ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    paparazzi

    ลำดับตอนที่ #7 : part 7

    • อัปเดตล่าสุด 22 มี.ค. 49


    paparazzi part 7
    นิตยสารบันเทิงรายสัปดาห์วางเกลื่อนทั่วทุกแผงและมันก็ถูกซื้อจนหมดไปอย่างรวดเร็ว เพียงเพราะภาพและข่าวพาดหัวตัวมหึมาเกี่ยวกับนากามารุ ยูอิจิ ไอดอลหนุ่มชื่อดังอันดับหนึ่งของญี่ปุ่นในขณะนี้ที่มีความสัมพันธ์กับคนเพศเดียวกัน ถึงแม้ภาพที่ถูกแอบถ่ายมาจะไม่ชัดเท่าไหร่นักอีกทั้งเรื่องที่ลงจะเป็นความจริงหรือไม่แต่ยูอิจิก็ถูกต้นสังกัดเรียกเข้าพบทันทีเมื่อข่าวนี้แพร่สะพัดออกไป
    ฉันบอกนายแล้วว่าให้ระวังตัวผู้จัดการส่วนตัวเอ่ยบอกเมื่อเขาและยูอิจิเดินกลับมาที่ห้องพักในบริษัท หลังจากถูกผู้บริหารเรียกไปคุยอยู่นาน
    ขอโทษครับ ผมไม่คิดว่าเขาจะเอาไปเขียนจนเป็นข่าวใหญ่โตแบบนี้ยูอิจิสำนึก เขาไม่ระวังตัวจริง ๆ จึงถูกถ่ายรูปเมื่อตอนไปหาจินที่บ้านแต่กับเจอคาซึยะแทน ภาพที่ลงก็เป็นตอนที่ร่างบางเดินมาเปิดประตูห้องให้ ไม่เคยคิดเลยว่าภาพแค่นั้นจะถูกเติมไข่ใส่สีเสียจนเละเทะขนาดนี้
    ผู้จัดการส่วนตัวถอนหายใจออกมาบาง ๆ ทำยังไงได้ คนมันจ้องจะทำลายไม่ว่านายจะทำอะไรก็ถูกใส่สีจนได้แหละ
    ขอบคุณครับที่เชื่อว่าผมไม่ได้เป็นอย่างในข่าวนั้นจริง ๆ ยูอิจิบอก
    แล้วคนที่เป็นข่าวด้วยรู้เรื่องหรือยังล่ะผู้จัดการเอ่ยถาม
    ผมไม่ทราบครับ ตั้งแต่วันนั้นก็ไม่เคยเจอกันอีกเลยยูอิจิพูดเสียงสลด นี่ก็ปาเข้าไปวันที่ห้าแล้วเพื่อนของเขาจะเป็นอย่างไรบ้างหลังจากเกิดเรื่องขึ้นก็ไม่รู้

    อย่างไรซะก็อย่าไปเจอเพื่อนคนนี้สักระยะแล้วกันให้เรื่องมันซา ๆ ไปก่อนผู้จัดการส่วนตัวแนะ ส่วนเรื่องอื่นนายก็นิ่งไว้ซะถ้ามีคนถามเรื่องนี้ พูดมากเกินไปที่เสียจะเป็นฝ่ายเรา ที่เหลือต้นสังกัดจะจัดการเองนายแค่ทำตามอย่างที่คุยกันเมื่อครู่ก็พอ
    ทราบแล้วครับยูอิจิรับคำ
    ถ้าอย่างนั้นก็เตรียมตัว เดี๋ยวต้องไปถ่ายแบบให้หนังสือสองเล่มนั้นที่เลื่อนไปคราวก่อนผู้จัดการส่วนตัวบอกแล้วเก็บข้าวของเพื่อเตรียมนำยูอิจิไปยังสตูดิโอซึ่งนัดกับช่างภาพหนังสือเอาไว้
    *******************************
    คุณหนูคะ~~~” เสียงเรียกดังขึ้นหน้าประตูห้อง
    ร่างบางที่นอนคลุมโปงบนเตียงหลังใหญ่เปิดผ้าออกมาแล้วตอบกลับด้วยน้ำเสียงขุ่นบอกแล้วไงว่าถ้าจินโทรมาอีกให้บอกไปว่าฉันไม่อยากรับสาย
    คุณจินไม่ได้โทรมาคะสาวใช้บอก
    อ้าว~~~” ร่างบางเสียงเจื่อนถ้าอย่างนั้นมีอะไร
    เพื่อนของคุณหนูชื่อริเอะจังโทรมาคะ จะรับสายไหมคะสาวใช้เอ่ยถาม
    อืมร่างบางตอบแล้วลุกจากเตียงเดินไปเปิดประตูห้องแล้วรับสายโทรศัพท์ที่สาวใช้นำมาให้ขอบใจนะเอ่ยขอบคุณก่อนจะปิดประตูห้องลงแล้วเดินกลับไปทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงว่าไงริเอะจัง
    คาเมะจัง!!!!เพื่อนสาวที่ชอบนากามารุ ยูอิจิ เรียกชื่อเขาน้ำเสียงตระหนก
    อะไรร่างบางถามกลับถ้าจะชวนไปตามไอ้ห้อยยูอิจิล่ะก็ ไม่ไปเว้ย
    คาเมะจังทำไมเรียกยูอิจิคุงอย่างนั้นล่ะริเอะว่ากลับ
    ร่างบางถอนหายใจออกมาแรง ๆ ช่างฉัน มีอะไรหรือเปล่าคนกำลังอารมณ์ไม่ดี
    มี สำคัญมากริเอะตอบกลับ
    มีอะไรก็ว่ามาร่างบางเร่งเร้า
    ข่าวดังสด ๆ ร้อน ๆ นากามารุ ยูอิจิ มีความสัมพันธ์กับคนเพศเดียวกัน ปาปารัซซี่เขาไปถ่ายมาได้ตอนยูอิจิกำลังเข้าไปในห้องคู่ขานะริเอะรายงาน

