ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    paparazzi

    ลำดับตอนที่ #8 : part 8

    • อัปเดตล่าสุด 23 มี.ค. 49


    paparazzi part 8
    ร่างบางนั่งพับเสื้อผ้าของคนรักอยู่บนเตียงด้วยสีหน้าเรียบเฉย พรุ่งนี้แล้วสินะที่จะต้องห่างกันจริง ๆ ทำไมวันเวลาแห่งความสุขช่างผ่านไปรวดเร็วเสียจริง รู้อยู่ว่าความห่างไกลครั้งนี้ไม่ใช่ว่าจะจากกันตลอดแต่ถ้าจะให้พูดได้อย่างเต็มปากว่าเขายอมรับได้มันก็ทำไม่ได้อยู่ดี
    คาซึยะจินเปิดประตูห้องนอนเข้ามาแล้วเอ่ยเรียกร่างบางที่ยังจัดกระเป๋าเดินทางให้เขาอยู่ เขาเดินมานั่งลงข้างคนรักแล้วยื่นของในมือให้
    อะไรร่างบางเอ่ยถาม
    รูปที่ถ่ายเมื่อวันก่อนไง ทัตซึยะส่งมาให้เพิ่งได้เมื่อกี้นี้เองจินตอบ
    ร่างบางยื่นมือไปรับซองที่ถูกเปิดออกแล้วอยู่ก่อนหน้า เขาหยิบภาพถ่ายสี่ใบซึ่งทัตซึยะเป็นคนถ่ายเมื่อตอนไปบ้านจินที่เซ็นไดแล้วจัดงานเลี้ยงส่งให้จิน ร่างบางยิ้มให้กับภาพความทรงจำแห่งความสนุกนั้นก่อนจะหุบยิ้มที่รูปใบสุดท้ายทำไมจะต้องมียูอิจิมาแจมด้วยเนี่ย ไม่อย่างนั้นรูปนี้ฉันก็ได้ถ่ายคู่กับจินสองคนแล้ว
    ไว้เราค่อยถ่ายคู่กันใหม่ก็ได้จินบอก
    แล้วจะเมื่อไหร่ล่ะ ปีหน้ารอจินกลับเหรอร่างบางถามเสียงเศร้า
    จินยื่นมือไปจับแก้มร่างบางทั้งสองข้างแล้วออกแรงดึงเบา ๆ หน้าย่นหมดแล้ว
    ช่างฉันร่างบางตอบแล้วจับมือคนรักทั้งสองข้างตอบ จิน~~~ พรุ่งนี้ตื่นแล้วไม่ต้องปลุกฉันนะ จินออกไปได้เลยฉันไม่อยากเห็นภาพตอนจินเดินออกจากห้องไปหนะ
    ก็ได้ตามใจนาย แล้วคนที่บ้านจะมารับกี่โมงจินถามกลับ
    ฉันให้มารับตอนสาย ๆ ร่างบางตอบ
    นายกลับไปอยู่ที่บ้านกับแม่ก็ดีเหมือนกันฉันจะได้สบายใจ ไม่อยากให้นายอยู่ที่นี่คนเดียวจินบอกตามที่รู้สึกแน่ใจเหรอว่าจะไม่คืนห้องให้สำนักงานบ้านเช่าน่ะ
    ร่างบางพยักหน้าหนักแน่นไม่คือให้หรอก ปีหน้าเราก็จะกลับมาอยู่ที่นี่เหมือนเดิม ฉันจะมาทำความสะอาดทุกอาทิตย์บ้านของเราจะได้ไม่โทรม....รักจินนะ
    ฉันก็รักนายคาซึยะจินตอบแล้วจุมพิตลงบนหน้าผากมนของร่างบาง
    ร่างบางพยายามกลั้นสะอื้นไม่อยากให้คนรักได้เห็นน้ำตาที่มันคลอหน่วยจินจะเอาอะไรไปอีกไหมฉันจะจัดเพิ่มให้เขาเปลี่ยนเรื่อง

    คนร่างหนาระบายยิ้ม เอานายใส่ไปด้วยได้หรือเปล่าละ
    ร่างบางยื่นมือไปบีบจมูกคนรักเบา ๆ บ้า!!! อันนั้นไม่ต้องบอกก็อยากจะทำใจจะขาดอยู่แล้ว
    จินคลี่ยิ้มอกมาฉันไม่อยู่ปีหนึ่งอย่าไปตามใครที่ไหนล่ะ
    ฉันไม่ได้โรคจิตขนาดนั้นนะ ถ้าฉันว่างขนาดนั้นเอาเวลามานั่งคิดถึงจินดีกว่าร่างบางบอกฉันว่าจะขอแม่ไปเรียนพวกคอร์สสั้นๆ อะไรก็ได้รอจินกลับ
    ก็ดีนะ นายจะได้ไม่เบื่อจินเห็นด้วย
    นั่นสิ ก็ปกติอยู่กับจินไม่เคยเบื่อเลยนี่มีอะไรให้ทำทั้งคืนเลยร่างบางบอกแล้วยิ้มยียวนให้
    จินหรี่ตามองร่างบางพูดอย่างนี้หมายความว่า.....ไหนว่าคืนนี้ไม่ยังไงล่ะ
    ไม่ก็ไม่ไง ฉันรู้ว่าจินต้องไปแต่เช้าร่างบางยืนยัน แต่ว่า....เขาเอ่ยค้างไว้ก่อนจะเลื่อนมือไปจับไหล่จินทั้งสองข้างแล้วออกแรงผลักร่างหนาให้นอนลงบนเตียงโดยที่เขานั่งคร่อมร่างนั้นไว้ทันทีจินอย่ามองใครที่ไหนอีกนะไม่ว่าจะผู้ชายหรือผู้หญิงจำไว้ว่าจินมีฉัน แล้วจินก็เป็นของฉันเท่านั้นสั่งเสร็จร่างบางก็ก้มตัวจุมพิตบนริมฝีปากคนรักอย่างนุ่นนวลก่อนจะค่อย ๆ เพิ่มความเร่าร้อนปลุกอารมณ์คนรักให้สั่นไหว เขาผละริมฝีปากนั้นออกมาแต่ก็ยังอ้อยอิ่งเย้ายวนให้คนรักอยากสัมผัสร่างกายเขาอีกครั้ง
    ไหนว่าไม่ยังไงล่ะจินถามร่างบาง
    ที่ว่าไม่น่ะหมายถึงคืนนี้ ไม่ได้รวมตอนเย็นสักหน่อยร่างบางบอกก่อนจะซุกหน้าลงซอกคอร่างหนาแล้วฝากร่องรอยเอาไว้ เขายังอยากประกาศให้ใครต่อใครได้รู้ว่าร่างหนาคนนี้คือของเขา มือเรียวซุกซนถอดเสื้อคนร่างหนาออกอย่างรวดเร็ว ลิ้นสากของเขาก็ไล้กายคนรักและไม่ลืมที่จะทิ้งร่องรอยเอาไว้ทุกระยะ คนร่างหนาปล่อยกายให้คนรักตักตวงความสุขจนอิ่มเอมก่อนที่เขาจะพลิกตัวให้จอมซนนั้นอยู่ใต้ร่างของตนแทน เขารู้ว่าร่างบางต้องการอะไรเพียงแค่มองตากันเท่านั้น ร่างบางหลับตาลงช้า ๆ เมื่อร่างหนาหยิบยื่นสิ่งที่เขาต้องการไม่รู้จักพอสักทีหากเป็นคนคนนี้ที่มอบให้ ปล่อยกายให้เคลื่อนไหวไปตามแรงของคนรักที่นำพา
    อืม~~~” ร่างบางร้องครางออกมาอย่างพึงใจยกแขนขึ้นโอบรอบคอคนรัก รักจิน~~~”
    ผมก็รักคุณ...คาซึยะ~~~~” ร่างหนาบอกรักตอบก่อนการเคลื่อนไหวครั้งสุดท้ายจะสิ้นสุด

