คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : part 9
paparazzi part 9
จินเดินเข้ามาในห้องพักภายในมหาวิทยาลัยพร้อมกับกล่องพัสดุที่ส่งมาจากญี่ปุ่น คนที่จ่าหน้ามาให้คราวนี้ไม่ใช่คนรักของเขาเหมือนทุกทีหากเป็นอูเอดะ ทัตซึยะ เพื่อนตั้งแต่วัยเยาว์ที่เซ็นได เขาเปิดกล่องออกอย่างใจเย็นเพราะรู้ดีว่าของในนั้นคืออะไร แผ่นดีวีดีที่ทัตซึยะไรท์ส่งมาให้กับกระดาษที่ถูกตัดมาจากนิตยสารและใส่ลงในแฟ้มเอกสารถูกส่งมาถึงมือของเขาแล้ว “น่ารักจัง” เขาเอ่ยชื่นชมบุคคลในแผ่นกระดาษก่อนจะหยิบแผ่นดีวีดีมาใส่ในเครื่องเล่นแล้วตั้งอกตั้งใจดูมัน คลิปวีดีโอเปิดตัวโครงการค้นหาไอดอลหน้าใหม่ซึ่งคนรักของเขาไปประกวดเพราะอยากได้เงินรางวัลปรากฏอยู่ในจอทีวีตรงหน้า เขายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้กับร่างบางที่ไม่ได้เห็นหน้ากันมาสองเดือนกว่า ๆ แต่เหมือนกับว่านานเป็นแรมปีอย่างนั้นแหละ
“คาซึยะ~~~” ร่างหนาเอ่ยชื่อคนรักอย่างชื่นชมแล้วลุกพรวดจากเก้าอี้นั่งไปเกาะหน้าจอทีวี “สู้ ๆ”
“เฮ้!!!!จิน” เควิล เพื่อนร่วมห้องของเขาเปิดประตูเขามาเห็นท่าทางคลั่งไคล้ดาราของเพื่อนก็อดที่จะขำไม่ได้ “ไม่น่าเชื่อว่านายจะบ้าดารานะเนี่ย”
จินหันหน้ากลับมา “เขายังไม่ได้เป็นดาราสักหน่อย ผลการแข่งขันยังไม่ประกาศเลย”
“ฉันว่ายังไงคนนี้ก็ได้” เควิลบอกพลางใช้สายตาชี้ไปยังร่างบางที่ยังคงยิ้มหวานให้กล้องก่อนเดินเข้าไปยังห้องนอนส่วนตัว ปล่อยให้เพื่อนร่างหนาชาวเอเชียของตนดูรายการต่าง ๆ ที่ดาราคนโปรดไปออกจนจบ เขายิ้มให้กับคนรักของตัวเองอย่างภาคภูมิใจแล้วไปหยิบโทรศัพท์กดไปยังหมายเลขคุ้นเคยซึ่งโทรหากันทุกวันไม่เคยขาด เขารับรู้ทุกเรื่องราวของคนรักดีไม่ต่างจากร่างบางซึ่งรู้เรื่องทุกอย่างของเขาเช่นกัน
“จิน~~~” ปลายสายกรอกน้ำเสียงอ้อน ๆ มาให้ “เติมพลังให้หน่อย~~~~”
“จุ๊บ~~~” จินจุมพิตร่างบางผ่านทางสายโทรศัพท์ถึงใครจะหาว่าบ้าแต่เขาสองคนรับรู้ได้ถึงสัมผัสอุ่นที่ส่งให้ถึงกัน “ฉันได้ดูแล้วนะ”
“เร็วจัง” ร่างบางบอก “ศุกร์นี้แล้วนะ อยากให้จินมาดูจัง”
“ฉันอยู่ทางนี้จะเอาใจช่วยนะ” จินตอบคนรัก “นายทำได้อยู่แล้ว”
“ใช่ ต้องทำให้ได้ ที่หนึ่งนะได้เงินตั้งล้านเยนเชียวนะ แค่นี้ฉันก็จะไปหาจินตอนคริสต์มาสโดยไม่ต้องขอเงินแม่แล้ว” ร่างบางบอกใบหน้าเปื้อนยิ้มเมื่อคิดถึงอนาคตอันใกล้ที่ตนวาดเอาไว้
“ขอบคุณนะที่พยายามเพื่อฉัน” จินบอกจากใจจริง
“ขอบคุณอะไรกันเล่า ฉันบอกแล้วไงว่าถ้าเพื่อจินมากกว่านี้ฉันก็ทำให้ได้” ร่างบางกล่าวย้ำ “ขอแค่คริสต์มาสอีฟ ฉันได้อยู่กับจินทั้งคืนก็พอ”
“ได้ยินแบบนี้แล้ว ฉันเองก็ต้องพยายามมากกว่านี้อีก” จินกล่าวเสียงหนักแน่น
“เราพยายามด้วยกันนะจิน” ร่างบางเอ่ยชวน
“อืม” จินรับคำ “ไม่ได้เจอนายมาสองเดือนกว่า ๆ รู้ตัวหรือเปล่าว่าน่ารักขึ้น”
ร่างบางคลี่ยิ้มออกมาเมื่อถูกชม “อันนั้นใคร ๆ ก็บอก แต่ที่อยากรู้มากกว่านั้นก็คือ...ฉันน่ารักขึ้นแล้วจินล่ะอยากกอดฉันมากขึ้นกว่าเดิมหรือเปล่า” เอ่ยถามน้ำเสียงยั่วยวน
ร่างหนาหน้าแดงขึ้นมาน้ำเสียงของร่างบางทำเอาเขาคิดไปไกลเกินกว่าแค่กอดเสียแล้ว “อยากสิ อยากมากกว่านั้นด้วย”
ร่างบางที่ได้ฟังคำตอบกลับเขินอายขึ้นมาแทนทั้ง ๆ ที่ตนเองแกล้งยั่วก่อน “บ้า~~~” ต่อว่าคนรักพลางดึงกระดาษทิชชู่ในกล่องออกมาทิ้งเล่นแก้เขิน
“เฮ้ย!!! จะดึงออกมาให้เปลืองเล่นทำไม” เสียงหนึ่งแทรกเข้ามาในสายโทรศัพท์
“อยู่กับใครเหรอ” จินเอ่ยถามเมื่อได้ยินเสียงบุคคลที่สาม
“ในห้องแต่งตัวนะ เดี๋ยวจะไปถ่ายภาพลงในหนังสือด้วย” ร่างบางบอกกับคนรักก่อนยกมือขึ้นป้องหูโทรศัพท์ “เสียดายถ่ายตอนนี้ยังไม่ได้เงิน”
“ฮ่า ๆ ” ร่างหนาหัวเราะร่วนออกมา “กลายเป็นคนงกตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย”
“ก็ตั้งแต่รอใช้ชีวิตสองคนกับจินโดยไม่ต้องพึ่งเงินทางบ้านนั่นแหละ” ร่างบางบอก
“รักนายนะคาซึยะ” คนร่างหนาบอกจากใจจริง เขาซาบซึ้งอย่างล้นเหลือที่ร่างบางทำเพื่อเขาได้ขนาดนี้
ร่างบางระบายยิ้มออกมา “ฉันก็รักนาย รักมาก ๆ เลยด้วย”
“คาเมะนาชิคุง เตรียมตัวด้วย” เสียงเดิมตะโกนบอก ร่างบางหันหน้ากลับไปมองก่อนถอนหายใจออกมาเบา ๆ ไม่ให้คนรักได้ยิน “เขาเรียกแล้วล่ะ อยากคุยกับจินนานกว่านี้จัง”
“ฉันก็เหมือนกัน แต่เราต้องอดทนและก็พยายามเพื่ออนาคตของเราสองคนนะ” จินบอกกับคนรักหนักแน่น