    ห๊ะ!!!ร่างบางร้องเสียงหลง
    ตกใจล่ะสิ ฉันก็เหมือนกันไม่คิดว่ายูอิจิจะเป็นโฮโมเหมือนเธอ มิน่าล่ะเข้าวงการมาไม่เคยมีข่าวกับผู้หญิงคนไหนเลยที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง ดีใจด้วยนะคาเมะจังถ้าข่าวเป็นจริงเธอก็มีสิทธิ์ในตัวยูอิจินะริเอะกล่าว
    แหวะ!!!ร่างบางอุทานออกมาทันที
    อะไรกันคาเมะจังริเอะต่อว่าอีกทำแบบนี้เหมือนไม่ชอบยูอิจิแล้วอย่างนั้นแหละ
    ก็ไม่ชอบแล้วนะสิร่างบางตอบ
    มิน่าล่ะถึงขาดการติดต่อไปเป็นเดือน ๆ ไอ้ฉันก็คิดว่าเธอไปได้ดิบได้ดีกับยูอิจิแล้วเสียอีกริเอะเอ่ยเย้า
    ฉันจะได้ดิบได้ดีกับไอ้ห้อยนั่นทำไมล่ะร่างบางถามกลับ
    ก็แหม...คนในรูปนะถึงจะเบลอ ๆ แต่ฉันเห็นทีแรกคิดว่าเป็นเธอเสียอีกริเอะตอบ
    ห๊ะ!!!!ร่างบางร้องลั่น ว่าอะไรนะ ใครคล้ายฉัน
    ก็คนที่เป็นข่าวกับยูอิจิยังไงล่ะ เขาบอกว่ายูอิจิไปหาที่ห้องเชียวนะสงสัยถึงไหนถึงไหนกันแล้วมั๊งริเอะคาดเดา
    ไอ้หนังสือบ้าที่ลงข่าวนี้ยังมีขายอยู่หรือเปล่าร่างบางถามกลับเสียงเข้ม
    ตามร้านใหญ่ ๆ เกลี้ยงแผงไปนานแล้ว ถ้าเธอจะหาซื้อคงต้องไปตามร้านเล็ก ๆ ฉันคิดว่าน่าจะยังมีอยู่ริเอะแนะนำ
    ขอบใจนะริเอะจังร่างบางกล่าวขอบคุณแล้ววางสายทันที ไอ้ห้อยเอ๊ย!!!!เขาสบถออกมาเมื่อนึกย้อนเหตุการณ์ไปเมื่อหลายวันก่อน ตอนที่เขาเปิดประตูห้องให้ยูอิจิแล้วมัวแต่ยื่นอึ้งอยู่นั้นแสงสว่างที่กระชากสติเขากลับเป็นแสงแฟลชจากกล้องของพวกปาปารัซซี่เองหรอกเหรอ คิดขึ้นได้ก็รีบออกจากห้องไปเขาจะต้องหาซื้อนิตยสารนั่นให้ได้บางทีรูปคนที่เป็นข่าวนั่นอาจไม่ใช่ตัวเขาก็ได้หากคิดในแง่ดีไว้ก่อน แต่ถ้าใช่ขึ้นมาจริง ๆ ล่ะจะทำยังไงดี ???
    *********************************

    จินค่อย ๆ แกะผ้าที่พันข้อเท้าของตนตามที่หมอสั่งออกช้า ๆ เมื่อรู้ได้ด้วยตัวเองว่าอาการปวดบวมที่ข้อเท้าหายดีแล้ว อยากจะรีบไปหาร่างบางที่บ้านของแม่เพื่อจะได้ปรับความเข้าใจกันเพราะการที่เขาโทรหาทุก ๆ สิบนาทีเป็นเวลาห้าวันเต็ม ๆ ไม่ได้ช่วยอะไรเขาได้เลยหากแต่เพิ่มความร้อนใจให้อีกต่างหาก ทีแรกก็คิดว่าจะไปตามกลับมาตั้งแต่วันนั้นแต่ก็เพราะทัตซึยะที่เดินทางมาจากเซ็นไดเพื่อมาดูอาการของเขานั่นแหละที่ห้ามเอาไว้ วันนี้อาการทางกายเขาหายดีแล้วแต่ทางใจยังเจ็บลึกอยู่เลยเพราะฉะนั้นควรรีบไปปรับความเข้าใจหากช้าเกินไปกว่านี้มันจะยิ่งไม่ดี
    จะออกไปเลยหรือไงทัตซึยะเอ่ยถามเมื่อเปิดประตูห้องนอนของจินเข้ามา
    จินวางผ้าพันขอเท้าไว้กับเตียงแล้วค่อย ๆ ลุกขึ้น อืม โทรไปไม่ยอมรับสายเลยไม่รู้ป่านนี้คิดเตลิดอะไรไปไกลหรือเปล่าก็ไม่รู้ คาซึยะเขายิ่งเป็นคนคิดมากอยู่ด้วย
    คิดมากหรือคิดเรื่องไม่เป็นเรื่องว่ะทัตซึยะดักคอ นายเองมันก็ผิดตรงที่ไม่บอกเขาไปสักทีว่าเป็นเพื่อนกับไอ้ยูอิจิ ส่วนคาเมะจังก็แรงเกินไปไม่ยอมฟังอะไรเลย คนเพิ่งจะคบกันได้แค่เดือนเดียวจะให้รู้เรื่องของแฟนตัวเองทุกอย่างได้ไงว่ะ ของอย่างนี้มันต้องค่อย ๆ เรียนรู้กัน
    เออ ดีเลยไปด้วยกันแล้วนายก็ไปพูดอย่างเมื่อกี้ให้เขาเข้าใจด้วยก็ดีจินเอ่ยชวน
    ถ้าฉันไปกับนายด้วยตอนนี้ยิ่งพังนะสิไม่ว่า นายควรจะไปปรับความเข้าใจกับเขาก่อนตามลำพังเพราะมันเป็นเรื่องของนายสองคน ฉันมันคนนอกทัตซึยะเอ่ยแนะ
    จินมองเพื่อนตนเองอย่างชื่นชมขอบใจนะทัตซึยะที่มาอยู่เป็นเพื่อน ถ้านายไม่มาฉันคงฟุ้งซ่านแน่ ๆ
    ชิ ไม่ต้องมาชมหรอกมันกินไม่ได้ทัตซึยะบอก รีบไปปรับความเข้าใจกันสิ ถ้าพวกนายดีกันแล้วฉันจะได้กลับเซ็นไดไปทำมาหากิน
    กำลังจะไปอยู่นี่แหละ ฝากบ้านด้วยนะจินบอกแล้วเดินออกจากห้องไป
    ทัตซึยะเดินตามออกไปแล้วไปทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาเพื่อเปิดทีวีดู เสียงประตูเปิดดังขึ้นหนึ่งครั้งเขารู้ว่าเพื่อนผู้เป็นเจ้าของห้องคงออกไปหาคนรักแล้ว