    เขาค่อย ๆ ถอนกายออกช้า ๆ จุมพิตลงบนริมฝีปากบางของคนรักที่หลับใหลด้วยความเหนื่อยอ่อนอย่างแผ่วเบา หยิบผ้าห่มคุมกายให้คนรักก่อนเดินมาจัดกระเป๋าเสื้อผ้าของตนเองให้เสร็จ ร่างบางรื้อเข้ารื้อออกมาสองวันแล้วไม่เสร็จสักที เขาหยิบเสื้อที่ร่างบางพับค้างไว้มาใส่กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ซึ่งวางไว้บนพื้นห้อง เปิดกระเป๋าออกอย่างไม่รีบร้อนแต่สิ่งที่อยู่ข้างในนั้นทำให้เขาต้องตะลึง
    อยู่ที่อังกฤษแล้วเกิดอารมณ์ ห้าม!!!ช่วยตัวเองเพียงลำพังนะ โทรกลับมาหาฉัน ฉันจัดให้ ^O^v ” ร่างหนาอ่านข้อความที่ร่างบางเขียนใส่กระดาษเอสี่วางเอาไว้ในกระเป๋าหน้าของเขาก็แดงขึ้น ระบายยิ้มออกมาด้วยความเขินอายพลางส่ายหน้าไป-มาช้า ๆ แล้ววางกระดาษลงบนเสื้อหลังจากที่นำมันใส่กระเป๋าเรียบร้อย เขาวางกระเป๋าไว้ที่เดิมก่อนเดินกลับไปล้มตัวลงนอนท้าวหน้ามองคนรักที่หลับใหลด้วยความรักจริง ๆ เลยนายเนี่ยต่อว่าไปอย่างนั้นแหละ ค่าโทรศัพท์เดือน ๆ หนึ่งจะแพงกว่าค่าเทอมที่ไม่ต้องเสียแล้วมั๊งบ่นกับตัวเองก่อนหอมลงบนแก้มคนรักแล้วนอนมองใบหน้านั่นตลอดเพื่อตักตวงเอาไว้ยามไกลตาและจะไม่ได้เห็นหน้ากันตั้งหนึ่งปี
    ********************************
    ไทจิมองไปรอบ ๆ บริเวณก่อนหันกลับไปมองหน้าจินและทัตซึยะซึ่งมาส่งจินที่แอร์พอตเช่นเดียวกับเขาคาเมะจังไม่มาส่งจริง ๆ น่ะ
    ครับ เขาบอกว่าไม่อยากร้องไห้ให้เห็นจินบอกก่อนจะโค้งตัวให้อาจารย์ที่ปรึกษาสูงวัยซึ่งเพิ่งเดินทางมาถึงสวัสดีครับอาจารย์ เป็นความกรุณาอย่างสูงครับที่เดินทางมาส่ง
    อาจารย์สูงวัยยิ้มให้ลูกศิษย์ก่อนจะค้อมศีรษะให้เล็กน้อยกับไทจิและทัตซึยะที่ทักทายตนเช่นกันจะไม่ให้มาส่งได้ยังไง คนเก่งของมหาวิทยาลัย
    ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับเพราะความกรุณาของอาจารย์ต่างหากจินถ่อมตัว
    แล้วเพื่อน ๆ ที่มหาวิทยาลัยล่ะอาจารย์เอ่ยถามเมื่อไม่เห็นใครอื่นอีก
    กลับกันไปก่อนแล้วครับ พวกมันมีเรียนกันตอนเช้าโดดไม่ได้เสียด้วยจินแจ้งให้ทราบ
    อ่อนั่นสิลืมไปอาจารย์กล่าว
    ไอ้จินใกล้เวลาแล้วนะทัตซึยะเอ่ยเตือนเมื่อได้ยินเสียงประกาศของสนามบิน
    โชคดีนะจินไทจิอวยชัย
    ไปแล้วนะครับจินบอกก่อนโค้งตัวให้กับคนสูงวัยกว่าตนทั้งสองแล้วยืดตัวขึ้นมาตบไหล่ทัตซึยะไปแล้ว ฝากด้วยนะ
    ได้ทั้งครอบครัวนายและคาเมะจัง ส่วนไอ้บ้านั่นไม่รับฝากทัตซึยะกอดอกบอก

    จินหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะหันหลังเดินจากผู้มาส่งทั้งสามคนไปยังทางเข้าเกทเพื่อขึ้นเครื่องบินมุ่งหน้าไปศึกษาต่อยังอังกฤษ บุคคลทั้งสามมองส่งเพียงชั่วครู่เสียงอึกทึกก็ดังขึ้นด้านหลังเรียกให้พวกเขาหันกลับไปมอง !!!!ทั่ก ทั่ก ทั่ก!!!!! เสียงฝีเท้าที่วิ่งด้วยความเร็วบนพื้นขัดมันของสนามบิน ร่างบางนั้นไทจิและทัตซึยะรู้จักดี
    จิน~~~~~” ร่างบางตะโกนเรียกคนที่อยู่ห่างไปไกลและใกล้จะเดินเข้าไปในเกทแล้ว จิน~~~~” ตะโกนเรียกอีกครั้งแต่คนที่อยากให้หันกลับมาก็ไม่ได้ยิน ร่างบางวิ่งผ่านบุคคลทั้งสามไปโดยไม่ได้สนใจมองสายตาของเขามีแต่แผ่นหลังของคนรักเท่านั้นจิน~~~~” ร่างบางเรียกอีกเร่งฝีเท้าของตนให้เร็วยิ่งขึ้นเพราะคนข้างหน้าห่างกันอีกไม่ไกลจะเดินเข้าประตูไปแล้วจิน!!!!!!!ตะโกนสุดเสียงก่อนถอดรองเท้าข้างหนึ่งแล้วหยิบมันเขวี้ยงไปสุดแรงเกิด
    !!!!!ปั่ก!!!!! รองเท้าผ้าใบลายลูกเบสบอลปะทะแผ่นหลังคนร่างหนาก่อนที่มันจะร่วงลงสู่พื้น
    โอ๊ย!!!จินร้องขึ้นมาพลางเอามือลูบหลังตัวเอง อะไรบางอย่างที่กระทบแผ่นหลังอย่างแรงเรียกให้เขาหันกลับ รองเท้าข้างหนึ่งที่คุ้นตากองอยู่บนพื้นยังไม่ทันที่เขาจะได้เงยหน้าขึ้นไปมองอะไรแรงที่โถมมาสู่ตัวก็ทำเอาร่างของเขาเซ
    จิน~~~~” ร่างบางวิ่งมากอดคนรักแล้วซบหน้าลงแผ่นอกปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอย่างสุดจะยั้ง
    จินลูบผมร่างบางเบา ๆ ก่อนหอมลงบนเส้นผมนุ่มนั้น ไหนว่าจะไม่ร้องไห้ยังไงล่ะ
    ก็มันทำไม่ได้นี่หน่าร่างบางตอบ
    จินเชยคางร่างบางขึ้นแล้วจูบซับน้ำตาให้ขอบคุณนะที่เสียน้ำตาให้กับคนอย่างฉัน
    ทำไมพูดเหมือนดูถูกตัวเองแบบนั้นล่ะ จินมีค่ามากต่างหากฉันถึงเสียน้ำตาให้ร่างบางบอกก่อนเขย่งปลายเท้าแล้วหอมลงบนแก้มคนรัก แค่นี้พอ ถ้าอยากได้มากกว่านี้ก็รีบ ๆ กลับมานะ
    จินคลี่ยิ้มให้ จ้า~~~ ฉันไปแล้วนะ
    เดี๋ยวก่อนร่างบางยื้อไว้แล้วดึงเสื้อคนรักมาเช็ดคราบน้ำตาของตนเอาไปให้หมดฉันร้องให้จินคนเดียว
    ขอบคุณจินตอบแล้วก้มตัวหยิบรองเท้าคนรักจะสวมกลับให้แต่ร่างบางชักเท้ากลับจนเขาเองสงสัย
    ให้มันอยู่เป็นคู่กันตอนจินกลับมา ฉันจะรอร่างบางบอกแล้วก้มลงไปหยิบรองเท้าจากมือจินก่อนจะเปิดกระเป๋าเป้ของจินแล้วใส่รองเท้าของตนเองลงไปจะได้นึกถึงว่ามันมีคู่ของมันรออยู่