“อืม~~~ วางแล้วนะ” ร่างบางบอกก่อนจะตัดสาย
“จุ๊บ~~~” จินจุมพิตผ่านสายโทรศัพท์อีกครั้ง
ร่างบางยิ้มกว้างออกมาก่อนจุมพิตตอบเช่นกัน “จุ๊บ~~~”
“เป็นอะไรมากหรือเปล่าเนี่ย” เสียงเดิมเอ่ยกับร่างบางเป็นครั้งที่สาม
ร่างบางกดวางสายก่อนนำโทรศัพท์เก็บแล้วเอ่ยตอบผู้จัดการส่วนตัวของยูอิจิ ซึ่งตอนนี้กลับมาวุ่นวายอยู่กับเขาแทน “ก็คนเขารักกันมันก็ต้องแสดงออกกันแบบนี้สิครับ พี่ไม่มีเลยไม่เข้าใจล่ะสิ”
ผู้จัดการได้รับคำตอบที่แทงใจดำตนเองแต่เขาก็ไม่แสดงอาการใด ๆ ออกมา “เร็วเข้าเถอะ เกิดไม่ได้ติดหนึ่งในห้าจะไม่ได้เงินไปหาแฟนแล้วจะมาเรียกร้องอะไรไม่ได้นะ”
“รู้แล้วน่า” ร่างบางตอบก่อนเดินผ่านแล้วออกไปจากห้อง ด้านนอกที่เป็นสตูดิโอถูกเซทฉากไว้อย่างเรียบร้อย เด็กหนุ่มวัยรุ่นราวคราวเดียวกับเขาจำนวนยี่สิบคนที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายมาเช่นกันหันมามองเขาเป็นสายตาเดียว ร่างบางยิ้มให้ทุกคนแต่กลับไม่ได้รับไมตรีที่ดีตอบ เขารู้ดีว่าหลายคนคงไม่พอใจเพราะคิดว่าเขาเป็นเด็กเส้น อีกทั้งภาพที่ปาปารัซซี่ถ่ายได้เมื่อก่อนหน้านั้นก็ถูกหยิบขึ้นมาพูดถึงอีกครั้ง เมื่อใบหน้าของเขาปรากฏต่อสายตาสาธารณชนในนามของผู้ประกวดไอดอลหน้าใหม่ของปีนี้ภายใต้สังกัดเดียวกับ นากามารุ ยูอิจิ
“ฉันต้องยืนตรงไหนเหรอยามาชิตะคุง” ร่างบางเอ่ยถามยามาชิตะ โทโมฮิสะ ผู้ซึ่งผ่านเข้ารอบมาเหมือนกันและหมายเลขอยู่ติดกับเขา
โทโมฮิสะเหล่มองด้วยหางตาก่อนเพยิดหน้าให้โดยไม่ปริปากพูดอะไรออกมา ร่างบางไม่ได้ว่าอะไรแต่ก็แอบผิดหวังนิด ๆ ทั้งที่เขาคิดว่าอาจจะคุยกับคนหน้าหวานนี้ได้บ้างเพราะอย่างน้อยก็เคยคุยกันก่อนจะมาประกวด แต่เพราะข่าวที่พูดกันออกไปเกี่ยวกับตัวเขาจึงทำให้ไม่ได้รับความเป็นมิตรกลับคืนมา ช่างมันเถอะเขาไม่สนใจอยู่แล้วเพราะที่มาประกวดก็เพื่อเงินอย่างเดียวเท่านั้น
“ชิดกันหน่อยคาเมะนาชิคุงกับยามาชิตะคุง จะเว้นช่องว่างไว้ทำไม” ช่างภาพเอ่ยบอกกับคนทั้งสอง
โทโมฮิสะจึงกระเทิบตัวเข้ามาใกล้จนแผ่นหลังร่างบางสัมผัสกับแผ่นอกของเขา
“โอเค!!!!ดีแล้ว~~~” ตากล้องเอ่ยบอกเมื่อได้ภาพถ่ายดั่งใจ “เดี๋ยวขอถ่ายภาพคู่ของคาเมะนาชิคุงกับยามาชิตะคุงหน่อยนะ ส่วนคนอื่นพักผ่อนได้ ขอบคุณมาก”
ผู้ประกวดคนอื่นโค้งตัวให้ตากล้องก่อนแยกย้ายกันเดินกลับไปในห้องแต่งตัว ร่างบางหันมามองหน้าโทโทฮิสะก่อนยิ้มบางให้ “ไม่ต้องทำหน้าพะอืดพะอมขนาดนั้นก็ได้ ฉันรู้หรอกว่านายไม่ชอบขี้หน้าฉัน พวกนั้นก็ด้วย”
โทโมฮิสะมองร่างบางนิ่ง “รู้ด้วยเหรอ” เขาคิดในใจ
“ฉันไม่ได้อ่อนต่อโลกถึงขนาดไม่รู้ว่าใครรักหรือเกลียดขี้หน้าฉันหรอกนะ แต่ว่ายังไงภาพต่อไปช่วยทำว่าเราสนิทกันหน่อยก็ดีจะได้ไม่เสียงาน” ร่างบางบอกแล้วส่งยิ้มกว้างให้ก่อนยื่นมือไปเกาะบ่าคนหน้าหวานแล้วยิ้มให้กล้องอย่างสดใส
โทโมฮิสะมองหน้าด้านข้างร่างบางอย่างตะลึงงัน ทำไมถึงยังยิ้มให้กล้องได้อย่างนั้นทั้ง ๆ ที่ถูกรอบข้างกดดันมากมายก็ไม่รู้
“ยิ้มหน่อยยามาชิตะคุง” ตากล้องเอ่ยบอก
“ครับ!!!” โทโมฮิสะรับคำก่อนสลัดความคิดของตนเองทิ้งแล้วยิ้มส่งให้กล้อง
!!!!!แชะ แชะ แชะ!!!!! ตากล้องกดชัตเตอร์รัว เด็กหนุ่มสองคนตรงหน้าสร้างบรรยากาศให้ได้ภาพอย่างที่เขาต้องการจริง ๆ ผู้จัดการส่วนตัวของยูอิจิมองตัวเก็งของการประกวดทั้งสองคนอย่างภูมิใจ ถ้าให้สองคนนี้สนิทกันจริง ๆ ได้คงดี
“ก็ดูสนิทกันดีนี่ฮะ” เสียงที่ดังมาจากด้านหลังทำเอาผู้จัดการส่วนตัวสะดุ้งแล้วหันกลับไปมอง
“ยูอิจิ มาเงียบๆตกใจหมด” ผู้จัดการเอ่ยว่าเล็ก ๆ
ยูอิจิ ค้อมศีรษะให้ “ขอโทษครับ” เขาเอ่ยบอกแล้วยืนมองคนทั้งสองที่กอดคอกันอย่างสนิทสนมแล้วยิ้มให้ตากล้องถ่ายภาพซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“ถ้าสนิทกันจริง ๆก็ดีนะสิ จะได้จับเดบิวคู่ซะเลย สำหรับสองคนนี้ขายได้อยู่แล้ว” ผู้จัดการเอ่ย “ว่าแต่นายเถอะแอบแว่บมาแบบนี้ พอฉันปล่อยเข้าหน่อยเอาใหญ่เชียวนะ”
“ถ่ายเสร็จแล้วครับ เลยเดินมาที่สตูนี้” ยูอิจิบอก “พูดถึงมาแบบนี้เดี๋ยวได้เป็นข่าวอีกแน่ ๆ ”
“ช่างเถอะ ตอนนี้นายเป็นข่าวกับคาเมะนาชิคุงยิ่งดี มันจะยิ่งทำให้ทั้งนายและคาเมะนาชิคุงยิ่งมีคนรู้จัก” ผู้จัดการกล่าวเมื่อเขานึกถึงแต่หลักการตลาดเท่านั้น
ยูอิจิเบ้หน้า “ข่าวแบบนี้ก็ไม่ไหวนะครับ ผู้หญิงห่างผมไปหมด”
“นายเองบอกว่าอยากมีแฟนคลับเป็นผู้ชายบ้างไม่ใช่เหรอ ตอนนี้ได้มาสมใจยังจะอะไรอีก” ผู้จัดการเอ่ยแซว