    อะไรว่ะออกไปแล้วก็ไม่ปิดประตูทัตซึยะบ่นเล็ก ๆ ก่อนชักมือกลับจากปุ่มเปิดเครื่องโทรทัศน์แล้วลุกขึ้นเดินไปหน้าประตูห้อง เพื่อนของเขายังไม่ได้ไปไหนยืนนิ่งอยู่หน้าประตูซึ่งเบื้องหน้ามีแต่แสงแฟลชปรากฏขึ้นอย่างไม่ขาดช่วงตอนเฮ้ยอะไรว่ะ!!!
    จินหันหน้ากลับไปมองเพื่อน นั่นสิ อะไรเนี่ย
    ปิดประตูสิว่ะ เกิดเขาโยนระเบิดเข้ามาจะว่ายังไงทัตซึยะบอกเพื่อน
    จินได้สติก็รีบปิดประตูห้องลงทันที อะไรกันว่ะ งงไปหมดแล้วเขาถามเพื่อน
    จะไปรู้เหรออยู่ด้วยกันเนี่ยทัตซึยะบอก ต้องเกิดอะไรขึ้นแน่ ๆ ไปดูข่าวดีกว่าเอ่ยบอกแล้วก็วิ่งกลับไปเปิดทีวีซึ่งก่อนหน้านี้ตั้งใจว่าจะเปิดไว้อยู่แล้ว
    คะ!!!เมื่อสักครู่ที่ห้องของบุคคลซึ่งตกเป็นข่าวกับนากามารุ ยูอิจิคุง ได้มีผู้เปิดประตูห้องออกมาแต่จากคำยืนยันของสื่อหลายสำนักแจ้งว่าไม่ใช่คนที่ตกเป็นข่าวด้วยคะ คาดว่าที่ห้องนี้คงอาศัยกันอยู่หลายคนหนึ่งในนั้นคงมีบุคคลปริศนานั่นอยู่ด้วยอย่างแน่นอนคะ หากมีความเคลื่อนไหวอะไรอีกเราจะตัดเป็นข่าวด่วนมาให้ท่านผู้ชมรับทราบกันอีกนะคะ ตอนนี้กลับไปรับชมรายการของทางสถานีตามปกติคะนักข่าวสาวรายงานกระแสข่าวที่ได้รับความสนใจอยู่ตอนนี้ตามหน้าที่ของตนเสร็จ ภาพก็ตัดไปยังรายการปกติของทางสถานี
    จินและทัตซึยะหันไปมองหน้ากัน ภาพในจอทีวีนั่นมันเป็นด้านล่างของหน้าอาคารที่พวกเขาอยู่กันตอนนี้แน่นอน
    เข้าใจอะไรกันผิดหรือเปล่าเนี่ยจินเอ่ยถามขึ้น
    คงงั้น และไอ้คนที่ทำให้เข้าใจผิดก็คือไอ้ยูอิจิทัตซึยะกอดอกบอกวันนั้นที่มันมาก่อเรื่องให้นายจะต้องมีคนตามมันมาโดยที่มันไม่รู้ตัวแน่ ๆ
    จินฟังคำวิเคราะห์ของเพื่อนเขาก็นึกย้อนไปเมื่อห้าวันก่อน ใช่แล้วปาปารัซซี่คนนั้นที่เคยจะซื้อความเป็นเพื่อนระหว่างพวกเขาด้วยการขอซื้อข่าวและรูปเก่า ๆ ของยูอิจิแต่เขาปฏิเสธไป ต้องเป็นฝีมือคนนั้นแน่ ๆ
    ปาปารัซซี่คนนั้นจินเอ่ยขึ้น
    คนไหนทัตซึยะถาม
    คนของสำนักพิมพ์ที่เป็นหนังสือในเครือบริษัทคู่แข่งไอ้ยูอิจินะสิจินบอก

    อ่อ...คู่แข่งกันนี่เองทัตซึยะพยักหน้ารับรู้ นี่แหละหนาวงการมายา
    ป่านนี้มันคงโดนต้นสังกัดเรียกไปด่าแน่ ๆ จินคาดเดาได้อย่างถูกต้อง
    ทัตซึยะนึกตาม ใบหน้าผู้จัดการของยูอิจิก็ปรากฏขึ้นในความทรงจำของเขา โห!!! ไม่อยากนึกสภาพ
    แล้วคนที่ตกเป็นข่าวด้วยละ ไม่ใช่ฉันก็คง....จินเอ่ยแล้วก็นึกถึงร่างบาง คาซึยะ~~~” เอ่ยชื่อคนรักแล้วผลุนผลันวิ่งออกจากห้องไปทันที
    เฮ้ยไอ้จิน ขายังไม่หายดีนะเว้ยแล้วออกไปตอนนี้เดี๋ยวก็โดนรุมหรอกทัตซึยะเอ่ยรั้งเอาไว้แต่ก็ไม่ทัน เพื่อนของเขาหัวใจเกินร้อยวิ่งไปไกลแล้วเอาไงดีว่ะ พวกนักข่าวรุมมันแน่เอ่ยถามตนเองแล้วตัดสินใจวิ่งตาม อย่างน้อยสองคนก็ดีกว่าคนเดียว รอด้วยไอ้จิน~~~~”
    ***************************
    ว๊าค!!!!ร่างบางร้องลั่นเมื่อเห็นหน้าปกนิตยสารบันเทิงรายสัปดาห์ในร้านหนังสือเล็ก ๆ ห่างจากบ้านเขาไม่มากนัก รูปตอนนั้นจริง ๆ ด้วยเขาเอ่ยยืนยันตัวเองก่อนเปิดหน้าข่าวแล้วอ่านเพียงคร่าว ๆ มั่วสุด ๆ ใครเขาอยากไปเป็นคู่ขาหมอนั่นกัน จินของฉันเร้าใจกว่าตั้งแยะพูดเสร็จร่างบางก็ยกมือปิดปากตนโกรธจินอยู่นี่หว่า...แต่เวลาแบบนี้จะมางอนอยู่ก็ใช่เรื่องความคิดของร่างบางเริ่มค้านกันเองมิน่าล่ะวันนี้จินถึงไม่โทรมาหาต้องเกิดเรื่องที่บ้านแน่ ๆ เขาเริ่มคาดเดาก่อนใบหน้าตัวเองจะเริ่มเบะออกด้วยความกังวล จิน~~~~ รอก่อนนะจะไปหานายเดี๋ยวนี้แหละร่างบางวางหนังสือคืนแล้ววิ่งออกไปจากร้านทันที
    ร่างบางชะงักฝีเท้าอย่างฉับพลันเมื่อเห็นว่าเบื้องหน้าของตนคือกองทัพนักข่าวที่ตั้งป้อมอยู่หน้าอาคารซึ่งบนชั้นสามห้องริมสุดคือบ้านของเขาและคนรัก
    ฉันช้าไปแล้วเหรอเนี่ยร่างบางถามตนเอง เงยหน้ามองประตูห้องที่ปิดเงียบสนิทอยู่คนเดียวแบบนั้นจะเป็นยังไงบ้างน้ำเสียงของร่างบางแฝงไปด้วยความห่วงใย ก่อนจะเดินหันหลังกลับไปอีกทาง
    โอ๊ย~~~” ร่างบางร้องโอดโอยเมื่อเอื้อมมือเกาะขอบระเบียงเล็ก ๆ ที่ยื่นออกมาซึ่งที่เขายึดไว้แล้วย้ายน้ำหนักตัวให้ขึ้นไปเหยียบยืน คือชั้นสามตรงห้องของเขาด้านหลังนั่นเอง
    จินไม่อยู่ในห้องนอนเหรอร่างบางถามตัวเองเมื่อมองผ่านหน้าต่างห้องนอนเข้าไป เขายื่นมือไปหวังจะเปิดกระจกแต่ว่ามันถูกปิดจากด้านในนะสิ เอาไงดีว่ะถามตนเองอีกครั้งก่อนจะค่อย ๆ เดินไปห้องข้าง ๆ