    จินสวมกอดร่างบางไว้อีกครั้งก่อนจะผละตัวออก ไปแล้วนะ ดูแลตัวเองดี ๆ
    อืม~~~” ร่างบางพยักหน้าตอบหนักแน่น ยื่นมือไปหมุนตัวให้คนรักหันหลังกลับไปแล้วออกแรงดันหลังเบา ๆไปได้แล้วเดี๋ยวตกเครื่อง
    จินก้าวเท้าเดินไปตามแรงนั้นโดยไม่ได้หันกลับมามองอีกซึ่งเป็นสิ่งดีที่สุดหากเขาหันกลับมาคงไม่ได้ไปสานฝันของตนเองแน่ ๆ ร่างบางมองส่งร่างคนรักจนลับตา
    ฝ่ามือของทัตซึยะวางบนไหล่ของเขาเพื่อปลอบใจเดี๋ยวมันก็กลับมาปีหนึ่งแป๊บเดียวเอง
    อืมร่างบางรับรู้
    กลับกันเถอะทัตซึยะเอ่ยชวน ว่าแต่นายจะกลับยังไงเหลือรองเท้าแค่ข้างเดียว
    ไม่เห็นจะเป็นไรเลยร่างบางบอกแล้วถอดรองเท้าอีกข้างออกถือ ไปกันเถอะทัตจัง ฉันจะให้คนขับรถไปส่งที่บ้าน
    ทัตซึยะพยักหน้าให้ก่อนกอดคอคนร่างบางที่เดินเท้าเปล่าโดยไม่สนใจสายตาใครต่อใครเลย
    *******************************
    ผู้จัดการส่วนตัวของยูอิจิเดินขุ่นคิ้วเข้ามาในห้องพักส่วนตัวภายในบริษัทซึ่งจัดไว้ให้กับยูอิจิ เขาวางแฟ้มเอกสารในมือลงแล้วถอนหายใจช้า ๆ อย่างเหนื่อยอ่อน
    ยูอิจิซึ่งนั่งแต่งเพลงอยู่ก่อนหน้าต้องละสายตามามองทันที มีอะไรหรือเปล่าครับ ดูเครียด ๆ จังเลย
    ผู้จัดการส่วนตัวไม่ได้ตอบอะไรเขาหยิบแฟ้มเอกสารส่งให้แทน ยูอิจิรับมาเปิดดูก็รู้ได้ทันทีว่าข้างในคือเอกสารใบสมัครผู้เข้าประกวดเป็นไอดอลรุ่นใหม่ต่อจากเขาขนาดเพิ่งจะเปิดรับวันแรกยังมีคนสมัครเยอะขนาดนี้เลยเหรอครับ
    มีแต่ปริมาณนะสิผู้จัดการบอก บางคนที่มาสมัครบ้านมันไม่มีกระจกหรือไง แต่ก็ยอมรับล่ะว่าใจถึง
    ฮ่า ๆ ๆยูอิจิหัวเราะร่วน พูดเกินไปแล้วมั๊งครับ ผมว่าคนนี้ก็หน้าตาใช้ได้นะ
    ผู้จัดการส่วนตัวลุกขึ้นมาดูรูปถ่ายของบุคคลซึ่งยูอิจิกล่าวถึงที่แนบไว้กับใบสมัครไม่ไหว หน้าตาดีแต่ไม่มีสัมมาคาราวะ
    เพิ่งจะวันแรกเองนี่ครับ กว่าจะปิดรับสมัครตั้งสองอาทิตย์ยังไงก็คงมีคนที่ใช่มาสมัครเข้าสักวันหละครับยูอิจิเอ่ยให้ความหวัง
    กลัวว่าไอ้ค่ายคู่แข่งมันจะคว้าไปก่อนนะสิผู้จัดการส่วนตัวกล่าว พอเราจัดโครงการโปรโมทไปเป็นเดือน ใกล้วันรับสมัครมันก็ทำบ้าง แย่งคนกันชัด ๆ
    ยังไงศักยภาพของบริษัทเราก็ดีกว่านะครับยูอิจิกล่าว
    นั่นก็เพราะได้นายเป็นแม่เหล็กยังไงล่ะ ถ้าเกิดค่ายนั้นมันได้เด็กมีแววไปรับรองงานนายได้หนักกว่าเดิมแน่ผู้จัดการส่วนตัวบอก

    ยูอิจิยิ้มแห้ง ๆ ให้ ถ้าอย่างนั้นคงไม่ได้การแล้วล่ะครับ
    ผู้จัดการเหยียดยิ้มให้ ใช่ไหมล่ะ เพราะฉะนั้นลุกขึ้นเดี๋ยวนี้
    จะไปไหนครับ ไหนว่าวันนี้หมดงานแล้วไงยูอิจิถาม
    ไปแสดงความน่าเชื่อถือของโครงการเราไงผู้จัดการส่วนตัวตอบแล้วลากคอยูอิจิออกไปจากห้องพักผ่อนส่วนตัวทันที
    ************************************
    โอ้โห~~~~” ไทจิเอ่ยร้องดวงตาเบิกโตเมื่อมองไปยังกล่องอาหารตรงหน้าที่ร่างบางนำมาให้ทำเองจริงเหรอไม่อยากจะเชื่อ
    ร่างบางกอดอกเชิดหน้าขึ้นอย่างภาคภูมิใจ ชัวร์ คนเขาตั้งใจไปเรียนมาก็ต้องทำให้ได้สิ
    แล้วมาให้ฉันกินก่อนเนี่ยนะ น่าเสียดายแทนจินจริง ๆ ไทจิบอกแล้วหยิบตะเกียบขึ้นคีบอาหารในกล่องเข้าปากอร่อย!!!!
    ร่างบางระบายยิ้มออกมา คนอย่างคาเมะนาชิ คาซึยะ ถ้าตั้งใจทำอะไรแล้วต้องทำให้ได้แล้วก็ต้องดีที่สุดด้วย
    กว่าจินจะได้กลับมากินฝีมือคาเมะจังก็ตั้งปีหน้า ฉันคงได้ลาภปากจนเปรมเลยไทจิกล่าว
    ใครบอกไทจิซัง จินนะเขาได้กินก่อนไทจิซังตั้งนานแล้วและอีกอย่างแค่10เดือนกับสามวันต่างหากไม่ใช่ปีหนึ่งร่างบางตอบกลับ
    นั่นสิเร็วจัง แป๊บ ๆ จินก็ไปได้จะสองเดือนแล้วเหรอเนี่ยไทจิเปรยขึ้นแล้วมองออกไปนอกร้าน จะสิ้นปีแล้วไวจัง อากาศเย็น ๆ แบบนี้ถ้ามีแฟนอยู่ใกล้ ๆ ก็คงดี
    ร่างบางหันไปมองนอกร้านเช่นกัน บรรยากาศของปลายฤดูใบไม้ร่วงสร้างความเหงาใจให้กับใครหลาย ๆ คนได้อย่างไม่มีเหตุผลและเขาเองก็เป็นหนึ่งในนั้น นั่นสิฮะ~~~”
    ไทจิได้ยินน้ำเสียงของร่างบางเขาก็พอรู้ว่าตนเองเป็นคนทำให้คนคนนี้หวนคิดถึงคนรักที่ห่างกันอีกแล้ว
    !!!!!ตื๊ด ตื๊ด!!!!! โทรศัพท์มือถือของร่างบางดังขึ้น คนที่ทำหน้าเศร้าเมื่อสักครู่ล้วงมือไปหยิบ ที่หน้าจอไม่มีหลายเลขขึ้นโชว์แต่กลับเรียกรอยยิ้มให้ดวงหน้านั้นได้
    จิน~~~” ร่างบางกรอกเสียงไปตามสาย
    ได้ของแล้วนะจินตอบกลับมา ขอบคุณมาก ของอาทิตย์ก่อนส่งมายังไม่หมดเลย
    ทำให้จินแค่นี้ยังน้อยไปร่างบางตอบก่อนจะหันไปโค้งตัวให้ไทจิแล้วเดินคุยโทรศัพท์ออกจากร้านไป
    ส่งด่วนพิเศษแบบนี้มาไม่เปลืองแย่เหรอจินเอ่ยถามเพราะเขาเห็นแพคเกตที่แช่แข็งอาหารรวมทั้งการส่งด้วยระบบขนส่งเอกชนที่ร่างบางจัดส่งมาให้ตลอดสามอาทิตย์ตั้งแต่ไปเรียนทำอาหาร ก็อดห่วงในค่าใช้จ่ายไม่ได้