“แต่ผมไม่ได้อยากได้แบบนี้นี่ครับ รู้สึกเสียวด้านหลังยังไงไม่รู้” ยูอิจิตอบ
“เฮ้ยไอ้ห้อย!!!! ว่างหรือไง” ร่างบางเอ่ยทักเมื่อการถ่ายรูปคู่ของเขากับคนหน้าหวานเสร็จสิ้นลง เขาโค้งให้ตากล้องก่อนจะวิ่งมาหา
คนหน้าหวานโค้งให้ตากล้องก่อนจะโค้งให้ยูอิจิและผู้จัดการส่วนตัว เขากำลังจะเดินกลับไปที่ห้องแต่งตัว
“เดี๋ยวสิ ยามาชิตะคุง” ยูอิจิเอ่ยรั้ง
โทโมฮิสะหันหน้ากลับมามอง “ครับ”
“เมื่อกี้ถ่ายภาพออกมาสวยมากเลยนะ” ยูอิจิบอกแล้วยกนิ้วหัวแม่มือให้
โทโมฮิสะคลี่ยิ้มออกมา “ขอบคุณมากครับ ขอตัวนะฮะ” เอ่ยลาแล้วเดินจากไป
“เด็กคนนั้นถ้าไม่ทำหน้าบึ้งตึงอยู่ตลอดเวลาก็ดีนะสิ” ยูอิจิเอ่ยขึ้น
ร่างบางหันกลับไปมองก่อนจะหันกลับมาหรี่ตามองยูอิจิ “ฉันจะบอกพี่มิซูรุ”
“เฮ้ย!!!!” ยูอิจิร้องลั่น “คิดอะไรของนาย ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นสักหน่อย”
“จะหมายความว่ายังไงก็ช่าง แต่มิซูรุคือใคร” ผู้จัดการส่วนตัวเอ่ยถามทันที
ร่างบางยิ้มแห้ง ๆ ก่อนจะค้อมศีรษะให้แล้วชิ่งออกไปทันที ผู้จัดการส่วนตัวหันมามองยูอิจิเด็กในปกครองตนเองอย่างคาดคั้น ยูอิจิยิ้มกว้างให้แล้ววิ่งตามร่างบางออกไปติด ๆ
**********************
“เห็นไหมฉันบอกแล้วว่าคาเมะนาชิคุงนะเส้นชัดๆ แล้วที่เขาบอกว่ามีอะไรกับนากามารุคุงและก็ผู้จัดการตาขวางนั่นก็คงชัวร์ ถึงขนาดตามมาดูแลกันแบบนี้” คนหน้าหวานเอ่ยบอกกับเพื่อนผู้เข้าประกวดไปพลางเก็บของไปพลาง
“คาเมะนาชิคุงเขาก็เด่นอยู่แล้วไม่ต้องทำขนาดนั้นยังไงก็ได้ที่หนึ่ง แต่เห็นกับตาบ่อย ๆ แบบนี้เข้ามันก็น่าจะมีมูลความจริงบ้างล่ะ” เพื่อนผู้ร่วมประกวดคนหนึ่งกล่าวเห็นด้วย “หรือพวกนายว่ายังไง”
“ฉันก็ว่าน่าจะจริงแหละ อย่างนี้ก็ขี้โกงนะสิ พวกเรานะตั้งใจและก็พยายามกันขนาดไหน” เพื่อนคนอื่นชักเห็นด้วย
คนหน้าหวานเหยียดยิ้มขึ้นเมื่อการปลุกระดมของเขาที่แอบทำเงียบ ๆ ค่อย ๆ มีผู้เห็นชอบด้วยแล้ว “เพราะฉะนั้นที่ฉันบอกให้พวกนายบึ้งตึงใส่คาเมะนาชิคุงเพื่อเป็นการกดดันให้หมอนั่นถอนตัวออกไปเองนะยังน้อยไป”
“อย่างนั้นเหรอ~~~” ร่างบางเอ่ยถามพลางยืนกอดอกพิงขอบประตู
คนหน้าหวานรวมทั้งคนอื่น ๆ หันกลับไปมองด้วยความตกใจ ร่างบางกวาดสายตามองตอบโดยไม่ได้ต่อว่าอะไร คนหน้าหวานจึงไม่สนใจหันกลับไปเก็บข้าวของของตนเช่นเดิม
“ถ้าไม่พอใจอะไรก็พูดมาเลยตรง ๆ เด่ะ อย่าเล่นกันลับหลังสิว๊ะ อย่างนี้มันก็ไม่แฟร์สำหรับฉันที่ถูกพวกนายรวมตัวกันกดดันให้ออกจากการประกวด” ร่างบางบอก
โทโมฮิสะหันหน้ากลับไปมองอีกครั้ง “ใครกันแน่ที่ไม่แฟร์ พวกฉันใช้ความพยายามกันจนกว่าจะมาถึงรอบนี้ ในขณะที่นายใช้อย่างอื่น”
“พูดอย่างนี้หมายความว่าไง ยามาชิตะคุง” ร่างบางถามกลับ
“รู้อยู่แก่ใจไม่ต้องมาตีหน้าซื่อหรอกน่า นายเองมันไม่ได้ใสซื่อไม่ใช่เหรอ เสร็จใครมานักต่อนักแล้วนี่ถึงได้เข้ามาง่าย ๆ ” โทโมฮิสะกอดอกบอก “หรือว่าไม่จริง”
“เออ!!! ไม่จริง” ร่างบางบอกก่อนสาวท้าวเดินเข้ามาใกล้คนหน้าหวานแล้วฝาดฝ่ามือลงบนใบหน้านั้นทันที “ถ้าไม่รู้เรื่องอะไรแล้วอย่ามาดูถูกความพยายามของคนอื่นเขาสิ ใช่ฉันรู้จักกับยูอิจิแล้วผู้จัดการก็พาฉันมาประกวดแล้วยังไงล่ะ นายพูดแบบนี้มันไม่ได้แค่ดูถูกฉันแต่มันหมายถึงบริษัทนี้ด้วย บริษัทที่นายตั้งใจเข้ามาประกวดเพื่อความฝันของนายไม่ใช่เหรอ” ร่างบางย้อนถาม
คนหน้าหวานหันหน้ากลับมามองใบหน้าของเขาปรากฏรอยฝ่ามือเด่นชัด
“ความฝันของฉันกับของนายและคนอื่น ๆ อาจไม่เหมือนกัน แต่ว่าความพยายามของฉันมันไม่ได้น้อยไปกว่าพวกนายเลย ขอร้องอย่าดูถูกกันทั้งๆที่นายเองยังไม่ได้เต็มที่กับมันเลย” ร่างบางกล่าวแล้วค้อมศีรษะให้ก่อนจะเก็บข้าวของแล้วเดินออกจากห้องแต่งตัวไปทันที
โทโมฮิสะมองตามร่างบางนั้น เพื่อน ๆ ต่างกรูกันเข้ามาดูแลเขาไม่ต่างจากผู้จัดการและยูอิจิที่สวนกับร่างบางเข้ามาเมื่อได้ยินเสียงอึกทึกนั่นแต่เมื่อมาถึงทุกอย่างก็สงบลงแล้ว
***************************
“คงไม่ได้ไปหาจินแล้วล่ะ” ร่างบางบอกเสียงอ่อยเมื่อคุยโทรศัพท์กับคนรักภายในห้องส่วนตัวที่บ้านของตนเอง เขาเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้กับคนรักฟังหมดแล้ว
“ก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรนี่” ร่างหนาตอบกลับ
“หืม~~~ พูดอย่างนี้เสียใจนะเนี่ย” ร่างบางตัดพ้อ
