาวท้าวเดินเข้ามาใกล้คนหน้าหวานแล้วฝาดฝ่ามือลงบนใบหน้านั้นทันทีถ้าไม่รู้เรื่องอะไรแล้วอย่ามาดูถูกความพยายามของคนอื่นเขาสิ ใช่ฉันรู้จักกับยูอิจิแล้วผู้จัดการก็พาฉันมาประกวดแล้วยังไงล่ะ นายพูดแบบนี้มันไม่ได้แค่ดูถูกฉันแต่มันหมายถึงบริษัทนี้ด้วย บริษัทที่นายตั้งใจเข้ามาประกวดเพื่อความฝันของนายไม่ใช่เหรอร่างบางย้อนถาม
    คนหน้าหวานหันหน้ากลับมามองใบหน้าของเขาปรากฏรอยฝ่ามือเด่นชัด
    ความฝันของฉันกับของนายและคนอื่น ๆ อาจไม่เหมือนกัน แต่ว่าความพยายามของฉันมันไม่ได้น้อยไปกว่าพวกนายเลย ขอร้องอย่าดูถูกกันทั้งๆที่นายเองยังไม่ได้เต็มที่กับมันเลยร่างบางกล่าวแล้วค้อมศีรษะให้ก่อนจะเก็บข้าวของแล้วเดินออกจากห้องแต่งตัวไปทันที
    โทโมฮิสะมองตามร่างบางนั้น เพื่อน ๆ ต่างกรูกันเข้ามาดูแลเขาไม่ต่างจากผู้จัดการและยูอิจิที่สวนกับร่างบางเข้ามาเมื่อได้ยินเสียงอึกทึกนั่นแต่เมื่อมาถึงทุกอย่างก็สงบลงแล้ว
    ***************************
    คงไม่ได้ไปหาจินแล้วล่ะร่างบางบอกเสียงอ่อยเมื่อคุยโทรศัพท์กับคนรักภายในห้องส่วนตัวที่บ้านของตนเอง เขาเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้กับคนรักฟังหมดแล้ว
    ก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรนี่ร่างหนาตอบกลับ
    หืม~~~ พูดอย่างนี้เสียใจนะเนี่ยร่างบางตัดพ้อ
    ถึงนายจะมาหาฉันไม่ได้แต่ฉันก็ดีใจนะถ้าเขาจะตัดชื่อนายออกจากการประกวดจริง ๆจินบอกจากความรู้สึก จะได้ไม่ต้องมีคนอื่นมาเห็นความน่ารักของนายยังไงล่ะ
    ร่างบางคลี่ยิ้มออกมา พูดอย่างนี้หึงฉันล่ะสิ

    อืมจินตอบแต่ก็เสียดายเหมือนกัน ตั้งใจทำ....เขารีบเงียบทันทีเมื่อจะหลุดคำออกมา
    ทำอะไรร่างบางเอ่ยถาม
    ไม่บอกร่างหนาตอบ
    โหย~~~จินนะ มีความลับเหรอร่างบางเอ่ยน้ำเสียงงอน
    ไม่ได้มีความลับแต่ยังไม่อยากให้นายรู้ตอนนี้จินบอกกับคนรัก
    ก็ได้ร่างบางตอบ ฉันจะไปหางานพิเศษอย่างอื่นทำดีไหม
    อย่าเลย...นายพยามยามเพื่อฉันมาตั้งเยอะ ให้ฉันพยายามเพื่อนายบ้างสิจินบอกคนรัก
    ร่างบางยิ้มกว้างออกมาเอนตัวนอนกลิ้งบนผืนเตียง ก็จินต้องเรียนนี่ แค่นี้ก็พยายามในส่วนที่ฉันทำไม่ได้ไปตั้งเยอะ
    ไม่เหมือนกันสักหน่อย เอาเป็นว่าถ้าเขาจะตัดนายออกจากการประกวดก็ช่างเขา นายไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น ไปเรียนทำอาหารแบบเดิมนั่นแหละจินกล่าว
    จ๊ะร่างบางรับคำก่อนชวนคนรักคุยเรื่องอื่น
    **************************************
    คนหน้าหวานยืนอยู่หน้าประตูรั้วของบ้านหลังใหญ่ เขามองที่อยู่บนแผ่นกระดาษก่อนเพ่งมองไปยังหน้าประตูอีกครั้งเพื่อความแน่ใจบ้านคาเมะนาชิอ่านชื่อที่เขียนเอาไว้ก่อนเดินไปกดออด
    คะเสียงตอบรับจากคนในบ้าน
    ผมยามาชิตะ โทโมฮิสะ มาหาคาเมะนาชิ คาซึยะคุงครับโทโมฮิสะบอกกับคนในบ้าน