    ไม่เป็นไรหรอก แม่จ่ายให้นะร่างบางบอกตามความเป็นจริง
    อย่างนั้นก็เถอะ เกรงใจแม่จินตอบ
    ก็ฉันกลัวว่าจินจะอดนี่ ไปอยู่นั่นกินแต่ขนมปังไม่เอียนตายหรือไงร่างบางตอบกลับ
    จ้า~~~ อาหารฝีมือนายอร่อยที่สุดเลยจินบอกจากใจจริง
    ร่างบางยิ้มกว้างออกมาเมื่อได้ยินคุ้มค่ากับความพยายามของเขาจริง ๆอร่อยแต่อาหารหรือไง แล้วตัวฉันละอร่อยไหม
    ปลายสายได้ฟังก็หน้าแดงขึ้นมา ร่างบางชอบแกล้งเย้าเขาผ่านทางโทรศัพท์อยู่เรื่อย คนชอบแกล้งหัวเราะร่วนออกมาถ้าตอบตอนนี้ไม่ได้ก็รีบ ๆ กลับมาชิมใหม่เร็ว ๆล่ะ
    คาซึยะ~~~ นายนี่ชอบยั่วอยู่เลยเลยจินต่อว่าแต่ไม่ได้โกรธจริง ๆ
    พูดจริง ๆ นี่หน่า ห่างกับจินมาเกือบสองเดือน รสชาติของฉันอาจเปลี่ยนไปก็ได้ใครจะรู้ร่างบางเอ่ยยั่ว
    จินได้ฟังก็หวั่นใจ คนรักจะแกล้งเขาให้ป่วนเล่นยังไงอีกเนี่ยหมายความว่ายังไงเนี่ย
    อ๊ะ!!!ร่างบางอุทาน ล่ำจังเขาเปรยขึ้นแค่นี้จะจินเปลืองค่าโทรศัพท์ของนายเขาตัดสายทันที
    จินยืนอึ้ง คาซึยะ~~~~” ร้องลั่นห้อง ร่างบางแกล้งเขาอย่างนั้นเหรอ แรงไปแล้วนะคราวนี้
    เฮ้!!! จิน ลดเสียงหน่อยเพื่อนชาวต่างชาติร่วมห้องพักเอ่ยบอกเป็นภาษาอังกฤษ
    ขอโทษทีจินตอบกลับเป็นภาษาสากลเช่นกัน เควิล วิชาที่นายบอกว่าลงเพิ่มได้แต่ต้องเรียนวันเสาร์-อาทิตย์ด้วยยังไม่ปิดรับใช่ไหม
    ใช่ ปิดอาทิตย์หน้านั่นเควิลตอบกลับ สนใจใช่ไหมเขาถามแล้วเดินมาหายื่นใบสมัครส่งให้ กะแล้วว่านายต้องอยากรีบกลับไปญี่ปุ่นแน่ ๆ ห่วงแฟนล่ะสิ
    จินยิ้มบางให้ก่อนยื่นมือไปรับใบสมัคร นี่ถ้าไม่ติดว่าเขาจะต้องเรียนภาษาทุกวันตอนเช้าให้ครบสามเดือนตามข้อกำหนด เขาจะลงเพิ่มวิชามากกว่านี้แน่ ๆ จะได้รีบจบและกลับไปหาคนรัก ไม่รู้ล่ะว่าเมื่อครู่นี้ร่างบางทำจริงหรือแกล้งเล่น แต่ตอนนี้ใจเขามันไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว ก็คนมันทั้งห่วง หวง และหึง จนลมออกหูหมดแล้ว
    ********************************
    ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆร่างบางยืนหัวเราะร่วนที่แกล้งยั่วคนรักสำเร็จ เขาเดินไปตามทางเพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟเพื่อกลับบ้าน
    คาเมะจัง!!!!!เสียงเรียกจากด้านหลังแม้จะไม่ได้ยินมาพักใหญ่แต่ยังคุ้นหูอยู่ดี
    ริเอะจังร่างบางหันกลับไปทักทายตอบ จะไปไหนเนี่ยแต่งตัวซะเลิศเชียว

    ริเอะยิ้มหวานเมื่อถูกเพื่อนคนตรงหน้าเอ่ยชม ว่างหรือเปล่า
    กำลังจะกลับบ้านร่างบางตอบ
    เหรอ ดีเลยไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยริเอะไม่ได้ฟังคำบอกของร่างบางเลยหรือไงนะ เธอลากแขนเพื่อนหนุ่มร่างบางให้เดินตามไปทันที
    เฮ้ย~~~บอกว่าจะกลับบ้านร่างบางบอกย้ำอีกครั้งแต่ก็ถูกลากไปจนได้อยู่ดี
    เพื่อนสาวของเขาพามาหยุดยืนหน้าตึกบริษัทต้นสังกัดของยูอิจิ ร่างบางรีบสะบัดมือแล้วหันหลังกลับทันที
    เดี๋ยวสิคาเมะจัง~~~” ริเอะเรียกรั้ง
    จะมาทำไม ฉันเลิกชอบยูอิจิแล้วเคยบอกไม่ใช่เหรอร่างบางบอกย้ำ
    รู้แล้ว ไม่ได้ชวนมาตามยูอิจิหรอกน่าริเอะตอบกลับ
    แล้วถ้าอย่างนั้นมาทำไมร่างบางถาม
    ริเอะหยิบแผ่นกระดาษในกระเป๋าถือออกมาคลี่ให้เพื่อนหนุ่มของตนดู ร่างบางยื่นหน้าไปมองคร่าว ๆ กระดาษแผ่นนั้นคือใบปิดเชิญชวนให้คนมาประกวดในโครงการของบริษัทต้นสังกัดของยูอิจิ
    เขารับแต่ผู้ชายไม่ใช่เหรอร่างบางเอ่ยถาม
    ใช่ไงริเอะบอกแล้วมองเพื่อนตัวเองนิ่ง
    ร่างบางรีบเดินหนี ริเอะเดินตามแล้วคว้ามือไว้น่าสนใจออก ฉันอยากมีเพื่อนเป็นดารา
    แต่ฉันไม่อยากเว้ย!!!!ร่างบางปฏิเสธทันที
    คาเมะจังก็ ไม่เสียหายนี่ลองดู อีกอย่างคาเมะจังหน้าตาดีจะตายยังไงก็ได้อยู่แล้วริเอะบอก
    ฟังนะ ฉันรู้ตัวว่าหน้าตาดีแต่ไม่ได้อยากเป็นดาราบ้าบออะไรนั่นร่างบางบอกเสียงดังลั่นจนผู้คนแถวนั้นหันมามองเป็นสายตาเดียวกัน
    ร่างบางกวาดตามองตอบอย่างไม่สะทกสะท้านจนผู้คนเลิกให้ความสนใจกันไปเองฉันกลับล่ะ
    คาเมะจัง~~~ เปลี่ยนใจยังทันนะ ในนั้นผู้ชายเยอะเลยริเอะบอก
    ไม่สนเว้ย ต่อให้หล่อทั้งตึกนั่นก็สู้จินของฉันคนเดียวไม่ได้หรอกร่างบางตอบกลับ