“ถึงนายจะมาหาฉันไม่ได้แต่ฉันก็ดีใจนะถ้าเขาจะตัดชื่อนายออกจากการประกวดจริง ๆ ” จินบอกจากความรู้สึก “จะได้ไม่ต้องมีคนอื่นมาเห็นความน่ารักของนายยังไงล่ะ”
ร่างบางคลี่ยิ้มออกมา “พูดอย่างนี้หึงฉันล่ะสิ”
“อืม” จินตอบ “แต่ก็เสียดายเหมือนกัน ตั้งใจทำ....” เขารีบเงียบทันทีเมื่อจะหลุดคำออกมา
“ทำอะไร” ร่างบางเอ่ยถาม
“ไม่บอก” ร่างหนาตอบ
“โหย~~~จินนะ มีความลับเหรอ” ร่างบางเอ่ยน้ำเสียงงอน
“ไม่ได้มีความลับแต่ยังไม่อยากให้นายรู้ตอนนี้” จินบอกกับคนรัก
“ก็ได้” ร่างบางตอบ “ฉันจะไปหางานพิเศษอย่างอื่นทำดีไหม”
“อย่าเลย...นายพยามยามเพื่อฉันมาตั้งเยอะ ให้ฉันพยายามเพื่อนายบ้างสิ” จินบอกคนรัก
ร่างบางยิ้มกว้างออกมาเอนตัวนอนกลิ้งบนผืนเตียง “ก็จินต้องเรียนนี่ แค่นี้ก็พยายามในส่วนที่ฉันทำไม่ได้ไปตั้งเยอะ”
“ไม่เหมือนกันสักหน่อย เอาเป็นว่าถ้าเขาจะตัดนายออกจากการประกวดก็ช่างเขา นายไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น ไปเรียนทำอาหารแบบเดิมนั่นแหละ” จินกล่าว
“จ๊ะ” ร่างบางรับคำก่อนชวนคนรักคุยเรื่องอื่น
**************************************
คนหน้าหวานยืนอยู่หน้าประตูรั้วของบ้านหลังใหญ่ เขามองที่อยู่บนแผ่นกระดาษก่อนเพ่งมองไปยังหน้าประตูอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ “บ้านคาเมะนาชิ” อ่านชื่อที่เขียนเอาไว้ก่อนเดินไปกดออด
“คะ” เสียงตอบรับจากคนในบ้าน
“ผมยามาชิตะ โทโมฮิสะ มาหาคาเมะนาชิ คาซึยะคุงครับ” โทโมฮิสะบอกกับคนในบ้าน
“สักครู่นะคะ” สาวใช้เอ่ยบอกก่อนจะเดินขึ้นไปหาคุณหนูของบ้านหลังใหญ่
สาวใช้เคาะเบา ๆ ที่บานประตูห้องของร่างบางเพื่อเป็นการขออนุญาต “คุณหนูคะ มีเพื่อนชื่อยามาชิตะคุง มาหานะคะ”
“เดี๋ยวนะจิน” ร่างบางบอกกับคนรักที่สนทนาอยู่ด้วย ก่อนเดินถือโทรศัพท์แล้วไปเปิดประตูห้องนอนออก “ว่าอะไรนะ ใครมา”
“เพื่อนคุณหนูน่ะคะ ชื่อยามาชิตะคุง” สาวใช้บอกย้ำ “จะพบไหมคะ”
“เดี๋ยวนะ” ร่างบางบอกสาวใช้ก่อนจะคุยโทรศัพท์ต่อ “จิน~~~ยามาชิตะคุงเขามาหาฉันที่บ้าน”
“ได้ยินแล้วล่ะ ออกไปพบเขาหน่อยสิ อุตส่าห์มาหา” จินบอก
“ถ้าเกิดเขามาแก้แค้นล่ะ ฉันตบเขาเสียแรงหน้าเขาอาจเสียโฉมก็ได้” ร่างบางกล่าวเสียงหวาด ๆ
“ไม่หรอก ถ้าเขาจะแก้แค้นเขาไม่มาหาหายที่บ้านหรอก” จินกล่าว “บางทีเขาอาจจะอยากขอโทษนายก็ได้”
“อืม...ถ้าอย่างนั้นฉันออกไปพบเขาก็ได้” ร่างบางบอกกับคนรัก “แค่นี้ก่อนนะ เรื่องเป็นยังไงต่อฉันจะเล่าให้ฟังทีหลัง”
“ใจเย็น ๆ นะ ฉันเป็นห่วงนาย” จินกล่าวจากความรู้สึก
“จะพยายาม แต่ถ้าหมอนั่นจะเอาคืนฉันคงต้องป้องกันตัว” ร่างบางตอบ
“นายนี่ ยังจะมาพูดเล่นอีก“ จินเอ่ยดุ “ฉันเชื่อว่านายมีเหตุผลพอ”
“ขอบคุณ...รักจินนะ” ร่างบางบอก
“ผมก็รักคุณ” จินบอกกับร่างบางก่อนวางสายลงแล้วเดินเข้าไปหยิบซองเอกสารในห้องนอนส่วนตัว
“เฮ้!!!! ไวด้วยจิน” เควิลเอ่ยเร่งเขาที่หน้าประตูห้อง
“อืม ๆ จะไปเดี๋ยวนี้แหละ” จินขานตอบแล้วเดินออกจากห้องไป
เควิลตบลงบนบ่าเขาเบา ๆ “ขอให้งานผ่านนะ ถ้าได้นายดังแน่ ๆ ”
จินยิ้มตอบ “ขอบใจนะ”
เควิลล้วงมือไปในกระเป๋ากางเกงแล้วหยิบกุญแจรถส่งให้ “ขับรถฉันไปสะดวกกว่า”
จินยื่นมือไปรับ “ถ้าได้ฉันเลี้ยงนายมื้อใหญ่แน่ ๆ ”
“ไม่ต้องหรอกเก็บเงินไว้ดีกว่า ฉันขอแค่สาวญี่ปุ่นน่ารัก ๆ สักคนก็พอ” เควิลเอ่ยน้ำเสียงทะเล้น
จินหัวเราะร่วนก่อนโบกมือให้เพื่อนร่วมห้องที่ช่วยเหลือเขามาตลอดแล้วเดินออกไปทันที
*******************************
ร่างบางยืนอยู่หน้าประตูบ้านเขามองคนหน้าหวานซึ่งยืนนิ่งมองตนไม่วางตาเช่นกัน
“มีอะไรก็พูดมาสักทีสิ ยืนนานแล้วนะ” ร่างบางเอ่ยบอก
“เอ่อ.....” โทโมฮิสะ เริ่มปริปาก
“เอ่อ.....” ร่างบางลากเสียงตาม
“อย่าล้อเล่นสิ” โทโมฮิสะบอก
“ก็พูดสักทีสิ หรือถ้าจะตบคืนก็มาเลยฉันพร้อมแล้ว” ร่างบางบอกแล้วยกแขนทั้งสองขึ้นตั้งกาด
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ” โทโมฮิสะหัวเราะร่วนกับท่าทางคนร่างบาง
“ขำอะไร ซีเรียสนะเว้ย” ร่างบางตอบกลับ
โทโมฮิสะโค้งตัวให้กับร่างบางทันที “ขอโทษนะคาเมะนาชิคุง”
ร่างบางมองการกระทำของคนตรงหน้าก็วางมือลง “ขอโทษเรื่องอะไรล่ะ”
“ก็...เรื่องที่ฉันใส่ความนาย” โทโมฮิสะตอบ
“นั่นนายก็อ่านมาจากข่าวก็อซซิปไม่ใช่เหรอถึงพูดตามนั้นเป๊ะ” ร่างบางกอดอกตอบ
โทโมฮิสะยืดตัวขึ้นมามองร่างบาง “นายก็รู้ว่าไม่ใช่
”