    สักครู่นะคะสาวใช้เอ่ยบอกก่อนจะเดินขึ้นไปหาคุณหนูของบ้านหลังใหญ่
    สาวใช้เคาะเบา ๆ ที่บานประตูห้องของร่างบางเพื่อเป็นการขออนุญาต คุณหนูคะ มีเพื่อนชื่อยามาชิตะคุง มาหานะคะ
    เดี๋ยวนะจินร่างบางบอกกับคนรักที่สนทนาอยู่ด้วย ก่อนเดินถือโทรศัพท์แล้วไปเปิดประตูห้องนอนออก ว่าอะไรนะ ใครมา
    เพื่อนคุณหนูน่ะคะ ชื่อยามาชิตะคุงสาวใช้บอกย้ำ จะพบไหมคะ
    เดี๋ยวนะร่างบางบอกสาวใช้ก่อนจะคุยโทรศัพท์ต่อ จิน~~~ยามาชิตะคุงเขามาหาฉันที่บ้าน
    ได้ยินแล้วล่ะ ออกไปพบเขาหน่อยสิ อุตส่าห์มาหาจินบอก
    ถ้าเกิดเขามาแก้แค้นล่ะ ฉันตบเขาเสียแรงหน้าเขาอาจเสียโฉมก็ได้ร่างบางกล่าวเสียงหวาด ๆ
    ไม่หรอก ถ้าเขาจะแก้แค้นเขาไม่มาหาหายที่บ้านหรอกจินกล่าว บางทีเขาอาจจะอยากขอโทษนายก็ได้
    อืม...ถ้าอย่างนั้นฉันออกไปพบเขาก็ได้ร่างบางบอกกับคนรัก แค่นี้ก่อนนะ เรื่องเป็นยังไงต่อฉันจะเล่าให้ฟังทีหลัง
    ใจเย็น ๆ นะ ฉันเป็นห่วงนายจินกล่าวจากความรู้สึก

    จะพยายาม แต่ถ้าหมอนั่นจะเอาคืนฉันคงต้องป้องกันตัวร่างบางตอบ
    นายนี่ ยังจะมาพูดเล่นอีกจินเอ่ยดุ ฉันเชื่อว่านายมีเหตุผลพอ
    ขอบคุณ...รักจินนะร่างบางบอก
    ผมก็รักคุณจินบอกกับร่างบางก่อนวางสายลงแล้วเดินเข้าไปหยิบซองเอกสารในห้องนอนส่วนตัว
    เฮ้!!!! ไวด้วยจินเควิลเอ่ยเร่งเขาที่หน้าประตูห้อง
    อืม ๆ จะไปเดี๋ยวนี้แหละจินขานตอบแล้วเดินออกจากห้องไป
    เควิลตบลงบนบ่าเขาเบา ๆขอให้งานผ่านนะ ถ้าได้นายดังแน่ ๆ
    จินยิ้มตอบ ขอบใจนะ
    เควิลล้วงมือไปในกระเป๋ากางเกงแล้วหยิบกุญแจรถส่งให้ ขับรถฉันไปสะดวกกว่า
    จินยื่นมือไปรับ ถ้าได้ฉันเลี้ยงนายมื้อใหญ่แน่ ๆ
    ไม่ต้องหรอกเก็บเงินไว้ดีกว่า ฉันขอแค่สาวญี่ปุ่นน่ารัก ๆ สักคนก็พอเควิลเอ่ยน้ำเสียงทะเล้น
    จินหัวเราะร่วนก่อนโบกมือให้เพื่อนร่วมห้องที่ช่วยเหลือเขามาตลอดแล้วเดินออกไปทันที
    *******************************
    ร่างบางยืนอยู่หน้าประตูบ้านเขามองคนหน้าหวานซึ่งยืนนิ่งมองตนไม่วางตาเช่นกัน
    มีอะไรก็พูดมาสักทีสิ ยืนนานแล้วนะร่างบางเอ่ยบอก
    เอ่อ.....โทโมฮิสะ เริ่มปริปาก
    เอ่อ.....ร่างบางลากเสียงตาม
    อย่าล้อเล่นสิโทโมฮิสะบอก
    ก็พูดสักทีสิ หรือถ้าจะตบคืนก็มาเลยฉันพร้อมแล้วร่างบางบอกแล้วยกแขนทั้งสองขึ้นตั้งกาด
    ฮ่า ๆ ๆ ๆโทโมฮิสะหัวเราะร่วนกับท่าทางคนร่างบาง
    ขำอะไร ซีเรียสนะเว้ยร่างบางตอบกลับ
    โทโมฮิสะโค้งตัวให้กับร่างบางทันที ขอโทษนะคาเมะนาชิคุง
    ร่างบางมองการกระทำของคนตรงหน้าก็วางมือลง ขอโทษเรื่องอะไรล่ะ
    ก็...เรื่องที่ฉันใส่ความนายโทโมฮิสะตอบ
    นั่นนายก็อ่านมาจากข่าวก็อซซิปไม่ใช่เหรอถึงพูดตามนั้นเป๊ะร่างบางกอดอกตอบ
    โทโมฮิสะยืดตัวขึ้นมามองร่างบาง นายก็รู้ว่าไม่ใช่…”
    ร่างบางยกนิ้วขึ้นทาบริมฝีปากตนเอง จุ๊ ๆ เรื่องนั้นมันจบแล้วช่างมันเถอะ ฉันเองก็ขอโทษนายเหมือนกันเขาบอกแล้วโค้งตัวให้