    จิน?????” ริเอะย้อนถาม เล่ามาเดี๋ยวนี้นะ มีแฟนเป็นตัวเป็นตนตั้งแต่เมื่อไหร่
    ร่างบางยิ้มยียวนให้ ไม่บอกเธอหรอกบอกเสร็จก็หันหลังกลับอย่างไม่สนใจ
    !!!!!พลั่ก!!!!! ร่างบางปะทะกับคนที่เดินสวนมาอย่างจัง ขอโทษครับ
    ไม่เป็นไรครับ ผมเองก็ไม่ระวังชายหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันเอ่ยบอกก่อนส่งยิ้มให้แล้วเดินจากไป
    กรี๊ด~~~ ใครน่ะคาเมะจัง น่ารักมาก~~~~” ริเอะรีบเดินมาถามเพื่อน
    จะไปรู้เหรอ เดินไปถามเขาสิยังไปไม่ไกลร่างบางตอบแล้วเดินต่อ เขาชักเท้าขึ้นทันทีเมื่อเหยียบลงบนกระดาษที่หล่นอยู่บนพื้นตรงหน้า ก้มตัวลงไปหยิบกระดาษที่คว่ำให้หงายหน้าขึ้นมา ภาพที่ใช้คลิปหนีบอยู่บนมุมขวานั่นคือคนเดียวกับคนที่เพิ่งจะเดินชนกับเขาเมื่อครู่นี้เอง ร่างบางใช้สายตาไล้ไปดูชื่อที่เขียนไว้ในแผ่นกระดาษแล้วรีบหันกลับไปตะโกนเรียนคนที่ทำของสำคัญหล่นอย่างไม่รู้ตัวยามาชิตะ โทโมฮะสะคุง~~~~”
    เจ้าของชื่อหันหน้ากลับมาแล้วมองร่างบางตาโต ครับ
    ร่างบางยิ้มให้ก่อนเดินไปหาแล้วยื่นกระดาษในมือส่งให้ ของสำคัญอย่างนี้รักษาดี ๆ หน่อยสิ
    คนหน้าหวานมองไปยังแผ่นกระดาษแล้วค้อมศีรษะให้ร่างบางทันทีขอบคุณครับ
    ขอให้ได้นะ ยามาชิตะ โทโมฮิสะคุงร่างบางอวยพร
    ขอบคุณโทโมฮิสะยิ้มให้อย่างเป็นมิตร คุณก็เหมือนกัน ขอให้โชคดีนะ
    ร่างบางยิ้มแห้ง ๆ ให้ ผมไม่ได้ประกวดอะไรนั่นเสียหน่อย
    อย่างนั้นหรอกเหรอ เห็นเดินมาจากทางนั้นนึกว่าไปสมัครมาเหมือนกันโทโมฮิสะกล่าว น่าเสียดายจัง
    ร่างบางไม่ได้ตอบอะไรยิ้มบาง ๆ ให้แล้วเดินกลับไป โทโมฮิสะมองส่งก่อนเหยียดยิ้มขึ้น โชคดีจังที่ไม่มีคู่แข่งน่ากลัวแบบนี้เอ่ยจบก็หันหลังเดินต่อโดยมีริเอะที่ขอแยกตัวจากร่างบางเดินตามไปห่าง ๆ
    **********************
    ร่างบางกลับมาถึงบ้านก็เปิดประตูเข้าห้องนอนตนเองแล้วล้มตัวลงบนเตียง นอนแผ่หลาอย่างหมดสภาพอยู่เพียงครู่บานประตูห้องส่วนตัวของเขาก็มีคนเคาะ
    ใคร???” ร่างบางเอ่ยถาม
    แม่เองมารดาตอบ
    ร่างบางลุกขึ้นจากเตียงเดินไปเปิดประตูให้มารดา มีอะไรเหรอฮะแม่
    ทำไมวันนี้กลับช้าจังล่ะมารดาเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าร่างบางกลับบ้านผิดเวลากว่าทุกทีถึงแม้จะไม่มากนักก็ตาม

    พอดีเจอเพื่อนนะฮะ เลยโดนลากไปร่างบางตอบพลางมองเลยไปยังสาวใช้สองคนที่ช่วยกันขนพัสดุกล่องใหญ่มาวางไว้ด้านข้างของมารดาตนอะไรนะฮะ
    มารดาหันไปมองก่อนจะคลี่ยิ้มให้ลูกชายจากบริษัทกระดาษอะไรสักอย่างนี่แหละจ๊ะ
    บริษัทกระดาษ???” ร่างบางเอ่ยพลางเอียงคอมองกล่องอย่างสงสัยก่อนย่อตัวลงเพื่อเปิดกล่องพัสดุที่จ่าหน้าถึงตนเอง กระดาษที่ถูกม้วนซ้อนกันหลายแผ่นจนหนาอีกทั้งที่ถูกพับวางเป็นระเบียบอยู่ในนั้นเร่งให้ร่างบางหยิบมันขึ้นแล้วเปิดออกดูปฏิทินเขาเอ่ยเมื่อหยิบปฏิทินตั้งโต๊ะขึ้นมาดู อ่านรายชื่อบริษัทที่พิมพ์อยู่บนกระดาษแผ่นแรกอย่างละเอียดอีกครั้งบริษัทกระดาษที่จินถ่ายภาพได้รางวัลนี่หน่า
    อย่างนั้นเหรอจ๊ะ จินเก่งจังเลยนะมารดาเอ่ยชื่นชมคนรักของลูกชาย
    เห็นไหมผมเลือกคนไม่ผิดร่างบางหันมายิ้มให้มารดาก่อนจะเปิดปฏิทินออกดู
    ภาพกล่องจำนวนมากมายปรากฏอยู่บนหน้าถัดไปซึ่งใต้ภาพเขียนข้อความไว้ว่า มากมายเขาเปิดหน้าที่สามดูภาพกล่องนั่นเหลือเพียงใบเดียวใต้ภาพถูกเขียนไว้ว่าหนึ่งเดียวภาพต่อไปที่ปรากฏคือกล่องใบเดิมแต่ในนั้นมีหมอนสองใบวางเอาไว้กับข้อความใต้ภาพที่บรรยายไว้ว่าความสุขร่างบางเปิดกระดาษดูภาพประกอบหน้าสุดท้ายภาพกล่องใส่สายรัดข้อมือของเขาที่จินยืมมาถ่ายรูป บนนั้นมีแหวนของจินและเป็นแบบเดียวกับที่เขาใส่ซึ่งจินพาไปหาซื้อจนได้แบบเดียวกันในวันหลังจากนั้น กับคำนิยามใต้ภาพที่เขียนไว้ว่า คือเธอร่างบางกลั้นน้ำตาที่ไม่ได้ปล่อยให้ไหลออกมาหลายเดือนไว้ไม่อยู่มันค่อย ๆ พร่างพรูลงมาอาบแก้มของเขา
    คาซึยะมารดาย่อตัวลงมากอดลูกชาย
    แม่~~~” ร่างบางเอ่ยเรียกก่อนสวมกอดมารดา ผมคิดถึงจิน
    แม่รู้มารดาตอบ
    ขอเงินนะแม่ ผมจะไปหาจินร่างบางเอ่ยขอเสียงเครือ
    ไม่ได้!!!แม่ยื่นคำขาด จินเขาไปเรียนลูกอย่าลืมสิ
    ก็รู้ ผมไม่ได้จะไปอยู่กับจินสักหน่อย แค่ไปหาไม่ได้เหรอร่างบางตอบกลับ
    ไม่ได้ก็คือไม่ได้แม่ยืนยัน
    แม่นะ ไม่เข้าใจเลยร่างบางตัดพ้อก่อนผละตัวออกแล้วลากกล่องพัสดุเข้าห้องปิดประตูเงียบ
    มารดาส่ายหน้าช้า ๆ ถ้าปล่อยให้ไปแล้วลูกจะอยากกลับมาหรือไง