ร่างบางยกนิ้วขึ้นทาบริมฝีปากตนเอง “จุ๊ ๆ เรื่องนั้นมันจบแล้วช่างมันเถอะ ฉันเองก็ขอโทษนายเหมือนกัน” เขาบอกแล้วโค้งตัวให้
โทโมฮิสะยกมือขึ้นมาจับใบหน้าตนเองซึ่งตอนนี้รอยฝ่ามือนั้นเลือนหายไปแล้ว “ถ้าไม่โดนคาเมะนาชิคุงตบ ฉันคงไม่ได้สติ”
“ต่อไปนายทำงานในวงการบันเทิงก็อย่าทำนิสัยแบบนี้อีกล่ะ มันไม่ดีต่อตัวนายเอง” ร่างบางเอ่ยบอก “วันศุกร์นี้ขอให้โชคดีล่ะ นายทำได้อยู่แล้ว”
โทโมฮิสะเอียงคอมอง “ทำไมคาเมะนาชิคุงพูดแปลก ๆ อย่างกับจะไม่ประกวดแล้วอย่างนั้นแหละ”
“ก็ไม่ใช่เหรอ เขาคงตัดชื่อฉันออกแล้วล่ะ” ร่างบางตอบ
“ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย คาเมะนาชิคุงยังไม่ได้ถูกตัดชื่อ” โทโมฮิสะบอก
“เห๋~~~ ” ร่างบางร้องเสียงหลง
“จริง ๆ ” โทโมฮิสะย้ำหนักแน่น
ร่างบางยิ้มกว้างออกมา “เหรอ ถ้าอย่างนั้นฉันก็ยังมีสิทธิ์ได้เงินล้านเยนนะสิ”
โทโมฮิสะพยักหน้าหนักแน่น “ฉันเพิ่งรู้จากนากามารุคุง ว่าที่นายมาประกวดเพราะอยากได้เงินเพื่อไปหาแฟนที่อังกฤษ”
ร่างบางหน้าเจื่อน “ไอ้ห้อยปากไม่มีหูรูดอีกแล้ว ขอโทษนะที่ฉันไม่บริสุทธิ์ใจในการมาประกวดเลย”
โทโมฮิสะส่ายหน้า “ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก นายนะบริสุทธิ์มากเลยต่างหาก ทำเพื่อคนรักขนาดนี้”
ร่างบางยิ้มกว้างขึ้นอีกครั้ง “นายคิดอย่างนั้นเหรอ”
“อืม” โทโมฮิสะตอบ “คนแบบนาย....ฉันชอบที่สุดเลย”
“ขอบใจ” ร่างบางตอบ “เข้าบ้านก่อนสิ ยืนคุยตั้งนานเมื่อยแย่”
โทโมฮิสะพยักหน้ารับคำชวนแล้วเดินตามร่างบางเข้าไปในบ้าน มิตรภาพของคนสองคนกำลังเริ่มต้นขึ้น
*********************
“แม่ นั่ง ๆ ” ทัตซึยะเอ่ยบอกกับแม่ของจินและแม่ของร่างบางเมื่อเขาเดินนำมานั่งบนชั้นสองแถวหน้าภายในฮอล์ลที่จัดการประกวดไอดอลรอบสุดท้าย “อ้าว!!! ที่เหลือนั่งตามเลขที่บัตรนั่นแหละ” เขาบอกกับเพื่อนบ้านที่แห่กันมาเชียร์ร่างบางคนรักของจิน ซึ่งเหมารถทัวร์กันมาจนเกือบหมดหมู่บ้าน “จำไว้นะ แฟนไอ้จินเบอร์เจ็ด”
“เออ รู้แล้วไม่ต้องบอกก็เชียร์อยู่ดี น่ารักขนาดนั้น” เพื่อนบ้านวัยเดียวกันตะโกนบอก
“ดีมาก” ทัตซึยะกล่าว
“แล้วยูอิจิมันจะมาดูไหมเนี่ย” เพื่อนอีกคนเอ่ยถาม
“มา นั่งปากห้อยอยู่แถววีไอพีข้างล่างนั่นแล้วมั๊ง” ทัตซึยะตอบก่อนล้วงมือไปในกระเป๋าแล้วหยิบบางอย่างออกมา
“อะไรจ๊ะทัตจัง” แม่ของร่างบางเอ่ยถามห่อผ้าที่อยู่ในมือของทัตซึยะ
“ไอ้จินมันฝากมาเชียร์คาเมะจังน่ะแม่” ทัตซึยะตอบ
แม่ของร่างบางและแม่ของจินหันไปมองหน้ากันก่อนจะหัวเราะร่วนออกมา ทัตซึยะคลี่ผ้าออกความยาวของมันเท่ากับความกว้างของฮอล์ลชั้นสองอย่างพอดิบพอดี เขาจัดการผูกผ้าไว้กับขอบกั้นกว่าจะเสร็จก็ใกล้เวลาประกวดแล้ว
“อะไรหนะ” ผู้ประกวดขึ้นหนึ่งเอ่ยขึ้นเมื่อมาแอบดูบรรยากาศในงานหลังม่านของเวที
ยามาชิตะ โทโมฮิสะ ได้ยินเสียงนั้นจึงหันไปมอง “มีอะไรกันเหรอ”
“ดูนั่นสิ” เพื่อนเอ่ยตอบแล้วชี้ไปยังแถวที่นั่งชั้นสอง
โทโมฮิสะมองตามก่อนจะตะโกนเรียกร่างบาง “คาเมะจัง~~~~”
ร่างบางเพิ่งแต่งตัวเสร็จเดินออกมาสมทบ “อะไร ใกล้จะได้เวลาแล้วนะ”
“ดูนั่น” โทโมฮิสะจับไหล่เล็กของเพื่อนให้หมุนตัวไปมอง
ร่างบางมองออกไปด้านนอก ภาพของชั้นสองแถวหน้ามีป้ายผ้าผืนยาวแขวนเอาไว้ “คาเมะนาชิ คาซึยะคุง เบอร์ 7 สู้เขา พยายามเข้านะ ฉันรักนาย” เขาอ่านข้อความตัวโตที่เขียนอยู่เต็มผืนผ้า ตัวหนังสือนั้นเขาจำได้ดีลายมือคนรักเขานั่นเอง “จิน~~~” เอ่ยเรียกชื่อคนรักที่ไม่ได้มาเชียร์ด้วยตัวเองแต่ใจที่ส่งมาจากที่ห่างไกลเขาได้รับแล้วแน่นอน
โทโมฮิสะแอบมองหน้าด้านข้างของร่างบาง ใบหน้าเปี่ยมสุขนั้นตรึงสายตาของเขาได้ดี “ดีจัง มีคนเชียร์นายขนาดนั้น”
ร่างบางหันกลับมามองน้ำตาคลอ “จินน่ะ เขาทำให้ฉัน”
“แฟนนายนะเหรอ” โทโมฮิสะถามเสียงเบากลัวว่าใครจะได้ยิน
“อืม” ร่างบางพยักหน้าตอบ “ไม่ต้องได้หนึ่งล้านก็ได้ ตอนนี้ได้แค่ห้าหมื่นฉันก็เอา”
โทโมฮิสะไม่ได้พูดอะไรต่อ เขายืนมองใบหน้าร่างบางเงียบ ๆ จนการประกวดรอบสุดท้ายเริ่มขึ้นและตามที่คาดหมาย เขากับร่างบางติดรอบห้าคนสุดท้ายเข้าไปจริง ๆ
“คาเมะนาชิคุง ถ้าตอนนี้ให้พูดอะไรสักอย่างอยากจะบอกอะไรหรือเปล่า” พิธีกรหนุ่มเอ่ยถามผู้เข้าประกวดคนสุดท้ายของรอบตัดสินอันดับ
“ผมอยากบอกว่า” ร่างบางตอบ “ฉันก็รักนาย~~~~ ได้ยินไหม~~~~ ฉันรักนาย~~~” เขาตะโกนบอกใส่ไมค์เสียงลั่นไปทั่วฮอล์ล