    โทโมฮิสะยกมือขึ้นมาจับใบหน้าตนเองซึ่งตอนนี้รอยฝ่ามือนั้นเลือนหายไปแล้วถ้าไม่โดนคาเมะนาชิคุงตบ ฉันคงไม่ได้สติ
    ต่อไปนายทำงานในวงการบันเทิงก็อย่าทำนิสัยแบบนี้อีกล่ะ มันไม่ดีต่อตัวนายเองร่างบางเอ่ยบอก วันศุกร์นี้ขอให้โชคดีล่ะ นายทำได้อยู่แล้ว

    โทโมฮิสะเอียงคอมอง ทำไมคาเมะนาชิคุงพูดแปลก ๆ อย่างกับจะไม่ประกวดแล้วอย่างนั้นแหละ
    ก็ไม่ใช่เหรอ เขาคงตัดชื่อฉันออกแล้วล่ะร่างบางตอบ
    ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย คาเมะนาชิคุงยังไม่ได้ถูกตัดชื่อโทโมฮิสะบอก
    เห๋~~~ ” ร่างบางร้องเสียงหลง
    จริง ๆ โทโมฮิสะย้ำหนักแน่น
    ร่างบางยิ้มกว้างออกมา เหรอ ถ้าอย่างนั้นฉันก็ยังมีสิทธิ์ได้เงินล้านเยนนะสิ
    โทโมฮิสะพยักหน้าหนักแน่นฉันเพิ่งรู้จากนากามารุคุง ว่าที่นายมาประกวดเพราะอยากได้เงินเพื่อไปหาแฟนที่อังกฤษ
    ร่างบางหน้าเจื่อนไอ้ห้อยปากไม่มีหูรูดอีกแล้ว ขอโทษนะที่ฉันไม่บริสุทธิ์ใจในการมาประกวดเลย
    โทโมฮิสะส่ายหน้า ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก นายนะบริสุทธิ์มากเลยต่างหาก ทำเพื่อคนรักขนาดนี้
    ร่างบางยิ้มกว้างขึ้นอีกครั้ง นายคิดอย่างนั้นเหรอ
    อืมโทโมฮิสะตอบ คนแบบนาย....ฉันชอบที่สุดเลย
    ขอบใจร่างบางตอบเข้าบ้านก่อนสิ ยืนคุยตั้งนานเมื่อยแย่
    โทโมฮิสะพยักหน้ารับคำชวนแล้วเดินตามร่างบางเข้าไปในบ้าน มิตรภาพของคนสองคนกำลังเริ่มต้นขึ้น
    *********************
    แม่ นั่ง ๆ ทัตซึยะเอ่ยบอกกับแม่ของจินและแม่ของร่างบางเมื่อเขาเดินนำมานั่งบนชั้นสองแถวหน้าภายในฮอล์ลที่จัดการประกวดไอดอลรอบสุดท้ายอ้าว!!! ที่เหลือนั่งตามเลขที่บัตรนั่นแหละเขาบอกกับเพื่อนบ้านที่แห่กันมาเชียร์ร่างบางคนรักของจิน ซึ่งเหมารถทัวร์กันมาจนเกือบหมดหมู่บ้าน จำไว้นะ แฟนไอ้จินเบอร์เจ็ด
    เออ รู้แล้วไม่ต้องบอกก็เชียร์อยู่ดี น่ารักขนาดนั้นเพื่อนบ้านวัยเดียวกันตะโกนบอก
    ดีมากทัตซึยะกล่าว
    แล้วยูอิจิมันจะมาดูไหมเนี่ยเพื่อนอีกคนเอ่ยถาม
    มา นั่งปากห้อยอยู่แถววีไอพีข้างล่างนั่นแล้วมั๊งทัตซึยะตอบก่อนล้วงมือไปในกระเป๋าแล้วหยิบบางอย่างออกมา
    อะไรจ๊ะทัตจังแม่ของร่างบางเอ่ยถามห่อผ้าที่อยู่ในมือของทัตซึยะ
    ไอ้จินมันฝากมาเชียร์คาเมะจังน่ะแม่ทัตซึยะตอบ
    แม่ของร่างบางและแม่ของจินหันไปมองหน้ากันก่อนจะหัวเราะร่วนออกมา ทัตซึยะคลี่ผ้าออกความยาวของมันเท่ากับความกว้างของฮอล์ลชั้นสองอย่างพอดิบพอดี เขาจัดการผูกผ้าไว้กับขอบกั้นกว่าจะเสร็จก็ใกล้เวลาประกวดแล้ว

    อะไรหนะผู้ประกวดขึ้นหนึ่งเอ่ยขึ้นเมื่อมาแอบดูบรรยากาศในงานหลังม่านของเวที
    ยามาชิตะ โทโมฮิสะ ได้ยินเสียงนั้นจึงหันไปมอง มีอะไรกันเหรอ
    ดูนั่นสิเพื่อนเอ่ยตอบแล้วชี้ไปยังแถวที่นั่งชั้นสอง
    โทโมฮิสะมองตามก่อนจะตะโกนเรียกร่างบาง คาเมะจัง~~~~”