    โชคเข้าข้างมีคนนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องนอนนั่นเขาจึงขอให้คนในห้องเปิดกระจกเพื่อให้เขาได้ผ่านเข้าไปโดยที่อ้างว่าเขาลืมกุญแจห้องเอาไว้ในห้องตัวเองขอบคุณมากครับร่างบางค้อมศีรษะให้ก่อนจะเปิดประตูออกแล้วก้มตัวลงคลานกับพื้น เขาไม่ต้องการให้ผู้คนด้านล่างมองขึ้นมาเห็นตัวเอง
    จิน~~~ เปิดประตูให้หน่อยร่างบางส่งเสียงที่หน้าประตูห้อง ไม่มีเสียงตอบรับจากคนข้างใน จิน~~~ฉันเองเพิ่มวอลุ่มเสียงคิดว่าคนข้างในจะได้ยินแต่ก็ไม่มีสิ่งใดตอบสนอง ร่างบางขุ่นคิ้วแล้วยื่นมือไปจับลูกบิดประตูห้อง ไม่ได้ล๊อก ถ้าอย่างนั้นก็อยู่ข้างในนะสิร่างบางเปิดประตูออกช้า ๆ แล้วคลานเข้าไปก่อนจะปิดลงอย่างรวดเร็ว จิน~~~” ร่างบางเอ่ยเรียกคนรักพลางลุกขึ้นเดินเข้าไปข้างใน มองหาจนทั่วแต่ก็ไม่พบคนที่เรียกหาเลย หายไปไหนกันถามตนเองก่อนนั่งลงบนโซฟาคิดว่าอีกไม่นานคนร่างหนาก็กลับมาแน่นอน
    ****************************
    รถแท็กซี่มาจอดหน้าประตูบ้านหลังใหญ่ของร่างบาง จินเดินลงมาจากรถก่อนหันไปมองทัตซึยะซึ่งมองบ้านตรงหน้าอย่างตะลึงเหมือนกับที่เขาได้พบเห็นครั้งแรกไม่มีผิด
    นายพาฉันมาที่ไหนว่ะทัตซึยะเอ่ยถาม
    บ้านคาซึยะไงจินตอบ
    โห!!!! รวยสุด ๆ ตกถังข้าวสารแล้วไอ้จินทัตซึยะพูด
    ข้าวสารอะไรล่ะ ของพ่อของแม่เขาจินตอบแล้วเดินไปกดออดที่หน้าประตู สักพักสาวใช้ในบ้านก็เดินออกมาเมื่อเห็นว่าเป็นเขาก็ค้อมศีรษะให้ ก่อนจะค้อมให้ทัตซึยะด้วย
    คุณหนูละคะคุณจินสาวใช้เอ่ยถาม
    ครับ มาหาคาซึยะจินตอบ
    ไม่ใช่คะ ดิฉันถามว่าแล้วคุณหนูละคะไม่มาด้วยกันเหรอคะสาวใช้ถามอีกครั้ง
    ไม่นี่ครับ...คาซึยะไม่อยู่ที่บ้านเหรอครับจินถามกลับ
    ไม่คะ คุณหนูออกจากบ้านไปเป็นชั่วโมงแล้วคะ ดิฉันก็คิดว่ากลับไปหาคุณจินเสียอีกสาวใช้บอก
    เปล่าครับจินบอกสีหน้าวิตกกังวล เขาบอกหรือครับว่าจะไปหาผม
    ไม่ได้บอกอะไรเลยคะ อยู่ดีๆ ก็หุนหันออกจากบ้านไปเลยสาวใช้รายงาน
    ไปไหนของเขากันนะจินเอ่ยถามตนเอง

    ไม่ใช่ว่าคาเมะจังเองก็กลับไปหานายที่ห้องจริง ๆ เหรอทัตซึยะบอก
    จินหันหน้ามามองเพื่อน ถ้าอย่างนั้นคาซึยะไม่ถูกนักข่าวพวกนั้นรุมแล้วเหรอ กว่าเราจะวิ่งหนีกันออกมาได้ก็แทบแย่
    ถ้าอย่างนั้นก็กลับทัตซึยะเอ่ยชวน
    เอ่อ...สาวใช้รั้งไว้ โทรไปบอกคุณหนูจะดีกว่าไหมคะ ถ้าคุณจินกลับไปแล้วสวนทางกับคุณหนูขึ้นมาอีกจะเสียเวลาเปล่า
    จริงด้วย แต่ว่าผมไม่มีเบอร์คาซึยะจินบอกกับสาวใช้
    ดิฉันจดไว้คะแต่อยู่ในบ้าน เชิญคุณจินกับเพื่อนเขามาก่อนดีกว่าคะ คุณผู้หญิงเองก็อยู่ข้างในสาวใช้บอกแล้วเปิดประตูให้
    จินหันไปมองทัตซึยะแล้วพยักหน้าให้ก่อนจะเดินตามสาวใช้เข้าไปในบ้านของร่างบาง
    *********************
    !!!!!ตื๊ด ตื๊ด!!!!! โทรศัพท์มือถือของร่างบางส่งเสียงว่ามีสายเรียกเข้า ร่างบางที่นอนหลับอยู่บนโซฟาค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่งแล้วล้วงมือไปในกระเป๋ากางเกง
    บ้าน โทรมาทำไมกันเอ่ยถามตนเองแล้วกดรับสาย
    คาซึยะ~~~” ปลายสายกรอกเสียงมาทันทีเมื่อเขารับสาย
    ร่างบางอึ้งไปชั่วขณะ ไม่ได้ยินเสียงคนรักมาตั้งหลายวันเพราะความงี่เง่าของตัวเอง จิน~~~”
    จินฟังน้ำเสียงร่างบางก็รู้ว่าคนคนนี้อารมณ์อ่อนลงไปเยอะแล้ว นายอยู่ที่ไหน
    อยู่ที่บ้านของเรานั่นแหละ ฉันเห็นข่าวบ้า ๆ นั่นแล้วร่างบางบอก
    รออยู่นั่นนะฉันจะไปรับ แม่บอกว่าให้ฉันกับนายมาอยู่ที่บ้านนี้ก่อนหลบพวกนักข่าวนั่นจินบอก
    แม่รู้เรื่องแล้วเหรอร่างบางย้อนถาม
    ฉันเล่าให้ฟังหมดแล้วจินบอกกลับคนรัก คาซึยะ...ฉันขอโทษนะ
    ร่างบางได้ยินก็ระบายยิ้มออกมานึกว่าจินจะไม่พูดแล้ว ฉันรอคำนี้ตั้งนาน
    ก็นายไม่ยอมเปิดโอกาสให้ฉันได้พูดเลยนี่หน่าจินตอบกลับ
    ร่างบางนึกขึ้นได้ เขาเองนั่นแหละที่ไม่ยอมรับโทรศัพท์จากจินเลยด้วยความเล่นตัวของตนทั้ง ๆ ที่จินโทรมาง้อไม่กี่หนแรกเขาก็เริ่มใจอ่อนแล้วแท้ ๆ แต่ที่ยังแกล้งต่อเพราะอยากให้คนรักมาง้อถึงบ้านต่างหาก ต่อไปจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว ฉันเองก็อยากขอโทษจินเหมือนกันที่ทำตัวแบบนี้
    ฉันไม่โกรธนายหรอก มันสมควรแล้วนี่ที่ปิดบังเรื่องของยูอิจิกับนายจินสำนึก