“ได้ยินแล้วครับคาเมะนาชิคุง” พิธีกรยกมือขึ้นอุดหูบอก “ขอบคุณมากกลับไปยืนที่เดิมก่อนนะ”
ร่างบางโค้งตัวให้กับผู้ชมแล้วเดินไปยืนข้าง ๆ โทโมฮิสะที่ส่งยิ้มมาให้
“สุดยอดไปเลยคาเมะจัง ถ้ามีใครบอกรักฉันแบบนี้ฉันรักตายเลย” โทโมฮิสะบอกจากใจ
“สักวันคงมีคนบอกนาย” ร่างบางบอกแล้วยืนเงียบ รอลุ้นว่าตนเองจะได้ลำดับที่เท่าไหร่ซึ่งมันไม่สำคัญเท่ากับว่าเงินรางวัลที่จะได้ตามมานั้นเท่าไหร่กันแน่ต่างหาก
แสงไฟสาดส่องมาที่ร่างบางและคนหน้าหวาน ผู้ประกวดสองคนสุดท้ายที่ยืนอยู่ตรงกลางของเวที
“ผู้ที่ได้เป็นไอดอลคนใหม่ประจำปี2005ได้แก่.....คาเมะนาชิ คาซึยะคุง ครับ” พิธีกรเอ่ยบอกก่อนเสียงไชโยโห่ร้องอย่างดีใจจะดังขึ้นตามมา เป็นไปตามคาดหมายของใครหลาย ๆ คนว่าเด็กหนุ่มร่างบางคนนี้จะต้องได้ที่หนึ่งเพราะความสามารถบวกกับหน้าตาและรอยยิ้มที่สดใสนั่น
ยูอิจิหันไปยิ้มกับผู้จัดการส่วนตัวของเขาซึ่งรอยยิ้มเจ้าเล่ห์บนใบหน้านั้นทำเอายูอิจิหุบยิ้มทันที “ฉันควรจะดีใจหรือร้องไห้ดีว่ะ” เขาเอ่ยถามตนเอง
“น่ายินดีไม่ใช่เหรอยูอิจิ คาเมะนาชิคุงได้ที่หนึ่งหมายถึงเงินที่จะทะลักเข้ามาในบริษัทตลอดหนึ่งปีเลยนะ” ผู้จัดการส่วนตัวบอก
“แต่...คาเมะจังเขายังไม่รู้นี่ที่เราปิดบังเขาไว้” ยูอิจิบอกกลับ
“เดี๋ยวเขาก็ได้รู้” ผู้จัดการส่วนตัวบอก
ยูอิจิขุ่นคิ้วมองอย่างสงสัย เสียงประกาศที่ดังขึ้นตามมาหลังจากนั้นเป็นคำตอบให้เขาได้ดี
“ครับสำหรับผู้เข้ารอบห้าคนสุดท้ายคนอื่นไม่ต้องเสียใจนะ ทางบริษัทเรารับเข้าสังกัดอยู่ดี” พิธีกรเอ่ยบอกเรียกรอยยิ้มให้กับทุกคนบนเวที “ส่วนคาเมะนาชิคุงนอกจากจะได้เซ็นสัญญาเป็นเวลาหนึ่งปีแล้ว ยังมีงานถ่ายแบบ ละคร รายการวิทยุ งานเพลง และหนังให้ผู้ชมได้ติดตามผลงานอีกต่อไปครับ”
“ห๊ะ!!!!” ร่างบางที่ยื่นมือไปรับป้ายบอกจำนวนเงินหนึ่งล้านเยนเอ่ยเสียงลั่น “ว่าอะไรนะ” เขาตะโกนถาม
พิธีกรมองตอบอย่างงง ๆ “ก็มีงานเข้ามายังไงล่ะ ทั้งหนัง ละคร เพลง รายการวิทยุ น่ายินดีมากเลยใช่ไหมคาเมะนาชิคุง”
ร่างบางได้ฟังคำยืนยันนั้นอีกครั้งก็ยืนนิ่ง มองจ้องไปยังแถววีไอพีข้างหน้า ผู้จัดการส่วนตัวยักไหล่แล้วยิ้มให้อย่างผู้มีชัยส่วนยูอิจินั้นคู้ตัวจนแทบจะเป็นส่วนหนึ่งของเก้าอี้นั่งไปแล้ว
“หลอกฉันอย่างนั้นเหรอ” ร่างบางเอ่ยอาฆาตก่อนเดินถือถ้วยรางวัลและป้ายหนึ่งล้านเลยไปหาคนหน้าหวานซึ่งยืนอยู่ไม่ห่างกัน
“เอาห้าแสนของนายมาแลกกับล้านหนึ่งของฉันไหม ฉันแถมถ้วยรางวัลกับตำแหน่งที่หนึ่งให้นายด้วย” ร่างบางเอ่ยบอกเสียงลั่นกลบความยินดีเมื่อสักครู่มิด
“คาเมะนาชิคุง!!!” ผู้จัดการเอ่ยเสียงเข้ม ไม่คิดว่าร่างบางจะกล้าทำแบบนี้
“คาเมะนาชิคุงนี่เข้าใจล้อเล่นจริงเชียว” พิธีกรบนเวทีรีบพูดให้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกลายเป็นเรื่องตลก
“ฉันไม่ได้พูดเล่นแต่ทำจริง ๆ ” ร่างบางยืนยัน “ว่ายังไงยามะพี เปลี่ยนกันไหมยังไงนายก็อยากจะเป็นดารามากกว่าฉัน ตำแหน่งนี้นายเหมาะที่สุด”
“คาเมะจัง~~~” โทโมฮิสะเอ่ยเสียงแผ่ว ดวงตาอันแน่วแน่ของร่างบางที่มองมาทำเอาเขาพูดอะไรไม่ออก
“เอ่อ...ขอขอบคุณสปอนเซอร์ดังต่อไปนี้นะครับ” พิธีกรบนเวทีเปลี่ยนเรื่องก่อนการโกลาหลจะมีมากขึ้นกว่านี้
“เด็ดจริงว๊อยแฟนนาย~~~” ทัตซึยะบอกกับคนปลายสายที่โทรทางไกลมาหาเขา เพื่อฟังเสียงประกาศผู้ชนะในการประกวด
“ฉันว่าจะเป็นเรื่องใหญ่นะสิ” จินบอกกับเพื่อน “จบงานแล้วนายไปหลังเวทีได้ใช่ไหม ขอฉันคุยกับคาซึยะที”
“ได้เลย ทัตซึยะคนนี้จัดให้ แต่ขอแวะสะกรำไอ้ยูอิจิมันก่อน มันน่านัก” ทัตซึยะบอกกับเพื่อน
“เออดี ฝากด้วย” จินกล่าวสมทบ “เอามันให้ปางตาย” น้ำเสียงครั้งนี้ของเขาไม่ได้พูดเล่นเสียแล้ว
“โกรธมันจริงเหรอวะ” ทัตซึยะเอ่ยถาม
“ไม่เชิง แค่รู้สึกว่ามันไม่น่าปิดบังกันก็เท่านั้น” จินบอกกับเพื่อน
“ฉันจะต่อยมันให้” ทัตซึยะบอก “แค่นี้ก่อนนะต้องไปลากคอมันออกมาก่อน เดี๋ยวมันจะชิ่งกลับไปกับผู้จัดการนั่น”
“อืม” จินรับคำก่อนวางสายลง แล้วถอนหายใจออกมาแรง ๆ
“เป็นอะไร” เควิลเอ่ยถาม
“เขาได้ที่หนึ่ง” จินบอกกับเพื่อน
“เหรอ อย่างนั้นก็ดีสิ” เควิลกล่าว
“ก็คงอย่างนั้น” จินตอบแต่ใบหน้าของเขาไม่ได้บ่งบอกว่าเป็นอย่างที่พูดนั่นเลย
“แล้วทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะ” เควิลถาม
“กลัว” จินบอกตามที่รู้สึก “ฉันกลัวว่าระยะห่างระหว่างฉันกับเขาจะมีมากขึ้นนะสิ...”