    ร่างบางเพิ่งแต่งตัวเสร็จเดินออกมาสมทบ อะไร ใกล้จะได้เวลาแล้วนะ
    ดูนั่นโทโมฮิสะจับไหล่เล็กของเพื่อนให้หมุนตัวไปมอง
    ร่างบางมองออกไปด้านนอก ภาพของชั้นสองแถวหน้ามีป้ายผ้าผืนยาวแขวนเอาไว้คาเมะนาชิ คาซึยะคุง เบอร์ 7 สู้เขา พยายามเข้านะ ฉันรักนายเขาอ่านข้อความตัวโตที่เขียนอยู่เต็มผืนผ้า ตัวหนังสือนั้นเขาจำได้ดีลายมือคนรักเขานั่นเอง จิน~~~” เอ่ยเรียกชื่อคนรักที่ไม่ได้มาเชียร์ด้วยตัวเองแต่ใจที่ส่งมาจากที่ห่างไกลเขาได้รับแล้วแน่นอน
    โทโมฮิสะแอบมองหน้าด้านข้างของร่างบาง ใบหน้าเปี่ยมสุขนั้นตรึงสายตาของเขาได้ดีดีจัง มีคนเชียร์นายขนาดนั้น
    ร่างบางหันกลับมามองน้ำตาคลอ จินน่ะ เขาทำให้ฉัน
    แฟนนายนะเหรอโทโมฮิสะถามเสียงเบากลัวว่าใครจะได้ยิน
    อืมร่างบางพยักหน้าตอบ ไม่ต้องได้หนึ่งล้านก็ได้ ตอนนี้ได้แค่ห้าหมื่นฉันก็เอา
    โทโมฮิสะไม่ได้พูดอะไรต่อ เขายืนมองใบหน้าร่างบางเงียบ ๆ จนการประกวดรอบสุดท้ายเริ่มขึ้นและตามที่คาดหมาย เขากับร่างบางติดรอบห้าคนสุดท้ายเข้าไปจริง ๆ
    คาเมะนาชิคุง ถ้าตอนนี้ให้พูดอะไรสักอย่างอยากจะบอกอะไรหรือเปล่าพิธีกรหนุ่มเอ่ยถามผู้เข้าประกวดคนสุดท้ายของรอบตัดสินอันดับ
    ผมอยากบอกว่าร่างบางตอบ ฉันก็รักนาย~~~~ ได้ยินไหม~~~~ ฉันรักนาย~~~” เขาตะโกนบอกใส่ไมค์เสียงลั่นไปทั่วฮอล์ล
    ได้ยินแล้วครับคาเมะนาชิคุงพิธีกรยกมือขึ้นอุดหูบอก ขอบคุณมากกลับไปยืนที่เดิมก่อนนะ
    ร่างบางโค้งตัวให้กับผู้ชมแล้วเดินไปยืนข้าง ๆ โทโมฮิสะที่ส่งยิ้มมาให้
    สุดยอดไปเลยคาเมะจัง ถ้ามีใครบอกรักฉันแบบนี้ฉันรักตายเลยโทโมฮิสะบอกจากใจ

    สักวันคงมีคนบอกนายร่างบางบอกแล้วยืนเงียบ รอลุ้นว่าตนเองจะได้ลำดับที่เท่าไหร่ซึ่งมันไม่สำคัญเท่ากับว่าเงินรางวัลที่จะได้ตามมานั้นเท่าไหร่กันแน่ต่างหาก
    แสงไฟสาดส่องมาที่ร่างบางและคนหน้าหวาน ผู้ประกวดสองคนสุดท้ายที่ยืนอยู่ตรงกลางของเวที
    ผู้ที่ได้เป็นไอดอลคนใหม่ประจำปี2005ได้แก่.....คาเมะนาชิ คาซึยะคุง ครับพิธีกรเอ่ยบอกก่อนเสียงไชโยโห่ร้องอย่างดีใจจะดังขึ้นตามมา เป็นไปตามคาดหมายของใครหลาย ๆ คนว่าเด็กหนุ่มร่างบางคนนี้จะต้องได้ที่หนึ่งเพราะความสามารถบวกกับหน้าตาและรอยยิ้มที่สดใสนั่น
    ยูอิจิหันไปยิ้มกับผู้จัดการส่วนตัวของเขาซึ่งรอยยิ้มเจ้าเล่ห์บนใบหน้านั้นทำเอายูอิจิหุบยิ้มทันทีฉันควรจะดีใจหรือร้องไห้ดีว่ะเขาเอ่ยถามตนเอง
    น่ายินดีไม่ใช่เหรอยูอิจิ คาเมะนาชิคุงได้ที่หนึ่งหมายถึงเงินที่จะทะลักเข้ามาในบริษัทตลอดหนึ่งปีเลยนะผู้จัดการส่วนตัวบอก
    แต่...คาเมะจังเขายังไม่รู้นี่ที่เราปิดบังเขาไว้ยูอิจิบอกกลับ
    เดี๋ยวเขาก็ได้รู้ผู้จัดการส่วนตัวบอก
    ยูอิจิขุ่นคิ้วมองอย่างสงสัย เสียงประกาศที่ดังขึ้นตามมาหลังจากนั้นเป็นคำตอบให้เขาได้ดี