    ร่างบางเปิดปฏิทินดูอีกครั้งอย่างชื่นชมหากเป็นคนอื่นคงไม่เข้าใจกับความหมายประกอบใต้ภาพนั้นหรอก แต่เขาน่ะรู้จักจินดีเขารู้ว่าที่จินเขียนกำกับเอาไว้มันมีความหมายที่เขาสองคนรู้กันเท่านั้น
    !!!!!ตื๊ด ตื๊ด!!!!! โทรศัพท์มือถือของร่างบางดังขึ้นอีกครั้ง หมายเลขที่หน้าจอก็ไม่ขึ้นโชว์แต่เขาก็กดรับสายเพราะรู้ว่าปลายทางที่โทรมาคือใคร
    รักจิน~~~” ร่างบางบอกกับคนที่ไม่ทันตั้งตัว
    ห๊ะ!!!จินอุทาน
    ก็บอกว่ารักจินไง รักจิน ๆ ๆ ๆ ได้ยินชัดไหมร่างบางตะโกนลั่น
    ได้ยินไปถึงสก๊อตแลนด์แล้วมั๊งเสียงนายนะจินตอบกลับกลั้วหัวเราะเป็นอะไรเมื่อครู่ยังแกล้งฉันอยู่เลย
    จินให้คนที่บริษัทนั้นส่งมาที่บ้านฉันเหรอ ปฏิทินหนะฉันเห็นแล้วร่างบางบอก
    ปลายสายที่ได้ยินอึ้งไปชั่วขณะ หะ...เห็นแล้วอย่างนั้นสิ สิ่งที่ฉันอยากจะบอก
    เห็นแล้วและก็อยากได้คำยืนยันจากปากจินอีกร่างบางเอ่ยเสียงอ้อน
    จินคลี่ยิ้มออกมาตาเป็นประกายฉายแววแห่งความสุขผู้คนมากมายแต่หนึ่งเดียวที่ทำให้ฉันได้รู้จักกับความสุขคือนาย...คาซึยะเขาบอกกับคนรักจบหน้าตนเองก็แดงขึ้นมา ว้า~~~เขินจังแฮะ
    ฮือ~~~~” ร่างบางข่มความตื้นตันไม่อยู่ มันทลายกำแพงที่พยายามสร้างขึ้นมาให้ตนเองดูเข้มแข็งต่อหน้าใคร ๆ จนสิ้น
    คาซึยะ~~~” จินเรียกชื่อคนรักด้วยความเป็นห่วง อย่าร้องไห้สิคนเก่ง ไหนว่าจะไม่ร้องแล้วไง
    ก็จินนะ ทำแบบนี้ฉันก็ยิ่งคิดถึงจินนะสิร่างบางกล่าวกลับ
    อีก10เดือนก็ได้เจอกันแล้วจินปลอบ
    “10เดือนกับอีก3วันต่างหากร่างบางบอก รักจินนะ
    ปลายสายระบายยิ้มกว้างออกมา รู้แล้วครับ รักนายเหมือนกัน
    ฉันอยากเจอจินร่างบางบอกตามความรู้สึก
    จินนิ่งไปชั่วครู่ อดทนหน่อยนะคาซึยะ
    ร่างบางเงียบไม่ตอบอะไร
    คาซึยะจินเอ่ยเรียก
    จินจูบฉันทีสิร่างบางเอ่ยขอ
    ห๋า!!!!จินเอ่ยร้องเสียงลั่นดีที่ตอนนี้เพื่อนร่วมห้องของเขาไม่อยู่ แต่ก็ไม่วายมองซ้ายที-ขวาทีก่อนจะจุมพิตลงบนหูโทรศัพท์ตามที่คนรักขอ จุ๊บ~~~”
    ฮ่า ๆ ร่างบางหัวเราะออกมา เดี๋ยวคนก็หาว่าจินบ้าหรอก
    คนร่างหนาหน้าแดงขึ้นมาเขาโดนคนรักแกล้งอีกแล้วเหรอ นายนี่!!!!
    จุ๊บ~~~” ร่างบางจูบลงบนหูโทรศัพท์ตอบแล้วตัดสายลงทันที
    ปลายสายยืนอึ้งก่อนจะคลี่ยิ้มกว้างออกมาแล้วเดินไปหยิบกล้องคู่ใจเดินออกนอกห้องพักตนเองไปทันที
    ******************************

    โอ้โห!!!! พูดจาแบบนี้ไปปล้นธนาคารกันเลยดีกว่าทัตซึยะซึ่งกำลังนั่งเพ้นท์รองเท้าไปด้วยคุยโทรศัพท์ไปด้วยกล่าวกลับปลายสาย
    ถ้าทำแล้วไม่ติดคุกก็ว่าจะทำร่างบางตอบกลับ
    ซื้อลอตเตอรี่ตอนสิ้นปีสิเผื่อจะถูกแล้วได้บินไปหามันได้ทัตซึยะแนะนำ
    ถ้ามันถูกง่าย ๆ แบบนั้นก็รวยกันทั่วโลกไปแล้วมั๊งร่างบางตอบ
    งั้นรูปยูอิจิที่นายเคยซื้อไว้ก็ขาย ๆ ไปสิ เลิกชอบแล้วไม่ใช่เหรอไอ้ห้อยนั่นนะทัตซึยะบอก
    รูปยูอิจิแต่จินเป็นคนถ่ายขายไม่ได้หรอกร่างบางตอบกลับ
    แล้วจะทำยังไงล่ะ ฉันก็ไม่ได้รวยขนาดจะให้นายยืมเงินเป็นแสน ๆ ได้สบาย ๆ ทัตซึยะกล่าว เออ!!! ไอ้ยูอิจิไงเขาแนะนำ
    โทรไปแล้วติดต่อไม่ได้ร่างบางตอบ
    มันคงงานยุ่ง ช่วงนี้ต้องไปเชิญชวนให้คนมาประกวดอะไรที่บริษัทมันนั่นแหละทัตซึยะบอก
    อ่อ ประกวดไอดอลร่างบางตอบ ถ้าเจอยูอิจิบางทีอาจยืมเงินได้
    ไปยืมมันทำไม ขอมันใช้ฟรี ๆ ไปเลยสิ ยังไงนายกับมันก็ดองกันอยู่ดีทัตซึยะเอ่ยแนะ
    เออ นั่นสิร่างบางเห็นด้วย แต่ฉันไม่รู้จะเจอได้ยังไงนะสิ
    พรุ่งนี้มันอยู่ที่บริษัททั้งวัน ตอนเย็น ๆ คาเมะจังดักรออาจเจอทัตซึยะบอก
    ขอบคุณนะทัตจังร่างบางกล่าว
    ไม่เป็นไร ให้เจอมันก่อนเถอะ อ่อ!!!ระวังผู้จัดการส่วนตัวมันด้วยล่ะทัตซึยะเอ่ยเตือน
    ทำไม???” ร่างบางถามด้วยความสงสัย
    ก็ไม่ทำไมแค่ฉันไม่ค่อยชอบขี้หน้าเท่านั้นทัตซึยะบอกตามที่รู้สึก
    อ่อ ฉันก็นึกว่าเขาจะโหดเสียอีก ทัตจังไม่ต้องห่วงหรอกนะคนน่ารัก ๆ อย่างฉันใครเห็นก็เอ็นดูร่างบางกล่าวน้ำเสียงทะเล้น
    อ้วก~~~” ทัตซึยะตอบกลับถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกนะคาเมะจัง
    อือ ขอบคุณนะทัตจังร่างบางเอ่ย
    ไม่เป็นไรคนกันเองทัตซึยะบอกก่อนจะตัดสายลงแหม~~~อนุภาคความรักมันยิ่งใหญ่จริงว๊อย~~~” เขาเปรยขึ้นก่อนก้มหน้าก้มตาเพ้นท์รองเท้าอีกครั้งเพื่อนำไปขายที่ตลาดนัดวันพรุ่งนี้อีก
    ************************
    ร่างบางนั่งคู้ตัวอยู่หน้าบริษัทต้นสังกัดของยูอิจิ อากาศเวลาเกือบจะสองทุ่มของช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิสร้างความสั่นสะท้านให้กับคนที่นั่งอยู่ตรงนี้มาหลายชั่วโมงแต่คนที่ต้องการเจอก็ไม่ออกมาสักที
    หนาวโว๊ย~~~” ร่างบางบ่นออกมา
    นี่เธอเสียงเอ่ยทักจากด้านข้างทำให้ร่างบางเงยหน้าขึ้นมามอง ชายวัยกลางคนรูปร่างผอมสูงใบหน้าดูจริงจังก้มมามองเขา
    ครับร่างบางขาน