*************************
“ไม่ยอม!!!” ร่างบางเอ่ยเสียงกร้าวเมื่ออยู่หลังเวที เขาไม่ยอมทำตามข้อตกลงที่ถูกปิดบังนั่นแน่นอน
“ได้ยังไงล่ะ เงินรางวัลนายก็รับไปแล้วจะเบี้ยวหรือไง” ผู้จัดการส่วนตัวกอดอกบอก
“ฉันไม่ได้เบี้ยว แต่พวกนายโกหกฉัน” ร่างบางกล่าวแล้วมองไปทางยูอิจิที่หลบสายตาตนเอง “ฉันไม่คิดเลยนะว่านายก็จะร่วมมือกับตาลุงนี่ด้วย”
ยูอิจิยกมือขึ้นประนม “ฉันขอโทษแต่มันเลี่ยงไม่ได้”
“ฉันบังคับยูอิจิเองแหละ” ผู้จัดการส่วนตัวบอก “ถ้าจะไม่ทำตามสัญญาก็ได้นะแต่เอาเงินคืนมาเท่านั้นเองแล้วก็จ่ายค่าเสียหายที่นายทำตามสัญญาไม่ได้มาด้วย”
ร่างบางหันไปมองผู้จัดการตาขวาง “อะไรนะ!!!”
“เอ่อ...คือ...” โทโมฮิสะซึ่งยืนอยู่ในวงสนทนาด้วยเอ่ยปากขึ้น “คาเมะจัง...ฉันว่านายปรึกษาที่บ้านดูก่อนดีไหม”
“นั่นสิ ๆ ” ยูอิจิรีบสนับสนุนความคิดนั้นทันที “โทรไปถามเขาดูสิ” เอ่ยบอกโดยไม่ต้องเอ่ยชื่อว่าคนที่จะให้ร่างบางโทรไปปรึกษานั่นคือใคร
ร่างบางมองด้วยหางตา “เดี๋ยวมา ไม่ต้องตามไม่หนีไปไหนหรอกเรื่องเงินยังไม่เคลียร์กันเลย” บอกกับทุกคนเสร็จก็เดินออกจากห้องไป ทัตซึยะซึ่งยืนรออยู่ด้านนอกกระโดดตัวลอยเมื่อเห็นเพื่อนร่างบางเดินออกมา
“หน้ามุ่ยเชียวที่หนึ่ง” เขาเอ่ยเย้า
“ทำอย่างกับฉันอยากได้นักนี่” ร่างบางบอก “แม่ล่ะ”
“กำลังไปคุยกับทางผู้บริหารให้นายอยู่นะ ว่าถ้าถอนตัวต้องจ่ายค่าเสียหายเท่าไหร่” ทัตซึยะบอกตามความเป็นจริง
ร่างบางถอนหายใจออกมาแรง ๆ นี่เขาทำให้ทุกคนต้องเดือดร้อนใช่ไหมเนี่ย ทัตซึยะมองเพื่อนร่างบางก็พอรู้เขาตบลงเบา ๆ ที่ไหล่เล็กนั่น ก่อนกดหมายเลขโทรศัพท์แล้วยื่นให้ร่างบาง
“คาซึยะ~~~” จินกรอกน้ำเสียงแฝงความห่วงใยมาให้
ร่างบางได้ยินเสียงคนรักก็น้ำตาคลอ”จิน~~~”
“ไม่ต้องร้องไห้” จินปลอบประโลม “ไม่อยากเป็นดาราก็ไม่ต้องเป็น”
“ฉันก็อยากทำอย่างนั้นแต่ว่าต้องจ่ายค่าเสียหายที่ฉันทำตามสัญญาของการประกวดไม่ได้นะสิ” ร่างบางตอบกลับ
“นั่นไม่ใช่ความรับผิดชอบของนายไม่ใช่เหรอ ผู้จัดการคนนั้นเขาปิดบังนาย” จินบอกกับคนรัก
“นั่นสิ ฟ้องกลับเลยดีไหมจะได้เรียกร้องค่าเสียหายคืนบ้าง” ร่างบางถามกลับ
“อย่าเลย ฉันว่าคุยกันดี ๆ กันดีกว่า นายอย่าใจร้อนนะ” จินเอ่ยเตือน “ขอโทษนะที่ช่วยอะไรนายไม่ได้เลย”
ร่างบางส่ายหน้าพัลวัน “ไม่ใช่สักหน่อย จินน่ะช่วยฉันได้มากเลย แค่ได้ยินเสียงจินฉันก็สบายใจแล้ว”
คนร่างหนาได้ยินคนรักบอกกับตนเขาก็ระบายยิ้มออกมา
“คาเมะจัง~~~” โทโมฮิสะเอ่ยเรียก
ร่างบางหันหน้าไปมอง “ยามะพี”
“ใครเหรอ???” จินเอ่ยถาม
“เพื่อนที่ประกวดด้วยกันไง” ร่างบางตอบ
โทโมฮิสะเดินมาหยุดตรงหน้าร่างบางแล้วโค้งตัวให้ “ขอร้องล่ะคาเมะจัง ทำงานด้วยกันปีหนึ่งเถอะนะ”
ร่างบางมองคนหน้าหวานตาโต “พูดอะไรของนาย”
“ฉันรู้ว่าคาเมะจังไม่ได้อยากเป็นดารา แต่ว่าฉันอยากทำงานร่วมกับคาเมะจังนะ” โทโมฮิสะบอกจากใจจริง “ขอร้องล่ะ แค่ปีเดียวเท่านั้น ปีเดียวก็ยังดี”
จินได้ยินเสียงของโทโมฮิสะอย่างชัดเจน เขารู้ดีว่าถ้ามีคนมาพูดแบบนี้ คนรักของเขาคงใจอ่อนแน่นอน “นายว่ายังไงล่ะ” เขาเอ่ยถาม
“ฉันไม่รู้ จินช่วยฉันตัดสินใจทีสิ” ร่างบางขอความช่วยเหลือ
“ถ้าถามฉัน ฉันก็ไม่อยากให้นายไปเป็นดาราอะไรนั่นหรอก แต่ว่านี่คือชีวิตอีกส่วนหนึ่งที่นายจะต้องตัดสินใจเอง ฉันรักนายนะและก็เคารพในการตัดสินใจของนายด้วย”
ร่างบางมองหน้าเพื่อนร่วมการประกวดที่ส่งสายตาวิงวอนมายังเขา “คริสต์มาสที่จะถึงถ้าฉันไม่ได้ไปหาจิน จินไม่โกรธฉันใช่ไหม”
“ไม่โกรธ” จินตอบคนรัก “เลือกแล้วใช่ไหม???”
“อืม...” ร่างบางตอบ “ปีหนึ่งแป๊บเดียวเองเน๊อะ ฉันทำงานเก็บเงินรอจินที่นี่นะ”
จินได้ยินคำบอกจากร่างบางเขาก็รู้สึกตื้อขึ้นมาเฉย ๆ ทำไมกันนะทั้ง ๆ ที่เป็นคนบอกให้ร่างบางได้เลือกเองแล้วแท้ ๆ “จ้า~~~รอฉันนะ” เอ่ยบอกคนรักเสียงเคลือ
“จินเป็นอะไร ทำไมเสียงสั่นจังล่ะ” ร่างบางเอ่ยถามคนรักด้วยความเป็นห่วง
จินส่ายหน้าไป-มา “ไม่มีอะไรหรอก แค่หนาวเท่านั้นเอง”
“ถ้าอย่างนั้นจินก็คิดถึงฉันนะ คิดไว้เสมอตลอดเวลาที่จินหนาวว่า...ฉันรักจิน” ร่างบางกระซิบเสียงแผ่วให้ได้ยินกันแค่สองคนกับปลายสายเท่านั้น “อุ่นขึ้นไหม???”