    ครับสำหรับผู้เข้ารอบห้าคนสุดท้ายคนอื่นไม่ต้องเสียใจนะ ทางบริษัทเรารับเข้าสังกัดอยู่ดีพิธีกรเอ่ยบอกเรียกรอยยิ้มให้กับทุกคนบนเวทีส่วนคาเมะนาชิคุงนอกจากจะได้เซ็นสัญญาเป็นเวลาหนึ่งปีแล้ว ยังมีงานถ่ายแบบ ละคร รายการวิทยุ งานเพลง และหนังให้ผู้ชมได้ติดตามผลงานอีกต่อไปครับ
    ห๊ะ!!!!ร่างบางที่ยื่นมือไปรับป้ายบอกจำนวนเงินหนึ่งล้านเยนเอ่ยเสียงลั่น ว่าอะไรนะเขาตะโกนถาม
    พิธีกรมองตอบอย่างงง ๆ ก็มีงานเข้ามายังไงล่ะ ทั้งหนัง ละคร เพลง รายการวิทยุ น่ายินดีมากเลยใช่ไหมคาเมะนาชิคุง
    ร่างบางได้ฟังคำยืนยันนั้นอีกครั้งก็ยืนนิ่ง มองจ้องไปยังแถววีไอพีข้างหน้า ผู้จัดการส่วนตัวยักไหล่แล้วยิ้มให้อย่างผู้มีชัยส่วนยูอิจินั้นคู้ตัวจนแทบจะเป็นส่วนหนึ่งของเก้าอี้นั่งไปแล้ว
    หลอกฉันอย่างนั้นเหรอร่างบางเอ่ยอาฆาตก่อนเดินถือถ้วยรางวัลและป้ายหนึ่งล้านเลยไปหาคนหน้าหวานซึ่งยืนอยู่ไม่ห่างกัน

    เอาห้าแสนของนายมาแลกกับล้านหนึ่งของฉันไหม ฉันแถมถ้วยรางวัลกับตำแหน่งที่หนึ่งให้นายด้วยร่างบางเอ่ยบอกเสียงลั่นกลบความยินดีเมื่อสักครู่มิด
    คาเมะนาชิคุง!!!ผู้จัดการเอ่ยเสียงเข้ม ไม่คิดว่าร่างบางจะกล้าทำแบบนี้
    คาเมะนาชิคุงนี่เข้าใจล้อเล่นจริงเชียวพิธีกรบนเวทีรีบพูดให้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกลายเป็นเรื่องตลก
    ฉันไม่ได้พูดเล่นแต่ทำจริง ๆ ร่างบางยืนยัน ว่ายังไงยามะพี เปลี่ยนกันไหมยังไงนายก็อยากจะเป็นดารามากกว่าฉัน ตำแหน่งนี้นายเหมาะที่สุด
    คาเมะจัง~~~” โทโมฮิสะเอ่ยเสียงแผ่ว ดวงตาอันแน่วแน่ของร่างบางที่มองมาทำเอาเขาพูดอะไรไม่ออก
    เอ่อ...ขอขอบคุณสปอนเซอร์ดังต่อไปนี้นะครับพิธีกรบนเวทีเปลี่ยนเรื่องก่อนการโกลาหลจะมีมากขึ้นกว่านี้
    เด็ดจริงว๊อยแฟนนาย~~~” ทัตซึยะบอกกับคนปลายสายที่โทรทางไกลมาหาเขา เพื่อฟังเสียงประกาศผู้ชนะในการประกวด
    ฉันว่าจะเป็นเรื่องใหญ่นะสิจินบอกกับเพื่อน จบงานแล้วนายไปหลังเวทีได้ใช่ไหม ขอฉันคุยกับคาซึยะที
    ได้เลย ทัตซึยะคนนี้จัดให้ แต่ขอแวะสะกรำไอ้ยูอิจิมันก่อน มันน่านักทัตซึยะบอกกับเพื่อน
    เออดี ฝากด้วยจินกล่าวสมทบ เอามันให้ปางตายน้ำเสียงครั้งนี้ของเขาไม่ได้พูดเล่นเสียแล้ว
    โกรธมันจริงเหรอวะทัตซึยะเอ่ยถาม
    ไม่เชิง แค่รู้สึกว่ามันไม่น่าปิดบังกันก็เท่านั้นจินบอกกับเพื่อน
    ฉันจะต่อยมันให้ทัตซึยะบอกแค่นี้ก่อนนะต้องไปลากคอมันออกมาก่อน เดี๋ยวมันจะชิ่งกลับไปกับผู้จัดการนั่น
    อืมจินรับคำก่อนวางสายลง แล้วถอนหายใจออกมาแรง ๆ
    เป็นอะไรเควิลเอ่ยถาม
    เขาได้ที่หนึ่งจินบอกกับเพื่อน
    เหรอ อย่างนั้นก็ดีสิเควิลกล่าว
    ก็คงอย่างนั้นจินตอบแต่ใบหน้าของเขาไม่ได้บ่งบอกว่าเป็นอย่างที่พูดนั่นเลย
    แล้วทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะเควิลถาม
    กลัวจินบอกตามที่รู้สึกฉันกลัวว่าระยะห่างระหว่างฉันกับเขาจะมีมากขึ้นนะสิ...