    โหย!!! อย่าพูดชื่อไอ้ห้อยนั่นได้ไหม เพราะมันนั่นแหละทำให้เราต้องทะเลาะกันร่างบางกล่าวโทษคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่
    อย่าไปว่าเขาเลย เขาไม่รู้เรื่องจินบอกร่างบาง เดี๋ยวฉันไปรับนะ
    อืม~~~ มาเร็ว ๆ นะร่างบางเอ่ยเสียงอ้อน
    จ้า~~~” จินรับคำก่อนวางสายลง เขายิ้มให้กับทัตซึยะที่มองมา
    ดีกันแล้วสิ หน้าบานเชียวทัตซึยะเอ่ยแซว
    อืมจินตอบ ฉันจะไปรับคาซึยะ นายจะไปด้วยไหม
    ไม่ล่ะ แม่บอกจะสอนฉันเล่นเปียโนทัตซึยะบอก
    แหม...อยากจะเป็นลูกชายบ้านนี้อีกคนหรือไงจินเอ่ยแซว
    มิบังอาจ แค่ตอนนี้อยู่บ้านเศรษฐีก็ควรจะทำอะไรที่มันไฮโซให้เข้ากันเสียหน่อย ไปหละแม่รออยู่ที่ห้องดนตรีทัตซึยะบอกแล้วเดินจากไป เขาช่างทำตัวคุ้นเคยกับอะไรได้ง่ายดีจริง ๆ
    จินมองส่งก่อนเดินออกจากบ้านหลังใหญ่อีกครั้งเพื่อไปรับคนรักให้มาอยู่ด้วยกันหลังจากห่างกันมาหลายวัน
    *************************
    ร่างบางนั่งอมยิ้มอยู่คนเดียวหลังจากอารมณ์ขุ่นมาหลายวัน มองดูรอบ ๆ ห้องที่ไม่ได้อยู่มาแค่ห้าวันแต่ทำไมถึงได้รกขนาดนี้นะ
    ทำความสะอาดรอจินดีกว่าร่างบางเอ่ยบอกตนเองแล้วจัดแจงเดินเข้าห้องน้ำไป ตระกร้าที่วางไว้ในห้องมีเสื้อผ้าที่ใช้แล้วใส่อยู่จนล้นออกมา ร่างบางจัดการหยิบไปซักเสียจนหมด ก่อนจะมาปัดกวาดเช็ดถูห้องต่อ
    เอ๊ะร่างบางสะดุดตากับเอกสารบางอย่างที่วางอยู่บนเครื่องเล่นดีวีดีมหาวิทยาลัยที่อังกฤษอย่างนั้นเหรอเอ่ยถามตนเองอย่างไม่มั่นใจเพราะเขาเองก็ไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษถึงขนาดจะอ่านออกได้ทุกตัว
    !!!!!ปั่ง!!!!! เสียงประตูห้องที่ปิดอย่างแรงเรียกร่างบางให้หันไปมอง คนรักของเขายืนเอาหลังพิงบานประตูด้วยท่าทางเหนื่อยอ่อน ร่างบางจึงเดินไปหาทันที
    หนีพวกข้างล่างขึ้นมาอย่างนั้นสิร่างบางถามแล้วยิ้มให้ก่อนจะสวมกอดคนรักนำดวงหน้าของตนซุกลงบนแผ่นอกแกร่งกลับมาแล้วเหรอ~~~”
    จินระบายยิ้มออกมา กลับมาแล้วจ้าเขาบอกพลางกอดตอบร่างบางนั้น
    จิน~~~” ร่างบางเรียกชื่อคนรักเสียงเครือฉันขอโทษนะ ขอโทษที่ทำตัวงี่เง่า ขอโทษที่ไร้เหตุผล ขอโทษที่ไม่ยอมฟังจินอธิบายอะไร แล้วก็ขอโทษที่ทำให้จินต้องเจ็บตัว

    จินฟังคำคนรักจบก็หอมลงบนเส้นผมนุ่มนั้นฉันไม่เคยโกรธนายเลยตรงกันข้ามฉันกลับกลัวว่านายจะเกลียดฉันแล้วเสียอีก
    จินเล่าเรื่องของจินกับยูอิจิให้ฉันฟังหน่อยสิร่างบางเอ่ยขอ
    ฉัน ยูอิจิ แล้วก็ทัตซึยะเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็ก ๆ พวกเราสนิทกันมาก จนประมาณสามปีก่อนทัตซึยะโกรธยูอิจิเพราะว่าเขาคบกับพี่มิซูรุเป็นแฟน ทัตซึยะเองก็ชอบและสนิทกับพี่มิซูรุมากก็เลยเสียใจเขาโกรธยูอิจิไปเป็นปี ๆ เลยแต่ว่าตอนนี้ก็อ่อนลงให้มากแล้วล่ะจินเกริ่นเล่า
    แล้วยังไงต่อร่างบางถามอีก
    อย่างที่นายก็รู้ว่าพี่มิซูรุไม่ค่อยแข็งแรงเลยต้องอยู่ที่โรงพยาบาลค่าใช้จ่ายทางบ้านจึงเพิ่มขึ้น ยูอิจิเขาตัดสินใจเข้าวงการบันเทิงเพื่อหาเงินช่วยค่ารักษา ฉันเองก็เอ็นท์ติดมหาวิทยาลัยที่โตเกียวแล้วก็ต้องการเก็บเงินเยอะๆเพื่อเรียนต่อต่างประเทศโดยไม่ต้องรบกวนทางบ้าน ยูอิจิเลยออกความคิดที่ให้ฉันตามถ่ายรูปเพื่อนำไปขาย ส่วนทัตซึยะไม่ได้เรียนต่อมหาวิทยาลัยเขาทำงานแล้วก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีของเราทั้งสองคนจินเล่าให้ฟังคร่าว ๆ จนจบ
    นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้จินคิดมากเรื่องที่ปาปารัซซี่คนนั้นจะมาขอซื้อข่าวจากจินใช่ไหมร่างบางถาม
    ใช่ ฉันกลัวว่ายูอิจิมันจะลำบากไปด้วยเพราะฉันจินตอบ
    แล้วทำไมจินไม่บอกกับฉันตั้งแต่แรกที่เราคบกันจริงจังล่ะร่างบางถาม
    บอกตามตรงครั้งแรกฉันไม่มั่นใจว่านายรักฉันจริงหรือเปล่าถึงยังไม่อยากให้นายรู้ กลัวว่าพอรู้แล้วนายจะไปหายูอิจิโดยใช้ฉันเป็นสะพานจินบอกตามความรู้สึกของตนเองในครั้งแรก
    บ้าร่างบางต่อว่าแล้วตอนที่รู้ว่าฉันรักนายจริง ๆ ล่ะ ทำไมถึงยังไม่ยอมบอก
    ฉัน...ลืมจินตอบเสียงแผ่ว
    ร่างบางเงยหน้าขึ้นมามองไม่มีข้อแก้ตัวอย่างอื่นเลยหรือไงเนี่ย ตรงไปแล้วมั๊ง
    ก็จริง ๆ นี่หน่า อยู่กับนายทุกวันอย่างมีความสุขเลยลืมเรื่องนี้ไปสนิท แม้กระทั่งเบอร์โทรศัพท์นายฉันยังไม่มีเลยเพราะว่าเราอยู่ด้วยกันตลอดจินบอกตามความจริง
    นั่นสิเน๊อะ สงสัยฉันจะข้ามขั้นตอนมากไปหน่อยร่างบางตอบแต่ถ้าช้าคนอื่นก็คว้าจินไปนะสิ