    เขาปิดรับสมัครไปแล้ววันนี้นะ พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่แล้วกันชายคนเดิมบอก
    อ่อประกวดดารานะเหรอครับ ผมไม่ได้มาประกวดสักหน่อยร่างบางตอบกลับ
    ถ้าอย่างนั้นมานั่งทำอะไรแถวนี้ ตึกเขาจะปิดไม่ให้คนเข้า-ออกแล้วนะชายคนเดิมถาม
    มารอเพื่อนนะฮะ ลุงทำงานที่ตึกนี่เหรอร่างบางถามกลับ
    คำว่าลุงที่ร่างบางใช้เรียกทำเอาคู่สนทนาชักสีหน้าแต่เขาก็ไม่อยากถือสาผู้อ่อนวัยกว่านักใช่ พี่!!!ทำงานที่นี่ เรามีอะไรกับคนในตึกนี่หรือเปล่า
    ร่างบางระบายยิ้มออกมาแล้วลุกขึ้นยืน ลุงทำงานที่ตึกนี้จริง ๆนะ
    พี่!!!ชายคนเดิมย้ำ
    ครับ ๆ พี่ก็พี่ร่างบางเรียก
    ชายคนเดิมยิ้มบาง ๆ เด็กตรงหน้านี่ใช้ได้เหมือนกันแหะทั้งหน้าตาและนิสัย เอ้า!!! บอกมาเสียทีสิว่ามีอะไรหรือเปล่า
    ผมมาหายูอิจิร่างบางบอกวัตถุประสงค์
    ชายตรงหน้าหรี่ตามองอย่างไม่ค่อยไว้ใจ พวกแฟนคลับ
    ไม่ใช่ร่างบางตอบผมเป็นแฟนของเพื่อนยูอิจิ
    เป็นแฟนของเพื่อน แล้วจะมาหายูอิจิทำไม โกหกน้ำขุ่น ๆ เลยนะชายคนเดิมต่อว่า
    พี่ชายก็ฟังให้จบก่อนสิร่างบางบอกผมมาหายูอิจิเพราะมีธุระสำคัญต่างหาก พี่รู้จักยูอิจิหรือเปล่า
    ไม่รู้จักชายคนเดิมตอบ กลับไปได้แล้วเรา ยูอิจิไม่ได้มาทำงานวันนี้หรอก
    พี่นั่นแหละโกหก ไม่รู้จักแล้วรู้ได้ยังไงว่าเขาไม่ได้มาทำงานวันนี้ ผมรู้ว่าเขาอยู่ข้างบนห้องพักร่างบางโต้กลับ ผมติดต่อเขาไม่ได้ช่วยหน่อยนะครับเอ่ยขอร้องแล้วค้อมศีรษะให้
    ชายคนเดินมองอย่างชั่งใจก็บอกว่าไม่รู้จักยังไงล่ะ กลับไปได้แล้วเขาเอ่ยไล่แล้วเดินกลับเข้าไปในตึกอย่างนึกเสียดายอยู่ลึก ๆ อ้าว~~~ ยูอิจิลงมาข้างล่างทำไมเขาเอ่ยถามคนที่เพิ่งจะเดินออกจากลิฟท์ตัวที่เขากำลังจะเข้าไปแทนที่เพื่อขึ้นไปหาคนที่สวนออกมา
    เพื่อนที่เซ็นไดโทรมาบอกนะครับ ว่ามีเพื่อนมารอผมอยู่ที่หน้าตึกยูอิจิบอกเห็นว่ามารอนานแล้วด้วย พอดีผมลืมเปิดโทรศัพท์ทั้งวัน พอนึกได้ไปเปิดเครื่องเพื่อนเลยด่าเป็นชุดเลย
    เพื่อน???” ชายผู้เป็นผู้จัดการส่วนตัวของเขาเอ่ยถาม
    ครับ ขอตัวนะฮะ ออกไปเดี๋ยวเดียวยูอิจิบอกแล้วรีบวิ่งออกไป
    ผู้จัดการส่วนตัวมองตามเด็กที่ตนดูแล ใช่แล้วยูอิจิวิ่งไปหาเด็กหนุ่มคนที่เขาคุยด้วยเมื่อสักครู่ รู้จักกันจริง ๆ เหรอเนี่ยเอ่ยถามตนเองแล้วเดินตามกลับออกไป

    ไอ้ห้อย!!! ฉันจะแข็งตายอยู่แล้วนะร่างบางต่อว่าไอดอลชื่อดังอันดับหนึ่งของประเทศ
    ยูอิจิยกมือขึ้นประนม ขอโทษคาเมะจัง ฉันเพิ่งเปิดโทรศัพท์มือถือเมื่อครู่นี่เอง อย่าเพิ่งด่าอะไรเลยนะ ทัตซึยะมันด่าจนหูฉันชาไปหมดแล้ว
    ถ้างั้นก็รู้แล้วใช่ไหมว่าฉันมาเพราะเรื่องอะไรร่างบางกอดอกถาม
    รู้ แต่ตอนนี้ไม่มีเงินสดนะสิ ต้องรอพรุ่งนี้แล้วจะเบิกออกมาให้ยูอิจิบอก
    เบิกอะไรกันผู้จัดการส่วนตัวซึ่งเดินตามมาเอ่ยถามคนทั้งสอง
    ร่างบางเงยหน้ามอง ไหนพี่บอกว่าไม่รู้จักกับยูอิจิไง โกหกแก่เร็วนะ
    ยูอิจิหันไปมองผู้จัดการส่วนตัวของตน พี่???” เอ่ยเรียกสรรพนามนั้นแล้วหัวเราะร่วนออกมา
    ผู้จัดการส่วนตัวตบไหล่ยูอิจิแรง ๆ เพื่อเป็นการปรามก่อนตอบร่างบาง ก็เธอน่าสงสัยนี่หน่าว่าแต่ตอบมาว่าเบิกอะไรกัน
    เงินร่างบางบอก
    ผู้จัดการส่วนตัวหันไปมองหน้าเด็กในปกครองของตนเงินอะไรยูอิจิ
    เพื่อนผมร้อนเงินนะครับยูอิจิตอบ
    เท่าไหร่ผู้จัดการส่วนตัวถาม
    ยูอิจิยกมือแบขึ้น
    ห้าหมื่นผู้จัดการกล่าว
    ห้าแสนต่างหากร่างบางกอดอกบอก
    จะเอาเงินไปทำอะไรตั้งห้าแสน ยังเด็กอยู่ไม่ใช่เหรอเรานะผู้จัดการส่วนตัวย้อนถาม
    เรื่องส่วนตัวของผม คงไม่จำเป็นต้องตอบก็ได้มั๊งครับร่างบางกล่าวกลับ
    เรื่องส่วนตัวก็ใช่แต่ก็จำเป็นที่ต้องบอกเพราะว่าฉันเป็นผู้จัดการส่วนตัวของนากามารุ ยูอิจิ ฉันจะต้องรู้เรื่องของเขาแทบทุกเรื่องผู้จัดการส่วนตัวกอดอกตอบเช่นกัน
    ร่างบางหน้าเง้าเขาหันไปมองยูอิจิ ไม่เอาแล้วก็ได้บอกเสร็จแล้วเดินจากไปทันที
    เดี๋ยว!!! คาเมะจัง~~~”ยูอิจิเรียกรั้งไว้แต่ร่างบางนั้นก็ไม่หันกลับมามองเลยผู้จัดการไม่น่าไปพูดแบบนั้นเลย
    ก็มันจริงนี่ผู้จัดการตอบเด็กคนนั้นมาขอเงินนายเรื่องอะไร
    เขาจะไปหาแฟนที่อังกฤษแต่แม่เขาไม่ยอมให้เงิน เขาเลยมายืมนะครับยูอิจิตอบ
    อย่างนั้นเหรอผู้จัดการกล่าวแล้วมองไปยังร่างบางนั้นก่อนจะคลี่ยิ้มออกมา
    ยูอิจิมองใบหน้าของผู้จัดการส่วนตัวอย่างหวั่นใจ คนคนนี้จะต้องมีแผนอะไรแล้วในหัวสมองเป็นแน่
    *******************************