    *************************
    ไม่ยอม!!!ร่างบางเอ่ยเสียงกร้าวเมื่ออยู่หลังเวที เขาไม่ยอมทำตามข้อตกลงที่ถูกปิดบังนั่นแน่นอน
    ได้ยังไงล่ะ เงินรางวัลนายก็รับไปแล้วจะเบี้ยวหรือไงผู้จัดการส่วนตัวกอดอกบอก
    ฉันไม่ได้เบี้ยว แต่พวกนายโกหกฉันร่างบางกล่าวแล้วมองไปทางยูอิจิที่หลบสายตาตนเองฉันไม่คิดเลยนะว่านายก็จะร่วมมือกับตาลุงนี่ด้วย
    ยูอิจิยกมือขึ้นประนมฉันขอโทษแต่มันเลี่ยงไม่ได้

    ฉันบังคับยูอิจิเองแหละผู้จัดการส่วนตัวบอกถ้าจะไม่ทำตามสัญญาก็ได้นะแต่เอาเงินคืนมาเท่านั้นเองแล้วก็จ่ายค่าเสียหายที่นายทำตามสัญญาไม่ได้มาด้วย
    ร่างบางหันไปมองผู้จัดการตาขวาง อะไรนะ!!!
    เอ่อ...คือ...โทโมฮิสะซึ่งยืนอยู่ในวงสนทนาด้วยเอ่ยปากขึ้นคาเมะจัง...ฉันว่านายปรึกษาที่บ้านดูก่อนดีไหม
    นั่นสิ ๆ ยูอิจิรีบสนับสนุนความคิดนั้นทันที โทรไปถามเขาดูสิเอ่ยบอกโดยไม่ต้องเอ่ยชื่อว่าคนที่จะให้ร่างบางโทรไปปรึกษานั่นคือใคร
    ร่างบางมองด้วยหางตา เดี๋ยวมา ไม่ต้องตามไม่หนีไปไหนหรอกเรื่องเงินยังไม่เคลียร์กันเลยบอกกับทุกคนเสร็จก็เดินออกจากห้องไป ทัตซึยะซึ่งยืนรออยู่ด้านนอกกระโดดตัวลอยเมื่อเห็นเพื่อนร่างบางเดินออกมา
    หน้ามุ่ยเชียวที่หนึ่งเขาเอ่ยเย้า
    ทำอย่างกับฉันอยากได้นักนี่ร่างบางบอก แม่ล่ะ
    กำลังไปคุยกับทางผู้บริหารให้นายอยู่นะ ว่าถ้าถอนตัวต้องจ่ายค่าเสียหายเท่าไหร่ทัตซึยะบอกตามความเป็นจริง
    ร่างบางถอนหายใจออกมาแรง ๆ นี่เขาทำให้ทุกคนต้องเดือดร้อนใช่ไหมเนี่ย ทัตซึยะมองเพื่อนร่างบางก็พอรู้เขาตบลงเบา ๆ ที่ไหล่เล็กนั่น ก่อนกดหมายเลขโทรศัพท์แล้วยื่นให้ร่างบาง
    คาซึยะ~~~” จินกรอกน้ำเสียงแฝงความห่วงใยมาให้
    ร่างบางได้ยินเสียงคนรักก็น้ำตาคลอจิน~~~”
    ไม่ต้องร้องไห้จินปลอบประโลม ไม่อยากเป็นดาราก็ไม่ต้องเป็น
    ฉันก็อยากทำอย่างนั้นแต่ว่าต้องจ่ายค่าเสียหายที่ฉันทำตามสัญญาของการประกวดไม่ได้นะสิร่างบางตอบกลับ
    นั่นไม่ใช่ความรับผิดชอบของนายไม่ใช่เหรอ ผู้จัดการคนนั้นเขาปิดบังนายจินบอกกับคนรัก
    นั่นสิ ฟ้องกลับเลยดีไหมจะได้เรียกร้องค่าเสียหายคืนบ้างร่างบางถามกลับ
    อย่าเลย ฉันว่าคุยกันดี ๆ กันดีกว่า นายอย่าใจร้อนนะจินเอ่ยเตือนขอโทษนะที่ช่วยอะไรนายไม่ได้เลย
    ร่างบางส่ายหน้าพัลวัน ไม่ใช่สักหน่อย จินน่ะช่วยฉันได้มากเลย แค่ได้ยินเสียงจินฉันก็สบายใจแล้ว
    คนร่างหนาได้ยินคนรักบอกกับตนเขาก็ระบายยิ้มออกมา

    คาเมะจัง~~~” โทโมฮิสะเอ่ยเรียก
    ร่างบางหันหน้าไปมอง ยามะพี
    ใครเหรอ???” จินเอ่ยถาม
    เพื่อนที่ประกวดด้วยกันไงร่างบางตอบ
    โทโมฮิสะเดินมาหยุดตรงหน้าร่างบางแล้วโค้งตัวให้ ขอร้องล่ะคาเมะจัง ทำงานด้วยกันปีหนึ่งเถอะนะ
    ร่างบางมองคนหน้าหวานตาโต พูดอะไรของนาย
    ฉันรู้ว่าคาเมะจังไม่ได้อยากเป็นดารา แต่ว่าฉันอยากทำงานร่วมกับคาเมะจังนะโทโมฮิสะบอกจากใจจริง ขอร้องล่ะ แค่ปีเดียวเท่านั้น ปีเดียวก็ยังดี
    จินได้ยินเสียงของโทโมฮิสะอย่างชัดเจน เขารู้ดีว่าถ้ามีคนมาพูดแบบนี้ คนรักของเขาคงใจอ่อนแน่นอน นายว่ายังไงล่ะเขาเอ่ยถาม
    ฉันไม่รู้ จินช่วยฉันตัดสินใจทีสิร่างบางขอความช่วยเหลือ
    ถ้าถามฉัน ฉันก็ไม่อยากให้นายไปเป็นดาราอะไรนั่นหรอก แต่ว่านี่คือชีวิตอีกส่วนหนึ่งที่นายจะต้องตัดสินใจเอง ฉันรักนายนะและก็เคารพในการตัดสินใจของนายด้วย
    ร่างบางมองหน้าเพื่อนร่วมการประกวดที่ส่งสายตาวิงวอนมายังเขาคริสต์มาสที่จะถึงถ้าฉันไม่ได้ไปหาจิน จินไม่โกรธฉันใช่ไหม
    ไม่โกรธจินตอบคนรัก เลือกแล้วใช่ไหม???”