    ใครเขาจะเอาฉันจินตอบเสียงกลั้วหัวเราะ กลับบ้านแม่กันเถอะ
    ยังร่างบางตอบ มีเรื่องที่อยากจะถามอีก
    ถามอะไรว่ามาฉันจะตอบให้หมดเลยจินเปิดทาง
    จินจะไปอังกฤษเหรอ ฉันเห็นเอกสารอ่านไม่ค่อยออกหรอกแต่ว่ามันเป็นทุนใช่ไหมร่างบางถาม
    อืม ฉันได้ทุนเปิดเทอมนี้แล้วก็ต้องไปจินบอกร่างบางมันเร็วมากเพราะอาจารย์ท่านดำเนินเรื่องให้โดยที่ฉันก็ไม่รู้เรื่องอะไรเลย
    ฉันไปอยู่ด้วยได้หรือเปล่าร่างบางเอ่ยถาม
    จินยิ้มให้ ทำไมจะไม่ได้ แต่คงจะลำบากหน่อยนะฉันไม่มีเงินมากพอขนาดให้นายอยู่ได้สบาย ๆ
    ไม่กลัวหรอกความลำบากอะไรนั่น กลัวจะไม่ได้กอดจินแบบนี้อีกเป็นครั้งที่สองมากกว่าร่างบางบอกแล้วซุกหน้าลงบนแผ่นอกคนรักอีกครั้ง ฉันไม่อยู่บ้านเหงาบ้างหรือเปล่า
    เหงาสิ คนนอนด้วยกันทุกคืน แต่ก็ยังโชคดีที่ทัตซึยะมันมาอยู่เป็นเพื่อนไม่อย่างนั้นฉันคงคิดอะไรเพ้อเจ้อไปมากกว่านั้นแน่ ๆ จินบอกร่างบาง
    ห๋า~~~ ทัตจังมานอนด้วยเหรอร่างบางเอ่ยถามแล้วผละตัวออกจากคนรักทันทีมิน่าทำไมบ้านถึงรกแถมเสื้อผ้ายังกองเต็มตระกร้าอีก แล้วนี่ให้ทัตจังนอนในห้องด้วยหรือเปล่า ฉันไม่ยอมนะร่างบางหน้างอ
    เปล่าใครจะให้นอนกันเล่า ทัตซึยะมันนอนที่โซฟาข้างนอนจินบอก
    เฮ้อ~~~โล่งอกนึกว่าจะโดนทับรอยซะแล้วร่างบางบอกแล้วกอดคนรักตามเดิม
    สบายใจแล้วสิ กลับบ้านแม่กันร่างหนาเอ่ยชวนเป็นครั้งที่สอง
    ยังร่างบางยื้อเวลาไว้ ยังไม่ได้จัดการพวกด้านล่างนั่นเลย
    นั่นสิ จะอยู่กันอีกนานแค่ไหนก็ไม่รู้จินกล่าว
    ฉันจัดการให้เองร่างบางบอกแล้วยิ้มอย่างมีเลศนัยก่อนจูงมือคนรักออกนอกห้อง ไปยืนตรงระเบียงแล้วตะโกนเรียกพวกนักข่าวด้านล่างซึ่งต่างถ่ายภาพของเขาสองคนเอาไว้กันใหญ่
    จะทำอะไรนะคาซึยะจินเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ
    เดี๋ยวก็รู้ร่างบางบอกนี่!!!!ตะโกนเรียกคนอยู่ด้านล่าง
    พวกนักข่าวต่างหยุดถ่ายและบันทึกภาพมองดูร่างบางอย่างสนอกสนใจขอบคุณนะที่มาเป็นสักขีพยานในความรักของเรา
    คำจากปากร่างบางทำเอาจินหันมองคนรักด้วยความฉงนหนักว่าเดิม ร่างบางหันมามองตอบก่อนยกมือขึ้นโอบรอบคอเขาแล้วโน้มลงมาประทับริมฝีปากอย่างนุ่มละมุนก่อนจะส่งลิ้นอุ่นเข้าไปก่อกวนอย่างร้อนแรง คนร่างหนาดวงตาเบิกโพลงด้วยความตกใจ ร่างบางนี้ช่างกล้าจนเขากลับเป็นฝ่ายเขินอายแทน

    ไม่ถ่ายไว้ละนักข่าวด้วยกันเอ่ยถามกันเอง
    ถ่ายทำไมไม่ใช่นากามารุคุงสักหน่อย กลับกันเถอะว่ะคนหนึ่งเอ่ยชวน เสียเวลาทำข่าวไร้สาระจริง ๆ
    พวกเรา เมื่อครู่นากามารุคุงออกมาแถลงข่าวเรื่องภาพนั้นแล้ว เขาบอกว่าเป็นตัวเขาจริงแต่คนในรูปไม่ใช่แฟนของเขานักข่าวอีกสำนักตะโกนบอกกัน
    นักข่าวและปาปารัซซี่ที่เหลือเงยหน้าไปมองบนอาคารชั้นสามที่คนสองคนยังคงกอดจูบกันตามประสาคนรัก ก่อนที่พวกเขาจะส่ายหน้าช้า ๆ แล้วทยอยกันเดินออกไปจากบริเวณนั้น
    ข่าวของพวกปาปารัซซี่นี่เชื่อไม่ได้เลยนักข่าวต่างบนอุบเมื่อต้องเสียเวลาทั้งวันกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง
    คนร่างหนาค่อย ๆ ถอนริมฝีปากตนเองออกแล้วดันร่างคนรักให้ห่างออกมา ทำอะไรนะคาซึยะ เดี๋ยวก็ยิ่งเป็นข่าวหรอก
    ดีสิ ฉันอยากลงหน้าหนึ่งกับจินมากกว่าไอ้ห้อยนั่นร่างบางตอบแล้วระบายยิ้มออกมา หน้าแดงเชียวเขินหรือไง ทำเป็นไม่เคยไปได้
    ก็ไม่เคยทำต่อหน้าคนเยอะ ๆ แบบนี่นะสิจินตอบแล้วมองไปยังเบื้องล่าง อ้าว หายไปไหนกันหมดแล้ว
    ร่างบางมองตามลงไป นั่นสิ อะไรกันเนี่ย
    แต่ก็ดีแล้วล่ะกลับกันไปได้สักทีจินบอก กลับเถอะเขาเอ่ยชวนเป็นครั้งที่สาม
    ยังร่างบางปฏิเสธเช่นเคย มีอารมณ์แล้วหละ ทำกันเถอะจิน
    จินตาโตด้วยความตกใจ ตอนนี้เลยเหรอ ยังสว่างอยู่เลยเขาบอกหน้าแดงก่ำ
    หลับตาก็มืดแล้วร่างบางตอบแล้วโอบเอวคนรักเอาไว้เอนศีรษะซบแผ่นอกคนขี้อายในอ้อมแขน น้า~~~ ตอนก่อนนู้นจินก็ชิ่งหลับไปก่อนแล้วหลังจากนั้นก็ทะเลาะกันอีก หลายวันแล้วนะ~~~~”
    จินอมลมเข้าปากจนแก้มป่องก่อนจะหอมแก้มคนรักตอบ เข้าห้อง
    ร่างบางยิ้มกว้างออกมา วันนี้เอาแบบสเปเชี่ ยวเลยนะ ทุกที่ในบ้านโอเค???”
    เฮ้ย!!! คนนะจินบอกใบหน้าแดงขึ้นกว่าเดิม
    นะ ๆร่างบางอ้อนก่อนจูงมือคนรักเดินกลับเข้าห้องไป
    *******************************
    แม่ครับทัตซึยะเอ่ยเรียกมารดาของร่างบางเมื่อเขามองดูนาฬิกาทรงหรูทานกันดีกว่าครับจะสองทุ่มแล้วคืนนี้เขาคงไม่กลับกันมาแล้วล่ะ
    มารดายิ้มให้ลูกชายคนใหม่ที่ถูกคอกับตนเหลือเกิน ก็ว่าอย่างนั้นแหละ ทัตจังหิวแล้วล่ะสิทานเยอะ ๆ นะลูก
    ทัตซึยะยิ้มตอบก่อนจะลงมือทานอาหารฝรั่งมื้อใหญ่ตรงหน้า ในใจก็คิดว่าดีเสียจริงที่เพื่อนทั้งสองไม่กลับมาเขาจะได้จัดการอาหารชั้นเลิศนี้ให้หมด นาน ๆ จะได้ลาภปากเสียที