    ร่างบางนั่งอ่านใบสมัครอย่างถี่ถ้วนอีกครั้งภายในร้านคอฟฟี่ชอปซึ่งอยู่ห่างจากตึกบริษัทของยูอิจิพอควร ก่อนเงยหน้าขึ้นมามองคนสองคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามกับตน
    แค่ประกวดให้ติดหนึ่งในห้าก็ได้เงินแล้วเหรอร่างบางถามย้ำ
    ยูอิจิยิ้มแห้ง ๆ แล้วหันไปมองผู้จัดการส่วนตัวสายตาหวาด ๆวะ....ว่ายังไงครับผู้จัดการ
    ให้มันติดหนึ่งในห้าก่อนเถอะ เรื่องเงินนะไม่ใช่ปัญหาผู้จัดการส่วนตัวของยูอิจิตอบหน้าตาจริงจัง
    ทำไมง่ายจังร่างบางยังคงสงสัย
    มั่นใจเหลือเกินนะว่าจะติดอันดับผู้จัดการย้อนถาม
    แน่นอนร่างบางตอบเสียงหนักแน่น
    ยูอิจิมองสายตาของร่างบางและผู้จัดการส่วนตัวที่จ้องมองกันก่อนที่ยกมือขึ้นมาปาดเหงื่อ เขาไม่อยากจะต้องร่วมปิดบังเงื่อนไขการประกวดครั้งนี้กับร่างบางเลย แต่จะทำอย่างไรได้เขาถูกมัดมือชกไปแล้วอย่างไม่ทันตั้งตัว
    เอ้า เขียน ๆ เข้าสิใบสมัครนะ วันนี้วันสุดท้ายแล้วนะผู้จัดการเอ่ยเร่งเร้า
    ไม่มีรูปถ่ายร่างบางตอบ
    ผู้จัดการคลี่ยิ้มออกมา ไปสมัครก่อนเถอะน่า เรื่องรูปเดี๋ยวค่อยเอามาแปะวันหลังก็ได้เขาบอกแล้วยื่นปากกาที่เสียบตรงกระเป๋าเสื้อให้
    ร่างบางยื่นมือไปรับแล้วมองเอกสารใบสมัครอีกครั้งก่อนจะก้มหน้าก้มตากรอกใบสมัครอย่างไม่ค่อยจะเต็มใจเท่าไหร่ แต่ว่ามันก็ไม่มีทางเลือกนี่เขาจะไปหาเงินที่ไหนเยอะ ๆ ภายในเวลาไม่กี่วันเพื่อไปหาจินที่อังกฤษให้ทันวันหยุดช่วงคริสต์มาสในเดือนหน้า ถ้าประกวดไอดอลนี่แล้วได้เงินจริง ๆ โดยไม่มีพันธะผูกพันอะไรมากมายแค่ถ่ายภาพลงแมกกาซีนแฟชั่นทุกเดือนก็ไม่มีปัญหาอะไร ดีเสียอีกที่ได้เงินก้อนใหญ่แถมยังมีเงินจากค่าถ่ายแบบเป็นเงินเก็บรอจินกลับมา
    อ่ะร่างบางยื่นใบสมัครและปากกาคืนให้ผู้จัดการของยูอิจิ
    ผู้จัดการยื่นมือไปรับอ่านข้อมูลที่ร่างบางกรอกอย่างคร่าว ๆ ก่อนจะคลี่ยิ้มออกมาเมื่อเห็นลายเซ็นลงกำกับไว้ตอนท้ายเหลือเวลาอีกแค่ครึ่งชั่วโมง ไปกันเถอะคาเมะนาชิคุงเอ่ยชวนแล้วเก็บของก่อนฉุดมือร่างบางให้เดินตามไปทันที
    ยูอิจิมองคนทั้งสองก่อนจะถอนหายใจออกมาแรง ๆ ยกโทษให้ลูกด้วยเขารีบใส่แว่นตาและสวมหมวกอำพรางตนเองแล้วรีบสาวเท้าเดินตามไปติด ๆ
    ****************************

    คนหน้าหวานเดินออกมาจากห้องสัมภาษณ์แล้วหยุดตรงโต๊ะลงทะเบียนก่อนโค้งตัวให้กับเจ้าหน้าที่ผู้หญิงสี่คนซึ่งกำลังเก็บข้าวของเพราะว่างานส่วนของตนในวันสุดท้ายใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว
    ขอบคุณมากครับยามาชิตะ โทโมฮิสะ เอ่ยอย่างนอบน้อม
    พนักงานยิ้มให้โชคดีนะที่คราวนี้นำรูปมาครบไม่ไปหล่นหายที่ไหนอีก ขอให้ได้นะยามาชิตะคุง
    จะพยายามครับโทโมฮิสะกล่าวก่อนเงยหน้าขึ้น
    !!!!!!ปั่ง!!!! เสียงคนฟาดฝ่ามืออย่างแรงลงบนโต๊ะลงทะเบียนเรียกให้ทุกคนที่อยู่บริเวณนั้นหันไปมอง
    โอ่ย~~~อย่าเพิ่งเก็บของเจ้าของฝ่ามือซึ่งเป็นผู้จัดการส่วนตัวของยูอิจิเอ่ยบอกเสียงพร่าด้วยความเหนื่อยยังมีอีกคน
    แต่ว่าหมดเวลาแล้วนะคะพนักงานคนหนึ่งบอก
    ใครว่า เหลืออีกตั้ง15วินาทีผู้จัดการส่วนตัวบอกแล้วหันไปมองร่างบางที่เพิ่งจะวิ่งมาถึง ซึ่งมียูอิจิวิ่งรอนำอยู่ไม่ห่าง เร็ว ๆ คาเมะนาชิคุง
    ครับ~~~” ร่างบางขานเสียงหอบไม่ต่างกันก่อนมาหยุดยืนตรงโต๊ะลงทะเบียน
    กรี๊ด~~~ นากามารุ ยูอิจิคุงตัวจริงพนักงานสาว ๆ ส่งเสียงกันใหญ่เมื่อได้เห็นไอดอลชื่อดังตัวจริงอย่างใกล้ชิด
    อย่าเพิ่งกรี๊ด รีบ ๆ ทำหน้าที่เร็วเข้าสิผู้จัดการส่วนตัวเอ่ยก่อนยื่นใบสมัครของร่างบางให้
    พนักงานสาวคนหนึ่งรับไปอ่านแล้วเงยหน้าขึ้น หลักฐานไม่ครบ รูปล่ะคะ
    พรุ่งนี้จะนำมาให้ผู้จัดการบอก
    แต่ว่า....พนักงานสาวกระอักกระอ่วนใจไม่อยากทำผิดระเบียบแต่ก็เกรงใจคนที่มีอำนาจสูงกว่าตน
    ขอโทษนะครับร่างบางกล่าวแล้วค้อมศีรษะให้ก่อนเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มกว้างอย่างสดใสผมทำหล่นหายตอนเดินทางนะครับ แล้วพรุ่งนี้จะนำมาให้ ขอความกรุณาด้วยครับ
    พนักงานสาว ๆ มองใบหน้าเจ้าของรอยยิ้มสดใสนั้นอย่างเต็มตาเป็นครั้งแรกกรี๊ด~~~~~”

    คะ ๆพนักงานที่เป็นธุระเอ่ยอนุญาตก่อนเดินถือใบสมัครของร่างบางนำไปยังห้องสัมภาษณ์ ผู้สมัครคนสุดท้ายจริง ๆ ของการประกวดเพิ่งจะมาถึง
    ผู้จัดการส่วนตัวกอดอกมองแผ่นหลังเด็กหนุ่มที่เขาฝากความหวังเอาไว้อย่างภูมิใจเธอทำได้คาเมะนาชิคุง
    ยูอิจิได้ยินก็หันหน้าไปมองแล้วเปรยเบา ๆ กับตนเองอย่าได้เลย ถ้าได้ขึ้นมาฉันตายแน่ ๆ
    คนหน้าหวานผู้ยืนอยู่ใกล้ ๆ แต่กลับถูกลดค่าความสนใจมองไปยังบานประตูห้องสัมภาษณ์ที่ปิดลงไหนว่าไม่สมัครยังไงล่ะ...คาเมะนาชิคุง???”
    ******************************
    จบตอนที่8แล้วจ้า เป็นอย่างไรบ้างอย่าลืมเม้นท์บอกกันด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆที่ติดตามคะ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×