จินคลี่ยิ้มบาง ๆ “อืม...ความรักของนายทำให้ฉันอุ่นขึ้น ขอบคุณนะคาซึยะ”
“ถ้าอย่างนั้นแค่นี้ก่อนนะ ฉันใช้เครื่องของทัตจังโทรไปหานาย เกรงใจน่ะ” ร่างบางบอก
“จ้า~~~” จินตอบกลับน้ำเสียงสดใสก่อนตัดสายลง เขาคู้ตัวนั่งกับพื้นเงยหน้าขึ้นมองเพดานเพื่อไม่ให้น้ำตาที่คลอหน่วยมันไหลออกมา “อะไรกันเนี่ย ไม่เข้มแข็งเสียเลยนะอาคานิชิ จิน อีกแค่ปีเดียวเอง”
************************
เสียงปรบมือดังลั่นห้องแต่งตัวเมื่อร่างบางตัดสินใจทำตามสัญญาของการประกวดตลอดหนึ่งปี หลังจากเดินกลับเข้ามาพร้อมกับคนหน้าหวานและทัตซึยะรวมทั้งแม่ของเขาและแม่ของจิน ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เพราะว่าเขาต้องการมีชื่อเสียงอะไรอย่างนั้นหรอกแต่เป็นความต้องการที่จะหาเงินด้วยตนเองเพื่อรอคนรักกลับมาและเพื่อนใหม่หน้าหวานนั้นก็ขอร้องด้วย
“อย่าดีใจไปหน่อยเลย ผมยังไม่หายแค้นนะ” ร่างบางกอดอกบอก
ผู้จัดการส่วนตัวเดินมากอดคอร่างบาง “เอาน่า...ฉันอุตส่าห์ช่วยให้นายหาเงินใช้รอแฟนกลับมานะ”
“ตั้งปี ก็ได้คืนจากผมเกินคุ้มและ” ร่างบางตอบ
“เราต่างก็ได้ทั้งสองฝ่ายนั่นแหละ” ผู้จัดการกล่าวสรุปแล้วหันไปมองโทโมฮิสะ “ขอบใจมากนะ”
คนหน้าหวานส่ายหน้าให้ “นั่นเพราะการตัดใจของคาเมะจังต่างหากครับ”
“ถึงอย่างนั้นฉันก็จะให้รางวัลเธอด้วย” ผู้จัดการบอกกับโทโมฮิสะ
“รางวัลอะไรครับ” โทโมฮิสะเอ่ยถาม
“ทางบริษัทคุยกันไว้แล้วว่าจะให้นายไปถ่ายแบบที่อังกฤษ” ผู้จัดการบอกแล้วส่งยิ้มให้
“อังกฤษ!!!” ร่างบางร้องลั่น “ขอบคุณมาก พี่ชายน่ารักจริง ๆ” เอ่ยบอกแล้วสวมกอดผู้จัดการด้วยความดีใจ
ผู้จัดการหัวเราะร่วน “ฉันหมายถึงยามาชิตะคุงไม่ใช่นาย”
ร่างบางผละตัวออกทันที “อ้าว...แล้วผมละ”
“เข้าห้องอัดเสียงตั้งแต่พรุ่งนี้เลย ยังไงนายก็ไม่คิดจะต่อสัญญาอยู่แล้วนี่เพราะฉะนั้นก็ต้องใช้งานให้คุ้ม” ผู้จัดการกอดอกบอก
“ร้ายกาจที่สุด” ร่างบางต่อว่า
“เอาล่ะครับ แยกย้ายกันดีกว่า” ผู้จัดการเอ่ยตัดบทบอกกับทุกคน “ไปเปลี่ยนเสื้อผ้ากันได้แล้วพวกนาย” เขาบอกกับร่างบางและคนหน้าหวาน “เชิญผู้ปกครองรอข้างนอกนะครับ” เอ่ยบอกแล้วเดินนำทุกคนออกไป
ร่างบางยิ้มบาง ๆ ให้ทุกคนที่เดินออกจากห้องแต่งตัวไป ก่อนจะหันไปมองยูอิจิที่ยืนนิ่งอยู่มุมห้องด้วยสายตาอาฆาต เขาหยิบไดร์เป่าผมขึ้นมาเตรียมเขวี้ยงใส่ทันที “ตายซะเถอะ!!!”
ยูอิจิรีบทรุดตัวลงนั่งกับพื้นเพื่อหลบวิถียกมือกำบังของแข็งที่จะมาโดนตนเองแน่นอน
“พอเถอะคาเมะจัง” โทโมฮิสะเอ่ยห้ามพลางยื่นมือไปจับมือร่างบางเพื่อรั้งเอาไว้
ร่างบางหันหน้ากลับไปมองแล้วถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนพูดกับยูอิจิ “จะไปไหนก็ไป ตอนนี้ฉันไม่อยากเห็นหน้านาย”
“ขอโทษจริง ๆ นะคาเมะจัง” ยูอิจิเอ่ยอย่างรู้สึกผิด แล้วเดินออกจากห้องแต่งตัวไป
“ฉันจัดการให้สำเร็จแล้วไอ้จิน คาเมะจัง” ทัตซึยะตะโกนบอก
ร่างบางหัวเราะร่วนเพียงครู่เสียงหัวเราะของเขาก็เงียบลงเปลี่ยนจากความสะใจเป็นความฉงนแทน เมื่อคนหน้าหวานเพื่อนใหม่โอบกอดเขาจากด้านหลัง “เฮ้ย!!! ทำอะไร”
“ขอบคุณนะคาเมะจัง” โทโมฮิสะเอ่ยบอก
“ขอบคุณเรื่องอะไร” ร่างบางเอ่ยถามพยายามสะบัดตัวออก เขาไม่ชอบให้ใครมากอดแบบนี้นอกจากจิน
“ที่ยอมทำงานด้วยกันตั้งปี ฉันดีใจมากๆ เลย” โทโมฮิสะกล่าว
ร่างบางสะบัดตัวออกไม่ให้ดูน่าเกลียดมากนักแล้วหันกลับไปตบไหล่คนหน้าหวานแรง ๆ “เพื่อนกันนี่ อีกอย่างฉันทำเพื่อจิน”
โทโมฮิสะได้ฟังก็ยืนนิ่งชั่วครู่ก่อนคลี่ยิ้มให้ “นั่นสิเนอะ อิจฉาจัง ชักอยากเห็นหน้าจินแฟนของนายแล้วสิ”
ร่างบางกอดอกมองคนหน้าหวาน “ไม่ให้ดูหรอก จินของฉันน่ะหล่อมาก ถ้าเกิดนายชอบจินขึ้นมาล่ะ”
โทโมฮิสะหัวเราะร่วน “ไม่หรอก เราเป็นเพื่อนกันนี่”
“ใช่ เพื่อนกัน!!!” ร่างบางย้ำหนักแน่นก่อนเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อกลับบ้าน พรุ่งนี้เขาต้องเริ่มต้นชีวิตใหม่แล้ว คงจะมีอะไรวุ่นวายน่าดู
โทโมฮิสะมองแผ่นหลังร่างบางที่เดินจากไปแล้วเหยียดยิ้มขึ้นมา “จินอย่างนั้นเหรอ...หึ หึ หึ”
********************************
จบตอนที่9แล้วจ้า^o^ เป็นอย่างไรบ้างอย่าลืมเม้นท์บอกกันด้วยนะคะ ขอบคุณทุกคอมเม้นท์และเพื่อนๆทุกๆคนที่ติดตามอ่านนะคะ
ความคิดเห็น