    อืม...ร่างบางตอบปีหนึ่งแป๊บเดียวเองเน๊อะ ฉันทำงานเก็บเงินรอจินที่นี่นะ
    จินได้ยินคำบอกจากร่างบางเขาก็รู้สึกตื้อขึ้นมาเฉย ๆ ทำไมกันนะทั้ง ๆ ที่เป็นคนบอกให้ร่างบางได้เลือกเองแล้วแท้ ๆ จ้า~~~รอฉันนะเอ่ยบอกคนรักเสียงเคลือ
    จินเป็นอะไร ทำไมเสียงสั่นจังล่ะร่างบางเอ่ยถามคนรักด้วยความเป็นห่วง
    จินส่ายหน้าไป-มา ไม่มีอะไรหรอก แค่หนาวเท่านั้นเอง
    ถ้าอย่างนั้นจินก็คิดถึงฉันนะ คิดไว้เสมอตลอดเวลาที่จินหนาวว่า...ฉันรักจินร่างบางกระซิบเสียงแผ่วให้ได้ยินกันแค่สองคนกับปลายสายเท่านั้น อุ่นขึ้นไหม???”
    จินคลี่ยิ้มบาง ๆ อืม...ความรักของนายทำให้ฉันอุ่นขึ้น ขอบคุณนะคาซึยะ
    ถ้าอย่างนั้นแค่นี้ก่อนนะ ฉันใช้เครื่องของทัตจังโทรไปหานาย เกรงใจน่ะร่างบางบอก
    จ้า~~~” จินตอบกลับน้ำเสียงสดใสก่อนตัดสายลง เขาคู้ตัวนั่งกับพื้นเงยหน้าขึ้นมองเพดานเพื่อไม่ให้น้ำตาที่คลอหน่วยมันไหลออกมาอะไรกันเนี่ย ไม่เข้มแข็งเสียเลยนะอาคานิชิ จิน อีกแค่ปีเดียวเอง
    ************************

    เสียงปรบมือดังลั่นห้องแต่งตัวเมื่อร่างบางตัดสินใจทำตามสัญญาของการประกวดตลอดหนึ่งปี หลังจากเดินกลับเข้ามาพร้อมกับคนหน้าหวานและทัตซึยะรวมทั้งแม่ของเขาและแม่ของจิน ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เพราะว่าเขาต้องการมีชื่อเสียงอะไรอย่างนั้นหรอกแต่เป็นความต้องการที่จะหาเงินด้วยตนเองเพื่อรอคนรักกลับมาและเพื่อนใหม่หน้าหวานนั้นก็ขอร้องด้วย
    อย่าดีใจไปหน่อยเลย ผมยังไม่หายแค้นนะร่างบางกอดอกบอก
    ผู้จัดการส่วนตัวเดินมากอดคอร่างบางเอาน่า...ฉันอุตส่าห์ช่วยให้นายหาเงินใช้รอแฟนกลับมานะ
    ตั้งปี ก็ได้คืนจากผมเกินคุ้มและร่างบางตอบ
    เราต่างก็ได้ทั้งสองฝ่ายนั่นแหละผู้จัดการกล่าวสรุปแล้วหันไปมองโทโมฮิสะ ขอบใจมากนะ
    คนหน้าหวานส่ายหน้าให้นั่นเพราะการตัดใจของคาเมะจังต่างหากครับ
    ถึงอย่างนั้นฉันก็จะให้รางวัลเธอด้วยผู้จัดการบอกกับโทโมฮิสะ
    รางวัลอะไรครับโทโมฮิสะเอ่ยถาม
    ทางบริษัทคุยกันไว้แล้วว่าจะให้นายไปถ่ายแบบที่อังกฤษผู้จัดการบอกแล้วส่งยิ้มให้
    อังกฤษ!!!ร่างบางร้องลั่น ขอบคุณมาก พี่ชายน่ารักจริง ๆเอ่ยบอกแล้วสวมกอดผู้จัดการด้วยความดีใจ
    ผู้จัดการหัวเราะร่วน ฉันหมายถึงยามาชิตะคุงไม่ใช่นาย
    ร่างบางผละตัวออกทันที อ้าว...แล้วผมละ
    เข้าห้องอัดเสียงตั้งแต่พรุ่งนี้เลย ยังไงนายก็ไม่คิดจะต่อสัญญาอยู่แล้วนี่เพราะฉะนั้นก็ต้องใช้งานให้คุ้มผู้จัดการกอดอกบอก