    กลับมาแล้วครับสองเสียงประสานขึ้นหน้าทางเข้าห้องอาหาร
    กลับมาแล้วเหรอลูก มาทานอาหารด้วยกันก่อนสิมารดาของร่างบางเอ่ยชวน
    ร่างบางพยักหน้าแล้วเดินไปนั่งบนเก้าอี้ใกล้มารดาส่วนจินเดินไปนั่งตัวข้างทัตซึยะ
    กลับมาทำไมว่ะทัตซึยะเอ่ยถามเพื่อนเบา ๆ
    อ้าว ก็บอกแม่แล้วว่าจะพาลูกชายท่านกลับบ้านก็ต้องทำตามสิจินบอกก่อนตักอาหารเข้าปาก
    คนดีจริงพ่อคุณ เป็นฉันดีกันแบบนี้แล้วคืนนี้ไม่ให้หลับไม่ให้นอนหรอก พรุ่งนี้ค่อยกลับมายังได้ทัตซึยะบอก
    จินไม่ตอบอะไรได้แต่ยิ้ม ๆ เขามองไปทางร่างบางทั้งคู่สบสายตากันก่อนจะนั่งอมยิ้มทั้งคู่
    เห็นข่าวบอกว่านากามารุคุงแถลงข่าวแล้วนี่จ๊ะมารดาร่างบางชวนคุย
    กว่าจะเปิดปากพูดได้กลัวอะไรจะร่วงออกจากปากหรือไงก็ไม่รู้ทัตซึยะพูดขึ้น
    นั่นสิทำเอาวุ่นวายไปหมดร่างบางเสริม
    ทัตซึยะมองไปยังร่างบางก่อนจะยื่นมือไปตรงหน้า ร่างบางยื่นมือมาตบตอบ จินมองคนทั้งสองแล้วยิ้มแห้ง ๆ ทัตซึยะได้พวกแบบนี้แล้วยูอิจิคงลำบากแน่
    แม่ให้คนจัดห้องให้จินกับทัตจังแล้วนะมารดาบอกกับคนทั้งสอง
    ร่างบางหันไปสบตามองแม่ตนเองอย่างให้รู้ความในใจ
    ลูกยังเด็กอยู่...แต่ถ้าแม่จะแยกลูกสองคนไม่ให้นอนด้วยกันก็คงไม่ดีนักใช่ไหม จินนอนห้องเดียวกับลูกก็ได้มารดาบอก
    ร่างบางระบายยิ้มกว้างออกมาชูมือขึ้นฟ้าก่อนจะชักกลับลงมา เยส!!!
    ดีใจด้วยนะไอ้จินทัตซึยะหันไปพูดเบา ๆ
    ขอบคุณครับแม่จินบอกแล้วค้อมศีรษะให้ เอ่อ...แม่ครับผมมีอีกเรื่องที่อยากขออนุญาตแม่
    มารดาของร่างบางวางมีดและซ้อมในมือลง ว่าไงจ๊ะจิน
    คือ...ผมได้ทุนไปเรียนที่อังกฤษปีหนึ่งนะครับจินแจ้งข่าวให้ทราบ
    อย่างนั้นเหรอจ๊ะ ดีนี่ลูกอนาคตของเรามารดาร่างบางบอกจากใจจริง หล่อนนึกชื่นชมเด็กหนุ่มตรงหน้าอยู่ในใจ ถ้าจะฝากลูกชายตนเองไว้กับคนคนนี้หล่อนก็สบายใจ
    ผม...อยากขออนุญาตแม่...ผมขอพาคาซึยะไปอยู่ด้วยนะครับจินเอ่ยขอเสียงหนักแน่นในประโยคหลังก่อนค้อมศีรษะให้ มารดามองท่าทางคนรักของลูกชายก่อนจะหันกลับไปมองลูกตนเองที่มองมาและลุ้นกับคำตอบอยู่ หล่อนระบายยิ้มให้ก่อนจะหันไปตอบจิน

    ไม่ได้จ๊ะ
    แม่~~~” ร่างบางเอ่ยน้ำเสียงผิดหวัง ไม่ต่างจากจินที่เงยหน้าขึ้นหน้าด้วยดวงหน้าสลด
    แม่มีเหตุผลมารดาบอกจินต้องไปเรียนไม่ใช่เหรอจ๊ะ ถ้าคาซึยะไปอยู่ด้วยแม่คิดว่าความตั้งใจของลูกคงลดลงเพราะต้องมาห่วงลูกชายของแม่ที่ไม่เอาไหน อีกอย่างไปอยู่ที่นั่นค่าใช้จ่ายก็ไม่ใช่น้อยลำพังตัวของจินเองก็คงไม่เท่าไหร่แต่นี่....หล่อนหันไปมองลูกชายที่นั่งหน้างอก่อนหันกลับมามองหน้าจินห่างกันแค่ปีเดียวเพื่อจะได้เติบโต จินเข้าใจใช่ไหมลูก
    ครับจินรับคำ
    จิน!!!ร่างบางเอ่ยอย่างขัดใจคนร่างหนาทำไมถึงไม่พยายามที่จะให้เขาไปอยู่ด้วยมากกว่านี้ไม่ยอมผมจะไปอยู่กับจิน
    ถ้าอยากไปก็เชิญแต่อย่าเอาเงินของฉันไปนะ ถ้าอยากไปต้องหาเงินไปเองแบบจินมารดายื่นคำขาด
    ก็ได้หาเงินไปเองก็ได้ร่างบางเสียงกร้าว
    คาซึยะ!!!จินเอ่ยปรามน้ำเสียงไม่สุภาพนั้น
    ขอโทษครับแม่ร่างบางสำนึกผิด
    ทานกันตามสบายนะจ๊ะเด็ก ๆ แม่ขอตัวก่อนมารดาเอ่ยบอกแล้วลุกจากโต๊ะอาหารไป
    ร่างบางมองส่งเมื่อแม่เดินออกไปแล้วเขาก็ทิ้งซ้อมในมือทันทีอย่างขัดใจ จินน่ะ ทำไมถึงยอมเชื่อแม่ง่าย ๆ อย่างนั้นล่ะ จินไม่อยากให้ฉันไปอยู่ด้วยหรือไง
    แม่นายก็พูดถูกไม่ใช่เหรอคาเมะจังทัตซึยะบอก ไอ้จินมันไปเรียนแค่ปีเดียว ถ้านายไปอยู่ด้วยจินมันจะได้เรียนเหรอ
    ฉันไม่ได้ตัวภาระขนาดนั้นนะทัตจังร่างบางเถียง
    ภาษาอังกฤษนายพูดได้หรือเปล่าทัตซึยะถาม
    หึร่างบางตอบ
    แล้วจะให้ไอ้จินมันออกไปเรียนแล้วปล่อยให้นายอยู่คนเดียวทั้ง ๆ ที่สื่อสารกับใครไม่ได้เลยนะเหรอทัตซึยะถาม มันก็ห่วงนายจนไม่ต้องไปเรียนกัน
    ร่างบางได้ฟังก็ถอนหายใจบาง ๆ ออกมา ฉันอิ่มแล้วเอ่ยบอกแล้วลุกออกจากโต๊ะไป
    จินเห็นเช่นนั้นจึงรีบเดินตามร่างบางไปทันที ทัตซึยะมองแผ่นหลังทั้งสองคนก่อนจะสนใจกับอาหารบนโต๊ะที่เหลือ เขาจะจัดการให้ราบเป็นหน้ากองทีเดียว
    ********************************

    จริงเหรอว่ะไอ้ทัตซึยะปลายสายกรอกเสียงดีใจเมื่อได้ฟังข่าวสารจากเพื่อน
    ไอ้จินมันเก่งไม่เหมือนนายหรอกยูอิจิทัตซึยะบอก จะไปส่งมันเปล่าล่ะ
    วันนั้นมีติดอัดรายการนะสิยูอิจิเอ่ยอย่างเสียดายแต่ก่อนหน้านั้นสองวันฉันไม่มีงานไปเลี้ยงส่งมันกันไหม
    ถ้าอย่างนั้นไปเจอที่เซ็นไดเลยดีกว่า จินมันกลับบ้านทัตซึยะบอก
    แล้วนี่คาเมะจังไม่อะไรเหรอ เพิ่งจะดีกันหยก ๆ อีกไม่กี่วันก็ต้องห่างกันอีกแล้วยูอิจิถามอย่างนึกเป็นห่วงคนทั้งสอง
    ทีแรกก็ทำใจไม่ได้หรอก แต่ขึ้นไปบนห้องตั้งนานแล้วป่านนี้คงเข้าใจอะไร ๆ แล้วล่ะทัตซึยะบอก
    อิจฉามันว่ะ ได้กอดคนที่รักทุกวันยูอิจิกล่าว
    ถ้าอยากตายไว ๆ ก็ลองกอดมิซูรุดูสิทัตซึยะเอ่ยท้า
    หึ หึ ยูอิจิหัวเราะยั่ว แค่นี่นะจะนอนแล้วพรุ่งนี้ทำงานแต่เช้า
    เฮ้ย หัวเราะแบบนั้นหมายความว่ายังไง อย่าเพิ่งวางสิว่ะไอ้บ้าทัตซึยะต่อว่าคนที่ตัดสายไปดื้อ ๆ เขาโทรกลับแต่ยูอิจิปิดเครื่องไปเรียบร้อยแล้วหนอย~~~ ฝากไว้ก่อนเถอะไอ้ห้อยเอ๊ย!!!
    ***************************
    คนร่างหนาเดินมาทรุดตัวลงนั่งคุกเข่ากับพื้นก่อนสวมกอดร่างบางที่นั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ของโต๊ะวางเครื่องคอมพิวเตอร์ภายในห้องนอนของร่างบาง
    ปีหนึ่งมันมี365วันใช่ไหมร่างบางเอ่ยถาม
    ใช่จินตอบ
    จินต้องไปอาทิตย์หน้าแล้วใช่ไหมร่างบางถามอีก
    ใช่จินตอบอีก
    ฉันทำใจไม่ได้ ไม่ไปส่งจินคงไม่ว่าอะไรใช่ไหมร่างบางถาม
    ไม่ว่าหรอกจินตอบกลับ
    จะคิดถึงฉันไหมร่างบางถาม
    คิดถึงสิจินตอบจากใจจริง
    ตั้งใจเรียนนะร่างบางสั่ง
    ครับจินรับปาก
    ให้ที่อยู่กับเบอร์โทรศัพท์ไว้ด้วย ฉันจะโทรไปหาจินทุกวันร่างบางบอก
    ได้สิจินรับคำ
    จูบฉันทีสิร่างบางเอ่ยขอ ไม่เอาดีกว่าเอาหลาย ๆ ที
    คนร่างหนามอบสัมผัสนั้นให้ตามที่ร่างบางต้องการอย่างเร้าร้อนอยู่หลายต่อหลายหนก่อนจะผละตนเองออกคืนนี้ขอได้ไหมเขาเอ่ยถาม

    ร่างบางคลี่ยิ้มออกมา ครั้งแรกนะเนี่ยที่จินชวนก่อน
    ก็เมื่อตอนกลางวันตั้งหลายครั้งฉันกลัวว่านายจะรับไม่ไหวนะสิจินกระซิบบอก
    ร่างบางยกมือขึ้นโอบรอบคอคนรัก กับจินฉันไม่เคยรู้จักคำว่าพอเลยรู้ไหม คืนนี้จินจะทำหลาย ๆ ครั้งก็ได้นะ แล้วหลังจากนี้จนถึงวันที่จินจะต้องไปเราทำกันทุกคืนฉันก็ยินดี เพราะว่าหลังจากนี้เราจะไม่ได้สัมผัสแล้วก็บอกรักกันแบบนี้ตั้งปีหนึ่งเชียวนะ
    ผมรักคุณจินเอ่ยบอกย้ำความรู้สึกแก่ร่างบาง
    แค่นี้ยังไม่พอ ฉันต้องการจินมากว่านั้นร่างบางตอบ
    คนร่างหนาส่งยิ้มให้ก่อนจะอุ้มร่างบางไปยังเตียงหลังใหญ่ สัมผัสบางเบาที่ร่างบางมอบให้ปลุกอารมณ์ของเขาให้ลุกโชน ค่ำคืนนี้ภายในห้องที่ตั้งอุณหภูมิให้อากาศเย็นสบายคงจะเร้าร้อนยิ่งกว่า36องศาของอากาศเมื่อตอนกลางวันยามหน้าร้อนใกล้จะสิ้นสุดลงเสียอีก
    ************************
    จบตอนที่7แล้วจ้า ยังไงอ่านแล้วเพื่อนๆอย่าลืมเม้นท์บอกกันด้วยนะคะว่าเป็นอย่างไรบ้าง ขอบคุณที่ติดตามผลงานคะ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×