    ร้ายกาจที่สุดร่างบางต่อว่า
    เอาล่ะครับ แยกย้ายกันดีกว่าผู้จัดการเอ่ยตัดบทบอกกับทุกคนไปเปลี่ยนเสื้อผ้ากันได้แล้วพวกนายเขาบอกกับร่างบางและคนหน้าหวานเชิญผู้ปกครองรอข้างนอกนะครับเอ่ยบอกแล้วเดินนำทุกคนออกไป
    ร่างบางยิ้มบาง ๆ ให้ทุกคนที่เดินออกจากห้องแต่งตัวไป ก่อนจะหันไปมองยูอิจิที่ยืนนิ่งอยู่มุมห้องด้วยสายตาอาฆาต เขาหยิบไดร์เป่าผมขึ้นมาเตรียมเขวี้ยงใส่ทันที ตายซะเถอะ!!!
    ยูอิจิรีบทรุดตัวลงนั่งกับพื้นเพื่อหลบวิถียกมือกำบังของแข็งที่จะมาโดนตนเองแน่นอน
    พอเถอะคาเมะจังโทโมฮิสะเอ่ยห้ามพลางยื่นมือไปจับมือร่างบางเพื่อรั้งเอาไว้
    ร่างบางหันหน้ากลับไปมองแล้วถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนพูดกับยูอิจิ จะไปไหนก็ไป ตอนนี้ฉันไม่อยากเห็นหน้านาย
    ขอโทษจริง ๆ นะคาเมะจังยูอิจิเอ่ยอย่างรู้สึกผิด แล้วเดินออกจากห้องแต่งตัวไป

    !!!!!พลั่ก!!!!! !!!!!โครม!!!!! เสียงอึกทึกดังอยู่หน้าประตูห้องเมื่อยูอิจิเดินออกไปเพียงครู่
    ฉันจัดการให้สำเร็จแล้วไอ้จิน คาเมะจังทัตซึยะตะโกนบอก
    ร่างบางหัวเราะร่วนเพียงครู่เสียงหัวเราะของเขาก็เงียบลงเปลี่ยนจากความสะใจเป็นความฉงนแทน เมื่อคนหน้าหวานเพื่อนใหม่โอบกอดเขาจากด้านหลัง เฮ้ย!!! ทำอะไร
    ขอบคุณนะคาเมะจังโทโมฮิสะเอ่ยบอก
    ขอบคุณเรื่องอะไรร่างบางเอ่ยถามพยายามสะบัดตัวออก เขาไม่ชอบให้ใครมากอดแบบนี้นอกจากจิน
    ที่ยอมทำงานด้วยกันตั้งปี ฉันดีใจมากๆ เลยโทโมฮิสะกล่าว
    ร่างบางสะบัดตัวออกไม่ให้ดูน่าเกลียดมากนักแล้วหันกลับไปตบไหล่คนหน้าหวานแรง ๆเพื่อนกันนี่ อีกอย่างฉันทำเพื่อจิน
    โทโมฮิสะได้ฟังก็ยืนนิ่งชั่วครู่ก่อนคลี่ยิ้มให้ นั่นสิเนอะ อิจฉาจัง ชักอยากเห็นหน้าจินแฟนของนายแล้วสิ
    ร่างบางกอดอกมองคนหน้าหวาน ไม่ให้ดูหรอก จินของฉันน่ะหล่อมาก ถ้าเกิดนายชอบจินขึ้นมาล่ะ
    โทโมฮิสะหัวเราะร่วน ไม่หรอก เราเป็นเพื่อนกันนี่
    ใช่ เพื่อนกัน!!!ร่างบางย้ำหนักแน่นก่อนเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อกลับบ้าน พรุ่งนี้เขาต้องเริ่มต้นชีวิตใหม่แล้ว คงจะมีอะไรวุ่นวายน่าดู
    โทโมฮิสะมองแผ่นหลังร่างบางที่เดินจากไปแล้วเหยียดยิ้มขึ้นมาจินอย่างนั้นเหรอ...หึ หึ หึ
    ********************************
    จบตอนที่9แล้วจ้า^o^ เป็นอย่างไรบ้างอย่าลืมเม้นท์บอกกันด้วยนะคะ ขอบคุณทุกคอมเม้นท์และเพื่อนๆทุกๆคนที่ติดตามอ่านนะคะ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×